Home / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 8  ทำเท่าไหร่ได้เท่านั้น

Share

ตอนที่ 8  ทำเท่าไหร่ได้เท่านั้น

Author: Sitha
last update Last Updated: 2025-09-20 15:32:45

กัทลีย้ายของเข้าบ้านใหม่ซึ่งเป็นบ้านเช่าขนาดห้าสิบห้าตารางวา  เป็นบ้านแฝดชั้นเดียวสองห้องนอน  หนึ่งห้องโถง สองห้องน้ำ  มีห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนและพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน  นอกจากนั้นยังมีส่วนพื้นดินให้ทำสวนครัวและสวนหย่อมเล็กๆ ได้อีกพอสมควร

เธอมองบ้านที่ทำสัญญาเช่าไว้แล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่างพอใจ  มันเป็นบ้านสร้างใหม่ที่เจ้าของซื้อไว้และไม่มีโครงการมาอยู่จึงปล่อยเช่าไปก่อน 

“แม่ว่าหนูซื้อบ้านเลยดีไหมกล้วย  จะได้ไม่ต้องกังวลค่าเช่าเดี๋ยวแม่เอาเงินในส่วนของเจ้าหินมาซื้อให้”  แม่ย่าเคยออกปากจะซื้อบ้านให้ในวันก่อนที่นางมาเป็นเพื่อนเธอในตอนดูบ้าน

“อย่าเพิ่งเลยค่ะแม่  หนูอยากรอดูงานให้เข้าที่เข้าทางก่อนดีกว่า  อีกอย่างหนูไม่อยากได้เงินส่วนของหินด้วยค่ะ  เกรงว่าถ้าเขารู้ทีหลังจะไม่พอใจ” 

“ก็ลองให้มันไม่พอใจดูสิ  จริงๆ มันก็ยังเป็นเงินของแม่อยู่  แค่เคยคิดจะยกให้มันเฉยๆ  แต่มันเองไม่สนใจตรงนี้ก็ช่วยไม่ได้” 

นางพูดถึงบรรดากิจการต่างๆ ที่นางลงทุนไว้ให้ผลิดอกออกผล  ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะพาร์ตเมนต์  บ้านเช่า  ตลาดสดแม้แต่ที่จอดรถก็มีและเหตุผลที่ย่าจันทร์‍หอมเห็นด้วยกับการที่กัทลีหาบ้านเช่าที่ไม่เกี่ยวข้องกับนาง  ก็เพราะเกรงว่าลูกชายอาจจะมาก่อกวนอดีตสะใภ้ในสักวันโดยอ้างมาดูแลกิจการของแม่  นับว่านางรอบคอบหรือจะเรียกว่ารู้ทันลูกตัวเองก็คงใช่อย่างใดอย่างหนึ่ง

“บ้านสวยจังค่ะแม่  หนูชอบมากเลย”  น้องบัววิ่งเข้าห้องโน้นออกห้องนี้อย่างตื่นเต้น  บ้านในเมืองมีความต่างกับบ้านหลังเล็กที่เธออยู่กับมารดาอย่างสิ้นเชิง

“งั้นเดี๋ยวหนูกลับไปอยู่บ้านปู่  แล้ววันศุกร์แม่จะรีบไปรับมาบ้านนี้นะคะลูก” 

“ได้เลยค่ะแม่” 

บ่ายแก่กัทลีขับรถไปส่งลูกที่บ้านปู่ย่า  จากนั้นเธอจึงกลับมาจัดของที่บ้านใหม่  ส่วนพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าอบผ้า  กลุ่มเพื่อนก็ช่วยต่อสายไฟก๊อกน้ำให้เรียบร้อยพร้อมใช้แล้ว  หญิงสาวจึงไม่ลำบากมากนักในการเริ่มต้นกับที่อยู่ใหม่และที่ทำงานใหม่    

