LOGIN"คุยกันก่อนสิ !" เสียงพ่อของธิเอ่ยดังขึ้นเมื่อฉันเดินมาหยุดตรงหน้าท่านพอดี
"คะ..คุณพ่อมีอะไรหรือเปล่าคะ ?" ดูจากท่าทางน่าจะมีมากๆด้วยแหละ แววตาของความไม่ค่อยจะพอใจฉายชัดให้เห็นมากขึ้น
"เธอ...ต้องการเท่าไหร่แลกกับการเลิกยุ่งกับลูกชายของฉัน" คำถามของคุณพ่อท่านไม่ได้ยาก แต่ฉันตอบได้ยากมากเหลือเกิน
"คุณพ่อหมายความว่ายังไงคะ ?" แม้จะรู้ถึงคำถามของท่าน แต่ฉันก็ยังอยากจะแกล้งโง่ดูหัวใจเต้นตึกตักด้วยความกลัว... กลัวว่ารักครั้งนี้คงไม่สมหวังอย่างที่คิด
"สิบล้านยี่สิบล้านเท่าไหร่ก็ว่ามาแต่เธอต้องเลิกยุ่งกับลูกชายฉันซะ !" เสียงเข้มเอ่ยโดยไม่สนใจความรู้สึกของใครเลย
"ทำไมล่ะคะ ? ทำไมหนูต้องเลิกด้วย" ในเมื่อฉันก็รักเขาไม่แพ้กับที่พ่อเขารัก
"เธอไม่คู่ควรกับลูกชายฉันหรอก รับเงินไปซะแล้วเลิกยุ่งกับเขาเธอก็ไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เงินก้อนนี้มันจะทำให้ชีวิตเธอดีขึ้นมากไม่ต้องทำงานอะไรก็อยู่ได้สบายทั้งชาติแล้ว"
"เพราะแค่ว่าหนูจนกว่าเลยไม่คู่ควรอย่างนั้นหรอคะ ?" ถ้าเลือกได้ฉันก็คงอยากเกิดมาให้รวยมีชีวิตที่สุขสบายไม่น้อยหน้าใครเหมือนกัน
"ถือว่าฉันขอร้องได้ไหมเธอรับเงินไปแล้วเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาถือซะว่าทำเพื่อหัวอกคนเป็นพ่อที่อยากจะให้ลูกได้เจอคนที่เหมาะสมคู่ควรกับเขามากกว่า" แววตาท่านอ่อนแสงลงเล็กน้อย
"ตกลงค่ะ...หนูจะเลิกยุ่งกับเขาก็ได้ถ้ามันจะทำให้ท่านสบายใจ..."
"...."
วูบนึงที่ฉันเห็นว่าสีหน้าท่านเปลี่ยนไปเล็กน้อยตอนได้ยินฉันตอบตกลง จากนั้นฉันก็เริ่มพูดประโยคถัดไปต่อ
"แล้วก็..."
