“ฮึก อึก” เสียงสะอื้นไห้ของเด็กน้อยดังเป็นพัก ๆ ร่างอ้วนซึ่งตอนนี้ซุกหน้ากับบ่าลออจันทร์ มือป้อมกอดคอผู้เป็นแม่ไว้แน่นแต่ไม่วายจับหางไดโนเสาร์ไม่ยอมปล่อย
“อย่ารัดคอแม่แน่นแบบนั้นสิครับ มาให้พ่ออุ้มมา”ครามเห็นท่าลูกหมีโคอาล่ากอดต้นไม้ของลูกก็อดขำไม่ได้
“แอ้ แอ้” ไปไกล ๆ เลยนะ
มือน้อยที่กำหางไดโนเสาร์อยู่ใช้แรงฟาดตุ๊กตาไปที่ชายหนุ่มท่าทางเกรี้ยวกราด จนลออจันทร์ต้องปรามลูกน้อย
“เอ๊ะ ลลิตอย่าทำแบบนี้สิครับ”
“ฮึก แงงงงงง”หม่าม้าดุลลิตเหรอ
เสียงร้องไห้ที่เพิ่งเงียบไปกลับมาดังอีกครั้ง ลออจันทร์มองลูกน้อยอย่างอ่อนใจมือบางคอยลูบแผ่นหลังน้อย ๆ พลางโยกตัวกล่อมร่างนุ่มนิ่ม
“แม่ะ อะบูวววว” หม่าม้าอยากกลับบ้านแล้วครับ
“กลับกันเถอะ ลูกคงง่วงนอน” ครามถือของแทนลออจันทร์โอบประคองร่างสองแม่ลูกเข้าไปในลิฟต์ ลออจันทร์ไม่อยากอยู่ในอ้อมแขนแต่ก็จนใจเมื่อสองมืออุ้มลูกน้อยอยู่
รถหรูแล่นมาจอดหน้าห้องเช่าอีกครั้ง ครามช่วยขนของลงจากรถเดินตามลออจันทร์ขึ้นห้องไปท่าทีเป็นธรรมชาติไม่มีวี่แววว่าจะขอตัวกลับไปก่อน
ลออจันทร์จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ประคองลูกชายให้นอนลงบนเตียง หากแต่หนูน้อยกลับงอแงไม่ยอมผละจากร่างผู้เป็นแม่
“เอาลูกมาให้พี่อุ้มเถอะ ลออไปชงนมมาให้ลูกก่อนนะ” มือหนาเข้าไปช้อนอุ้มร่างอ่อนแรงของลลิตไว้
“ครับ ขอบคุณครับ”
ครามแนบจมูกโด่งไปที่ศีรษะน้อย ๆ สูดกลิ่นแป้งเด็กเข้าไปหลายทีโดยที่ลลิตไม่สามารถปัดป้องได้
“แอ่ะ แอ่ะ” ง่ะ ลลิตปวดหัวจังเลยหม่าม้า
ครามรับนมมาจากลออจันทร์นั่งลงบนเตียงประคองลูกน้อยไว้บนตักจ่อขวดนมไปที่ปากเล็ก
“จ๊วบ จ๊วบ” อืม เราถือเองได้น่าาา
สองมือจับขวดนมไว้เองก่อนจะดูดกลืนจนน้ำนมในขวดพร่องไปอย่างรวดเร็ว ครามมองดูลูกชายที่เริ่มตาปรือมือถือขวดนมนอนพิงร่างกับตักกว้าง
เมื่อลลิตกินนมหมดแล้วก็อุ้มพาดบ่าให้เรอออกมาก่อนจะวางที่หลับสนิทลงบนเปลที่แกว่งไปมา
“ขอบคุณคุณครามมานะครับ” ลออจันทร์ขอบคุณคนตรงหน้าที่อาสาไปส่งตนกับลูก
“ไม่เป็นไรหรอก ลลิตก็เป็นลูกพี่เหมือนกัน” ครามพูดกับคนตรงหน้าด้วยเสียงอ่อนโยน ลออจันทร์หลบสายตาอ่อนโยนก่อนจะจะขอตัวไปล้างจาน
วันนี้จะปล่อยคนขี้อายไปก่อนแล้วกัน
ในห้องนอนขนาดใหญ่ของบ้านโยธินตระกูลร่างสูงที่สวมเพียงกางเกงนอนขายาวตัวเดียวนอนหลับพักผ่อนใบหน้าคมคายมีรอยยิ้มแต่งแต้มคล้ายกับอยู่ในห้วงฝันดี แต่ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่นเนื่องจากเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ
ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่อเห็นชื่อที่เมมไว้เป็นชื่อบอดี้การ์ดที่ถูกส่งไปดูแลลออจันทร์กับลูกชาย
“เกิดอะไรขึ้น”
“เมื่อสักครู่คุณลอออุ้มคุณหนูออกมาด้วยท่าทางเร่งรีบครับ เหมือนยืนรอแท็กซี่อยู่ พวกเราจึงต้องแสดงตัวว่าเป็นคนของท่านครับ” เสียงหนักแน่นเอ่ยรายงานผู้เป็นนาย
