ตอนที่ 2
สอบปากคำ
เพชรกำลังจะหันไปถามผู้การ ที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนสนิทของพ่อเขาว่านี่มันเรื่องอะไร แต่ผู้การก็เดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวคนนั้น ก่อนจะหันมาเรียกเขา ให้เดินเข้าไปนั่ง
“สารวัตร”
เพชรเดินไปหาผู้การ ก่อนจะลงที่โซฟาข้าง ๆ หญิงสาว จนผู้การต้องเอ่ยทัก ด้วยรอยยิ้มล้อเลียน
“ตาเพชร เราจะนั่งสอบปากคำฝั่งนั้นเหรอ”
“ขอโทษครับ”
เพชรรีบกล่าวขอโทษ เขาลุกขึ้นแล้วย้ายมานั่งโซฟาฝั่งเดียวกับผู้การทันที ส่วนหญิงสาวที่เขาต้องสอบปากคำก็หัวเราะขึ้นมาเบาๆ ก่อนจะพูดแซวเขา
“คุณตำรวจอยากนั่งข้างฟ้าใสเหรอคะ จะมานั่งก็ได้นะคะ ฟ้าใสไม่ถือ”
“เลิกเล่นได้แล้วหนูฟ้าใส”
ผู้การดุหญิงสาวเบาๆ แล้วหันไปหาเพชร เพื่อแนะนำฟ้าใสให้เขารู้จัก
“นี่หนูฟ้าใส ลูกสาวคนเดียวของท่านองศาเอกอัครราชทูตประเทศไทยประจำกรุงเบอร์ลิน คนที่นำสร้อยเพชรติดระเบิดเข้ามา และเป็นคนแรกที่ตรวจสอบเจอระเบิดคนแรก”
หลังจากที่ผู้การแนะนำตัวผู้หญิงตรงหน้าให้เขารู้จัก เพชรก็เข้าใจแล้วว่าทำไมการป้องกันถึงได้หละหลวม และห้องที่ใช้ควบคุมตัวถึงได้เป็นห้องที่ดูหรูหราขนาดนี้ ก็ใครจะไปคิดว่าลูกสาวท่านทูตจะเป็นมือระเบิด ขนาดเขายังคิดว่านี่เป็นการนัดดูตัวเลย
“หนูฟ้าใส นี่สารวัตรเพชร สารวัตรจะเป็นคนสอบปากคำหนู ลุงขอให้หนูช่วยตอบคำถามของสารวัตรด้วยนะ”
ผู้การแนะนำตัวสารวัตรเพชรให้ฟ้าใสได้รู้จัก เธอส่งยิ้มหวานให้เขาและพูดด้วยน้ำเสียงสดใส
“สวัสดีค่ะ คุณสารวัตร ถ้าอยากถามอะไร ถามได้เลยนะคะ ถ้าตอบได้ฟ้าใสจะตอบค่ะ”
“นี่คุณจะไม่กลัวหน่อยเหรอครับ คุณกำลังตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีลอบวางระเบิดสถานทูตเลยนะครับ”
เพชรอดที่จะถามออกไปไม่ได้ เพราะเขาไม่เห็นหญิงสาวจะมีทีท่าว่าจะกลัวหรือกังวล แต่ยังสามารถส่งยิ้มหวานและพูดคุยอย่างธรรมดาได้
“ไม่เห็นต้องกลัวเลยค่ะ ฟ้าใสไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมต้องกลัวด้วยค่ะ” ฟ้าใสตอบด้วยรอยยิ้ม
เพชรมองคนที่ตอบคำถามของเขาด้วยความมั่นใจ ก่อนจะเริ่มถามคำถาม
“ถ้างั้นผมเริ่มเลยนะครับ คุณฟ้าใสได้สร้อยเส้นนั้นมาได้ยังไงครับ ผมขออย่างละเอียดนะครับ”
