แชร์

ตอนที่ 10 เมษา...ไม่ได้มาเล่น ๆ

ผู้เขียน: เซเรีย
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-23 21:07:06

ค่ำคืนในบ้านเล็ก ๆ เงียบสงบ หลังจากบรรยากาศการแข่งขันที่จบลง—เสียงช้อนกระทบจานดังแผ่วเบาในครัว ก่อนจะเงียบสนิทลงหลังจานสุดท้ายถูกล้างเก็บเข้าที่

เมษาเดินกลับเข้าห้อง พร้อมกล่องปฐมพยาบาลสีขาวที่แน่นไปด้วยอุปกรณ์ครบชุด

กล่องนี้...เธอเตรียมไว้ตั้งแต่วันที่เธอย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่...ไม่คิดเลยว่าจะได้ใช้จริงแบบนี้

ก๊อก ก๊อก

“พี่คีตะ หนูเข้าไปนะคะ”

เธอเคาะเบา ๆ ก่อนเปิดประตูห้องเข้าไป

คีตะที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ นั่งอยู่ปลายเตียงในเสื้อยืดตัวหลวมกับกางเกงวอร์ม ผมเปียกหมาด ๆ ยังไม่ทันเช็ดแห้งดี กลิ่นสบู่อ่อน ๆ ลอยฟุ้งในอากาศ

“ถืออะไรมาน่ะ?” เขาเลิกคิ้วนิด ๆ

“กล่องปฐมพยาบาลค่ะ”

เธอยกขึ้นโชว์ แล้วนั่งลงข้าง ๆ เขาบนเตียง

“ขอหนูดูแผลหน่อยได้มั้ยคะ?

คีตะยิ้มมุมปาก

“ฉันไม่ได้เจ็บมากซะหน่อย”

แต่ก็ยอมขยับตัวให้เธอเช็กร่างกายอย่างว่าง่าย

เมษาเปิดกล่องออก หยิบสำลี ยาทาฟกช้ำ และพลาสเตอร์ออกมาวางเรียง

“ไหน...พี่เจ็บตรงไหนบ้างคะ?”

เธอถามพลางโน้มตัวเข้าไปใกล้ มือเล็กแตะเบา ๆ บนต้นแขนของเขา

“ตรงไหล่นิดหน่อย กับหลังมือ...แล้วก็ตรงสีข้างมั้ง”

เสียงเขาฟังดูสบาย ๆ ราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร แต่ดวงตาคมกลับจ้องมาที่เธอ...นิ่ง ลึก และคาดเดาไม่ได้

คิ้วเรียวของเมษาขมวดเข้าหากันทันที

“เจ็บขนาดนั้นแล้วบอกว่านิดหน่อยได้ไงเนี่ย...”

เธอบ่นเบา ๆ แต่แววตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง

มือเล็ก ๆ ของเธอหยิบสำลีขึ้นมา แช่แอลกอฮอล์เล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือเขา

คีตะนั่งนิ่ง ให้เธอจัดการตามสบาย

เธอใช้แอลกอฮอล์เช็ดเบา ๆ ตรงหลังมือของเขา ค่อย ๆ เป่าลมเบา ๆ แล้วแปะพลาสเตอร์ลายแมวน้อยน่ารักลงไป

“หึ ลายอะไรเนี่ย” คีตะหลุดหัวเราะเบา ๆ

“แมวน้อย~ หนูว่าเหมาะกับพี่ดีออก”

เธอยิ้มหวาน ก่อนโน้มหน้าเข้าไปใกล้ แล้วกระซิบ

“เวลาเจ็บ...ต้องมีอะไรน่ารัก ๆ ไว้ปลอบใจสิคะ”

คีตะชะงักไปเสี้ยววินาที แววตาอ่านยากของเขาเริ่มมีประกายบางอย่างขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนที่เธอจะขยับตัวมาอีกนิด...ไปแตะไหล่ที่มีรอยฟกช้ำ

“ขอโทษนะคะ มันอาจจะเจ็บหน่อย”

เธอพูดเสียงอ่อน สายตาจับจ้องที่แผลฟกช้ำของเขา

นิ้วเรียวของเมษาจุ่มครีมทายาเบา ๆ แล้ววางลงบนไหล่กว้างตรงรอยช้ำ ปลายนิ้วนุ่มนิ่มกดลงอย่างแผ่วเบา

