แผนร้าย สังหารรัชทายาทตงเปย
"เอาของข้าคืนมานะ" ดรุณีตัวน้อยอายุราว ๆ สิบห้าปีใบหน้าของนางซูบผอมอย่างมาก อีกทั้งอาภรณ์มิได้หรูหราอะไรมาก
"เป็นถึงองค์หญิงแต่กลับขโมยของผู้อื่น ช่างน่าขันสิ้นดี" นางกำนัลคนนั้นเอ่ยขึ้น หมายจะตบนาง
"หยุดนะ" ถังลีกับมู่หรงเดินมาพอดี พบว่าที่หลังต้นไม้ใหญ่มีทะเลาะกัน
"ชายารัชทายาท ชายาเอกหนิงอ๋อง" นางกำนัลเก็บมือลง
"องค์หญิงห้าฉินเฟยหรงมิใช่รึ นางกำนัลเช่นเจ้ากล้าทำร้ายองค์หญิงห้าได้อย่างไร" มู่หรงมิชอบนักบ่าวรังแกเจ้านาย
"แม้นางจะไม่สมประกอบ แต่เจ้าไม่ควรทำร้ายนาง ข้าจำเจ้าได้ เจ้าเป็นของสวีไทเฮา เหตุใดต้องทำร้ายนาง หรือไทเฮาสั่งเจ้ามาทำร้ายฉินเฟยหรง" ถังลีมององค์หญิงห้าแม้นางจะไม่สมประกอบแต่นางก็หน้าตาดีอย่างมาก
"พระชายา องค์หญิงห้าชนคุณหนูฮวาหรงเจ้า บ่าวเพียงจะจับตัวนางไปให้คุณหนู"
"เลือกเอาว่าจะให้ข้ารายงานฝ่าบาทหรือเจ้าจะไสหัวไป" นางกำนัลทั้งสองต้องเลือกอย่างหลังอยู่แล้วพวกนางรีบไสหัวไปทันที
"องค์หญิงห้าเพคะ" นางกำนัลเสี่ยวอันขององค์หญิงห้าก็วิ่งมาทางนี้
"เสี่ยวอัน"
"ในที่สุดบ่าวก็หาท่านเจอ" เสี่ยวอันพลัดหลงกับเจ้านายเดินตามหาอยู่นาน
"คารวะชายารัชทายาท ชายาเอกหนิงอ๋องเจ้าค่ะ"
"ดูแลนางให้ดี" ชายารัชทายาทดูจะเป็นห่วงฉินเฟยหรงอย่างมาก นางก็กลัวคนของสวีไทเฮาจะกลับมาทำร้ายฉินเฟยหรงอีกครั้ง
"องค์หญิงกลับตำหนักเพคะ" เสี่ยวอันประคองเจ้านาย
"ไม่พี่สะใภ้ข้ามีอะไรจะบอก" มู่หรง ถังลี เสี่ยวอันอึ้งงัน ฉินเฟยหรงพูดราวกับว่านางหายเป็นปกติแล้ว จากนั้นนางก็กระซิบเรื่องบางอย่างกับทั้งสามคน...
งานเลี้ยงรอบเย็นก็เริ่มขึ้น ในงานก็มีเหล่าสาวงามออกมาร่ายรำ ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน ใบหน้างามระบายไปด้วยรอยยิ้ม หนิงอ๋องโดนนางกำนัลทำสุราหกใส่อาภรณ์จนเปียก เขาจึงมองนางกำนัลที่กล่าวขอโทษ จากนั้นเดินออกจากงานมุ่งหน้าไปที่ตำหนักรับรอง
ถังลีหันไปสบตากับมู่หรง จากนั้นถังลีออกออกมาชมสวนบุปผาอีกด้าน
ในงานถังเหมยมองสวามีของนาง เหตุใดถึงเอาแต่มองนังแพศยานั่น
"คังอ๋องข้าต่างหากที่เป็นชายาของท่าน" คังอ๋องไม่สนใจนาง สุราเขาหมดแล้วนางกำนัลรินสุราแล้วยัดกระดาษใส่มือเขา ถังเหมยหันหน้าไปทางอื่นเขาคลี่กระดาษออกมาดูหัวใจสั่นระรัวราวกับคนตีกลองดังสนั่น ถังเหมยหันมาอีกทีพบว่าสวามีของนางไม่อยู่เสียแล้ว
สายตาของฮวาหรงพลันมองไปที่ตำหนักรับรองเมื่อครู่หนิงอ๋องพลันเข้าไปในนั้นแล้ว ใบหน้างามระบายไปด้วยรอยยิ้ม
ในเมื่อนางเสียชื่อเสียงแล้ว นางโดนโจรย่ำยีแล้ว แต่กับผู้ใดมิได้ มิสู้ให้ชายชั่วอย่างหนิงอ๋องลงนรกกับนางดีกว่า
