เข้าสู่ระบบ“ข้า เอ่อ... เคยเฝ้ามองคันฉ่องวิเศษในเทวโลก หญิงสาวบนโลกมนุษย์... ถอดรองเท้าให้สามี”
“เจ้าไม่ใช่มนุษย์”
สามีรู้ใจนางอีกด้วยว่านางคงตระหนักถึงความต่ำต้อยของตน เมื่อถูกเหยียดหยามศักดิ์ศรี สายตาดูแคลนมองนางราวกับว่าเป็นขยะสกปรกชิ้นหนึ่งด้วยความเป็นเทพธิดาผู้เดียวในเมืองปีศาจ ฮุ่ยเฟินบีบมือนุ่ม เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนลง
“การที่เจ้าพ่ายแพ้ต่อลี่อินไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย ถึงขั้นว่าจะต้องเสื่อมเสียเกียรติ นางเก่งฉกาจกว่าเจ้าเพราะอายุขัยและพลังมากกว่า เจ้ายังคงเป็นเทพธิดาจือจือ”
จือจือไม่ได้จับรองเท้าของสามีอีก เลื่อนมือไปจับกุมมือของเขาไว้เช่นกัน นัยน์ตาคู่สวยเอ่อคลอ เพียงได้ยินถ้อยคำปลอบประโลมใจ
“ต่อให้เจ้าแต่งกายอย่างปีศาจ เจ้ายังคงเป็นเทพธิดาปักษา เจ้างดงามบริสุทธิ์จากหัวใจของเจ้า เรื่องที่เจ้าริษยาลี่อิน ข้าก็พอจะเข้าใจ”
“ท่าน... เป็นผู้เดียวที่ชอบข้า เข้าใจหัวอกข้า”
“นั่นก็เพียงพอแล้วมิใช่หรือ?” ปลายเสียงเข้มขรึมดุดันพาลพาสตรีเทพอ่อนไหว หัวใจอ่อนยวบเมื่อสามีโน้มตัวลงอุ้มนางกลับไปนั่งบนฟูก
“เกรงว่าเจ้ากำลังอ่อนไหวเพราะตั้งครรภ์ เจ้าดีขึ้นหรือยัง?”
“เล็กน้อย...”
“หากจะปรนนิบัติสามี ทำเรื่องอื่นที่ข้าพึงใจ จะดีกว่า...”
“งดนอนร่วมเตียงกันเสีย จะดีกว่า”
“งดไม่ได้” ทั้งน้ำเสียงและแววตาคมเข้มมองใบหน้าแดงซ่าน ฮุ่ยเฟินไม่มีทางอดใจได้ โน้มลงกระซิบข้าง ๆ ใบหูของนาง “ข้ายังไม่ได้อาบน้ำ รู้สึกไม่สบายตัว เราสองสามีภรรยาไปอ่างอาบน้ำกันเถิด”
อ่างไม้ใบใหญ่เคยแตกเป็นเศษชิ้นมากกว่าห้าใบ ฮุ่ยเฟินเสกสรรใบใหม่ขึ้นมาแล้วเขาก็พังมันอีก ต่างจากค่ำคืนนี้เขาไม่ทำให้มันแตกหัก ด้วยเป็นห่วงบุตรในครรภ์ เกรงว่าภรรยาจะได้รับอันตรายหากว่าพลั้งเผลอแรงไปสักเล็กน้อย
ภายในเรือนร่างหอมงามคับแน่นดั่งบุปผาแรกแย้มบาน หลอกล่อแมลงให้เข้าชิมชมอย่างมิรู้หน่าย สะโพกงามงอนกระถดเกร็ง บีบรัดสิ่งแปลกปลอมภายในร่างของนาง
“ไปที่ฟูกนอนได้หรือไม่... ระวังด้วย...”
