ตอนที่ 1
ตี๊ ตี๊ ตี๊ เสียงเตือนระเบิด
“น้าฉัตรส่งฟ้าใส่ข้างหน้าก็ได้ค่ะ เดี๋ยวฟ้าใสส่งขนมเสร็จแล้วจะโทรบอกให้น้าฉัตรมารับ”
เสียงหวานของฟ้าใสบอกกับฉัตร คนขับรถส่วนตัวของเธอ
“ได้ครับคุณหนู ผมจะไปวนรถรอ ถ้าเสร็จแล้วเดินออกมารอผมตรงนี้นะครับ อย่าไปไหน”
ฉัตรตอบรับ ก่อนจะกำชับไม่ให้หญิงสาวเดินไปไหนคนเดียว เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย
“ค่ะ”
ฟ้าใสรับคำ ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถหรู เธอเดินตรงไปที่ทางเข้าหน้าสถานทูตเยอรมนีประจำประเทศไทย ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้กับเจ้าหน้าที่ประจำประตูทางเข้าที่คุ้นหน้ากันดี
“สวัสดีครับคุณฟ้าใส วันนี้ก็เอาขนมมาส่งท่านทูตอีกแล้วเหรอครับ”
เจ้าหน้าที่ประจำประตูทางเข้า ทักทายหญิงสาวที่มีรอยยิ้มสดใส แค่เห็นเธอยิ้มคนรอบข้างก็พลอยจะต้องยิ้มตามเธอ
“ค่ะ วันนี้คุณแม่ทำขนมหยกมณีค่ะ อาวัตรเอาไปชิมสิคะ”
ฟ้าใสบอกพร้อมกับยื่นขนมหยกมณีให้กับวัตร เจ้าหน้าที่ประจำประตู
วัตรเองก็รับมาด้วยรอยยิ้ม เป็นลาภปากของเขาจริง ๆ ความจริงแค่เห็นหญิงสาวเดินมาเข้าก็รู้แล้ว ว่าวันนี้เขาต้องได้กินขนมอร่อย ๆ
“ขอบคุณมากครับ ขนมของคุณหญิงมณีจันทร์ อร่อยที่สุดเลยครับ”
“ฟ้าใสจะบอกคุณแม่ให้นะคะ”
ฟ้าใสพูด ก่อนที่เธอจะทำกฎของการเข้าสถานทูต นั่นก็คือตรวจกระเป๋า และสแกนร่างกาย พลอยสวยวางกระเป๋าและถอดเครื่องประดับใส่ในตะกร้า ก่อนที่ตัวเธอจะเดินผ่านเครื่องสแกนเข้าไปรอรับของข้างใน
แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังตรวจและสแกนกระเป๋าของเธอ เครื่องสแกนก็ส่งเสียงร้องดัง เจ้าหน้าที่เงยหน้ามองเธอด้วยความตกใจ เพราะไม่เคยเกิดเหตการณ์แบบนี้มาก่อน
ฟ้าใสคือลูกสาวคนเดียวของ ท่านองศาเอกอัครราชทูตประเทศไทยประจำกรุงเบอร์ลิน เพราะฉะนั้นกฎการเข้าสถานทูตเธอย่อมรู้ดี และที่ผ่านมาเธอไม่เคยทำผิดกฎ หรือมีปัญหาแม้แต่ครั้งเดียว
“เอ่อ...ฟ้าใสลืมบอกค่ะ ข้างในกระเป๋ามีกล่องเครื่องประดับที่ฟ้าใสจะเอาไปเป็นของขวัญ ให้กับคุณป้าจันทร์ฉายอยู่ มันน่าจะดังมาจากอันนั้น”
ฟ้าใสชี้ไปที่กระเป๋าของเธอ ก่อนจะบอกให้เจ้าหน้าที่ดูที่ข้างใน
“ข้างในกระเป๋า มีกล่องสีน้ำเงินกล่องอยู่กล่องหนึ่งนะคะ”
เจ้าหน้าที่หยิบกล่องสีน้ำเงินที่พลอยสวยบอกออกมา แล้วเปิดมันออก ก่อนจะมองอย่างตกตะลึง นี่มันไม่ใช่เครื่องประดับธรรมดา แต่เป็นสร้อยเพชรที่ดูก็รู้ว่ามันมีมูลค่าหลายล้านหรืออาจจะหลายสิบล้านเลยก็ได้
“เออ...นี่มัน...”
