Share

บทที่ 638

Author: ทองประกาย
เสวียหลิงขบกรามแน่น เอ่ยว่า "ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกทราบถึงความกังวลของท่านทั้งสอง แต่หากลูกไม่ไป ก็เหลือเพียงสองหนทางเท่านั้น"

"หนึ่งคือแต่งกับองค์หญิงจิ่นอวี๋ สองคือต้องเสแสร้งว่าป่วยต่อไป จนถูกนางฆ่าก่อนวันแต่ง"

มารดาของเสวียหลิงตกตะลึงกล่าวว่า "เจ้าพูดอะไรกัน องค์หญิงจิ่นอวี๋ถึงกับไปขอราชโองการด้วยตนเอง นั่นต้องเป็นเพราะนางรักเจ้าแท้ ๆ ไยจึงคิดว่านางจะฆ่าเจ้าได้"

"ท่านแม่ บัดนี้ข้ามิอาจปิดบังได้อีกแล้ว" เสวียหลิงกล่าว ก่อนถ่ายทอดถ้อยคำข่มขู่ขององค์หญิงจิ่นอวี๋ และเสริมว่า "นางขอราชโองการด้วยความที่ต้องการเอาชนะ นางมิได้รักลูกเลยแม้แต่น้อย"

"องค์หญิงจิ่นอวี๋เอ่ยวาจาเองว่าไม่ต้องการแต่งกับผู้ป่วยเช่นข้า หากข้าหายดีไม่ทันวันแต่ง นางจะกำจัดข้า เพื่อให้การหมั้นหมายสิ้นสุดลง"

มารดาของเสวียหลิงยกมือกุมหน้าผาก คร่ำครวญว่า "ลูกแม่ เจ้าทำเอาแม่สับสนไปหมดแล้ว"

"เจ้าก็แสร้งป่วย หาได้ป่วยจริง เพียงเอ่ยว่าหายดีแล้ว เรื่องก็จบมิใช่หรือ"

อธิบดีกรมอาญาแตะไหล่มารดาของเสวียหลิงกล่าวว่า "ฮูหยินเอ๋ย ท่านยังไม่เข้าใจความนัยของบุตรชายอีกหรือ"

มารดาของเสวียหลิงถลึงตามองเขา "หาว่าข้าไม่เข้าใจ เช่นนั้นท
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 638

    เสวียหลิงขบกรามแน่น เอ่ยว่า "ท่านพ่อ ท่านแม่ ลูกทราบถึงความกังวลของท่านทั้งสอง แต่หากลูกไม่ไป ก็เหลือเพียงสองหนทางเท่านั้น""หนึ่งคือแต่งกับองค์หญิงจิ่นอวี๋ สองคือต้องเสแสร้งว่าป่วยต่อไป จนถูกนางฆ่าก่อนวันแต่ง"มารดาของเสวียหลิงตกตะลึงกล่าวว่า "เจ้าพูดอะไรกัน องค์หญิงจิ่นอวี๋ถึงกับไปขอราชโองการด้วยตนเอง นั่นต้องเป็นเพราะนางรักเจ้าแท้ ๆ ไยจึงคิดว่านางจะฆ่าเจ้าได้""ท่านแม่ บัดนี้ข้ามิอาจปิดบังได้อีกแล้ว" เสวียหลิงกล่าว ก่อนถ่ายทอดถ้อยคำข่มขู่ขององค์หญิงจิ่นอวี๋ และเสริมว่า "นางขอราชโองการด้วยความที่ต้องการเอาชนะ นางมิได้รักลูกเลยแม้แต่น้อย""องค์หญิงจิ่นอวี๋เอ่ยวาจาเองว่าไม่ต้องการแต่งกับผู้ป่วยเช่นข้า หากข้าหายดีไม่ทันวันแต่ง นางจะกำจัดข้า เพื่อให้การหมั้นหมายสิ้นสุดลง"มารดาของเสวียหลิงยกมือกุมหน้าผาก คร่ำครวญว่า "ลูกแม่ เจ้าทำเอาแม่สับสนไปหมดแล้ว""เจ้าก็แสร้งป่วย หาได้ป่วยจริง เพียงเอ่ยว่าหายดีแล้ว เรื่องก็จบมิใช่หรือ"อธิบดีกรมอาญาแตะไหล่มารดาของเสวียหลิงกล่าวว่า "ฮูหยินเอ๋ย ท่านยังไม่เข้าใจความนัยของบุตรชายอีกหรือ"มารดาของเสวียหลิงถลึงตามองเขา "หาว่าข้าไม่เข้าใจ เช่นนั้นท