จือจือเร่งเร้าบุรุษร่างกำยำ เขากำลังเร่าร้อนทรมานกับการที่นางขยับเรียวขาชิดเข้าหากัน นางมีพละกำลังมากมหาศาลขึ้นมา จนเขาไม่สามารถขับเคลื่อนจังหวะสวาทได้ดั่งใจหวัง ขณะใบหน้าหล่อเหลาก้มลงจูบแก้มหอม อันตรธานไปในพริบตา โดยไม่ปล่อยให้นางแยกจากไปแม้สักชั่วครู่หนึ่ง ยอมให้นางเป็นฝ่ายขับเคลื่อนท่วงทำนองอ่อนหวานอยู่ข้างบน ซ้ำยังยอมเป็นฝ่ายถูกตรึงด้วยโซ่แห่งหยางเสียแทน แน่นอนว่าโซ่เส้นนี้คงขาดเป็นเศษเสี้ยว
เมื่อต่อมันเข้าด้วยกัน ภรรยาตรึงข้อมือทั้งสองข้างไว้เพื่อที่นางจะเป็นฝ่ายควบขี่ ประหนึ่งผู้ช่ำชองการบังคับอาชา ถึงแม้ว่าอาชาตนนี้มิใช่อาชาซึ่งนางสามารถควบคุมได้โดยง่าย ดวงตารุ่มร้อนเฝ้ามองเล็บมือที่จิกกำจนโลหิตหลั่งไหลบนอุ้งมือ เชื่อว่าบุรุษใต้ร่างนางต้องใช้ความอดทนข่มใจเป็นอย่างมาก ไม่ให้กระทำรุนแรงกับนางโดยเด็ดขาด
“เร็วอีก... ทำให้ข้าพึงใจกว่านี้ ภรรยา”
“อื้อ!” ซุ่มเสียงครางหวานดั่งพิณสวรรค์ นางขยับเคลื่อนร่างกายขึ้น ๆ ลง ๆ ตามใจปรารถนา มองใบหน้าหล่อเหลาทรมานปรากฏอารมณ์ เพื่อให้เขาพึงใจนางจะต้องกระทำอย่างรวดเร็ว แม่นยำ หากต้องระวังตนด้วยไม่ให้รุนแรงเกินไปจนเกิดอันตราย
กลิ่นกายสตรีเทพยามสำเร็จกามารมณ์แสนเย้ายั่ว อบอวลอยู่บริเวณปลายจมูกของราชาจิ้งจอก
การสานสัมพันธ์รักต่อภรรยาทำให้บุรุษร่างกำยำเหิมเกริม ฝ่ามือสั่นเทาคอยประคองล้อมด้วยอารมณ์หวงแหน พยายามอย่างถึงที่สุด ที่จะทะนุถนอมภรรยา เพียงจินตนาการถึงจิ้งจอกตัวน้อย วิ่งเล่นไปมาในจวนเงียบสงบ
ไม่นานนัก จือจือส่งเสียงกรีดร้องไม่รีรอสามี เขาก็ติดตามนางไปอย่างกระชั้นชิด มือกระตุกโซ่แห่งแสงสว่างจ้าจนขาดเป็นเศษชิ้น นางฟุบใบหน้าเปียกชุ่มเหงื่อลงบนบ่ากว้าง สามีพลันรวบกอดเอวคอดบาง พ่นลมหายใจหอบสั่น เพียงได้รับการปลดปล่อย ที่ไร้ความพอเหมาะพอควร
“ดีมาก จือจือ เจ้าเก่งฉกาจสมเป็นภรรยาข้า”
-------------
เมื่ออายุครรภ์มากขึ้น จือจือค่อย ๆ หายจากอาการอาเจียน นางเพียงหิวโหยอาหาร กระหายพลังวิญญาณ ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าเทพอย่างนางสามารถกลืนลูกแก้วปีศาจ บรรจุไอหยินไว้มากเพียงพอสำหรับหนึ่งมื้ออาหารร่วมกับเจ้าของจวน บางคราก็แลกเปลี่ยนพลังวิญญาณด้วยวิสัยของปีศาจ สานราคะกับสามีเพื่อบรรเทาความหิวกระหาย
เรื่องราวเหล่านั้นล้วนเป็นที่น่าอภิรมย์ใจ นางไม่เคยเข้าใจ เหตุใดปีศาจโปรดปรานการสัมผัสร่างกายกัน แถมมีคู่ดับกระหายมากกว่าหนึ่ง ย่างเข้าราตรีเมื่อไร ร่ำสุราจนเมามาย หามุมเงียบเชียบในป่าลึกเพื่อสานสัมพันธ์ สตรีจิ้งจอกยังชอบล่อลวงบุรุษ ใช้ความสวยเย้ายั่วใจของพวกนางเป็นเหยื่อ เพื่อสูบพลังวิญญาณจากมนุษย์
