Home / โรแมนติก / รักร้อยใจในไร่ชา / ตอนที่ 7 แม่ครัวหัวป่าก์

Share

ตอนที่ 7 แม่ครัวหัวป่าก์

last update Last Updated: 2025-11-12 20:05:34

 หลังจากการสนทนานั้น ลูกหยีตัดสินใจรับความท้าทาย แม้ว่าภายในใจจะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เธอรู้ดีว่าถ้าเธอจะอยู่ที่นี่และใช้ชีวิตในฐานะภรรยาของเอกณัฐ เธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง เธอไม่ต้องการถูกมองว่าเป็นภาระหรือผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์

 วันต่อมาหลังจากกลับมาจากทำงานในไร่ชา ลูกหยีก็ตรงเข้าไปในครัวทันที เธอมองดูเครื่องครัวและวัตถุดิบที่มีอยู่เพื่อที่จะเตรียมประกอบอาหาร ตอนนี้ลูกหยีทั้งรู้สึกตื่นเต้นและกังวลไปพร้อมกัน เพราะแม้ว่าเธอจะเคยทำอาหารบ้างแต่เธอก็ไม่เคยทำให้ใครกินแบบนี้

 ถึงแม้ว่าเอกณัฐจะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ในตอนนี้ แต่เขาก็เฝ้าดูเธออยู่เงียบ ๆ จากห้องนั่งเล่น เขาอยากรู้ว่าเธอจะทำได้ดีแค่ไหน ความคาดหวังในตัวเธอที่เขามีไม่ได้สูงมาก แต่เขาต้องการให้เธอพยายามจริง ๆ แค่นั้น ส่วนเรื่องการพัฒนาฝีมือเขารู้ว่าสำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างลูกหยีมันต้องค่อยเป็นค่อยไป

 ลูกหยีเริ่มทำอาหารอย่างตั้งใจ เธอเลือกทำเมนูง่ายๆ จากวัตถุดิบที่มีอยู่ เธอเลือกที่จะทำไข่เจียวและต้มจืด ที่เธอพอจะมีความถนัดอยู่บ้างและรู้ว่ามันต้องใส่อะไรลงไปบ้าง แม้ว่าในระหว่างการทำ เธอจะมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการหาของไม่เจอ จำไม่ได้ว่าตัวเองใส่อะไรลงไปแล้วบ้างแม้ว่าเธอจะทำไข่เจียวไหม้ไปหน่อยแต่เธอก็ไม่ยอมแพ้

 เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อยถึงจะใช้เวลานานไปหน่อย ลูกหยีจัดใส่จานและนำมาวางบนโต๊ะอาหาร เธอถอนหายใจยาวด้วยความเหนื่อยแต่ก็เต็มไปด้วยความหวังลึก ๆ ว่าอาหารของเธอจะไม่แย่จนเกินไป เอกณัฐเดินเข้ามานั่งที่โต๊ะ เขามองอาหารที่เธอทำด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ยังไม่ทำอะไรกับมันนอกจากยืนมองอย่างพิจารณา

 “ลุงชิมอาหารให้หนูหน่อยว่ามันเป็นยังไงบ้างพอไหวไหม หนูบอกไว้ก่อนเลยนะลุงเป็นคนโชคดีคนแรกที่ได้ชิมฝีมือหนู แม้แต่พ่อกับแม่ใหญ่ยังไม่ได้ทานฝีมือหนูเลย” ลูกหยีโฆษณาชวนเชื่อเพื่อเชิญชวนให้อีกคนชิมฝีมือตัวเอง