“ซื้อมาจากเพื่อนค่ะ ฟ้าใสไปงานประมูลเครื่องเพชรเพื่อหาของขวัญให้คุณป้าจันทร์ แต่เครื่องเพชรที่ฟ้าใสเล็งไว้ ดันมีคนประมูลตัดหน้าไปก่อน เพื่อนของฟ้าใสเห็นฟ้าใสอยากได้สร้อยเส้นนั้นมาก เขาเลยบอกว่าจะไปคุยกับคนที่ประมูลได้ไป ให้ขายต่อเขาแล้วเขาจะขายต่อให้ฟ้าใสอีกทีค่ะ”
ฟ้าใสเล่าเรื่องราวโดยละเอียดให้เพชรกับผู้การฟัง
“แล้วเพื่อนคุณฟ้าใสนี่ คุณฟ้าใสรู้จักมานานหรือยังครับ” เพชรถาม
“ไม่นานค่ะ รู้จักวันที่ประมูลนั่นแหละค่ะ”
คำตอบของฟ้าใสทำให้เพชรอึ้งกับคนตรงหน้า เขาถึงขั้นถามเธอด้วยน้ำเสียงติดออกจะดุๆ
“รู้จักวันนั้น แล้วคุณกล้าซื้อเครื่องเพชรต่อจากเขาได้ยังไง ไม่กลัวเขาหลอกคุณเหรอ”
ฟ้าใสเอียงคอเล็กน้อยก่อนจะตอบเพชรด้วยน้ำเสียงสงสัย
“ต้องกลัวด้วยเหรอคะ”
แล้วคำตอบของฟ้าใสก็ทำเอาเพชรถึงกับอยากลุกขึ้นไปเขย่าตัวของเธอ ให้ตื่นมาเจอโลกความจริง ไม่ใช่นอนอยู่แค่ในความฝัน
“ต้องกลัวสิคุณ สร้อยเพชรที่คุณซื้อมา ราคาตั้งหลายล้านเลยนะ จะเชื่อใจคนอื่นง่ายๆ ได้ยังไง”
“แต่ถ้าเราต้องคอยระแวงทุกคน มันจะไม่เหนื่อยเหรอคะ”
“ผมก็ไม่ได้บอกให้คุณระแวงทุกคนมั้ย แต่ให้ระแวงแค่คนที่น่าสงสัย”
เพชรพยายามจะอธิบาย แต่คนตรงหน้าก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยสนใจ
“แต่สำหรับฟ้าใส ไม่มีใครน่าระแวงเลยนะคะ”
เพชรได้แต่ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยใจ ผู้หญิงคนนี้ต้องมองโลกในแง่ดีขนาดไหน ถึงได้เชื่อใจคนได้ง่ายขนาดนั้น
“แล้วแต่คุณแล้วกัน แล้วคุณรู้จักชื่อของเพื่อนใหม่ที่คุณซื้อสร้อยมามั้ย อย่าบอกนะว่าไม่รู้”
เพชรมองฟ้าใสอย่างจับผิด เขากลัวว่าคำตอบจะเป็นอย่างที่เขาคิดเหลือเกิน
“รู้ค่ะ”
คำตอบของฟ้าใสทำให้เขารู้สึกใจชื้นขึ้นมาหน่อย
“แต่รู้แค่ว่าชื่อคุณเมฆนะคะ”
เพชรไม่เคยสอบปากคำใครแล้วอยากจะลุกออกไปเท่านี้มาก่อนเลย ทั้ง ๆ ที่หญิงสาวก็ตอบเขาทุกคำถาม แถมยังตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและน้ำเสียงสดใส แต่ทำไมเขาถึงกลับได้รู้สึกหงุดหงิด ขนาดนี้ก็ไม่รู้
“คุณจะบอกว่า คุณซื้อสร้อยราคาตั้งหลายล้าน แต่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อคนขายนี่นะ”
“แล้วเวลาคุณสารวัตร ไปซื้อเสื้อผ้า คุณสารวัตรรู้จักชื่อพนักงานขายหรือเปล่าคะ”
ฟ้าใสถาม ใบหน้าของเธอยังคงมีรอยยิ้มอยู่ ซึ่งต่างจากเพชร ตอนนี้หน้าของเขาแสดงออกถึงความหงุดหงิดอย่างปิดไม่อยู่
“แล้วหนูฟ้าใส มีอะไรพอที่จะระบุตัวตนของคนที่ขายสร้อยเพชรให้หนูได้หรือเปล่า”