“อืม ยื่นโทรศัพท์ให้ลออที”
“ครับ คุณท่านอยากคุยกับคุณลออครับ” เสียงกุกกักดังขึ้นก่อนที่จะได้ยินเสียงหวานรับสาย
“อ่ะ ครับ คุณคราม” เสียงสั่นเอ่ยเรียกชื่อคนในสาย
“เกิดอะไรขึ้น”
“ฮึก ลลิตครับ ลลิตไข้สูงมากเลย ผมทำยังไงไข้ก็ไม่ยอมลดจึงอยากพาแกไปตรวจที่โรงพยาบาลครับ”
“ลลิตไม่สบายงั้นเหรอ” ร่างสูงผุดลุกขึ้นจากเตียงไปยังห้องแต่งตัวอย่างรวดเร็วพร้อมกับสั่งปลายสายด้วยเสียงร้อนรน
“รีบพาลลิตไปโรงพยาบาลโยธินตระกูล ให้บอดี้การ์ดของพี่พาไป”
“ครับ ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่จะรีบตามไป” เอ่ยปลอบประโลมก่อนจะกดวางสาย คว้ากุญแจรถบึ่งไปที่โรงพยาบาลทันที
แผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลโยธินตระกูล
ครามรีบเปิดประตูเข้าไปยังห้องแผนกฉุกเฉินสายตาคมกวาดไปทั่วจนเจอกับร่างบอบบางอยู่ในชุดนอนที่ถูกคลุมทับด้วยเสื้อสูทสีดำของหนึ่งในบอดี้การ์ดที่เขาส่งไปดูแล
“ลออ ลูกเป็นยังไงบ้าง”
“คุณหมอฉีดยาลดไข้ให้แล้วครับ ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว” ลออจันทร์นั่งกุมมือลูกไว้เอ่ยบอกคนที่มาใหม่เบา ๆ
“อืม ค่อยยังชั่ว” ครามพยักหน้าโน้มตัวลงหอมหน้าผากที่ยังร้อนผ่าวของลูกชาย ก่อนจะผละตัวออกห่างโทรไปสั่งการบางอย่าง
ไม่กี่นาทีต่อมาคนจำนวนหนึ่งก็เข้ามาพาตัวทารกน้อยออกไป ลออจันทร์ตกใจกับบรรดาคนที่โผล่มากะทันหัน ครามโอบร่างบางที่ผวาตามลูกน้อยใจก่อนจะเอ่ยปลอบประโลม
“ไม่มีอะไร พี่แค่จะย้ายลูกไปนอนห้องที่สบายกว่านี้” ลออจันทร์ที่ได้ยินดังนั้นจึงยินยอมเดินตามแรงจูงมือขึ้นลิฟต์ตามไปด้วย
ภายในห้องวีไอพีช่างกว้างขวาง บนเตียงนอนขนาดใหญ่มีเพียงร่างเด็กทารกนอนอยู่ทำให้เหลือพื้นที่พอให้ลออจันทร์นอนเคียงข้างเฝ้าดูลูกน้อยด้วย
บริเวณด้านข้างมีสระบอลขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มความบันเทิงให้แก่หนูน้อยตอนตื่นมา ครามมองลออจันทร์ที่นอนตะแคงข้างมองดูลลิตที่หลับตาพริ้มอย่างเงียบ ๆ
“ลออ เรามาคุยกันหน่อยดีไหม” เสียงเรียกทำให้ลออลุกขึ้นมามองชายหนุ่มอย่างงุนงง
ครามที่นั่งโซฟาในตอนแรกย้ายร่างตัวเองขึ้นมานั่งบนเตียงจ้องมองใบหน้าหวานก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า
“ลออ เธอย้ายมาอยู่กับพี่เถอะนะ” ครามตัดสินใจให้สองแม่ลูกย้ายมาอยู่กับตน ชายหนุ่มคิดเรื่องนี้ในขณะที่ขับรถมาโรงพยาบาล
“ตอนที่พี่รู้ว่าลลิตไม่สบายแต่พี่ไม่ได้อยู่เคียงข้างครอบครัวของพี่ในตอนนั้น พี่รู้สึกแย่มากและพี่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
“ได้โปรด พวกเราสามคนมาเริ่มต้นใหม่ สร้างครอบครัวของเราขึ้นมาด้วยกันเถอะนะ”มือหนาลูบไล้ใบหน้าก่อนจะโน้มไปจุมพิตกับริมฝีปากบางเบา ๆ ลออจันทร์หลับตาพริ้มรับจูบจากชายหนุ่มก่อนจะนึกถึงคนในครอบครัวของครามอีกสองคนจึงดันตัวออกอย่างรวดเร็ว ครามมองการกระทำของร่างบางอย่างไม่เข้าใจ
