หน้าหลัก / โรแมนติก / รักกล้วยกล้วย / ตอนที่ 7  คำว่าแม่ไม่ใช่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกสบายๆ

แชร์

ตอนที่ 7  คำว่าแม่ไม่ใช่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกสบายๆ

ผู้เขียน: Sitha
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-17 02:08:21

 

“แม่ต้องย้ายที่ทำงานพรุ่งนี้แต่โรงเรียนหนูยังไม่ปิดเทอม  หนูไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าก่อนนะคะลูก  แล้ววันหยุดแม่จะมารับไปนอนค้างกับแม่” 

“ค่ะแม่  หนูอยู่กับปู่ย่าได้แต่แม่อย่าลืมมารับหนูเย็นวันศุกร์นะคะ”  เด็กหญิงกำชับ

“แม่ไม่ลืมแน่นอนค่ะ  ใครจะลืมลูกทั้งคนเนอะ”  ใครจะลืม ถ้าไม่ใช่อดีตสามี  ‘ไอ้บ้าหิน’  หญิงสาวอดคิดด่าฝ่ายนั้นในใจไม่ได้

“โอเค  นอนนะคะลูก  คืนนี้แม่ขอนอนกอดหนูหน่อยนะคะ  พรุ่งนี้แม่ต้องไปแล้ว”  หญิงสาวเอื้อมมือไปหรี่ไฟเอนตัวนอนกอดเด็กหญิงไว้หลวมๆ ยังไม่ทันได้ห่างกันจริงๆ เธอก็ใจจะขาด  แล้วต้องไปอยู่โน่นคนเดียวเป็นเดือนเธอจะทนไหวไหม  กัทลีถามตัวเอง

เช้าวันต่อมากลุ่มเพื่อนๆ มาช่วยกัทลีขนของย้ายบ้านโดยที่เธอจะขนของที่จำเป็นไปทั้งหมดทีเดียว  ยกเว้นของใช้ส่วนตัวของน้องบัวที่จะขนไปไว้ที่บ้านปู่เหมย่าจันทร์ชั่วคราว 

ในขณะที่เริ่มขนของขึ้นท้ายรถกระบะของวาตะที่ชายหนุ่มนำรถที่บ้านมาช่วยย้าย  หิรัญก็ขับรถปิคอัพมาจอดที่หน้าบ้าน

“ให้ไอ้หินมาช่วยขนของด้วยเหรอกล้วย”  สไบนางถามเพื่อน

“เปล่า  ฉันยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าจะย้าย”  กัทลีตอบพลางเดินไปหาแขกที่ไม่ได้เชิญว่าเขามาทำไม

“คุณมาทำอะไรหิน” 

“มาช่วยขนของไง  พ่อบอกว่าวันนี้กล้วยจะย้ายของไปในเมือง  จะได้มารับน้องบัวไปบ้านโน้นด้วย”  หิรัญตอบง่ายๆ  “เมื่อวานผมก็ไปซื้อเฟอร์มาแต่งห้องไว้ให้น้องบัวกว่าจะเสร็จก็ค่ำ  ทำไมไม่บอกผมสักคำว่าจะย้าย จะอะไร  ผมจะได้มาช่วยให้เร็วกว่านี้” 

คำถามของเขาทำให้กัทลีนึกย้อนไปถึงอดีต  ในตอนที่น้องบัวอายุใกล้ครบหนึ่งขวบและเธอโทรไปบอกเขาว่าเดือนหน้าต้องพาลูกไปฉีดวัคซีน  ซึ่งเวลานั้นน่าจะตรงกับช่วงที่เขาปิดเทอมและเธอคิดว่าเขาจะกลับบ้านเพราะในระยะเวลานั้นมันก็เกือบสองปีแล้วที่หิรัญไปเรียนต่อโดยที่ไม่ได้กลับมาบ้านเลย

