Home / รักโบราณ / วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ / ตอนที่ 14.1 มดปลวกรวมตัว (2)

Share

ตอนที่ 14.1 มดปลวกรวมตัว (2)

Author: Deeda k.
last update Last Updated: 2025-05-09 15:24:46

ตอนที่ 14.1 มดปลวกรวมตัว (2)

เป็นไปตามที่สามีบอกก่อนหน้ายามซื่อ[1] บ่าวฉางทิงปรากฏกายขึ้นพร้อมมหาราชครูกัว จางเหม่ยอวี้รู้สึกลำบากใจยิ่ง แต่ต้องปั้นหน้าแย้มยิ้มต้อนรับในฐานะฮูหยินเจ้าบ้าน

“ท่านราชครูสบายดีนะเจ้าคะ” นางยอบกายแล้วรวบรวมความกล้าเปล่งเสียงถาม

“อืม! สบายดี” น้ำเสียงมหาราชครูกัวเคร่งขรึมเป็นพิเศษ คล้ายพยายามแสดงถึงความห่างเหิน นับเป็นการให้เกียรติแม่ทัพปั๋วเฉิน

“ตามที่เฉินเย๋ปั๋วฟูเหรินทราบ บุตรชายข้าน้อยอาการสาหัสร่อแร่ วันนี้เลยมาขอให้ท่านแม่ทัพปั๋วเฉินช่วยสืบหาตัวคนร้าย” ราชครูกัวมีทีท่าสงบเยือกเย็นก็จริง ทว่าสีหน้ากลับเจือความเศร้าสลดหดหู่

บุตรชายของเขาแม้ฟื้นขึ้น แต่ก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าสมองจะเฉลียวฉลาดเหมือนเดิมหรือไม่ ทุกตัวยาย่อมมีข้อดีและข้อเสียทั้งนั้น

จางเหม่ยอวี้ได้ฟังมหาราชครูกัวตอบคำถามตนเช่นนั้นแล้ว หัวใจนางพลันดิ่งวูบกะทันหัน รู้สึกหดหู่จนไม่อาจเก็บซ่อนอาการได้มิด

เฉินชิงซงเห็นสีหน้าฮูหยินของตนเจื่อนลงก็รู้สึกไม่ค่อยดี ถึงเขาจะไม่พอใจที่นางให้ความสำคัญกับอดีตคนรัก ทว่าเรื่องนี้พอเข้าใจได้ เพราะอาการของคุณชายกัวนั้นนับว่าสาหัสไม่น้อย แม่ทัพหนุ่มในฐานะสามีจึงสลัดความขุ่นข้องในใจ แล้วยื่นมือหนาไปกุมมือเล็กไว้ พร้อมกับโน้มหน้าลงกระซิบข้างหูนางเสียงแผ่ว

“เจ้าไม่ผิด อย่าได้กังวลไป”

จางเหม่ยอวี้สบประสานตากับสามี แล้วรู้สึกอุ่นซ่านในหัวอก แม่ทัพหนุ่มกางปีกปกป้องนาง และอยู่เคียงข้างเสมอ หญิงสาวจึงมองเขาด้วยความซาบซึ้ง ปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เพื่อบอกแก่คนข้างกายว่านางสบายใจขึ้นบ้างแล้ว

เผิงเสียนจือมองบรรยากาศอึมครึมในห้องรับรองนี้แล้ว พลันรับรู้ได้ถึงแรงกดดันอันท่วมท้นจากมหาราชครูกัวผู้เคร่งเครียด ประสงค์เสาะหาตัวคนร้ายออกมาให้จงได้

รองแม่ทัพหนุ่มอ่านความคิดราชครูเฒ่าออก หากกฎหมายบ้านเมืองพึ่งพาไม่ได้ เขาคงต้องใช้ศาลเตี้ยตัดสินมอบความตาย

“พ่อบ้านพาบ่าวไพร่เรียงหน้าเข้ามา”

เผิงเสียนจือไม่รีรอ ดำเนินการตามสมควรทันที ทางด้านพ่อบ้านจวนเฉินเรียกบ่าวเข้ามาให้ฉางทิงดู ว่าคนไหนยกกาสุรามอบแด่นายน้อยของตน ผ่านไปเรื่อย ๆ เกือบครบแล้ว แต่ฉางทิงกลับส่ายหัว กี่คนก็ไม่ใช่ กระทั่งทหารยามสอยเท้าพรวดพราดเข้ามา

