Share

5.คนขี้ขลาด (1)

Penulis: rasita_suin
last update Terakhir Diperbarui: 2025-02-27 01:45:05

“เซียงเอ๋อร์ เจ้ากำลังทำให้สด็จพ่อโกรธมาก อย่าได้ทำเช่นนี้อีก ไม่เช่นนั้นเจ้าอาจถูกลงทัณฑ์”

องค์ชายรองเสวียนหลินตามมายังตำหนักองค์หญิงหนิงเซียงหลังจากเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้ว

“ให้เสด็จพ่อลงทัณฑ์ข้าเสียยังดีกว่าให้ข้าแต่งงาน”

เห็นน้ำตาที่รินไหลไม่ขาดสาย ทว่าสีหน้ากลับมุ่งมั่นแข็งขืนของน้องสาวแล้วสีหน้าองค์ชายรองกลับยิ่งเคร่งเครียด เจ้าตัวยังนั่งคุกเข่าอยู่ในตำหนักตนไม่ขยับแม้หลิงเอ๋อร์กับนางกำนัลคนอื่นจะช่วยกันเลี้ยกล่อมอย่างไรก็ไม่เป็นผล

“เซียงเอ๋อร์”

องค์ชายรองอ่อนใจในความดื้อดึงของน้องสาว แปลกใจนักที่น้องน้อยผู้เรียบร้อยและหัวอ่อนเสมอมาของตนกลับกล้าขัดรับสั่งพระบิดา

‘ช่างดื้อรั้นเอาแต่ใจนัก หากขอสิ่งใดข้าก็อนุญาต กลับคำ พลิกราชโองการ คำพูดของข้าจะยังศักดิ์สิทธิ์เชื่อถือได้อีกหรือ เจ้าพูดกับน้องเจ้าให้นางเข้าใจ ข้าตัดสินใจเช่นนี้ก็เพื่อนาง’

พระบิดารับสั่งย้ำอย่างขุ่นเคือง

องค์ชายรองย่อกายลงตรงหน้าอีกฝ่าย วางมือสองข้างบนบ่าบอบบาง

“เสด็จพ่อทำเพื่อเจ้า ชาวเมืองมากมายต่างก็เห็นฮ่าวหมิงอุ้มเจ้า แตะต้องเนื้อตัวและช่วยชีวิตเจ้าไว้ เขามีความดีความชอบ ส่วนเจ้าเป็นถึงองค์หญิง ไม่ควรมีผู้ใดแตะต้องชิดใกล้ เพื่อรักษาเกียรติของเจ้า เสด็จพ่อจึงประทานเจ้าให้ฮ่าวหมิง รับเขาเป็นราชบุตรเขยนับว่าเหมาะสมแล้ว”

สิ่งที่พี่ชายเอ่ยทำให้องค์หญิงหนิงเซียงคิดไปถึงใครอีกคนที่ช่วยตนไว้เช่นกัน

“หากผู้ใดช่วยชีวิต ย่อมควรแต่งกับผู้นั้นอย่างนั้นหรือ”

นางเอ่ยเสียงพร่าเครือ

“พี่รองลืมไปแล้วหรือว่าผู้ที่ช่วยชีวิตข้าไม่ได้มีเพียงสหายของท่าน เช่นนั้นข้าก็ควรแต่งกับเขาด้วยสินะ”

“เซียงเอ๋อร์!”

องค์ชายรองดุน้องสาวเสียงเข้ม

“เจ้าพูดจาประชดประชันเช่นนี้เป็นตั้งแต่เมื่อใดกัน แม้เจ้าจะซุกซนบ้างแต่ไม่เคยดื้อรั้นไม่เชื่อฟังพี่หรือเสด็จพ่อ เหตุใดอยู่ๆ เจ้าถึงขัดขืนในเมื่อเรื่องแต่งงานก็เป็นเรื่องที่บิดามารดาต้องจัดการให้ เสด็จพ่อเองก็ทรงดำริอยู่เช่นกันว่าอายุเจ้าควรมีเหย้ามีเรือนได้แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ตัดสินพระทัยเกี่ยวกับผู้ที่เหมาะสม และเวลานี้ก็พบผู้ที่จะฝากให้ดูแลเจ้าได้แล้ว”