‘หิน  เดี๋ยวอีกเดือนกว่าๆ น้องบัวจะอายุครบขวบ  คงพอดีกับช่วงที่เธอปิดเทอม  กลับมาบ้านนะจะได้พาลูกไปด้วยกัน’ 

‘กล้วยก็พาลูกไปเองไม่ได้เหรอ  ผมว่าจะลงซัมเมอร์คงไม่ได้กลับบ้านอีกปี  ทางนั้นมีคนเยอะแยะพ่อแม่ก็อยู่ ลูกน้องพ่อก็มี  ถ้ากล้วยอุ้มลูกไม่ไหวก็ให้คนที่บ้านช่วยก็ได้มั้ง’ 

กัทลีอึ้ง  ใจที่พองฟูในคราแรกที่ได้ยินเสียงเขาก็พลันเหี่ยวแฟบลง  ‘อ้าว  เรานึกว่าหินจะมารับเราไปสมัครสอบเข้าเรียนมหาลัยที่โน่นซะอีก  หรือว่าเธอจะให้เราไปเองก็ได้นะ’ 

หิรัญเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตัดบท  ‘เรื่องนี้เอาไว้คุยกันที่หลังก็ได้กล้วย  ที่นี่เทอมสองยังไม่ได้สอบเลยเรื่องรับนักศึกษาใหม่ปีหน้ายังไม่มีข่าวออกมาหรอก  แค่นี้ก่อนนะเพื่อนเรียกไปทำงานกลุ่ม’

“กล้วย  กล้วยเป็นอะไร”  หญิงสาวสะดุ้งเมื่อหิรัญเรียกเธอเสียงดัง  กัทลีจึงนึกได้ว่าคุยกับเขาอยู่เมื่อครู่

“ต่อให้คุณมาตั้งแต่เมื่อวาน  มันก็เร็วกว่านี้ไม่ได้หรอกหิน  คุณช้าไปมาก  ช้าเกินไปแล้ว”  เธอมองหน้าเขานิ่งพูดพึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง  จากนั้นจึงปรับน้ำเสียงให้จริงจังมากขึ้น

“ถ้าฉันจะทำอะไรแล้วต้องรอคุณ  ฉันคงตายไปนานแล้วล่ะ  คุณกลับไปเถอะ  ส่วนน้องบัวแกไม่ไปกับคุณแน่ไม่ต้องหวังดีมารับ  เดี๋ยวฉันไปส่งลูกที่บ้านปู่ย่าเองหลังจากย้ายเสร็จ” 

เพราะว่าน้องบัวอยากไปเห็นบ้านแม่ก่อน  เด็กหญิงจึงขอตามไปด้วยสองแม่ลูกจึงตกลงกันว่าเช้าไปบ้านใหม่กันก่อน  และช่วงบ่ายมารดาจะขับรถมาส่งบุตรสาวที่บ้านปู่ย่าเอง

“ก็เอาข้าวของน้องบัวให้ไอ้หินมันขนไปก่อนก็ได้นี่กล้วย  ไหนๆ มันก็มาแล้ว  เราจะได้ไม่ต้องขนหลายเที่ยว”  จิรัชหาทางลงซึ่งคราวนี้ทุกคนเห็นด้วย

          กัทลีนิ่งคิดว่าดีเหมือนกัน  จะได้ให้หิรัญขนของลูกแล้วกลับบ้านไปซะ  เขาจะได้ไม่ต้องตามไปบ้านใหม่ของเธอให้รกสายตา 

“เอางั้นก็ได้”

“อันนี้ค่ะของหนูกล่องสีชมพู เอาไปหมดเลย”  น้องบัวชี้มือไปทางกล่องของใช้พลาสติกหนาขนาดใหญ่ประมาณสามกล่องที่วางเรียงกันอีกมุมของบ้าน 