 เอกณัฐมองหน้าลูกหยียิ้มๆ ก่อนจะหยิบช้อนตักต้มจืดขึ้นมาชิมคำแรก ลูกหยีเฝ้ารอดูปฏิกิริยาของเขาอย่างใจจดใจจ่อ แต่เอกณัฐยังคงรักษาท่าทีเย็นชา เขาไม่แสดงสีหน้าอะไรขณะชิมต้มจืดที่เธอตั้งใจทำ แต่หลังจากนั้นเขาก็ตักไข่เจียวขึ้นมาทานอีกคำ และก็ยังไม่ยอมพูดอะไรอีก จนแม่ครัวอดไม่ได้ที่จะถาม

 “เป็นไงบ้างคะลุง” ลูกหยีถามด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อย แม้จะพยายามปิดบังแล้ว เธอลุ้นมากกว่าการสอบเสียอีก เอกณัฐวางช้อนลงบนจาน แล้วเงยหน้าขึ้นมองเธอ

 “กินได้” เขาพูดสั้น ๆ แค่นั้น

 คำตอบนั้นทำให้ลูกหยีหรี่ตามองเขาอย่างไม่พอใจ แต่ก็อดขำในใจไม่ได้ เธอรู้ดีว่านั่นคือคำชมจากคนอย่างเอกณัฐ

 “แค่นั้นเหรอ ลุงไม่คิดจะชมมากกว่านี้หน่อยเหรอไงคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงประชด

 เอกณัฐยิ้มเล็กน้อย ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก

 “ไข่เจียวยังไหม้ไปหน่อย แต่ต้มจืดก็เค็มดีกว่าที่คิด ผักที่ใส่ไปก็เปื่อยดี เคี้ยวง่ายดีเหมาะสำหรับคนแก่อย่างฉัน เธอคิดว่าฉันต้องชมแบบไหนดี เธอต้องหัดทำอีกเยอะ แต่ก็ไม่แย่สำหรับครั้งแรก”

 ลูกหยียิ้มบาง ๆ กับคำตอบนั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองก้าวผ่านความท้าทายเล็ก ๆ ไปได้อีกขั้น แม้ว่าเธอจะยังมีเรื่องต้องเรียนรู้และปรับปรุงอีกมากมาย แต่สิ่งหนึ่งที่เธอได้จากการทำกับข้าวครั้งนี้คือการยอมรับในตัวเอง และความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ในฐานะภรรยาของเอกณัฐอย่างดีที่สุด

 “เย้ๆๆ ขอบคุณค่ะลุง แค่นี้หนูก็ดีใจแล้วค่ะ”

 “มานั่งกินข้าวได้แล้วมา เดี๋ยวฉันจะไปทำผัดกะเพราเพิ่มให้ เธอกินเผ็ดหรือเปล่า”

 คนตัวโตถาม ก่อนที่จะลุกไปที่ห้องครัวเพื่อทำอาหารเพิ่มให้ ลูกหยีรีบวิ่งตามทันที ก่อนจะวิ่งเข้าไปชนแผงอกกว้างอย่างจังเพราะเอกณัฐหยุดเดินเปลี่ยนใจหันมาเพื่อที่จะไปที่ตู้เย็นเพื่อรื้อหาวัตถุดิบมาทำอาหารเพิ่ม ทำให้ตอนนี้ร่างบางของลูกหยีตกอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นสามีทันทีอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่เธอจะผละออก ใบหน้าหวานแดงก่ำด้วยความอาย

 “ลุง จะหยุดเดินทำไมไม่บอก เห็นไหมชนเลย จมูกหนูหักหรือเปล่าก็ไม่รู้เนี่ย” ลูกหยีบ่นกลบเกลื่อนความอาย ทำเอาคนโดนบ่นอดขำไม่ได้ 

 “ตัวเองซุ่มซ่ามไม่ระวังเองมาโทษคนอื่น ไหนดูมาให้ฉันดูใกล้ๆ หน่อยซิ จมูกไม่ได้หักอย่างที่เธอกลัวหรอก มีแต่หน้าที่แดงเกิน”

