Share

บทที่ 319

Author: ทองประกาย
หลังจากฉู่เจวี๋ยส่งทารกให้แม่นมแล้ว ก็ถูกฝ่าบาทเรียกตัวไป แม้ว่าแม่นมจะไม่เต็มใจเพียงใด ก็ต้องกลั้นความหวาดกลัวไว้ในใจ อุ้มทารกไปยังห้องพระเครื่องต้น

ยามนี้ไม่ใช่เวลาอาหาร ห้องพระเครื่องต้นจึงว่างเปล่า แม่นมตั้งใจจะส่งทารกให้องครักษ์อุ้ม เพื่อที่ตนเองจะเข้าไปหานมวัว

แต่พวกองครักษ์ต่างก็ปฏิเสธ อ้างว่าตนเองไม่รู้จักควบคุมน้ำหนักมือ เกรงจะทำร้ายเด็ก

แม่นมรู้ว่าพวกเขากลัวจึงไม่กล้าอุ้ม แต่ก็ไม่กล้าทะเลาะกับองครักษ์ เลยได้แต่ถ่มน้ำลายลงพื้นด้วยความหงุดหงิด แล้วอุ้มทารกเข้าไปในห้องพระเครื่องต้นเอง

แม่นมไม่คุ้นเคยกับห้องพระเครื่องต้น แถมอุ้มเด็กไปหาของไปก็ไม่สะดวก จึงวางทารกไว้บนเขียงแล้วเดินไปค้นหาที่ด้านข้าง

ขณะที่แม่นมหันหลังให้ทารก เพื่อไปค้นหานมวัวอยู่นั้น อาเซียงก็ปีนเข้ามาทางหน้าต่างอีกด้าน แอบย่องไปที่ด้านข้างเขียงอย่างเงียบ ๆ

นางสวมชุดขาว สวมหมวกปีกกว้างสีขาวและผ้าคลุมหน้า เพื่อจะได้ไม่เป็นที่สังเกตเมื่อเดินบนหิมะ

"เจอแล้ว!" แม่นมหยิบไหนมวัวออกมาจากตู้ พอหันกลับมาก็เห็นอาเซียงถือมีดจ้องจะแทงทารก

แม่นมตาเบิกโพลง ทำไหในมือหล่น "ช่วยด้วย! มีคนจะฆ่าปีศาจน้อย...เอ่อ...รัช
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 320

    เมื่อพ้นอันตราย อาเซียงไม่สนใจแขนที่บาดเจ็บของตน รีบกลับไปยังตำหนักของพระสนมจีกุ้ยเฟย "พระสนมเพคะ บ่าวทำงานไม่สำเร็จ ขอพระสนมลงโทษด้วยเพคะ!" อาเซียงคุกเข่าลงพลางกล่าวตำหนิตนเอง พระสนมจีกุ้ยเฟยไม่เอ่ยวาจา ดูเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่าง ผ่านไปนานจึงถามขึ้นว่า "เจ้าว่าห้องพระเครื่องต้นเกิดไฟไหม้ขึ้นกะทันหันเช่นนั้นหรือ" "เพคะ ใกล้ ๆ กับที่เก็บเสบียง" "แปลกนัก อยู่ดี ๆ จะเกิดไฟไหม้ได้อย่างไร หรือว่ามีคนช่วยเจ้าอยู่" พระสนมจีกุ้ยเฟยขมวดคิ้ว นั่นหมายความว่ามีคนนอกรู้เรื่องนี้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเลย อาเซียงตกใจ กล่าวว่า "แต่พระสนมเพคะ ตอนนั้นในห้องพระเครื่องต้นไม่มีคนอื่นอยู่ พวกองครักษ์และองครักษ์เสื้อแพรอยากจับตัวบ่าวไปรับรางวัล จะช่วยบ่าวได้อย่างไรเพคะ" "บางทีอาจเป็นเพราะตอนต่อสู้ทำให้ประกายไฟจากเตาไฟกระเด็นไปถูกของในมุมห้อง จึงเกิดไฟไหม้" อาเซียงคาดเดา "ที่เจ้าพูดก็ถูกอยู่นะ" พระสนมจีกุ้ยเฟยพยักหน้า แล้วกล่าวต่อ "เจ้าไปหาหมอหลวงเจียงให้รักษากระดูก ช่วงนี้พักฟื้นให้ดี อย่าไปยุ่งกับเรื่องใดทั้งสิ้น" "พระสนม พระสนมติดค้างบุญคุณหมอหลวงเจียงไว้แล้ว บ่าวไม่อยากสร้างความลำบากให้พระ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 321

