ดวงอาทิตย์ของวันใหม่โผล่พ้นขอบฟ้า แสงอรุณสาดส่องมาที่ใบหน้าเรียวเล็ก ริมฝีปากกระจับได้รูป ร่างบางค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ พร้อมกับหัวอันหนักอึ้ง เธอรู้สึกปวดหัวประหนึ่งว่ามีของหนัก ๆ กำลังทับบนหัวเธออยู่ แทบจะพาตัวเองลุกขึ้นจากเตียงไม่ไหวเลยทีเดียว
“เมื่อคืนเราเมาหนักเลยเหรอเนี่ย” เธอคิด
ร่างบางค่อยๆ พยุงตัวเองลุกจากที่นอนแล้วเดินเข้าห้องน้ำอย่างอ่อยอิ่งเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกายให้รู้สึกสดชื่นเสียหน่อย เพราะดูจากสภาพตอนนี้แล้ว เธอน่าจะยังไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อคืน
หลังจากที่เธออาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เธอเดินลงมาชั้นล่างเพื่อดูว่าเช้านี้มีอะไรให้เธอกินบ้าง ตอนนี้ท้องของเธอร้องโครกครากมันกำลังร้องบอกเธอว่าหิวจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว ที่ห้องอาหารเธอเห็นว่าเพื่อนสาวคนสนิทของเธออย่างกิ๊ฟกำลังนั่งกินข้าวต้มกุ้งอย่างเอร็ดอร่อย
“อ้าวแก ตื่นแล้วเหรอ มากินข้าวเร็ว” กิ๊ฟเอ่ยถามขึ้น
“ปวดหัวมากเลยอ่ะแก นี่แกตื่นนานแล้วเหรอ”
“ฉันตื่นได้สักพักแล้ว ฉันไม่ได้เมาเหมือนแกนะที่จะไม่รู้สติ”
อิงฟ้าฟังเพื่อนสาวคนสนิทพูดพลางกับหันหน้าไปขอข้าวต้มกับอรที่เป็นแม่บ้านอยู่ประจำบ้านของเธอ
“พี่อรขา ขอข้าวต้มให้ฟ้าถ้วยนึงนะคะ”
เธอเอ่ยเสียงหวานอย่างออดอ้อน
“ได้ค่ะคุณหนู วันนี้พี่ทำข้าวต้มกุ้งของโปรดคุณหนูเลยนะคะ”
“ขอบคุณค่ะพี่อร”
คุณหนูตัวเล็กของพี่อรคนนี้ “อิงฟ้า” เธอเป็นคนที่น่ารัก ไม่เคยมองพี่อรเป็นแม่บ้านเลย เธอมองเป็นพี่สาวอีกคน เธอจะเคารพ ให้เกียรติ และน่ารักกับทุกคนในบ้านเสมอ จึงไม่แปลกเลยที่ทุกคนจะรักเธอ
“เมื่อคืนฉันเมามากเหรอแก” เธอหันไปถามเพื่อนสาวอีกครั้ง
“ก็เออสิ แกจำอะไรได้บ้างเมื่อคืนอ่ะ ลองบอกฉันมาซิ”
เป็นกิ๊ฟที่ถามกลับ
“ก็พวกเรา 4 คน ไปดื่มที่ผับ เจอพวกคุณจอร์น เจ้าของผับ ตอนที่พวกเราเต้นกันอยู่ก็ได้ยินเสียงดังมาจากโต๊ะ นังปิงปองเลยมาลากฉันไปบอกว่าที่โต๊ะเรามีเรื่อง”
“อืม แล้วไงต่อ แกจำได้อีกไหม”
“พอไปถึงโต๊ะก็เห็นเพื่อนคุณจอร์นกำลังเมา โวยวายอยู่ ผู้ชายคนนั้นทุบโต๊ะเสียงดัง นายคนนั้นอ่ะ ชื่ออะไรนะ คนที่ดูหยิ่ง ๆ อ่ะ แล้วเหมือนอีตานั่นจะมากระชากแขนฉัน”
ร่างบางตอบเพื่อนยาวเยียด
“ฟังนะ เขาคือคุณคิมหันต์ เป็นหุ้นส่วนร้านนั้นเพื่อนคุณจอร์น แกน่ะไปด่าเขาว่าไอ้หมาบ้า แถมแกยังไปตบเขาอีก ตอนที่นังปิงปองกับนังบีไนท์ไปช่วยลากแกออกมาเขามองตามแกแบบอาฆาตมากเหอะ”
“ห๊า!!!!!!”