ส่วนบ้านหลังเดิมที่เธอเคยอยู่กับลูกเป็นบ้านที่พ่อแม่สามียกให้เธอ  เพราะตั้งใจให้หลานสาวอยู่ซึ่งกัทลีก็ตั้งใจว่าจะกลับไปดูแลเป็นครั้งคราว

เธอจัดของเข้าที่กว่าจะเรียบร้อยก็ค่ำแล้ว  หญิงสาวทำกับข้าวให้ตัวเองง่ายๆ ยังไม่ทันได้ลงมือรับประทานก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้โทรหาลูก  พอดีกับที่มีเสียงสายเรียกเข้าจากน้องบัวพอดีเธอจึงกดรับ

“แม่ว่าจะโทรหาหนูอยู่พอดีเลยค่ะลูก  เป็นไงบ้างคะ” 

“หนูคิดถึงแม่จังค่ะ”  เสียงเล็กๆ ตอบกลับมาทำให้กัทลีน้ำตารื้น  ตั้งแต่น้องบัวเกิดมาเธอแทบไม่เคยแยกห่างจากลูกยกเว้นการไปเรียนหรือทำงานในช่วงกลางวันเลย

“แม่ก็คิดถึงลูกค่ะ  เดี๋ยวพอถึงวันศุกร์แม่จะรีบไปรับหนูเลยนะคะ  แต่เย็นนี้กินข้าวกับอะไรลูก”  เธอเปลี่ยนเรื่องไม่ให้บรรยากาศเศร้าเกินไป

“กินหมูทอดกับผัดผักค่ะ  แม่กินข้าวหรือยังคะ” 

“กำลังจะกินค่ะ  แม่เพิ่งจัดของเสร็จ  น้องบัวอย่านอนดึกนะลูก  อย่าดื้อกับคุณปู่คุณย่าเข้าใจไหมลูก”  หญิงสาวย้ำจนคนอีกฝั่งหัวเราะ  ย่าจันทร์‍หอมเองก็นั่งอยู่ด้วยตอนหลานสาววิดีโอคอลหามารดา

“ยายหนูไม่ดื้อเลยลูก  น้องบัวน่ารักว่านอนสอนง่ายจะตายเนอะ

หลานย่า” 

“จริงค่ะคุณย่า”  เด็กหญิงรับคำพลางหัวเราะสดใส  กัทลีมองภาพสองย่าหลานแล้วยิ้ม 

“ขอบคุณนะคะแม่  หนูเกรงใจแม่มากๆ เลยค่ะ”

“อย่าคิดมาก  แล้วเราก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะกล้วย  ไม่ต้องห่วงลูก  พ่อแม่ดูแลหลานได้  พ่อยายหนูมันก็นั่งหัวโด่อยู่นี่มีอะไรเดี๋ยวแม่ใช้งานมันเอง” 

“ขอบคุณมากค่ะแม่  ฝากขอบคุณพ่อเหมด้วยนะคะ”  กัทลีฝากขอบคุณไปถึงปู่เหมแต่เธอจงใจไม่พูดถึงหิรัญที่คอยเงี่ยหูฟังไม่ห่างกันนัก

แม่ลูกลากันอีกนิดหน่อยก่อนที่น้องบัวจะกดวางสายไป  หิรัญนั่งไม่ติด  “หรือว่าจะให้ผมเข้าไปดูกล้วยในเมืองดีแม่  ไปอยู่คนเดียวแบบนั้นจะดีเหรอ” 

นางจันทร์‍หอมมองลูกชาย  “แกหยุดคิดอะไรไปไกลแล้วไปปิดบ้านพาลูกเข้านอนได้แล้ว” 

หิรัญมองนาฬิกา  “มันเพิ่งสองทุ่มเองนะแม่  น้องบัวง่วงแล้วเหรอคะลูก”  ท้ายประโยคเขาหันไปถามเด็กหญิง

“ค่ะ  หนูง่วงแล้ว” 

“งั้นไปนอนกัน พ่อพาไปลูก”

“หนูต้องฟังนิทานก่อนนอน  คืนนี้หนูอยากฟังเรื่องเจ้าหญิงบนหอคอย” 