    สวี่เหนียนถามอย่างดีใจ "จริงหรือท่านหมอเจียง ข้าน้อยจะได้กลับไปเฝ้าพระสนมแล้วหรือ" เขาตื่นเต้นจนลืมระวังตัว เมื่อเอ่ยถึงพระสนมจีกุ้ยเฟย ดวงตาเต็มไปด้วยความรักใคร แต่เขาก็รู้ตัวในทันทีว่าท่าทีตนเองแสดงออกชัดเจนเกินไป จึงรีบชำเลืองมองเจียงซุ่ยฮวนด้วยความระแวดระวัง"ตอนนี้ยังไม่ได้ ร่างกายเจ้ายังต้องพักฟื้นอีกสองวันจึงจะออกไปได้ ข้าจะฝังเข็มให้เจ้าอีกครั้ง" เจียงซุ่ยฮวนหยิบเข็มมา พลางพูดอย่างไม่ใส่ใจ "ดูเหมือนพระสนมจะปฏิบัติต่อเจ้าดีมาก ถึงจะป่วยหนักขนาดนี้ก็ยังไม่คิดพักผ่อน กลับใจจดใจจ่ออยากกลับไปอยู่ข้างพระสนม" สวี่เหนียนหัวเราะแห้ง ๆ สองที "ใช่ขอรับ พระสนมเมตตาพวกเราผู้เป็นบ่าวเสมอมา" "เรื่องนี้จริง หากเป็นคนอื่นเป็นโรคนี้ ป่านนี้คงอยู่ในป่าช้าไปแล้ว แต่พระสนมไม่เพียงจัดที่พักดี ๆ ให้เจ้า ยังเชิญข้ามารักษาเจ้า เห็นได้ชัดว่าพระสนมดีต่อเจ้ามาก" เจียงซุ่ยฮวนพับแขนเสื้อ เริ่มฝังเข็มให้เขา เจียงซุ่ยฮวนเพียงพูดลอย ๆ แต่กลับทำให้ใบหน้าของสวี่เหนียนเปลี่ยนสีทันทีนางเก็บเข็มเงินแล้วลุกขึ้นพูด "เจ้าพักอีกสองวัน เมื่อทางลงเขาโล่งแล้ว เจ้าก็จะได้ลงเขาพร้อมพระสนม" "ท่านหมอเจียง โปรดร

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 322

    อาเซียงเก็บน้ำมันดอกคำฝอยเข้าที่ มองไปด้านหลังเจียงซุ่ยฮวน "หมอเจียง เขา...เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ" เจียงซุ่ยฮวนไม่ต้องมองก็รู้ว่านางหมายถึงใคร ตอบว่า "หายดีแล้ว พวกเจ้าลงเขาเมื่อไหร่ก็พาเขาไปด้วยได้เลย" "ขอบคุณท่านหมอเจียงเจ้าค่ะ" ดวงตาอาเซียงวาบขึ้นด้วยความยินดี แต่ไม่กล้าแสดงออกชัดเจนนัก รีบหมุนตัวจากไป หลังจากเจียงซุ่ยฮวนพาชุนเถากลับมาแล้ว ก็รีบเข้าห้องทดลองทันที ไม่กี่วันมานี้นางกำลังวิจัยยาจีนเพื่อป้องกันและรักษาโรคฝีดาษ ซึ่งเริ่มเห็นผลแล้ว เมื่อนางวิจัยสำเร็จและเผยแพร่ยาจีนนี้ออกไป นางก็จะได้รับทั้งทรัพย์สิน และชื่อเสียงเงินทองคิดถึงตรงนี้ นางก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ อีกทั้งนางยังมีสถานเสริมความงาม เมื่อเปิดกิจการ ต้องโด่งดังในเมืองหลวงแน่ คงได้ใช้เวลานั่งนับเงินจนมือเป็นระวิงเลยทีเดียว! สมบัติล้ำค่าในเจินเป่าเก๋อ นางอยากซื้อเท่าไหร่ก็ซื้อได้ "ฮ่า ๆ ๆ" เจียงซุ่ยฮวนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำการทดลองต่อเสียงชุนเถาดังมาจากข้างนอก "อาจารย์ องค์ชายเป่ยโม่ต้องการพบท่านเจ้าค่ะ" เจียงซุ่ยฮวนถอดชุดทดลองออก เดินออกมาจากห้องทดลอง หลังเปิดประตู นางเงยหน้ามองกู้จ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 323

    "ก็ไม่เชิง องค์ชายแปดตอนนี้เป็นที่โปรดปรานของเสด็จพี่อย่างมาก ทั้งยังชนะการแข่งล่าสัตว์ รวบรวมขุนนางได้มากมาย หากพระสนมจีกุ้ยเฟยเกิดเรื่องในตอนนี้ จะต้องทำให้ราชสำนักปั่นป่วนแน่" ดวงตากู้จิ่นลึกล้ำ "ดังนั้นข้าจึงวางแผนจะรออีกสักพัก รอจนถึงจังหวะที่เหมาะสม แล้วจึงเปิดโปงการกระทำทั้งหมดของพระสนมจีกุ้ยเฟย และให้ทุกคนรู้ว่าองค์ชายแปดไม่ใช่พระโอรสแท้ ๆ ของเสด็จพี่" เจียงซุ่ยฮวนคิดในใจว่าต้องรีบไปทวงบุญคุณสองอย่างจากพระสนมจีกุ้ยเฟยก่อนถึงตอนนั้นให้ได้ ครั้นคิดได้เช่นนั้น นางก็ไม่เร่งรีบกลับห้องทดลองอีกต่อไป พลางโอบกาน้ำชาไว้แน่นแล้วกล่าวว่า"ถ้าท่านว่าง ลองไปสืบดูคนชื่อสวี่เหนียนคนนี้ได้ไหม เขาบอกว่าตัวเองเป็นบุตรชายของผู้ดูแลจวนตระกูลจี แต่ข้ารู้สึกว่าฐานะของเขาไม่ธรรมดาอย่างที่เห็น" "เพราะอะไร" กู้จิ่นถาม "ข้าก็บอกไม่ถูก เป็นแค่ลางสังหรณ์" เจียงซุ่ยฮวนยักไหล่ "แม้เขาจะดูซื่อ ๆ พูดอะไรก็ไม่มีพิรุธ แต่เพราะมันไม่มีพิรุธนั่นแหละ ถึงน่าสงสัยท่านเข้าใจความหมายของข้าไหม" เจียงซุ่ยฮวนเริ่มพูดวกวนจนเกือบจะทำตัวเองสับสนแต่ถึงกระนั้น กู้จิ่นก็เข้าใจความหมายของนาง "ข้าเข้าใจ ข้าจะให้ชางอ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 324

