Share

บทที่ 318

Author: ทองประกาย
เจียงเม่ยเอ๋อร์เดินเข้าห้องไปโดยไม่หันมามอง ฉู่เจวี๋ยอุ้มทารกน้อยไว้ในอ้อมแขน เขาค่อยๆ คลี่ผ้าห่อตัวออกแล้วมองดูใบหน้าของเด็กทารก

ฉู่เจวี๋ยไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด คนอื่นต่างพากันเห็นว่าทารกคนนี้อัปลักษณ์น่ากลัวนักหนา แต่เขากลับรู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารักน่าชังอยู่ไม่น้อย

ดวงตาสีดำสนิทของทารกเปล่งประกายประหลาด จ้องมองเขาไม่กะพริบ แล้วร้อง "อุแว้" เสียงดังลั่น

ฉู่เจวี๋ยไม่เคยปลอบเด็กมาก่อน จึงทำตัวไม่ถูกในฉับพลัน

เขาอยากถามแม่นมว่าต้องทำอย่างไร แต่แม่นมและนางกำนัลต่างหลบหนีกันออกไปไกล ไม่กล้าเข้ามาใกล้แม้แต่คนเดียว

เขาโกรธจัด จึงตวาดขึ้นว่า "พวกเจ้าหายหัวไปไหนกันหมด ไม่เห็นหรือว่าองค์ชายน้อยกำลังร้องไห้ รีบมาหาข้าเดี๋ยวนี้!"

แม่นมและนางกำนัลรีบคุกเข่าลง แม่นมกล่าวอย่างหวาดกลัว "ขอองค์ชายโปรดทรงอภัย องค์ชายน้อยแตกต่างจากคนทั่วไป ข้าน้อยก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรเพคะ"

"พวกบ้า ข้าจะมีพวกเจ้าไว้ทำไม!" ดวงตาฉู่เจวี๋ยฉายวาบขึ้นด้วยความโกรธ แล้วตะโกนสั่งองครักษ์ "จับแม่นมแก่นี่กับพวกนางกำนัลไปโยนให้ฝูงหมาป่ากิน!"

บนภูเขาเพิ่งมีหิมะตกหนัก ตอนนี้ฝูงหมาป่ากำลังหิวโซ หากถูกโยนออกไปตอนนี้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 319

    หลังจากฉู่เจวี๋ยส่งทารกให้แม่นมแล้ว ก็ถูกฝ่าบาทเรียกตัวไป แม้ว่าแม่นมจะไม่เต็มใจเพียงใด ก็ต้องกลั้นความหวาดกลัวไว้ในใจ อุ้มทารกไปยังห้องพระเครื่องต้น ยามนี้ไม่ใช่เวลาอาหาร ห้องพระเครื่องต้นจึงว่างเปล่า แม่นมตั้งใจจะส่งทารกให้องครักษ์อุ้ม เพื่อที่ตนเองจะเข้าไปหานมวัว แต่พวกองครักษ์ต่างก็ปฏิเสธ อ้างว่าตนเองไม่รู้จักควบคุมน้ำหนักมือ เกรงจะทำร้ายเด็ก แม่นมรู้ว่าพวกเขากลัวจึงไม่กล้าอุ้ม แต่ก็ไม่กล้าทะเลาะกับองครักษ์ เลยได้แต่ถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความหงุดหงิด แล้วอุ้มทารกเข้าไปในห้องพระเครื่องต้นเอง แม่นมไม่คุ้นเคยกับห้องพระเครื่องต้น แถมอุ้มเด็กไปหาของไปก็ไม่สะดวก จึงวางทารกไว้บนเขียงแล้วเดินไปค้นหาที่ด้านข้าง ขณะที่แม่นมหันหลังให้ทารก เพื่อไปค้นหานมวัวอยู่นั้น อาเซียงก็ปีนเข้ามาทางหน้าต่างอีกด้าน แอบย่องไปที่ด้านข้างเขียงอย่างเงียบ ๆ นางสวมชุดขาว สวมหมวกปีกกว้างสีขาวและผ้าคลุมหน้า เพื่อจะได้ไม่เป็นที่สังเกตเมื่อเดินบนหิมะ "เจอแล้ว!" แม่นมหยิบไหนมวัวออกมาจากตู้ พอหันกลับมาก็เห็นอาเซียงถือมีดจ้องจะแทงทารก แม่นมตาเบิกโพลง ทำไหในมือหล่น "ช่วยด้วย! มีคนจะฆ่าปีศาจน้อย...เอ่อ...รัช