 “ตาลุงบ้า” พอรู้ว่าโดนแซวลูกหยีเลยทุบเบาๆ ที่อกคนแก่ไปหนึ่งที 

 “แล้วนี่เดินตามมาทำไม บอกให้ไปนั่งทานข้าวรอ”

 “ก็หนูจะมาดูลุงทำกับข้าวนี่ไง ว่าลุงใส่อะไรบ้างวันหลังจะได้ทำเองทลุงสอนหน่อยได้ไหมคะ”

 คำตอบของลูกหยีทำเอาคนตัวโตอดเอ็นดูไม่ได้ที่เธอพยายามที่จะเรียนรู้ในสิ่งที่เธอไม่เคยทำ เขาจึงถือโอกาสสอนและสาธิตการทำผัดกะเพราให้ดู เพียงครู่เดียวผัดกะเพราจานด่วนก็เสร็จ ก่อนที่เอกณัฐจะตักใส่จานแล้วยกออกมานั่งทานกันที่โต๊ะอาหาร

 “ไหน มาชิมซิว่าฝีมือของลุงอร่อยไหม อื้อ อร่อยมากเลยค่ะลุง วันหลังหนูจะทำให้ได้รสนี้ให้ลุงกิน” 

 ลูกหยีเอ่ยชมอย่างจริงใจ ก่อนที่จะตักกับข้าวฝีมือตัวเองมาชิมบ้าง

 “อึยยย ทำไมไข่เจียวของหนูมันขมอย่างนี้ล่ะ ไหนลุงบอกว่าไหม้นิดเดียวยังไงล่ะ ไม่ยอมบอกหนูตรงๆ แล้วแกงจืดหนูล่ะจะเป็นยังไง” ว่าแล้วลูกหยีก็ตักน้ำต้มจืดขึ้นมาชิมก่อนจะรีบคายออก 

 “ลุง ต้มจืดหนูเค็มขนาดนี้ทำไมลุงไม่บอกหนู” ลูกหยีโวยวายกลบเกลื่อนความเขินอายกับรสชาติอาหารที่เธอทำ

 “ไม่เป็นไรหรอกน่าสำหรับครั้งแรกทำได้แค่นี้ก็โอเคแล้ว กินผัดกะเพราก็ได้” เอกณัฐให้กำลังใจคนที่ตั้งใจทำ

 “ลุงทานเถอะ เดี๋ยวหนูจะทานต้มจืดของหนูเอง หนูสงสารมัน” ลูกหยีพูดด้วยน้ำเสียงสลดชวนให้น่าสงสาร ก่อนจะเอื้อมไปตักต้มจืดแต่ไม่ทันจะได้ตักถ้วยต้มจืดก็โดนเอกณัฐยกออกไปเสียก่อน ทำให้เธอมองตาขวางด้วยความไม่พอใจ

 “มันเค็ม เดี๋ยวไปปรุงให้ใหม่ ตามมาดูว่าเราจะปรุงใหม่ยังไงบ้าง” ว่าแล้วทั้งคู่ก็ลุกเข้าไปในครัวใหม่อีกรอบ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • รักร้อยใจในไร่ชา   ตอนที่ 8 เขินจนอยากเมา