    ฉู่อี้เลื่อนสายตาไปยังฉู่เจวี๋ยที่คุกเข่าอยู่บนพื้น ฉู่เจวี๋ยกำลังมองเขาพอดี เขายกมุมปากอย่างมีนัยยะ แล้วทูลฝ่าบาท "ทูลเสด็จพ่อ ลูกมาขอพระเมตตาให้องค์ชายสามพ่ะย่ะค่ะ" "ลูกได้ยินจากนอกตำหนักว่าเสด็จพ่อจะทรงลดฐานะองค์ชายสามเป็นสามัญชน จึงมาขอให้ทรงเปลี่ยนพระทัยพ่ะย่ะค่ะ" แววพระเนตรฝ่าบาทมีความสงสัย เมื่อหลายปีก่อนฉู่อี้กับฉู่เจวี๋ยเคยทะเลาะกันในท้องพระโรงเพราะความคิดไม่ตรงกัน หลังจากนั้นทั้งสองก็มองหน้ากันไม่ติด การที่พระองค์จะลดฐานะฉู่เจวี๋ย ฉู่อี้ควรจะดีใจมิใช่หรือ แล้วเหตุใดจึงมาขอความเมตตาให้ฉู่เจวี๋ย ฉู่เจวี๋ยก็รู้สึกสงสัยเช่นกัน เขาคิดว่าฉู่อี้ต้องมีแผนอะไรบางอย่าง ไม่มีทางมีเจตนาที่ดีแน่ จึงตะโกนว่า "ข้าไม่ต้องการให้เจ้ามาขอความเมตตาให้!" ฉู่อี้ทำเป็นไม่ได้ยินแล้วทูลต่อ "ทูลเสด็จพ่อ ได้ยินว่าพระชายาขององค์ชายสามคลอดทารกปีศาจ ขุนนางทั้งหลายต่างคิดว่าปีศาจนั้นเป็นดาวอัปมงคล อยากให้ฝ่าบาทประหารชีวิต แต่ลูกกลับเห็นว่าไม่สมควรพ่ะย่ะค่ะ" พระขนงฝ่าบาทขยับเล็กน้อย ทรงพยักพระพักตร์ให้ฉู่อี้กล่าวต่อ ฉู่อี้ทูล "ราษฎรทั่วหล้าล้วนเห็นว่าเสด็จพ่อทรงมีความเมตตากรุณา เป็นพระราชาผู้ท

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 325

    หลิวกงกงส่งสองคนออกไป แล้วกลับมาทูลฝ่าบาท "ทูลฝ่าบาท หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรขอเข้าเฝ้า บอกว่ารออยู่ข้างนอกนานแล้วพ่ะย่ะค่ะ" "ไม่พบ" ฝ่าบาทปฏิเสธทันที "ยามนี้เราต้องการพบโหรหลวง เจ้าไปเชิญโหรหลวงมา" "พ่ะย่ะค่ะ" หลิวกงกงไม่กล้าขัดรับสั่ง เดินออกไปบอกหัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรว่า "ท่านมาไม่ถูกจังหวะ กลับไปก่อนเถิด" หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรเข้าใจผิดคิดว่ามือสังหารตอนบ่ายเป็นคนที่ฝ่าบาทส่งมาจริง ๆ ฝ่าบาทจึงไม่อยากพบเขา เขายิ้มเก้อ ๆ "เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อน เรื่องวันนี้พวกข้าไม่รู้เรื่องใดทั้งสิ้น หวังว่าขันทีใหญ่จะช่วยพูด ๆ กับฝ่าบาทด้วย" หลิวกงกงไม่เข้าใจความหมาย แต่ต่างก็รับใช้ในวังด้วยกัน ต้องให้หน้ากันบ้าง จึงยิ้มตอบ "แน่นอน ท่านตรวจตราทุกวันก็เหนื่อยมากแล้ว ข้าจะทูลฝ่าบาทถึงความดีของท่านแน่นอน" "ขอบคุณหลิวกงกงมาก" หัวหน้าองครักษ์เสื้อแพรยิ้มตาหยีเดินจากไป หลิวกงกงไม่กล้าชักช้า รีบไปเชิญโหรหลวงมาทันที ในตำหนักหว่อหลง เปลวเทียนสั่นไหว โหรหลวงสวมเสื้อคลุมขาวยืนกลางตำหนัก ทูลถาม "ฝ่าบาทเรียกกระหม่อมมา เป็นเพราะเรื่องปีศาจน้อยหรือพ่ะย่ะค่ะ" นี่เป็นครั้งแรกที่ฝ่าบาททรงเรียกพบโห

