แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: กุหลาบดิน
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-01 19:56:02

ในช่วงเช้า ขณะที่องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อกำลังเดินอยู่ในสวนของวัง ใบหน้าของเขาเคร่งขรึม สายตาจับจ้องไปยังดอกไม้ที่ผลิบาน ทว่าในใจกลับว้าวุ่นด้วยความคิดถึงเรื่องงานหมั้นและคำพูดของว่าที่คู่หมั้น

เหวิ่นลี่หยาได้เดินเข้ามาอย่างเงียบๆ นางก้มศีรษะลงอย่างนอบน้อมก่อนจะกล่าวทักทายด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ถวายบังคมองค์ชายเพคะ ท่านพี่จือหยูมาเข้าเฝ้าที่ตำหนักหรือไม่เพคะ” นางถามด้วยแววตาที่แสดงถึงความห่วงใย

หลี่หยวนเจ๋อเหลือบตามองนางเล็กน้อย ก่อนจะส่ายศีรษะ “นางไม่ได้อยู่ที่นี่ ข้าไม่ได้พบเหวิ่นจือหยูมาหลายวันแล้ว”

เหวิ่นลี่หยาพยักหน้าอย่างเข้าใจ “หม่อมฉันคิดว่านางอาจจะยุ่งกับการเตรียมตัวสำหรับพิธีหมั้น หม่อมฉันเองก็ไม่ค่อยได้พบพี่จือหยูเช่นกัน หม่อมฉันหวังว่านางจะมาเข้าเฝ้าองค์ชายที่นี่ เลยลองตามมาเพคะ แม้ไม่ได้เจอกันนานหวังว่านางจะสบายดี”

คำพูดของนางจะเต็มไปด้วยความห่วงใยต่อพี่สาว หลี่หยวนเจ๋อรับรู้ได้ถึงความต่างกันในน้ำเสียงของนาง เหวิ่นลี่หยาเป็นคนที่พูดจาอ่อนหวานอ่อนโยน และมีท่าทีที่แสดงออกถึงความอ่อนน้อมเสมอ ต่างจากเหวิ่นจือหยูที่มักจะทำตัวแข็งกระด้างราวกับไม่ยินดียินร้ายกับใคร และไม่เคยแสดงความอ่อนโยนให้เขาเห็น

“ข้ากำลังคิดถึงเรื่องนี้เช่นกัน” หลี่หยวนเจ๋อตอบด้วยเสียงเรียบนิ่ง “บางครั้งข้าก็สงสัยว่าทำไมข้าต้องแต่งงานกับนาง ทั้งที่ข้ากับนางแทบไม่รู้จักกันเลย”

เหวิ่นลี่หยายิ้มบางๆ ก่อนจะหลุบตาลงเล็กน้อย “หม่อมฉันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างบุรุษและสตรีอาจต้องใช้เวลา องค์ชายและพี่จือหยูอาจยังไม่ได้รู้จักกันอย่างลึกซึ้ง แต่หากท่านให้โอกาส หม่อมฉันเชื่อว่าความรักจะเกิดขึ้นได้เพคะ”

คำพูดนั้นทำให้หลี่หยวนเจ๋อเงียบไปครู่หนึ่ง เขารู้สึกถึงความจริงในถ้อยคำของเหวิ่นลี่หยา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะยอมรับมันได้ง่ายๆ

“ถ้าเปลี่ยนตัวคู่หมั้นได้ก็คงดี” ความคิดนั้นผุดขึ้นในใจขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อ ขณะที่มองเหวิ่นลี่หยา นางเป็นหญิงสาวที่งดงาม อ่อนโยน และมีคุณสมบัติครบครัน มีความเป็นกุลสตรีทุกประการในแบบที่เขาใฝ่หา หากนางเป็นคู่หมั้นของเขาแทนพี่สาวที่หยิ่งผยอง ทุกอย่างคงจะง่ายดายกว่านี้มาก

แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้ดีว่าการเปลี่ยนตัวคู่หมั้นไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะเมื่อการหมั้นหมายนี้มันเกี่ยวพันกับการเมืองและผลประโยชน์ของตระกูลใหญ่เช่นนี้ ตระกูลเหวิ่นเป็นผู้มีอิทธิพล หากเขาทำให้เกิดความขัดแย้งขึ้น ทำให้ตระกูลเหวิ่นไม่พอใจ นั่นอาจนำความวุ่นวายมาสู่ราชวงศ์ ทำให้ราชวงศ์หลี่ตกอยู่ในอันตรายได้