"...." "หนูไม่ได้ต้องการเงินหรืออะไรทั้งนั้นหรอกค่ะยังไงก็..ขอบคุณสำหรับอาหารที่แสนอร่อยมื้อนี้นะคะ"ไม่เคยคิดที่จะอยากเป็นคนเจ้าน้ำตาเลยสักนิด แต่ทว่ามันกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหวจริงๆนาทีนี้ ฉันเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยแอบใช้นิ้วเรียวปาดน้ำตาออกลวกๆแล้วยกมือไหว้คุณพ่อของอธิก่อนจะเดินกลับออกมา
"ตัวเองเค้าเพิ่งนึกได้ว่าเค้ามีนัดสำคัญเรื่องเรียนอ่ะตัวเองอยู่คุยกับคุณย่าคุณพ่อก่อนก็ได้นะเค้าเรียกแท็กซี่เอาไว้แล้วว่าจะขอตัวเลย อาหารอร่อยมากๆเลยนะคะยังไงหนูขอตัวกลับก่อนนะคะสวัสดีคุณย่าสวัสดีค่ะคุณน้าวดี" บอกลาพวกเขาเสร็จฉันก็รีบเดินลิ่วๆออกไปทันทีไม่สนคำทักท้วงจากใครทั้งสิ้น
ระหว่างนั้นฉันก็ไปขออาศัยอยู่ที่ห้องกับนับดาวก่อนโดยที่ไม่ได้กลับไปที่ห้องตัวเองอีกเลย หลายวันต่อมาไม่รู้คิดยังไงอยู่ๆก็เกิดคิดถึงพ่อขึ้นมาอีกแล้วก็เลยตัดสินใจขึ้นรถทัวร์ไปหาพ่อที่ชลบุรีเสียเลย
นั่งรถมาถึงบ้านก็พบว่าที่บ้านปิดเงียบไม่มีคนอยู่ แล้วพ่อฉันไปไหนทำไมถึงไม่อยู่บ้านกันล่ะ คว้ามือถือขึ้นมากดโทรหาพ่อก็ไม่ติด ก่อนจะตัดสินใจเดินเข้าไปถามบ้านป้าข้างๆว่าเห็นพ่อฉันบ้างไหม แต่คำตอบที่ได้รับก็ทำให้ขาแข้งอ่อนแรงจนแทบทรุดฮวบลงกับพื้น
"พ่อหนูอยู่ที่โรงพยาบาลลูก"
พ่อฉันเป็นอะไรทำไมต้องอยู่ที่โรงพยาบาลด้วยแล้วทำไมฉันที่เป็นลูกแท้ๆกลับไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยสักนิดหรือว่าฉันละเลยท่านเกินไปจนไม่รู้อะไรเลย
หลังจากสอบถามว่าพ่ออยู่โรงพยาบาลไหนแล้วฉันก็รีบขึ้นรถมาหาพ่อที่โรงพยาบาลทันที หลังจากสอบถามพยาบาลจนรู้ว่าพ่อพักอยู่ห้องไหนก็รีบขึ้นไปหาท่านทันทีพร้อมทั้งก่นด่าตัวเองในใจที่เอาแต่ละเลยจนไม่รู้ว่าพ่อตัวเองป่วยหนักขนาดนี้
เมื่อมาถึงหน้าห้องที่คุณพยาบาลบอกว่าพ่อฉันนอนพักฟื้นอยู่ในนี้ฉันก็ต้องขยี้ตามองแล้วมองอีกว่าจะใช่ห้องที่พ่อฉันพักจริงๆหรือ เพราะมันเป็นห้องพิเศษแบบวีไอพดูจากห้องแล้วคืนนึงน่าจะไม่ต่ำกว่าคืนละหมื่นแล้วพ่อฉันเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าห้องพักที่แพงขนาดนี้ได้กันนะ !
"พ่อจ๋า...พ่อเป็นยังไงมั่ง" พอเปิดประตูเข้ามาได้ฉันก็ถลาเข้าไปกอดพ่อที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ทันทีพร้อมกับน้ำตาที่ไหลมาไม่ขาดสาย ลืมแม้กระทั่งจะกวาดสายตาไปมองรอบๆห้องเพราะเอาแต่จ้องหน้าคนป่วยที่ส่งยิ้มมาให้แม้จะอยู่ในชุดคนไข้ก็ตาม
"ดีขึ้นมากแล้วลูก...ร้องไห้ทำไมฮึพ่อไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อยเดี๋ยวก็หายแล้วเนี่ย" พ่อปลอบฉันพลางปาดน้ำตาที่เลอะๆออกจากใบหน้าให้
"ทำไมไม่บอกหนูว่าป่วยขนาดนี้ฮะ..ฮึ่กๆรู้มั้ยว่าหนูเป็นห่วงแทบแย่" รับรู้ได้ว่าร่างกายตัวเองสั่นสะอื้นฮั่กๆเชียวล่ะ ก็ในชีวิตฉันตอนนี้เหลือแค่พ่อคนเดียวนี่เนอะ !