“แล้วคุณโรสรินกับลูกอีกคนของคุณครามล่ะครับ” เสียงร้าวรานยามเอ่ยถึงครอบครัวที่แท้จริงของคนตรงหน้า
“ฮึก ผมไม่อยากเป็นเมียน้อยและไม่อยากให้ลลิตเป็นลูกเมียน้อย เพราะงั้นคุณครามกลับไปเถอะครับ” ลออจันทร์ที่ทนไม่ไหวร้องไห้ออกมา
“พวกเราสองแม่ลูกอยู่ด้วยกันได้” ลออจันทร์ย้ำอีกรอบ
ครามได้ยินความในใจแม่ของลูกก็ตบหน้าผากตัวเองดัง “เพียะ” จนลออจันทร์สะดุ้งโหยงมองการกระทำของคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะเรื่องนี้เองเหรอถึงทำให้ลออไม่ยอมย้ายไปอยู่กับพี่” ครามนึกไม่ถึงว่าเรื่องโรสรินกับอัยวาจะเป็นปมปัญหาสำคัญที่ลออจันทร์ไม่ยอมย้ายไปอยู่กับตน
“พี่หย่ากับโรสรินแล้ว” ลออจันทร์ที่ได้ยินดังนั้นก็ตกใจ ครามเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ลออจันทร์ฟังทั้งหมดรวมถึงเรื่องของอัยวาด้วย
“เรื่องในคืนนั้น พี่จำได้ว่าตัวเองนอนกับโอเมก้าชายชัด ๆ แต่พอตื่นมากลับเป็นโอเมก้าผู้หญิงซะงั้น” ครามบ่นความในใจที่กักเก็บมานาน เพราะคนในครอบครัวไม่มีใครยอมเชื่อเขาเลยสักคน
“เพราะใครกันที่แอบทิ้งพี่ไปจนทำให้โรสรินสบโอกาสสร้างเรื่องราวขนาดนี้” สายตาคาดโทษไปยังลออจันทร์ที่นั่งหน้าแดงนึกละอายใจเมื่อเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากที่ตนตัดสินใจหนีไปก่อนที่ชายหนุ่มจะตื่น
“ขอโทษครับ” เอ่ยขอโทษเสียงเบาราวกับยุงบิน
ครามเชยคางเรียวได้รูปขึ้นมาสบตากับตนพร้อมกับพูดประโยคเดิมอีกครั้ง
“เราสามคนมาเริ่มต้นใหม่เถอะ”
“ครับ” หลับตารอคอยจูบแสนหวานอีกครั้งแต่ถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเล็ก ๆ ที่รู้สึกตัวขึ้นมา
“แอ้ แอ่ะ แอ้” หม่าม้าอยู่ไหน ฮึก ลลิตเจ็บจังเลย
ครามและลออจันทร์ที่ไม่ทันได้สวีทกันได้แต่ยิ้มขำก่อนต่างฝ่ายจะหันไปพะเน้าพะนอร่างที่ยืดแข้งขาไปมา
เอ๊ะ ทำไมบรรยากาศมันแปลก ๆ แบบนี้
ย้อนกลับไปเมื่อสามอาทิตย์ก่อนท่ามกลางตึกระฟ้าสูง ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลารูปร่างกำยำสมกับเป็นอัลฟ่า ยืนมองหน้าต่างดูแสงไฟท้ายรถตรงถนนเคลื่อนที่ไปมาสายตาเหม่อลอยไร้จุดหมาย“คุณครามครับ ได้เวลาแล้วครับ” เตวิช เลขาประจำตัวเอ่ยเตือนเมื่อถึงเวลาที่นัดไว้“อืม”ร่างสูงรับคำก่อนจะเดินนำออกจากห้องทำงาน เตวิชมองร่างสูงที่เดินนำหน้า ชายหนุ่มดูแปลกไปตั้งแต่ที่เกิดอุบัติเหตุรถชนเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน หลังจากที่ครามฟื้นขึ้นมาสิ่งแรกที่ถามคือ“ลออจันทร์อยู่ที่ไหน”“ลออจันทร์?” เมื่อครามเห็นเตวิชทำหน้าฉงนก็เงียบไป ก่อนจะออกคำสั่งที่ทำให้เขาตกตะลึง“ส่งตัวอย่างดีเอ็นเอของฉันกับอัยวาไปตรวจให้เร็วที่สุด”รถหรูแล่นผ่านร้านค้ามากมายแต่ไม่อาจทำให้ชายหนุ่มสนใจได้ ครามหวนนึกความทรงจำในชาติก่อนเรื่องราวเริ่มต้นในงานเลี้ยงต้อนรับเพื่อนสนิทของคุณแม่ที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ไม่รู้ว่าเขาดื่มแอลกอฮอล์ไปมากแค่ไหนตื่น