"พาข้าไปด้านใน" สาวใช้อย่างเสี่ยวเมาทำตามเจ้านายสั่ง
หนิงอ๋องจะต้องรับนางเป็นชายารองอย่างแน่นอน แค่คิดฮวาหรงก็มีความสุขแล้ว
เปยหรันกับสาวใช้หลบอยู่ต้นไม้ใหญ่เห็นฮวาหรงเข้าไปแล้ว นางอุตส่าห์ชอบหนิงอ๋องมาตั้งหลายปี ปีนี้นางถึงวัยปักปิ่นแล้ว นางจะพลาดมิได้เป็นอันขาด นางต้องได้เป็นชายาหนิงอ๋อง
"องค์หญิงจะเข้าไปจริง ๆ รึเพคะ" ฮานาสาวใช้ของเปยหรัน
"แน่นอนข้าจะต้องเข้าไปให้ได้" ผ่านไปครึ่งชั่วยามเปยหรันจึงให้สาวใช้รออยู่นี้เมื่อถึงเวลาให้ฮานาเข้าไปร้องไห้ในงานเลยทันที...
"แย่แล้วเจ้าค่ะ หนิงอ๋องฉุดองค์หญิงเปยหรันแล้วเจ้าค่ะ" ฮานาทำดีอย่างมากร้องตะโกนในลานจนฝ่าบาทกับสนมต่างตกใจ สวีไทเฮาไม่คิดว่าหนิงอ๋องจะเป็นคนแย่เช่นนั้น เปยหานไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าไปที่ตำหนักรับรอง อีกทั้งคนกลุ่มใหญ่นำโดยฉินตี้ก็มาที่ตำหนักรับรอง
รัชทายาทกับชายารักต่างสบตากัน ชางอ๋องกับจ้าวเฟยไม่อยากจะเชื่อ ถังเหมยมองหาคังอ๋องไปตายไหนแล้ว
ทุกคนหยุดอยู่หน้าตำหนักรับรองเสียงครวญครางพลันดังขึ้น เปยหานหน้าแดงก่ำ
"เปิดประตู" ฉินตี้สั่งนางกำนัล ทันทีที่ประตูเปิดออกแสงสว่างจากด้านนอกทำให้ทุกคนอึ้งงัน
"คังอ๋อง องค์หญิงเปยหรัน ฮวาหรง"
"เจ้ามิใช่ถังลี"
"ท่านมิใช่หนิงอ๋อง"
ฮวาหรงที่สลบไปนังพลันได้สติขึ้นมาเกิดอะไรกันขึ้น เหล่าขุนนางและฮูหยินต่างก้มหน้า มิกล้าเงยหน้าขึ้นแม้แต่น้อย
ถังเหมยแทบจะเป็นลมโชคดีที่สาวใช้ประคองนางไว้ได้ทัน
สวีไทเฮาพลันตกใจไม่น้อยเมื่อหลานสาวได้เสียกับคังอ๋อง เหตุใดนางไม่ปรึกษายายแก่คนนี้ก่อนเล่า
"เกิดอะไรขึ้น" ทุกคนหันไปพบว่าหนิงอ๋องกับชายารักเดินควงแขนกันมาที่หน้าตำหนักรับรองที่มีคนหมู่มากเดินออกันอย่างแน่น
ฉินตี้ถึงกับยิ้มออกมาได้ เมื่อหนิงอ๋องยังมิได้ทำเรื่องชั่วช้า ส่วนเต๋อเฟยเป็นลมไปแล้ว ในตอนแรกเต๋อเฟยเยาะเย้ยเซี่ยกุ้ยเฟย ว่านฮองเฮาพลันเสด็จกลับตำหนักแล้ว
"เจ้ามาก็ดีแล้ว ไม่มีอะไรแล้ว" จากนั้นฉินตี้รับสั่งให้นางกำนัลแต่งตัวให้คนทั้งสามไปพบเขาที่ห้องตำรา งานเลี้ยงในวันนี้เป็นอันเลิกรา ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากันอย่างมีความสุข หากมิใช่เพราะองค์หญิงห้าฉินเฟยหรงเล่าแผนชั่วของฮวาหรงให้นางฟัง นางคงตกหลุมพรางผู้อื่นแล้วกระมัง สาเหตุนี้ที่ทำให้นางกำนัลตีองค์หญิงห้า อีกทั้งฮวาหรงคิดว่าองค์หญิงห้าเป็นคนบ้าคงไม่พูดอะไร แต่ทว่านางสบประมาทฉินเฟยหรงแล้ว เหตุการณ์วันนี้ทำให้ฉินเฟยหรงเป็นปกติ...