"ขี้แย่จังเลยโตแล้วนะเราเนี่ยไม่อายคนเค้าหรอ ?" พ่อถามสีหน้ายิ้มๆขณะส่งสายตาเอ็นดูมาให้
"อายใครก็มีแค่เราสอง..."
สาม..สี่..ห้า..คนเอง !
เมื่อตั้งสติได้แล้วใช้สายตากวาดมองไปรอบๆก็พบว่าไม่ได้มีแค่เราสองคนพ่อลูกแต่ยังมีอีกสามคนที่นั่งทำตาปริบๆอยู่ในห้องด้วย
"คุณพ่อคุณน้าวดีอธิ...มาได้ยังไงคะ ?"
งงถึงงงมากว่าพวกเขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ?
"พวกเค้าเป็นคนพาพ่อมาส่งที่โรงพยาบาลเองแหละลูก" พ่อบอกสั้นๆส่วนฉันยังมึนตรึบอยู่
"ทำไม... ?"
"พ่อ..ขอโทษนะหนูดี๋ที่แกล้งหนูแรงไปหน่อย" คุณพ่อของอธิบอกฉันด้วยสีหน้าเอ็นดู
เดี๋ยวนะ...
"นะ..นี่มันเรื่องอะไรกันคะ ?" ฉันชักจะงงๆไปหมดแล้วเด้อ
"คืองี้ลูก..พ่อเค้าน่ะแกล้งลองใจดี๋ดูว่าหนูจะจริงใจและรักอธิจริงๆหรือเปล่าและเท่าที่เห็นน้าก็ว่าพวกเราดูคนไม่ผิดจริงๆด้วย" คุณน้าวดีที่เป็นแม่เลี้ยงของอธิอธิบายและดึงฉันเข้าไปกอดเบาๆ
"อย่าโกรธพ่อเลยนะลูก" พ่อของอธิบอกเบาๆด้วยสีหน้าขอโทดขอโพย
"ดี๋ไม่โกรธหรอกค่ะแล้วก็กราบขอบพระคุณมากนะคะที่ช่วยพ่อดี๋เอาไว้เอ่อ..แล้วทำไมถึงช่วยพ่อดี๋ไว้ได้ล่ะคะ ?" ประโยคหลังฉันหันไปถามอธิเบาๆ
แล้วก็ได้คำตอบว่าคุณพ่อแล้วน้าวดีอยากมาหาพ่อของฉันเพื่อที่จะทาบทามขอหมั้นฉันเอาไว้ก่อน หลังเรียนจบจะจัดงานแต่งให้ทันที แต่ก็มาเจอพ่อฉันหมดสติที่บ้านเสียก่อนก็เลยหามส่งโรฝพยาบาลทันทีและจัดการเป็นเจ้าของไข้ออกค่าใช้จ่ายในการรักษาให้หมดทุกอย่าง
สรุปก็คือพ่อฉันป่วยเป็นไข้เลือดออกขั้นรุนแรงหมอบอกว่าโชคดีที่มาโรงพยาบาลได้ทันเวลาไม่อย่างนั้นอาจไม่รอดเพราะพ่อปล่อยให้ตัวเองเป็นหนักเกินไป โชคดีเหลือเกินที่พวกพ่อกับอธิมาที่บ้านฉันพอดีไม่อย่างนั้นฉันคงต้องเสียพ่อไปแล้ว...
"ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเหลือพ่อหนูเอาไว้ขอบคุณมากจริงๆหนูเป็นหนี้บุญคุณพวกคุณมากเหลือเกิน"
"งั้นก็ใช้หนี้โดยการมาเป็นลูกสะไภ้พ่อซะสิ " พ่อของอธิสวนกลับทันที
"เอ่อ..."
