공유

บทที่ 6

last update 최신 업데이트: 2025-04-01 16:00:05

“หม่าม้า ไหนลองพูดสิครับ หม่าม้า”

“ม่ะแม่ะ แม่ะ อ้ายย” ทำไมลิ้นเปลี้ยแบบนี้

“เก่งมากครับ ฟอด” ลออจันทร์หอมแก้มยุ้ยฟอดใหญ่เป็นรางวัลให้แก่ลูกน้อยที่พยายามเลียนเสียงตนได้สำเร็จ

เด็กอายุเจ็ดเดือนจะเริ่มพูดคำง่าย ๆ ได้แล้วลออจันทร์จึงอยากให้ลลิตลองฝึกดูแต่ปรากฏว่าลูกเขาช่างฉลาดจริง ๆ สอนไม่กี่รอบก็พูดได้แล้ว

“แม่ะ แม่ะ หม่ำ หม่ำ” หม่าม้าลลิตหิวข้าวแล้ว

“โอ๋ ลลิตหิวข้าวแล้วเหรอครับ รอแปปนึงนะครับ”

“อ้ายย ยา อ้ายย”

กริ๊ง กริ๊ง

ลออจันทร์ที่กำลังบดข้าวกับกล้วยสุกได้ยินเสียงกริ่งจึงเดินไปเปิดประตูเชิญแขกที่คุ้นหน้าคุ้นตาเข้ามาในห้อง ครามที่ในวันนี้แต่งตัวสบาย ๆ สวมเสื้อยืดแบรนด์ดังกับกางเกงเนื้อดีถือถุงใบใหญ่เข้ามาในห้องสร้างความสนใจให้แก่ลลิต

“อา อา” ถืออะไรมาอ่ะ

ลลิตคลานมาตรงหน้าผู้เป็นพ่อด้วยความอยากรู้ ครามที่เห็นลูกคลานมาหาก็ดีใจย่อตัวลงรวบร่างอวบอัดเข้ามากอดมาหอม

“แอ้ อ้ายยย” อย่ามาหอมนะ

มือป้อมพยายามดันใบหน้าให้ห่างออกไปแต่ก็ต้องยอมแพ้แรงผู้ใหญ่ปล่อยให้ครามกอดฟัดให้หนำใจ

“ลออกำลังทำอาหารเช้าอยู่เหรอ”

“ทำอาหารให้ลูกน่ะครับ” พูดจบก็เดินไปถือชามรูปหมีน่ารักมาเตรียมป้อนข้าวให้ลูกน้อย

“หม่ำ ๆ ครับ คนเก่ง”

“หม่ำ หม่ำ” ร่างน้อยดิ้นรนออกจากอ้อมแขนแกร่งยื่นมือไปทางผู้เป็นแม่

“วันนี้ขอพี่ลองป้อนข้าวลูกหน่อยเถอะนะ” หลายวันที่ครามเห็นลออจันทร์ป้อนข้าวลูกชายจึงนึกอยากจะป้อนข้าวให้ลูกบ้าง

“เอ ก็ได้ครับ”เมื่อเห็นสายตาเว้าวอนของคนตัวโตจึงยอมถอย ครามยิ้มดีใจรีบอุ้มลูกนั่งโต๊ะทานข้าวสำหรับเด็กก่อนจะนั่งขัดสมาธิมือหนึ่งถือชามข้าวอีกมือใช้ช้อนตักอาหารจ่อไปที่ปากเล็ก

“......” มือหนาจ่อช้อนรูปหมีที่ตักอาหารเต็มช้อนเกือบล้นไปที่ปากน้อย ๆ ที่เม้มสนิท สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

ครามหน้าเสียเมื่อเห็นลูกชายเมินใส่ ลออจันทร์หัวเราะคิกคักเมื่อเห็นท่าทางเงอะงะของชายหนุ่ม

“คุณครามครับ ตักคำโตไปแล้วครับ”