ถึงนางจะบอกว่าไม่เป็นไร นั่นเป็นความเจ็บปวดทรมานที่แสนเป็นสุข ฮุ่ยเฟินไม่ยอมให้นางเจ็บปวดทรมาน“เราจะไม่มีบุตรอีก เว้นเสียแต่ว่าข้าสามารถอุ้มครรภ์แทนภรรยาได้ ข้าจึงจะเปลี่ยนใจ” ถ้อยคำอ่อนโยนทำให้ภรรยาหัวเราะออกมา นางยกมือป้องปากอย่างรักษากิริยา“ข้าเคยได้ยินเรื่องใต้เท้าจีกงอุ้มครรภ์แทนธิดาฟางเหนียง ท่านเป็นสามีที่มีเมตตารักใคร่ต่อภรรยานัก”“ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องนี้”จือจือเล่าให้สามีฟังว่านางถือกำเนิดจากลูกแก้วแห่งชีวิต ไม่มีความทรงจำในอดีต ทว่านางทำงานในเรือนเทพแห่งสายน้ำ เรื่องเล่ากล่าวขานมากมายเกี่ยวกับใต้เท้าจีกงทำให้ผู้คนเลื่อมใส“อ้อ... สรุปว่าเทพสามารถให้กำเนิดบุตรได้ ท่านไปพบผู้เฒ่าลึกลับในทะเลลึก เพื่อขอลูกแก้วมาใส่ท้องตน เพราะว่าเห็นบุรุษเทพตั้งครรภ์แทนภรรยาได้ น่าขันนัก”เสียงหัวเราะลั่นดังไปทั่วเรือนปีศาจ สีหน้าของเขาเหยียดหยัน ไม่ว่าอย่างไร ปีศาจก็ยังไม่ชอบเทพอยู่ดี ธิดาจือจือคงเป็นกรณียกเว้นผู้เดียวขณะนัยน์ตาสีชาดราวกับว่ามีแสงวิ่งอยู่ภายในยามจ้องมองแก้มแดงซ่าน นางพูดจาเจื้อยแจ้วถึงเรื่องที่นางจะขอบาดเจ็บแทนสามี เฉกเช่นที่เขาขอเจ็บปวดแทนนาง หากเป็นเช่นนี้ก็คงไม่ได้มีบุ
“ท่านใจเต้นแรงเพราะภรรยาอยู่เสมอ”“ในภพภูมิบาดาล... ไม่มีบุรุษมาชอบพอเจ้าหรือ? ไม่มีใครทำให้เจ้ามีความรู้สึกเช่นนี้”“อาจมีแต่ข้าไม่รู้ ก็เป็นไปได้”รู้ทั้งรู้ว่าสามีพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ริษยา จือจือมองเห็นเขี้ยวคมของสามี ปีกปักษาสีชาดกะพริบแสงในอกของเขา สีของปีกปักษาในอกเข้มขึ้นตามลำดับ พอ ๆ กับนัยน์ตาที่อาบด้วยโทสะในหัวของราชาจิ้งจอกวางแผนลอบสังหารบุรุษเทพผู้นั้น หลังตามหาตัวพบว่าเป็นใครแน่ ภรรยาผู้แสนดีทำลายแผนการของเขาลงเสียหมด“ข้าล้อท่านเล่น ไม่มีแน่นอนเจ้าค่ะ”“เจ้านี่ชอบหยอกล้อข้า ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง” ว่าแล้วเคาะหน้าผากเนียนเข้าทีหนึ่ง บนแต้มสีชาดปรากฏสัญลักษณ์ของภรรยาจิ้งจอกขณะดวงตาเรียวรีของนางราวจะยิ้มออกมาได้ เด็กชายทั้งสองวิ่งกลับมาหาบิดามารดาอ้ายเฉินมีนัยน์ตาสีชาด อ้ายเยว่มีนัยน์ตาสีมรกตทอประกายอย่างเผ่าพันธุ์ปักษา หากใบหน้าละม้ายคล้ายบิดามากกว่า โดยเฉพาะคิ้วหนาที่เรียบขนานไปกับดวงตาสดใส เขาดูเป็นปีศาจเข้มขรึมดุดัน ทว่ายังซุกซนอย่างเด็ก แม้เติบโตอยู่ในร่างของเด็กวัยสิบสองปีแล้ว แค่ผ่านพ้นไปไม่กี่วันบิดามารดานั่งฟังพวกเขาแย่งกันพูดจา บอกเล่าเรื่องราวสารพัด“ข้าไม่ว่าพว