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 320

    เมื่อพ้นอันตราย อาเซียงไม่สนใจแขนที่บาดเจ็บของตน รีบกลับไปยังตำหนักของพระสนมจีกุ้ยเฟย "พระสนมเพคะ บ่าวทำงานไม่สำเร็จ ขอพระสนมลงโทษด้วยเพคะ!" อาเซียงคุกเข่าลงพลางกล่าวตำหนิตนเอง พระสนมจีกุ้ยเฟยไม่เอ่ยวาจา ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ผ่านไปนานจึงถามขึ้นว่า "เจ้าว่าห้องพระเครื่องต้นเกิดไฟไหม้ขึ้นกะทันหันเช่นนั้นหรือ" "เพคะ ใกล้ ๆ กับที่เก็บเสบียง" "แปลกนัก อยู่ดี ๆ จะเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร หรือว่ามีคนช่วยเจ้าอยู่" พระสนมจีกุ้ยเฟยขมวดคิ้ว นั่นหมายความว่ามีคนนอกรู้เรื่องนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลย อาเซียงตกใจ กล่าวว่า "แต่พระสนมเพคะ ตอนนั้นในห้องพระเครื่องต้นไม่มีคนอื่นอยู่ พวกองครักษ์และองครักษ์เสื้อแพรอยากจับตัวบ่าวไปรับรางวัล จะช่วยบ่าวได้อย่างไรเพคะ" "บางทีอาจเป็นเพราะตอนต่อสู้ทำให้ประกายไฟจากเตาไฟกระเด็นไปถูกของในมุมห้อง จึงเกิดไฟไหม้" อาเซียงคาดเดา "ที่เจ้าพูดก็ถูกอยู่นะ" พระสนมจีกุ้ยเฟยพยักหน้า แล้วกล่าวต่อ "เจ้าไปหาหมอหลวงเจียงให้รักษากระดูก ช่วงนี้พักฟื้นให้ดี อย่าไปยุ่งกับเรื่องใดทั้งสิ้น" "พระสนม พระสนมติดค้างบุญคุณหมอหลวงเจียงไว้แล้ว บ่าวไม่อยากสร้างความลำบากให้พระ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 321

    สวี่เหนียนถามอย่างดีใจ "จริงหรือท่านหมอเจียง ข้าน้อยจะได้กลับไปเฝ้าพระสนมแล้วหรือ" เขาตื่นเต้นจนลืมระวังตัว เมื่อเอ่ยถึงพระสนมจีกุ้ยเฟย ดวงตาเต็มไปด้วยความรักใคร แต่เขาก็รู้ตัวในทันทีว่าท่าทีตนเองแสดงออกชัดเจนเกินไป จึงรีบชำเลืองมองเจียงซุ่ยฮวนด้วยความระแวดระวัง"ตอนนี้ยังไม่ได้ ร่างกายเจ้ายังต้องพักฟื้นอีกสองวันจึงจะออกไปได้ ข้าจะฝังเข็มให้เจ้าอีกครั้ง" เจียงซุ่ยฮวนหยิบเข็มมา พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ "ดูเหมือนพระสนมจะปฏิบัติต่อเจ้าดีมาก ถึงจะป่วยหนักขนาดนี้ก็ยังไม่คิดพักผ่อน กลับใจจดใจจ่ออยากกลับไปอยู่ข้างพระสนม" สวี่เหนียนหัวเราะแห้ง ๆ สองที "ใช่ขอรับ พระสนมเมตตาพวกเราผู้เป็นบ่าวเสมอมา" "เรื่องนี้จริง หากเป็นคนอื่นเป็นโรคนี้ ป่านนี้คงอยู่ในป่าช้าไปแล้ว แต่พระสนมไม่เพียงจัดที่พักดี ๆ ให้เจ้า ยังเชิญข้ามารักษาเจ้า เห็นได้ชัดว่าพระสนมดีต่อเจ้ามาก" เจียงซุ่ยฮวนพับแขนเสื้อ เริ่มฝังเข็มให้เขา เจียงซุ่ยฮวนเพียงพูดลอย ๆ แต่กลับทำให้ใบหน้าของสวี่เหนียนเปลี่ยนสีทันทีนางเก็บเข็มเงินแล้วลุกขึ้นพูด "เจ้าพักอีกสองวัน เมื่อทางลงเขาโล่งแล้ว เจ้าก็จะได้ลงเขาพร้อมพระสนม" "ท่านหมอเจียง โปรดร