"หนูรักเขาไหมล่ะลูก" พ่อถามฉันอีกครั้ง
"ระ..รักค่ะ"
"รักก็ลุยเลยลูก" พ่อของฉันเอ่ยบอกสีหน้ายิ้มๆขณะหันไปยิ้มกว้างให้กับว่าที่ลูกเขยของเขา
ส่วนฉันก็ได้แต่ก้มหน้าบิดตัวเขินจนตัวแดงจะเป็นกุ้งเผาอยู่แล้ว
หนึ่งเดือนต่อมาหลังจากที่พ่อหายป่วยฉันก็เข้าพิธีหมั้นกับอธิที่จัดงานเสียใหญ่โตหมั้นเช้าแต่งเย็นเลยพร้อมสินสอดมากมายที่ขนมากองให้พ่อของฉัน บอกตรงๆตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นเงินหรือทองมากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่พ่อของฉันท่านก็บอกแล้วว่าไม่เรียกร้องสินสอดสักบาทขอแค่ความรักความเมตตาที่มีให้ฉันก็พอ
แต่ที่บ้านอธิทั้งพ่อและแม่ที่แท็กทีมกันมาอย่างไม่ยอมให้ลูกชายคนเดียวน้อยหน้าใครเลย ฉันชอบนะความรักที่แบบถึงจะเลิกลากันไปแล้วแต่ก็ยังมีความรักและความหวังดีมอบให้กันเสมอของพ่อกับแม่อธิ งานวันนี้พี่เมี่ยวก็บินกลับมาร่วมงานมงคลของฉันด้วยนะ
ไม่คิดไม่ฝันว่าเด็กผู้หญิงหน้าตาธรรมดาครอบครัวไม่ได้มีหน้ามีตาอะไรจะมีวันนี้กลับเขาได้ ไม่รู้ว่าจะขอบคุณอะไรดีขอบคุณพี่เมี่ยวที่ให้ฉันมาอยู่ด้วย ขอบคุณอธิที่ย้ายเข้ามาเป็นรูมเมทรวมถึงเป็นเจ้าของหัวใจในตอนนี้ ขอบคุณพ่อแม่ของเขาที่ไม่รังเกียจผู้หญิงที่มีแต่ตัวอย่างฉัน ขอบคุณพ่อที่เลี้ยงดูฉันมาอย่างดีทุกอย่าง
วันข้างหน้าไม่รู้นะว่าจะเป็นยังไงต่อแต่วันนี้และตอนนี้ฉันมีความสุขที่สุด กรอบรูปบานใหญ่แขวนอยู่ในบ้านเป็นรูปฉันกับเขาที่อยู่ในชุดแต่งงานตอนไปถ่ายพรีเวดดิ้งด้วยกัน รวมทั้งอีกหลายรูปที่มีรูปของทั้งสองครอบครัวยืนยิ้มแก้มปริอย่างภาคภูมิใจ
. . [จบ]ติ้ดๆๆๆ"ค่ะแม่"(ร่าเป็นอะไรลูกทำไมเสียงเนือยๆแบบนี้)"เปล่าค่ะแม่ร่าแค่...ฮ่ะ..ฮึ่กๆ"ไม่ไหว...อดไม่ได้ที่จะสะอื้นออกมาให้แม่ได้ยิน แค่ได้ฟังเสียงหวานๆที่สะท้อนความรักและห่วงใยมาให้หัวใจฉันก็สั่งให้ร้องไห้ออกมาเอง(ทะเลาะกับตาไทน์มาใช่ไหม ?)"เปล่าค่ะเราไม่ได้ทะเลาะกัน"(แล้วเป็นอะไรล่ะลูกมีอะไรหนูคุยกับแม่ได้ทุกเรื่องนะ)"คือ..."