    หลังจากที่วันนี้ทั้งวันเต็มไปด้วยความท้าทายทั้งจากงานในไร่ชาและการเรียนรู้การทำอาหารจากเอกณัฐ ลูกหยี รู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ เธอใช้พลังงานไปเยอะมาก แต่เธอก็ภาคภูมิใจในความสำเร็จเล็ก ๆ ของตัวเอง และก็ทำให้เธอรู้สึกพอใจ แม้จะต้องพบกับความยากลำบาก แต่เธอก็รู้ดีว่าเธอกำลังค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับชีวิตที่ไร่ชาได้ ค่ำวันนั้น หลังจัดการเรื่องในครัวเสร็จ เมื่อเธอเดินกลับเข้าห้องนอน เธอพบว่าเอกณัฐนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะเล็ก ๆ ใกล้เตียง เขายังคงดูเคร่งขรึมและสงบเงียบเหมือนเคย แต่บรรยากาศในห้องตอนนี้กลับทำให้ลูกหยีรู้สึกแปลก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอต้องร่วมอยู่ในห้องเดียวกันกับเขาตอนที่สติครบถ้วน ไม่มีความเมาหรือความโกรธเป็นตัวขวางกั้น ที่ผ่านมานอกจากวันที่เธอเมาแล้ว ส่วนมากเอกณัฐก็จะไปทำงานต่อที่ห้องทำงานกลับมาอีกทีเธอก็หลับไปแล้ว ตอนนี้วันนี้เธอมีสติเต็มที่และเอกณัฐที่ปกติเวลานี้จะต้องอยู่ที่ห้องทำงาน แต่ตอนนี้เขากลับยังอยู่ที่นี่ สำหรับลูกหยีความตึงเครียดและความอึดอัดค่อย ๆ แทรกเข้ามาในอากาศเธอยืนอยู่ที่ประตูครู่หนึ่ง ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ใจเธอเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว “นั่งสิ” เ

  • รักร้อยใจในไร่ชา   ตอนที่ 7 แม่ครัวหัวป่าก์

    หลังจากการสนทนานั้น ลูกหยีตัดสินใจรับความท้าทาย แม้ว่าภายในใจจะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เธอรู้ดีว่าถ้าเธอจะอยู่ที่นี่และใช้ชีวิตในฐานะภรรยาของเอกณัฐ เธอก็ต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเอง เธอไม่ต้องการถูกมองว่าเป็นภาระหรือผู้หญิงที่ไร้ประโยชน์ วันต่อมาหลังจากกลับมาจากทำงานในไร่ชา ลูกหยีก็ตรงเข้าไปในครัวทันที เธอมองดูเครื่องครัวและวัตถุดิบที่มีอยู่เพื่อที่จะเตรียมประกอบอาหาร ตอนนี้ลูกหยีทั้งรู้สึกตื่นเต้นและกังวลไปพร้อมกัน เพราะแม้ว่าเธอจะเคยทำอาหารบ้างแต่เธอก็ไม่เคยทำให้ใครกินแบบนี้ ถึงแม้ว่าเอกณัฐจะไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ในตอนนี้ แต่เขาก็เฝ้าดูเธออยู่เงียบ ๆ จากห้องนั่งเล่น เขาอยากรู้ว่าเธอจะทำได้ดีแค่ไหน ความคาดหวังในตัวเธอที่เขามีไม่ได้สูงมาก แต่เขาต้องการให้เธอพยายามจริง ๆ แค่นั้น ส่วนเรื่องการพัฒนาฝีมือเขารู้ว่าสำหรับเด็กรุ่นใหม่อย่างลูกหยีมันต้องค่อยเป็นค่อยไป ลูกหยีเริ่มทำอาหารอย่างตั้งใจ เธอเลือกทำเมนูง่ายๆ จากวัตถุดิบที่มีอยู่ เธอเลือกที่จะทำไข่เจียวและต้มจืด ที่เธอพอจะมีความถนัดอยู่บ้างและรู้ว่ามันต้องใส่อะไรลงไปบ้าง แม้ว่าในระหว่างการทำ เธอจะมีปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการหา

  • รักร้อยใจในไร่ชา   ตอนที่ 6 คนงานใหม่

    หลังจากการเผชิญหน้ากับเอกณัฐที่กลางไร่ชา ความเงียบก็เข้ามาครอบคลุมทั้งสองคน ลูกหยีแสดงออกถึงความไม่พอใจกับชีวิตที่ถูกบังคับ กำลังหายใจลึกเธอรู้สึกว่าตัวเองเริ่มสับสนไม่รู้จะทำอะไรต่อ แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือเธอไม่อยากกลับไปใช้ชีวิตในฐานะภรรยาที่เธอไม่ได้เลือกเอง ในที่สุดลูกหยีหันมองไปที่ไร่ชาอันกว้างใหญ่ที่ยืดไปสุดสายตา เธอคุ้นเคยกับไร่ชาแห่งนี้ เพราะตอนเด็ก ๆ เธอเคยมาที่นี่กับพ่อบ่อยครั้ง มันเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกสงบ แต่วันนี้มันกลับให้ความรู้สึกแตกต่างออกไป“ถ้าลุงไม่อยากให้หนูหนี หนูมีข้อเสนอ” ลูกหยีพูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ เอกณัฐหันมามองเธอด้วยความสงสัย“ข้อเสนออะไร” เขาถามเสียงแข็ง แต่ก็กำลังสงสัยในคำพูดของเธอ เขาอยากรู้ว่าเธอจะมาไม้ไหน เพราะตั้งแต่เด็กที่เขารู้จักลูกหยีเป็นเด็กฉลาดแต่เจ้าเล่ห์พอตัว ลูกหยีหยุดครู่หนึ่งเพื่อรวบรวมความคิด ก่อนจะพูดออกมาอย่างด้วยท่าทางจริงจัง“หนูจะไม่หนีอีก แต่หนูไม่อยากเป็นแค่ภรรยาที่เป็นเพียงตัวแทนพี่ลูกเกด หนูจะอยู่กับลุง หนูอยากรับจ้างทำงานในไร่ชา ลุงให้หนูทำงานที่นี่ได้ไหม” เอกณัฐจ้องเธอด้วยสายตาที่

  • รักร้อยใจในไร่ชา   ตอนที่ 5 ความวุ่นวายหลังคืนเข้าหอ

    หลังจากที่ลูกหยีหลับสนิท เอกณัฐยืนมองดูเธอครู่หนึ่ง เขารู้สึกถึงความอ่อนล้าและความวุ่นวายทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นในคืนแรกของชีวิตแต่งงาน เขาไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขาและลูกหยีจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ที่แน่ ๆ คือพวกเขาทั้งคู่ยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับชีวิตแต่งงานจริง ๆ “บางที การที่เธอเมาอาจจะเป็นทางออกที่ดีกว่าก็ได้” เขาคิดในใจขณะมองดูเธอหลับสนิทบนโซฟาก่อนที่จะตัดสินใจช้อนเอาร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน แล้วออกแรงอุ้มเธอให้มานอนบนเตียงให้สบายก่อนที่จะห่มผ้าให้ และนอนลงเคียงข้างกันเพื่อพักผ่อนจากเรื่องเครียดๆ มาทั้งวัน คืนแรกของการแต่งงานผ่านพ้นไปโดยที่บ่าวสาวไม่ได้เข้าหอกันจริง ๆ เพราะความเมาของลูกหยี รุ่งเช้าหลังคืนแต่งงานที่วุ่นวาย เอกณัฐตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ตามปกติเหมือนทุกวัน เขาเป็นคนที่รักษาระเบียบและมีวินัยในชีวิตประจำวันอย่างเคร่งครัด การดูแลไร่ชาขนาดใหญ่ของเขาที่เชียงใหม่ต้องใช้เวลาและความทุ่มเทเป็นอย่างมาก แต่ในวันนี้ความคิดของเขากลับถูกครอบงำด้วยเรื่องเมื่อคืนและสถานการณ์การแต่งงานที่ยุ่งเหยิง เขาคาดหวังว่าลูกหยีจะตื่นมาและพวกเขาจะเริ่มพูดคุยกันถึงชีวิตแต่งงานที่เพิ่งเริ่มต้