องค์หญิงหนิงเซียงเม้มริมฝีปากแน่น นางรู้ถึงชะตากรรมของตนเช่นที่องค์หญิงทุกคนในวังต่างรู้ดีว่าไม่มีสิทธิ์เลือก แต่หากต้องแต่งงานโดยแทบไม่รู้จักอีกฝ่ายเลยหรือต้องไปอยู่ต่างแคว้น นางขออยู่ในวังไปจนแก่ชราเสียยังดีกว่า การได้เห็นผู้เป็นพี่สาวมีความสุขกับการแต่งงานนางก็พลอยดีใจไปด้วย อย่างน้อยเจ้าตัวก็ได้มีเวลาเตรียมตัวเตรียมใจอยู่หลายปี ในขณะที่ตนนั้นต่างออกไป

ทั้งเวลานี้ หัวใจของนางก็มีเงาของผู้ใดผู้หนึ่งอยู่ในใจแล้ว

แม้ไม่อาจวาดฝันได้ครองคู่ หากนางก็ไม่ต้องการแต่งกับผู้อื่น

“เชื่อพี่เถิดเซียงเอ๋อร์ เสด็จพ่อไม่ได้เลือกคนผิดอย่างแน่นอน ฮ่าวหมิงเป็นบุรุษที่องอาจกล้าหาญ ฝีมือเก่งกาจไม่เป็นสองรองใครในแคว้นนี้ ทั้งฐานะเจ้ากรมคลังก็ไม่น้อยหน้าผู้ใดเลย แม้จะไม่ได้กินตำแหน่งขุนนางใหญ่หรือมีกำลังทหารในมือ หากทรัพย์สินตระกูลจางนั้นมากมายนัก เป็นตระกูลใหญ่ที่รับใช้ราชวงศ์มาหลายชั่วอายุ”

องค์หญิงหนิงเซียงส่ายหน้า นางไม่ได้สนใจทรัพย์สินลาภยศ

“พี่รอง ท่านรู้สึกเช่นไรกับว่าที่พระชายา”

องค์ชายรองเสวียนหลินยังไม่ได้อภิเษก เนื่องด้วยโหราจารย์ประจำราชสำนักทูลเจ้าแคว้นว่ายังไม่ถึงเวลาเหมาะสม ในขณะที่องค์ชายรองก็รู้ดีว่าอาจมีการแทรกแซง ด้วยว่าที่พระชายาเป็นธิดาเจ้ากรมกลาโหม มีผู้ที่ไม่ต้องการให้ตนมีอำนาจมากเกินควร เพราะขุนนางในราชสำนักทูลขอให้พระบิดาทรงแต่งตั้งรัชทายาท หลังจากองค์ชายใหญ่รัชทายาทองค์ก่อนสิ้นพระชนม์ไปหลายปีแล้ว

ผู้ที่ขุนนางต่างก็เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัชทายาทคือองค์ชายรอง กับองค์ชายสามซึ่งเป็นพระโอรสโดยแท้ของฮองเฮาเช่นเดียวกับองค์ชายใหญ่ แน่นอนว่าหากองค์ชายรองได้เป็นรัชทายาทขั้วอำนาจอาจเปลี่ยนแปลง

“ท่านพึงพอใจในตัวนาง หรือพอใจเพียงเพราะเสด็จพ่อรับสั่งให้ท่านอภิเษกกับนาง”

“เจ้าลุกขึ้นมาก่อนเถิด”

องค์ชายรองจับไหล่บางประคองให้น้องสาวลุกขึ้น เจ้าตัวแทบลุกไม่ไหวและยืนไม่อยู่จนต้องโอบพยุงไปนั่งยังเก้าอี้ตัวยาว

“หลิงเอ๋อร์ไปเอายาทาแก้ฟกช้ำมาหน่อย แล้วให้คนไปขอเบิกยาบำรุงร่างกายมาต้มให้องค์หญิงด้วย”

“เพคะ”