เจ้าหน้าที่พูดอ้ำอึ้ง เพราะตามหน้าที่เขาต้องตรวจสอบของทุกอย่างที่ต้องสงสัย แต่กับเครื่องเพชรสุดหรูกล้องนี้ เขาไม่กล้าแม้แต่ที่จะจับมันขึ้นมา เพราะเกรงว่าจะทำมันเสียหาย
“ไม่เป็นไรค่ะ ตรวจสอบได้เลยค่ะ พอดีฟ้าใสพึ่งได้รับเครื่องประดับชุดนั้นมาจากเพื่อนค่ะ แต่ยังไม่ทันได้เอาไปเก็บเพราะกลัวว่าขนมจะเสีย เลยเอาติดมือมาด้วยค่ะ”
ฟ้าใสบอกพร้อมรอยยิ้ม แต่คนที่ต้องตรวจสอบนี้สิยิ้มไม่ออก ถ้าเกิดว่าเขาทำเพชรหลุดออกไปแม้แต่เม็ดหนึ่ง เข้าคงได้ติดหนี้หัวโต ต่อให้ขายอวัยวะทั้งร่างก็คงชดใช้ไม่หมด
“เออ...คุณฟ้าใสเอาเข้าไปเลยก็ได้นะครับ กล่องเล็กแค่นี้ไม่น่าจะมีอะไร”
เจ้าหน้าที่บอกก่อนจะปิดกล่อง แต่ขณะเจ้าหน้าที่กำลังจะปิดกล่อง ฟ้าใสก็สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง
“เดี๋ยวค่ะ”
ฟ้าใสบอก ก่อนจะเดินย้อนกลับออกมาจากทางที่เดินเข้าไป เธอเอื้อมมือไปหยิบกล่องเครื่องประดับจากมือของพนักงาน ก่อนจะมองสำรวจกล่องอย่างละเอียดอีกครั้ง
“มะ...มีอะไร หรือเปล่าครับ”
เจ้าหน้าที่ถามด้วยสีหน้าวิตกกังวล เพราะเกรงว่าเขาทำอะไรให้เครื่องประดับแสนแพงนั่นเสียหายหรือเปล่า
แต่ฟ้าใสก็ไม่ได้ตอบ เธอทำเพียงจ้องมองไปที่เครื่องประดับนั้นด้วยสายตาจริงจัง ก่อนจะเปิดมันออก และค่อยๆ แงะฐานรองเครื่องประดับออก แล้วเธอก็พบกับวัตถุต้องสงสัยบางอย่าง ที่มีสายไฟพันยุ่งเหยิงไปหมด
“ดูเหมือน...ข้างล่างกล่องจะมีระเบิดซ่อนอยู่จริง ๆ ด้วยค่ะ”
ฟ้าใสบอกพร้อมกับยิ้มออกมา ทั้ง ๆ ที่เรื่องที่เธอพูดมันไม่น่ายิ้มได้เลย
ห้องทำงานในสถานีตำรวจ
“เลิกบ่นได้แล้ว ฉันเองก็อยากจับมันเหมือนกัน แต่มันยังจับไม่ได้”
เพชรกรอกเสียงผ่านโทรศัพท์อย่างหงุดหงิด ใส่คนที่โทรมาหาเขา
“แล้วทำไมถึงยังจับไม่ได้ นายไม่ทำงานมากกว่า ฉันจะร้องเรียนนาย ว่านายทำงานไม่คุ้มกับภาษีประชาชน”
คนปลายสายยังโวยวายไม่หยุด เพชรได้แต่ส่ายหน้าให้กับมือถือ
“เป็นบ้าอะไรพลอยสวย อยากโดนข้อหาใส่ร้ายเจ้าพนักงานปะ จะได้เปลี่ยนสถานะจากพยาน เป็นผู้ต้องหาแทน”
เพชรพูดขู่ แต่เขาไม่ได้คิดจะทำจริงๆ
“ไอ้บ้า! ฉันเป็นน้องนายนะ นายกล้ายัดข้อหาให้ฉันเหรอ ฉันจะฟ้องลุงผู้การ”
เพชรได้แต่ถอนหายใจ มาแล้วการ์ดขู่ พอไม่ได้อะไรดังใจก็ได้แต่ขู่จะฟ้องคนนู้นคนนี้