“ท่านแม่ทัพขอรับ เจอศพในสระน้ำขอรับ”

ทุกคนในห้องโถงรับรองมองหน้าสบตากัน

‘ช่างประจวบเหมาะยิ่ง’

มหาราชครูกัวแค่นเสียงหัวเราะเยือกเย็น เผยสีหน้าเศร้าสร้อยออกมาให้เห็น

“คนร้ายคงโดนปิดปากเสียแล้ว”

 “เห็นทีคงถึงทางตัน” ราชครูเฒ่าทอดถอนใจอย่างจนปัญญา กล่าวจบก็ทำท่าลุกขึ้นหมายอำลา ทว่า…

“ช้าก่อนท่านมหาราชครู อย่าเพิ่งด่วนสรุป” เฉินชิงซงรั้งอีกฝ่ายไว้ พลางกล่าวต่อว่า “ท่านไม่ดูแคลนทหารจูเชว่ไปหน่อยหรือ” น้ำเสียงของ

แม่ทัพหนุ่มแฝงความจริงจัง และหมายมั่นอย่างที่ไม่ยอมให้เรื่องร้ายผ่านไปโดยง่าย

“ท่านแม่ทัพปั๋วเฉินหมายความว่า” มหาราชครูเฒ่าย่นหว่างคิ้วสงสัย

“คนร้ายตกหลุมพรางต่างหาก” เฉินชิงซงแสยะยิ้มร้าย

“ข้ากับรองแม่ทัพเผิงคาดการณ์ไว้แล้ว เขาไม่มีวันรอด ผู้บงการย่อมตัดตอนก่อนถูกสาวถึง” ดวงตาคมสีนิลฉายแววเจ้าเล่ห์ “พวกเราเพ่งเล็ง

นางนกต่อดีกว่า”

“ท่านรู้ว่าเป็นใครอย่างนั้นหรือ?” มหาราชครูเฒ่าย้อนถามเสียงเข้ม ผู้ถูกถามผงกศีรษะ

“เชิญตามผู้น้อยมาทางนี้ขอรับ” รองแม่ทัพเผิงผายมือ จากนั้นก็เดินนำทางไปยังเรือนท้ายจวน

ภายในเรือนนอนของฮูหยินผู้เฒ่า จินหรงรีบเข้ามารายงานให้ผู้เป็นนายฟัง

“ตอนนี้ด้านนอกมีแขกมาเจ้าค่ะ”

“ใครรึ?” เผิงชิ่นหลิงที่นั่งอยู่ภายในด้วยเลิกคิ้วถาม สีหน้าของนางมองไม่เห็นความรู้สึกใด ตรงกันข้ามฟู่หว่าสีหน้าค่อย ๆ ซีดลง ส่วนเจ้าของเรือนหลุบตา คล้ายครุ่นคิดไม่มองผู้ใดตรง ๆ

“รีบเชิญเข้ามา” หรูหรั่นเซียงสั่งการ ทั้งยังรีบปั้นสีหน้าให้ระรื่น

มหาราชครูกัวคำนับเจ้าของเรือนเสร็จสรรพก็นั่งเก้าอี้ตามลำดับศักดิ์ เจ้าบ้านนั่งตรงกลางห้อง แขกนั่งริมขวา

“มารบกวนฮูหยินผู้เฒ่า ข้าน้อยลำบากใจยิ่ง”

“ไม่ถือเป็นการรบกวนแต่อย่างใด หากข้าน้อยต้อนรับไม่ดีโปรดอภัย”

เสวนาเหมือนเป็นการเยี่ยมเยียนทั่วไป ทว่าอึดใจต่อมาทหารห้าคนได้นำสิ่งของที่ถือว่าเป็นหลักฐานมัดตัวคนร้ายเข้ามายื่นต่อรองแม่ทัพเผิง

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินถอนใจ เงยหน้ากวักมือเรียกจางเหม่ยอวี้มาหาตน “พาแม่กลับห้องนอนเถอะ ทางนี้ปล่อยเป็นหน้าที่ให้บุรุษจัดการ”

ความรู้สึกในใจหรูหรั่นเซียงพลุ่งพล่าน

“เจ้าก็ไม่ต้องอยู่ซ้ำเติมหรอก”

นางตวัดตาขุ่นใส่จินหรงมามาที่แสร้งยืนโด่เด่ไม่ยอมเดินตามหลัง

“เจ้าเองก็สมควรกลับเรือนรับรองได้แล้ว หรือหากจะดีกว่านี้...กลับจูเชว่ย่อมประเสริฐยิ่ง” รองแม่ทัพเผิงตบไหล่น้องสาวคนเดียวของตนพร้อมเน้นย้ำเสียงเข้มประโยคท้าย