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 322

    อาเซียงเก็บน้ำมันดอกคำฝอยเข้าที่ มองไปด้านหลังเจียงซุ่ยฮวน "หมอเจียง เขา...เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ" เจียงซุ่ยฮวนไม่ต้องมองก็รู้ว่านางหมายถึงใคร ตอบว่า "หายดีแล้ว พวกเจ้าลงเขาเมื่อไหร่ก็พาเขาไปด้วยได้เลย" "ขอบคุณท่านหมอเจียงเจ้าค่ะ" ดวงตาอาเซียงวาบขึ้นด้วยความยินดี แต่ไม่กล้าแสดงออกชัดเจนนัก รีบหมุนตัวจากไป หลังจากเจียงซุ่ยฮวนพาชุนเถากลับมาแล้ว ก็รีบเข้าห้องทดลองทันที ไม่กี่วันมานี้นางกำลังวิจัยยาจีนเพื่อป้องกันและรักษาโรคฝีดาษ ซึ่งเริ่มเห็นผลแล้ว เมื่อนางวิจัยสำเร็จและเผยแพร่ยาจีนนี้ออกไป นางก็จะได้รับทั้งทรัพย์สิน และชื่อเสียงเงินทองคิดถึงตรงนี้ นางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ อีกทั้งนางยังมีสถานเสริมความงาม เมื่อเปิดกิจการ ต้องโด่งดังในเมืองหลวงแน่ คงได้ใช้เวลานั่งนับเงินจนมือเป็นระวิงเลยทีเดียว! สมบัติล้ำค่าในเจินเป่าเก๋อ นางอยากซื้อเท่าไหร่ก็ซื้อได้ "ฮ่า ๆ ๆ" เจียงซุ่ยฮวนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำการทดลองต่อเสียงชุนเถาดังมาจากข้างนอก "อาจารย์ องค์ชายเป่ยโม่ต้องการพบท่านเจ้าค่ะ" เจียงซุ่ยฮวนถอดชุดทดลองออก เดินออกมาจากห้องทดลอง หลังเปิดประตู นางเงยหน้ามองกู้จ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 323

    "ก็ไม่เชิง องค์ชายแปดตอนนี้เป็นที่โปรดปรานของเสด็จพี่อย่างมาก ทั้งยังชนะการแข่งล่าสัตว์ รวบรวมขุนนางได้มากมาย หากพระสนมจีกุ้ยเฟยเกิดเรื่องในตอนนี้ จะต้องทำให้ราชสำนักปั่นป่วนแน่" ดวงตากู้จิ่นลึกล้ำ "ดังนั้นข้าจึงวางแผนจะรออีกสักพัก รอจนถึงจังหวะที่เหมาะสม แล้วจึงเปิดโปงการกระทำทั้งหมดของพระสนมจีกุ้ยเฟย และให้ทุกคนรู้ว่าองค์ชายแปดไม่ใช่พระโอรสแท้ ๆ ของเสด็จพี่" เจียงซุ่ยฮวนคิดในใจว่าต้องรีบไปทวงบุญคุณสองอย่างจากพระสนมจีกุ้ยเฟยก่อนถึงตอนนั้นให้ได้ ครั้นคิดได้เช่นนั้น นางก็ไม่เร่งรีบกลับห้องทดลองอีกต่อไป พลางโอบกาน้ำชาไว้แน่นแล้วกล่าวว่า"ถ้าท่านว่าง ลองไปสืบดูคนชื่อสวี่เหนียนคนนี้ได้ไหม เขาบอกว่าตัวเองเป็นบุตรชายของผู้ดูแลจวนตระกูลจี แต่ข้ารู้สึกว่าฐานะของเขาไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น" "เพราะอะไร" กู้จิ่นถาม "ข้าก็บอกไม่ถูก เป็นแค่ลางสังหรณ์" เจียงซุ่ยฮวนยักไหล่ "แม้เขาจะดูซื่อ ๆ พูดอะไรก็ไม่มีพิรุธ แต่เพราะมันไม่มีพิรุธนั่นแหละ ถึงน่าสงสัยท่านเข้าใจความหมายของข้าไหม" เจียงซุ่ยฮวนเริ่มพูดวกวนจนเกือบจะทำตัวเองสับสนแต่ถึงกระนั้น กู้จิ่นก็เข้าใจความหมายของนาง "ข้าเข้าใจ ข้าจะให้ชางอ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 324