หลิงเอ๋อร์รับคำองค์ชายรองแล้วออกไป

เมื่อสองพี่น้องอยู่ตามลำพัง องค์ชายรองก็ซับน้ำตาบนแก้มนวลสองข้างของน้องสาวพลางปลอบเสียงทุ้ม

“ฟังนะเซียงเอ๋อร์ เราต่างก็มีหน้าที่ ยิ่งเกิดมาสูงส่งหน้าที่ยิ่งมากขึ้น แม้ไม่ได้พูดคุยกันมากนัก หากก็รู้ว่านางเป็นสตรีที่ดี ได้รับการอบรมมาอย่างดี คู่ควรเหมาะสมกับตำแหน่งพระชายาของพี่ซึ่งมีภาระหน้าที่ใหญ่ต้องรับผิดชอบ”

“ท่านเอ่ยราวนางเป็นขุนนางที่ดีคนนึง ไม่ได้รู้สึกใด”

เสียงหวานอุบอิบทำให้พี่ชายยิ้มบาง

“อาจเป็นเช่นนั้น หรืออาจมากกว่า เรื่องระหว่างนางกับพี่มีการเมืองเกี่ยวพันยากจะแยกออก ในขณะที่นางเป็นคู่หมายพี่ ก็มีผู้อื่นหมายปองนางเช่นกัน และหากผลประโยชน์มากพอ บิดาของนางอาจหาทางทำทุกอย่างให้บุตรสาวแต่งกับคนผู้นั้น”

น้ำเสียงของพี่ชายราบเรียบหากก็แฝงด้วยความเคร่งเครียด

“หากเป็นไปได้ พี่ไม่อยากให้เจ้าต้องมีส่วนพัวพันกับการเมืองหรือมีก็น้อยที่สุด พี่เชื่อว่าเสด็จพ่อเองก็ทรงดำริเช่นเดียวกัน ฮ่าวหมิงเป็นบุตรชายเจ้ากรมคลัง อย่างไรก็ลอยตัวหากเกิดสิ่งใดขึ้น”

องค์หญิงหนิงเซียงใจหายเมื่อได้ฟังสิ่งพี่ชายเอ่ย

“พี่รองพูดเช่นนี้ ทำให้ข้าเป็นห่วงท่านนัก”

ผู้เป็นน้องกลับมาน้ำตาซึมอีกครั้ง ต่างรู้แก่ใจดีว่ากำลังเกิดคลื่นใต้น้ำในการแย่งชิงอำนาจ แม้ภายนอกจะดูกลมเกลียวร่วมแรงร่วมใจทำงานราชกิจหากแท้จริงแล้วเหล่าขุนนางต่างก็เลือกข้าง

“พี่ดูแลตัวเองได้ เป็นห่วงก็เพียงเจ้ากับเจียวมิ่ง แต่เวลานี้เจียวมิ่งมีผู้ดูแลที่ไว้ใจได้แล้ว พี่อยากฝากฝังเจ้าไว้กับคนที่พี่เชื่อใจที่สุดเช่นกัน”

ไม่ต้องเอ่ยนามก็เข้าใจได้ว่าองค์ชายรองหมายถึงสหายคนสนิท องค์หญิงหนิงเซียงไม่ได้เอ่ยแย้งแม้ในใจยังไม่ยอมจำนน ปัญหาหนักอกของตนนั้นเทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่พี่ชายกำลังเผชิญ หากสิ่งที่เพียรพยายามมาสำเร็จก็จะอยู่เหนือผู้คนทั้งปวง หากพลาดพลั้งก็อาจถึงขั้นสิ้นชีวิต

ร่างอรชรขยับเข้าซบอกกว้างเมื่อพี่ชายโอบกอดตนไปแนบอก มีทางใดช่วยปกป้องพี่ชายได้นางเองก็อยากทำ ทว่าตนเป็นเพียงสตรีไม่อาจก้าวก่ายงานราชกิจ ต้องเชื่อฟังพระบิดาและอยู่ในกฎของฝ่ายในซึ่งมีฮองเฮาควบคุมดูแล