“เลิกขู่เป็นหมาได้แล้ว ฉันไม่กลัวเธอหรอก เก็บเอาไว้ขู่ไอ้สิงห์เถอะ เพราะมันเป็นคนเดียวที่กลัวเธอ”
เพชรสวนกลับไป ทำเอาคนปลายสายถึงกับเงียบ
“แค่นี้นะ ฉันจะทำงานต่อแล้วเดี๋ยวมีคนหาว่าฉันนั่งกินนอนกินภาษีอีก”
พูดจบเพชรก็ตัดสายของคนที่โทรมาทันที ไม่รอให้ปลายสายได้ตอบรับหรือปฏิเสธ
เพชรโยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะทำงานไม่เบาหนัก จนตำรวจที่อยู่ในห้องต่างหันมามองเขาด้วยท่าทีเกรงๆ
“พลอยสวยโทรมาโวยวายอีกแล้วเหรอ สารวัตร”
หมวดพล นายตำรวจรุ่นพี่ถามขึ้น เขามองนายตำรวจรุ่นน้องแต่ยศใหญ่กว่าเขาอย่างเอ็นดู
เพชรหรือสารวัตรเพชร นายตำรวจหนุ่มหน้าหวาน แต่รูปร่างกับฝีมือการทำงานไม่ได้หวานเหมือนหน้าตา แถมฝีปากยังจัดไม่แพ้ใคร
ในตอนแรกที่เพชรเข้ามาทำงาน หมวดพลยังแอบคิดว่าเขาคงจะเหมือนลูกหลานของนายตำรวจคนอื่นๆ ที่อาศัยบารมีพ่อแม่ในการเป็นใหญ่เป็นโต แต่พอได้ร่วมงานกันจริงๆ เขาถึงรู้ว่าเขาคิดผิด เพราะนายตำรวจหนุ่มคนนี้นอกจากจะฝีมือดี ยังเป็นตำรวจที่ตรงไปตรงมา เรียกได้ว่าเป็นตำรวจที่ดีมากๆ คนหนึ่ง
“ใช่ครับหมวด นี่ขนาดโทรศัพท์ของตัวเองโดนยึดนะ ยังเอาโทรศัพท์ของไอ้สิงห์โทรมาด่าผมได้ทุกวัน ผมเองยังแอบสงสัยอยู่เลย ว่าเราจะยึดโทรศัพท์พลอยสวยไปทำไม”
คำพูดของเพชร เรียกรอยยิ้มของตำรวจรุ่นพี่ที่อยู่ในห้องได้เป็นอย่างดี แต่เพชรกลับถอนหายใจออกมาอย่างหมดแรง
พลอยสวยที่พวกเขาพูดถึง คือน้องสาวแท้ๆ ของสารวัตรเพชร แต่เพราะความอยากรู้อยากเห็นของเธอ เธอเลยบังเอิญไปเห็นการพูดคุยเกี่ยวกับการรอบวางระเบิดเข้า เลยทำให้ต้องถูกคุ้มครองไว้เป็นพยาน และสถานที่ที่เธอถูกส่งไปคุ้มครองคือ “ไร่สิงห์ศิรา” เจ้าของไร่นี้เป็นลูกชายของท่านผู้การ และยังเป็นแฟนเก่าของพลอยสวย ซึ่งคือเจ้าของโทรศัพท์ที่พลอยสวยใช้โทรมาด่าเขาด้วย***
“เอาน่า สารวัตร พลอยสวยคงจะเบื่อแหละ คนเคยมีอิสระ แต่ต้องถูกกักตัวแบบนี้”
จ่าชิดพูดขึ้น เพชรเองก็พอจะเข้าใจว่าพลอยสวยคงรู้สึกอึดอัด แต่จะทำไงได้เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ยัยนั่นคงได้แต่ต้องทน
