LOGINสองวันที่ผ่านมาชาริสาใช้เวลาในการเดินหาปิลันธ์ไปทั่วและเห็นชัดว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เท่าที่เธอรู้ชายหนุ่มมีหน้าที่ดูแลเรือสำราญ เขามีสิ่งที่ต้องตรวจตราในบางครั้ง แม้ไม่จำเป็นต้องถึงกับลงไปดูแลด้วยตัวเองแต่ก็ไม่เคยอยู่จุดใดจุดหนึ่งเพียงที่เดียว แต่ชาริสาไม่ได้ทำให้ชายหนุ่มสังเกตเห็นตนเองหรือเข้าไปทักทาย เธอเพียงแต่ตามดูห่างๆ ให้อยู่ในสายตาแล้วบันทึกว่าเขาไปทำอะไรเวลาไหนบ้าง และพอเดาได้ว่าเขาจะให้เวลาผ่อนคลายกับตัวเองหลังสองทุ่มไปแล้ว เพราะเห็นชายหนุ่มไปนั่งดื่มที่บาร์สองวันติดพร้อมกับมีสาวๆ เข้ามาทักทายมากหน้าหลายตา ปิลันธ์มีคนนั่งดื่มด้วยทั้งสองคืนไม่ซ้ำกัน หญิงสาวไม่เคยรอดูจนดึกว่าพวกเขาไปต่อกันหรือไม่ด้วยไม่เห็นถึงความจำเป็น แต่วันนี้เธอคิดว่าจะอยู่รอจนดึกดูสักคืนเพื่อจะได้รู้ว่าตนต้องทำอย่างไรต่อไป ในเมื่องานประมูลจะจัดขึ้นคืนถัดไป
วิเวียนไม่ได้กดดันหรือถามถึงความคืบหน้า แต่ชาริสาก็รู้ว่าเมื่อวันสำคัญมาถึงเธอต้องทำหน้าที่ของเธอให้เรียบร้อยไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตามเพราะพวกเธอไม่มีสิทธิ์พลาด
เสียงพูดคุยกันตรงโถงทางเดินทำให้ชาริสาที่เพิ่งฉีดฮอร์โมนให้ดอกไม้ในตอนเช้าและตรวจดูความเรียบร้อยเงยหน้ามอง เมื่อเห็นว่าเป็นกลุ่มคุณป้ามหาภัยที่กำลังเดินตรงมาทางเธอเพราะเป็นทางเชื่อมเพื่อลงบันไดไปยังส่วนอื่นรวมทั้งห้องอาหาร หญิงสาวก็อดผวาหน่อยๆ ไม่ได้ เธอไม่ได้กลัวแต่รู้สึกไม่อยากเจออย่างบอกไม่ถูก นั่นทำให้ชาริสาเลือกที่จะก้าวขึ้นบันไดวนเล็กๆ ไปแทนทั้งที่โซนนั้นไม่มีแจกันดอกไม้ให้ต้องดูแล เธอรู้คร่าวๆ แค่ว่าเป็นส่วนสำนักงานเท่านั้น
เพราะรีบร้อนหลบแก๊งคุณป้าชาริสาจึงหันมองด้านหลังพร้อมๆ กับก้าวขึ้นบันไดไม่ทันสังเกตว่ามีคนกำลังเดินลงสวนมา มารู้ตัวอีกทีก็เห็นในระยะประชิดจนต้องผงะเผลอถอยหลังจนเกือบตกบันได
“ว้าย...”
แขนกำยำโอบเอวบางไว้ได้อย่างทันท่วงทีก่อนที่หญิงสาวจะตกบันได พลางรั้งร่างเล็กพยุงไว้จนแนบไปกับลำตัวของเขา
ความแข็งแกร่งอบอุ่นที่ได้แนบชิดทำให้ชาริสาเงยหน้าขึ้นมองฝ่ายตรงข้าม แล้วหัวใจที่เต้นระรัวเพราะความตกใจก็ยิ่งกระหน่ำแรงขึ้นเมื่อเห็นชัดเจนว่าคนตรงหน้าคือใคร
เลียม เชสเตอร์!