ฮุ่ยเฟินนั่งหงุดหงิดภรรยา ไม่เข้าใจว่าทำไมนางจึงยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตน นางควรเห็นแก่ตัวบ้างในเมืองปีศาจ ไม่นานนัก ขนตางามงอนเป็นแพที่ขยับไหวเปิดเผยดวงตาสว่างใสให้เห็นอีกครา แสงสีชาดกะพริบในอกพร้อมหัวใจที่เต้นระรัวแรงจือจือชะโงกคอมองหาบุตรชายทั้งสอง “ลูกชายข้าเล่า?”“จะไม่ถามถึงสามีเลยหรือ?”“ข้าเชื่อว่าท่านคงดูแลตนเองดี โดยเฉพาะตอนนี้ บิดาอาจกำลังเวียนหัวกับการเลี้ยงดูเด็ก ๆ”“ข้าให้บ่าวรับใช้ดูแล เพียงออกไปดูพวกเขาเป็นครั้งคราว พวกเขาเข้ามาดูอาการของเจ้าอยู่ เพิ่งออกไปไม่นาน”“ข้าอยากพบลูกชายเจ้าค่ะ” ในสีหน้าออดอ้อนของนาง สามีจอมบงการเลื่อนมือไปแตะหน้าผากและแก้มเย็นเฉียบ“เจ้ายังไม่หายดี อดทนรออีกสักนิดไม่ได้เลยหรือ? ข้าไม่อยากให้ใครเข้ามารบกวนการพักผ่อนของเจ้า ข้าเองก็จะออกไป”“ได้โปรดเถิด เขาเป็นความรักของข้าและท่าน จะห่วงภรรยาก็ห่วง แต่จะริษยาเด็กน้อยไปทำไม อย่างไรเสียข้าก็มอบหัวใจให้ท่าน บุรุษเพียงผู้เดียว”“ภรรยา เจ้าทำเป็นพูดดีไป ข้าไม่ได้ริษยาพวกเขาเลย ข้ากำลังเป็นห่วงเจ้า”ถึงต่อว่าไปอย่างไร ฮุ่ยเฟินกลับใจอ่อนยอมนาง เห็นแววตาสุกใสเปล่งประกาย ปรารถนาจะพบบุตรชาย นางรับปากว่าห
นี่อาจเป็นการสมานฉันท์ระหว่างเผ่าพันธุ์จิ้งจอกและเหล่าเทพ แม้อาจทำให้เกิดสงครามระหว่างดินแดนขึ้น องค์ชายทั้งสิบจากเมืองฉางส่งสารมาถามไถ่เรื่องฝาแฝดทั้งสองอย่างไม่พึงพอใจนักเมืองฉางตั้งอยู่ไม่ไกลจากเมืองฟู ในภพภูมิแห่งจิ้งจอก ถัดไปเป็นเมืองเหยียนของเหล่าอสรพิษ ได้ยินข่าวคราวจากองครักษ์ว่าพวกเขาไม่มีปัญหาแต่อย่างใด“ข้าไม่ชอบเสียงดัง คำโต้แย้ง ที่ผ่านมาถือว่าข้าเกรงใจพวกเขามาก กลายเป็นว่ามีเพียงองครักษ์ทั้งสาม บ่าวรับใช้ในจวนที่เป็นมิตรต่อจือจือ ส่วนผู้อื่น ไม่มีผู้ใดหยุด...”ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าเกรี้ยวกราดของราชาฮุ่ยเฟิน อาจสังหารปีศาจได้ทั้งเมืองโดยง่ายดาย เขาเดินผ่านโถงกว้างขวางในจวนอย่างสุขุม บอกตงหยางให้ส่งสารผ่านจิ้งจอกลูกสมุนไปเมืองเหยียน ขอให้เหล่าจิ้งจอกเอ็นดูเด็กชายทั้งสอง นั่นเป็นคำสั่งเสียมากกว่าคำขอร้อง“การต่อสู้กับแคว้นฟู่ซึ่งทุกเมืองปีศาจสวามิภักดิ์ เป็นเรื่องยากต่อกร จะเสียกำลังพลปีศาจไปโดยเปล่าประโยชน์ ใครดูถูกเหยียดหยามบุตรชายของนายท่าน เท่ากับเป็นปฏิปักษ์” ตงหยางให้ท้ายนายท่านหลายวันมานี้เหล่าองครักษ์ได้รับหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงเด็ก รู้สึกเอ็นดูเด็กชายทั้งสองไม่น้อย