นี่มันอาวุธอันใดกัน แน่นอนว่านี่คือปืนสั้นที่มาจากห้องวิเศษของถังลี ถังลีมอบปืนสั้นนับพันกระบอกให้แม่ทัพเซี่ยท่านตาของหนิงอ๋องให้ไปรบกับองค์ชายรองตงเปยแล้ว"เจ้า...""ข้าได้มอบให้ท่านแม่ทัพเซี่ยแล้ว เกรงว่าองค์ชายรองตงเปยต้องแพ้กลับไป อีกทั้งยังคงต้องโดนประหาร" สวีไทเฮาอุตส่าห์วางแผนมาหลายปี มาล่มจมเพราะนังแพศยาน้อยนี่"สวีไทเฮาท่านยอมรับความพ่ายแพ้เถอะ พิษในตัวรัชทายาทกับหนิงอ๋องถูกกำจัดหมดแล้ว อีกทั้งหนอนกู่หนิงอ๋องก็ไม่ได้กินเข้าไป แม่นมหงสารภาพหมดแล้ว" ถังลียิ้มอย่างสะใจว่านฮองเฮาตกใจไม่คิดว่านังแก่สารเลวกล้างวางยาพิษรัชทายาท"คนของท่านในจวนรัชทายาทถูกสังหารแล้ว" "เสด็จย่าพิษกู่อยู่ในร่างกายท่าน" หนิงอ๋องยิ้มเย็น"พวกเจ้ามันสมควรตาย" "ไท่ชางหวงโดนวางยาก็เป็นฝีมือท่าน ท่านตาของข้าโชคดีนักที่มิได้ท่านเป็นภรรยา ท่านจึงถูกส่งตัวเป็นสนม" ทุกคนกระจ่างแล้วสวีไทเฮารักนายผู้เฒ่าเซี่ยฝ่ายเดียว นางไม่ได้รักไท่ชางหวง"พวกเจ้าทำลายแผนการดี ๆ ของข้า นังสารเลวถังลีตายเสียเถอะ" สวีไทเฮานำมีดสั้นออกมาหมายจะแทงถังลี แต่ทว่าอาวุธอันใดจะไวกว่าปืนสั้นของถังลีสวีไทเฮาโดนยิงที่หน้าผากร่างบางล้มลงกั
แผนซ้อนแผน ได้ยินว่าจะมีการล่าสัตว์ช่วงนั้นสวีไทเฮาจะให้คนสังหารเปยหานแล้วโยนความผิดให้รัชทายาทต้าโจว สวีไทเฮาช่างวางแผนได้ล้ำลึกยิ่งนัก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว...เช้าของวันถัดมาในลานพระราชวังฤดูร้อนรัชทายาทตงเปยแม้จะเสียใจแค่ไหน แต่เขาก็ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงล่าสัตว์ในครั้งนี้ถังลีกับหนิงอ๋องสบตากัน รัชทายาทตงเปยควงม้าตามหลังรัชทายาทต้าโจวเข้าไปในป่าด้านในสวีไทเฮาที่พักในตำหนักใหญ่จิบน้ำชาอย่างสบายใจ พระนางกำลังรอฟังข่าวดี "บอกให้เมิ่งฉีจัดการได้" นางกำนัลรับคำของสวีไทเฮา วันนี้จะเป็นวันตายของรัชทายาทตงเปยและคนรับกรรมคือรัชทายาทต้าโจว เขาไม่ใช่สายเลือดโดยตรงของนางกระนั้นนางจึงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น...เปยหานกับฉินเทียนต่างแยกกันเพื่อล่าสัตว์ เปยหานมาป่าด้านหนึ่งในหัวสมองหวนคิดแต่คำของชายาเอกหนิงอ๋องและหนิงอ๋องเท่านั้นตุบ !!!ร่างของเปยหานล่วงจากหลังม้ามีธนูปักที่กลางอกเลือดไหลออกจากอกดวงตาเบิกกว้าง"แย่แล้วรัชทายาทต้าโจวสังหารรัชทายาทตงเปย" เสียงคนตะโกนขึ้นดังลั่นในป่าทางด้านฉินตี้กับเหล่าสนมและฮองเฮาที่กำลังสำราญอยู่กับการรายรำของเหล่าสาวงามได้ยินมาว่าร้ชทายาทตงเปยสิ้น