“คุณ...”
“เธออีกแล้ว”
อีกฝ่ายเอ่ยขึ้นเสียงเอื่อยเฉื่อยราวไม่ยินดียินร้าย
“เอ่อ ฉัน ฉัน...ขอ...ขอโท...”
ยังไม่ทันที่เธอจะพูดจบกลุ่มคุณป้าก็โผล่ออกมา ปากอิ่มสวยถูกมือใหญ่ยกขึ้นปิดทำเอาเธอตาเหลือกถลน ร่างเล็กโดนรวบยกขึ้นด้วยแขนกำยำข้างเดียวจนเท้าลอยก่อนจะพาหมุนตัวกลับขึ้นไปด้านบน
วินาทีนี้ชาริสาควรร้องด้วยความตกใจแต่ด้วยเพราะอะไรไม่รู้ได้เธอกลับเงียบปล่อยให้ชายหนุ่มตัวโตยกกึ่งอุ้มพาไปอย่างหน้าตาเฉย ในหัวเธอคิดเพียงว่าขออย่าให้พวกคุณป้าไฮโซหันมาเห็นเลย สาธุ!
ปิลันธ์พาคนตัวเล็กขึ้นมาด้านบนแล้วก้าวยาวๆ ตรงไปห้องของตัวเอง ล้วงการ์ดมาเปิดเข้าไป ปิดประตูตามหลังก่อนจะวางอีกฝ่ายลงทว่ายังไม่ยอมคลายมือออก ก้มลงมองหญิงสาวที่กำลังหันมองซ้ายมองขวาด้วยท่าทางตกประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
“ที่...ที่นี่ที่ไหนคะ”
เสียงเล็กกระซิบถามแผ่วเบาทว่าเขาก็ได้ยิน
“ห้องฉัน”
“หา! ที่ไหนนะคะ”
“ห้องของฉัน ห้องทำงาน ห้องนอน”
ใบหน้าสวยเล็กๆ ที่เงยขึ้นมามองเขาเหมือนเห็นสัตว์ประหลาด แล้วก็เหมือนเพิ่งนึกได้ว่าอยู่ในท่าทางที่สนิทสนมกันมากแค่ไหน มือบางจึงยกขึ้นผลักอกเขาทันทีและปิลันธ์ก็ยอมปล่อยโดยดี เธอจึงมีโอกาสถอยห่างไปสองสามก้าว
“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”
“หลบป้าพวกนั้นไง”
เมื่อเธอเผยอปากราวกับจะเถียงชายหนุ่มก็ดักคอเสียก่อน
“หรือเธออยากให้พวกเขาเห็นเราเหมือนวันนั้น”
ชาริสาพูดไม่ออก หากกลุ่มคุณป้าไฮโซหันมาเห็นทั้งคู่อีกพวกท่านอาจจะจำเหตุการณ์นั้นได้ ที่สำคัญเธอเพิ่งก่อเรื่องกับคุณป้าหน้าดุคนหนึ่งไปเมื่อวาน และยังไม่รู้ว่าท่านรู้จักกับชายหนุ่มตรงหน้ามากน้อยแค่ไหน แต่จากการออกคำสั่งวางก้ามนั่นเธอคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะมีภาษีมากพอตัว ถ้าทำผิดหูผิดตาขึ้นมาอีกอาจจะถูกมองว่ามาเกาะแกะเขาเพราะเป็นแค่ลูกจ้างทั่วไปเพื่อหวังผลประโยชน์ งานนี้เธออาจต้องลงจากเรืออย่างกะทันหันถ้าคุณป้าไฮโซสามารถสั่งปลดพนักงานได้จริง
“งั้นก็ไม่เห็นต้องถึงกับพาเข้ามาในนี้เลยนี่นา”
หญิงสาวบ่นอุบอิบแต่เขาก็ยังอุตส่าห์ได้ยิน
“ชั้นนี้พนักงานเดินกันให้ควัก ฉันไม่อยากเสี่ยงทำตัวเหลวไหลให้ลูกน้องเห็น”
“เหลวไหล! หมายถึงอะไร คุณจะทำอะไรเหลวไหลงั้นเหรอ!”