แต่ระหว่างที่เพชรกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ประตูห้องทำงานพวกเขาก็ถูกเปิดออก ก่อนที่นายตำรวจหนุ่มที่เปิดประตูเข้ามา จะพูดด้วยสีหน้าเครียด
“สารวัตรเพชรครับ ท่านผู้การเรียกพบด่วนครับ”
หลังจากที่นายตำรวจหนุ่มคนนั้นมาตาม เพชรก็รีบไปพบกับท่านผู้การทันที
“ท่านผู้การครับ”
เพชรเรียกท่านผู้การ พร้อมกับทำความเคารพแบบตำรวจ แต่ท่านผู้การยกมือส่งสัญญาณให้เขาเงียบ เพราะท่านกำลังคุยโทรศัพท์
“ฉันรู้แล้ว ลูกสาวนายไม่มีทางทำแบบนั้น แต่เรื่องนี้ก็ต้องทำไปตามกระบวนการ”
เพชรสังเกตสีหน้าที่ตึงเครียดของผู้การ คนที่โทรมาต้องมีความสำคัญกับท่านผู้การพอสมควร ถึงทำให้ท่านมีสีหน้าแบบนั้นได้
“ได้นายไม่ต้องห่วง ฉันจะจัดการเรื่องนี้เอง เดิมทีก็เป็นคดีที่ฉันรับผิดชอบอยู่แล้วด้วย ไว้มีความคืบหน้าอะไร ฉันจะรีบบอกนาย แค่นี้ก่อนนะ ฉันต้องไปแล้ว”
ผู้การวางสายโทรศัพท์แล้วหันมามองทางเพชร ก่อนจะถอนหายใจออกมา
“ทางสถานทูตแจ้งมาว่า มีคนนำสร้อยเพชรที่คาดว่าจะมีระเบิดเข้าไปในสถานทูต”
เพชรมีสีหน้าตกใจกับข่าวที่ได้ยิน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ถามอะไร ผู้การก็พูดขึ้นก่อน
“ค่อยไปคุยต่อที่รถ เราต้องไปที่สถานทูตเดี๋ยวนี้”
พูดจบผู้การก็เปิดประตูห้องแล้วเดินออกไปทันที เพชรรีบวิ่งกลับไปเก็บของก่อนจะตามไปสมทบที่หน้าสถานีตำรวจ ที่รถของผู้การจอดรออยู่ ทันทีที่ขึ้นมาบนรถผู้การก็เริ่มเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพชรฟัง
“วันนี้ที่สถานทูต มีวัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นระเบิด โดยวัตถุนั้นถูกแอบวางที่ใต้ฐานของกล่องสร้อยเพชร”
“ใช่อันเดียวกับที่เราตามหาหรือเปล่าครับ”
เพชรถาม เพราะตามที่พลอยสวยบอกระเบิดนั้นถูกซ่อนไว้ที่สร้อยเพชร
“ยังยืนยันไม่ได้ ฉันกับนายต้องเป็นคนไปสอบปากคำเอง เพราะเรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน และถูกปิดเป็นความลับ”
เพชรเข้าใจ เพราะการนำวัตถุระเบิดเข้าไปสถานทูตถือเป็นเรื่องร้ายแรง จนอาจจะส่งผลถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเลยก็ได้
“แล้วตอนนี้คนคนนั้นอยู่ที่ไหนเหรอครับ”
“ทางสถานทูตคุมตัวไว้”