พระราชวังฤดูร้อน คังอ๋องกินข้าวเย็นกับอนุและชายารองที่ห้องโถงใหญ่ของเขา การเข้าเฝ้าสวีไทเฮาในครั้งนี้ ทำให้เขาได้ข้อคิดหลาย ๆ อย่างหากอยากจะเป็นใหญ่ควรเชื่อฟังสวีไทเฮา อีกไม่นานรัชทายาทก็จะตายแล้ว คังอ๋องจึงเอาใจฮวาหรงแม้เขาจะรังเกียจนางก็ตามอีกทั้งเอาใจเปยหรันด้วยเช่นกัน เนื่องจากว่าองค์รัชทายาทเปยหานย่อมต้องขึ้นเป็นฮ่องเต้ในการข้างหน้า เขาจะละเลยสองคนนี้ไปมิได้ ส่วนถังเหมยค่อยชดเชยให้นางทีหลัง ส่วนถังลีถึงอย่างไรเขาก็จะแย่งมาจากหนิงอ๋องหลังจากที่เขาได้แผ่นดินต้าโจวเปยหรันมองคังอ๋องนางจะฝากชีวิตนี้ไว้กับเขาได้จริงหรือไหนจะมีฮวาหรงหลานสาวสวีไทเฮาอีก ฮวาหรงในยามนี้นางขอเพียงคังอ๋องจริงใจต่อนาง นางย่อมตอบแทนเขา ทั้งสามกินข้าวเย็นอย่างมีความสุข...งานพระราชวังฤดูร้อนก็มาถึงแล้วเหล่าขุนนางและเชื้อพระวงศ์ต่างออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองโจว รถม้ายาวเหยียดเต็มท้องถนนมุ่งออกสู่ประตูเมือง"ชายารักการไปพระราชวังฤดูร้อนในครั้งนี้ เจ้าต้องระวังตัวไว้" หนิงอ๋องเกรงว่าสวีไทเฮาต้องมีแผนร้ายอะไรสักอย่าง"เจ้าค่ะ" คนอย่างนางเตรียมรับมือไว้ทุกสถานการณ์อยู่แล้วมิต้องห่วงนางแม้แต่น้อย ใช้เวลาทั
รัชทายาทตงเปยไม่ตาย ความนี้ทรายไปถึงฮวาหรงใบหน้างามระบายด้วยรอยยิ้มด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วคังอ๋องก็ทำพิธีไม่สำเร็จช่างน่าขันสิ้นดีในคืนเข้าหอเปยหรันได้แต่นอนเฝ้าเจ้าบ่าวของนาง ช่างน่าเจ็บใจนัก เช้าวันถัดมาถังลีนึกสมน้ำหน้าคังอ๋องเสียจริงที่ได้แต่สตรีทั้งสองนาง ถังลีมาที่หอประดิษฐ์นั่งนับเงินอย่างมีความสุขข่าวของคังอ๋องเป็นลมดังไปทั่วต้าโจวจริง ๆ ถังลีกับบ่าวเดินไปทางไหนก็ได้ยินแต่คนนินทาเรื่องนี้ถังเหมยนั่งบนเก้าอี้ไม้จันทน์หอมสั่งให้บ่าวไปเรียกชายารองและอนุมายกน้ำชาให้นาง เนื่องจากนางคือชายาเอกคังอ๋องสองคนนี้ต้องให้ความเคารพแก่นางสายตาพลันมองไปที่ประตูเมื่อไรนังแพศยาทั้งสองคนจะเข้ามาเสียที ฮวาหรงกับเสี่ยวเถาพลันสาวเท้าเข้ามาถังเหมยมองไปที่ชุดฮวาหรงเป็นสีแดงอย่างงดงามปักด้วยดิ้นทองอย่างดี แน่นอนว่าชุดนี้สวีไทเฮาเป็นคนมอบให้หลานรักเองกับมือ ถังเหมยใบหน้าแดงก่ำ "เป็นอนุยังกล้าใส่ชุดสีแดงเทียบชายาเอกอีกรึ ช่างไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำเสียจริง" ฮวาหรงยิ้มเย็นหลังฟังคำพูดของถังเหมย"เหตุใดข้าจะสวมมิได้ ข้าเป็นถึงหลานสาวสวีไทเฮา เจ้าก็แค่ลูกขุนนางระดับล่างที่บังเอิญโชคดีได้แ