คนตัวเล็กอุทานเสียงดังด้วยความตกใจ เพราะความเมา เธอทำอะไรลงไปบ้างเนี่ย
“ไงล่ะ ฉันต้องขอโทษแล้วขอโทษอีก แกเมาแล้วชอบหาเรื่องตลอด”
“เดี๋ยวนะกิ๊ฟ ฉันจำได้แล้ว อีตานั่นมากระชากแขนฉันก่อนนี่ กระชากแรงด้วย งั้นก็สมควรโดน”
สองสาวนั่งกินข้าวต้มพร้อมคุยกันตามประสาเพื่อนสนิทจนถึงช่วงสาย ๆ จึงได้ชวนกันออกไปช้อปปิ้งพร้อมกับนัดปิงปองและบีไนท์ให้ออกมาเจอกันที่ห้าง ด้วยความที่วันนี้เป็นวันหยุดพวกเธอทั้ง 4 คนมักจะนัดเจอกันเป็นปกติอยู่แล้ว ไปกินข้าว ดูหนัง นั่งกินไอศกรีมตามประสาเพื่อนสาว
ทางด้านของคิมหันต์
ผมตื่นขึ้นมากับหัวอันหนักอึ้ง นี่บนหัวผมมีภูเขาลูกใหญ่ทับอยู่รึเปล่าทำไมรู้สึกหนักหัวขนาดนี้ เมื่อคืนผมดื่มหนักมาก จำได้เพียงว่าไอ้จอร์นเป็นคนขับรถมาส่ง จากนั้นภาพทุกอย่างก็ตัดไป
เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่ผมเมาหนักขนาดนี้ ผมตั้งใจดื่มเพื่อให้ลืมแอน ลืมภาพทุกอย่างระหว่างผมกับเธอไปให้หมด ทั้งที่ผมหยุดที่เธอคนเดียวแล้วแท้ๆ ทั้งที่เราสองคนวางแผนอนาคตร่วมกันแล้วแท้ๆ แต่ทำไมแอนถึงทำกับผมแบบนี้
ช่วงที่เราสองคนไปเรียนต่อที่อังกฤษด้วยกัน ความรักของเราก็ยังราบรื่นดี แต่ก็ได้ไม่นานที่ผมเริ่มสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนไปของเธอ เธอชอบกลับบ้านดึก อ้างแต่ว่าไปค้างบ้านเพื่อน ทำโปรเจ็คอยู่เรื่อย จนผมแอบตามไปดู จนนั่นแหล่ะครับ ในที่สุดผมก็ตาสว่าง
ภายใต้แสงไฟสลัวในผับแห่งหนึ่ง ผมจำเรือนร่างนั้นได้ดี คนที่ผมเคยโอบกอดตอนนี้กำลังนัวเนียกับผู้ชายต่างชาติคนหนึ่ง เขาทั้งสองคนดูสนิทกันมากกว่าเพื่อนคนอื่นที่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน แต่ในหัวผมยังแอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า อาจจะเป็นเพื่อนแอนก็ได้ เพราะเรื่องโอบกอด จูบในที่สาธารณะที่นี่ถือเป็นเรื่องปกติ ผู้ชายคนนั้นกับแอนกอดจูบนัวเนียกันอยู่นานสักพัก ก็ลาเพื่อนในกลุ่มเดินออกจากผับไป ทั้งคู่ขับรถคันหรูที่จอดไว้ลานจอดรถออกไปอย่างรวดเร็ว
ผมรีบขับรถตามไปอย่างไม่รอช้า จนไปจอดที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นโอบเอวของผู้หญิงที่ผมรักสุดหัวใจ เข้าลิฟต์ไป ผมรีบกดลิฟต์ตามขึ้นไปหลังจากเห็นว่าลิฟต์อีกตัวถูกกดขึ้นไปที่ชั้น15 เมื่อลิฟต์เปิดออก ผมเห็นแผ่นหลังผู้หญิงที่ผมรัก ที่กำลังโดนชายอื่นโอบกอดเข้าไปในห้องสวีทรูมห้องหนึ่ง ผมแอบมองอยู่ไกลๆ จนกระทั่ง 4 ชั่วโมงผ่านไป ผมยืนรออย่างมีความหวังก็ไม่เห็นร่างที่คุ้นเคยเดินออกมาเลย ตัวผมเริ่มชา ถ้าเป็นแค่เพื่อนเขาจะเข้าไปทำอะไรนานขนาดนี้ ผมไม่รู้จะทำยังไง ถ้าผมเดินไปเคาะประตูตอนนี้ แอนรู้ว่าเป็นผมเธอจะเปิดประตูให้ไหม