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 326

    "พ่ะย่ะค่ะ" โหรหลวงพยักหน้า กำลังจะจากไป แต่ถูกฝ่าบาทรับสั่งให้หยุด "โหรหลวง ที่เราไม่ได้เรียกพบเจ้าระยะนี้ เพราะเจ้าจิ่นเริ่มสงสัยเราแล้ว ไม่ใช่เพราะเราจงใจทอดทิ้งเจ้า" ฝ่าบาทตรัสอธิบาย "ในบรรดาขุนนางทั้งหมด เราให้เจ้าทำเรื่องสำคัญทั้งหมด เพราะเราไว้ใจเจ้าที่สุด" โหรหลวงประสานมือกล่าว "เมื่อครั้งที่กระหม่อมหนีศัตรูมายังต้าเหยียน ฝ่าบาททรงช่วยกระหม่อมปิดบังชื่อและตัวตน ทั้งยังโปรดเกล้าฯ ให้กระหม่อมเข้าวังมาเป็นโหรหลวง" "ฝ่าบาทคือผู้มีพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ต่อกระหม่อมนัก ไม่ว่าเมื่อใดที่ฝ่าบาทต้องการตัวกระหม่อม กระหม่อมย่อมยอมลุยไฟข้ามน้ำมาเพื่อฝ่าบาท ไม่มีข้อแม้ใด ๆพ่ะย่ะค่ะ" ... ภายใต้แสงจันทร์สีเงิน หิมะที่สะสมบนพื้นถูกชาววังกวาดออกไปครึ่งหนึ่ง หิมะที่เหลือถูกเหยียบจนแน่น ยากที่จะกวาด จำต้องรอให้หิมะละลายไปเอง ฉู่เจวี๋ยเดินอยู่บนทางเล็ก ๆ ด้านหลังมีเสียงฝีเท้าไม่เร็วไม่ช้า ไม่ว่าเขาจะเดินเร็วหรือช้า เสียงฝีเท้าด้านหลังก็ยังคงรักษาระยะห่างเท่าเดิมไว้เสมอ เส้นเลือดที่ขมับเขากระตุก ทนไม่ไหวจึงหยุดเดิน หันไปมองฉู่อี้อย่างโกรธเกรี้ยว "เจ้าตามข้ามาทำไม" ฉู่อี้กะพริบ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 327

    "หวังว่าท่านจะให้คำตอบข้าก่อนลงจากเขา มิฉะนั้น ข้าจะไปสนทนากับเสด็จพ่ออีกครั้ง" ฉู่อี้พูดจบก็เดินผ่านฉู่เจวี๋ยไป ฉู่เจวี๋ยกำหมัดแน่น เขาอยากจะวิ่งตามไปถามให้ชัดเจน แต่นึกถึงเจียงเม่ยเอ๋อร์ที่รออยู่ ความรู้สึกผิดก็ถาโถมเข้าใส่จึงต้องรีบกลับไปหานางก่อน วันรุ่งขึ้น ฝ่าบาททรงเรียกขุนนางมาประชุมที่ตำหนักว่อหลง โหรหลวงออกมากล่าวว่า "เชื่อว่าทุกท่านคงทราบกันแล้วว่า เมื่อวานพระชายาแห่งหนานหมิงได้ประสูติทารกที่มีรูปลักษณ์แปลกประหลาด บางคนถึงกับกล่าวว่าเป็นดาวอัปมงคล" "ข้าได้รับบัญชาจากฝ่าบาทให้ทำพิธีพยากรณ์เมื่อคืนนี้ผลออกมาชัดเจนว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ดาวอัปมงคล แต่เป็นวิญญาณที่บำเพ็ญตนจนเป็นเซียนกลับชาติมาเกิด เป็นดาวแห่งมงคลที่จะปกป้องแคว้นต้าเหยียน ขอพวกท่านอย่าได้กังวลใจ" คำทำนายของโหรหลวงแม่นยำเสมอมา เมื่อขุนนางทั้งหลายได้ฟังก็ฮือฮาในทันที ที่แท้ปีศาจนั้นเป็นดาวแห่งมงคล พวกเขากลับคิดว่าเป็นดาวอัปมงคล ถึงขั้นวิงวอนให้ฝ่าบาทประหารชีวิต คิดได้ดังนั้น ขุนนางทั้งหลายจึงพากันไปหาเจียงเม่ยเอ๋อร์ ฉู่เจวี๋ยดีใจยิ่งนัก บุตรชายของเขาไม่เพียงรอดชีวิต ยังกลายเป็นดาวแห่งมงคล นับเป็นเรื่องน่ายิน