ลลิตมองบรรดาคนแปลกหน้าย้ายของออกจากห้องพัก ตั้งแต่เช้าที่เขารู้สึกตัวก็ถูกครามอุ้มไว้ในอ้อมแขนแล้ว ชายหนุ่มมาคุมการย้ายสัมภาระแม่ลูกด้วยตนเองถึงแม้ว่าลออจันทร์จะบอกว่าไม่เป็นไรก็เถอะ“เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ” เตวิชเดินเข้ามารายงานเจ้านายหนุ่มที่นั่งอยู่ม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่“อืม”พยักหน้าตอบรับก่อนจะหันไปมองลออจันทร์ที่ยังบอกลาสองตายายไม่เสร็จ“ขอบคุณยายแจ่มกับตาทดอีกครั้งนะครับที่คอยช่วยเหลือผมมาโดยตลอด”ลออจันทร์ไหว้ขอบคุณทั้งสองคนอย่างซาบซึ้ง“ตอนนี้ลออมีความสุขก็ดีแล้วล่ะ ยายเห็นหลานมีความสุขยายก็ดีใจ”ยายแจ่มมองดูลลิตในอ้อมกอดของครามอย่างเอ็นดู“ยา ยา” ยายแจ่มจ๋า อุ้มลลิตหน่อยจ๊ะมือเล็กชูมือไปทางยายแจ่มตากลมโตออดอ้อนให้หญิงชราอุ้มตน ครามประคองร่างลูกชายเข้าสู่อ้อมกอดของยายแจ่มฟอด ฟัดหอมแก้มจนแก้มนุ่มนิ่มกระเพื่อมทารกน้อยหัวเราะคิกคักชอบใจ ยายแจ่มเอ่ยลาคู่สามีภรรยาตรงหน้า“ไว้คราวหน้าพาหลานมาเยี่ยมบ่อย ๆ นะ” กล่าวลาเสร็จก็ส่งลลิตคืนสู่อ้อมออกลออเด็กน้อยมองตาแป๋วยังคงไม่เข้าใจในการก
“คิก คัก” ลลิตน้อยกำลังเล่นปาลูกบอลอยู่ในคอกเด็กเล่นอย่างสนุกสนานแต่หูกลับคอยเงี่ยฟังบทสนทนาที่ห่างไปไม่ไกล “ผมต้องกราบขอโทษคุณหญิงด้วยนะครับที่ทำให้ท่านต้องผิดหวัง” ลออจันทร์ยกมือไหว้ขอโทษอดีตเจ้านาย ครามรีบคุกเข่าเคียงข้างผู้เป็นภรรยาพร้อมกับรับผิดชอบร่วมกัน “เรื่องนี้ผมเองก็มีส่วนผิดด้วยครับ ถ้าหากผมไม่ดื่มจนขาดสติเรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น” คุณหญิงไพลินมองดูสองคนที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าก็ได้แต่ถอนหายใจอย่างปลงตก โบกมืออนุญาตให้ทั้งสองลุกขึ้น “ลุกมานั่งเก้าอี้ดี ๆ เถอะ วันนี้ฉันไม่ได้จะมาต่อว่าอะไร แค่อยากมาเห็นหน้าหลานเท่านั้น” ลออจันทร์กับครามมองหน้
“อาบน้ำป๋อมแป๋มกันครับ” ลลิตถูกลอกคราบจนตัวเปล่าเปลือยโชว์พุงอยู่อ่างอาบน้ำขนาดเล็ก ในมือถือตุ๊กตาเป็ดที่ลอยอยู่เต็มอ่าง “แอ้ อ้าย คิก คิก” หม่าม้าอาบน้ำให้ลลิตมีความสุขจังเลย อิอิ “หนูอย่าตีน้ำสิครับ อ้าวยกมือขึ้น ฮึบ” ลลิตชูมือตามผู้เป็นแม่ “เด็กดีของหม่าม้า” “คิก คิก” “ลออ ลูกอาบน้ำเสร็จรึยัง” ครามชะโงกหน้าเข้ามาถามแม่ลูกเมื่อเวลาผ่านไปสมควรแล้ว ภายในห้องน้ำมีลออจันทร์อุ้มก้อนขาวนุ่มนิ่มถูกห่อตัวด้วยผ้าสีสันสดใสกำลังเดินออกมาจากห้องน้ำ “ลออไปอาบน้ำเถอะ เดี๋ยวพี่แต่งตัวให้ลูกเอง” ครามอาสาแก้ตัวอีกร