ผู้การตอบ ก่อนจะหลับตาลง ดูเหมือนท่านจะกังวลกับเหตุการณ์ครั้งนี้มาก หรือจะเป็นเพราะโทรศัพท์สายนั้น เพชรเองก็ไม่ได้ถามอะไรท่านต่อ เขาทำเพียงแค่นั่งมองไปถนนอย่างใช้ความคิด
ไม่นานรถที่ทั้งสองนั่งมาก็มาถึงสถานทูต เพชรกับผู้การเดินตามชายที่มานำทางไปยังห้องที่กักตัวคนก่อเหตุเอาไว้
เพชรรอบสังเกตการณ์รักษาความปลอดภัยของสถานทูตอย่างสงสัย ทั้ง ๆ ที่คนก่อเหตุเป็นถึงมือวางระเบิด แต่ทำไมการรักษาความปลอดภัยถึงดูหละหลวมหนัก นี่ไม่ประมาณเกินไปหน่อยเหรอ
แต่ยังไม่ทันที่เพชรจะได้ถามอะไร ชายคนนั้นก็พาเขามาหยุดอยู่ที่หน้าห้องห้องหนึ่ง เขาเคาะประตูเบาๆ แล้วก็ประตูก็เปิดออก เพชรมองสภาพของห้องที่กุมตัวมือระเบิดเอาไว้ นี่มันห้องคุมที่ไหน มันห้องจิบน้ำชาที่เขาเคยเห็นตามละครชัดๆ
“ลุงผู้การค่ะ”
แต่ก่อนที่เขาจะได้สำรวจห้องไปมากกว่านี้ ก็มีเสียงหวานของผู้หญิงดังขึ้น เขาเลยหันไปตามเสียงนั้น ก่อนจะพบหญิงสาวหน้าตาสวยหวานกำลังยืนส่งยิ้มมาทางเขา
เพชรมองหญิงสาวตรงหน้าตาค้าง นี่เขามาสอบสวนคนร้ายมือวางระเบิดไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงได้มีหญิงสาวอยู่ที่นี่ได้ หรือว่าความจริงเขาถูกหลอกให้มาดูตัวอย่างที่พ่อแม่เขาชอบทำกันแน่
*** อ่านเรื่องราวของ พลอยสวยและสิงห์ได้ที่เรื่อง “รักในกรงสิงห์” บอกเลย NC ฉ่ำๆ
ตอนที่ 8ชุดคู่เวลาล่วงเลยมาจนบ่าย แต่ฟ้าใสก็ยังไม่กลับมาตามที่เธอบอกไว้ เพชรมองนาฬิกาบนผนังบ้านพักเป็นครั้งที่ห้า ขณะที่มือเขายกแก้วน้ำขึ้นจิบอย่างใจลอย เขาจำได้ว่าเธอบอกว่าจะกลับมาตอนเที่ยง แต่ตอนนี้เลยมาบ่ายโมงกว่าแล้วเธอก็ยังไม่กลับมา สุดท้ายเขาก็ทนไม่ไหวเพชรคว้ากุญแจบ้าน ก่อนจะเดินไปที่บ้านของการดาทันที โดยไม่ได้บอกใคร เขาแค่บอกตัวเองว่า จะไปดูเฉย ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงยังไม่กลับมาแต่เมื่อเขาเดินเลี้ยวพ้นแนวรั้วไม้ไผ่ เขาก็หยุดเดินทันที...ฟ้าใสนั่งอยู่ตรงลานบ้านของพี่ดา ในชุดผ้ากันเปื้อนที่มอมแมมเล็กน้อย เธอกำลังย่อตัวข้างถังไม้ย้อมผ้า มือขาว ๆ กำลังคนสีครามในถังด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยสมาธิผมของเธอมัดหลวม ๆ เหงื่อเล็กน้อยเกาะตามไรผม และมีรอยยิ้มที่เขาเคยเห็นจนชินตาเพชรเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว กับท่าทางน่ารักของเธอ จนเสียงแซวจากการพี่ดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ดังขึ้นข้างหู“มองซะเคลิ้มเลยนะคะคุณเพชร”เพชรสะดุ้งน้อย ๆ ก่อนจะรีบหุบยิ้มแล้วปรับสีหน้าเป็นนิ่งเฉย แล้วถามกลับ “ฟ้าใสทำอะไรอยู่ครับพี่ดา”“ย้อมผ้าค่ะ เธอบอกว่าจะทำชุดคู่” การดาหัวเราะเบา ๆ “แต่ไม่ใช่แค่ชุดคู่ธรรมดานะคะ
ตอนที่ 7เช้าที่ไม่เหมือนเดิมเสียงไก่ขันแว่วมาแต่เช้าตรู่ แดดอ่อน ๆ สาดลอดผ้าม่านเข้ามาในห้องพัก ฟ้าใสลืมตาขึ้นช้า ๆ เธอยังคงนอนอยู่ในผ้าห่มข้าง ๆ เธอมีร่างสูงที่นอนนิ่งเงียบหลับสนิทอยู่ข้าง ๆนี่ก็ผ่านมาเกือบอาทิตย์แล้วที่เธอกับเขามาพักอยู่ที่นี่ และก็เป็นเกือบอาทิตย์ที่เธอมีเขานอนอยู่ข้าง ๆ แบบนี้แต่สิ่งที่ฟ้าใสไม่คาดคิดคือ... เธอตื่นขึ้นมาในสภาพที่มือของเธอซุกอยู่ในฝ่ามือของเขาอย่างแนบสนิทนี่แสดงว่าเธอกับเขานอนจับมือกันเหรอ ฟ้าใสคิดอย่างเขินๆเธอมองหน้าด้านข้างของเขาที่ดูผ่อนคลายเวลาหลับ... น่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลยแฮะ“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่” ฟ้าใสพูดเบาๆ แล้วค่อย ๆ ดึงมือออกจากมือเขา ก่อนจะลุกจากเตียงไปอาบน้ำกลิ่นข้าวผัดไข่หอม ๆ ลอยมาเมื่อเพชรเดินงัวเงียออกมาจากห้องน้ำ เขาเห็นหญิงสาวในชุดเดรสผ้าฝ้ายสีขาว กำลังยืนผัดข้าวอยู่ในครัวเล็ก ๆ ของบ้านพัก“ทำอะไรน่ะ” เพชรถามเสียงง่วง“ข้าวผัดค่ะ พี่จะกินเลยมั้ยเสร็จแล้วพอดีเลย” ฟ้าใสบอก เธอปิดเตาแล้วตักข้าวผัดใส่จาน“อืม” เพชรตอบก่อนที่เขาจะเดินมารับจานข้าวผัดจากมือของหญิงสาว แล้วไปนั่งกินที่ระเบียงสำหรับชมวิวเช่นทุกวันฟ้าใสเองก็เดินตามอ
ตอนที่ 6คืนแรก “ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว พี่ไปอาบต่อได้เลยค่ะ” ฟ้าใสบอก เธอเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยชุดนอนเพชรมองฟ้าใสที่อยู่ในชุดนอนผ้าฝ้ายสีครีมลายตุ๊กตาหมี มีระบายที่แขน กับกางเกงขาสั้นลายเดียวกัน ที่คอของเธอมีผ้าขนหนูผืนเล็กผาดอยู่ ถ้าเขาไม่รู้ว่าเธออายุเท่ากับน้องสาวของเขา เขาคงคิดว่าเธอเป็นแค่เด็กสาวมอปลาย“อืม” เพชรตอบรับ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำเขาใช้เวลาอาบน้ำไม่นานก็เดินออกมา