ตั้งแต่วันนั้นเราทั้งคู่ก็กลับมาดีกันเหมือนเดิมอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมอาจจะดูเหมือนรักกันมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ ตอนนี้ฉันเองก็เรียนจบแล้วแต่เฮียไทน์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะขอฉันแต่งงานกันเหมือนเมื่อก่อนเลยฉันอึดอัดพาลคิดไปหมดเลยว่าเขาจะไม่อยากแต่งงานกับฉันแล้วหรือเปล่า บางทีฉันก็คิดนะว่าตัวเองเป็นไพโบล่าหรือเปล่าตอนที่เขามาขอแต่งงานฉันก็ไม่พร้อมไม่อยากแต่ง แต่พอเขาเฉยๆไม่มีทีท่าว่าอยากจะขอฉันกลับรู้สึกใจแป้ว แม้ทุกวันนี้เราจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมแต่ระหว่างเราฉันรู้สึกเหมือนว่าเรามีเส้นใยบางๆบางอย่างมาคั่นกลางเอาไว้"แม่เคยเสียใจไหมที่เลือกพ่อมาเป็นคู่ชีวิตแต่พ่อก็ทำให้แม่ผิดหวัง"ฉันไม่เคยถามเรื่องพ่อกับแม่สักครั้งนั่นเพราะรู้อยู่แล้วว่าทุกครั้งที่พูดถึงพ่อแล้
"เฮียขอโทษอย่าเกลียดเฮียเลย...เฮียไม่อยากได้ยิน" เฮียไทน์ที่คล่อมทับบนตัวฉันกำลังก้มหน้าซบแนบกับต้นคอฉันแล้วพูดเสียงสั่นเครือ"ถ้าร่ามาไม่ทันป่านนี้เฮียคงไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว" ฉันอดคิดถึงภาพนั้นไม่ได้จริงๆยิ่งนึกยิ่งรู้สึกลมออกหูจนยั้งมือไว้ไม่ทัน"โอ๊ยร่าเฮียเจ็บๆๆๆ !"เฮียไทน์ร้องเสียงหลงเมื่อถูกฉันยื่นมือไปบิดหูทั้งสองข้างเต็มแรง เขาพยายามดันมือฉันออกจนมือฉันหลุดออกจากหูเขาทั้งสองข้างจนได้แล้วเขาก็เริ่มเอาคืนฉันด้วยการงับลงบนเนินอกฉันเต็มแรง"โอ๊ยยย...อื้อ"เริ่มจากการกัดเต็มปากเต็มคำแล้วหลังจากนั้นเขาก็ปาดเลียบนผิวเนื้อเนินอกช้าๆ ขนอ่อนในกายลุกวาบสยิวซ่านไปทั้งร่างกาย มือไม้หยาบใหญ่ค่อยๆปลดเปลื้องเสื้อผ้าฉันออกช้าๆจนเนื้อตัวส่วนบนเปลือยเปล่า"ดะ..เดี๋ยวสิเฮีย ! นี่เฮียหายเมาแล้วหรอ ?" ฉันดันใบหน้าเฮียไทน์ออกจากซอกคอตัวเองออกก่อนจะถามอย่างข้องใจ"เอาจริงๆนะเฮียเริ่มหายเมาตั้งแต่เห็นหนูฟ้อนเล็บใส่ผู้หญิงคนนั้นแล้ว""เมื่อกี้เฮียเกือบจะเอากับมันไปแล้วนะแล้วตอนนี้เฮียจะมาเอากับหนูอีกหรอ ?""ร่าเฮียไม่ได้ตั้งใจ ! เฮียสาบานให้ตายห่าเลยก็ได้เฮียคิดว่าเป็นหนูจริงๆทั้งเมาทั้งคิดถึงเฮียก็เ
"ฮ้าววว"เสียงฉันเองแหละที่รู้สึกตัวขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดเมื่อยขัดเล็กน้อยพลางอ้าปากหาวอย่างง่วงทั้งเหนื่อยและล้าเมิื่อคืนกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปค่อนแจ้ง มองหาคนที่ต้นเหตุก็พบว่าเขาตื่นอยู่ก่อนแล้วแถมตอนนี้ยังนอนตะแคงเท้าแขนมองหน้าฉันอยู่อีกด้วย"ไง""เฮีย ! เล่นหนูหนักไปไหมเนี่ย" อดที่จะบ่นเขาไม่ได้คนบ้าอะไรอึดเหลือเกินจริงๆ"ช่วยไม่ได้มึงดื้อเอง !""