“โธ่ ลลิตหนูกินอีกนิดนึงสิครับ” ลออจันทร์พยายามป้อนนมให้ลลิตแต่หนูน้อยกลับส่ายหน้าไม่ยอมดื่มจากขวดนมเอาแต่ใช้หัวดุนดันหน้าอก ลออจันทร์ได้แต่ยอมเลิกเสื้อนอนขึ้นมา ลลิตน้อยดีใจที่แม่ยอมตามใจตนปากน้อยดูดกลืนยอดถันที่บวมเต่งอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานก็คายออกแล้วร้องไห้จ้าออกมา “แงงงงง”ทำไมไม่มีน้ำนมแล้วอ่ะหม่าม้า ลออจันทร์ที่เห็นลูกร้องไห้ก็หน้าเสียทันที ตวัดสายตาคาดโทษไปหาคนที่เปิดประตูห้องน้ำออกมา ครามยิ้มเจื่อนเดินเช็ดผมเสร็จก็คลานขึ้นมาบนเตียงโฉบอุ้มร่างที่งอแงอยู่กับหน้าอกลออจันทร์มาอุ้มเอาไว้เอง “ลลิตหนูร้องไห้ทำไมครับ คนเก่ง” เอ่ยปลอบลูกเสียงอ่อนโยนแต่ลอบส่งสายตามองลออจันทร์ที่สวมแค่เสื้อนอนของตนเพียงตัวเดีย
“ถ้ายังเรียกผมมาด้วยเรื่องไร้สาระอีกล่ะก็ คราวหน้าได้เห็นดีกันแน่”ชายหนุ่มใบหน้าบึ้งตึงประกาศกร้าวไม่สนหัวหงอกหัวดำในห้อง เหวี่ยงประตูห้องประชุมปิดตามแรงอารมณ์“เอ่อ ท่านประธานครับ”“มีอะไรอีก” ครามถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“คุณพิศาล ตอนนี้อยู่ในห้องท่านประธานครับ”ครามหยุดเดินไปจังหวะหนึ่งก่อนจะก้าวเดินเร็ว ๆ กลับไปยังห้องทำงานของตน ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปพบกับภาพปู่หลานเล่นกันอย่างสนุกสนาน“ลลิต ไหนเรียกปู่สิ”“ปู ปู ปู”“ฮ่าฮ่าฮ่า เก่งมากนี่รางวัลคนเก่ง” คุณพิศาลหยิบแบงก์เทามาอีกหนึ่งใบ ตอนนี้รอบตัวหนูน้อยลลิตมีแบงก์หลากสีไม่ว่าจะสีแดง สีม่วง สีเขียวเต็มไปหมด“อูวววว ปู ปู” เงินเยอะแยะไปหมดเลยฮะ คุณปู่“คุณพ่อ !!!” ครามส่งเสียงเรียกตัวการที่ทำให้เกิดประชุมผู้ถือหุ้นด่วนทำให้เขาต้องฝากลลิตไว้ให้คุณขวัญดูแล
“ลลิต วันนี้เราจะไปเที่ยวทะเลกัน ตื่นเต้นไหมครับ” คุณหญิงไพลินแย่งที่นั่งข้างหนูน้อยลลิตมาได้เอ่ยหยอกล้อกับทารกที่กอดตุ๊กตาตัวโปรด “ยา ยา อ้ายยย” ทะเลเหรอฮะคุณย่า “ตื่นเต้นสินะ ย่าเองก็ตื่นเต้นเหมือนกัน” หญิงวัยกลางคนตื่นเต้นเพราะลูกชายตัวดีโทรมาบอกตนว่าจะไปเที่ยวทะเลในวันหยุดพร้อมกับแผนการขอลออจันทร์แต่งงานอีกด้วย ทันทีที่ได้ยินลูกชายบอกคุณหญิงก็ตกใจแทบแย่ สุดท้ายตั้งสติได้ก็เอ่ยปรามลูกชายด้วยเสียงที่ไม่มั่นใจ “จะดีเหรอตาคราม แกเพิ่งหย่าหนูรินไปไม่ถึงเดือนเลยนะ” “ผมไม่สนใจสายตาคนอื่นหรอกคร
ตอนที่ครามเดินลงบันไดมาก็นับว่าเลยเวลาอาหารกลางวันไปมากโข คุณไพลินที่เพิ่งป้อนข้าวให้หลานชายเสร็จถลึงตาใส่ลูกชายที่เดินหน้าตาระรื่น ยิ้มกว้างแทบไม่หุบ “หม่ำ หม่ำ” คุณย่าฮะ ลลิตยังไม่อิ่มเลย “ลลิตคิดถึงพ่อไหมครับ” ครามหอมแก้มลูกที่เลอะเทอะไปด้วยอาหารเด็กอย่างไม่รังเกียจ “แอ้ แอ้” เจ้าพ่อบ้า มาให้หยุมหัวเดี๋ยวนี้นะ ทันทีที่ลลิตเห็นใบหน้าของครามก็เริ่มขยับแข้งขาอาละวาด จนครามต้องปลดลูกชายออกจากเก้าอี้เด็กมาอุ้มไว้เอง “ปาปา มามา บูววว” นี่แน่ะ นี่แน่ะ กล้ารังแกหม่าม้าเรอ