คนตัวเล็กสะดุ้งถอยกรูดอย่างหวาดระแวง ปิลันธ์มองท่าทางอีกฝ่ายแล้วยิ้มนิดๆ ขณะกอดอกยืนนิ่งไม่ขยับ แค่เขาขวางทางออกไว้เธอก็ไปไหนไม่รอดแล้ว
“ทำอะไรดีล่ะ อ๊ะ...นั่นเธอถอยไปทางห้องนอนนะ หรือว่า...”
เขาพูดพร้อมกับขยับไปหาหญิงสาวสองก้าว เธอก็ผวาพรวดพราดมาตรงประตูทางออก แต่ติดที่เขาขวางอยู่จึงไปไหนต่อไม่ได้
“คุณอย่าล้อเล่นสิ ให้ฉันออกไปเถอะ ฉันจะมองให้ดีก่อนว่ามีคนเดินผ่านไปมาไหม ไม่ทำให้คุณเสียหายแน่ ฉันสัญญา”
ปิลันธ์มองคนที่แสดงสีหน้าท่าทางจริงจังแล้วก็อดขำในใจไม่ได้ เธอเนี่ยนะคิดจะปกป้องไม่ให้เขาเสียหาย ทว่าเมื่อได้พิศใบหน้าสวยพริ้มเพรานานขึ้นก็ทำให้เขาฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้
“เวลาพูดกับฉัน พูดภาษาไทยก็ได้”
ชายหนุ่มเอ่ยออกไปเป็นภาษาไทย แล้วก็เห็นอีกฝ่ายตาโตราวกับแปลกใจที่เขารู้ว่าเธอเป็นคนไทย
“เธอชื่อ ชาริสา อนุสาน นี่เป็นชื่อคนไทยไม่ใช่เหรอ”
“คุณ...รู้ได้ยังไง”
อีกฝ่ายยังดูเบลอตอนถามเขาแต่ก็พูดภาษาไทยตามที่เขาบอก
“เพื่อนเธอบอก”
เขาเลือกที่จะตอบสั้นๆ ไม่อธิบายความมากกว่านั้น แน่นอนว่าไม่มีใครชอบที่คนอื่นตามสืบเรื่องของตัวเอง เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียดให้กวางน้อยตรงหน้าไหวตัวทันถ้าคิดจะตะครุบกวาง
เพื่อนที่ชายหนุ่มบอกทำให้ภาพหวามของเขาในค่ำคืนแรกที่ได้สบตากันผุดขึ้นมา ตามด้วยจูบอันน่าระทึกทว่าเต็มไปด้วยความดึงดูดสำหรับเธอในวันนั้น ชาริสาหลบสายตาคมอย่างกลัวอีกฝ่ายจับความคิดได้ แล้วรีบสลัดความคิดเพ้อเจ้อทิ้งเหลือบไปทางประตูด้านหลังของเขาแทน
“ฉันต้องออกไปแล้วล่ะค่ะ”
“ทำไมอยากออกไปจัง เธอไม่คิดถึงบ้างเลยเหรอ”
ชายหนุ่มจ้องกลับด้วยสายตาคมปลาบที่ชวนให้เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ยืนไม่ติดที่
“คิดถึงอะไร”
ชาริสาถามเสียงเบาแต่เห็นชัดถึงความตระหนกแฝงอยู่ในนั้น
“จูบของเราไง”
เขาตอบกลับง่ายๆ ราวคุยกันเรื่องดินฟ้าอากาศธรรมดา ทำเอาหญิงสาวส่ายหน้าหวืออย่างเร็วโดยไม่พูดอะไร ใบหน้าเล็กดูซีดลงเริ่มมีเหงื่อชื้นที่ขมับ ปิลันธ์กวาดมองคนตรงหน้าอย่างถ้วนทั่วเห็นชัดว่าเธอตัวสั่นนิดๆ ท่าทางราวกำลังกลั้นใจ เธออยู่ในชุดยูนิฟอร์ม คงยังทำงานอยู่ เขาเองก็ต้องไปตรวจความเรียบร้อยช่วงเช้าเหมือนกัน ชายหนุ่มถอนหายใจยาว รู้ดีว่าหากเอาแต่ใจตนเองอีกฝ่ายไม่มีทางพ้นมือเขาไปได้ แต่ไม่รู้เพราะอะไรเขาอยากให้คนตัวเล็กวางใจในตัวเขา อยากให้ตากลมโตคู่สวยมองเขาในแบบอื่นที่ไม่ใช่แววตาของกวางน้อยแสนหวาดกลัว