เพชรมองฟ้าใสที่ยังคงนั่งทาครีมอยู่ที่โต๊ะเครื่องแป้งยังไม่เสร็จ ก่อนที่เขาจะเดินไปนั่งที่ด้านข้างของเตียง แล้วมองหญิงสาวผ่ากระจก“ที่นี่มีเตียงเดียว” เพชรพูดขึ้นฟ้าใสมองสบตาเขาผ่านกระจกก่อนที่จะตอบ “ใช่ค่ะ” เธอวางกระปุกครีมลงก่อนจะหันกลับมามองหน้าเพชร“ก็เราเป็นสามรภรรยากัน จะนอนแยกห้องกัน มันไม่แปลกเหรอคะ หรือว่าพี่ไม่อยากนอนเตียงเดียวกันกับฉัน” ฟ้าใสเอียงคอแล้วถามด้วยใบหน้าใสซื่อ“ถ้าพี่ไม่นอนเตียงแล้วพี่จะไปนอนที่ไหน โซฟานั่นก็ไม่น่าจะยาวพอที่พี่จะนอนได้” ฟ้าใสมองไปที่โซฟากลางห้อง “หรือว่าพี่จะนอนที่พื้น แต่ที่นี่กลางคืนจะเย็นมาก ผ้าห่มก็มีแค่ผืนเดียว อีกอย่างยุ่งที่นี่ก็เยอะ
ตอนที่ 5คู่รักฮันนีมูน“จองห้องพักค่ะ”ฟ้าใสยื่นบัตรประชนปลอม ที่ท่านผู้การให้คนทำขึ้นมาให้เธอใช้เพื่อการปิดบังตัวตนในการซ่อนตัว ให้กับเจ้าของบ้านพัก ก่อนที่เธอจะมองบ้านพักที่อยู่ด้านหน้าเธอด้วยความตื่นเต้น“เรียบร้อยแล้วค่ะ นี่ค่ะกุญแจ” เจ้าของที่พักยืนบัตรประชาชนกับกุญแจบ้านพักให้ฟ้าใส“พี่ชื่อการดานะคะ เรียกว่าพี่ดาก็ได้ค่ะ ถ้าคุณฟ้าใสมีเรื่องอะไรบอกพี่ได้เลยนะคะ บ้านพี่อยู่หลังนั้น หรือจะโทรมาบอกพี่ก็ได้ โทรได้ยี่สิบสี่ชั่วโมงเลยค่ะ ไม่ต้องเกรงใจ” การดาบอกพร้อมกับชี้ไปที่บ้านของเธอ ที่อยู่ห่างไปไม่ไกล“ได้ค่ะพี่ดา” ฟ้าใสบอก เธอส่งยิ้มให้การดา ก่อนจะหันไปบอกชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ“เราเข้าบ้านกันเถอะค่ะพี่” ฟ้าใสบอก ก่อนที่เธอจะเดินนำหน้าชายหนุ่มเข้าไปในบ้านชายหนุ่มเองก็ยิ้มให้กับการดาก่อนจะถือกระเป๋า แล้วเดินตามหญิงสาวเข้าไป“สวยหล่อสมกันจริงๆ ดูท่าจะรักกันมาก สงสัยจะยังข้าวใหม่ปลามัน” การดาเอ่ยขึ้นเบาๆ หลังจากทั้งสองเดินหายเข้าไปในบ้านแล้วหลังจากที่เธอดูลูกค้าของเธอเข้าไปในบ้านได้สักพัก เธอเองก็เดินออกมาจากตรงนั้นเพื่อเดินกลับบ้านของเธอ เพราะไม่อยากจะอยู่รบกวนคู่แต่งงานใหม