แทนไทเดินเข้าไปที่ห้องรับแขก วันนี้นอกจากจะมีครอบครัวเพลิงโชติเมธีแล้วยังมีครอบครัวโยธินตระกูลมาร่วมรับประทานอาหารด้วยลินินตอนนี้อยู่ในอ้อมแขนของคุณวาสินีที่ยิ้มไม่หุบตั้งแต่เข้ามา ร่างตุ้ยนุ้ยนั่งเก้าอี้คอยชวนคุณยายพูดคุยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ครามกับปราบนั่งคุยล้อมวงกับคุณอารัญและคุณพิศาล เด็กชายคีตานั่งไถโทรศัพท์เงียบ ๆ นั่งข้างลลิตกับแทมมาลีน“อ้าว พี่จ๋าหายไปไหนมา”แทมมาลีนเอ่ยทัก เผลอละสายตาจากหมากรุกที่เขากับลลิตฟาดฟันมาหลายนาที จังหวะที่ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นไม่รู้ตัวเลยว่าลลิตแอบหยิบหมากตัวเองออกไปหนึ่งตัว“ตานายแล้ว รีบเดินสิ”“เร่งทำไม เอ๊ะ ทำไมมันแปลก ๆ”“แปลกอะไร ไม่มี้” ลลิตพูดเสียงสูง ไม่มีพิรุธสักนิด แทมมาลีนที่เห็นท่าทางลลิตเป็นแบบนี้ก็กระโจนเข้าไปขยี้ผมนุ่มทันที“หน็อยแน่ ทำเป็นเนียนเลยนะ”“ปล่อยนะ นายกล้าทำกับพี่เขยแบบนี้ได้ยังไง” ลลิตเผลอตัวหลุดโพล่งออกมา
“บาดแผลสมานตัวดีมาก อย่าลืมมาพบแพทย์ตามนัดอีกสองสัปดาห์นะครับ ตอนนี้คุณหนูสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วครับ”คุณหมอมอบรอยยิ้มให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่นั่งยิ้มหน้าบาน“ขอบคุณคุณหมอมาก ๆ ครับ”ลลิตไหว้ขอบคุณลุงหมอเจ้าของไข้ที่คอยดูแลเขามาตลอดที่อยู่โรงพยาบาลเมื่อบอกลาคุณหมอเสร็จเจ้าตัวแสบก็ลงมายืนข้างเตียงโดยที่ไม่ต้องมีใครช่วยพยุงอีกแล้ว“...”แทนไทที่เตรียมอุ้มลลิตทำหน้าเสียดาย ช่วงหลังที่ลลิตพักฟื้นเท้าแทบไม่ติดพื้นเพราะมีครามกับแทนไทคอยอุ้มไปไหนต่อไหนตลอดถึงจะถูกลออจันทร์บ่นว่าก็ทำหูทวนลมทั้งสามีและลูกเขยวันนี้ครามติดประชุมสำคัญทำให้มารับลูกชายออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ แทนไทจึงอาสามารับแทนสร้างความประทับใจให้แก่ลออจันทร์ยิ่งไปอีก“ไปกันครับ ผมอยากกลับบ้านจะแย่อยู่แล้ว”ลลิตเดินนำหน้าลออจันทร์และแทนไทออกไปอย่างร่าเริง“ลูกคนนี้นับวันยิ่งแก่นแก้วไปทุกที” แทนไทมองลลิตที่ทำตัวร่าเริงด้วยแววตาอ่อนโยน“ดีแล้วครับ ผมชอบที่เขาเป็นแบบนี้”“หม่าม้า ล
“ตอนนี้แผลผ่าตัดของคุณหนูลลิตปกติดีครับ ไม่มีการติดเชื้อใด ๆ ผู้ป่วยสามารถลุก เดิน นั่งได้ด้วยตัวเอง หากไม่มีภาวะแทรกซ้อนภายใน หมอจะทำการตัดไหมในวันที่ 7 พร้อมกลับบ้านในวันเดียวกันได้เลยครับ”ครามและลออจันทร์นั่งฟังคำวินิจฉัยของแพทย์ด้วยความดีใจ“คุณหมอหมายความว่า ลลิตหายแล้วใช่ไหมครับ” ลออจันทร์ถามย้ำอย่างตื่นเต้น“ครับ ตอนนี้คุณหนูลลิตปลอดภัยแล้วครับแต่ยังต้องทานยาและมาพบแพทย์ตามนัดด้วยนะครับ”“ขอบคุณครับหมอ” ครามโค้งตัวขอบคุณคุณหมอที่ช่วยชีวิตลูกชายของเขาไว้“ไม่เป็นไรครับ เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว”คุณหมอนพ เจ้าของคนไข้นึกชื่นชมเจ้าของโรงพยาบาลตรงหน้าที่ไม่ถือตน เมื่อได้เวลาที่ต้องไปตรวจคนไข้ก็ขอตัวออกไปก่อน ลออจันทร์ลูบกลุ่มผมนุ่มของคนที่ยังหลับใหล“ลลิตปลอดภัยแล้วนะครับ”“รีบตื่นมาฟังข่าวดีได้แล้ว เจ้าตัวยุ่ง” เหมือนลลิตรู้ตัวว่าหม่าม้ากำลังพูดกับตน ร่างบางส่งเสียงพึมพำออกมาอย่าง