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 637

    ฉู่อี้เดินลึกเข้าไปถึงสุดปลายทางลับ เปิดหีบที่วางอยู่ตรงมุม พบว่าภายในบรรจุศพประหลาดอยู่หนึ่งร่างศพรักษาสภาพไว้ได้ดียิ่งนัก ยังสามารถเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงได้อย่างชัดเจนเขาจึงค่อยเบาใจ เห็นได้ว่ามิเป็นอุปสรรคต่อแผนการต่อไปคุกใต้ดินข้างเคียงแลต่างไปจากเดิม พื้นห้องมีผ้าห่มปูหนาหลายชั้น ผนังเต็มไปด้วยแผ่นภาพ ชายผู้หนึ่งนั่งวาดภาพอยู่บนเบาะนุ่มมือหนึ่งถือพู่กัน อีกมือลูบคางครุ่นคิด กระดิกขาไปมาคุกใต้ดินมืดสลัวชื้นแฉะ จุดเทียนแล้วยิ่งดูวังเวง ทว่าเขากลับดูผ่อนคลาย กล่าวขึ้นอย่างไม่ยี่หระว่า "คราวหน้าเจ้าอย่าลืมนำพู่กันมาให้ข้าอีกด้าม ด้ามนี้แทบจะโล้นเกรียนหมดแล้ว"ฉู่อี้เพ่งมองแผ่นภาพบนผนัง นิ่งงันไป ภาพวาดล้วนพิสดารนัก บ้างเป็นแมวหน้ากลมไร้หูสวมกระดิ่ง บ้างเป็นก้อนสี่เหลี่ยมมีรูพรุนทั่วตัวแต่มีดวงตาเบิกโพลงฉู่อี้เอ่ยอย่างไร้อารมณ์ "ท่านพี่สอง ท่านมิรู้สึกหรือว่า ภาพเหล่านี้ล้วนแต่เปลืองพู่กันและกระดาษไปเปล่า ๆ"ฉู่เฉินยังไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้น ตอบด้วยน้ำเสียงเฉื่อยชา "เจ้าแปด เจ้ามิรู้จักศิลปะ มิรู้จักข้าด้วย อย่าเอ่ยวาจาส่งเดช"คืนวันนั้น ฉู่เฉินถูกตีสลบกลางวัง ตื่นมาอีกครั

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 636

    ฉู่อี้เห็นหมากรุกขาวดำเกลื่อนกลาดอยู่เบื้องล่าง แววตาแฝงด้วยความซับซ้อน ใกล้ถึงงานพิธีบวงสรวงใหญ่แล้ว ไฉนจึงเกิดเหตุเภทภัยขึ้น หากกระทบต่อแผนการของเขาเล่า...“เจ้าแปด” ฝ่าบาทแม้กริ้วเกรี้ยวกราด ทว่าไม่นานก็ระงับอารมณ์ได้ “ไปตามพี่สามของเจ้ามา เราจะคืนอำนาจทัพให้เขา”พี่สามที่ฝ่าบาทเอ่ยถึงก็คือฉู่เจวี๋ยนั่นเอง ฉู่เจวี๋ยตั้งแต่เยาว์วัยก็ชอบอ่านตำราพิชัยยุทธ์ มีความรอบรู้ในพิชัยสงคราม ได้รับมอบอำนาจบัญชาทัพตั้งแต่อายุยังน้อยหลายเดือนก่อน ฉู่เจวี๋ยกลับเปลี่ยนไปประหนึ่งคนละคน ทุ่มเทใจให้แก่เจียงเม่ยเอ๋อร์จนไม่สนใจราชกิจ ฝ่าบาทจึงริบอำนาจครึ่งหนึ่ง แล้วมอบให้อัครเสนาบดีเป็นผู้ดูแลแทนฉู่อี้ถามขึ้นว่า “เสด็จพ่อ ในราชสำนักมีขุนพลมากมาย เหตุใดต้องจึงเลือกพี่สามหรือ”ฝ่าบาทกล่าวว่า “พี่สามของเจ้าฉลาดหลักแหลมตั้งแต่น้อย เชี่ยวชาญพิชัยยุทธ์ ย่อมเหมาะสมต่อการปราบเหล่าหนานเจียงผู้เล่ห์เหลี่ยม...”“อีกประการหนึ่ง ก็คือโอรสประหลาดของพี่สามของเจ้า...”ฉู่อี้เม้มริมฝีปากเล็กน้อย แล้วกล่าวขึ้นว่า “เสด็จพ่อ กระหม่อมเห็นว่ามิสมควรส่งพี่สามไปพ่ะย่ะค่ะ”ฝ่าบาทก้มหน้ามองเขา “เหตุใดเจ้าจึงว่าเช่นนั้น”