“ข้าน้อยลาท่านมหาราชครู ท่านพี่ชิงซงเจ้าค่ะ”

เผิงชิ่นหลิงคล้ายไม่ได้ยินคำพูดประโยคหลังของพี่ชาย นางยอบกายคารวะผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วสาวเท้าเดินหน้าก่อนออกไปอดไม่ได้ที่จะปรายตาเยาะหยันมองสตรีที่นั่งตัวสั่นงันงกบนพื้นไม้อันเย็นเยียบ

“สมน้ำหน้า โง่เขลาเอง” เผิงชิ่นหลิงด่าทอหนึ่งคำรบแล้วเชิดหน้าจากไป

เผิงเสียนจือสิ้นไร้คำพูด มองตามหลังน้องสาวด้วยแววตาอยากกระชากวิญญาณให้หลุดจากร่าง

กี่ปีแล้วที่น้องสาวตามเจ้านายของเขาต้อย ๆ ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ขนาดหน้าเขายังไม่ชายตาแล หากเป็นผู้อื่นคงถอดใจหันเหมองหาคนที่เหมาะสม สมรสอยู่เคียงข้างกันไปจนวันตาย ช่างน่าเสียดายเวลาที่น้องสาวของตนเสียไปโดยเปล่าประโยชน์เสียจริง

บานประตูห้องรับรองเรือนท้ายจวนเฉินถูกทหารยามเลื่อนปิดสนิทไม่ให้เสียงไต่สวนภายในเล็ดลอดออกไปภายนอก มหาราชครูกัวถือกระดาษห่อยาปลุกกำหนัดมายืนตรงหน้า ‘ฟู่หว่า’ แล้วถามเสียงนุ่มนวล สำเนียงสุภาพเรียบร้อยมิได้เกรี้ยวกราด ทั้งที่ไฟคั่งแค้นกำลังลุกโชนเผาไหม้ในใจ

“บอกมาเถอะ ใครมอบห่อยานี้แก่เจ้า”

ฟู่หว่ากลืนน้ำลายเหนียวลงคอดังเอื๊อก เหลือบตามองห่อกระดาษสีขาวแวบหนึ่ง แล้วก้มหน้าก้มตาไม่ยอมเงย สีหน้าหวาดกลัวสุดขีด ร่างสั่นสะท้านอย่างเสียขวัญ เหงื่อกาฬผุดทั่วร่างซึมอาภรณ์ด้านหลังจนเห็นได้ชัดเจน นางแสร้งทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินคำถาม

มหาราชครูกัวเป็นใคร ผู้เลิศล้ำทางวาทศิลป์แค่เกลี้ยกล่อมสตรีนางหนึ่งให้เปิดปากสารภาพมิได้ยากเกินรับมือ

“ข้ารู้ เจ้าทำลงไปเพราะรัก” คำพูดของเขาจี้จุดดำในใจถือว่าได้ผลชะงัดดังคาด “แต่ตอนนี้เจ้าก็น่าจะเล็งเห็นแล้ว ว่าผิดแผนไปไกลยิ่ง”

ผู้เฒ่าชำเลืองมองสีหน้าท่าทางคนร้ายที่เริ่มครุ่นคิดหนัก มุมปากยกยิ้มพึงพอใจ เหล็กเผาไฟร้อนแล้วเขาควรตีขึ้นรูปต่อทันที

“เลยเถิดถึงขั้นฆ่าคนปิดปาก สาวน้อย...ตอนนี้เจ้าไม่เหลือทางรอดแล้ว แต่ถ้าหาก...”

“ชุยกงกงเจ้าค่ะ!” ฟู่หว่าลนลานกล่าว “ชุยกงกงนัดหมายข้าไปดื่มชาที่เหลาอวิ๋นเชียน บอกหากข้าทำสำเร็จ ทะ…ท่านแม่ทัพย่อมหันกลับมาสนใจข้า”

นางหันหน้ามองแม่ทัพหนุ่มในดวงใจ

“ข้าทำไปเพราะรักท่านแม่ทัพเจ้าค่ะ”

 แต่ดูเหมือนคำว่ารักของฟู่หว่าไร้ค่ายิ่งนัก เฉินชิงซงไม่แม้แต่จะชายตามองนางเลยสักนิด