ผู้การที่นั่งฟังเงียบๆ มานานถามขึ้น เพราะเห็นว่าสถานการณ์เริ่มจะไม่ดี
“ฟ้าใสมีเบอร์ติดต่อคุณเมฆค่ะ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะใช่เบอร์ของคุณเมฆจริง ๆ หรือเปล่า”
ฟ้าใสยื่นโทรศัพท์ของเธอที่เปิดหน้าจอแสดงเบอร์โทรของเมฆ ให้ผู้การกับเพชรดู
“แต่ถ้าจะให้ชัดเจน ฟ้าใสว่าเราลองไปขอดูกล้องวงจรปิดของร้านอาหารที่ฟ้าใสนัดเจอกับคุณเมฆ ดีหรือเปล่าคะ”
ฟ้าใสเสนอความเห็น ผู้การเองก็พยักหน้าเห็นด้วย ฟ้าใสเลยหันที่มองที่เพชรพร้อมกับยิ้มหวานให้
“ว่ายังไงคะ คุณสารวัตร”
ฟ้าใสเอียงหน้าถามด้วยใบหน้าซื่อ
“ก็ไปสิครับ”
เพชรตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ทีตอนเขาถามไม่เห็นพูดอะไรแบบนี้ แต่พอเป็นท่านผู้การถาม ทำไมเธอถึงตอบได้ดีจัง หรือว่าเธอแค่อยากก่อกวนเขา
เพชรมองหญิงสาวที่ยิ้มหวานให้เขาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกจากห้องไป
ทั้งสามคนขึ้นรถของผู้การเพื่อกลับไปรอดูกล้องวงจรปิด ที่โรงพัก โดยผู้การสั่งให้ตำรวจนายอื่นไปขอภาพกล้องวงจรปิด ที่ร้านอาหารที่ฟ้าใสนัดเจอกับเพื่อนของเธอมา
ตลอดทางที่ขึ้นรถมาเพชรไม่พูดอะไรเลย เพราะเขายังคงหงุดหงิดกับการสอบปากคำฟ้าใสอยู่
“คุณสารวัตรเหมือนจะไม่ค่อยพอใจฟ้าใสเลยนะคะ ฟ้าใสตอบคำถามได้ไม่ดีเหรอคะ”
ฟ้าใสถามขึ้นหลังจากนั่งสังเกตเพชรอยู่นาน
“เปล่าครับ ผมแค่คิดอะไรนิดหน่อย”
เขาตอบโดยที่ไม่มองหน้าฟ้าใส เลยไม่เห็นว่าฟ้าใสกำลังมองเขาด้วยสายตาแบบไหน
“ฟ้าใสก็นึกว่าคุณสารวัตรไม่พอใจฟ้าใส เห็นตั้งแต่ขึ้นรถมาคุณสารวัตรไม่มองหน้าฟ้าใส ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกยังอยากนั่งข้างฟ้าใสอยู่เลย”
เพชรหันไปมองคนพูดทันที นี่เธอกำลังล้อเลียนเขาอยู่เหรอ แต่เขาก็ขี้เกียจทะเลาะกับเธอ เลยถามคำถามที่เขาสงสัยมาตลอด
“ปกติคุณพกเครื่องประดับราคาหลายล้าน ใส่กระเป๋าไปไหนมาไหนแบบนั้นเป็นประจำเหรอ”
“แล้วมันต่างกับใส่นาฬิกาแพง ๆ เดินไปไหนมาไหนตรงไหนเหรอคะ”
ฟ้าใสตอบ เพชรมองคนที่ตอบคำถามเขาด้วยคำถาม ก็เธอเป็นแบบนี้จะไม่ให้เขาหงุดหงิดได้ยังไง ไม่เคยจะตอบคำถามเขาดี ๆ แต่ต้องตอบกลับแบบกวน ๆ
“นี่คุณ จะมีสักครั้งมั้ย ที่คุณตอบคำถามผมดีๆ โดยที่ไม่ถามผมกลับแบบกวนๆ”
“ฟ้าใสไม่ได้กวนนะคะ ฟ้าใสก็แค่ตอบคำถามของสารวัตรในแบบของฟ้าใส”
ฟ้าใสตอบก่อนจะอธิบายเพิ่มเติม