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 635

    ฉู่อี้ถือสาส์นขึ้นอ่าน ตัวหนังสือบนหน้ากระดาษแน่นขนัด เขาเลือกอ่านเฉพาะข้อความสำคัญ ไม่นานก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมดหัวหน้าชนเผ่าแห่งหนานเจียงคิดก่อกบฏ ใช้อาคมควบคุมตัวเจ้าเมืองกวนหนาน แล้วนำไพร่พลหนึ่งแสน ยึดครองเมืองกวนหนานในชั่วข้ามคืนฉู่อี้ขมวดคิ้ว ค่อย ๆ วางสาส์นลงเมื่อร้อยปีก่อน หนานเจียงยังมิได้เป็นส่วนหนึ่งของต้าหยวน หากแต่เป็นเพียงชนเผ่าลับแลครั้งนั้นฝ่าบาทต้าหยวนเห็นว่าหนานเจียงมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ จึงนำทัพไปตีหนานเจียงด้วยพระองค์เองหลังสงครามอันนองเลือด หนานเจียงจึงถูกต้าหยวนผนวกเข้าเป็นหนึ่งเดียวขณะนำทัพ ฝ่าบาทในครั้งนั้นถูกพิษกู่จนเกือบสิ้นการมองเห็น จำต้องสละราชสมบัติอย่างจนใจฝ่าบาทพระองค์ใหม่เสด็จขึ้นครองราชย์ ทรงเกรงว่าหนานเจียงจะคิดกบฏ จึงส่งไพร่พลสองแสนไปตั้งป้อมปราการและคูเมืองล้อมหนานเจียงไว้ป้อมปราการและคูเมืองนี้มีไว้เพื่อสกัดกั้นหนานเจียง จึงตั้งนามว่า "เมืองกวนหนาน"ตลอดร้อยปี ฝ่าบาทแต่ละพระองค์ต่างให้ความสำคัญแก่เมืองกวนหนานกันทั้งสิ้น เจ้าเมืองล้วนคัดเลือกอย่างดี ผลัดเปลี่ยนทุกสิบปี ล้วนซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์อีกทั้งด้วยความละอายใจต่อราษฎรเมืองกว

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 634

    เจียงซุ่ยฮวนดึงว่านเมิ่งเยียนเข้ามาข้างกาย เอ่ยถามว่า “เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่”เฉียนจิงอี๋ปรายตาเยาะเย้ยไปยังปาฟางและพรรคพวก แล้วยิ้มพลางกล่าวกับเจียงซุ่ยฮวนว่า “ก็ชอบเจ้าน่ะสิ ข้าอยากได้เจ้ามาเป็นภรรยา”ปาฟางโกรธจนแทบลุกเป็นไฟ ทว่าเจียงซุ่ยฮวนกลับแน่ใจว่าเฉียนจิงอี๋กล่าวเท็จ“หากไม่คิดพูดความจริง เราก็มิมีเรื่องต้องกล่าวอีก” เจียงซุ่ยฮวนฉุดว่านเมิ่งเยียนแล้วหันหลังเดินจากไปปาฟางและคนอื่น ๆ ตามหลังไปพลางระวังหลัง มิให้เฉียนจิงอี๋จู่โจมกระทันหันเคราะห์ดีที่เฉียนจิงอี๋มิได้ตามมา เจียงซุ่ยฮวนกับว่านเมิ่งเยียนไม่มีกะจิตกะใจจะเดินเล่น จึงกลับร้านหรงเยว่เก๋อทันทีแม้เรื่องวุ่นวายเล็กน้อยนี้จะทำให้ใจขุ่นมัว แต่เจียงซุ่ยฮวนก็มิได้ใส่ใจ ไม่นานก็กลับมาแจ่มใสอีกครั้ง และเริ่มดูแลลูกค้าตามเดิมด้านราชสำนักในเวลานั้นกลับเกิดความโกลาหลขึ้นม้าศึกสีดำทะยานผ่านประตูวังไปโดยไร้ผู้ขัดขวาง ตรงมายังหน้าตำหนักว่อหลง คนขี่รีบโดดลงจากม้า วิ่งตรงเข้าตำหนักเหล่าขันทีรีบเข้ามาขวาง แต่เขาชักจดหมายออกจากอก โบกเบา ๆ สองครา เมื่อเห็นลายดอกสีดำบนซอง ทุกคนก็หน้าซีดถอยกรูไปภายในตำหนักว่อหลง ฝ่าบาทและองค์ช