“หมดนี่เลยเหรอคะลูก”  หิรัญทวน  เขานึกไม่ออกเลยว่าเด็กตัวเล็กๆ จะมีของใช้อะไรมากมายขนาดนั้น

“คุณพ่อยกไม่ไหวเหรอคะ”  น้องบัวเอียงคอถามอย่างสงสัย 

“ไม่ใช่ค่ะลูก  พ่อยกได้สบายมากเลยค่ะ”  ชายหนุ่มหยุดถามแล้วรีบทำตามที่เด็กน้อยบอกก่อนที่เธอจะถามอะไรให้เขาจุกอีก 

“เอานี่ไปด้วยค่ะ”  เด็กหญิงชี้ไปทางกระถางต้นไม้ซึ่งเป็นกระถางแขวนขนาดประมาณแปดนิ้ว  วางเรียงกันด้านนอกอยู่สามสี่กระถาง

“เอาไปทำไมคะลูก  นี่ต้นอะไรคะ”  ชายหนุ่มอดสงสัยไม่ได้

“ต้นไม้ที่ลูกปลูกเป็นกิจกรรมส่งครู อีกสองอาทิตย์ต้องเอาไปส่งที่โรงเรียน”  กัทลีตอบแทน 

“แล้วนี่ต้นอะไร คล้ายๆ คุณนายตื่นสายเมื่อก่อนเลยแต่มันดอกเล็กกว่านี้ไม่ใช่เหรอ  อันนี้ดอกสวยแปลกตาดีจัง”  หิรัญยังถามต่อ

“ต้นแพรเซี่ยงไฮ้กับคุณนายตื่นสายพันธุ์ดอกใหญ่”  กัทลีตอบ

“หนูชอบค่ะดอกสวยดีมีหลายสีด้วย  พ่อยกเร็วๆ สิคะยังไม่ได้ขึ้นไปเอาเสื้อผ้าหนูเลยนะ”   เด็กหญิงเร่ง

“ฮะ...  แล้วสามกล่องใหญ่นั่นยังไม่มีเสื้อผ้าหนูเหรอลูก”  คุณพ่อมือใหม่ทำเสียงตกใจ

“นั่นของเล่นกับตุ๊กตาหนูค่ะ  ข้างบนยังมีเสื้อผ้า ชุดนักเรียน  ชุดอยู่บ้าน ชุดนอน  แล้วก็โต๊ะเขียนหนังสือ  เอาชามข้าวของหนูไปด้วยนะคะ”  เด็กหญิงพูดถึงถ้วยข้าวใบโปรดที่เธอใช้ประจำ  ซึ่งเป็นลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ที่มารดาซื้อให้เป็นชุด  และหิรัญไม่ได้ถามอะไรอีกนอกจากขนทุกอย่างที่ลูกชี้บอก 

เสร็จแล้วก็แทบจะเต็มท้ายรถพอดี  เพราะหนูน้อยให้ขนแม้กระทั่งโต๊ะทำการบ้าน  เก้าอี้ตัวโปรด  หมอน  ผ้าห่มที่เธอติดมากไปด้วย 

“เยอะเอาเรื่องเหมือนกัน  เพิ่งรู้ว่าเด็กเจ็ดขวบจะมีของใช้เยอะขนาดนี้”  หิรัญพูดเบาๆ

“เยอะใช่ไหมล่ะ  ตอนยัยหนูเล็กๆ น่ะแม่ลูกอ่อนจะไปไหนทีก็แทบจะเหมือนว่าย้ายบ้านอยู่แล้ว  กล้วยมันเก่งนะที่เลี้ยงลูกเองเป็นหลักโดยที่แทบไม่ต้องให้ใครมาเดือดร้อนด้วยเลย”  จิรัชตบไหล่เพื่อน  เขาอยากบอกให้มันรู้มานานแล้ว  แต่หิรัญไปเรียนต่อและไม่เคยกลับมาเลยในช่วงแปดปีที่ว่า  จนทุกอย่างมันล่วงเลยไปไกลจนเรียกอะไรกลับคืนไม่ได้