“อ่า งั้นหรอกหรือ” ครามเริ่มใหม่ใช้ช้อนตักพอดีคำก่อนจะจ่อไปที่ปากน้อย ๆ อีกครั้ง วินาทีที่ลลิตยอมอ้าปากกินข้าวที่เขาป้อนครั้งแรกทำให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

“อ้าาาา” มัวเหม่ออะไร ป้อนต่อสิ

“ครับ อ้ามมมม” ครามลองเลียนแบบลออจันทร์เวลาที่ป้อนข้าวลูกน้อยมักจะทำเสียงแปลกประหลาดจึงจดจำลองนำมาใช้กับลูกบ้าง

ปัญญาอ่อนชะมัด พ่อใครเนี่ย

หลังมื้อเช้าที่ชวนอลเวงผ่านไป ลออจันทร์ที่ขอตัวไปซักผ้าทิ้งให้พ่ออยู่เล่นกับลูกตามลำพัง ครามเมื่อสบโอกาสก็หยิบของข้างในถุงที่อยู่ด้านข้างออกมา

“พี่ไดโนเสาร์ของน้องลลิตเองครับ” ครามพยายามฉีกยิ้มหลอกล่อลูกชายด้วยตุ๊กตาที่มีขนาดเหมาะสำหรับเด็ก

“อูววว ดายย” ไดโนเสาร์สีชมพูซะด้วย นี่เห็นฉันเป็นคนยังไง

ต่อให้ในใจเกรี้ยวกราดแค่ไหนแต่มือกับคว้าหมับไปที่ตัวตุ๊กตาพลางเอาเข้าปากทันที

“โธ่ หนูอย่าเอาเข้าปากสิครับ”

“แอ่ะ แอ้” มันห้ามได้ที่ไหนเล่า

ครามพยายามเบี่ยงเบนความสนใจเด็กน้อยด้วยการเปิดการ์ตูนในสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดให้ดูและมันก็ได้ผลเมื่อลลิตยอมเอาหางไดโนเสาร์ออกจากปากและสนใจตัวดุ๊กดิ๊กที่เต้นอยู่ในโทรศัพท์

ในโลกนี้มีโดเรม่อนด้วยงั้นเหรอ งั้นมันก็ไม่ต่างไปจากโลกเดิมที่เราเคยอยู่เลยน่ะสิ

“อูวว อา อูวว”เสียงตื่นเต้นของลูกน้อยเรียกความสนใจจากลออจันทร์ที่กำลังตากผ้าอยู่นอกระเบียง

สงสัยลลิตจะชอบคุณครามมาก

“เสร็จแล้วเหรอ ไปกันเถอะ” ครามเมื่อเห็นร่างบางเตรียมตัวเสร็จแล้ว ก็โอบอุ้มร่างลูกน้อยที่ยังกอดตุ๊กตาไว้ขึ้นแนบอก

“ครับ” มือของลออจันทร์ถือกระเป๋าใบใหญ่ที่ข้างในมีแต่ของหนูน้อยลลิตเท่านั้น

“ดา ดา ดา” ไปไหนกันเหรอ

ทารกน้อยนั่งรถไปกับพ่อแม่ด้วยความสงสัยพลางกัดหางตุ๊กตาไดโนเสาร์ไปด้วย ครามมองภาพลลิตฟัดตุ๊กตาอย่างเมามันครุ่นคิดในใจว่าคงต้องไปซื้อเพิ่มอีกหลายตัวเผื่อเจ้าตัวน้อยกัดหางไดโนเสาร์ตัวนี้ขาดไปจะได้มีตัวใหม่ใช้แทนทันที

เมื่อรถเคลื่อนตัวไปสักพักก็หยุดตรงสถานที่น่ากลัวแห่งหนึ่ง ครามที่อุ้มลูกน้อยลงจากรถก็รับรู้ได้ว่าร่างในอ้อมอกชะงักไปและเริ่มเบะปาก