แต่คีตะกลับรู้สึกร้อน...แบบประหลาด

เธอไม่พูดอะไรต่อ แค่...ตั้งใจทายาให้เขา ใกล้...มากพอจนเขาได้ยินเสียงลมหายใจของเธอ

คีตะกลืนน้ำลายลงคอเบา ๆ ดวงตาคู่คมเผลอมองเธอใกล้เกินไป — ใจเขากำลังสั่น ทั้งที่ภายนอกดูนิ่งราวไม่มีอะไร

“พี่คีตะ...” เมษาเอ่ยขึ้น ขณะกดปลาสเตอร์ปิดแผลอีกจุดหนึ่ง

“ดีนะที่ไม่เป็นอะไรมาก...หนูกลัวแทบแย่”

เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะมีเสียงพูดเบา ๆ จากเขา

“...ขอบคุณนะ”

คำขอบคุณเรียบ ๆ แต่กลับทำให้หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ เมษาพยักหน้า หลังจากทายาเสร็จก็จัดการเก็บยาและปิดกล่อง

“เรียบร้อยแล้วค่ะ หมดคิวพยาบาลคืนนี้แล้วว~”

เธอยิ้มหวาน ลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกจากห้อง แต่ทันทีที่เปิดประตู...

“เมษา”

เสียงเรียกจากด้านหลังทำให้เธอหันกลับไป

คีตะนั่งพิงหัวเตียง ดวงตาคู่นิ่งสบกับเธอ แล้วพูดเพียงแค่ประโยคเดียว...

“ฝันดีนะ...คุณพยาบาลแมวน้อย”

เมษาหลุดหัวเราะออกมา

“หลับฝันดีนะคะ พี่คนเก่งของหนู”

ประตูปิดลงเบา ๆ ทิ้งให้ทั้งห้องเงียบลงอีกครั้ง

คีตะมองฝ่ามือตัวเองที่มีพลาสเตอร์แมวน้อยแปะอยู่ ก่อนจะหลุดยิ้มบาง ๆ ออกมาโดยไม่รู้ตัว

“ยัยจิ๋วเอ๊ย...”

เขาพึมพำเบา ๆ พร้อมยกมือขึ้นแตะไหล่ตัวเองตรงที่เธอทายา

หัวใจของเขา...ทำไมสั่นไหวแปลก ๆ

🌸🌸🌸

ทันทีที่ประตูห้องคีตะปิดลง รอยยิ้มหวานประจำตัวของเธอก็ค่อย ๆ จางหาย...

📞 Rrrrrrr—

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทันที

“ว่าไงคะ พี่คิน?”

เมษากดรับ ขณะเดินผ่านโถงบ้านตรงไปยังห้องนอนตัวเองด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

“เจอเป้าหมายของคุณหนูแล้วครับ หมายเลข 12 SUT — ชื่อ วาริท กำลังเมาอยู่ในผับ The Yard ย่านกลางเมือง”

เสียงของอคินราบเรียบ มืออาชีพเหมือนเคย

“แต่ที่สำคัญคือ...มันกำลังคุยกับ ‘กาย’ นักเลงคุมซอยหลังร้านเกมที่เคยมีข่าวยิงกันนั่นแหละ”

“...” เมษานิ่งไปเพียงอึดใจ ก่อนจะพูดเพียงสั้น ๆ

“เดี๋ยวหนูไปค่ะ” จากนั้นเธอก็วางสาย กำหมัดแน่น

‘ใช้วิธีสกปรกใส่พี่คีตะใช่มั้ย...?’

‘งั้น...ก็รับผลของการเลือกแบบสกปรกละกัน’

ทันทีที่เธอปิดประตูห้องนอนของเธอ ก็จัดการล็อกห้องทันที

ไม่มีใครเห็นอีกด้านหนึ่ง...สาวน้อยวัยใสที่มักหัวเราะง่าย กลายเป็นอีกคน

เธอเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อยืดคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์สกินนี่เข้ารูป รองเท้าคอมแบทที่ดูแทบไม่เคยได้ใส่ในชีวิตปกติ

มัดผมหางม้าแน่น เรียบ หยิบแมสสีดำขึ้นมาสวม—ซ่อนครึ่งหน้าที่เคยแย้มยิ้ม

แววตาที่สะท้อนในกระจก...คือแววตาของคนที่โกรธขั้นสุด

เธอเปิดหน้าต่างห้องนอนชั้นสองออกอย่างคล่องแคล่ว ก่อนปีนลงมาตามรั้วที่หลังบ้าน

รถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดรออยู่เงียบ ๆ ตรงถนนข้างบ้าน บนเบาะคือชายหนุ่มร่างสูง ผิวเข้ม แต่งตัวเรียบ ๆ แต่ดวงตามีแววอันตราย...

อคิน — บอดี้การ์ดหนุ่มผู้เป็นมากกว่าบอดี้การ์ดธรรมดา

เขาหันมา เมื่อเมษากระโดดลงมายืนบนพื้น

“พร้อมนะครับ?”

“เสมอค่ะ” เมษาตอบเสียงเรียบ ก่อนจะคร่อมซ้อนท้าย มือเธอจับหลังเบาะแน่น ดวงตากลมสวยมองนิ่งไปด้านหน้า

“ให้มันรู้ว่า...การมายุ่งกับพี่คีตะ มันจะเจออะไร”

อคินหัวเราะหึ ๆ

“คุณหนูยังคงแสบเหมือนเคยนะครับ”

“พูดมากน่ะ พี่คิน รีบไป” เมษาบอก พร้อมจับเบาะให้มั่น

บรืนนนนนน!!!!

เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นกลางคืนอันเงียบงัน รถพุ่งออกไปในความมืด ทิ้งไว้เพียงแสงไฟท้าย...กับกลิ่นอันตรายที่เริ่มโชยมา

คืนนี้...นางฟ้าตัวน้อย จะกลายเป็น ยมทูตเงียบ

และหมายเลข 12...จะไม่มีวันลืมว่า เขา ‘ยุ่งผิดคนเสียแล้ว’

...

เวลา 01:12 น. — ในซอยเปลี่ยวหลังตึกแถวร้าง

กลางกรุงเทพฯ บรรยากาศเงียบผิดปกติ มีโกดังเก่าหลังหนึ่ง ที่ไม่มีใครใช้แล้วมานานหลายปี ประตูเหล็กบานใหญ่แง้มไว้เพียงครึ่งเดียว แสงไฟสีส้มสลัวลอดออกมาท่ามกลางความมืด

กลิ่นบุหรี่ราคาถูกและเสียงหัวเราะหยาบ ๆ ลอยออกมาพร้อมกับเสียงเจรจาที่ฟังไม่ค่อยชัด

“…ทำยังไงก็ได้ให้มันลงแข่งไม่ได้”

เสียงห้าวต่ำของวาริท — ผู้เล่นหมายเลข 12 ของ SUT เอ่ยขึ้น น้ำเสียงมีความขุ่นเคือง

เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟาหนังเก่า ๆ มีขวดเบียร์วางเกลื่อนโต๊ะด้านหน้า ข้าง ๆ กันคือ กาย นักเลงคุมซอยที่สวมเสื้อแขนสั้น โชว์รอยสักเต็มแขน กับลูกน้องอีกสองคนที่ยืนค้ำข้างประตู

“กูต้องการให้คนของมึงจัดมันให้เนียน ๆ …แบบเจ็บแต่ไม่มีหลักฐาน เข้าใจใช่มั้ย?” วาริทยื่นเงินปึกหนึ่งไปตรงหน้า

กายรับเงินมานับอย่างไม่รีบ พร้อมหรี่ตาลงด้วยท่าทางน่าเกรง

“อยากให้เนียน มันก็ต้องแพงขึ้นนะมึง...แต่ถ้ามึงอยากให้มัน ‘ไม่โผล่สนามอีก’ ง่ายกว่ามาก”

ทั้งห้องหัวเราะ—ทันใดนั้น...

ปึง!!!

เสียงประตูเหล็กถูกถีบเปิดกระแทกเข้ามาสุดแรง

“เฮ้ย!!”

ทุกคนหันขวับไปทางต้นเสียงทันที

ร่างของเมษาในชุดสีดำทั้งตัว ใส่แมสสีดำ มัดผมหางม้าสูง ปรากฏอยู่ที่กรอบประตู ท่ามกลางเงาสลัวของหลอดไฟที่กะพริบไม่หยุด

พรึ่บ!!

ร่างของเมษาพุ่งเข้าใส่วาริทด้วยความเร็วที่ฝึกปรือมาอย่างเชี่ยวชาญ

ผัวะ!!