หนูเปล่า"ปากเขาพูกแต่ดวงตาเขาจับจ้องอยู่ที่... หน้าอกของฉัน !"เฮีย ! หื่นแต่เช้าอีกแล้วนะ" ฉันลืมตัวไงว่าตัวเองยังโป๊อยู่ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีอะไรปกปิดเลยมีแค่ผ้าห่มคลุมตั้งแต่ช่วงเอวลงมาก่อนที่ฉันจะรีบคว้าชายผ้าห่มขึ้นมาคลุมช่วงอกเอาไว้ไว้ใจไม่ได้เกิดเขาอยากต่อเช้าขึ้นมามีหวังฉันคงฟ้าเหลืองตายแน่ๆ"ร่า..."อยู่ๆเฮียไทน์เรียกชื่อฉันเสียงอ่อนโยนเบาๆ"ขาา" ฉันครางรับเบาๆพลางช้อนสายตามองหน้าผู้ชายที่กำลังมองมาที่ฉันด้วยแววตาอ่อนโยน"แต่งงานกันไหม ?""เฮีย..."จังหวะนี้ทุกคนคงคิดว่าฉันกำลังซาบซึ้งและดีใจที่ถูกขอแต่งงานแต่เปล่าเลย นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาขอฉันแต่งแต่ฉันยังไม่พร้อมจริงๆถ้านับครั้งนี้ด้วยนี่คงเป็นครั้งที่สามแล้ว"ว่าไงจะแต่งไ
"เดินดีๆอย่าซนได้ไหม" เสียงทุ้มที่ค่อนข้างฟังดูแหบพร่าเอ่ยปรามฉันเบาๆในขณะที่มือซนๆของฉันมันดันไปลวนลามที่ใต้กางเกงของเฮียไทน์"อื้อ...ใครซนนี่มันเป็นของหนูหนูจะจับมันตอนไหนก็ได้""แต่มึงจะจับมันตอนนี้ไม่ได้ นี่มันหน้าร้านมึงดูคนมองใหญ่แล้ว" เฮียไทน?กระซิบเสียงพร่าขณะจับมือซนๆของฉันเอาไว้แนบอกแกร่ง"อ้าวหรอแหะๆงั้นรอถึงที่รถก่อนก็ได้เนอะ"เดินซบอกเขาจนมาถึงที่รถฉันเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านข้างคนขับแล้วผวาเข้าหาเฮียไทน์ทันทีที่เขาเปิดประตูเข้ามานั่งในรถ"อื้อ"เสียงเฮียครางฮือในลำคอขณะที่ถูกฉันจู่โจมด้วยการโถมเข้าไปจูบที่ริมฝีปากเต็มแรง เวลาเมาฉันนิสัยเสียอยู่อย่างก็คืออารมณ์ขึ้นง่าย แต่ไม่ใช่ไปขึ้นกับใครก็ได้นะ ถ้าหน้าไม่เหมือนเฮียไทน์ก็ใช่ว่าฉันจะขึ้นได้"จ๊วบๆ" เสียงดึงดูดริมฝีปากของเราสองคนดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ โซนที่เราจอดรถค่อนข้างลึกพอสมควรทำให้ไม่ค่อยมีรถคนเข้ามาจอดสักเท่าไหร่จะมีแค่คันสองคันเท่านั้นเอง"ฮื้มมม...ถ้ามึงยังไม่หยุดกู 'เอา' มึงที่ลานจอดจริงๆนะ" เฮียไทน์เลื่อนริมฝีปากออกแล้วกระซิบชิดใบหูฉัน"แล้ว...ได้ไหมล่ะ" ฉันกระซิบตอบเบาๆขณะเลื่อนฝ่ามือลงไปที่เป้ากางเกงเพื่อรู