“เป็นฮ่องเต้ที่ใส่ใจขุนนางดีจริงๆ” เฉินชิงซงเค้นเสียงเอ่ยลอดไรฟัน ไม่รู้ว่าแม่ทัพหนุ่มต้องตกใจเรื่องไหนก่อน ฟู่หว่าร่วมมือกับชุยกงกงวางยาคุณชายกัวเพื่อทำเรื่องฉาวโฉ่ กับเรื่องที่ฮ่องเต้สอดแนมเรือนหลังขุนนางทุกสกุล

มหาราชครูกัวตกตะลึงกับคำสารภาพไม่ต่างจากแม่ทัพเฉิน ฮ่องเต้เพ่งเล็งเล่นงานสกุลเฉิน โดยใช้บุตรชายของเขากับบุตรสาวรองเจ้ากรมจางเป็นเครื่องมือ ช่างใจเหี้ยมเหลือเกิน เพื่อผลประโยชน์ส่วนตนถึงกับดึงสกุลขุนนางที่ไม่เกี่ยวข้องมาพัวพันด้วยอย่างเลือดเย็น

“ทางวังหลวง ข้าขันอาสาสั่งสอนคนผู้นั้นเอง” ผู้เฒ่ากัวกล่าวด้วยสีหน้าดุดัน “ส่วนนาง...”

“ข้ายกให้ แล้วแต่ท่านราชครูจะจัดการ” เฉินชิงซงตอบทันทีอย่างไม่รีรอ

“ท่านแม่ทัพไม่ได้นะเจ้าคะ ข้าคือภรรยาของท่านนะเจ้าคะ!”

ไม่มีเสียงตอบกลับจากท่านแม่ทัพ นอกจากเสียงร้องโวยวายไม่ยินยอมของผู้กระทำความผิด

“ไม่นะ! ข้าไม่ไป ปล่อยข้า!!”

[1] ช่วงเวลา 09.00 - 10.59 น.

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 2.2

    ตอนพิเศษ 2.2ส่วนคุณหนูรองจางเหม่ยอวี้ ดูเหมือนว่าจะมีนิสัยตรงกันข้ามกับพี่สาว หยิ่งผยองเงียบขรึมพูดน้อย ดื้อรั้นเอาแต่ใจ รักความสงบเงียบ ไม่ค่อยสุงสิงเข้าสังคม แต่นับเป็นคนมีวาสนาดี เพราะคบหาอยู่กับคุณชายกัว ชาวเมืองครหาไว้อย่างนั้นแต่เพราะแม่ทัพปั๋วเฉินชิงซงอยู่ท่ามกลางสมรภูมิรบมาทั้งชีวิตย่อมเข้าใจเรื่องที่ว่า ‘การศึกไม่เคยหน่ายอุบาย’ ฉะนั้นเสียงนกกาสุนัขหมาป่าเห่าหอนที่ชาวเมืองคอยเต้าข่าว เขาไม่คิดเชื่อ ต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองชายหนุ่มต้องการดูเนื้อแท้ของสองตัวเลือก เพราะพวกนางหนึ่งในนี้จะต้องกลายเป็นสตรีที่เคียงข้างกายเขาไปตลอดชีวิต ในใจเขาจึงคิดไว้ว่านางต้องอ่อนโยนรู้กาลเทศะ ละเอียดลออเคร่งครัดจนไร้ช่องโหว่ อีกทั้งยังต้องฉลาดหัวไว ใจเยือกเย็น รู้เท่าทันเล่ห์อุบายต่ำทรามนานา เพราะจะได้สามารถเอาตัวรอดจากภัยอันตรายที่ซุ่มซ่อน ในขณะที่แม่ทัพเช่นเขาออกศึกไม่พำนักอยู่จวนทาสอัปลักษณ์หลังค่อมเดินลัดเลาะมาถึงระเบียงทางเดินดักรอคุณหนูรอง ส่วนคุณหนูใหญ่ยังคงอยู่แต่ในเรือนนอนไม่ได้ออกไปไหน“โอ๊ย! เดินอย่างไรไม่ดูตาม้าตาเรือ” จื่อผิงเอะอะโวยวายขึ้นหลังมีทาสชายหลังค่อมถอยมาชนปึก!ทาสอัปลักษณ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 2.1

