ซ่งจื่อหรูพยายามค้นหาความทรงจำของร่างเดิมไม่ให้ตกหล่น ในเมื่อนางต้องมาดูแลน้องทำหน้าที่แทนพ่อแม่และคุณปู่แล้วนางจะต้องทำให้ดี ใจจริงนางอยากขึ้นเขามากกว่าแต่ตอนนี้เป็นเวลาปลายยามเซินแล้ว (15.00 - 16.59 น.)
จากที่สำรวจตอนที่วิญญาณมาถึงนางเห็นของดีมากมาย แต่ใกล้ค่ำไม่อาจทิ้งน้องไว้ลำพังได้ ไม่รู้ว่าคนบ้านใหญ่รู้ว่านางฟื้นแล้วจะมาหาเรื่องอะไรอีก
ซ่งจื่อหรูมองรอบบริเวณบ้านรั้วนั่นต้องเร่งทำอย่างน้อยก็ป้องกันคนจากบ้านใหญ่มารังแกเด็กๆ และคนอื่นๆ ที่ไม่หวังดีอีก เถาวัลย์หลายขนาดเลื้อยพันไปมา
ที่นี่คือแคว้นต้าเหลียง หมู่บ้านที่นางอาศัยอยู่คือหมู่บ้านหลี่ซาน หมู่บ้านข้างๆ คือหมู่บ้านไป๋ซานและหมู่บ้านเถาซานตั้งอยู่ในตำบลซานสุยเมืองเสียนหยาง เมื่อสี่ปีก่อนท่านพ่อบาดเจ็บจากการล่าสัตว์ แม่เฒ่าหลี่ไม่อยากจ่ายค่ารักษาจึงถูกบังคับให้ต้องแยกบ้านและไม่ให้อะไรเลย แต่เพราะเกรงกลัวอำนาจของหลี่ฝูเหยาหลี่เจิ้งของหมู่บ้านอีกทั้งยังเป็นพี่สามีคนโตของนาง
เขาข่มขู่นางว่าจะส่งจดหมายหาหลี่ไหลฝูน้องชายให้หย่ากับนางซะหากนางไม่ยินยอม แม่เฒ่าหลี่จึงยอมให้หลี่ต้าซานได้กระท่อมหลั
เก่าของบ้านหลี่ไป
แต่หลังจากนั้นไม่นานเพราะไม่ได้รับการรักษาท่านพ่อจึงจากไป ขณะที่ท่านแม่คลอดซ่งจื่อห่าวได้เพียงสองเดือน แม่เฒ่าหลี่อ้างว่าน้องชายเป็นตัวอัปมงคลทำให้บิดาต้องตายจึงขับไล่นางซ่งและบุตรสาวทั้งสอง ในที่สุดนางซ่งจึงพาลูกมาอยู่ที่บ้านเดิมอีกทั้งต้องเลี้ยงเด็กอ่อน2เดือนกับลูกสาวสองคน8ขวบกว่ากับคนนึงอายุไม่เต็ม2ขวบดี
นางซ่งทำได้เพียงรับปักผ้าขายไปวันๆ ซ่งจื่อหรูมีหน้าที่ไปส่งผ้าปักที่ตำบลทุกๆครึ่งเดือนจะไปส่งงาน ผ้าเช็ดหน้าผืนละ5อีแปะ ด้ายและผ้าเป็นของร้านฮวาเหยียนนางซ่งเพียงแค่รับจ้างปัก
แต่ทุกครั้งที่ซ่งจื่อหรูไปส่งผ้าขากลับมาจะต้องเจอแม่เฒ่าหลี่มาดักรอเพื่อแย่งชิงเงินค่าแรงของนาง บางครั้งก็ทุบตีเพราะซ่งจื่อหรูไม่ยอมให้ มีท่านย่าท่านยายใจดีในหมู่บ้านสงสาร จึงให้นางและแม่มาช่วยงานเพื่อแลกอาหารในบางครั้ง