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 574

    ครั้นได้ยินคำว่า “ไฟไหม้” ความง่วงที่ยังหลงเหลืออยู่ในห้วงนิทราของเจียงซุ่ยฮวนพลันสลายหายไปสิ้น หัวใจพลันเต้นโครมครามราวจะหลุดจากอกนางลุกพรวดจากที่นอน คว้าผ้าคลุมขนกระต่ายที่วางอยู่ข้างหมอนมาสวมอย่างลวก ๆ แล้วรีบลงจากเตียงในขณะเดียวกัน ประตูห้องก็ถูกผลักเปิดอย่างรุนแรง หยิ่งเถาวิ่งพรวดเข้ามาทั้งที่ยังทรงตัวไม่ทันดี จึงพลาดล้ม “โครม” ลงกับพื้นหยิ่งเถาไม่ทันได้ลุกขึ้นก็รีบเงยหน้าร้องบอกเสียงลั่น “คุณหนู! รีบออกไปเถิด! ข้างนอกเกิดไฟขึ้นแล้ว!”เจียงซุ่ยฮวนรีบสวมรองเท้า ก้าวยาว ๆ ตรงเข้าไปฉุดหยิ่งเถาขึ้นจากพื้น แล้วจูงมือนางวิ่งออกไปทันทีมือของเจียงซุ่ยฮวนที่กำมือหยิ่งเถานั้นสั่นน้อย ๆ นางถามเสียงเร่งร้อน “เสี่ยวถังหยวนเล่า?”“คุณชายน้อยปลอดภัยดีเพคะ แม่นมเห็นก่อนจึงรีบพาออกไปหลบแล้วเพคะ” หยิ่งเถารีบตอบครั้นรู้ว่าลูกน้อยปลอดภัย เจียงซุ่ยฮวนจึงค่อยสงบลงเล็กน้อย แล้วเอ่ยถามอีกครั้ง “แล้วไฟเกิดที่ใด?”“เป็นห้องพักของท่านอาจารย์เพคะ” หยิ่งเถาตอบเจียงซุ่ยฮวนถึงกับชะงัก ห้องของฉู่เฉินหรือ!? แล้วหลี่ลี่ก็ยังอยู่ในนั้นด้วย!นางจึงเร่งฝีเท้าวิ่งออกไป ทว่าเพิ่งออกจากประตู ก็มีควันไฟใน

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 573

    หากฝืนปลุกเขาขึ้นมาในยามนี้ เกรงว่าจะทำให้สติแตกเสียจนอาละวาดคลุ้มคลั่ง“ดูท่าคงต้องปล่อยให้ฟื้นขึ้นเองแล้วกระมัง” เจียงซุ่ยฮวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา แล้วเอ่ยเรียกจากในห้องว่า “ปู้กู่ เข้ามาหาข้าสักประเดี๋ยวสิ”ปู้กู่เปิดประตูเข้ามาทันที “พระชายา มีสิ่งใดจะทรงบัญชาหรือพ่ะย่ะค่ะ?”เจียงซุ่ยฮวนชี้ไปยังบุรุษที่นอนอยู่บนพื้น “เจ้ารู้จักบุรุษผู้นี้หรือไม่?”ปู้กู่หลับตานิ่ง พยายามรื้อค้นความทรงจำอย่างเคร่งเครียด ทว่านึกอยู่เนิ่นนานก็ยังคิดไม่ออกเจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวเป็นเชิงเตือน “ชายผู้นี้ผิวขาวซีดผิดธรรมชาติ คงมิได้ออกไปพบแสงตะวันมาเป็นเวลานานแล้ว”ปู้กู่นั่งย่อตัวลง เพ่งพินิจใบหน้าของบุรุษผู้นั้นอย่างละเอียด กระทั่งครู่หนึ่ง ก็อุทานเสียงเบา “ซี้ด…”“นึกออกแล้วหรือ?” เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยถามปู้กู่ชี้ไปที่บุรุษผู้นั้นด้วยแววตาตกตะลึง “ผู้นี้ชื่อหลี่ลี่ เมื่อสิบปีก่อน เคยเป็นหนี้หอพนันถึงหนึ่งแสนตำลึง แล้วบุกเข้าไปปล้นคฤหาสน์ของพ่อค้าผู้มั่งคั่ง”“หากเพียงแค่ปล้นก็คงไม่ถึงกับร้ายกาจนัก เขากลับอาศัยฝีมือที่เหนือกว่าฆ่าล้างทั้งครอบครัวพ่อค้านั้น รวมแล้วกว่ายี่สิบชีวิต”เจียงซุ่ยฮวนสีหน้าหม