    ฉู่อี้เลื่อนสายตาไปยังฉู่เจวี๋ยที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ฉู่เจวี๋ยกำลังมองเขาพอดี เขายกมุมปากอย่างมีนัยยะ แล้วทูลฝ่าบาท "ทูลเสด็จพ่อ ลูกมาขอพระเมตตาให้องค์ชายสามพ่ะย่ะค่ะ" "ลูกได้ยินจากนอกตำหนักว่าเสด็จพ่อจะทรงลดฐานะองค์ชายสามเป็นสามัญชน จึงมาขอให้ทรงเปลี่ยนพระทัยพ่ะย่ะค่ะ" แววพระเนตรฝ่าบาทมีความสงสัย เมื่อหลายปีก่อนฉู่อี้กับฉู่เจวี๋ยเคยทะเลาะกันในท้องพระโรงเพราะความคิดไม่ตรงกัน หลังจากนั้นทั้งสองก็มองหน้ากันไม่ติด การที่พระองค์จะลดฐานะฉู่เจวี๋ย ฉู่อี้ควรจะดีใจมิใช่หรือ แล้วเหตุใดจึงมาขอความเมตตาให้ฉู่เจวี๋ย ฉู่เจวี๋ยก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน เขาคิดว่าฉู่อี้ต้องมีแผนอะไรบางอย่าง ไม่มีทางมีเจตนาที่ดีแน่ จึงตะโกนว่า "ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาขอความเมตตาให้!" ฉู่อี้ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วทูลต่อ "ทูลเสด็จพ่อ ได้ยินว่าพระชายาขององค์ชายสามคลอดทารกปีศาจ ขุนนางทั้งหลายต่างคิดว่าปีศาจนั้นเป็นดาวอัปมงคล อยากให้ฝ่าบาทประหารชีวิต แต่ลูกกลับเห็นว่าไม่สมควรพ่ะย่ะค่ะ" พระขนงฝ่าบาทขยับเล็กน้อย ทรงพยักพระพักตร์ให้ฉู่อี้กล่าวต่อ ฉู่อี้ทูล "ราษฎรทั่วหล้าล้วนเห็นว่าเสด็จพ่อทรงมีความเมตตากรุณา เป็นพระราชาผู้ท