“ปกติฟ้าใสก็ไม่ได้พกของมีค่าอะไรหรอกค่ะ แต่พอดีวันนี้ฟ้าใสมีนัทรับสร้อย แล้วคุณแม่ก็ฝากขนมไปให้ท่างลุงทูตพอดี ฟ้าใสเห็นว่าเป็นทางผ่านก็เลยแวะเอาให้เลย ไม่ได้กลับไปเก็บสร้อยก่อน”
เธอตอบเขาพร้อมยิ้มหวานให้ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
เพชรหันกลับไปตั้งใจมองที่ถนนก่อนจะพูดขึ้นมาลอยๆ ให้ฟ้าใสได้ยิน
“คุณนี่โชคดีจังเลยนะ เอาระเบิดใส่กระเป๋าเดินไปเดินมาแบบนั้น ดีที่มันไม่ระเบิดขึ้นมา”
“ค่ะ ฟ้าใสก็คิดว่าตัวเองโชคดี สงสัยยังไม่ถึงคราวตายของฟ้าใสมั้ง”
ฟ้าใสตอบด้วยน้ำเสียงสบายๆ เพชรหันไปมองที่หญิงสาว ที่ตอบเขาด้วยเสียงเรียบๆ
“นี่คุณไม่กลัวเลยเหรอ”
“กลัว? กลัวอะไรคะ? ความตายเหรอ? มันมีอะไรที่น่ากลัวกัน ยังไงทุกคนเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้วไม่ใช่เหรอคะ”
“คุณพูดเหมือนกับคนปลงในชีวิตเลย ถ้าเกิดตายจริงขึ้นมา คุณไม่มีเรื่องอะไรที่รู้สึกเสียใจที่ยังไม่ได้ทำบางเหรอ”
ฟ้าใสมองสบตากับเพชร ก่อนจะตอบคำถามของเขา
“มีสิคะ ไว้มีโอกาสแล้วฟ้าใสจะบอกคุณสารวัตรนะคะ”
คำตอบของฟ้าใสทำให้เพชรรู้สึกติดอยู่ในใจ เขาอยากรู้ว่าเรื่องอะไรที่ทำให้เธอรู้สึกเสียใจถ้าไม่ได้ทำก่อนตาย และทำไมถึงพูดออกมาตรงๆ ไม่ได้
ตอนที่ 8ชุดคู่เวลาล่วงเลยมาจนบ่าย แต่ฟ้าใสก็ยังไม่กลับมาตามที่เธอบอกไว้ เพชรมองนาฬิกาบนผนังบ้านพักเป็นครั้งที่ห้า ขณะที่มือเขายกแก้วน้ำขึ้นจิบอย่างใจลอย เขาจำได้ว่าเธอบอกว่าจะกลับมาตอนเที่ยง แต่ตอนนี้เลยมาบ่ายโมงกว่าแล้วเธอก็ยังไม่กลับมา สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวเพชรคว้ากุญแจบ้าน ก่อนจะเดินไปที่บ้านของการดาทันที โดยไม่ได้บอกใคร เขาแค่บอกตัวเองว่า จะไปดูเฉย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงยังไม่กลับมาแต่เมื่อเขาเดินเลี้ยวพ้นแนวรั้วไม้ไผ่ เขาก็หยุดเดินทันที...ฟ้าใสนั่งอยู่ตรงลานบ้านของพี่ดา ในชุดผ้ากันเปื้อนที่มอมแมมเล็กน้อย เธอกำลังย่อตัวข้างถังไม้ย้อมผ้า มือขาว ๆ กำลังคนสีครามในถังด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยสมาธิผมของเธอมัดหลวม ๆ เหงื่อเล็กน้อยเกาะตามไรผม และมีรอยยิ้มที่เขาเคยเห็นจนชินตาเพชรเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว กับท่าทางน่ารักของเธอ จนเสียงแซวจากการพี่ดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดังขึ้นข้างหู“มองซะเคลิ้มเลยนะคะคุณเพชร”เพชรสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะรีบหุบยิ้มแล้วปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉย แล้วถามกลับ “ฟ้าใสทำอะไรอยู่ครับพี่ดา”“ย้อมผ้าค่ะ เธอบอกว่าจะทำชุดคู่” การดาหัวเราะเบา ๆ “แต่ไม่ใช่แค่ชุดคู่ธรรมดานะคะ