    ตอนพิเศษ 2.1“เจ้าว่าอะไรนะ”ขุนนางฝ่ายบู๋ลำดับศักดิ์ปั๋ว ตระกูลเฉินนามชิงซง หรือแม่ทัพกองทัพจูเชว่คุ้มครองแดนใต้เงยหน้าขึ้นจากรายงานทางการทหาร หว่างคิ้วยับย่นฉับพลัน อดย้อนถามอย่างตกใจไม่ได้ หลังฟังคำบอกเล่าจากปากลูกน้องคนสนิท“เมื่อครู่ใครมาเข้าพบท่านแม่ แล้วชี้นำให้ท่านแม่ทำอะไรนะ...เปลี่ยนตัวเจ้าสาวพระราชทานอย่างนั้นหรือ” น้ำเสียงของแม่ทัพหนุ่มเปี่ยมด้วยความสนอกสนใจ ความรู้สึกหลายอย่างเกิดขึ้น ทั้งสับสนสงสัย ทั้งตะลึงและประหลาดใจ ก่อนตบท้ายด้วยขุ่นเคือง หากสิ่งที่ได้ฟังมาเป็นความจริง‘ตระกูลจางคิดจะสลับตัวเจ้าสาว’รองผู้บัญชาการกองทัพจูเชว่เผิงเสียนจือ ลอบกลืนน้ำลายด้วยความประหม่า อดคิดในใจไม่ได้ว่าท่านแม่ทัพจะเพิกเฉย ไม่นึกยี่หระเสียอีก เขามารายงานตามปกติประจำวันไม่ได้เน้นเสียง หรือจงใจให้เจ้านายหันเหสนใจเรื่องดังกล่าวแต่งคนไหนก็เหมือนกันมิใช่รึ อย่างไรก็ไม่ได้แต่งด้วยความรัก รองแม่ทัพหนุ่มชะงักพักหนึ่งหยุดไปประมาณห้าอึดใจ จึงเริ่มเล่าวกเรื่องเมื่อครู่อีกครั้ง“ฮูหยินผู้เฒ่าโมโหไม่น้อยเลยขอรับ” คนรายงานตามจริงถอนใจเศร้าๆ หลายครา นึกสงสารชะตากรรมคุณหนูรองที่มีแม่เลี้ยงเฉกเช่นอ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 1.2

    ตอนพิเศษ 1.2ชายหนุ่มกำลังจะโผกายสวมกอดภรรยา ทว่านางบีบจมูกและย่นหว่างคิ้ว เขาจึงเข้าใจทันทีว่า มันเป็นเพราะกลิ่นกายตนที่ทำให้อีกฝ่ายอาเจียนมากมายขนาดนั้น จึงไม่กล้าผลีผลามเข้าใกล้อย่างคราแรก ๆ อีกทว่าในจังหวะแห่งความปลื้มปีตินั้นเอง อยู่ ๆ รองแม่ทัพเผิงวิ่งเข้ามาขัด พร้อมรายงานด่วนทางการทหาร บอกแก่เขาว่ามีข้าศึกโจมตี ทำให้แม่ทัพหนุ่มจำต้องโบกมืออำลาภรรยาที่กำลังแพ้ท้องอย่าหนักหน่วงด้วยความห่วงอาลัยยิ่ง“พี่จะรีบกลับมา น้องหญิงรอพี่ก่อนนะ” เขากล่าวคำลาด้วยใจที่ย่ำแย่ มองใบหน้าฮูหยินคนงามที่มองเขาตอบด้วยสายตาอย่างยากจะคาดเดาออกในวันนั้นจางเหม่ยอวี้ไม่มีคำลาใด ๆ หรืออวยพรให้เขาชนะศึก การกระทำที่นิ่งเฉยของนาง ทำเอาแม่ทัพผู้เด็ดเดี่ยวใจสั่นไหว เสมือนมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบหัวใจจนปวดหนึบนับจากวันอำลา เฉินชิงซงรู้สึกเดียวดายเปล่าเปลี่ยวยิ่งนัก เขาเอาแต่คิดถึงใบหน้าหวานของภรรยาตลอดทั้งวันทั้งคืน ความห่วงหาอาทรแผ่ซ่านทุกห้วงอณู ศึกก็ต้องรบ ทว่าหัวใจหดหู่ทำให้ส่งผลกระทบต่อการวางแผนกลศึก กระทั่งเหล่านายกอง รวมถึงรองแม่ทัพต่างวิตกว่าสุขภาพของท่านแม่ทัพจะย่ำแย่ จึงแนะนำให้เขาเขีย