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 325

    หลิวกงกงส่งสองคนออกไป แล้วกลับมาทูลฝ่าบาท "ทูลฝ่าบาท หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรขอเข้าเฝ้า บอกว่ารออยู่ข้างนอกนานแล้วพ่ะย่ะค่ะ" "ไม่พบ" ฝ่าบาทปฏิเสธทันที "ยามนี้เราต้องการพบโหรหลวง เจ้าไปเชิญโหรหลวงมา" "พ่ะย่ะค่ะ" หลิวกงกงไม่กล้าขัดรับสั่ง เดินออกไปบอกหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรว่า "ท่านมาไม่ถูกจังหวะ กลับไปก่อนเถิด" หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรเข้าใจผิดคิดว่ามือสังหารตอนบ่ายเป็นคนที่ฝ่าบาทส่งมาจริง ๆ ฝ่าบาทจึงไม่อยากพบเขา เขายิ้มเก้อ ๆ "เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน เรื่องวันนี้พวกข้าไม่รู้เรื่องใดทั้งสิ้น หวังว่าขันทีใหญ่จะช่วยพูด ๆ กับฝ่าบาทด้วย" หลิวกงกงไม่เข้าใจความหมาย แต่ต่างก็รับใช้ในวังด้วยกัน ต้องให้หน้ากันบ้าง จึงยิ้มตอบ "แน่นอน ท่านตรวจตราทุกวันก็เหนื่อยมากแล้ว ข้าจะทูลฝ่าบาทถึงความดีของท่านแน่นอน" "ขอบคุณหลิวกงกงมาก" หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรยิ้มตาหยีเดินจากไป หลิวกงกงไม่กล้าชักช้า รีบไปเชิญโหรหลวงมาทันที ในตำหนักหว่อหลง เปลวเทียนสั่นไหว โหรหลวงสวมเสื้อคลุมขาวยืนกลางตำหนัก ทูลถาม "ฝ่าบาทเรียกกระหม่อมมา เป็นเพราะเรื่องปีศาจน้อยหรือพ่ะย่ะค่ะ" นี่เป็นครั้งแรกที่ฝ่าบาททรงเรียกพบโห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 326

    "พ่ะย่ะค่ะ" โหรหลวงพยักหน้า กำลังจะจากไป แต่ถูกฝ่าบาทรับสั่งให้หยุด "โหรหลวง ที่เราไม่ได้เรียกพบเจ้าระยะนี้ เพราะเจ้าจิ่นเริ่มสงสัยเราแล้ว ไม่ใช่เพราะเราจงใจทอดทิ้งเจ้า" ฝ่าบาทตรัสอธิบาย "ในบรรดาขุนนางทั้งหมด เราให้เจ้าทำเรื่องสำคัญทั้งหมด เพราะเราไว้ใจเจ้าที่สุด" โหรหลวงประสานมือกล่าว "เมื่อครั้งที่กระหม่อมหนีศัตรูมายังต้าเหยียน ฝ่าบาททรงช่วยกระหม่อมปิดบังชื่อและตัวตน ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้กระหม่อมเข้าวังมาเป็นโหรหลวง" "ฝ่าบาทคือผู้มีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อกระหม่อมนัก ไม่ว่าเมื่อใดที่ฝ่าบาทต้องการตัวกระหม่อม กระหม่อมย่อมยอมลุยไฟข้ามน้ำมาเพื่อฝ่าบาท ไม่มีข้อแม้ใด ๆพ่ะย่ะค่ะ" ... ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน หิมะที่สะสมบนพื้นถูกชาววังกวาดออกไปครึ่งหนึ่ง หิมะที่เหลือถูกเหยียบจนแน่น ยากที่จะกวาด จำต้องรอให้หิมะละลายไปเอง ฉู่เจวี๋ยเดินอยู่บนทางเล็ก ๆ ด้านหลังมีเสียงฝีเท้าไม่เร็วไม่ช้า ไม่ว่าเขาจะเดินเร็วหรือช้า เสียงฝีเท้าด้านหลังก็ยังคงรักษาระยะห่างเท่าเดิมไว้เสมอ เส้นเลือดที่ขมับเขากระตุก ทนไม่ไหวจึงหยุดเดิน หันไปมองฉู่อี้อย่างโกรธเกรี้ยว "เจ้าตามข้ามาทำไม" ฉู่อี้กะพริบ