หมัดขวาของเธอเสยเข้าข้างแก้มวาริทเต็มแรง จนเขากระเด็นล้มลงจากโซฟาแบบไม่ทันตั้งตัว

“อั่กกก!!” วาริทร้องลั่น เลือดซิบมุมปากทันที

ลูกน้องของกายจะวิ่งเข้ามา—แต่ไม่ทันถึงตัวของเมษา

ตุบ!

เสียงหมัดอีกลูกจากเงาในความมืด—อคินโผล่มาจากข้างหลัง อัปเปอร์คัทใส่ชายคนนั้นลอยตีลังกาไปฟาดกำแพงทันที

“ห้ามแตะต้องเด็กของฉัน”

เสียงอคินต่ำเรียบ แค่เสียงก็สามารถขู่ให้ขนลุกได้

กายลุกขึ้น คำราม

“ใครวะ!! บังอาจเข้ามาป่วน—”

ผัวะ!!

เมษาหันขวับ เตะก้านคอกายจนทรุดตัวลงทันที ร่างชายร่างยักษ์ทรุดลงกับพื้น พร้อมเสียงหอบหนัก ๆ

“พูดมาก...” เมษากดเสียงต่ำผ่านแมส

วาริทพยายามคลานหนี เมษากระชากคอเสื้อขึ้นมาตรง ๆ ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยแสยะยิ้มกลับซีดเผือด ดวงตาสั่นระริก

“อย่าทำกูเลย...” เขาพูดเสียงสั่น ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เพราะอะไรหญิงสาวคนนี้ถึงได้อัดเขาจนเละขนาดนี้

“แล้วทีแกจงใจชนพี่เขาล้ม ทำไมไม่คิด?”

“ไอ้คีตะงั้นเหรอ?” วาริทเบิกตากว้างด้วยความตกใจ

ผัวะ!!!

กำปั้นเล็ก ๆ ซัดเข้าหน้าทันที ทำเอาวาริทปากแตก เลือดไหลออกมาหนักกว่าเดิม ดวงตาของเขาเบิกกว้างอย่างไม่เชื่อว่า หญิงสาวตัวเล็ก ๆ ตรงหน้า...จะมือหนักตีนหนักขนาดนี้

“จำไว้นะ ไอ้ขยะ...”

เมษากระซิบเสียงต่ำข้างหู ดวงตาวาววับเหมือนแมวป่า

“อย่ามายุ่งกับเขาอีก ไม่งั้นตาย!!”

เธอผลักร่างวาริทกระแทกกับพื้นเสียงดัง ก่อนหันไปหาอคินที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอย่างใจเย็น

“ลบกล้องวงจรปิดให้หมด”

“แล้วโทรเรียกรถฉุกเฉินให้พวกมันด้วย...ก่อนจะนอนเลือดหมดตัว”

อคินพยักหน้า ก่อนกดโทรศัพท์อย่างไม่รีบร้อน

เมษาเหลือบตามอง ก่อนเหยียดยิ้มในแมสสีดำ

“ใครทำพี่เขาเจ็บ ก็ต้องเจ็บกว่าสองเท่า”

และเธอก็เดินออกจากโกดังไป...โดยไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 47 ตอนพิเศษ: เมียท้อง!! แต่สามีเห่อหนักจนน่าจับตี