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 633

    ครั้นกีบม้ากระแทกพื้น คนขี่ม้าก็โล่งใจ โบกแส้หนึ่งครั้งแล้วควบม้าจากไป พลางตะโกนว่า "ข่าวด่วนจากหนานเจียง! จงหลีกทาง!"เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ท้องถนนกลับคืนสู่ปกติอีกครั้ง ว่านเมิ่งเยียนยืนอยู่กลางฝูงชน ถามอย่างเลื่อนลอยว่า "ข้ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่""ยังมีชีวิตอยู่" ไป๋หลีว่าพลางผลักนางไปยังข้างทาง ตั้งใจไม่เหลียวมองผู้สวมชุดแดงข้างกาย"เมิ่งเยียน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" เจียงซุ่ยฮวนรีบวิ่งเข้ามาถามด้วยความห่วงใยว่านเมิ่งเยียนส่ายศีรษะอย่างเลื่อนลอย ก่อนสติจะกลับมา ถามว่า "เมื่อครู่มีผู้สวมชุดแดงช่วยข้าไว้ เขาอยู่ที่ใด""ข้าอยู่นี่เอง" เสียงเปี่ยมรอยยิ้มดังมาจากเบื้องหลังทุกคนหันไปเห็นบุรุษชุดแดงรูปโฉมงดงาม ยืนยิ้มละไมอยู่กลางถนน เขายกมือกล่าวว่า "คุณหนูเจียง พบกันอีกแล้วนะ"สีหน้าเจียงซุ่ยฮวนหม่นลงทันที กัดฟันเอ่ยว่า "เฉียนจิงอี๋ เจ้าอีกแล้ว!"ว่านเมิ่งเยียนได้ยินดังนั้นก็ตกใจยิ่งนัก "ซุ่ยฮวน เจ้ารู้จักเขาด้วยหรือ""แน่นอน คุณหนูเจียงกับข้ารู้จักกันตั้งแต่หลายปีก่อน" เฉียนจิงอี๋กอดอกยิ้ม "ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับนาง ลึกซึ้งยิ่งกว่าผู้ใดที่นี่เสียอีก""เหลวไหล!

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 632

    ดวงตาของว่านเมิ่งเยียนกลอกไปมา ไม่นานก็คิดหาทางแก้ไขได้นางตบโต๊ะลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธกล่าวว่า “ข้ามิได้บอกว่าโรงเตี๊ยมฟู่หยวนอยู่ในเมืองหลวง เจ้าหาไม่พบ แสดงว่ามิได้ใส่ใจคำพูดข้าเลยแม้แต่น้อย”“วันนั้นท่านพ่อข้ายกเลิกนัดทั้งหมด รอเจ้าแต่เช้ายันค่ำ แต่กลับไม่เห็นแม้เงา ท่านพ่อคิดว่าเจ้าตั้งใจล้อเล่นกับท่านเสียแล้ว!”คุณชายผู้มั่งคั่งตกใจจนมือที่ถือจอกสั่น รีบอธิบายว่า “คุณหนูว่าน ข้ามิได้ตั้งใจล้อเล่นกับท่านพ่อของท่าน ขอได้โปรดช่วยกลับไปอธิบายแทนข้าด้วยเถิด”ว่านเมิ่งเยียนนั่งลง พลางส่ายหน้า “มิจำเป็นแล้วกระมัง”คุณชายผู้มั่งคั่งรีบร้อนกล่าว “จำเป็นสิขอรับ เช่นนี้เถิด พรุ่งนี้ข้าจะเหมาหอเยว่ฟาง เชิญคุณหนูและท่านพ่อมาร่วมโต๊ะเพื่อไถ่โทษ จะได้หรือไม่”ว่านเมิ่งเยียนยกถ้วยชาขึ้นดื่มอย่างสงบ กล่าวว่า “ไม่จำเป็น เรามิได้เกี่ยวข้องอันใดกัน อีกทั้งคนไร้สัตย์เช่นเจ้า บ้านข้าก็มิอาจร่วมทำการค้าด้วยได้”คุณชายผู้มั่งคั่งร้อนรนจนเดินวนไปมาคุณชายลดเสียงลงอ้อนวอนขอร้องอย่างน่าสงสาร “คุณหนูว่าน ท่านงามพร้อมทั้งยังใจดีนัก ขอท่านได้โปรดช่วยเอ่ยคำพูดดี ๆ ต่อหน้าท่านพ่อ ข้ามิได้มีเจตนาร้าย ขอท