“เอาเถอะ งานของเธอคงยังไม่เสร็จ ฉันเองก็ค่อนข้างยุ่งเสียด้วย”
ปิลันธ์หันหลังกลับไปยังประตูแล้วเปิดออกไปมองซ้ายมองขวาอย่างไม่คิดจะเสียเวลามากกว่านี้
“ตอนนี้ไม่มีใครแถวนี้ เธอออกไปก่อนเถอะ”
ชาริสาเดินตามมายังประตูด้วยท่าทางงุนงง แต่อยู่ๆ มือใหญ่ก็คว้าแขนเธอเอาไว้ก่อนหญิงสาวจะก้าวออกไป ทำเอาเธอสะดุ้งเฮือกแต่ชายหนุ่มไม่ได้ทำอะไรมากกว่าจับ เธอจึงไม่ได้สะบัดออกเพราะตระหนักดีว่าสถานการณ์นี้อีกฝ่ายยังเป็นต่อ เธอยังไม่พ้นจากห้องของเขาอย่าทำให้เขาเคืองเป็นดีที่สุด
“จูบนั่น ฉันคิดถึงทุกคืนเลยนะ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นขณะสบกับตาคม ใบหน้าขาวใสมีสีระเรื่อขึ้นอย่างเห็นได้ชัด มุมปากได้รูปของชายหนุ่มขยับยิ้มนิดๆ อย่างได้ใจจนแก้มบุ๋มเห็นลักยิ้ม นั่นหมายความว่า ใช่ว่าหญิงสาวไม่รู้สึกอะไรกับสิ่งที่เขาทำลงไปกับเธอ
เมื่อรู้สึกเหมือนกำลังโดนยิ้มเยาะและไม่อาจต่อสายตากับอีกฝ่ายได้อีกแล้วชาริสาก็รีบก้มหน้างุดสะบัดมือผลุนผลันออกจากห้องของชายหนุ่ม ซึ่งเขาก็ยอมปล่อยมือโดยดี หากยังได้ยินเสียงทุ้มเอ่ยตามหลังมาด้วย
“อ้อ แล้วก็ห้องนี้พร้อมต้อนรับเธอเสมอนะสาวน้อย”
=====
“ผมรู้คนสวย”เขากระซิบเสียงพร่า ใบหน้าคมขยับมาหาอีกครั้งพร้อมมือหนาเลื่อนมาเกาะกุมอกข้างหนึ่งของเธอเข้าเต็มๆ เพียงขวัญถอยตามสัญชาตณาณทว่าเพราะนอนบนฟูกหนาทำให้ไปไหนไม่ได้ มือบางรีบคว้าข้อมือหนาทันควัน ขณะที่ริมฝีปากได้รูปกระซิบชิดปากเธอ“ผ่อนคลาย เชื่อใจผม”ชายหนุ่มบอกแล้วบดจูบพร้อมกับมือหนาเคล้าคลึงอกอวบสวยเต็มกำมืออย่างแผ่วเบาเพียงขวัญครางฮือในทันที หากก็ยอมปล่อยอีกฝ่ายทำราวกับเป็นเจ้าของมัน ไม่นานอกคู่สวยก็ถูกปากร้อนผ่าวครอบครองสลับไปมาทั้งสองข้าง ทั้งไล้เลียดูดดื่มเหมือนชิมรสอาหารถูกปากจนหญิงสาวหอบกระเส่า เนิ่นนานจนพอใจเอียนจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปยังกางกางขาสั้นของหญิงสาว เขาถอดมันออกโดยไม่จำเป็นต้องถามความสมัครใจจากอีกฝ่าย ร่างอ่อนระทวยไร้แรงต้านราวกับยินยอมพร้อมใจให้เขาพาไปทุกที่ แม้ตอนปลดชั้นในสองชิ้นบนร่างเธอก็ไม่ขัดขืนเอียนขยับมือหนาไปหาสัดส่วนอ่อนไหวโดยไม่ลังเล รับรู้ว่าอีกฝ่ายเกร็งและพยายามจะบิดตัวหนีแต่เขาไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ มือข้างหนึ่งวางบนอกอวบ พร้อมกับโน้มตัวลงไปจูบเร้าโรมรันร่างหญิงสาวทุกส่วนพร้อมกันทำเอาอีกฝ่ายถึงกับครางกระสับกระส่ายกับความต้องการที่ถูกปลุกให้พุ่งส
‘แผนเริ่มแล้ว’วิเวียนบอกเป็นสัญญาณก่อนจะเลิกการติดต่อ นับจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีการแชตกลุ่มเป็นอันขาดจนกว่าจะถึงเวลาประมูลทุกคนจะมาเจอกันที่ห้องของวิเวียนก่อนหน้านี้ทั้งหมดต่างบอกความคืบหน้ากันในกรุ๊ป มีเพียงเพียงขวัญที่เงียบไปทำให้ทุกคนเริ่มกังวลแต่งานสำคัญก็ล้มเลิกไม่ได้ พวกเธอต้องเดินหน้าต่อ ส่วนชาริสานั้นวิเวียนบอกให้ตามไปสมทบกับมินตราที่ห้องเพราะหากปิลันธ์อยู่กับผู้หญิงเขาคงใช้เวลากับเธอพักใหญ่และไม่ออกมาจนกว่าจะถึงเวลาประมูล ถ้าเขาจะไปร่วมงานด้วยขณะกำลังจะเดินไปยังชั้นที่ตัวเองพัก คนกลุ่มใหญ่ที่ยืนรอลิฟต์อยู่ทำให้ชาริสาหลบอยู่ตรงมุมทางเดินก่อน แม้คนกลุ่มนั้นอาจจะจำเธอไม่ได้แต่หญิงสาวไม่ชอบหน้าตาลุงนั่นเพราะฉะนั้นอยู่ในห่างๆ ดีกว่า และเมื่อลิฟต์มาถึงคนส่วนใหญ่ก็ก้าวเข้าไปแต่อีกสองคนกลับแยกออกไปทางอื่น เธอเห็นหนึ่งในนั้นล้วงไปจับบางอย่างในเสื้อสูท ตอนแรกหญิงสาวคิดว่าเป็นปืนแต่เพราะเขาหันเสื้อด้านในมาทางเธอชาริสาจึงรู้ว่ามันคือกล่อง กล่องสีดำที่เขาพยายามใส่ไว้ในที่ที่ปลอดภัยและไม่ให้เป็นที่สังเกต ชาริสากลับมาหลบในมุมเดิมขณะครุ่นคิดว่าควรทำอย่างไรต่อไป‘อย่าไปยุ่งเรื่อง
เพราะเกรงว่าความเลินเล่อของตัวเองที่ลืมคิดถึงกล้องวงจรปิดไปจะทำให้งานพลาดชาริสาจึงรีบกดลิฟต์เพื่อไม่ให้ดูผิดสังเกตถ้าเธอหยุดรออยู่ตรงนี้นานจนเกินไป หญิงสาวคิดว่าหากเกิดอะไรขึ้นจริงต้องมีการตรวจกล้องแน่แม้ชั้นนี้จะไม่ใช่ชั้นของห้องนิรภัยแต่การทำลับๆ ล่อๆ ของเธออาจมีคนสังเกตเห็นขึ้นมาชาริสาพยายามสูดหายใจเข้าปอดให้ลึกพร้อมกับคิดว่าตนควรบอกให้วิเวียนรู้เอาไว้ก่อนเกี่ยวกับปิลันธ์ อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้ละสายตาจากเขาแต่ตามเขาไม่ได้ต่างหาก ทว่าพอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะพิมพ์ข้อความประตูลิฟต์ก็เปิดออก เธอจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อจะก้าวเข้าไปทว่าคนที่อยู่ข้างในทำให้ใจดวงน้อยร่วงลงไปตาตุ่ม หากก็ยังคงพยายามเก็บสีหน้าไม่ให้แสดงอาการตระหนกเอาไว้ขณะสบตากับอีกฝ่ายแล้วก้าวเข้าไปด้านใน“ชั้นไหนครับ”คนอยู่ก่อนเอ่ยถามอย่างสุภาพบุรุษ“ชั้นสามค่ะ”เมื่อเขากดลิฟต์ให้หญิงสาวก็ยิ้มให้พร้อมเอ่ยขอบคุณ ก่อนจะก้มลงเปลี่ยนเป็นเข้าแอปโซเชียลดูนั่นนี่วางมาดให้ปกติในยุคสังคมก้มหน้ากระทั่งถึงชั้นของตนจึงก้าวออกมา“ขอให้สนุกนะครับ”หญิงสาวหันกลับไปยิ้มรับและเอ่ยขอบคุณชายในชุดสูทดำ คนที่เธอจำได้ว่าเขายืนอยู่ข้างกายเอียนเสมอ!ร่าง
พื้นที่สำหรับจอดเฮลิคอปเตอร์ถูกเคลียร์เพื่อต้อนรับแขกคนพิเศษของเอียน เชสเตอร์ เมื่อฮ.ลงจอดเรียบร้อย ชายในชุดสูทดำหกคนก็ก้าวลงมาก่อน ตามด้วยชายร่างสูงใหญ่ในชุดเชื้อเชิ้ตสีฟ้าพาสเทลเกงเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อน ชายในชุดสูทดำหกคนตั้งแถวยืนฝั่งละสามคน ทำให้ผู้นำที่ดูสง่าผ่าเผยอยู่แล้วยิ่งโดดเด่นเกินใครขึ้นไปอีก แล้วทั้งกลุ่มก็ตรงมาหาคนของเอียนที่ยืนตั้งแถวรอรับ ในขณะที่ฮ.ก็บินขึ้นในทันทีที่คนออกมาในระยะห่างอย่างปลอดภัยแล้ว“ยินดีต้อนรับครับ...ท่าน”ลูยส์เอ่ยอย่างลังเลกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ใส่ชุดต่างจากทุกคน สายตาหลังแว่นกันแดดสีน้ำตาลเข้มดูคมและกวาดไล่มองหน้าพวกเขาจนครบก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย“เอียน?”“เอ่อ...คุณเอียนเกิดปัญหานิดหน่อย เลยสั่งให้ผมมาต้อนรับแทนแล้วก็ฝากขอประทาน...เอ่อ...และบอกว่าจะมาขอ...เอ่อ...”“อย่ามากพิธีเลย สบายๆ เถอะ ใช่ว่าเพิ่งเจอกันครั้งแรก”“ครับ แล้วคุณเอียนจะขอโทษด้วยตัวเองอีกครั้งครับ”คำพูดเกร็งๆ ในตอนแรกเริ่มติดขัดน้อยลงเมื่ออีกฝ่ายอนุญาต“เอาละ ฉันพักห้องไหนล่ะ พาไปสิ”“ครับ เชิญครับ”ลูยส์ผายมือเชื้อเชิญอย่างนอบน้อม อีกฝ่ายจึงเดินนำโดยมีลูยส์กับเจมส์และคนของ