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 572

    เจียงซุ่ยฮวนโดยสารรถม้ากลับถึงจวน พอเปิดม่านลงจากรถ ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปู้กู่ยืนอยู่เบื้องหน้าพร้อมผู้ติดตามนับสิบคน“เหตุใดเจ้าจึงพาผู้คนมากมายมาด้วย?” นางเหลือบมองแคร่ไม้ด้านหลังพลางถามปู้กู่รีบเอ่ยอย่างร้อนรน “พระชายา พอได้ข่าวว่าเส้นทางขากลับถูกเฉียนจิงอี๋สกัดไว้ กระหม่อมก็ตั้งใจจะนำคนไปช่วย แต่ไม่นานก็ทราบว่าท่านเสด็จกลับมาเสียแล้ว”“อืม...ตอนนี้ไม่มีอันใดแล้ว ให้พวกเขาแยกย้ายกันไปเถิด” เจียงซุ่ยฮวนโบกมือ นางยังเร่งรีบอยากกลับเข้าเรือนเพื่อสอบปากคำฉู่เฉินตัวปลอมปู้กู่สั่งให้คนที่มาด้วยกันกลับไป ทว่าตนเองกลับยืนอยู่นิ่ง ๆ ไม่ขยับเจียงซุ่ยฮวนจึงถามขึ้น “เหตุใดเจ้ายังไม่ไปเล่า?”ปู้กู่เอ่ยว่า “พระชายา ขอพระองค์โปรดแจ้งกระหม่อมเถิด เฉียนจิงอี๋ขวางรถพระองค์ไว้ด้วยเหตุใด?”เจียงซุ่ยฮวนเล่าเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วกล่าวทิ้งท้ายว่า “ข้ารู้สึกว่าคนผู้นี้ไม่ธรรมดา ที่สำคัญคือแววตาที่เขามองข้ามันช่างประหลาด เจ้ารีบส่งคนไปสืบข่าวเขาสักหน่อยเถิด”ปู้กู่สีหน้าหนักแน่น “เฉียนจิงอี๋ผู้นี้มิใช่คนธรรมดาแน่ หอพนันซิ่งหลงของตระกูลเขากระจายอยู่ทั่วแคว้นต้าเหยียน และเขาเอง...ดูเหมือนจะมีธ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 571

    เจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วกดเสียงต่ำลงพลางกระซิบว่า “วางใจเถิด...ตอนนี้ไม่มีแล้ว”แววตาขององครักษ์ลับยังเต็มไปด้วยความสงสัย ทว่าเจียงซุ่ยฮวนเพียงยิ้มอย่างเงียบงัน หาได้กล่าวคำใดอีกไม่นานนัก เฉียนจิงอี๋ก็เดินออกจากรถม้าด้วยท่วงท่าสงบ มือไพล่หลังไว้ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้ากลับจางหายไปจนหมดสิ้น หางตายังพลันกระตุกเล็กน้อยเขาเห็นกับตาตนเองว่าเหล่าองครักษ์ลับจับคนยัดใส่รถม้า แล้วเขายังไล่ตามมาตลอดทางจากหอพนัน สายตาไม่เคยละไปที่อื่นเลยแม้แต่น้อยแต่เหตุใดคนผู้นั้นจึงหายไปเสียได้?เจียงซุ่ยฮวนยิ้มถาม “เห็นผู้ใดหรือไม่?”แววตาเฉียนจิงอี๋เย็นเยียบสั่นไหวเล็กน้อย ประหนึ่งกำลังครุ่นคิดบางสิ่งอยู่ เมื่อสบเข้ากับรอยยิ้มของเจียงซุ่ยฮวน เขาจึงยกยิ้มบาง ๆ “ขออภัยด้วยคุณหนู ข้าคงตาฝาดไป”เขาหยิบตั๋วเงินใบหนึ่งขึ้นมา แล้วยื่นสองมือส่งให้เจียงซุ่ยฮวน “เชิญคุณหนูรับของเล็กน้อยเป็นการขออภัย”ท่าทีของบุรุษผู้นี้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนัก ไม่เสียแรงเป็นทายาทหอพนันโดยแท้ ขณะที่เจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอื้อมมือไปรับ กลับพบว่าตั๋วเงินในมือเขานั้นมิใช่ใบละแค่แสนตำลึง...แต่เป็นถึงสองแสนตำลึงเจียงซุ่ยฮวนชักมือกลั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 570