หลังจากท่านพ่อจากไปได้ไม่นานท่านแม่ก็จากไปอีกจนถึงตอนนี้น่าจะได้เกือบสองปีแล้ว เหลือซ่งจื่อเย่วอายุ5ขวบและซ่งจื่อห่าวอายุเกือบสามขวบเอาไว้ให้เลี้ยง บางวันต้องเอาน้องไปฝากท่านย่าท่านยายที่ตนเองไปช่วยงานหรือส่งผ้าปัก จนในที่สุดวันสุดท้ายของชีวิต นางก็ต้องจากน้องๆ สาเหตุก็เพียงเพราะไข่สองฟองเท่านั้นคนสกุลหลี่ช่างเป็นพวกเลวร้ายจริงๆ
ซ่งจื่อหรูพาน้องๆไปเช็ดหน้าตาที่ริมลำธาร ก่อนจะพากันเข้าบ้านปิดประตูจากนั้นก็ยกโต๊ะที่ใช้นั่งกินข้าวมากั้นประตูไว้อีกที เนื่องจากประตูถูกทุบจึงต้องใช้โต๊ะมากันลมและบดบังแทน ร่างกายนี้มีความพิเศษคือสามารถยกของที่หนัก200-300ได้สบายๆ
"จื่อเย่ว จื่อห่าวคืนนี้กินมันเทศที่เหลือไปก่อนนะ ส่วนหมั่นโถวที่พี่ห้าเอามาให้เก็บไว้อุ่นในตอนเช้าพรุ่งนี้"
"เจ้าค่ะ/ขอรับ"ซ่งจื่อเย่วและซ่งอวิ่นห่าวรับคำ
"รีบกินรีบนอนเถอะฝนตั้งเค้ามาครึ้มแล้ว คงจะมืดเร็วแน่ๆ"
ซ่งจื่อหรูพาน้องเข้านอนไม่ทันเท่าไหรฝนก็จะกระหน่ำอย่างแรงซ่งจื่อหรูคิดว่าจะขึ้นเขา นางจำทุกรายละเอียดตอนที่ไปสำรวจได้ดีว่าตรงไหนมีสิ่งใดบ้าง คงต้องเริ่มจากเขาชิงลั่วฝั่งที่ติดหมู่บ้านก่อนแล้วกัน อย่างน้อยก็ไม่ต้องถางทางเพราะชาวบ้านมักขึ้นไปหาของป่าเป็นประจำทางขึ้นลงจึงไม่รกสักเท่าไหร่
ทั้งบ้านมีเพียงห้องนอนใหญ่ของท่านตาที่ยังใช้ได้เพียงห้องเดียว ซ่งจื่อหรูใช้จอบขุดหลุมเล็กๆ ลึก30ชุ่น ไว้ใช้ก่อกองไฟเล็กๆ ในห้องอบอุ่นและให้แสงสว่าง เทียนที่มีเหลือยาวไม่ถึง3ชุ่นด้วยซ้ำ จำเป็นต้องประหยัดครั้งก่อนไปส่งผ้าปักแต่เพราะทางร้านมีการเปลี่ยนแปลงจึงไม่ได้ให้งานมา ตอนนี้ในบ้านไม่มีเงินเหลือแล้ว ข้างนอกพายุฤดูร้อนกำลังกระหน่ำอย่างแรง เมื่อจัดการให้น้องๆ นอนหลับก็เริ่มสำรวจบ้านหลังนี้ จากความทรงจำจึงนึกถึงคำพูดของผู้เป็นตาได้ทุกคำ
"หรูเอ๋อร์...นี่เป็นที่สำหรับหลานและน้องๆ มันคือสถานที่ปลอดภัยยามพวกเจ้าเดือดร้อน"
"ท่านตาเจ้าคะ...ท่านแม่รู้หรือไม่เจ้าคะว่าบ้านท่านตามีห้องใต้ดิน"
"มารดาเจ้าเป็นคนจิตใจดีเหมือนท่านยายของเจ้า บิดาเจ้าก็กตัญญูจนเกินขอบเขต จนทำให้ลูกเมียถูกรังแก ห้ามบอกแม่กับพ่อของเจ้าเกี่ยวกับที่นี่เด็ดขาด"