ครามที่สองมือหอบข้าวของของภรรยาและลูกชายมาเต็มสองมือไม่ยอมให้ป้าจิตช่วยถือเดินเข้าโรงพยาบาลมาพร้อมกับคุณไพลินและคุณพิศาลที่เดินหน้าเครียดสร้างความตื่นตกใจให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก“พี่คราม ผมได้ยินข่าวของลลิตแล้ว หลานของผมเป็นยังไงบ้างครับ” หมอกันต์ที่ออกไปสัมมนาข้างนอกวิ่งเข้ามาเจอครอบครัวของญาติผู้พี่พอดีถามเสียงลั่นไม่นะ หลานชายที่น่ารักของเขาทำไมต้องโชคร้ายขนาดนี้ด้วย“ตอนนี้ลลิตยังปลอดภัย แกก็อย่าตื่นตระหนกไปมากกว่านี้ได้ไหม กว่าฉันจะปลอบคุณแม่ให้สงบลงต้องใช้เวลาแค่ไหน”ครามกระซิบบอกน้องชายเสียงเบา สายตาคอยมองคุณไพลินที่เดินนำหน้าด้วยความเป็นห่วง“แหะ แหะ เข้าใจแล้วครับ” หมอกันต์แย่งตุ๊กตาไดโนเสาร์สีเหลืองที่ผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชน&
“ป๊ะป๋าตื่นสาย”ลลิตพูดลอย ๆ เมื่อเห็นครามอุ้มลินินเดินลงมาจากชั้นบน ตอนนี้เขากับคีตากำลังกินข้าวเช้าที่ป้าจิตเป็นคนทำให้ คีตาทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้เกี่ยวกับแผนการของพี่ชายนั่งตักข้าวต้มกินต่อไป “วันนี้วันหยุด ป๊ะป๋าก็อยากตื่นสายบ้าง หม่าม้าก็ชอบตื่นสายเหมือนป๊ะป๋านะ” ครามตอบโต้ลูกชายด้วยการยกหม่าม้าของเจ้าตัวขึ้นมาอ้าง ลลิตหน้าบูดเมื่อพูดอะไรไปเจ้าพ่อบ้ากามก็ไม่สะทกสะท้านจึงนั่งจ้วงข้าวต้มเข้าปากคำโต “มาค่ะ ลินินเดี๋ยวพ่อป้อนหนูนะคะ” “อื้อ ไม่เอาค่ะ หนูอยากกิงเอง ลินินโตแย้วนะ” เด็กหญิงบอกว่าตัวเองโตแล้ว ครามได้แต่นั่งลงทานข้าวแต่โดยดี “เด็ก ๆ ทานข้าวเสร็จหรือยังครับ”ลออจันทร์ที่แต่งตัวเรียบร้อยเดินมาหาลูกชายลูกสาวก่อนจะไล่หอมหัวคนละหนึ่งที&nbs
"แล้วนายจะกลับอิตาลีเลยหรือเปล่า”ลลิตถามอัยวาขณะที่ทั้งสองอยู่ในลิฟต์ ครามอยากตามลงมาด้วยแต่ถูกเตวิชขวางไว้เสียก่อนจึงได้แต่มองลูกชายและอดีตลูกชายเดินออกไปตาละห้อย “คงต้องกลับเลย ฉันลาหยุดได้แค่ไม่กี่วัน” ราฟาเอลก็ทิ้งการเรียนตามเขามาด้วย อัยวาไม่อยากให้แฟนตัวเองถูกไล่ออกจึงต้องรีบกลับไป“ฉันอยากแวะไปหาคุณยายกับคุณตานะแต่ฉันไปตามที่อยู่เดิมกลับมีคนอื่นเข้ามาอาศัยอยู่แล้ว” อัยวาพูดด้วยน้ำเสียงจนใจ ลลิตได้แต่เห็นใจเรื่องของครอบครัวอัยวาเขาคงไปยุ่งมากไม่ได้โอเมก้าสองคนเดินไปยังร้านกาแฟของลออจันทร์ ทันทีที่ลลิตเปิดประตูเข้าไปก็ต้องอมยิ้มเมื่อเห็นอัลฟ่าสองคนนั่งจ้องหน้ากันโดยมีน้องคีย์นั่งทำการบ้านด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ“พี่ลลิตมาแย้ว”ลินินที่นั่งอยู่บนตักแทนไทดิ้นลงวิ่งมาหาพี่ชาย“ลินินมาได้ไงครับ” ลลิตถามด้วยความแปลกใจ นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนนี่นา“วันนี้โยงเยียนเล