    สัปดาห์ที่ 6 ของการตั้งครรภ์เมษายังไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้นแค่ช่วงนี้…ข้าวมันไก่ที่เคยกินแล้วฟินตอนดึก กลับกลายเป็นศัตรูของชีวิต ข้าวต้มปลาเจ้าประจำที่เคยคลั่งไคล้ ตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็แทบอ้วกแต่สิ่งที่เธอรู้แน่ ๆ คือ…เธอกำลังจะมีลูก และ “คุณพ่อเด็ก” ก็คือสามีสุดหล่อผู้คลั่งรักที่เพิ่งรู้ข่าวนี้ไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว18.47 น.เสียงประตูคอนโดดัง “แกร๊ก”“เมียครับ!!! ลูกพี่กินอะไรได้บ้าง!! พี่ซื้อของมาเป็นสิบถุง!!!”คีตะ โชติธาดาคนเดิม เพิ่มเติมคือระดับความเห่อเกินหนึ่งพันเปอร์เซ็นต์ในมือเขาถือทั้งซุปปลาแบบออร์แกนิก ขิงแก่สดจากเชียงราย น้ำมะพร้าวไม่แช่เย็น ผ้าคลุมไหล่สำหรับหญิงตั้งครรภ์และ…หนังสือชื่อ ‘เข้าใจเมียท้องใน 60 นาที’ ที่เปิดอ่านค้างไว้ตรงหน้าแรก“พี่คีตะคะ…” เมษาถอนใจเฮือก“แค่หนูบอกว่าอาเจียนตอนเช้า พี่ก็ไปเหมาโซเชียลเหรอคะ?”“ก็…ก็พี่กลัวเมียเหนื่อยไงคะ แล้วก็ลูกพี่…ก็แสบตั้งแต่ยังไม่ออกมา!”คีตะวางของลง ก่อนจะพุ่งมาทรุดตัวนั่งข้างเธอบนโซฟา เอามือทาบท้องเธอเบา ๆ ทั้งที่ตอนนี้ยังไม่เห็นพุงแม้แต่นิด“อยากให้พี่ทำอะไรมั้ยครับ? อยากกินอะไรเป็นพิเศษ? น้ำแข็งจากขั้วโลก? ท

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 46 ตอนพิเศษ: 3 ปีต่อมา...เมียยังน่ารักไม่เปลี่ยน

    3 ปีต่อมา…แม้กรุงเทพฯ ยังจมอยู่ในวังวนเดิม ๆ ของการจราจรที่เหมือนภาพซ้ำทุกเช้าเย็น แต่ชีวิตของคีตะเปลี่ยนไปไกลราวฟ้ากับเหวจากเมื่อสามปีก่อนจากอดีตหนุ่มวิศวกรรมเครื่องกลที่ชีวิตผูกติดกับเครื่องจักร น้ำมันเครื่อง และซอฟต์แวร์ควบคุมอัตโนมัติวันนี้เขานั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้หนังสีดำในห้องประชุมกระจกชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่ อาริกาโตะ กรุ๊ป—บริษัทเทคโนโลยีระดับอินเตอร์ที่กำลังเติบโตเร็วเหมือนติดจรวดในมือของเขามีทั้งดีลระดับพันล้าน หุ้นใหญ่ในมือ และแผนระดมทุนรอบใหม่ที่เหล่านักลงทุนต่างเฝ้ารอแต่ในสมองของเขา...มีเพียงคำถามเดียวที่วนซ้ำอยู่ทุกวัน‘เมียกูกินข้าวยังวะ’ไม่ว่าในแต่ละวันจะมีตารางงานแน่นขนาดไหน ต่อให้เลขาฯ ต้องคุกเข่ากราบขอให้เลื่อนนัดด่วนกับนักลงทุนต่างชาติคีตะก็จะส่ายหน้า...แล้วพูดเสียงนิ่งว่า“ผมห้ามมีนัดหลังหกโมงเย็นเด็ดขาด”‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์’ ประจำตัวผู้บริหารใหญ่นี้คือกฎเหล็กข้อเดียวที่ใครก็ห้ามล้ำเส้นเพราะนั่นคือเวลาที่เขาจะรีบกลับคอนโดหรูย่านสุขุมวิท...กลับไปหาเมียที่ทั้งน่ารัก แสบ และเป็นแม่บ้านที่เขาหลงรักยิ่งกว่ากำไรรายไตรมาสวันนี้ก็เช่นกัน...เสียง ‘ติ๊ด’ จากปร

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 45 ตอนพิเศษ: ของขวัญชิ้นพิเศษจากพี่คีตะ