เขารู้แล้วว่าหม่าม้ากับเจ้าพ่อโง่พาเขามาที่ไหน

“แงงงงงงงง” เสียงร้องไห้โฮดังออกมาพร้อมกับร่างกายที่ดีดดิ้นไปมาจนครามต้องรวบลูกน้อยไว้แน่น

“เหมือนแกจะรู้นะว่าเรามาที่ไหน” ครามพูดยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาลเอกชนพร้อมกับร่างของลออจันทร์ที่เครียดเกร็งไม่แพ้คนเป็นลูก

แน่ละสิ ลออจันทร์ไม่เคยเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่หรูหราขนาดนี้มาก่อน รอบที่พาหนูน้อยลลิตไปฉีดวัคซีนก็พาไปที่โรงพยาบาลรัฐธรรมดาเท่านั้น แต่เมื่อครามรู้เรื่องที่ต้องลลิตน้อยต้องไปฉีดวัคซีนตามกำหนดก็ขอตามไปด้วยทันที แต่พอรู้เรื่องสถานที่ที่ลูกน้อยต้องไปฉีดก็นิ่งเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“พี่พอจะรู้จักโรงพยาบาลดี ๆ อยู่บ้าง พรุ่งนี้ให้พี่ไปส่งนะครับ”

“แต่ว่า...”

“เถอะนะ ให้พี่ได้ดูแลลลิตบ้าง”สายตาคมมองไปยังลูกน้อยที่นั่งเล่นตัวต่อกับน้องยาหยีอย่างสนุกสนานในมุมเด็กเล่น

“ก็ได้ครับ”

จึงเป็นที่มาของเรื่องราวที่เกิดขึ้นในตอนนี้

“ฮึก แงงงงงง”

“สวัสดีค่ะ วันนี้พาน้องมาฉีดวัคซีนหรือคะ” พยาบาลสาวสวยยิ้มหวานต้อนรับคุณพ่อยังหนุ่มตรงหน้า

“ครับ นัดไว้แล้วครับ ชื่อคราม โยธินตระกูล”

“คะ เอ๊ะนี่มัน...” พยาบาลที่เพิ่งยิ้มหวานสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นนามสกุลของชายหนุ่ม

“อ้าว พี่ครามมาแล้วเหรอ” เสียงเรียกชื่อจากด้านหลังทำให้ครามและลออจันทร์หันไปเจอกับร่างสูงโปร่งในชุดกาวน์หน้าตาน่ารัก หากสังเกตดี ๆ เมื่อยามคุณหมอยิ้มจะเห็นลักยิ้มเล็ก ๆ ที่มุมปากด้านซ้ายด้วย

“กันต์เองเหรอ” ครามพยักหน้าให้กับลูกพี่ลูกน้องของตนเป็นการทักทาย คุณหมอหนุ่มชะงักไปวินาทีหนึ่งเมื่อสบตาสีอำพันของเด็กน้อยในอ้อมแขนของญาติผู้พี่

“เด็กคนนี้คือลลิตเองสินะ” หมอกันต์คือคนที่ครามไว้ใจให้ตรวจดีเอ็นเอระว่างเขากับอัยวาจึงพลอยรู้เรื่องราวทั้งหมดไปด้วย

“ฮึก ฮือออ” ใครอีกเนี่ย?

“จ๊ะเอ๋” หมอกันต์คนมาดเท่เวลาเล่นกับหลานช่างดูปัญญาอ่อนเหลือเกิน ทุกคนที่เห็นภาพนี้ต่างคิดในใจเหมือนกันหมด หากแต่หนูน้อยลลิตกลับดูชอบท่าทางเพี้ยน ๆ ของหมอหนุ่ม

“คิกคิกคิก” ฮ่าฮ่าฮ่า ไอ้หมอนี่ตลกชะมัด

“อะแฮ่ม นี่ลออจันทร์เมียของฉันเอง” เมื่อเห็นท่าทางปัญญาอ่อนของน้องชายทำให้ลูกชายหยุดร้องไห้ได้ จึงแนะนำลออจันทร์ให้รู้จัก

คุณคราม” ลออจันทร์หน้าซีดเมื่อได้ยินคำแนะนำตัวแบบนั้น

คุณโรสรินต่างหากที่เป็นภรรยาของคุณคราม

หากยังไม่ทันได้เอ่ยแย้งก็ถูกหมอหนุ่มจับมือทักทายเสียก่อน

“สวัสดีครับพี่สะใภ้ เรียกผมว่ากันต์เฉย ๆ ก็ได้นะครับ เหมือนเราสองคนจะอายุไล่เลี่ยกันเลย”

“คุณกันต์ครับ ผมกับคุณครามไม่ได้...”

“อ่ะ ได้เวลาแล้ว เราไปกันเถอะ” ไม่รอให้ลออจันทร์ได้แก้ตัว คนตัวสูงก็รีบพาสองแม่ลูกไปขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นที่ต้องการทันที

“พี่ครามนี่ขี้หวงชะมัด” หมอหนุ่มบ่นอุบอิบ เมื่อพี่ชายของตนลับสายตาไปก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้พยาบาลที่ยังทำหน้างุนงง

“ไม่ทราบว่าคุณครามคนเมื่อกี๊ ใช่คนเดียวกันกับเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ไหมคะ” พยาบาลตื่นเต้นเมื่อคิดว่าตนเองโชคดีได้เจอเจ้าของโรงพยาบาลที่แทบไม่เคยเหยียบย่างเข้ามาตรวจงานเลยสักครั้ง

“ถูกแล้วครับ ผมก็นึกว่าคุณรู้แล้วซะอีก” ทิ้งระเบิดไว้ลูกใหญ่ก่อนจะผิวปากเดินทอดน่องไปตรวจงานบริเวณอื่น

“ลลิตครับ หันหน้ามาหน่อยเร็ว คนเก่ง” ลออจันทร์พยายามกล่อมลูกชายที่ขอตัวเป็นก้อนซุกเข้าที่หน้าท้องของครามให้หันมา

“ฮึก แงงงงง” หม่าม้าลลิตกลัวเข็มครับ

เกิดมาสามสิบปีไม่เคยกลัวอะไรนอกจากเข็มแท่งเล็ก ๆ ไม่ว่าจะถูกหม่าม้าเกลี้ยกล่อมขนาดไหนเจ้าก้อนน้อย ๆ ก็ไม่ยอมหันออกมา ครามจึงตัดสินใจใช้วิธีชั่วร้าย

“โอ๊ะ นั่นอะไรน่ะ” มือยาวชี้ไปที่ด้านหลัง คุณหมอที่รอจังหวะอยู่แล้วรีบฉีดวัคซีนเข็มเล็กเข้าที่แขนนุ่มนิ่มทันที ลลิตน้อยที่หลงกลคนเป็นพ่อได้แต่แผดเสียงร้องลั่น

“แงงงงงงงงง” ฝากไว้ก่อนเถอะ ไอ้พ่อโง่

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 54 END

    แทนไทเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก วันนี้นอกจากจะมีครอบครัวเพลิงโชติเมธีแล้วยังมีครอบครัวโยธินตระกูลมาร่วมรับประทานอาหารด้วยลินินตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของคุณวาสินีที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่เข้ามา ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งเก้าอี้คอยชวนคุณยายพูดคุยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ครามกับปราบนั่งคุยล้อมวงกับคุณอารัญและคุณพิศาล เด็กชายคีตานั่งไถโทรศัพท์เงียบ ๆ นั่งข้างลลิตกับแทมมาลีน“อ้าว พี่จ๋าหายไปไหนมา”แทมมาลีนเอ่ยทัก เผลอละสายตาจากหมากรุกที่เขากับลลิตฟาดฟันมาหลายนาที จังหวะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไม่รู้ตัวเลยว่าลลิตแอบหยิบหมากตัวเองออกไปหนึ่งตัว“ตานายแล้ว รีบเดินสิ”“เร่งทำไม เอ๊ะ ทำไมมันแปลก ๆ”“แปลกอะไร ไม่มี้” ลลิตพูดเสียงสูง ไม่มีพิรุธสักนิด แทมมาลีนที่เห็นท่าทางลลิตเป็นแบบนี้ก็กระโจนเข้าไปขยี้ผมนุ่มทันที“หน็อยแน่ ทำเป็นเนียนเลยนะ”“ปล่อยนะ นายกล้าทำกับพี่เขยแบบนี้ได้ยังไง” ลลิตเผลอตัวหลุดโพล่งออกมา