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนพิเศษ 1.1

    ตอนพิเศษ 1.1หลังจากเข้าพิธีสมรสได้หนึ่งเดือน เฉินชิงซงต้องวุ่นวายกับการโยกย้ายจวน เดินทางจากเมืองหลวงลงแดนใต้ กว่าจะถึงเมืองชายแดนจูเชว่ต้องใช้เวลาไปอีกหนึ่งเดือนครึ่ง ระยะนี้เขากับฮูหยินตัวน้อยจึงมิได้สานสัมพันธ์แนบแน่นกันเลยวันนี้ตั้งใจแน่วแน่ จะร่วมคืนวสันต์แสนหวานกับผู้เป็นภรรยา แค่คิดเรื่องสัปดน หัวใจก็เต้นโครมครามยากระงับไหว เลือดลมสูบฉีดจนใบหน้าคมคายแดงซ่าน ดวงตาคมทอประกายวาบวาม มิต่างอันใดกับทะเลยามราตรีที่เต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำ“อวี้เอ๋อร์ เจ้ากำลังรอเหมือนพี่อยู่หรือไม่นะ” แม่ทัพหนุ่มรำพึงรำพันด้วยความสุขล้น สองมือเร่งหยิบรายงานทางการทหารที่กองพะเนินมาเปิดอ่าน เขาต้องประทับตราลงนามให้เสร็จแล้วรีบกลับจวนเฉินชิงซงใจเริ่มคุ้นชินกับการมีจางเหม่ยอวี้อยู่ข้างกาย ไม่ว่าตอนตื่นลืมตาช่วงเช้า รับสำรับมื้อแรกช่วงสาย ปิ่นโตมื้อกลางวัน และสำรับเย็นที่เรือนท่านแม่ก่อนปิดท้ายวันด้วยการเข้านอนทว่าพอถึงเวลาค่ำคืนของสามีภรรยา เขากับนางกลับทำเพียงแค่โอบกอด แล้วพากันสู่นิทรามิได้ลึกซึ้งเหมือนเช่นคืนเข้าหอแต่ในคืนนี้เฉินชิงซงตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า เขาจะต้องร่วมหอกับภรรยาตัวน้อยให้จงไ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(3)

    บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(3) จากประโยคนี้ของสามี จางเหม่ยอวี้ถึงกับโผเข้าไปสวมกอดเขาเอาไว้ บุรุษผู้นี้ช่างดีต่อนางยิ่งนัก นางทำตัวร้ายกาจ วางแผนสังหารคนขนาดนี้ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะอยู่เคียงข้างและปกป้องนาง เช่นนี้แล้วนางจะไม่เปิดรับเขาเข้ามาอยู่ในใจได้อย่างไร“ท่านพี่ขอบคุณท่านมาก ขอบคุณ”“ไม่ต้องขอบคุณแล้ว เราเป็นสามีภรรยากัน ไม่มีเรื่องที่ต้องเกรงใจ”เฉินชิงซงยิ้มให้กับภรรยา หลังจากนี้เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะไม่มีเรื่องใดผ่านเข้ามาทำให้ภรรยาของเขาต้องเคร่งเครียดและเสียน้ำตาอีกแล้วจวนปั๋วเฉินแห่งแดนใต้จูเชว่หนึ่งปีแล้ว หลังจากโยกย้ายครอบครัวมาอยู่แดนใต้ เริ่มแรกก็ยุ่งเหยิงวุ่นวายยกใหญ่ จางเหม่ยอวี้สตรีเมืองหลวงผู้เพียบพร้อมจรรยามารยาทงดงาม ไม่คุ้นชินกับชาวบ้านชนบทที่พูดจาเสียงดัง ท่าทางกร่างจัด ไม่เคารพธรรมเนียมปฏิบัติ หลักการข้อไหนก็ไม่ยึดถือจางเหม่ยอวี้โชคดีที่มีสามีคอยแนะนำ มีแม่สามีสอนสั่ง ประเพณีที่นี่เป็นเช่นไร พึงศึกษาอยู่ไม่นานนักก็สามารถปรับตัวได้ทางด้านจื่อผิงออกเรือนแต่งเป็นอนุให้รองแม่ทัพเผิง ไม่รู้ไปต้องตาพึงใจกันตอนไหน จื่อผิงอยู่ชนชั้นทาสมาตั้งแต่เกิด

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(2)

    บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(2)เตียง ทั้งสองแลกเปลี่ยนจุมพิตกันอย่างยาววนาน ก่อนจะเริ่มเพิ่มความเร่าร้อนขึ้น ด้วยการสอดประสานกายเป็นหนึ่งเดียวกัน เช้าวันรุ่งขึ้น สองสามีภรรยาเดินทางไปยังกองบัญชาการแห่งทัพจูเชว่ ซึ่งจางเหม่ยอวี้ได้พบกับจือหมิ่น น้องสาวของจือลิ่ว อดีตคนสนิทของอนุหลินจริง ๆ ทันทีที่จือหมิ่นเห็นว่าคนที่ก้าวเข้ามายังห้องที่นางถูกควบคุมตัวไว้เป็นใครก็มีสีหน้าซีดเผือด แข้งขาของเจ้าตัวพลันอ่อนแรง ล้มลงไปนั่งกองกับพื้น ปากคอสั่นจนหาเสียงตนเองไม่พบ“ดูท่าเจ้าคงจดจำนางได้สินะ”เฉินชิงซงมองอีกฝ่ายอย่างจับผิด และคนตรงหน้าก็ยิ่งตัวสั่นกว่าเดิม เมื่อมองไปยังจางเหม่ยอวี้ที่จ้องมองมาอย่างไม่วางตา“คุณหนูรอง”“เจ้ารู้จักข้าด้วย ทั้งที่เราไม่เคยพบกันแท้ ๆ” จางเหม่ยอวี้กล่าวเหมือนนึกทึ่ง พลางเดินเข้าไปนั่งอยู่ต่อหน้าอีกฝ่ายที่คุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยร่างกายที่สั่นเทาจากนั้นเฉินชิงซงก็เริ่มสอบถามเรื่องราวต่าง ๆ และแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้วิธีทรมานใด ๆ เพื่อให้จือหมิ่นยอมพูดความจริง หญิงสาวตรงหน้าที่มีความผิดบาปฝังมาในใจเนิ่นนานแล้วก็สารภาพออกมาอย่างหมดเปลือกและแล้วเรื่องราวตลอ

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(1)

    บทส่งท้าย บทสรุปของคำว่าครอบครัว(1)“นี่ข้าวของของข้า เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงโยกย้ายมันโดยพลการ!”ภายในจวนปั๋วเฉินเกิดความวุ่นวายขึ้น เสียงแว้ด ๆ ที่ดังอยู่ผู้เดียวจะเป็นใครได้ หากไม่ใช่น้องสาวของรองแม่ทัพเผิงชิ่นหลิงถลึงตามองจางเหม่ยอวี้ ดวงตาวาววับแทบลุกเป็นไฟ นางจะไม่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้อย่างไร จู่ ๆ ภรรยาของแม่ทัพที่เพิ่งตบแต่งได้ไม่นานก็ทำท่าวางอำนาจ ฉวยโอกาสตอนนางออกไปเที่ยวใช้ทาสมาเก็บข้าวของในเรือนรับรองใส่หีบ“เพราะข้าเป็นฮูหยินของจวนเฉินอย่างไรเล่า เจ้าเล่า! มีสิทธิ์อันใดอาศัยที่นี่ กาฝากรึ” จางเหม่ยอวี้ตอกกลับได้อย่างแสบทรวง “อีกประการข้าถามท่านพี่กับท่านแม่แล้ว พวกเขาไม่ได้เต็มใจต้อนรับเจ้า เพียงแต่ยังเกรงใจท่านรองแม่ทัพเผิงเท่านั้น”“นี่เจ้า!” เผิงชิ่นหลิงกรีดร้องด้วยความเดือดดาล นางชี้นิ้วใส่เฉินเย๋ปั๋วฟูเหรินอย่างไร้มารยาทยิ่งจางเหม่ยอวี้ที่ดำรงตำแหน่งภรรยาของจวนแม่ทัพไม่มีท่าทีโกรธเกรี้ยว นอกเสียจากเหยียดยิ้มชั่วร้ายให้กับท่าทางของสตรีที่ทำตัวไม่ต่างกับหนูสกปรกตัวหนึ่ง“ท่านรองแม่ทัพเคลื่อนกำลังพลกลับจูเชว่ตั้งแต่ราชโองการออกมาแล้ว เจ้ายังหน้าด้านอยู่จวนเฉินอีกรึ”“เจ้

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   บทที่ 15สุขทุกข์ร่วมแบ่งเบา