หิรัญคิดตาม  “เจ้าหญิงบนหอคอย  อ๋อ... สโนไวท์ใช่ไหมคะ” 

เด็กหญิงทำหน้าไม่ได้ดังใจ  “เจ้าหญิงราพันเซลต่างหากค่ะ”  เธอเดินเร็วๆ ไปเปิดกล่องสีชมพูใบหนึ่ง  ทำท่าค้นหาอะไรอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะชูหนังสือภาพของเด็กขึ้นมา

“นี่ไงคะ  พ่อเล่าให้หนูฟังที”  

หิรัญปาดเหงื่อ  เลี้ยงลูกวันแรกเริ่มจากการเล่านิทานก่อนนอน  เอาวะ...  เล่าก็เล่า

“ได้เลยค่ะน้องบัว ขอพ่อดูแป๊บนะคะ  หนูไปรอในห้องได้เลยเดี๋ยวพ่อตามไปขอเวลาครึ่งนาที” 

การเล่านิทานผ่านไปไม่เท่าไหร่  เด็กหญิงก็เบ้หน้า  “ไม่ใช่อย่างนี้ค่ะ  แบบนี้เรียกว่าอ่านให้หนูฟังไม่ใช่การเล่าสักหน่อย” 

หิรัญยิ้มจืดๆ  “เอาน่าลูก  พ่อเพิ่งหัดเล่าเดี๋ยววันต่อๆ ไปต้องสนุกกว่านี้นะคะ” 

“หนูไม่ฟังแล้ว  หนูง่วง” 

“ก็นั่นล่ะ  นิทานก่อนนอนก็ต้องฟังแล้วง่วงถูกต้องแล้วไงคะ  ถ้าฟังแล้วตื่นเต้น  อะดรีนาลีนหลั่งจนอยากไปวิ่งมันจะเป็นนิทานก่อนนอนได้ยังไง”  หิรัญตอบลูก‍สาวทำเอาย่าหอมที่แอบดูอยู่ถึงกับส่ายหน้าไปมา  ก่อนที่นางจะผละไปหาปู่เหมที่อ่านหนังสืออยู่

“เป็นไงบ้าง  ไอ้หินมันเล่านิทานได้ไหม”

“ได้เล่าค่ะ  แต่ไม่น่าจะผ่านน้องบัวบอกว่าพ่อพอเถอะ  หนูง่วงก็มันเล่นไปอ่านให้ลูกฟัง  น้ำเสียงราบเรียบเสมอกันหมดเหมือนท่องอาขยาน”  ย่าจันทร์เล่าอย่างเอือมระอาลูกชายตัวเอง  ส่วนปู่เหมหัวเราะเบาๆ เมื่อได้ยิน

“เอาน่าแม่จันทร์‍หอม  ลูกเรามันก็ตั้งใจปรับปรุงตัวอยู่นะ  รอดูมันไปก่อน”  จากนั้นท่านเปลี่ยนเป็นพูดจริงจัง

“แล้วเรื่องงานมันจะเอายังไง  จะให้มันลอยชายไปมาเก็บค่าเช่าแผงไปวันๆ เหรอแม่” 

“จะทำแค่นั้นแล้วมันจะเอาอะไรไปพอเลี้ยงลูกละพ่อ  เรื่องงานก็เหมือนกันเดี๋ยวฉันจะดัดสันดานมันใหม่  ทำแค่ไหนได้แค่นั้นจะมาลอยชายไปมาไปวันๆ ไม่ได้แล้ว  ลูกโตขึ้นทุกวันไอ้หินมันจะเอาอะไรไปสอนลูกล่ะ” 

นายเหมพยักหน้าเห็นด้วยกับเมีย  “พ่อก็ว่างั้น  งั้นเราเริ่มจากตัดเงินเดือนมันเดือนนี้ก่อนเลยแล้วกัน” 