องค์หญิงก็เป็นเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบประดับพระราชวังที่สามารถยกไปตั้งที่ใดก็ได้เมื่อฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัล หรือของกำนัลส่งไปต่างแคว้น

ร่างอรชรที่ซูบผอมลงกว่าเดิมไปมากแอบหลบกลับเข้าไปหลังต้นไม้ใหญ่เมื่อมีขันทีเดินผ่าน มือบางกุมกันแน่นอย่างไม่มั่นใจ โดยมีหลิงเอ๋อร์ยืนใกล้คอยประคองนายตน

“องค์หญิง รอนานอาจไม่ดี ช่วงนี้ท่านแทบไม่กินอะไรเลย ร่างกายอ่อนแอนัก ออกมาด้านนอกเจอทั้งแดดทั้งลมเช่นนี้อาจไม่สบายได้นะเพคะ”

“เจ้าบอกว่าเขาจะเดินผ่านทางนี้หลังไปส่งฎีกาให้ท่านราชเลขาเพื่อถวายเสด็จพ่อไม่ใช่หรือ”

องค์หญิงหนิงเซียงถามพร้อมสีหน้ากังวลใจ

“เพคะ หลิงเอ๋อร์สืบมาอย่างดีแล้วเพคะ”

“แล้วเหตุใดถึงยังไม่เห็น”

นางมารอพักใหญ่แล้ว เวลานี้พระบิดาคงกำลังว่าราชการกับบรรดาขุนนาง ฎีกาก็น่าจะส่งขึ้นไปนานแล้ว เหตุใดผู้ที่ตนรอยังไม่เดินผ่านมาทางนี้

“มาแล้วเพคะองค์หญิง”

หลิงเอ๋อร์กระซิบเมื่อเห็นผู้ที่องค์หญิงรอ

ร่างสูงใหญ่ของหลิวซูหยวนเดินมาพร้อมกับคนในสำนักราชเลขาธิการอีกหนึ่งคน องค์หญิงหนิงเซียงยังหลบอยู่หลังต้นไม้ลอบมองชายหนุ่มก่อนจะพยักหน้าให้หลิงเอ๋อร์ เจ้าตัวก็ก้าวออกไปอย่างรู้หน้าที่

=====

องค์หญิงหนิงเซียงจะทำอะไร ฝากติดตามต่อด้วยนะคะ ^-^

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ฤาจันทราเร้นรัก   27.ลิขิตจันทรา (2)

    “ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ร่างสูงใหญ่เคลื่อนมาหานางพร้อมกับหลี่เหอจือเยว่ยืนนิ่งเพราะรู้สึกถึงแรงบีบถี่ในท้องของตน มือบางกุมท้องและทรุดกายลง เฟยอวี่ก็รีบช่วยประคอง“ปวดท้องหรือ”นางพยักหน้าให้สามี ก่อนจะพูดเสียงสั่น“ข้าทนไม่ไหวแล้ว”เฟยอวี่ตกใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายก็อุ้มภรรยาของตนไปยังดินแดนมนุษย์ หลี่เหอช่วยเนรมิตกระท่อมขึ้นมา“ทำอย่างไรดี หากหลี่เอินอยู่ที่นี่ด้วยก็คงดี”เขาอดคิดถึงน้องสาวไม่ได้เทพสงครามวางร่างอรชรที่งอตัวแล้วร้องดังขึ้นเรื่อยๆ พายุที่หยุดไปเมื่อครู่เริ่มกระหน่ำลงมาอีกครั้ง ฟ้าแลบฟ้าร้องดังสนั่น จือเยว่ยิ่งดิ้นทุรนทุราย ขณะที่เขาทำได้เพียงจับมือบางและโอบกอดอีกฝ่าย“เฟยอวี่...ช่วยด้วย กรี๊ดดดด!!”จือเยว่กรีดร้องออกมาลั่นทั่วทั้งป่า ก่อนแสงสว่างเรืองรองจะวาบขึ้นแล้วปรากฏร่างเด็กทารกใกล้ร่างบอบบางที่หมดสติเฟยอวี่มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก ขณะที่หลี่เหอถึงกับตกตะลึง หากก็รีบเข้ามาอุ้มร่างเล็กที่กำลังแผดเสียงร้องจ้าขึ้นเวลาเดียวกันนั้น ท้องฟ้ามืดมิดสว่างไสวในชั่วพริบตา พายุฝนฟ้าคะนองเลือนหายราวไม่เคยเกิดสภาพอากาศแปรปรวนโหดร้ายก่อนหน้านี้สองหนุ่มสบตา