ตอนที่ 7เช้าที่ไม่เหมือนเดิมเสียงไก่ขันแว่วมาแต่เช้าตรู่ แดดอ่อน ๆ สาดลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องพัก ฟ้าใสลืมตาขึ้นช้า ๆ เธอยังคงนอนอยู่ในผ้าห่มข้าง ๆ เธอมีร่างสูงที่นอนนิ่งเงียบหลับสนิทอยู่ข้าง ๆนี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่เธอกับเขามาพักอยู่ที่นี่ และก็เป็นเกือบอาทิตย์ที่เธอมีเขานอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้แต่สิ่งที่ฟ้าใสไม่คาดคิดคือ... เธอตื่นขึ้นมาในสภาพที่มือของเธอซุกอยู่ในฝ่ามือของเขาอย่างแนบสนิทนี่แสดงว่าเธอกับเขานอนจับมือกันเหรอ ฟ้าใสคิดอย่างเขินๆเธอมองหน้าด้านข้างของเขาที่ดูผ่อนคลายเวลาหลับ... น่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่” ฟ้าใสพูดเบาๆ แล้วค่อย ๆ ดึงมือออกจากมือเขา ก่อนจะลุกจากเตียงไปอาบน้ำกลิ่นข้าวผัดไข่หอม ๆ ลอยมาเมื่อเพชรเดินงัวเงียออกมาจากห้องน้ำ เขาเห็นหญิงสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายสีขาว กำลังยืนผัดข้าวอยู่ในครัวเล็ก ๆ ของบ้านพัก“ทำอะไรน่ะ” เพชรถามเสียงง่วง“ข้าวผัดค่ะ พี่จะกินเลยมั้ยเสร็จแล้วพอดีเลย” ฟ้าใสบอก เธอปิดเตาแล้วตักข้าวผัดใส่จาน“อืม” เพชรตอบก่อนที่เขาจะเดินมารับจานข้าวผัดจากมือของหญิงสาว แล้วไปนั่งกินที่ระเบียงสำหรับชมวิวเช่นทุกวันฟ้าใสเองก็เดินตามอ
ตอนที่ 6คืนแรก “ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว พี่ไปอาบต่อได้เลยค่ะ” ฟ้าใสบอก เธอเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนเพชรมองฟ้าใสที่อยู่ในชุดนอนผ้าฝ้ายสีครีมลายตุ๊กตาหมี มีระบายที่แขน กับกางเกงขาสั้นลายเดียวกัน ที่คอของเธอมีผ้าขนหนูผืนเล็กผาดอยู่ ถ้าเขาไม่รู้ว่าเธออายุเท่ากับน้องสาวของเขา เขาคงคิดว่าเธอเป็นแค่เด็กสาวมอปลาย“อืม” เพชรตอบรับ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำเขาใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินออกมา เพชรมองฟ้าใสที่ยังคงนั่งทาครีมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งยังไม่เสร็จ ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่ด้านข้างของเตียง แล้วมองหญิงสาวผ่ากระจก“ที่นี่มีเตียงเดียว” เพชรพูดขึ้นฟ้าใสมองสบตาเขาผ่านกระจกก่อนที่จะตอบ “ใช่ค่ะ” เธอวางกระปุกครีมลงก่อนจะหันกลับมามองหน้าเพชร“ก็เราเป็นสามรภรรยากัน จะนอนแยกห้องกัน มันไม่แปลกเหรอคะ หรือว่าพี่ไม่อยากนอนเตียงเดียวกันกับฉัน” ฟ้าใสเอียงคอแล้วถามด้วยใบหน้าใสซื่อ“ถ้าพี่ไม่นอนเตียงแล้วพี่จะไปนอนที่ไหน โซฟานั่นก็ไม่น่าจะยาวพอที่พี่จะนอนได้” ฟ้าใสมองไปที่โซฟากลางห้อง “หรือว่าพี่จะนอนที่พื้น แต่ที่นี่กลางคืนจะเย็นมาก ผ้าห่มก็มีแค่ผืนเดียว อีกอย่างยุ่งที่นี่ก็เยอะ
ตอนที่ 5คู่รักฮันนีมูน“จองห้องพักค่ะ”ฟ้าใสยื่นบัตรประชนปลอม ที่ท่านผู้การให้คนทำขึ้นมาให้เธอใช้เพื่อการปิดบังตัวตนในการซ่อนตัว ให้กับเจ้าของบ้านพัก ก่อนที่เธอจะมองบ้านพักที่อยู่ด้านหน้าเธอด้วยความตื่นเต้น“เรียบร้อยแล้วค่ะ นี่ค่ะกุญแจ” เจ้าของที่พักยืนบัตรประชาชนกับกุญแจบ้านพักให้ฟ้าใส“พี่ชื่อการดานะคะ เรียกว่าพี่ดาก็ได้ค่ะ ถ้าคุณฟ้าใสมีเรื่องอะไรบอกพี่ได้เลยนะคะ บ้านพี่อยู่หลังนั้น หรือจะโทรมาบอกพี่ก็ได้ โทรได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ” การดาบอกพร้อมกับชี้ไปที่บ้านของเธอ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล“ได้ค่ะพี่ดา” ฟ้าใสบอก เธอส่งยิ้มให้การดา ก่อนจะหันไปบอกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ“เราเข้าบ้านกันเถอะค่ะพี่” ฟ้าใสบอก ก่อนที่เธอจะเดินนำหน้าชายหนุ่มเข้าไปในบ้านชายหนุ่มเองก็ยิ้มให้กับการดาก่อนจะถือกระเป๋า แล้วเดินตามหญิงสาวเข้าไป“สวยหล่อสมกันจริงๆ ดูท่าจะรักกันมาก สงสัยจะยังข้าวใหม่ปลามัน” การดาเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากทั้งสองเดินหายเข้าไปในบ้านแล้วหลังจากที่เธอดูลูกค้าของเธอเข้าไปในบ้านได้สักพัก เธอเองก็เดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อเดินกลับบ้านของเธอ เพราะไม่อยากจะอยู่รบกวนคู่แต่งงานใหม