วันต่อมาหิรัญไปส่งลูกที่โรงเรียน  เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อแวะเติมน้ำมันแล้วปั๊มบอกว่า  “ตัดบัตรไม่ได้อะพี่  เงินไม่พอ” 

“อะไรนะ  เอ็งทำไม่ถูกหรือเปล่า  เสียบผิดด้านอะไรไหม”  หยามกันมากไปแล้ว  ระดับลูกพี่หินลูกชายพ่อเหมแม่จันทร์  มีหรือที่เงินในบัญชีไม่พอจ่ายค่าน้ำมัน

“จริงๆ พี่  ผมลองหลายครั้งแล้ว  พี่จ่ายทางอื่นได้ไหม” 

“เออๆ  สแกนได้ไหม”  หิรัญเปิดแอปธนาคารบัญชีส่วนตัวอีกบัญชีที่ตอนนี้เงินทองก็ร่อยหรอไปมาก   ชายหนุ่มจัดการสแกนเงินจ่ายค่าน้ำมันรถก่อนจะรีบกลับบ้านไปถามเรื่องนี้กับแม่

“อะไรนะแม่  ตัดเงินเดือนผม”  ชายหนุ่มตะโกนเมื่อได้ยินสิ่งที่มารดาบอก

“ใช่  แม่จะเปลี่ยนเป็นจ่ายแกตามเนื้องาน  ทำเท่าไหร่เอาเงินไปเท่านั้น  ถ้าไม่พอใช้ก็ทำงานเพิ่ม” 

“ละตามเนื้องานที่แม่ว่า  ถ้าผมไปเก็บค่าแผงให้แม่ทุกวันแม่จะให้ผมเท่าไหร่” 

แทนคำตอบธนบัตรสีม่วงหนึ่งใบถูกวางลงบนโต๊ะ  “สำหรับลูกแม่จะให้มากกว่าคนอื่นๆ นะ  วันละห้าร้อยรวมค่าน้ำมันด้วยจ้ะ” 

“แม่...  แล้วผมจะเอาไหนเลี้ยงลูก  น้องบัวเข้าร้านสะดวกซื้อทีเดียวก็หมดแล้ว”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  13  ข้อตกลงใหม่ของพ่อและแม่...  เพื่อลูก

    หลังสอบปลายภาคเสร็จสิ้น น้องบัวก็ได้ย้ายมาอยู่กับแม่ที่บ้านเช่าในตัวเมืองตามที่กัทลีสัญญาไว้ หญิงสาวตั้งใจให้ลูกได้พักผ่อนเต็มที่ก่อนเริ่มต้นเทอมใหม่ และวางแผนจะย้ายโรงเรียนให้ลูกเข้าเรียนชั้นประถมปีที่สอง ซึ่งมีหลายโรงเรียนที่น่าสนใจและอยู่ใกล้ที่ทำงานของเธอเช้าวันที่เก็บของเตรียมย้ายบ้าน ปู่เหมกับย่าจันทร์‍หอมมายืนส่งหลานสาวที่หน้าบ้าน น้องบัวกอดย่าจันทร์‍หอมแน่น ส่วนปู่เหมก็ลูบเรือนผมนุ่มหลานสาวด้วยแววตาอาวรณ์“เอาไปเฉพาะของเล็กๆ ขนง่ายๆ ก็พอนะลูก ของชิ้นใหญ่ของเล่นของน้องบัวหลายๆ ลังเดี๋ยวแม่ให้ไอ้หินมันมาขนไปให้” ย่าบอกให้เด็กทำงานในบ้านช่วยกันขนของจุกจิกของหลานสาวใส่ท้ายรถยนต์ของกัทลี และหันมาคุยกับหลานสาว“ย่าจะคิดถึงหนูนะลูก”“บัวก็จะคิดถึงย่าค่ะ” เด็กหญิงตอบพร้อมน้ำตาคลอเบ้า“แม่จะพาหนูมาเยี่ยมย่ากับปู่ทุกเดือนเลยค่ะ หนูสัญญา”กัทลียิ้มบาง มองลูกแล้วหันไปสบตาคุณพ่อคุณแม่ของอดีตสามี “หนูจะพาน้องมาหาพ่อกับแม่ทุกเดือนจริง ๆ ค่ะ”“ดีแล้วลูก บ้านนี้ก็ยังเป็นบ้านของหนูเสมอ” ปู่เหมพูดช้าๆ ก่อนยื่นห่อขนมที่ย่าจันทร์ห่อไว้ให้ “เดินทางกันดีๆ นะกล้วย น้องบัว”น้องบัวชะเง้อมอ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 12  การเริ่มต้นเป็นเกษตรกรฝึกหัด