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 631

    ได้ยินเพียงเสียง “ตึ้ง” ดังลั่น จมูกของนางก็ถูกกระแทกจนผิดรูป เลือดไหลรินลงมาไม่หยุดนางชะงักไปอึดใจหนึ่ง แล้วจึงกรีดร้องเสียงหลงกึกก้อง “ว้าย! จมูกข้า!”สาวใช้ที่อยู่เบื้องล่างรีบวิ่งขึ้นไป พยุงเจียงเม่ยเอ๋อร์ที่ร้องไห้โวยวายพากันจากไปอย่างรวดเร็วผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ต่างพากันตบมือโห่ร้องยินดี เจียงเม่ยเอ๋อร์ผู้นี้สมควรได้รับบทเรียนยิ่งนัก!เจียงซุ่ยฮวนก้าวเข้าสู่ร้านหรงเยว่เก๋อ นางมัวยุ่งวุ่นวายอยู่หลายวัน จึงยังมิได้ลงมือจัดการเจียงเม่ยเอ๋อร์ ปล่อยให้นางได้เสพสุขอยู่ช่วงหนึ่งอีกไม่กี่วันก็ถึงพิธีบวงสรวงใหญ่ นางคิดแผนการได้แล้วว่าจะเปิดโปงความอัปยศที่เจียงเม่ยเอ๋อร์ลักลอบเปลี่ยนตัวทารกแทนฉู่ฝูผู้ล่วงลับเหล่าผู้คนจะต้องโกรธแค้นอย่างมากเป็นแน่ โดยเฉพาะขุนนางผู้มักนำของกำนัลไปถวายจวนอ๋องหนานหมิงเมื่อได้รู้ความจริง คงอยากจะฉีกเนื้อถอนหนังสองผัวเมียคู่นี้เป็นแน่ช่วงเวลาสุขสบายของคนทั้งสอง กำลังจะถึงจุดจบแล้วคิดถึงตรงนี้ เจียงซุ่ยฮวนก็นึกขึ้นได้อีกเรื่องหนึ่ง นางเคยวางพิษกู่รังไหมไว้ในร่างฉู่เจวี๋ย วันใดมันฟักตัวออกมา ฉู่เจวี๋ยย่อมสิ้นชีพในบัดดลครานั้น เจียงเม่ยเอ๋อร์ผู้ไร้บ

  • วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี   บทที่ 630

    เจียงเม่ยเอ๋อร์แอบดีใจอยู่ลึก ๆ จวนอ๋องกลับทอดทิ้งนางเพื่อหญิงบ้านนอกเช่นเจียงซุ่ยฮวน หากวันใดนางทำเรื่องขายหน้า เหล่าคนในจวนย่อมต้องเสียใจภายหลังเป็นแน่เมื่อคิดถึงตรงนี้นางก็ยิ่งเบิกบาน ก้มหน้ามองเจียงซุ่ยฮวนพลางหัวเราะเยาะ “ข้าขอเตือนเจ้านะว่ารีบกลับไปเสียเถิด”เจียงซุ่ยฮวนเพียงหัวเราะเบา ๆ ยังมิทันเอื้อนเอ่ย ก็มีสตรีผู้หนึ่งซึ่งกำลังต่อแถวอยู่ด้านข้างโกรธกริ้วขึ้นมาสตรีนางนั้นเคยมาใช้บริการเมื่อสองวันก่อน ครั้นเห็นผลลัพธ์ดีนัก จึงรีบมารอต่อแถวแต่เช้าตรู่เพื่อซื้อของบำรุงผิวอีกนางชี้นิ้วไปที่เจียงเม่ยเอ๋อร์บนหน้าต่าง พลางตวาดลั่นว่า “ข้าทนเจ้ามานานแล้ว เจ้าว่าใครบ้านนอกหรือ”เจียงเม่ยเอ๋อร์กล่าวอย่างงุนงงว่า “ข้ามิได้เอ่ยถึงเจ้าสักหน่อย เจ้าตะโกนทำไม”“เจ้าว่าหมอเจียงก็เท่ากับว่าด่าว่าพวกข้า” สตรีผู้นั้นถลกแขนเสื้อ ตวาดใส่ว่า “เจ้าสติไม่ดีหรืออย่างไร ถ้าหมอเจียงกลับไปแล้ว ใครจะมาดูแลลูกค้าอย่างพวกข้าเล่า” เจียงเม่ยเอ๋อร์ฟังจนงงงัน กล่าวอย่างไม่เข้าใจ “นางจะอยู่จะไปเกี่ยวอันใดกับลูกค้า ข้ายังอุตส่าห์มาเข้าแถวตั้งแต่เที่ยงคืน”เจียงซุ่ยฮวนจึงกล่าวอย่างสงบ “ความหมายของนางคือ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status