  • รักร้อยใจในไร่ชา   ตอนที่ 4 คืนแรกของการเข้าหอ

    หลังจากงานแต่งเสร็จสิ้น บ่าวสาวเดินทางไปยังไร่ชาของเอกณัฐที่เชียงใหม่ บ้านหลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางเนินเขาและไร่ชาสีเขียวขจี ลูกหยีนั่งอยู่ในรถ เธอจ้องมองไร่ชาและบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า ความรู้สึกหวาดหวั่นเกิดขึ้นเมื่อเธอตระหนักว่านี่คือสถานที่ที่เธอจะต้องใช้ชีวิตต่อจากนี้ “ตั้งแต่วันนี้ไป ที่นี่จะเป็นบ้านของเธอ” เอกณัฐกล่าวขณะที่เขาพาเธอเข้าไปในบ้าน บรรยากาศภายในบ้านเงียบสงบและเย็นชาเหมือนตัวเขา ทุกสิ่งทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไร้ความอบอุ่น ลูกหยีเดินตามเอกณัฐเข้าไปในห้องนอนใหญ่ที่ถูกจัดเตรียมไว้ “เธอจะพักที่นี่ ฉันจะไปเคลียร์งานที่ห้องทำงานอีกห้อง” เอกณัฐพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ และไม่รอคำตอบใด ๆ ก่อนจะหันหลังออกจากห้อง ปล่อยให้ลูกหยียืนอยู่คนเดียวความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวท่วมท้น ลูกหยีเดินไปที่เตียงแล้วทรุดตัวลงนั่ง เธอหันไปมองกระจก เธอเห็นเงาของตัวเองในชุดเจ้าสาวที่ยังไม่ถอดออก “นี่คือชีวิตแต่งงานของฉันเหรอ” เธอถามตัวเองเบา ๆ น้ำตาค่อย ๆ ไหลรินออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามกักเก็บมันไว้ แต่ความรู้สึกกดดัน ความผิดหวัง และความเหงากลับพุ่งเข้ามาอย่างหนัก หลังจากวันที่

  • รักร้อยใจในไร่ชา   ตอนที่ 3 งานแต่งที่ต้องดำเนินต่อไป

    ภายในงานที่เต็มไปด้วยแขกจำนวนมาก เสียงดนตรีไทยกลับมาบรรเลงอีกครั้ง ท่ามกลางเสียงซุบซิบของแขกผู้ร่วมงานที่ยังคงไม่หายจากความตกใจ พิธีการถูกจัดการขึ้นใหม่อย่างเร่งด่วน ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติภายนอก แต่ภายในใจของเจ้าบ่าวและเจ้าสาวต่างเต็มไปด้วยความสับสนและกดดัน ลูกหยี ในชุดเจ้าสาวสีขาวงดงามที่เคยถูกเตรียมไว้ให้พี่สาวของเธอ เดินออกมาจากห้องด้วยท่าทีที่มั่นใจในสายตาของคนอื่น แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในฝันร้ายที่ไม่อาจหลีกหนีได้ เมื่อเธอเดินเข้ามาในบริเวณพิธี สายตาของทุกคนต่างจับจ้องไปที่เธอ“เปลี่ยนเจ้าสาวเหรอ” เสียงซุบซิบเบาๆ จากแขกเริ่มดังขึ้นขณะที่พวกเขาสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างลูกหยีกับลูกเกด ทั้งสองสาวมีบุคลิกที่ต่างกันจนใคร ๆ ก็มองเห็นได้ชัดเจน เอกณัฐยืนอยู่ตรงหน้าเธอในชุดสูทสีขาวเรียบง่าย เขามองเธอด้วยสายตาที่นิ่งขรึมและไม่แสดงความรู้สึกใดๆ แม้ว่าข้างในเขาจะยังคงไม่สามารถลืมความจริงที่ว่าเจ้าสาวตัวจริงหนีไปก็ตาม“ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะมาถึงจุดนี้” เอกณัฐคิดในใจ เขามองลูกหยีที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขา หญิงสาวที่เขาไม่เคยคิดว่าจะเอามาเป็นภรรยาของเขา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status