เจ้าบ่าวเป็นลมในงาน หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็น่าสงสารแม่นมหงอยู่เหมือนกันถังลีกับมู่หรงมีความคิดเดียวกัน ต่างจากบุรุษทั้งสองอย่างรัชทายาทกับหนิงอ๋องนักต้องสังหารคนทรยศเท่านั้น"บ่าวผิดไปแล้วเจ้าคะ บ่าวผิดไปแล้ว" แม่นมหงตัวสั่นเทิ้ม "แม่นมหงหากเจ้าอยากมีชีวิตรอดจงเป็นหมากให้ข้าต่อกรกับนาง นางสั่งไว้อย่างไรบ้างหลังจากที่วางหนอนกู่ในตัวข้า" หนิงอ๋องอยากรู้ว่าแม่นมหงจะซื่อสัตว์ต่อเขารึไม่ รัชทายาทไม่คิดว่าเสด็จย่าจะชั่วช้ามากแม่นมหงตัดสินใจเล่าให้หนิงอ๋องฟัง หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไปหนิงอ๋องจะกลายเป็นคนสติหลุดอีกทั้งจะเชื่อฟังคำสั่งของพระนาง หนิงอ๋องยิ้มเย็นขึ้นมา"เอาล่ะ แม่นมหงนับจากนี้ เจ้าได้จงทำตัวตามปกติ เจ้าไปรายงานนางว่าข้านั้นได้กินหนอนแล้ว หากเจ้าไม่ซื่อสัตว์อย่าหาว่าข้าไม่เตือน" แม่นมหงกับเสี่ยวฮวาอิงโขกศีรษะให้หนิงอ๋อง จากนั้นให้องครักษ์เงาแอบตามแม่นมหงไป"เค่อจ้าวอีกประเดี๋ยวเจ้าไปที่ตำหนักของสวีไทเฮาหานางเอาหนอนพิษใส่ในน้ำให้นางดื่ม หากมิสำเร็จมิต้องกลับมา" เค่อจ้าวรับคำสั่งของเจ้านาย ถังลีมองหนิงอ๋องที่ใบหน้าเขียวด้วยความโกรธ นางกุมมือเขาไว้ รัชทายาทกับชายากลับจวนไปแ
แต่งชายารองสองคน ทั้งสามคนแต่งกายเรียบร้อยแล่วนั่งคุกเข่าในห้องทรงอักษร ฉินตี้อยากจะตบคังอ๋องยิ่งนัก เหตุใดเป็นคนสารเลวเช่นนี้เปยหานอยากจะเอามีดแทงคังอ๋องให้ตาย ถังเหมยเป็นลมถูกหามกลับจวนไปก่อนหน้านี้แล้ว ในห้องมีเพียง สวีไทเฮา เปยหาน เต๋อเฟย ฉินตี้ ที่กำลังพิพากษาทั้งสามคนอยู่ฮวาหรงไม่คิดว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นนี้พอฮวาหรงเข้ามาในเรือนรับรองคังอ๋องก็จุมพิตนางอย่างเร่าร้อน แน่นอนว่าในห้องมีกำยานจุดอยู่บัดนี้นางให้เสี่ยวเมาจัดการนำไปทิ้งแล้ว แต่ที่น่าแปลกคือนังเปยหรันมาได้อย่างไรเปยหรันนั้นใช้กำปั้นทุบท้ายทอยของฮวาหรงจนสลบไป จากนั้นนางก็บรรเลงเพลงรักกับคังอ๋องต่อ เหตุใดทุกอย่างจึงเป็นเช่นนี้ นางอยากได้หนิงอ๋องมิใช่คังอ๋องสองสตรีต่างคิดเช่นเดียวกันคนที่เจ็บใจที่สุดเห็นจะเป็นคังอ๋องเสียมากกว่าเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ถังลีจะทำกับเขาเช่นนี้ เหตุใดนางต้องทำร้ายเขาด้วย"เสด็จพี่ข้าไม่รู้เรื่องจริง ๆ" เปยหรันเสียใจอย่างมากฉินตี้มองทั้งสามคนในเมื่อเป็นเช่นนี้ "เปยหรันเป็นชายารองคังอ๋อง ส่วนฮวาหรงเป็นอนุของคังอ๋องแล้วกัน" ฉินตี้คิดดีแล้วในเมื่อพวกเขาชอบพอกันเขาก็จะสงเคราะห์ให้เสียหน่อยแล