ตอนที่ 4ยืนยันเป้าหมาย“เมฆ เหรอ เธอแน่ใจนะ”สิงห์ถามย้ำอีกครั้ง เมฆาหรือเมฆที่พวกเขาพูดถึงคือพี่ชายฝาแฝดของน่านฟ้า แต่เมฆไม่ได้อยู่กับน่านฟ้า ทั้งสองคนถูกจับแยกกันตั้งแต่เด็ก เมฆาอยู่กับพ่อ น่านฟ้าอยู่กับแม่“แน่ใจสิ ถึงฉันจะเคยเจอหมอนั่นตัวเป็นๆ แค่สองครั้ง แต่ฉันจำแววตาหมอนั่นได้ ฉันมั่นใจ”พลอยสวยตอบอย่างมั่นใจ ฟ้าใสเองก็พยักหน้ายืนยัน“นายจำได้มั้ย ฉันเคยบอกว่าพวกนายสองคนมีแววตาเหมือนกันมาก”พลอยสวยหันไปบอกน่านฟ้า แต่น่านฟ้าส่ายหน้าปฏิเสธ“ไม่อ่ะ ฉันจำไม่ได้ว่าเธอเคยพูดแบบนั้น”“จำไม่ก็ช่างนายสิ แต่ฉันจำได้แม่นเลย ฉันคิดอยู่ตั้งนานว่าฉันเคยเห็นหน้าหมอนั่นที่ไหน ที่แท้ก็เคยเห็นจากบ้านนาย”ฟ้าใสมองหน้าของพลอยสวยที่ทะเลาะกับน่านฟ้าสลับไปมา“ตอนแรกที่ฉันเห็นหน้านาย ฉันตกใจมากนึกว่านายจะมาฆ่าฉัน เพราะแววตาของนายเหมือนกับคนที่อยู่บนรถมาก แต่พอลองมาคิดดูอีกที นายไม่น่าจะเลวถึงขั้นทำเรื่องแบบนั้นได้ เพราะฉะนั้นคนที่จะทำเรื่องนี้เลยมีแค่หมอนั่นคนเดียว”ตอนนี้สีหน้าของน่านฟ้ามีความสับสนและงง คนพวกนี้พูดเรื่องอะไรกัน“เดี๋ยวก่อนที่จะพูดถึงไอ้เวรนั่น ใครก็ได้ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยว่านี่มันเร
ตอนที่ 3พยานคนใหม่สถานีตำรวจทันทีที่มาถึงสถานีตำรวจ ฟ้าใสก็ถูกพาเข้ามาภายในห้องเพื่อตรวจดูภาพจากกล้องวงจรปิดร่วมกับสารวัตรเพชรและผู้การ“ฟ้าใสไปถึงที่ร้านประมาณ เที่ยงค่ะ เพราะฟ้ากับคุณเมฆนัดทานอาหารเที่ยงกันด้วยค่ะ”ฟ้าใสบอก เพชรจึงเลื่อนเวลาของกล้องไปในช่วงเวลาดังกล่าว“นั่นรถของฟ้าใสค่ะ”หญิงสาวชี้ไปที่รถของเธอ ที่กำลังเลี้ยวเข้ามาจอดในลานจอดรถของที่ร้าน“ตอนที่ฟ้าใสไปถึงที่ร้าน คุณเมฆก็มาถึงแล้ว คุณเมฆบอกว่ามาถึงก่อนฟ้าใสไม่นานก็น่าจะไม่เกิน สิบนาที”ฟ้าใสบอกพร้อมกับนึกถึงบทสนทนาในวันนี่ตอนที่เจอกับเมฆ“คุณสารวัตรเลื่อนไปดูที่ประตูทางเข้าเลยก็ได้ค่ะ เริ่มจากที่ฟ้าใส่เดินเข้าร้าน แล้วค่อยเล่นภาพย้อนกลับไป น่าจะเห็นช่วงที่คุณเมฆเดินเข้าร้านพอดี”เพชรเหลือบมองหญิงสาวที่เสนอความเห็นอย่างคล่องแคล่ว นี่มันต่างจากคุณหนูใสซื่อที่ตอบคำถามเขาลิบลับแต่เพชรก็ไม่ได้พูดอะไร เขาเปลี่ยนภาพเป็นภาพวงจรตามที่หญิงสาวบอก ก่อนจะเล่นภาพย้อนกลับอย่างช้าๆ เพื่อที่จะไม่ได้พลาดเป้าหมายฟ้าใสมองภาพในกล้องที่วงจรปิดอย่างตั้งใจ ก่อนที่เธอจะบอกเสียงดังให้เพชรหยุดภาพเมื่อเธอเจอคนที่เธอตามหาแล้ว“หยุดค่ะ ผู้ช