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 53

    “บาดแผลสมานตัวดีมาก อย่าลืมมาพบแพทย์ตามนัดอีกสองสัปดาห์นะครับ ตอนนี้คุณหนูสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วครับ”คุณหมอมอบรอยยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นั่งยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ”ลลิตไหว้ขอบคุณลุงหมอเจ้าของไข้ที่คอยดูแลเขามาตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเมื่อบอกลาคุณหมอเสร็จเจ้าตัวแสบก็ลงมายืนข้างเตียงโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยพยุงอีกแล้ว“...”แทนไทที่เตรียมอุ้มลลิตทำหน้าเสียดาย ช่วงหลังที่ลลิตพักฟื้นเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะมีครามกับแทนไทคอยอุ้มไปไหนต่อไหนตลอดถึงจะถูกลออจันทร์บ่นว่าก็ทำหูทวนลมทั้งสามีและลูกเขยวันนี้ครามติดประชุมสำคัญทำให้มารับลูกชายออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ แทนไทจึงอาสามารับแทนสร้างความประทับใจให้แก่ลออจันทร์ยิ่งไปอีก“ไปกันครับ ผมอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว”ลลิตเดินนำหน้าลออจันทร์และแทนไทออกไปอย่างร่าเริง“ลูกคนนี้นับวันยิ่งแก่นแก้วไปทุกที” แทนไทมองลลิตที่ทำตัวร่าเริงด้วยแววตาอ่อนโยน“ดีแล้วครับ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้”“หม่าม้า ล

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 52

    “ตอนนี้แผลผ่าตัดของคุณหนูลลิตปกติดีครับ ไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ผู้ป่วยสามารถลุก เดิน นั่งได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนภายใน หมอจะทำการตัดไหมในวันที่ 7 พร้อมกลับบ้านในวันเดียวกันได้เลยครับ”ครามและลออจันทร์นั่งฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ด้วยความดีใจ“คุณหมอหมายความว่า ลลิตหายแล้วใช่ไหมครับ” ลออจันทร์ถามย้ำอย่างตื่นเต้น“ครับ ตอนนี้คุณหนูลลิตปลอดภัยแล้วครับแต่ยังต้องทานยาและมาพบแพทย์ตามนัดด้วยนะครับ”“ขอบคุณครับหมอ” ครามโค้งตัวขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้“ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”คุณหมอนพ เจ้าของคนไข้นึกชื่นชมเจ้าของโรงพยาบาลตรงหน้าที่ไม่ถือตน เมื่อได้เวลาที่ต้องไปตรวจคนไข้ก็ขอตัวออกไปก่อน ลออจันทร์ลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่ยังหลับใหล“ลลิตปลอดภัยแล้วนะครับ”“รีบตื่นมาฟังข่าวดีได้แล้ว เจ้าตัวยุ่ง” เหมือนลลิตรู้ตัวว่าหม่าม้ากำลังพูดกับตน ร่างบางส่งเสียงพึมพำออกมาอย่าง