  • ฤาจันทราเร้นรัก   27.ลิขิตจันทรา (1)

    สองร้อยปีต่อมา...“ให้ลูกไปเถิดนะท่านแม่”“เวลาเช่นนี้สุ่มเสี่ยงเกินกว่าที่ลูกจะไปเสี่ยงอันตราย ท่านย่ารู้ว่าแม่ให้ลูกไปต้องโกรธมากแน่”“ท่านพ่อ”จือเยว่หันไปหาบิดาให้ช่วยเหลือเมื่อมารดาส่ายหน้า ทว่าไท่จื่อจิ่นลี่กลับเหลือบสายตาไปยังภรรยา“ยังไงลูกก็จะไป”ใบหน้างดงามงอง้ำด้วยความขัดอกขัดใจ“เยว่เอ๋อร์ หากในเวลาปกติ พ่อก็คิดว่าเจ้าสมควรไป แต่เวลานี้...”ไท่จื่อสวรรค์ถอนหายยาว“พ่อไม่อนุญาต”จือเยว่มองบิดามารดาอย่างน้อยใจแล้วหันไปยังสามีซึ่งยืนเงียบทั้งยังมีสีหน้าลำบากใจ ริมฝีปากอิ่มสวยก็เม้มขุ่นเคือง“ลูกแข็งแรงดี ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ ก่อนหน้านี้ก็ยังลงไปช่วยเผ่าปีศาจพร้อมกับเฟยอวี่ ครั้งนี้ไยจึงไปไม่ได้”“เวลานั้นลูกไปโดยที่ไม่บอกผู้ใดว่าตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้คนรู้ทั่วทั้งสวรรค์ ยิ่งท่านปู่ท่านย่าของลูก ยิ่งไม่ต้องการให้ลูกทำงานราชกิจใด อีกอย่างก็น่าจะจวนเจียนคลอดแล้ว”“ลูกยังไม่รู้สึกว่าจะถึงเวลา”ผู้ที่ตั้งครรภ์ทว่าท้องไม่ได้โตขึ้นแม้แต่น้อยแย้งมารดา“แม่ก็คลอดลูกหลังตั้งครรภ์ไม่นานนัก”ด้วยบุญญาธิการของชนชั้นสูงเผ่าสวรรค์นั้นไม่อาจล่วงรู้ได้ ฤกษ์งามยามดีเหมาะสมเกิดจากญ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   26.เติมเต็มความคิดถึง (2)

    “จะไม่ให้ข้าได้พักเลยหรือ”“ท่านอยากพักก็พัก ข้าไม่ได้ห้าม”ใบหน้างดงามยังงอง้ำ ดวงตาคู่หวานซึ้งฉายแววขุ่นเคือง ทว่าเฟยอวี่ไม่รู้สึกเกรงกลัวทั้งยังเอ่ยหน้าตาย“ถึงท่านพัก ข้าก็ทำได้ โอ๊ย!”ชายหนุ่มสะดุ้งเพราะนิ้วเล็กจิกแล้วบิดอกหนาของตน“ตรงนี้มันเจ็บนะ”หญิงสาวสะบัดหน้าหนี เขาจึงจับมือที่ประทุษร้ายตนมาจูบ แล้วพาร่างอรชรลงไปนอนสบายๆ ส่วนตนตะแคงข้างกวาดมองเรือนกายเย้ายวน มีเสื้อรั้งอยู่ส่วนแขนและด้านหลัง หากก็แทบจะเปลือยเปล่า“เพิ่งบอกว่าคิดถึงข้า ตอนนี้มางอนเสียแล้ว”“ถึงข้าจะต้องการท่านมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ท่านเอาแต่ใจกับข้า”“อืม ส่วนท่านเอาแต่ใจกับข้าได้”“เฟยอวี่”จือเยว่เสียงเข้มขึ้น ทั้งยังมองสามีตนด้วยแววตาดุ“โธ่ เมื่อครู่เป็นท่านเองที่ปลุกเร้าข้า ทั้งที่ข้าอุตส่าห์ห้ามใจ เพราะเห็นว่าท่านเพิ่งบาดเจ็บและยังเศร้าเสียใจ”“ท่านโทษข้า”เฟยอวี่ยิ้มเจื่อน รู้แล้วว่าหากไม่ยอมก็คงไม่จบ จึงเปลี่ยนไปเป็นง้อภรรยาแทน“ไม่ได้โทษท่าน ข้าดีใจยิ่งนักที่ท่านต้องการข้าถึงเพียงนี้ ข้าผิดที่เย้าท่านให้ได้อาย อย่าโกรธเคืองข้าเลยนะจือเยว่”ชายหนุ่มส่งสายตาอ้อนวอนปริบๆ จือเยว่จึงพยักหน้า