Sara_eiei >> [ตัวเองงง...วันนี้เค้าทำงานกลุ่มมาเหนื่อยมากๆเลยเค้าขอนอนก่อนนะ]ผัวอีซาร่า >> [อืม...เหนื่อยมากไหม]Sara_eiei >> เหนื่อยมากกกตาเค้าจะปิดอยู่แล้วเนี่ยผัวอีซาร่า >> อืม...แต่ตอนนี้กูอยู่ร้านเหล้าSara_eiei >> อ้าวหรองั้นตัวเองอย่าดื่มเยอะนะขับรถกลับดีๆด้วยนะเค้าเป็นห่วง งั้นเค้านอนก่อนน๊าาผัวอีซาร่า >> แต่กูนั่งอยู่โต๊ะข้างหลังมึงนะอีร่า !Sara_eiei >> ........."ซวยแล้วพวกมึงผัวกูจับได้แล้วว่ากูหนีเที่ยวอ่ะ"ฉันชื่อซาร่าหรืออีร่าที่คนในไลน์เรียกนี่แหละกำลังทำหน้านิ่วคิ้วขมวดใส่บรรดาเพื่อนๆที่เสือกชวนออกมาเที่ยวในคืนนี้ ก่อนจะทำใจดีสู้เสือกันหน้าไปยิ่มหวานสุดฤทธิ์ให้โต๊ะที่อยู่ติดกันทางด้านหลัง"ไฮ้...ที่รักคิดถึงเค้าไหม ?" แหะๆก็รู้แหละว่าแก้ตัวอะไรไม่ทันแล้วแต่ก็ปะเหลาะอีผัวตัวดีมันไว้ก่อนอ่ะเนอะ"มึงไม่ต้องมาตอแหลว่าคิดถึงกูหรอกหนอยทำเป็นเหนื่อยง่วงจะหลับแล้วที่ไหนได้หนีมาเที่ยวนี่เอง"'เอ๊อะ ! โดนไปอีกชุดสะอึกเลยกู'"กะ..ก็เค้าไม่ได้อยากมาหรอกนะอีฟ้าสิชวนเค้ามา" กูขอโทษนะเพื่อนขอแก้ผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนแล้วกัน พูดไปพลางส่งสายตาอ้อนวอนให้มันตามไปติดๆ"โยนให้กูตลอดเลยนะอ
สองเดือนต่อมา"นิชา..นิชาครับหนูหายไปไหนมาพี่ตามหาหนูเสียทั่วเลยแต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ คนดีพี่ขอโทษจริงๆที่ทำให้หนูเสียใจหนูจะให้โอกาสพี่อีกครั้งได้ไหมพี่รักหนูจริงๆนะ"เสียงไตรคุณที่วันนี้บังเอิญมาเจอนิชาที่โรงพยาบาลเข้าพอดีเพราะมาเยี่ยมเพื่อนที่ภรรยาเพิ่งคลอดลูกเขารีบตรงเข้ามาหาเธอพลางสาธยายพร่ำพรรณาถึงความรักต่างๆนาๆที่มีต่อเธอ"ขอโทษนะคะพี่ไตรนิชากลับไปหาพี่ไม่ได้อีกแล้ว""ทำไมล่ะหรือว่านิชายังโกรธพี่อยู่""ไม่ใช่เพราะว่านิชายังโกรธอยู่หรอกค่ะแต่มันเป็นเพราะว่า...""นิชาเค้าแต่งงานมีสามีแล้วยังไงล่ะ ขอโทษนะครับคนนี้เมียผม"เสียงผู้กองตี๋ที่เดินมาจากทางด้านหลังของนิชาตอบแทนพลางเดินมาหยุดยืนข้างๆคนตัวเล็กแล้วรั้งเอวบางเข้ามากอดแนบแน่นต่อหน้าไตรคุณ โดยที่นิชาก็ไม่ได้ขัดขืนอะไร"นี่..หมายความว่ายังไงครับนิชา" ไตรคุณที่ยังมีสีหน้าเหวออยู่ถามน้ำเสียงสั่นๆเกือบสามเดือนที่ผ่านมาก่อนหน้านั้นเขาเอาแต่เมินเฉยไม่ง้อไม่โทรตามเพราะคิดว่านิชาจะต้องมาง้อเพราะคงขาดผู้ชายอย่างเขาไม่ได้แน่ จนกระทั่งเดือนที่แล้วที่เขาทนรอเฉยๆไม่ไหวจึงพยายามไปตามหาเธอทุกที่แต่ก็ไม่พบ แต่อยู่มาเจอกันอีกทีก็พบว่านิชาแต่