    เช้าวันนั้น หิรัญตื่นแต่เช้าและเดินทางไปยังแปลงที่ดินว่างในตัวเมืองตัส อยู่ในพื้นที่ชลประทานดินดีน้ำดี จำนวนขนาดพื้นที่ห้าไร่ที่นายเหมยกให้เมื่อรู้ว่าหิรัญตัดสินใจจะเริ่มต้นทำฟาร์มเม‍ล่อนอย่างจริงจัง“พี่หิน พี่จะให้รถไถหมดเลยไหม” สิงห์ลูกน้องที่ชายหนุ่มขอแบ่งมาจากคนของบิดาวิ่งเข้ามาถามหิรัญพยักหน้า ชี้มือไปยังพื้นที่ที่วางแผนไว้ “ตรงโน้นไถแล้วเกลี่ยหน้าดินให้เสมอกันให้หมด” ชายหนุ่มเรียกรถไถมาปรับพื้นที่ หญ้ารกค่อยๆ ถูกแหวกออก เปิดหน้าแปลงดินที่รอการเพาะปลูก อีกส่วนของพื้นที่ก็กำลังจะทำการขุดบ่อพักน้ำเสียงเครื่องตักดินดังเป็นจังหวะในยามสาย แดดอ่อนยังไม่แรงพอจะทำให้เหงื่อไหล แต่หิรัญกลับรู้สึกว่าเสื้อยืดบนหลังเขาชุ่มไปหมดแล้ว แต่งานก็ยังมีอีกมากเสร็จจากขุดบ่อวันต่อไปเขาก็ต้องมาต่อท่อน้ำจากบ่อบาดาลเพื่อปล่อยน้ำลงบ่อให้เต็ม หิรัญยืนอยู่ข้างหลุมดินขนาดใหญ่ ที่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะกลายเป็นบ่อเก็บน้ำของฟาร์มเม‍ล่อน ฟาร์มที่เขาตั้งใจจะให้เป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง... แต่เพื่อคนตัวเล็กๆ ที่ชื่อบัวชมพูด้วย ชายหนุ่มยืนกอดอกใต้เงาต้นตะขบป่าที่ยังเหลืออยู่

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 11  คำสัญญาที่ไม่เคยเป็นจริง