    ควันสีเทาลอยฟุ้งขึ้นมา ลูกประคำที่เฉียนจิงอี๋ปาออกไปยังคงสภาพสมบูรณ์ แต่กลับฝังลึกอยู่กลางหลุมใหญ่บนพื้นแค่ลูกประคำธรรมดา กลับสามารถก่อความเสียหายได้ถึงเพียงนี้ ต้องมีพลังภายในลึกล้ำถึงเพียงใดกันแน่สีหน้าของเจียงซุ่ยฮวนพลันเคร่งขรึม ขณะเดียวกัน เหล่าองครักษ์ลับที่ล้อมรถม้าอยู่ก็ล้วนตั้งท่าเตรียมพร้อมด้วยท่าทีตึงเครียดแต่ก่อนพวกเขาเคยได้ยินชื่อของเฉียนจิงอี๋มาบ้าง รู้เพียงว่าเขาเป็นทายาทของหอพนันซิ่งหลง เป็นผู้มีอุปนิสัยเงียบขรึม หาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนบ่อยนักกระทั่งได้พบกับตัวจริงในวันนี้ จึงรู้ว่าบุรุษผู้นี้...มิใช่คนธรรมดาแน่นอน“แม่นางผู้นี้ ข้าไร้เจตนาจะสร้างความลำบากแก่ท่าน เพียงแต่ในฐานะทายาทของหอพนันซิ่งหลง ข้าย่อมไม่อาจเพิกเฉยมองลูกค้าถูกลักพาตัวไปต่อหน้าต่อตา...ท่านว่าใช่หรือไม่?” เฉียนจิงอี๋ยิ้มละไม รอยยิ้มนั้นดูสุภาพอ่อนโยน หากแต่แฝงไว้ด้วยแรงกดดันจาง ๆ อย่างยากจะหยั่งถึงองครักษ์ลับทั้งหกยังคงเฝ้ารอบรถม้า หนึ่งในนั้นค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แล้วอาศัยจังหวะชุลมุนลับหายไปในพริบตาเฉียนจิงอี๋เห็นดังนั้น จึงหัวเราะพลางถามว่า “หืม? ถึงกับต้องไปตามกำลังเสริมเชียวหรือ? หรื

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 569

    ผู้คนที่อยู่ ณ ที่นั้นล้วนทราบดีว่า "เซียนพนัน" ผู้นั้นจงใจกลั่นแกล้งเจียงซุ่ยฮวนเป็นแน่ ทั้งที่ลูกเต๋ายังวางนิ่งอยู่ในถ้วย จะมีผู้ใดคาดเดาได้ถูกต้องเล่า?ขณะนั้นเอง เหล่าองครักษ์ลับทั้งหกก็เริ่มขยับเข้าใกล้ฉู่เฉินตัวปลอมอย่างช้า ๆ พวกเขาล้วนถอดชุดดำออกเสียแล้ว แลดูแทบไม่แตกต่างจากชาวบ้านทั่วไปเจียงซุ่ยฮวนยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบว่า “ตกลง”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง แม้เจียงซุ่ยฮวนจะชนะมาหลายตา แต่หาได้มีผู้ใดเชื่อว่านางจะเดาแต้มลูกเต๋าได้ถูกต้องทุกเม็ด ครั้นแล้วจึงพร้อมใจกันวางเดิมพันทั้งหมดลงข้างเซียนพนันฉู่เฉินตัวปลอมลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนวางถุงผ้าบนโต๊ะ แล้วเดิมพันข้างเซียนพนันเช่นกันหญิงสาวบนโต๊ะค่อย ๆ เขย่าถ้วยลูกเต๋า เจียงซุ่ยฮวนหลับตาลง ตั้งใจฟังเสียงที่เล็ดลอดออกมาจากในถ้วยโดยมิปล่อยให้จิตวอกแวกในยามนั้น เสียงรอบข้างพลันเลือนหาย สิ่งเดียวที่ดังสะท้อนอยู่ในโสตประสาทคือเสียง “กรุ๊งกริ๊ง กั๊กกั๊ก” ของลูกเต๋าอันแว่วไหวจนเมื่อลูกเต๋าสิ้นเสียงนิ่งลง เจียงซุ่ยฮวนจึงลืมตาขึ้นมาเซียนพนันแค่นหัวเราะเย็น เอื้อนเอ่ยอย่างเย้ยหยัน “ทายสิ ข้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าเจ้าจะทายได้หรือไม่!”เจีย

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 568

    ผู้คนรอบโต๊ะเมื่อเห็นว่าเซียนพนันลงเงินมากถึงเพียงนี้ ต่างคิดว่าเขาคงเริ่มจริงจังแล้ว จึงพากันวางเดิมพันตามครั้นทุกคนลงเงินเสร็จ เจียงซุ่ยฮวนกลับค่อย ๆ หยิบตั๋วเงินห้าร้อยตำลึงออกมาวางบนโต๊ะอย่างไม่รีบร้อน“……”ทุกผู้คนถึงกับตะลึง โดยเฉพาะเซียนพนัน สีหน้าเขาราวกับกลืนของเสียเข้าไป เอ่ยด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง “นี่เจ้าล้อข้าเล่นหรือ?”หญิงบนโต๊ะเองก็หน้าเจื่อนเล็กน้อย “คุณหนูเจ้าขา ที่นี่วางขั้นต่ำต้องหนึ่งพันตำลึงเจ้าค่ะ”“อ้อ ขอโทษด้วย” เจียงซุ่ยฮวนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะหยิบอีกใบมาวางซ้อน “เช่นนี้ใช้ได้หรือยัง?”เซียนพนันนั้นยืมเงินจากบ่อนมากถึงหมื่นตำลึง เพียงหวังเอาชนะเงินสองแสนของนาง กลับกลายเป็นนางวางแค่พันเดียว จนเขาอยากจะพลิกโต๊ะเสียให้ได้ทว่าผู้ใดจะสนใจความคิดของเขา? เจียงซุ่ยฮวนหาได้ใส่ใจ เพราะสิ่งที่นางต้องการคือเรียกความสนใจ หาใช่เดิมพันเพื่อชัยชนะอย่างเดียวและผลก็ไม่ผิดคาด นางชนะอีกคราหลายตาต่อมา บางครั้งนางวางเดิมพันทีละสองแสน บางครั้งก็เพียงแค่พันเดียว แต่ทุกครั้งนางล้วนชนะหมดส่วนเซียนพนันกลับเหมือนตกอยู่ในวังวนของความอาฆาต ยิ่งนางเลือกอย่างไร เขาก็เลือกตรงข้าม จนแพ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 567