“เจ้าไม่ต้องเป็นกังวลไปจือจือ ไม่ว่าใครก็ตามเข้ามาขัดขวางการคลอดบุตรของภรรยาข้า มีโทษสถานเดียว ทุกชีวิตในสายเลือดมันผู้นั้นต้องตาย”“ท่านเดินทางไปร้องขอชีวิตข้าและบุตรของเราจากแดนยมทูตไม่ดีกว่าหรือ?”“ยากเกินไป” เอ่ยแล้วจึงก้มหน้าลงจูบหน้าผากเนียน “ข้าจะปกป้องเจ้าเป็นอย่างดี เจ้าจะคลอดบุตรโดยปลอดภัย ทั้งฝาแฝดสตรีหรือบุรุษจิ้งจอก ล้วนน่ายินดี พวกเขาจะเป็นพี่น้องที่ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน”จือจือได้ยินเช่นนั้น เงยหน้าขึ้นลอบมองกรามแกร่งด้วยสีหน้าเป็นสุข“ท่านไม่ควรเป็นกังวลไป สามี เทพล้วนโปรดปรานเด็กตัวเล็ก ๆ นัก บุตรของเราทั้งสองจะได้รับคำอวยพรจากเทพในเทวโลก แม้กระทั่งราชาผู้ยิ่งใหญ่...”ชั่วครู่หนึ่งของการสนทนา นางได้พบรอยยิ้มอ่อนโยน จากที่เคยแลดูเกรี้ยวกราดหากพูดถึงราชาแห่งสวรรค์เมื่อไร เขาไม่ได้ปฏิเสธเมตตาธรรมของท่านผู้ยิ่งใหญ่ ใครเมตตาบุตรของเขาก็ยินดี“เราจะตั้งชื่อ... พวกเขาว่าอะไร? เจ้าคิดไว้หรือยัง”“อ้ายเฉิน อ้ายเยว่ ชื่อของเขาหมายความถึงความรัก ข้าคิดว่าไม่เป็นอุปสรรค เมื่อเขาเติบใหญ่อาจไปบำเพ็ญเพียรในเมืองเทพก็ย่อมได้”“เจ้าไม่อยากให้บุตรชายเดินทางมาร?”จือจือส่ายหน้าไปมา “เขาอ
“หลายล้านปีเทวโลก อาจมีเพียงหนึ่ง นางผู้เปรียบดั่งดวงใจข้า สวรรค์ลิขิตให้ปีศาจผู้ไร้ใครต้านทานอย่างข้ามีความรักครั้งหนึ่ง เมื่อการถือกำเนิดของข้าไม่ควรมีอยู่ในทุกภพภูมิโลก หากนางไม่รับรักข้า จะสิ้นใจไปอย่างเชื่องช้า ร่างกายแข็งเป็นหิน เกล็ดน้ำแข็งเกาะกุมไปทั่วร่าง...”จางเหว่ยหัวเราะอย่างรักษากิริยา เป็นเรื่องน่าขันสำหรับเขา“เห็นทีว่านายท่านคงเป็นอมตะนิรันดร์กาล พวกข้าเคยได้ยินเรื่องเล่ากล่าวขานว่าเผ่าพันธุ์ปักษามีความรักที่มั่นคง”องครักษ์จิ้งจอกไม่ให้นายท่านได้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งสมใจ ขณะใบหน้าหล่อเหลาปรากฏรอยยิ้มดีใจ ปรารถนาความรักของธิดาปักษาไม่มีทางล่วงรู้ได้เลยว่าเป็นวาสนา ชะตากรรม พรหมลิขิต หรือว่าสิ่งใดแน่ทว่าการพบสบตานางผู้เปรียบดั่งดวงใจ นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่สุด...สตรีตั้งครรภ์ย่อมเป็นกังวลต่าง ๆ นานา สารพัดเรื่องราวซึ่งนางสามารถจินตนาการได้ จือจือชงชาให้สามี ระหว่างนั่งสนทนากับเขาอยู่ด้านหลังจวนกว้าง ในสวนที่มีพรรณพฤกษางอกเงย ดอกจื่อเถิงใต้จันทราสีชาด สามีภรรยานั่งพักพิงอิงแอบในอ้อมแขนกันและกันเป็นนิจราตรีนี้บ่าวรับใช้ยกจานใส่ขนมแป้งปั้นหน้าตาน่ารับประทานเข้ามาวางบนโ