    เสียงกริ่งเลิกเรียนของโรงเรียนดังขึ้นในช่วงเย็น หิรัญยืนรออยู่หน้าอาคารเรียนของเด็กประถมต้นตามเวลาเลิกเรียน เขามาก่อนเวลาเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้น้องบัวต้องรอ สายตาชายหนุ่มกวาดไปทั่วสนามเด็กเล่นก่อนจะหยุดอยู่ที่ครูสาวคนเดิมที่คุ้นหน้าเดินจูงมือลูก‍สาวตัวน้อยในชุดนักเรียนออกมา"น้องบัว ทางนี้ลูก" เขาโบกมือเรียกเด็กหญิงตัวเล็กในชุดยูนิฟอร์มสีน้ำเงินขาวหันมาเห็นพ่อก็ยิ้มร่าและรีบวิ่งเข้ามากอดแน่นด้วยความคิดถึง หิรัญย่อตัวลงรับอ้อมกอดนั้นพลางลูบศีรษะลูกเบา ๆ อย่างอ่อนโยน ก่อนจะรับกระเป๋านักเรียนมาถือไว้แล้วพาเธอเดินไปยังที่จอดรถแม้เขาจะยังไม่ถนัดกับการดูแลลูกเท่ากับกัทลี แต่เขาก็เริ่มคุ้นเคยแล้วกับหน้าที่พ่อหลายๆ อย่าง แม้จะดูว่าช้าเกินไปสำหรับบางคน แต่สำหรับเขามันคือโอกาสครั้งที่สองที่ไม่อยากปล่อยผ่านอีกเมื่อกลับถึงบ้าน หิรัญเปิดประตูด้วยมือข้างหนึ่ง อีกข้างหิ้วกระเป๋านักเรียนและกล่องข้าวที่ครูฝากส่งคืน ก่อนที่เขาจะบอกให้น้องบัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและเตรียมตัวอาบน้ำ ขณะที่ตนเองเดินไปจัดเสื้อผ้าชุดใหม่วางเตรียมไว้ให้ลูก‍สาว จากนั้นเขาเข้าครัวไปหยิบนมหนึ่งกล่องและขนมปังปิ้งทาแยมเ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่  10  ก้าวแรกที่ออกจากเซฟโซน

    กัทลีเริ่มต้นงานใหม่อย่างราบรื่น เพื่อนร่วมงานใหม่ องค์กรใหม่ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เธอคุ้นเคยและเคยทำงานร่วมกันตั้งแต่อยู่หน่วยงานเก่าก่อนหน้านี้ หญิงสาวใช้เวลาช่วงเช้าในการทำความรู้จักกับแผนกอื่นๆ ที่จำเป็นต้องทำงานด้วยกัน หลังจากนั้นเธอก็เริ่มงานของตัวเองที่คนเดิมทำค้างไว้ก่อนย้ายไป“นี่จ้ะกล้วย อันนี้พาสเวิร์ดของเรานะ” นารา นักวิชาการศึกษาระดับชำนาญการที่เป็นหัวหน้าคนใหม่ของเธอ ส่งซองขาวที่ภายในบรรจุรหัสเข้างานเครื่องคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงานของเธอ “ขอบคุณค่ะพี่นา” กัทลีรับซองมาเปิดดู เธอฉีกรอยปรุกระดาษคาร์บอนที่ภายในพิมพ์รหัสของตัวเองไว้ จากนั้นเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อเข้ารหัส“พี่สิต้องขอบใจเรา ย้ายมาถูกเวลาช่วยงานพี่ได้เยอะเลย” นาราถอนใจโล่งอกที่ในที่สุดเธอจะได้มีเพื่อนมาช่วยทำงานสักที หลังจากที่รับบทหนักเพราะต้องรับผิดชอบงานแทนคนที่ย้ายไปมาสักพักหนึ่งแล้ว ไหนจะงานตัวเองก็ต้องทำเหมือนเดิมไม่นานหลังจากที่กัทลีเริ่มลงมือทำงาน หน้าจอของเธอก็ปรากฏข้อความเชิญประชุมจากระบบงานภายในองค์กร “กล้วย พรุ่งนี้เช้าไปประชุมแทนพี่ทีสิ พี่ต้องไปคุยกับโรงพิมพ์เรื่องจัดพิมพ์คู่

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 9  ไม่ว่าชีวิตจะผ่านอะไรมา  เมื่อมีลูกอย่าผ่านร้านสะดวกซื้อ