“กูรู้สึกผิดเลยว่ะ  เคยคิดได้ยังไงวะว่ากล้วยก็แค่เลี้ยงลูกอยู่บ้านสบายๆ   ไปเรียนก็มีคนช่วยดูแลแทน  เงินก็ไม่ต้องหาเองไม่เหมือนกูที่ต้องไปเรียนหนัก  ต้องใช้สมอง  พอเรียนจบก็ต้องทำงานหาเงินใช้ดูแลตัวเอง  กูคิดได้ไงว่าตัวเองลำบากกว่าเขา”  ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเอง 

“นี่เพิ่งเริ่มต้น  เดี๋ยวมึงจะซาบซึ้งมากกว่านี้ว่าการเลี้ยงลูกเป็นยังไงตอนที่น้องบัวไปอยู่บ้านมึงระหว่างรอปิดเทอม  เตรียมตัวได้เลย” จิรัชทิ้งท้าย

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 7  คำว่าแม่ไม่ใช่แค่อยู่บ้านเลี้ยงลูกสบายๆ

    “แม่ต้องย้ายที่ทำงานพรุ่งนี้แต่โรงเรียนหนูยังไม่ปิดเทอม หนูไปอยู่กับคุณปู่คุณย่าก่อนนะคะลูก แล้ววันหยุดแม่จะมารับไปนอนค้างกับแม่” “ค่ะแม่ หนูอยู่กับปู่ย่าได้แต่แม่อย่าลืมมารับหนูเย็นวันศุกร์นะคะ” เด็กหญิงกำชับ“แม่ไม่ลืมแน่นอนค่ะ ใครจะลืมลูกทั้งคนเนอะ” ใครจะลืม ถ้าไม่ใช่อดีตสามี ‘ไอ้บ้าหิน’ หญิงสาวอดคิดด่าฝ่ายนั้นในใจไม่ได้“โอเค นอนนะคะลูก คืนนี้แม่ขอนอนกอดหนูหน่อยนะคะ พรุ่งนี้แม่ต้องไปแล้ว” หญิงสาวเอื้อมมือไปหรี่ไฟเอนตัวนอนกอดเด็กหญิงไว้หลวมๆ ยังไม่ทันได้ห่างกันจริงๆ เธอก็ใจจะขาด แล้วต้องไปอยู่โน่นคนเดียวเป็นเดือนเธอจะทนไหวไหม กัทลีถามตัวเองเช้าวันต่อมากลุ่มเพื่อนๆ มาช่วยกัทลีขนของย้ายบ้านโดยที่เธอจะขนของที่จำเป็นไปทั้งหมดทีเดียว ยกเว้นของใช้ส่วนตัวของน้องบัวที่จะขนไปไว้ที่บ้านปู่เหมย่าจันทร์ชั่วคราว ในขณะที่เริ่มขนของขึ้นท้ายรถกระบะของวาตะที่ชายหนุ่มนำรถที่บ้านมาช่วยย้าย หิรัญก็ขับรถปิคอัพมาจอดที่หน้าบ้าน“ให้ไอ้หินมาช่วยขนของด้วยเหรอกล้วย” สไบนางถามเพื่อน“เปล่า ฉันยังไม่ได้บอกเขาเลยว่าจะย้าย” กัทลีตอบพลางเดินไปหาแขกที่ไม่ได้เชิญว่าเขามาทำไม“คุณมาทำอะไรหิน”

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 6  จัดการเรื่องลูกก่อน  ส่วนแม่ค่อยว่ากัน