เขาถอนหายใจเบา ๆ ขณะมองเหวิ่นลี่หยาที่ยืนอย่างนอบน้อมอยู่เบื้องหน้า ความคิดนี้เริ่มเกาะกุมจิตใจเขามากขึ้นทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับนาง “บางครั้งข้าก็คิดว่า ถ้าเจ้าคือคู่หมั้นของข้าแทนเหวิ่นจือหยูเรื่องราวอาจจะง่ายกว่านี้” เขาพูดขึ้นอย่างไม่ทันระวังตัว

เหวิ่นลี่หยาถึงกับชะงัก เงยหน้าขึ้นด้วยความตกใจ แม้ปกตินางจะควบคุมอารมณ์ได้ดี แต่คำพูดขององค์ชายทำให้หัวใจของนางสั่นไหวและแอบสมใจอยู่ลึกๆ นางไม่เคยคาดคิดว่าพระองค์จะคิดเช่นนั้นจริง ๆ นางรู้ดีว่าองค์ชายไม่พอใจกับการหมั้นหมายนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่องค์ชายแสดงความรู้สึกเช่นนี้ออกมาอย่างชัดเจน

“องค์ชาย…” นางเรียกเบาๆ ขณะพยายามรักษาท่าทีให้สงบ “หม่อมฉันเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา มิอาจเปรียบเทียบกับพี่จือหยูได้เลยเพคะ ท่านพี่เป็นบุตรสาวคนโตที่ได้รับการยกย่อง หม่อมฉันไม่คู่ควรกับตำแหน่งของนาง แม้ว่าใจของหม่อมฉันอยากให้เป็นเช่นนั้นก็ตาม”

คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความสุภาพ นัยน์ตาของเหวิ่นลี่หยาแสดงออกถึงความเศร้าและความรู้สึกที่ถูกปิดบังมานาน ความจริงคือ นางเองก็หลงรักองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อมาตลอด นางแสดงออกอย่างนอบน้อม เพราะรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ ไม่มีตำแหน่งที่จะยืนอยู่เคียงข้างเขา นางทำได้เพียงเฝ้ามองอยู่ไกลๆ ยกเว้นว่าพี่สาวนางจะไม่ยืนอยู่ที่นี่แล้ว

หลี่หยวนเจ๋อจ้องมองนางด้วยแววตาที่อ่อนโยน เขารับรู้ความรู้สึกนั้นในสายตาของนางและคำพูดเมื่อครู่เขาก็เข้าใจ แม้ว่าเหวิ่นลี่หยาจะไม่พูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา แต่นางก็ไม่ปฏิเสธความจริงที่ว่าหากเป็นไปได้ นางเองก็อาจจะยินดีที่ได้ยืนอยู่ในที่ของพี่สาว

“เจ้าไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบตัวเองกับใครทั้งนั้น” หลี่หยวนเจ๋อกล่าวอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงของเขาผ่อนคลายมากขึ้น

“ข้ารู้ว่าเจ้ามีคุณสมบัติที่แตกต่างจากเหวิ่นจือหยู และในสายตาของข้า เจ้าคือคนที่มีค่ามาก”

คำพูดนั้นทำให้เหวิ่นลี่หยายิ้มบาง ๆ ถึงแม้ว่าจะเป็นยิ้มที่เต็มไปด้วยความเศร้าซ่อนอยู่ “องค์ชายกรุณาต่อหม่อมฉันมากเพคะ แต่หม่อมฉันเองก็เป็นเพียงน้องสาวของพี่จือหยู การหมั้นหมายนี้เป็นเรื่องสำคัญ ข้าไม่อาจขัดขวางการหมั้นหมายขององค์ชายกับนางได้”

“ข้าไม่ได้บอกว่าจะขัดขวาง” หลี่หยวนเจ๋อกล่าวเสียงแผ่ว “เพียงแต่ข้ากำลังคิดหาทางออกที่จะทำให้ทุกฝ่ายมีความสุข”

เหวิ่นลี่หยายืนนิ่ง นางไม่กล้าเอ่ยสิ่งใดอีกต่อไป แม้จะมีความปรารถนาในใจที่ถูกซ่อนอยู่ลึกเกินกว่าจะพูดออกมา แต่นางก็รู้ว่าหนทางนี้ยากเกินไป แต่ถ้ามันเป็นไปได้ก็ดี

ในขณะที่องค์ชายหลี่หยวนเจ๋อและเหวิ่นลี่หยาสนทนากันอย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางสวนดอกไม้ที่บานสะพรั่ง เสียงสนทนาที่ดูเหมือนเป็นความลับระหว่างคนสองคนไม่อาจปกปิดจากบุคคลที่สามได้