เธอกำลังมึน...เพียงขวัญคิดขณะพยายามฝืนทำร่างกายให้ดูเหมือนเป็นปกติ หญิงสาวดื่มคอกเทลไปแล้วห้าแก้ว มันมากเกินไปสำหรับคนคออ่อนเช่นเธอ แต่ไม่อาจปฏิเสธหวังหมิงที่สั่งมาให้เพิ่มได้ แม้พยายามจิบช้าที่สุดแล้วแต่ราวกับอีกฝ่ายจ้องมอมเหล้าเธอ เมื่อเห็นคอกเทลของเธอพร่องไปมากกว่าครึ่งแก้วเขาจะสั่งแก้วใหม่เพิ่มทันทีถึงเธอจะบอกว่าเกรงใจแล้วก็ตาม“เพิ่มอีกแก้วไหมครับ”“ไม่แล้วล่ะค่ะ พายเริ่มมึนแล้ว เดี๋ยวเดินกลับห้องไม่ไหว”เพียงขวัญรีบปฏิเสธแล้วอธิบายเพิ่มเมื่อหวังหมิงหันไปยังลูกน้องของตน“อ้าวงั้นเหรอ ต้องขอโทษจริงๆ ผมเองก็ลืมคิดไปว่าคุณอาจจะคอไม่แข็ง วันนี้ผมรู้สึกสดชื่นมากเลย รู้ไหมว่าตั้งแต่ขึ้นมาบนเรือยังไม่มีเคยมีสาวสวยขนาดนี้มานั่งดื่มด้วยสักที”“เอ่อ...”หญิงสาวเหลือบไปทางเอียนอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี ซึ่งอีกฝ่ายก็เบนสายตามายังเธอแวบเดียวแล้วเมินไปราวกับไม่ได้ยินคำพูดหวังหมิงที่เหมือนจะเกี้ยวพาเธอ ทว่าเพียงขวัญมั่นใจว่าเห็นมุมปากเขายิ้มนิดๆ“คุณหวังให้เกียรติพายเกินไปแล้วล่ะค่ะ”เธอพยายามถ่อมตัวพร้อมยิ้มให้ ไม่รู้หรอกว่าดวงตาที่หวานอยู่แล้วของตนนั้นหวานเยิ้มเพียงใด และยิ้มแบบนั้นก็ทำให้มุมปา
สาวหน้าหวานในชุดสบายๆ เสื้อบางสีขาวตัวยาว ยัดปลายด้านหน้าเข้าไปในกางเกงขาสั้นสีขาว ดึงดูดสายตาเอียนได้ทันทีที่เจ้าตัวก้าวเข้ามาในโซนของสระน้ำ เจ้าตัวมีท่าทางราวกำลังมองหาใครอยู่ เธออาจจะมาหาเพื่อนหรือเด็กๆ ที่เล่นด้วยวันนั้น กระทั่งมองมายังจุดที่เขานั่งอยู่หญิงสาวดูนิ่งขึงไปชั่วอึดใจก่อนจะละสายตาแล้วมองไปในทิศทางอื่น นั่นทำให้เอียนขมวดคิ้วนิดๆเธอมีท่าทีราวกับไม่อยากเจอเขา...“อ้าว นั่นสาวสวยที่ตกน้ำวันนั้นนี่นา”น้ำเสียงชื่นมื่นของหวังหมิงทำให้เอียนคอแข็งโดยทันที ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะสังเกตเห็นเธอเหมือนเขา“อาหลี่ไปเชิญคุณผู้หญิงมาหน่อย บอกว่าฉันอยากเลี้ยงปลอบขวัญ”“ครับนาย”คนของหวังหมิงเดินไปแล้วเอียนจึงเอ่ยขึ้น“ไม่น่าเชื่อว่านักธุรกิจที่ใจเย็น วางแผนแยบยลอย่างคุณหวัง จะใจร้อนเรื่องสาวๆ”เขาลองหยั่งเชิงและอีกฝ่ายก็หัวเราะเสียงดัง“เดี๋ยวนี้ชักช้าก็อดกันพอดี ผมมันแก่แล้ว ถ้าไม่รีบตะครุบเหยื่อก็ช้ากว่าพวกหนุ่มๆ หล่อๆ น่ะสิครับ”เอียนไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าเขากำมือแน่นขึ้น แม้สีหน้าจะดูยิ้มนิดๆ ก็ตาม ขณะเดียวกันสาวสวยตัวเล็กทว่าอวบอิ่มก็ก้าวตามคนของหวังหมิงมาด้วยสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด