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 578

    ชายร่างยักษ์ถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำจนแทบดูไม่ออกว่าเดิมมีหน้าตาเป็นเช่นไรมิหนำซ้ำ เลือดกำเดายังไหลทะลักไม่หยุด แขนทั้งสองไร้ความรู้สึก แม้แต่จะเช็ดเลือดออกจากใบหน้ายังไม่อาจกระทำได้เขาจ้องเจียงซุ่ยฮวนด้วยสายตาเจ็บใจ “เมื่อครู่นั้น…”—พูดได้เพียงสองคำ เลือดกำเดาก็ไหลย้อนเข้าปาก เขาสะอึกแล้วถ่มถุยออกมา “แหวะ! แหวะ! ช่างน่าขยะแขยงนัก!”น้ำลายปนเลือดแทบจะพ่นใส่เจียงซุ่ยฮวน นางแสดงสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ ยกมือบังคับศีรษะของเขาให้หันไปทางอัฒจันทร์น้ำลายและเลือดกระเซ็นกระจาย ผู้ชมพากันหวีดร้องหลบหนี บางคนร้องเสียงหลง โดยเฉพาะหญิงสาวในชุดชมพูผู้หนึ่งที่ทนไม่ไหว โยนผ้าเช็ดหน้าขึ้นเวที “เอาผ้านี่อุดจมูกเขาซะ ข้ายินดีให้หนึ่งพันตำลึง!”“ตกลง” เจียงซุ่ยฮวนก้มลงหยิบผ้าจากพื้น ยัดเข้าไปในรูจมูกของชายร่างยักษ์อย่างไม่ลังเลในที่สุดชายผู้นั้นก็หยุดพ่นน้ำลาย เขาพูดเสียงอู้อี้ผ่านผ้าที่ยัดจมูก “เมื่อครู่นั้นข้าแค่ประมาทไป หากเจ้ากล้าพอ จงต่อแขนข้าให้กลับเข้าที่ เราจะสู้กันใหม่!”เจียงซุ่ยฮวนทรุดกายนั่งลง บีบหัวเขาแนบพื้น “ข้ามิได้ว่างนัก หากเจ้าตอบคำถามของข้า ข้าจะ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 577

    บุรุษร่างยักษ์ร้องโอดโอย พลางยกมือกุมใบหน้า ถอยหลังเซถลาไปหลายก้าวพลันมีเสียงโห่ร้องอย่างขัดเคืองดังลั่นจากบนอัฒจันทร์“นี่มันเรื่องอะไร! ร่างกายใหญ่โตปานนี้ยังสู้หญิงไม่ได้อีกหรือ!”“ใช่แล้ว! อ่อนแอเกินไปแล้วกระมัง!”“ลุกขึ้นสิ! ข้าลงพนันหมดหน้าตักไว้กับเจ้าเลยนะ!”ดูท่าคนเหล่านี้ล้วนวางเดิมพันไว้ที่ชายร่างใหญ่ผู้นั้นทั้งสิ้นก็ไม่แปลก...ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ต่างกันลิบลับ ใครบ้างเล่าจะเชื่อว่าสตรีอย่างเจียงซุ่ยฮวนจะชนะเขาได้ชายร่างใหญ่เช็ดมุมปากของตนเอง เห็นรอยเลือดติดปลายนิ้วก็นัยน์ตาแข็งกร้าวขึ้นมา “ดูท่าข้าคงประเมินเจ้าต่ำไปเสียแล้ว”แต่เดิมเขาเข้าใจว่านางก็เป็นแค่หญิงชาวบ้านธรรมดา ไยเลย...ผ่านไปไม่กี่กระบวนท่า ก็รู้แล้วว่านางหาใช่คนที่เขาจะประมาทได้เจียงซุ่ยฮวนบิดข้อมือเบา ๆ พลางกล่าวเย้ยหยัน “ถูกแล้ว...เจ้ามันตาบอด”ชายร่างใหญ่ลุกพรวดขึ้นจากพื้น แผดเสียงคำรามแล้วพุ่งตรงเข้าหานางด้วยแรงทั้งหมดเจียงซุ่ยฮวนเบี่ยงกายหลบไปด้านข้าง มือข้างหนึ่งยันเสาเวทีไว้แล้วดีดตัวลอยขึ้นกลางอากาศ ก่อนจะเหวี่ยงเท้าเข้าใส่ใบหน้าชายผู้นั้นอีกคราชายร่างยักษ์ล้มตึงลงกับพื้น เลือดกำเดาไห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 576

    “สู้กัน! สู้กันสิ!”“ปลุกนางให้ลุกขึ้นมา!”“อย่าเสียเวลา! เร็วเข้า ให้หล่อนลุกขึ้นมาสู้!”เจียงซุ่ยฮวนรู้สึกตัวตื่นจากเสียงอึกทึกโกลาหลรอบกาย เสียงเหล่านั้นดั่งคลื่นซัดถาโถมเข้ามาไม่หยุดหย่อน ประหนึ่ง...จะเร่งให้นาง...สู้รึ!?นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น พบว่าตนเองกำลังนอนคว่ำอยู่บนพื้นคล้ายลานประลอง ลานแห่งนี้เป็นวงกลม กว้างพอจะรองรับคนได้ราวสิบคนรอบลานประลองมีผู้คนมากมายนับร้อยราย กำลังส่งเสียงร้องตะโกนโห่อย่างบ้าคลั่งจากเครื่องแต่งกายดูแล้ว ล้วนเป็นบรรดาผู้มีฐานะจากเมืองหลวง สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น คำตะโกนเร่งเร้าดังไม่ขาดสายแรกเริ่ม เจียงซุ่ยฮวนยังงุนงงอยู่มาก นางเพิ่งอยู่หน้าจวนแท้ ๆ เหตุใดจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้เล่า?เมื่อนางค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ฝูงชนโดยรอบก็ยิ่งโห่ร้องเสียงดังกระหึ่มกว่าเดิม“เสียงหนวกหูเสียจริง”นางยกมือกุมขมับ พลางพิจารณาสภาพแวดล้อมรอบกายอย่างตั้งใจสถานที่แห่งนี้...ดูเหมือนจะคุ้นตาอยู่บ้างทันใดนั้น ดวงตาของเจียงซุ่ยฮวนเบิกโพลง ใช่แล้ว! นางจำได้ ที่นี่นางเคยมาเยือนเมื่อหลายปีก่อน เจ้าของร่างเดิมถึงกับวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเพราะทนเห็นความโหดร้าย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 575

    ปู้กู่ถูกคานไม้ที่ถล่มลงมาทับขาจน เจ็บมีสีหน้าบิดเบี้ยวไปทั้งใบหน้า องครักษ์ลับทั้งหลายเมื่อเห็นดังนั้นจึงกรูกันเข้าไป หวังจะยกคานไม้ออกให้พ้นจากขาของเขาทว่าเปลวเพลิงยังไม่สงบลงโดยสิ้นเชิง ความเสี่ยงที่จะเกิดไฟลุกซ้ำยังมีอยู่ทุกเมื่อ จึงจำต้องแบ่งกำลังครึ่งหนึ่งไว้ดับไฟ อีกครึ่งเข้าไปช่วยปู้กู่คานไม้ที่ถล่มลงมานั้นหนักหนายิ่งนัก แถมยังร้อนจนแทบจับต้องไม่ได้ การจะยกขึ้นจึงยากเย็นนัก ปู้กู่เหงื่อเต็มหน้า พร่ำครางเสียงต่ำ “อย่าห่วงข้าเลย รีบไปช่วยคนในเรือนก่อน!”องครักษ์ผู้หนึ่งวิ่งเข้าไปดูในเรือน แล้วรีบวิ่งกลับออกมารายงาน “ในเรือน...ไม่มีใครอยู่แล้ว!”“ว่าอะไรนะ!?” ปู้กู่กัดฟันกรอด “บัดซบ! ปล่อยให้มันหนีไปได้!”เจียงซุ่ยฮวนเมื่อได้ยินว่าข้างในว่างเปล่า ทั้งโกรธทั้งโล่งใจ โกรธที่หลี่ลี่หลบหนีไปได้ แต่โล่งใจที่เขายังมีชีวิตอยู่องครักษ์ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามอย่างเกรงใจ “พระชายา ขออนุญาตไปช่วยท่านปู้กู่ก่อนจะได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”“ไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนก็เป็นห่วงปู้กู่ไม่น้อย หากปล่อยให้คานไม้นั้นกดทับอยู่นาน เกรงว่าจะยิ่งแย่ลง“ขอบพระคุณพระชายา กระหม่อมจะรีบกลับมาโดยเร็วพ่ะย่ะค่

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status