    บทที่ 15สุขทุกข์ร่วมแบ่งเบาเฉินชิงซงเห็นภรรยามีท่าทีไม่สบายใจมาหลายวันแล้ว อีกทั้งหลายครั้งนางก็เหมือนจะเหม่อลอย เวลาเขาสนทนาด้วยบางทีก็ตอบช้าไปกว่าทุกครั้งคล้ายมีเรื่องครุ่นกังวล“น้องหญิง เจ้ากังวลเรื่องใดหรือ เหตุใดพักนี้เจ้าจึงเหม่อลอยพิกล”แม่ทัพหนุ่มเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย ฝ่ายผู้เป็นภรรยาทำสีหน้าไม่ถูก ที่ผ่านมานางถูกสอนสั่งให้เอาใจใส่สามี เมื่ออีกฝ่ายพูดออกมาเช่นนี้จึงรู้สึกไม่สบายใจ กังวลไปว่าตนเองบกพร่องในหน้าที่ฮูหยินของเขาหรือไม่“ขออภัยเจ้าค่ะท่านพี่”“ไม่มีเรื่องใดต้องขอโทษ เจ้าไม่สบายใจ พี่ควรช่วยเจ้าแบ่งเบา มีอะไรก็ว่ามาเถิด เราสองคนเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ”เขาเว้นคำพลางมองลึกเข้าไปในดวงตาที่หม่นแสงของภรรยา ฉวยจับมือเล็กไว้มั่น แม้แต่งงานกันได้ไม่นาน แต่เขาก็เอื้ออาทรในตัวของจางเหม่ยอวี้อย่างยิ่ง จึงไม่ต้องการเห็นนางมีเรื่องหม่นหมองในใจ“จำไว้...ไม่มีเรื่องใดที่บอกกล่าวพี่ไม่ได้”แววตาของสามีที่ทอดมองมาอ่อนโยนยิ่งนัก หญิงสาวเห็นแล้วก็รู้สึกซาบซึ้งในใจ เฉินชิงซงอาจเป็นคนเย็นชาพูดน้อย แต่แท้จริงกลับใส่ใจทุกเรื่องของนาง ขนาดเขาออกไปตรวจค่ายทหารทุกวัน และเจอนางไม่

  • วาสนารักดวงใจท่านแม่ทัพ   ตอนที่14.2 มดปลวกรวมตัว(2)

    ตอนที่14.2 มดปลวกรวมตัว(2)ฉางทิงกับบ่าวฉกรรจ์อีกสามคนฉุดกระชากลากถูคนร้ายไปตามระเบียงไม่คิดไว้ไมตรีทะนุถนอมอันใด ฟู่หว่ากรีดร้องจนสุดเสียงก็ไม่มีใครยื่นมือเข้าช่วยฮูหยินผู้เฒ่ายืนทอดสายตามองฟู่หว่า เด็กสาวที่นางเลี้ยงดูมากับมือทว่ากลับหลงเดินทางผิดถูกคนเลวหลอกใช้“ท่านแม่ อากาศเย็นแล้ว กลับเข้าห้องเถอะเจ้าค่ะ” จางเหม่ยอวี้ปั้นหน้าแย้มยิ้มระรื่น ทำเป็นมองไม่เห็นแม่สามีที่กำลังตรอมตรม“อือ รบกวนเจ้าแล้ว” หรูหรั่นเซียงถอนหายใจ ล้วงผ้าเช็ดหน้าซับหยดน้ำตา แล้วให้ลูกสะใภ้ประคองเข้าห้องนอน“แม่ขอโทษนะที่ตัดวาสนาของเจ้ากับคุณชายกัว”“อย่าคิดมากเลยเจ้าค่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว” จางเหม่ยอวี้สั่นศีรษะพร้อมกับส่งยิ้มให้กับแม่สามีอย่างจริงใจ “ลูกรู้สึกว่าตนเองนั้นช่างโชคดีนัก ที่วันนั้นท่านแม่เลือกให้ลูกมาเป็นสะใภ้”“ไม่เคืองจริงหรือ” แม่สามีเย้าลูกสะใภ้ โดยที่มีจินหรงมามาอมยิ้มปลื้มปริ่มเดิมตามหลัง“ความจริงครั้งแรกก็รู้สึกโกรธเคืองไม่น้อยเจ้าค่ะ เพราะลูกฝึกฝนจรรยาฮูหยินเรือนหลังจวนขุนนางฝ่ายบุ๋นอย่างลำบากมานาน” ลูกสะใภ้หัวเราะเบาๆ อย่างเหนียมอายแม่สามีพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าอกเข้าใจ จรรยาสตรี

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status