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 51

    ครามที่สองมือหอบข้าวของของภรรยาและลูกชายมาเต็มสองมือไม่ยอมให้ป้าจิตช่วยถือเดินเข้าโรงพยาบาลมาพร้อมกับคุณไพลินและคุณพิศาลที่เดินหน้าเครียดสร้างความตื่นตกใจให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก“พี่คราม ผมได้ยินข่าวของลลิตแล้ว หลานของผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอกันต์ที่ออกไปสัมมนาข้างนอกวิ่งเข้ามาเจอครอบครัวของญาติผู้พี่พอดีถามเสียงลั่นไม่นะ หลานชายที่น่ารักของเขาทำไมต้องโชคร้ายขนาดนี้ด้วย“ตอนนี้ลลิตยังปลอดภัย แกก็อย่าตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ได้ไหม กว่าฉันจะปลอบคุณแม่ให้สงบลงต้องใช้เวลาแค่ไหน”ครามกระซิบบอกน้องชายเสียงเบา สายตาคอยมองคุณไพลินที่เดินนำหน้าด้วยความเป็นห่วง“แหะ แหะ เข้าใจแล้วครับ” หมอกันต์แย่งตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน&

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 50

    “ป๊ะป๋าตื่นสาย”ลลิตพูดลอย ๆ เมื่อเห็นครามอุ้มลินินเดินลงมาจากชั้นบน ตอนนี้เขากับคีตากำลังกินข้าวเช้าที่ป้าจิตเป็นคนทำให้ คีตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เกี่ยวกับแผนการของพี่ชายนั่งตักข้าวต้มกินต่อไป “วันนี้วันหยุด ป๊ะป๋าก็อยากตื่นสายบ้าง หม่าม้าก็ชอบตื่นสายเหมือนป๊ะป๋านะ” ครามตอบโต้ลูกชายด้วยการยกหม่าม้าของเจ้าตัวขึ้นมาอ้าง ลลิตหน้าบูดเมื่อพูดอะไรไปเจ้าพ่อบ้ากามก็ไม่สะทกสะท้านจึงนั่งจ้วงข้าวต้มเข้าปากคำโต “มาค่ะ ลินินเดี๋ยวพ่อป้อนหนูนะคะ” “อื้อ ไม่เอาค่ะ หนูอยากกิงเอง ลินินโตแย้วนะ” เด็กหญิงบอกว่าตัวเองโตแล้ว ครามได้แต่นั่งลงทานข้าวแต่โดยดี “เด็ก ๆ ทานข้าวเสร็จหรือยังครับ”ลออจันทร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาลูกชายลูกสาวก่อนจะไล่หอมหัวคนละหนึ่งที&nbs

  • ลลิตจะปกป้องหม่าม้าเอง   บทที่ 49 NC เล็กน้อย

    "แล้วนายจะกลับอิตาลีเลยหรือเปล่า”ลลิตถามอัยวาขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ ครามอยากตามลงมาด้วยแต่ถูกเตวิชขวางไว้เสียก่อนจึงได้แต่มองลูกชายและอดีตลูกชายเดินออกไปตาละห้อย “คงต้องกลับเลย ฉันลาหยุดได้แค่ไม่กี่วัน” ราฟาเอลก็ทิ้งการเรียนตามเขามาด้วย อัยวาไม่อยากให้แฟนตัวเองถูกไล่ออกจึงต้องรีบกลับไป“ฉันอยากแวะไปหาคุณยายกับคุณตานะแต่ฉันไปตามที่อยู่เดิมกลับมีคนอื่นเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว” อัยวาพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ ลลิตได้แต่เห็นใจเรื่องของครอบครัวอัยวาเขาคงไปยุ่งมากไม่ได้โอเมก้าสองคนเดินไปยังร้านกาแฟของลออจันทร์ ทันทีที่ลลิตเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอัลฟ่าสองคนนั่งจ้องหน้ากันโดยมีน้องคีย์นั่งทำการบ้านด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ“พี่ลลิตมาแย้ว”ลินินที่นั่งอยู่บนตักแทนไทดิ้นลงวิ่งมาหาพี่ชาย“ลินินมาได้ไงครับ” ลลิตถามด้วยความแปลกใจ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา“วันนี้โยงเยียนเล

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status