    เมื่อเจียงซุ่ยฮวนกล่าวจบ เสียงหัวเราะเยาะก็ดังขึ้นรอบโต๊ะ“ฮ่า ๆ ๆ! ข้ารู้อยู่แล้วเชียวว่านางต้องเพี้ยนแน่ พวกเราลง ‘สูง’ กันหมด แต่นางกลับเลือก ‘ต่ำ’ เสียนี่!”ผู้หนึ่งชี้ไปยังชายที่ลงเงินเป็นคนแรก แล้วหันมาถามเจียงซุ่ยฮวนว่า “แม่นาง รู้หรือไม่ว่าท่านผู้นี้เป็นใคร?”เจียงซุ่ยฮวนเลิกคิ้วขึ้น เอ่ยเรียบ ๆ ว่า “แล้วเขาเป็นใครกันล่ะ”“เขาน่ะหรือ คือ ‘เซียนพนัน’ ประจำที่นี่เชียวนะ! ท่านผู้นี้แม่นยำยิ่ง ทายสิบหน ชนะไปถึงเจ็ด!”อีกคนที่มิได้ลงพนัน กล่าวเสริมว่า “ใช่แล้ว เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายในบ่อนนี้ ยังต้องตามเขาเลือกเลยแม่นาง ข้าเกรงว่าท่านควรไตร่ตรองให้ดี สองแสนตำลึงมิใช่น้อย ๆ”ชายที่ถูกเรียกว่าเซียนพนันจับจ้องตั๋วเงินเบื้องหน้าเจียงซุ่ยฮวนด้วยแววตาลุกวาว ราวกับเงินนั้นได้ตกในกำมือของตนเรียบร้อยแล้วครั้นได้ยินเสียงเตือนของคนอื่น ก็แค่นเสียงฮึดฮัด “เจ้าเองยังไม่ได้เดิมพัน อย่าสอด!”จากนั้นจึงหันมายิ้มเจ้าเล่ห์ต่อเจียงซุ่ยฮวน “แม่นาง อย่าได้เชื่อคำพวกนั้น ข้าเองก็ใช่ว่าจะทายถูกเสมอ”“ท่านหากตามพวกเราเลือก ‘สูง’ ชนะขึ้นมาก็ได้เงินไม่มากเท่าไร แต่หากท่านเลือก ‘ต่ำ’ แล้วชนะ อย่าง

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 566

    ชายตาตี่โน้มตัวลงมาด้วยความคาดหวัง “ว่ากระไร?”เจียงซุ่ยฮวนชกเข้าที่เบ้าตาซ้ายของเขาทันที ใช้เพียงห้าส่วนของพลังแต่ก็ตาเขียวช้ำเป็นวง ร้องลั่นพลางย่อตัวกุมตาชายหน้าแดงตะโกนด่า “นางหญิงชั่ว เจ้าคงอยากตายแล้วกระมัง!”เจียงซุ่ยฮวนกระชากคอเสื้อเขาขึ้นมาด้วยแววตาเด็ดขาด “ฟังให้ดี ข้ามาเพื่อตามหาคน ไม่นานก็จะไป”“หากพวกเจ้ายังคิดจะขัดขวางอีก อย่าหาว่าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า”ชายผู้นั้นถึงกับสะดุ้งจากแรงอำนาจของนาง แต่ยังคงหัวเราะเยาะ “เจ้าก็แค่หญิงอ่อนแอ จะทำอะไรพวกข้าได้?”“บ่อนนี้คือบ่อนใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง แค่ข้าตะโกนคำเดียว บรรดายอดฝีมือทั้งหลายจะกรูออกมาทันที!”เจียงซุ่ยฮวนคลี่ยิ้มจาง ๆ “บ่อนใหญ่ที่สุดงั้นหรือ? เช่นนั้นคงได้กำไรมหาศาลต่อวันสินะ?”“แน่นอน!”“หากได้มากเพียงนั้น ภาษีที่ต้องส่งคงไม่น้อยพอ ๆ กันกระมัง? บังเอิญว่าข้ารู้จักกับเสนาบดีกรมคลังอยู่คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าควรไปถามเขาดีหรือไม่ว่าบ่อนนี้จ่ายภาษีครบหรือเปล่า?”สีหน้าชายผู้นั้นซีดลงทันที ใครจะคิดว่าแม่นางผู้นี้รู้จักกับเสนาบดีกรมคลัง!แม้เขาจะเป็นแค่ผู้เฝ้าประตู แต่ก็รู้ดีว่าบ่อนของตนรับมือการตรวจสอบไม่ได้แน่ หากทางราช

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status