"เจ้าค่ะ..ท่านตา"
"หลังกำแพงนี้ห้ามหลานเปิดมันตอนที่ไม่พร้อม จำไว้หลังกำแพงนั่นมีอันตราย อย่าเข้าไปจนกว่าจะแน่ใจว่าดูแลตนเองและน้องๆ ได้แล้ว"
นี่เป็น บทสนทนา เมื่อครั้งที่ซ่งจื่อหรูมาดูแลท่านตาเมื่อครั้งท่านตาป่วยหนัก พ่อเฒ่าซ่งบอกรายละเอียดของห้องกับกับหลานสาว เขารู้ดีว่าไม่สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้พิษที่ถูกคนทำร้ายถึงเวลาเอาชีวิตเขาแล้ว เขาหวังว่าสักวันหนึ่งหลานสาวคนนี้จะนำพาตระกูลของเขาให้รุ่งเรืองได้อีกครั้ง
แม้ว่าตนเองจะอยู่ไม่ถึงวันนั้นก็ตามซ่งจื่อหรูรอจนแน่ใจว่าน้องๆนอนหลับสนิทนางจะหาคำตอบจากเรื่องนี้
ซ่งจื่อหรูจุดเทียนเดินไปที่ตู้ไม้เก่าๆ ใบใหญ่กว้างมาณเมตรครึ่งสูง3เมตรและเปิดประตูออก ใช้เทียนส่องที่พื้นตู้ก่อนจะคลำหาบางอย่าง สักพักก็เจอห่วงเล็กๆ ที่ซ่อนอยู่ด้านล่างนางค่อยๆดึงขึ้น จากพื้นตู้ก็กลายเป็นประตูบานหนึ่ง ด้านล่างมีบันไดลงไป นางหันไปมองซ่งจื่อเย่วและซ่งจื่อห่าวที่หลับสนิทก่อนจะเดินลงบันไดไปยังห้องใต้ดินตามความทรงจำเดิม
เมืองกว่าผิงจุดประทัดฉลองที่พระชายาคลอดบุตรจัดงานเลี้ยงถึงสามวันสามคืนกินดื่มไม่อั้น จากเมืองที่ไม่มีใครใส่ใจตอนนี้เพราะพระชายากมาเปลี่ยนแปลงกลายเป็นเมืองที่ร่ำรวยที่สุดในแคว้น ซ่งจื่อหรูออกเดือนมาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วนางอยู่้ดือนถึงสองเดือนครึ่งเชียวตอนนี้กำลังให้นมคู่แฝดอยู่ ในห้องนางมีมิติที่สามารถทำให้น้ำนมตนเองพอเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องพึ่งพาแม่นมจินเสี่ยวฮวาประคองท้องเดินมาหา ท่านอากับท่านลุงนี่วันๆไม่ทำงานทำการหรือเมียท้องลูกคนที่สี่แล้วนะ"พระชายา ตำหนักองค์ชายส่งข่าวมาพระยาหลี่กำลังจะคลอด ท่านจะไปหรือไม่""ข้าอยากไปแต่ว่ากลัวท่านอ๋องดุเอา เลยส่งจื่อเย่วให้ไปแทนแล้ว อาสะใภ้จะคลอดเมื่อใดนี่เจ้าคะ""อีกสี่เดือน ข้าพูดกับเจ้าแบบเปิดอกเลยนะหลานสี่ไม่พิธีรีตรอง เจ้าว่าพวกบุรุษนี่เหตุใดถึงหมกมุ่นกันนัก ข้านี่แทบจะไม่ได้หลับได้นอนสักคืน ขนาดท้องแล้วท่านพี่ยังสรรหาท่าทางอะไรมาก็ไม่รู้""คิกๆๆ อาสะใภ้ธรรมดาผัวเมียแหละเจ้าคะ เดี๋ยวอีกสามเดือนท่านปู่กลับมาแล้วข้าจะจัดงานฉลอง พี่ใหญ่ พี่รอง พี่สามก็จะมาเช่นกันเจ้าค่ะ"อืมข้าไปล่ะ ไปฟังก่อนว่านางได้บุตรชายหรือบุตรสาว"เจ้าแฝดหลับไปแล้วซ่งจื่อหรูเ