    เสียงแสงแดดกลางฤดูหนาวทาบทอผ่านสนามหญ้ากว้างของมหาวิทยาลัย R.C.U. กลิ่นดอกไม้ปนกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ลอยฟุ้งอยู่ในอากาศ ท่ามกลางเสียงชัตเตอร์มือถือที่ดังระรัวจากบรรดาเพื่อน ญาติ พี่น้องที่แห่มาร่วมแสดงความยินดีในวันสำเร็จการศึกษาเมษาในชุดครุยปักตราประจำคณะเดินออกจากหอประชุม พร้อมรอยยิ้มสดใสทันทีที่เห็นคนสำคัญ“คุณแม่! คุณพ่อ!”เธอวิ่งเข้าไปกอดคุณแม่ปาริฉัตรแน่น ส่วนท่านทูตดิลกก็ส่งยิ้มอย่างภูมิใจพลางเอื้อมมาลูบผมลูกสาวเบา ๆ“ลูกสาวพ่อเรียนจบแล้วนะ”“สวยที่สุดในรุ่นเลยค่ะ ลูกแม่!”ด้านหลังยังมีอีกสองคนที่ยิ้มอย่างภูมิใจไม่แพ้กัน — คุณธนา และคุณแม่อัญญาของคีตะ ทั้งคู่ยืนถือของขวัญกล่องเล็ก ๆ พร้อมดอกไม้ช่อโตที่เตรียมมาให้เธอเช่นกัน“ยินดีด้วยนะจ๊ะ หนูเมษา”“ขอบคุณค่ะ คุณอา คุณน้า” เมษายิ้มแก้มแทบปริ ก่อนจะรับของขวัญจากทั้งคู่“แล้ว...พี่คีตะล่ะคะ?” หญิงสาวหันมองไปรอบตัวทุกคนมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนแอบอมยิ้ม“หาพี่เหรอ?”เสียงทุ้มคุ้นหูทำเอาเมษาหันขวับไปทันทีคีตะมาในเสื้อเชิ้ตพอดีตัว กางเกงสแลค หล่อเนี้ยบจนทำเอาเมษาถึงกับตาพร่า แต่สิ่งที่ทำให้เธอใจเต้นกลับไม่ใช่แค่รูปลักษณ์ —มันคือสายตาที่

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ คืนที่พระจันทร์...เป็นพยาน (2/2)

    “คิดอะไรอยู่ หืม~?”เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นด้านหลัง ทำให้เธอสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปมอง แล้วต้องกลั้นหายใจเล็กน้อยคีตะในชุดลำลองเสื้อกล้ามสีเข้มกับกางเกงผ้าสบาย ๆ ผมเปียกนิดหน่อยจากการอาบน้ำ มือข้างหนึ่งถือแก้วน้ำเย็น อีกข้างถือผ้าขนหนูเขาเดินเข้ามาหาช้า ๆ แล้วนั่งลงข้างเธอ พลางยื่นผ้ามาคลุมศีรษะเธอไว้เบา ๆ ก่อนวางแก้วไว้ข้างตัว“ผมยังไม่แห้งดีเลย เดี๋ยวไม่สบาย” เสียงนุ่มนวลเต็มไปด้วยความอ่อนโยน และค่อย ๆ เช็ดผมให้เธอ“อื้อออ~ ไม่ต้องเช็ดแรงก็ได้ค่ะ เดี๋ยวหัวหนูหายหมด” เมษาบ่นอุบ แต่เสียงกลับแผ่วลงเรื่อย ๆคีตะหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะหยุดเช็ด แล้วโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ดวงตาคมนิ่งลึกสะท้อนแสงจันทร์ และเธอรู้สึกได้ว่า ลมหายใจของเขาอยู่ใกล้เพียงปลายนิ้ว“พะ...พี่คีตะ...”“หืม?” คีตะเลื่อนมือมาจับปลายคางเธอเบา ๆ“คือ...” เมษาตาโต หน้าแดงซ่านไม่ทันได้พูดอะไร ริมฝีปากของเขาก็โน้มลงมาแตะกับริมฝีปากของเธอเบา ๆ จูบแรกนั้นนุ่มนวล...อบอุ่น...แฝงความทะนุถนอมแต่ในวินาทีถัดมา รสจูบนั้นกลับค่อย ๆ ลึกซึ้งขึ้นเรื่อย ๆปลายลิ้นร้อนแตะที่กลีบปากเธอ ก่อนจะค่อย ๆ ดุนดันให้เธอเปิดรับสัมผัสที่เร่าร้อนยิ่งกว

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 44 ตอนพิเศษ คืนที่พระจันทร์...เป็นพยาน (1/2)