อีกมุมหนึ่ง “วาดรวี” ในร่างของเหวิ่นจือหยู เธอซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้ใหญ่ ขณะที่เสียงสนทนาขององค์ชายและเหวิ่นลี่หยาลอยมาถึงหูของเธออย่างชัดเจนทุกคำ หญิงสาวกำมือแน่นเมื่อได้ยินคำพูดขององค์ชาย

“ถ้าเจ้าเป็นคู่หมั้นของข้าแทนเหวิ่นจือหยู เรื่องราวอาจง่ายกว่านี้”

“ข้าไม่ได้บอกว่าจะขัดขวาง เพียงแต่ข้ากำลังคิดหาทางออกที่จะทำให้ทุกฝ่ายมีความสุข”

วาดรวีหรือเหวิ่นจือหยูใจสั่นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เสียงขององค์ชายหลี่หยวนเจ๋อแทงเข้าไปในใจของเธออย่างแรง แม้เธอรู้ดีว่าในความเป็นจริง เหวิ่นจือหยูในอดีตสมควรได้รับความไม่พอใจจากองค์ชาย แต่วาดรวีไม่ใช่เหวิ่นจือหยูเดิมอีกต่อไป เธอเป็นคนใหม่ที่ถูกบังคับให้เข้ามาอยู่ในโลกนี้ในสถานการณ์ที่เธอไม่เคยเข้าใจ หญิงสาวพยายามทำความเข้าใจชีวิตในยุคจีนโบราณ เธอพยายามเปลี่ยนแปลงตัวเองและเรียนรู้ที่จะรับมือกับความคาดหวังทางสังคมอันเข้มงวด ทั้งในฐานะบุตรสาวของภรรยาเอก และในฐานะคู่หมั้นขององค์ชาย แต่ดูเหมือนสิ่งนั้นจะไร้ค่าเมื่อองค์ชายไม่เปิดใจ และมันก็ยากที่จะยอมรับเมื่อได้ยินชัดเจนจากปากเขาเช่นนี้ วาดรวีไม่เคยคาดคิดว่าองค์ชายจะรู้สึกหนักแน่นขนาดนี้กับการที่เขาไม่อยากหมั้นหมายกับเหวิ่นจือหยู

“ข้าคิดว่าถ้าเจ้าเป็นคู่หมั้นของข้าแทนเหวิ่นจือหยู ทุกอย่างคงจะง่ายขึ้นมาก…”

เสียงขององค์ชายยังคงก้องอยู่ในหูของเธอ วาดรวีแทบไม่เชื่อหูตัวเอง เธอสูดหายใจลึกก่อนจะค่อยๆ หลบออกจากตรงนั้น เธอไม่อยากให้ใครเห็นความอ่อนแอในดวงตาของเธอ โดยเฉพาะเหวิ่นลี่หยาและองค์ชายหลี่หยวนเจ๋อที่อยู่ตรงนั้น ความเจ็บปวดนั้นทิ่มแทงจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่

“ดูเหมือนว่าฉันจะต้องพิสูจน์ตัวเอง ให้เขาเห็น” วาดรวีพึมพำเบาๆ พลางตั้งมั่นในใจที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้ต่อไป
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 80

    ช่วงสายขณะที่เหวิ่นจือหยูมองออกไปนอกหน้าต่าง หลี่หยวนเจ๋อเดินเข้ามาเงียบๆ เขาเห็นนางนั่งนิ่งอยู่ จึงค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งลงข้างๆ แล้วเอื้อมมือจับมือนาง “จือหยู เจ้าดูไม่สดชื่นเลย มีเรื่องอะไรในใจหรือไม่” เหวิ่นจือหยูสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะส่ายหน้า แต่มือของนางบีบมือเขาแน่นขึ้น “หม่อมฉันแค่คิดว่า

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 79

    ก่อนหน้า ในค่ำคืนอันเงียบสงัด ณ ตำหนักขององค์ชายสาม เหวิ่นลี่หยาเดินวนไปมาในห้องโถง ด้วยสีหน้าวิตกกังวล ขณะที่หลี่จวิ้นนั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยท่าทางเคร่งขรึม “ท่านพี่คิดจะทำอย่างไรต่อไป” เหวิ่นลี่หยาหยุดเดินแล้วหันมามองพระสวามี “ตอนนี้โรงงานในแคว้นเฉินก็ถูกปิดไปหมดแล้ว หากแคว้นเฉินสืบสาวจนพบเบาะ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 78