    คืนนั้นหลังจากส่งลูกเข้านอน หิรัญออกมานั่งคุยกับบิดามารดาเนื่องจากทั้งสองนอนดึกตามประสาคนสูงวัย “แม่ นอกจากให้ไปเก็บค่าแผงมีงานอะไรให้ผมทำอีกไหม” สองปู่ย่ามองหน้ากันแล้วหันมามองลูกชาย “ว่างเหรอหิน หรืออยากได้ตังค์เพิ่ม” “แม่ไม่คิดบ้างเหรอว่าผมอาจจะอยากทำตัวให้มีประโยชน์” หิรัญย้อนถาม“ไม่คิด”“ไม่คิด”พ่อแม่ตอบพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ทำให้ชายหนุ่มยกมือขึ้นกุมขมับก่อนจะยอมพูดความจริง “เอาตรงๆ ก็แบบนั้นล่ะฮะ วันละห้าร้อยไม่พอเลี้ยงลูกจริงๆ นะแม่” “ใช่ จะได้รู้ไงว่าเลี้ยงลูกไม่ง่าย แต่แม่เขาก็เลี้ยงมาได้นะกล้วยเงินเดือนไม่เท่าไหร่เอง” นางจันทร์‍หอมสอน “กล้วยน่ะเป็นข้าราชการ เงินเดือนบวกค่าตำแหน่ง ค่าอะไรต่างๆ ยังไม่ถึงสามหมื่นเลย ค่าเลี้ยงดูหลานพ่อสมทบให้ก็ยอมรับแค่ไม่เท่าไหร่ ไหนจะค่าน้ำไฟ ข้าวสาร แก๊ส ของกินของใช้ในบ้าน ค่าอุปกรณ์การเรียนค่าขนมลูกแต่ละวัน กล้วยได้เงินเดือนน้อยกว่าลูกสมัยทำงานที่กทม. อีกแต่ก็ยังเลี้ยงลูกมาได้อย่างดี” ปู่เหมเล่าอีกด้านของคนเป็นแม่ หิรัญหน้าสลดลง“ผมเข้าใจแล้วว่าที่ผ่านมาผมเห็นแก่ตัวมาก ก็กำลังแก้ตัวอยู่นี่ไงแม่” “แล้วนอกจากเก็บค

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 8  ทำเท่าไหร่ได้เท่านั้น

    กัทลีย้ายของเข้าบ้านใหม่ซึ่งเป็นบ้านเช่าขนาดห้าสิบห้าตารางวา เป็นบ้านแฝดชั้นเดียวสองห้องนอน หนึ่งห้องโถง สองห้องน้ำ มีห้องครัวแยกเป็นสัดส่วนและพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน นอกจากนั้นยังมีส่วนพื้นดินให้ทำสวนครัวและสวนหย่อมเล็กๆ ได้อีกพอสมควรเธอมองบ้านที่ทำสัญญาเช่าไว้แล้วเมื่อสัปดาห์ก่อนอย่างพอใจ มันเป็นบ้านสร้างใหม่ที่เจ้าของซื้อไว้และไม่มีโครงการมาอยู่จึงปล่อยเช่าไปก่อน “แม่ว่าหนูซื้อบ้านเลยดีไหมกล้วย จะได้ไม่ต้องกังวลค่าเช่าเดี๋ยวแม่เอาเงินในส่วนของเจ้าหินมาซื้อให้” แม่ย่าเคยออกปากจะซื้อบ้านให้ในวันก่อนที่นางมาเป็นเพื่อนเธอในตอนดูบ้าน“อย่าเพิ่งเลยค่ะแม่ หนูอยากรอดูงานให้เข้าที่เข้าทางก่อนดีกว่า อีกอย่างหนูไม่อยากได้เงินส่วนของหินด้วยค่ะ เกรงว่าถ้าเขารู้ทีหลังจะไม่พอใจ” “ก็ลองให้มันไม่พอใจดูสิ จริงๆ มันก็ยังเป็นเงินของแม่อยู่ แค่เคยคิดจะยกให้มันเฉยๆ แต่มันเองไม่สนใจตรงนี้ก็ช่วยไม่ได้” นางพูดถึงบรรดากิจการต่างๆ ที่นางลงทุนไว้ให้ผลิดอกออกผล ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ตลาดสดแม้แต่ที่จอดรถก็มีและเหตุผลที่ย่าจันทร์‍หอมเห็นด้วยกับการที่กัทลีหาบ้านเช่าที่ไม่เกี่ย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status