    หลังจากคีตะเรียนจบคุณพ่อธนาไม่รอช้า…กดดันให้ลูกชายคนเดียวเข้าไปช่วยงานในบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัวทันที“จะออกแบบเครื่องยนต์ หุ่นยนต์ หรืออะไร พ่อไม่ว่า แต่ช่วยทำโปรเจกต์กับแผนกเทคโนโลยีในเครือเราซักอาทิตย์สองอาทิตย์ก่อน ได้มั้ยลูก!”เสียงของคุณพ่อยังดังก้องในหัวเขาแต่คีตะในเสื้อฮู้ดสีเทา กับกางเกงวอร์มเรียบ ๆ กลับนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงาน ยกโน้ตบุ๊กขึ้นบนตัก เปิดแบบจำลองหุ่นยนต์ต้นแบบที่เขาออกแบบเอง —โครงสร้างเครื่องกลซับซ้อนแต่สมบูรณ์แบบจนเหมือนสิ่งมีชีวิตจริง‘ถ้ามีเวลาอีกซักหน่อย...โปรเจกต์นี้ต้องสำเร็จแน่’เขาคิดในใจ ก่อนเสียงใส ๆ ที่คุ้นเคยจะดังขึ้นจากประตู“พี่คีตะขา~ หนูเอาน้ำมะพร้าวมาฝาก~”เสียงหวานนั่นทำให้เขาชะงัก เงยหน้าขึ้น — และทันทีที่เห็นคนตรงหน้า ความเครียดทั้งวันก็ละลายหายไปในพริบตาเมษาในชุดเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์สีขาวกับกางเกงขาสั้นเหนือเข่า เดินยิ้มหวานถือแก้วที่มีน้ำมะพร้าวเย็น ๆ กับถุงใส่ขนมที่เธอซื้อมาฝากตั้งแต่สอบปลายภาคเสร็จ พ่อและแม่ของเธอก็ต้องกลับไปประจำสถานทูตอังกฤษเหมือนเคย และเพราะไม่อยากให้เธออยู่บ้านคนเดียว — เมษาจึงกลับมาอยู่บ้านโชติธาดาอีกครั้งแล

  • รุ่นพี่วิศวะคนนั้นเป็นของหนู   ตอนที่ 43 อนาคตเป็นยังไงไม่รู้...รู้แค่ว่าอยากมีเธอต่อไปในทุกปี

    วันเวลาผ่านไปจนเมษาและคีตะเข้าสู่ปิดเทอมอีกครั้ง และครั้งนี้พ่อและแม่ของเมษาลางานกลับมาเพื่อใช้เวลาอยู่กับลูกสาวที่เมืองไทย ทำให้เมษาต้องกลับไปอยู่ที่บ้านของเธอชั่วคราวแต่เมื่อท่านทูตดิลกรู้ว่าคีตะกับเมษาคบกัน ท่านทูตก็เปลี่ยนบุคลิกกลายเป็นคุณพ่อโหมดหวงลูกสาวทันทีวันนี้...คีตะมีภารกิจ เขาตั้งใจมาขออนุญาตท่านทูตดิลกเพื่อพาเมษาไปเที่ยวด้วยกัน สำหรับ ‘เดทแรก’ ของทั้งคู่ในฐานะ ‘แฟน’บรรยากาศบ้าน ‘ไทระ’ ในย่านเงียบสงบของกรุงเทพฯ ร่มรื่นด้วยเงาต้นไม้ใหญ่และกลิ่นชาเขียวจากสวนญี่ปุ่นที่อยู่ข้างตัวบ้าน แสงแดดอ่อนของช่วงบ่ายส่องลอดใบไผ่รำไร — สะท้อนลงบนกระดานหมากรุกไม้สักกลางโต๊ะหินทรงสี่เหลี่ยม“นั่งสิ”เสียงทุ้มทรงอำนาจแต่สุภาพของท่านทูตดิลกดังขึ้นชัดเจน ขณะเขานั่งไขว่ห้างใต้ร่มกันสาดผ้าเช็ดหน้าสีขาวพับอย่างเรียบกริบวางไว้บนตัก ข้างตัวคือชาร้อนและคุกกี้จากลอนดอนที่ลูกสาวสุดรักสุดหวงจัดเตรียมไว้ให้คีตะในชุดเสื้อเชิ้ตสีครีมเรียบกับกางเกงสแล็กยืนอยู่ตรงหน้า — ข้างกายเขาคือเมษาที่ทำท่าจะเอ่ยปาก แต่ก็ถูกสายตาปรามเบา ๆ จากคุณแม่ปาริฉัตร ที่ยืนพิงประตูกอดอกราวกับกำลังดูซีรีส์เกาหลีด้วยสีหน้าสนุก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status