  • ฤาจันทราเร้นรัก   26.เติมเต็มความคิดถึง (1)

    เฟยอวี่ไม่ยอมเป็นผู้รับเพียงฝ่ายเดียว ขยับริมฝีปากได้รูปจูบร้อนแรงกลับไป ขณะยกร่างอรชรให้ขยับขึ้นมาคร่อมตักตน อีกฝ่ายยอมทำตามโดยง่าย มือบางเลื่อนสอดเข้าไปในกลุ่มผมนวดคลึงพลางพัวพันลิ้นเล็กกับลิ้นตนเร่าร้อนจนหายใจลำบาก ทว่าปากนุ่มยังขยับมาเม้มใบหูของเขาต่อทำเอาชายหนุ่มครางครึ้ม“อืม จือเยว่ เวลาร้อยปีทำให้ท่านใจร้อนขึ้นมากนัก”“เพราะข้าคิดถึงอ้อมกอดของท่าน ช่วงเวลาแห่งความสุขแสนสั้นเกินไป”ชายหนุ่มต้องกัดริมฝีปากตนเพราะเจ้าตัวตอบเบาชิดหูทั้งยังกัดติ่งหูเขาหยอกเย้า“ท่านยั่วเย้าเก่งเกินไปแล้ว ข้าคิดว่าท่านคงลืมเลือนสัมผัสจากข้าไปเสียแล้ว”“ข้าเพียงทำตามเสียงเรียกร้องแห่งปรารถนา”บอกแล้วนางก็ไล่เม้มลำคอแกร่ง มือกระชากเสื้อคลุมอีกฝ่ายออกด้วยเวทของตน ก่อนจะไต่สองมือบางไปตามบ่าหนากับแขนกำยำ ทั้งยังจิกปลายนิ้วครูดไปตามแผ่นหลังกว้างเร้าอารมณ์หนุ่มพร้อมแนบหน้าอกตนชิดอกแกร่งเปลือยเปล่า ขยับบดเบียดเชิญชวนมือหนาเลื่อนมาวางแนบเอวบางค่อยๆ ปลดชุดสวยอย่างไม่เร่งร้อนผิดกับอีกฝ่าย ตั้งใจปลดเปลื้องเรือนกายอ้อนแอ้นให้เผยอย่างช้าๆ เพียงด้านหน้า ดูเย้ายวนกระตุ้นเลือดหนุ่มฉกรรจ์ให้ทะยานอยากมากยิ่งขึ้นชายห

  • ฤาจันทราเร้นรัก   25.จือเยว่แม่ทัพสวรรค์ (2)