    น้องบัววิ่งเข้าไปหลบหลังแม่แล้วค่อยๆ โผล่หน้ามามองคนเป็นพ่อ หลังจากที่เห็นกันมาหลายครั้งแล้วเธอจึงไม่ตกใจมาก แต่ก็ยังมีท่าทีระแวงอยู่หิรัญย่อตัวลงนั่งลงบนส้นเท้าตัวเองเพื่อให้ใบหน้าตัวเองอยู่ในระดับสายตาของเด็กหญิง “น้องบัวคะพ่อมาหาค่ะลูก หนูออกมาหาพ่อได้ไหมคะ” “พ่อ...” เด็กหญิงทวนคำ “พ่อมาทำไมคะ” เพราะว่าเธอจำได้ว่าคนที่แม่เคยแนะนำว่าเป็น “คุณพ่อ” ช่วยเธอและแม่ไม่ให้คุณยายตีเมื่อเช้าวันนี้ เด็กหญิงจึงลดท่าทีไม่เป็นมิตรลงไปบ้างถ้าเทียบกับปฏิกิริยาของเธอในวันวาน“พ่อมาหาหนูไงคะลูก” หิรัญใจชื้นขึ้นเมื่อเด็กหญิงยอมพูดกับเขาบ้าง ดีกว่าท่าทางปฏิเสธเด็ดขาดแบบเมื่อวาน“น้องบัวออกไปบอกลุงลมให้ย่างหมูได้แล้วลูก เดี๋ยวแม่ตามออกไปนะคะ” กัทลีออกคำสั่งเบี่ยงเบนความสนใจของลูก ทำให้เด็กหญิงทำท่านึกออกว่าเธอกำลังจะออกไปหากลุ่มเพื่อนๆ ของแม่ “ค่ะแม่” เมื่อมารดาพยักหน้าให้เด็กหญิงก็เลยเลิกสนใจ ‘คุณพ่อ’ และวิ่งตื๋อออกไปอย่างรวดเร็วกัทลีมองตามหลังลูกจากนั้นกลับมามองอีกคนที่ยังอยู่ที่เดิม “เรื่องเมื่อเช้าขอบคุณมากแต่เมื่อไหร่คุณจะกลับไปสักทีฮะหิน” “วันนี้กล้วยจะฉลองกับเพื่อนเก่าไม่ใช่

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 5  หย่ากันแล้วถึงตอนนี้ไม่ได้เป็นสามีแต่ก็ยังเป็นเพื่อนอยู่

    ยังไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรต่อ ก็มีรถยนต์คันหนึ่งวิ่งผ่านประตูรั้วมาจอดไม่ไกลจากที่พวกเขายืนอยู่ “ใครมา อ้าวไอ้ลม ไอ้จิณพวกมันมากันทำไม” หิรัญมองเพื่อนเก่าสองคนที่ลงจากรถ“อ้าวไอ้หินมันอยู่ด้วยเหรอวะมึง” วาตะกระซิบถามจิรัช“กูก็มาพร้อมมึง แล้วก็เห็นมันยืนอยู่พร้อมกันกูจะรู้ไหมล่ะ” จิรัชตอบจากนั้นเขาทักทายหิรัญและเจ้าของบ้านสาว“ว่าไงวะมึงไอ้หิน กูได้ข่าวว่ามึงจะกลับมาอยู่บ้านถาวรเลยเหรอ” “เออว่ะ ตอนนี้ทางโน้นปิดงานหมดกูเลยว่าจะมาหาอะไรทำที่บ้าน” หิรัญเดินไปหาเพื่อนสองคนที่เขาเคยสนิทและมาห่างกันช่วงไปเรียนต่อระดับปริญญาตรี“ละมึงมาทำไมกัน ขนอะไรกันมาเยอะแยะ” ชายหนุ่มมองข้าวของในมือของวาตะที่ส่งมาให้จิรัชและตน เขารับมาช่วยถืออย่างงงๆ และพบว่ามันเป็นพวกน้ำแข็ง เครื่องดื่มนานาชนิดนั่นเองยังไม่ทันที่สองหนุ่มจะตอบ กัทลีก็แทรกขึ้น “แล้วอีกสองสาวล่ะ ยังไม่มาเหรอ” “วันนี้วันเสาร์วุ้นมันไปเคลียร์งานครึ่งวันบีเลยจะไปรับแล้วจะมาพร้อมกัน เดี๋ยวคงมาถึงตะกี้มันโทรมาถามว่าฉันสองคนซื้ออะไรมาแล้วบ้าง” วาตะเป็นคนตอบพลางเดินนำเข้าบ้านเปิดประตูบ้านอย่างคุ้นเคย ส่งเสียงทักทายสาวน้อยวัยเจ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 4  ไม่มีอะไรจะแก้ตัวนอกจากคำพูดว่า “ผมขอโทษ”

    “กล้วย กล้วยเอ้ย อยู่ไหมลูก” นางกินรีมาตะโกนเรียกบุตรสาวที่หน้าบ้านในเช้าวันต่อมา ทำให้กัทลีที่กำลังจะเก็บถ้วยจานที่ใช้ในมื้อเช้าไปล้างต้องชะงัก หญิงสาวสบตาน้องบัวที่ลอบทำหน้าเบื่อเมื่อได้ยินว่าคุณยายมา กัทลีไม่ได้ว่าอะไรลูก‍สาวเพราะเธอเองก็เบื่อหน่ายไม่แพ้กัน เนื่องจากนางกินรีถึงจะมาที่นี่ไม่บ่อยแต่ว่าหากจะมาทีไร ก็มีแต่เรื่องเดือดเนื้อร้อนใจหรือร้อนหูมาให้ไม่เคยว่างเว้น“หนูขึ้นไปทำการบ้านข้างบนไหมลูก เดี๋ยวแม่ตามขึ้นไปดูค่ะ” แต่เด็กหญิงส่ายศีรษะทันที “ไม่ค่ะ หนูจะอยู่กับแม่”หญิงสาวออกมาเจอมารดาหน้าบ้าน ไม่ได้เชิญให้นางเข้าไปคุยกันข้างในแต่อย่างใด“มาที่นี่มีอะไรเหรอคะแม่” “กล้วย เอ็งพอมีเงินให้แม่สักหน่อยไหมขอแค่สามหมื่น แม่ต้องใช้ด่วนวันนี้เลย” หญิงวัยกลางคนเริ่มต้นพูดธุระทันที ไม่มีแม้แต่จะไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ“ฉันไม่มีเงินให้แม่หรอก ถ้าแม่มาแค่เรื่องนี้ก็กลับไปเถอะ” ภาพที่นางกินรีหอบกระเป๋าใส่เงินห้าแสนที่นางเรียกเป็นค่าไม่ฟ้องผู้เยาว์หิรัญเมื่อแปดปีที่แล้ว ก่อนจะทิ้งเธอไว้กับครอบครัวของหิรัญยังคงชัดเจนในใจ“แต่พี่แกกำลังลำบากนะกล้วย แกเองก็ได้ดิบได้ดีแล้วไ

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 3  ในระหว่างที่เราเติบโต  เราทำอะไรในชีวิตหล่นหายไปบ้าง

    กัทลีมาถึงบ้านแต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่มารอ หิรัญนั่นเองเธอมองชายหนุ่มอย่างสงสัยว่าเขามาที่บ้านนี้ทำไมกัน“กล้วย น้องบัว” ชายหนุ่มลุกจากเทอเรซหน้าบ้านทันที เขาว่าเขาตามเธอออกมาจากบ้านเวลาห่างกันไม่ถึงยี่สิบนาที แต่มาถึงไม่เจอใครและต้องมานั่งรออยู่เกือบชั่วโมงแล้ว“มาที่นี่มีอะไรเหรอหิน” น้ำเสียงของกัทลีราบเรียบจนหิรัญเพิ่งนึกได้ว่าตั้งแต่เขากลับมาที่นี่อดีตภรรยาไม่เคยแสดงอาการเหวี่ยงวีนหรือโกรธเขาเลยสักครั้ง ต่างจากเมื่อเจ็ดปีก่อนลิบลับที่หลังจากคลอดน้องบัว กัทลีมักจะโทรหาเขาในตอนค่ำๆ หิรัญในตอนนั้นเรียนปีหนึ่งเทอมสองเป็นช่วงที่ชีวิตในรั้วมหาลัยเริ่มลงตัว มีสังคมใหม่ มีกิจวัตรใหม่ แรกๆ เขาก็รับสายของเธอดี แต่ช่วงหลังหิรัญเริ่มติดเพื่อน เริ่มมีไปเที่ยวกับเพื่อนสนิทในคณะซึ่งส่วนมากก็เป็นการเที่ยวกลางคืน ทำให้เขาเริ่มไม่อยากรับสายกัทลีถึงรับก็พูดด้วยความเร่งรีบจนเธอเริ่มระแวงและหาเรื่องว่าเขาเปลี่ยนไป เมื่อถูกโวยวายชวนทะเลาะบ่อยๆ เขาเริ่มไม่รับสาย และยกเลิกการกลับบ้าน และจนเวลาล่วงเลยไปถึงตอนไหนก็ไม่รู้ที่เขาไม่ได้สังเกตว่าเธอไม่ได้โทรหาเขาอีกเลย“เอ่อ ผมมาหาน้อง

  • รักกล้วยกล้วย   ตอนที่ 2  การรอคอยนั้นคุ้มค่า... แค่กับคนที่สมหวังเท่านั้น

    “ไปค่ะ หนูจะเอาขนมอะไรแม่ให้เลือกได้สองอย่าง” กัทลีจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อปากทางเข้าบ้านตามที่ลูก‍สาวร้องขอ“ค่ะแม่ แม่อยากกินอะไรไหมคะ” น้องบัวหันมาถาม“เรามีกับข้าวที่คุณย่าทำมาให้เยอะแล้วนะลูก ขนมก็มีไม่ใช่เหรอคะ”เด็กน้อยพยักหน้าตาม “จริงด้วยค่ะ งั้นเอาขนมไปไว้เผื่อกินพรุ่งนี้นะคะแม่ พรุ่งนี้วันอาทิตย์เผื่อไม่ได้ออกมา” กัทลีนึกขำในความ “ยังไงก็จะเอา” ให้ได้ของลูก‍สาว กระนั้นเธอก็อนุญาตเพราะคิดว่าดีเหมือนกัน พรุ่งนี้ลูก‍สาวจะได้ไม่รบเร้าให้พาออกมาซื้อของข้างนอกอีกใช้เวลาไม่นานสองแม่ลูกก็มาต่อแถวรอคิดเงิน กัทลีมองเด็กวัยรุ่นในชุดนักเรียนชั้นมัธยมปลายชายหญิงคิวก่อนหน้าตนเองสามคิว ท่าทางบอกชัดว่าน่าจะเป็นคู่รักกันมากกว่าเพื่อน“ตัวเองจะยื่นพอร์ตที่ไหน เรายื่นที่เดียวกันนะ จะได้ไปเรียนที่เดียวกัน” เด็กหนุ่มพูด“เชียงใหม่ดีไหมเขาอยากไปเรียนเชียงใหม่ ไกลดี” เด็กสาวหัวเราะคิกคัก ก่อนจะพูดต่อ “พูดเล่นน่ะ เราว่าไปกรุงเทพฯ ดีกว่า คณะ....น่าสนใจหรือตัวคิดยังไง” “ก็ดีเหมือนกัน คะแนนเขาน่าจะถึงเราเข้าวิศวะกันนะ ถ้าได้เข้าที่เดียวกันจะได้อยู่หอด้วยกัน”

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status