“ป๊ะป๋าพรุ่งนี้ว่างหรือเปล่าครับ”ลลิตที่ยื่นหน้ามาทางประตูเอ่ยถามครามที่นั่งทำงานอยู่ในห้องหนังสือ “ลลิต พ่อตกใจหมด”ครามลูบอกปลอบตัวเอง จู่ ๆ ลูกชายก็โผล่แค่ส่วนหัวเข้ามาทำให้ครามตกใจ “คิกคิก ป๊ะป๋าขี้กลัว”ลลิตยอมโผล่ออกมาเต็มตัวเดินเข้าไปนั่งหน้าโต๊ะดี ๆ หยิบปากกาที่วางอยู่บนโต๊ะมาควงเล่น “หม่าม้าทำอะไรอยู่ครับ”ครามอยากจะถามว่าทำไมลลิตถึงมาหาเขาที่ห้องหนังสือได้ปกติจะตัวติดหม่าม้าตลอด “หม่าม้าอาบน้ำให้ลินินอยู่ครับ ส่วนน้องคีย์นั่งทำการบ้านอยู่ในห้องนอนแล้ว”ลลิตเอ่ยรายงานครบถ้วนก่อนจะวกเข้าเรื่องที่ต้องการถาม “พรุ่งนี้ผมพาเพื่อนใหม่มาเจอป๊ะป๋าได
ตึก ตึก ตึก“พี่คีย์ เร็วหน่อยจิ”เสียงของเด็กน้อยดังขึ้นทำให้เด็กชายรูปร่างสูงปราดเปรียวเร่งจังหวะฝีเท้าให้ทันสาวน้อยวัยอนุบาล“ลินิน รอพี่ด้วย”เสียงห้าวที่เพิ่งแตกหนุ่มของเด็กชายคีตาเรียกน้องสาวตัวน้อยให้รอตนด้วย“ไม่เอา ลินินคิดถึงพี่ลลิตนี่นา”สาวน้อยวิ่งเข้าไปบริษัทไม่ยอมรอพี่ชายอีกต่อไป ทำให้ คีตาต้องวิ่งตามเข้าไปก่อนจะอุ้มร่างตุ้ยนุ้ยขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนหม่าม้าของเขาเลี้ยงลูกเก่งทุกคนเหมือนที่คุณย่าเคยว่าไว้เป๊ะ จะมีลูกกี่คนก็เลี้ยงลูกให้ตัวจ้ำม่ำทุกคนถึงคุณไพลินจะว่าอย่างนั้นแต่ในใจก็อดปลื้มใจที่บรรดาลูกหลานตัวอวบอ้วนทุกคน ถึงตอนโตขึ้นมาจะหุ่นดีกันหมดก็เถอะ“คิกคิก ปล่อยลินินนะ”สาวน้อยดีดดิ้นอยากลงไปวิ่งเองมากกว่าแต่คีตาไม่ยอมปล่อยให้น้องสาววิ่ง กระชับอ้อมกอดเดินไปยังร้านกาแฟ“พี่ลลิตจะมาหรือยังนะ”ลินินโอบคอพี่ชายคนรองถามอย่างใคร่รู้“คงมาแล้วล่ะ พี่แทนก็คงมาด้วย”“พี่
“อัยวา?”“...”ผู้ชายผิวขาวหน้าตาคล้ายโรสรินหันมาตามเสียงเรียก สายตามีความงุนงงเล็กน้อยก่อนจะเบิกตาโพลงเมื่อคิดออก“ลลิตใช่ไหม !!”คราวนี้ลลิตเป็นฝ่ายงุนงงบ้าง เคยเจอกันแค่ตอนเด็กเพียงครั้งเดียวอัยวาไม่น่าจะจำเขาได้นะ“พวกนายรู้จักกันงั้นเหรอ”เสียงภาษาไทยติดสำเนียงแปร่งดังออกมาจากร่างบึกบึนด้านหลังอัยวาแทนไทมองท่าทีคุกคามของชาวต่างชาติก็ไม่พอใจเคลื่อนตัวมาบังหน้าลลิต ราฟาเอลเห็นท่าทางของแทนไทก็เดินมาบังหน้าโอเมก้าของตนบ้างตอนนี้ต่อให้ลลิตและอัยวาเขย่งสุดเท้าแค่ไหนก็ไม่สามารถมองข้ามหัวไหล่ของอัลฟ่าทั้งสองไปได้“หลบไปเลยนะ” อัยวาร้อนใจถีบไปที่หน้าแข้งของคนตัวยักษ์ทำให้ราฟาเอลถลาไปกอดแทนไทที่อยู่ตรงข้ามหมับสถานการณ์ในตอนนี้ช่างดูอิหลักอิเหลื่อเหลือเกิน แทนไทเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของราฟาเอลก็ผลักร่างหนาออกไปทันทีพร้อมกับราฟาเอลที่ดีดตัวออกอย่างรวดเร็ว