    “หากไม่คิดบัญชีกับเจ้า ข้าก็ไม่อาจตายตาหลับ ฆ่ามัน!”นางสั่งเสียงเข้ม ฝูงจิ้งจอกก็กระโดดจู่โจม จือเยว่เหินลอยตัวสูงพร้อมหลี่เหอหลี่เอิน และฟาดพันพลังใส่จิ้งจอกที่ถูกวิชามารควบคุม แต่ละตัวตาแดงก่ำน่ากลัวจิ้งจอกกระเด็นไปไกลแต่ก็ผุดยืนขึ้นรวดเร็วราวไม่บาดเจ็บ คงกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกแล้ว ทั้งยังกระโดดได้สูงผิดจิ้งจอกทั่วไปและมีไอดำรอบกายซูเจินเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย นางพุ่งเข้ามาพร้อมสะบัดแขนส่งพลังทำลายล้างสีดำทะมึนเข้ามาใส่ จือเยว่หันไปตั้งรับขณะหลี่เหอหลี่เอินพะวงกับฝูงจิ้งจอก แม้นางจะสกัดพลังทมิฬนั้นได้และผลักดันกลับไปจนอีกฝ่ายผงะ ทว่ากลับมีจิ้งจอกตัวหนึ่งพุ่งมาใส่ หญิงสาวถอยหนีอย่างกะทันไปจนถึงหน้าผา เป็นเวลาเดียวกับที่ซูเจินตั้งตัวได้ซัดพลังตามมา ร่างอรชรถูกกระแทกจากไอดำหงายหลังลงหน้าผาโดยมีจิ้งจอกตัวนั้นตามมาเพื่อขย้ำจือเยว่ลอยลิ่ว กำหนดจิตได้ยากเพราะบาดเจ็บ แล้วอยู่ๆ กลับมีลูกไฟพุ่งลงมายังตัวจิ้งจอกจนถูกเผาไปต่อหน้า รวมทั้งซูเจินกับจิ้งจอกตัวอื่นก็ถูกลูกไฟตามๆ กันขณะได้ยินเสียงซูเจินกรีดร้องหญิงสาวรู้สึกได้ว่าร่างสูงใหญ่โผวูบเข้ามารองรับร่างตนและพาลอยสูงขึ้น ผู้ที่บาดเจ็บเหลือบมอง แ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   25.จือเยว่แม่ทัพสวรรค์ (1)

    เวลาล่วงเลยมาร้อยปี จากขุนพลสวรรค์จือเยว่สามารถขึ้นเป็นแม่ทัพสวรรค์ได้แล้ว นางเป็นผู้ดูแลราชกิจทั่วทั้งหกพิภพแทนไท่จื่อจิ่นลี่เต็มตัว แม้ผู้นำทัพสวรรค์ยังเป็นไท่จื่อ รวมถึงหน้าที่รับผิดชอบของเทพสงครามจือเยว่ก็เป็นผู้จัดการโดยปราศจากการแต่งตั้งเทพสงครามคนใหม่ หญิงสาวคิดว่าองค์จักรพรรดิสวรรค์ยังไม่เห็นว่าผู้ใดมีความสามารถเพียงพอ และตัวนางเองยังต้องได้รับความไว้วางใจจากขุนนางสวรรค์กับหกพิภพถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ตำแน่งใดไม่สำคัญ นางอยากทำหน้าที่ของตนกับเฟยอวี่ให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับเทพสงครามยังคงอยู่“ชายแดนเผ่าจิ้งจอกติดกับดินแดนมนุษย์มีอสูรร้ายอาละวาดกินผู้คนเป็นอาหาร ท่านแม่ทัพจะไปจัดการด้วยตนเองหรือให้ข้าไปแทนขอรับ”หลี่เหอถามขณะหารือในเรื่องฎีกาที่ส่งมา บางส่วนสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องทูลฮ่องเต้สวรรค์ก่อน แม่ทัพจือเยว่จะเป็นผู้ตัดสินใจหรือไม่ก็ปรึกษาไท่จื่อ ด้วยเวลานี้องค์จักรพรรดิวางมือในหลายส่วนแล้วจือเยว่นิ่งงันไป ชายแดนเผ่าจิ้งจอกกับดินแดนมนุษย์ก็หมายถึงเขตรอยเชื่อมต่อที่เคยไปครั้งก่อน ครั้งที่ทำให้นางสูญเสียที่สุดในชีวิต นางไม่ควรไปหากไม่ต้องการเจ็บปวด ทว่าก็คิ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status