    ในยามเช้าตรู่ ขุนนางชั้นผู้ใหญ่และองค์ชายทั้งหลายได้ถูกเรียกประชุมด่วนที่ท้องพระโรงแห่งแคว้นหลี่ ภายในท้องพระโรง ฮ่องเต้หลี่หยวนเจิ้งประทับอยู่บนบัลลังก์ บรรยากาศในท้องพระโรงเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด ฮ่องเต้ทรงมีสีหน้ากังวล และทอดพระเนตรเหล่าองค์ชายที่ประทับนั่งเรียงรายด้านล่าง “เรื่องกระทะปลอมที่

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 77

    ภายในห้องประชุมลับของตำหนักองค์รัชทายาท หลี่หยวนเจ๋อในฉลองพระองค์เรียบง่ายแต่สง่างาม ประทับอยู่ที่หัวโต๊ะ รอบด้านมีหัวหน้าช่างและขุนนางที่เกี่ยวข้องนั่งเรียงรายในท่าทีนอบน้อม เหวิ่นจือหยูประทับอยู่เคียงข้างพระสวามี ใบหน้านางนิ่งสงบแต่แววตาฉายแววเฉียบคม “กระทะปลอมที่ลอกเลียนแบบสินค้าแคว้นหลี่ของเรา

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 76

    ยามเช้าแสงอาทิตย์อ่อน ๆ สาดส่องเข้ามาในตำหนักเหวิ่นจือหยูและหลี่หยวนเจ๋อกำลังนั่งสนทนาอยู่ด้วยกันในบรรยากาศผ่อนคลาย จู่ๆเสียงนางกำนัลดังขึ้นขัดจังหวะ “ขออภัยองค์รัชทายาทและพระชายาเพคะ ฮ่องเต้ทรงมีรับสั่งให้ทั้งสองพระองค์เข้าเฝ้าโดยด่วน เนื่องจากมีขุนนางจากแคว้นเฉินมาติดต่อเกี่ยวกับกระทะที่ซื้อไปจ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 75

    “จือหยู ข้าว่าเจ้าควรพักก่อน การดูแลการผลิตเช่นนี้ไม่ได้เป็นหน้าที่ของเจ้าคนเดียว พวกเขามีช่างฝีมือดีอยู่แล้ว” หลี่หยวนเจ๋อเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง เขาเข้ามาใกล้และซับเหงื่อที่ขมับให้อย่างอ่อนโยน เหวิ่นจือหยูชะงักยิ้มให้กับความอ่อนโยนและความใส่ใจของพระสวามี “หม่อมฉันรู้ แต่หม่อมฉันอยากให้แน่ใจว

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 74

    ขณะที่เหวิ่นจือหยูกำลังนั่งเขียน และวางแผนที่จะนำเสนอให้กับฮ่องเต้เพื่อส่งเสริมการผลิตกระทะและเผยแพร่ไปยังนอกวัง จู่ ๆ หลี่หยวนเจ๋อก็เดินเข้ามาหานาง ขณะที่เหวิ่นจือหยูกำลังนั่งจรดปลายพู่กันลงบนกระดาษเบื้องหน้า ดวงตาของนางเต็มไปด้วยสมาธิและความมุ่งมั่น เกี่ยวกับรายละเอียดการปรับปรุงกระทะและแผนการขย

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 73

    “มะ หม่อมฉันอยากทานหมูกระทะ” “หมูกระทะ” องค์รัชทายาทหลี่หยวนเจ๋ออุทานออกมาพร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่พระชายาบอกว่าอยากกิน “เจ้าหมายถึงอะไร หมูกระทะ คืออะไรข้าไม่เห็นเคยได้ยิน ไม่เคยรู้จักอาหารประเภทนี้เลย” วาดรวีในร่างเหวิ่นจือหยูหันมามองหลี่หยวนเจ๋อพระสวามี นางลืมไปว่ายุคนี้อาจจะ

  • วิศวะข้ามภพกับองค์รัชทายาท   บทที่ 72

    การกระทำอันอ่อนโยนของหลี่หยวนเจ๋ออยู่ในสายตาของเหวิ่นจือหยูที่มองมองอย่างระทวย นางรู้สึกอบอุ่นในหัวใจที่เห็นแบบนี้ ไม่นึกเลยว่าหลี่หยวนเจ๋อผู้เย่อหยิ่งปากร้ายใส่นางทุกคครั้งที่เจอหน้ากันจะทำแบบนี้เป็น “หลี่หยวนเจ๋อ ลูกของเรารับทราบแล้วว่าท่านพ่อของเขารักเขามากแค่ไหน อูยยยย” เหวิ่นจือหยูเอ่ยบอกพระสว

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status