ซ่งจื่อหรูเดินไม่ไหวแล้ว นางใกล้คลอดเต็มที ตอนนี้องค์ชายห้าผู้น่าสงสารกำลังนั่งอยู่มีหลี่ถิงถิงกอดเขาไว้แน่นก่อนหน้านางแพ้ท้องอาการคือเหม็นขี้หน้าเขา แต่พอเขาไม่อยู่ก็ร้องไห้หามาตอนนี้แพ้ท้องอีกแบบต้องเห็นเขาตลอดเวลา นั่งกอดแขนเขาแน่นดมแต่กลิ่นกายเขา หากไม่อยู่ต้องถอดเสื้อตัวที่เคยใส่ทิ้งไว้ให้ไม่งั้นเอาแต่งอแง เฮ้อ ไอ้ลูกคนนี้คลอดมาเมื่อไหร่จะส่งไปให้เสด็จแม่เลี้ยง ขนาดยังไม่คลอดยังทำเขาปวดหัวขนาดนี้เลย"อาหรู ไม่ถึงเดือนก็คลอดแล้ว เราจะได้เห็นหน้าผลงานของข้ากับเจ้าสักที อุตส่าห์อดหลับอดนอน บางวันก็เลยมื้อข้าวมาขยันปั้นพวกเขาเนี่ย""ท่านอ๋อง ตรัสอะไรของพระองค์ ไม่ทรงเห็นหรือเพคะว่ามีคนอื่น"จ้าวเฟยหรงไม่วนใจกระชับอ้อกอดที่ตอนนี้ท้องนางใหญ่มากแล้วแต่เขาก็โอบมันจนได้"เสด็จพี่ข้าคิดว่า จะส่งเจ้าตัวยุ่งนี่ไปให้เสด็จแม่เลี้ยง งอแงเหลือทนตั้งแต่ยังไม่คลอดเลย"จ้าเทียนหยางลูบท้องหลี่ถิงถิงแล้วแสร้งบ่นเจ้าตัวเล็ก ปรากฏว่าเขาถูกถีบเบาๆจนทุกคนหัวเราะตำหนักเหลียนฮวาที่ตอนนี้กำลังวุ่นวาย ซ่งจื่อหรูเจ็บท้องมากว่าหนึ่งชั่วยามแล้วยังไม่คลอด จ้าวเฟยหรงก็จะเข้าไปหาเมียที่นอนร้องท่าเดียว จนเซียวอว
หลี่ถิงถิงครรภ์ใหญ่แล้วนางตั้งครรภ์ได้หกเดือนส่วนซ่งจื่อหรูอีกไม่กี่วันก็คลอดแล้ว ซ่งจื่อหรูกำลังคำนวณค่าแรงคนงานหลี่ซ่งเต๋อนำตั๋วเงินมาให้หลานสาวกำลังกลับบ้าน เห็นจินเสี่ยวฮวาพูดคุยอยู่กับชาวตะวันตกที่มาแลกเปลี่ยนสินค้า โดยมีล่ามที่ซ่งจื่อหรูสอนคอยแปลให้หากว่าไอ้ฝรั่งผมทองไม่เอ่ยชมว่านางสวยเป็นสตรีที่งดงาม และถามว่านางมีคู่ครองหรือยัง คงไม่ทำให้ประมุขหอโกรธจนอุ้มเมียมาลงโทษอยู่จนตอนนี้ยังไม่เลิกหรอก"อร๊ายท่านอา เบาหน่อย ข้าจะไม่ไหวแล้วนะอร๊าย โอ๊ยท่านโกรธอะไรมา ข้าเสียวจะตายแล้วอื้อ" จินเสี่ยวฮวาประท้วง"ไอ้หัวทองผิวเผือกนั่นเกี้ยวเมียข้าไม่โมโหได้หรือ เสี่ยวฮวาจ๋าคนดีตั้งแต่เจ้าคลอดลูกมายิ่งสวยวันสวยคืนดูสิ ตรงนี้ก็อวบอิ่ม ตรงนี้ก็เต็มมือแน่นไปหมดหืม อ่าห์รักเจ้าจริงๆเมียจ๋า"ตอนนี้เขาขึ้นเป็นประมุขหอเหลียนฮวาแทนท่านอารองหลี่ไหลฝูแล้ว หลานสาวเขาสร้างเรือสำราญอะไรสักอย่างให้ล่องไปเรื่อยๆ ท่านอาวางมือจากยุทธภพออกท่องเที่ยวกับท่านพ่อจะกลับในอีกหกเดือน หลี่ไค่ซุนกำลังถูกฝึกให้พร้อมอนาคตหลี่ไค่ซุนนั่งมองสตรีที่กำลังวาดภาพอยู่ตรงหน้า เขาลุกไปหยิบพู่กันออกก่อนจะช้อนนางขึ้นแล้ววางบนเตีย
ตั้งแต่วันที่หลี่ถิงถิงยอมตามใจเขาจากนั้นจ้าวเทียนหยางก็อยู่แต่ในห้องไม่ยอมปล่อยคนรักออกมา จนมีเรื่องให้ต้องไปทำก็อิดออดจนถูกหลี่ถิงถิงต้องดุจริงจัง จะถึงวันแต่งงานแล้วอีกครึ่งเดือนหลี่ถิงถิงอยู่ๆก็เกิดเกลียดขี้หน้าคนตัวโตขึ้นมาดื้อๆ"อย่ามาใกล้หม่อมฉันนะเพคะ หม่อมฉันเหม็นขี้หน้าพระองค์""คนดี ข้าทำอะไรผิดกันถิงถิงคนงามอย่าทำแบบนี้สิ มีอะไรบอกมาเถอะ""ไม่มี ไม่รู้อยู่ๆหม่อมฉันก็ไม่อยากอยู่พระองค์ เหม็นขี้หน้าจะตายอยู่แล้วฮือๆๆๆ องค์ชายหม่อมฉันรักองค์ชายนะเพคะแต่อย่ามาใกล้ได้ไหมฮือๆๆ"จ้าวเทียนหยางอ่อนใจ เมียอยู่ๆก็เกลียดขี้หน้าเขาไม่มีสาเหตุวันนี้ทุกคนมากินข้าวร่วมกันที่ตำหนักเหลียนฮวา อาหารมากมายถูกยกขึ้นโต๊ะแต่ซ่งจื่อหรูกับหลี่ถิงถิงเกิดไม่อยากกิน พอเห็นหน้าจ้าวเทียนหยางยิ่งเกิดอยากอาเจียนจนต้องอุ้มกลับห้อง"น้องห้าเป็นอะไรไป อาจารย์รบกวนท่านตรวจนางสักหน่อยเถอะ "ซ่งจื่อหรูให้ไห่มิ่งหยวนไปดูหลี่ถิงถิงที่ตอนนี้เอาแต่ร้องไห้ นางบอกรักจ้าวเทียนหยางแต่ไม่อยากเจอหน้าเขาตกลงนี่มันอะไร เสียงร้องไห้หาคนรักสักพักก็อาเจียนไล่เขาออกมากซ่งจื่อหรูจะลุกไปดูน้องสาวก็หน้ามืดจนจ้าวเฟยหรงต้องมาประค
หลี่อาไช่พาจ้าวเฟยเซียนหัดขี่ม้า ไม่นานนางก็เริ่มขี่คล่องขึ้น พระอาทิตย์ใกล้ตกแล้วแสงสีแดงงดงามกระทบใบหน้านวล หลี่อาไช่กระชบอ้อมแขนคนตรงหน้า ค่อยๆควบม้าๆช้าๆพาคนรักเขากลับบ้าน"เซียนเซียน ขอพี่หอมสักทีได้ไหม เจ้าน่ารักจนพี่อดใจไม่ไหวนะ""แค่ครั้งเดียวนะ เดี๋ยวเสด็จพ่อกับเสด็จพี่รู้เข้าเอาท่านตายแน่"หลี่อาไช่ก้อมลงหอมแก้มนางจากนั้นก็กดคางลงบนศรีษะจ้าวเฟยเซียนพามาส่งที่ตำหลักก่อนเข้าประตูยังแอบหอมนางอีกสองครั้ง อุ้มนางลงจากหลังม้าแต่ไม่ยอมให้เท้าถึงพื้น เขาอุ้มพาจ้าวเฟยเซียนมาส่งถึงตำหนักใน จ้าวเฟยหรงคิ้วกระตุก ไอ้เด็กนี่มันเกินไปไหมน้องสาวข้าสิบสองเองนะ"หม่อมฉันทูลลานะพะย่ะค่ะ พอดียังไม่ได้ไปคาราวะท่านแม่เลย พี่สี่ข้าไปก่อนนะขอรับ"หลี่อาไช่ไปแล้วแต่มีคนหน้าตึงอยู่ตรงนี้จนซ่งจื่อหรูหัวเราะเขา"คิกๆ ท่านอ๋องทีนี้เขาใจหัวอกท่านปู่กับท่านอาหม่อมฉันหรือยังเพคะ ทรงหวงน้องสาวเป็นด้วยหรือ อื้อ"จ้าวเฟยหรงไม่ปล่อยให้เมียสาวล้อเลียน เขาช้อนอุ้มพานางเข้าห้องลงโทษที่หัวเราะเยาะ"อื้อ ท่านอ๋องหม่อมฉันไม่ไหวแล้ว อร๊าย นับวันยิ่งโลดโผนนะเพคะ อึ๊ยสะ เสียว ท่านอ๋อง""บอกแล้วไงจะสอนให้ ตั้งใจเรียนนะเ
อาชาสีดำทะมึนน่าเกรงขามกำลังควบมาทางหน้าหมู่บ้าน ด้านหลังมีอีกสองคนตามมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าหมู่บ้านสกุลหลี่ก็ลงจากม้า ทหารคนสนิทรับสายจูงไป เด็กน้อยวัยสองขวบเดินเตาะแตะๆมาหากางแขนให้อุ้ม"เสี่ยวเว่ยเด็กดี ตัวสูงขึ้นแล้วมาให้พี่อุ้มหน่อย" อู๋กังเดินตามบุตรชายมาหลี่อาไช่เห็นเขาจึงทักทาย"ท่านพ่อ ท่านแม่อยู่ก็เดือนหรือขอรับ"อู๋กังพยักหน้า เขาแต่งงานกับไป๋ลู่มีบุตรชายหนึ่งคนและเพิ่งจะได้บุตรสาวอีกหนึ่งคน หลี่อาไช่ตอนนี้อายุสิบหกแล้วฝีมือเก่งกาจจนได้เป็นแม่ทัพตะวันออกควบคุมเจ็ดมณฑล"อาไช่ คนสกุลหวังเหล่านั้นฝีมืลูกหรือเปล่า หากจบได้ก็จบเถอะมารดาเจ้านางอยู่สงบสุขแล้ว"อู๋กังรักเขาเสมือนบุตรตนเอง ไม่อยากให้เขาเคียดแค้นเรื่องในอดีต จนทำลายอนาคต หลี่อาไช่ถอนหายใจ"เดิมทีก็ไม่อยากจะยุ่ง แต่ใครจะรู้ว่าสองผัวเมียนั้นเคยขายท่านแม่ของข้าไม่พอ ยังคิดจะขายน้องสาวคนเล็ก อาเล็กนางอายุเท่ากับข้า ท่านปู่ท่านย่าจากไปลุงใหญ่เปรียบเหมือนบิดา จัดการทุกอย่างให้แต่งงานไปก็ยังดีแต่นี่จะให้ไปเป็นอนุเศรษฐี ข้าไม่สั่งสอนคงไม่ได้ขอรับท่านพ่อ""แล้วทำเช่นไร อย่าให้มารดาเจ้ารู้เล่า""ข้าส่งบ้านใหญ่ไปชายแดนเนรเทศทั้ง