ตอนที่ 4ยืนยันเป้าหมาย“เมฆ เหรอ เธอแน่ใจนะ”สิงห์ถามย้ำอีกครั้ง เมฆาหรือเมฆที่พวกเขาพูดถึงคือพี่ชายฝาแฝดของน่านฟ้า แต่เมฆไม่ได้อยู่กับน่านฟ้า ทั้งสองคนถูกจับแยกกันตั้งแต่เด็ก เมฆาอยู่กับพ่อ น่านฟ้าอยู่กับแม่“แน่ใจสิ ถึงฉันจะเคยเจอหมอนั่นตัวเป็นๆ แค่สองครั้ง แต่ฉันจำแววตาหมอนั่นได้ ฉันมั่นใจ”พลอยสวยตอบอย่างมั่นใจ ฟ้าใสเองก็พยักหน้ายืนยัน“นายจำได้มั้ย ฉันเคยบอกว่าพวกนายสองคนมีแววตาเหมือนกันมาก”พลอยสวยหันไปบอกน่านฟ้า แต่น่านฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ“ไม่อ่ะ ฉันจำไม่ได้ว่าเธอเคยพูดแบบนั้น”“จำไม่ก็ช่างนายสิ แต่ฉันจำได้แม่นเลย ฉันคิดอยู่ตั้งนานว่าฉันเคยเห็นหน้าหมอนั่นที่ไหน ที่แท้ก็เคยเห็นจากบ้านนาย”ฟ้าใสมองหน้าของพลอยสวยที่ทะเลาะกับน่านฟ้าสลับไปมา“ตอนแรกที่ฉันเห็นหน้านาย ฉันตกใจมากนึกว่านายจะมาฆ่าฉัน เพราะแววตาของนายเหมือนกับคนที่อยู่บนรถมาก แต่พอลองมาคิดดูอีกที นายไม่น่าจะเลวถึงขั้นทำเรื่องแบบนั้นได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะทำเรื่องนี้เลยมีแค่หมอนั่นคนเดียว”ตอนนี้สีหน้าของน่านฟ้ามีความสับสนและงง คนพวกนี้พูดเรื่องอะไรกัน“เดี๋ยวก่อนที่จะพูดถึงไอ้เวรนั่น ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยว่านี่มันเร
ตอนที่ 3พยานคนใหม่สถานีตำรวจทันทีที่มาถึงสถานีตำรวจ ฟ้าใสก็ถูกพาเข้ามาภายในห้องเพื่อตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดร่วมกับสารวัตรเพชรและผู้การ“ฟ้าใสไปถึงที่ร้านประมาณ เที่ยงค่ะ เพราะฟ้ากับคุณเมฆนัดทานอาหารเที่ยงกันด้วยค่ะ”ฟ้าใสบอก เพชรจึงเลื่อนเวลาของกล้องไปในช่วงเวลาดังกล่าว“นั่นรถของฟ้าใสค่ะ”หญิงสาวชี้ไปที่รถของเธอ ที่กำลังเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของที่ร้าน“ตอนที่ฟ้าใสไปถึงที่ร้าน คุณเมฆก็มาถึงแล้ว คุณเมฆบอกว่ามาถึงก่อนฟ้าใสไม่นานก็น่าจะไม่เกิน สิบนาที”ฟ้าใสบอกพร้อมกับนึกถึงบทสนทนาในวันนี่ตอนที่เจอกับเมฆ“คุณสารวัตรเลื่อนไปดูที่ประตูทางเข้าเลยก็ได้ค่ะ เริ่มจากที่ฟ้าใส่เดินเข้าร้าน แล้วค่อยเล่นภาพย้อนกลับไป น่าจะเห็นช่วงที่คุณเมฆเดินเข้าร้านพอดี”เพชรเหลือบมองหญิงสาวที่เสนอความเห็นอย่างคล่องแคล่ว นี่มันต่างจากคุณหนูใสซื่อที่ตอบคำถามเขาลิบลับแต่เพชรก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเปลี่ยนภาพเป็นภาพวงจรตามที่หญิงสาวบอก ก่อนจะเล่นภาพย้อนกลับอย่างช้าๆ เพื่อที่จะไม่ได้พลาดเป้าหมายฟ้าใสมองภาพในกล้องที่วงจรปิดอย่างตั้งใจ ก่อนที่เธอจะบอกเสียงดังให้เพชรหยุดภาพเมื่อเธอเจอคนที่เธอตามหาแล้ว“หยุดค่ะ ผู้ช