กระทั่งผมเหลือบไปเห็นพนักงานทำความสะอาด จึงเดินเข้าไปบอกให้พนักงานคนนั้นช่วยเคาะประตูเรียกให้ โดยผมให้เหตุผลไปว่าผมแอบมาเซอร์ไพร์ขอแฟนแต่งงาน พนักงานคนนั้นจึงยอมช่วยผม เขาเคาะประตูอยู่ 3-4 ครั้ง ร่างบางที่ผมคุ้นเคยก็เปิดประตูออกมา
ผมรีบพุ่งเข้าไปหาเธอทันที แต่ภาพที่ผมเห็นยิ่งทำให้ผมเจ็บปวด แอนนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวกับผู้ชายคนนั้นที่นอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ผมรู้สึกชาไปทั้งตัว ผมปรับความรู้สึกไม่ถูกเลย และไม่นานนักผมก็มีปากเสียงและชกต่อยกับไอ้ฝรั่งคนนั้น
ผมเดินไปกระชากไหล่แอบพร้อมกับเขย่าอย่างรุนแรง
“คุณ-ทำ-อย่าง-นี้-กับ-ผม-ได้-ยัง-ไง”
“ตอบมา!!!!!!!!”
ตอนนี้ร่างปีศาจของผมกำลังเดือดพล่าน ยิ่งคนรักสะบัดมือผมออกอย่างไม่ใยดีแบบนี้ผมยิ่งโมโห ทุกคำพูดของเธอนั้นทิ่มแทงหัวใจของผมยิ่งนัก และวันนั้นเอง เป็นวันที่เธอทิ้งผมไปกับไอ้ฝรั่งคนนั้นอย่างไม่ใยดี ตอนนี้ผมหมดเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้ ทำได้เพียงแค่เดินออกจากห้องนั้นไปอย่างช้าๆ
หลังจากเหตุการณ์วันนั้นผ่านไป แอนก็ไม่เคยกลับมาที่บ้านที่เราสองคนเช่าอยู่ด้วยกันอีกเลย เธอก็คงจะไปอยู่กับผู้ชายคนนั้น ภายหลังผมได้ข่าวว่าหนุ่มคนใหม่ของเธอดีกรีเป็นถึงลูกชายคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ที่มีชื่อเสียงในอังกฤษ ก็คงเพราะแบบนี้เธอถึงทิ้งผมไปหาผู้ชายคนนั้น
ตอนนี้ผมต้องตั้งใจเรียนจบให้เร็วที่สุด เพื่อกลับไปรับช่วงต่อธุรกิจที่บ้าน ผมเกิดในบ้านที่มีฐานะร่ำรวยเลยก็ว่าได้ บริษัทในเครือเลิศรัตนพาณิชย์ หลักๆจะเป็นบริษัทเกี่ยวกับทัวร์นำเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และตอนนี้ก็กำลังจะเซ็นสัญญาร่วมหุ้นกับโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ที่ถือเป็นโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยที่มีสาขาย่อยอีกหลายแห่งตามจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งเจ้าของโรงแรมนี้เป็นเพื่อนสนิทของคุณพ่อผมเอง
ยังไม่พอแค่นั้นนะครับ บริษัทในเครือเลิศรัตนพาณิชย์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทจิวเวลรี่และบริษัทนำเข้ารถสปอร์ตล้วนแล้วแต่อยู่ภายใต้การบริหารงานของคุณพ่อและคุณแม่ผมทั้งนั้น และท่านก็คาดหวังให้ผมกลับไปดูแลบริหารงานธุรกิจทั้งหมดต่อจากท่าน เพราะฉะนั้น ผมจะไม่ทำให้พ่อกับแม่ต้องผิดหวังเด็ดขาด
ร่างสูงนั่งคิดถึงอดีตที่ผ่านมา ดวงตาสีน้ำตาลกำลังมองเหม่อไปนอกหน้าต่างนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ อดีตที่แสนเจ็บปวดเคยทำร้ายเขา แต่วันนี้เป็นต้นไปเขาจะเป็นคนใหม่ที่แข็งแกร่ง จะไม่มีผู้หญิงคนไหนมาทำให้เขาเจ็บปวดได้อีก
ติ๊ง!!!
เสียงไลน์ดังขึ้นทำให้คนที่กำลังเหม่อลอยได้สติกลับมา
“ไอ้คิมมึงตื่นยัง” เป็นจอร์นที่ทักมาในกลุ่มนี่เอง
“มึงนี่ตัวหนักชิบหาย กว่ากูจะแบกขึ้นไปถึงห้อง”
นั่นไงมันเริ่มบ่นผมแล้ว
“เออ กูเพิ่งจะตื่น พวกมึงมีอะไร” ผมตอบกลับไป
“ได้สติแล้วเหรอมึง เป็นไงล่ะโดนคุณฟ้าตบหน้าสั่นเข็ดยัง”
นั่นไงไอ้เมฆอีกคนเยาะเย้ยผมอีกแล้ว
“เออ ก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าตบกูขนาดนี้ ถ้าไม่เมากูจะสั่งสอนให้”
ร่างสูงนั่งพิมพ์ไลน์ตอบเพื่อนได้สักพักก็ลุกขึ้นยืมเต็มความสูง ก้าวเข้าห้องน้ำไป แต่เขาจะรู้ตัวบ้างไหมว่าระหว่างที่กำลังพิมพ์ไลน์กล่าวถึงคนตัวเล็กที่มีเรื่องกับเขาเมื่อคืนนี้ ตัวเขาเองกำลังเผลอยิ้มอยู่
ณ คฤหาสน์เลิศรัตนพาณิชย์ทุกคนพร้อมหน้าพร้อมตาสำหรับอาหารมื้อเย็นแล้ว“บัวจ๊ะ ตักข้าวเลยจ้ะ”เสียงคุณหญิงเพียงเพ็ญเอ่ยบอกแม่บ้าน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น อิงฟ้ารู้สึกอบอุ่นที่ทุกคนในบ้านเลิศรัตนพาณิชย์ให้การต้อนรับเธอเป็นอย่างดี ทุกคนรักและเอ็นดูเธอมากจริงๆ“อาหารอร่อยมากค่ะคุณป้า ของชอบฟ้าทั้งนั้นเลย”อิงฟ้าเอ่ยชมฝีมือการทำอาหารของคุณหญิงเพียงเพ็ญ เธอไม่ได้พูดเกินจริงนะ กับข้าวฝีมือคุณป้ามันอร่อยจริงๆ“วันนี้คุณแม่ลงมือเข้าครัวเองเลยนะคะพี่ฟ้า”“ใช่จ้ะ เป็นการต้อนรับหนูฟ้าไง”“ฟ้าขอบคุณคุณลุง คุณป้าอีกครั้งนะคะที่เอ็นดูฟ้าขนาดนี้”อิงฟ้ากล่าวขอบคุณพร้อมยกมือไหว้อย่างนอบน้อมคิมหันต์ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามก็เอาแต่จ้องมองเธอจนทุกคนบนโต๊ะสังเกตได้ จนประกายดาวอดที่จะแซวพี่ชายของเธอไม่ได้“เฮีย ถ้าจะจ้องพี่ฟ้าขนาดนี้ ปั้นเป็นก้อนแล้วกลืนลงท้องเลยไหม”พี่ชายตัวดีของประประกายดาวถึงกับสะดุ้งเมื่อถูกผู้เป็นน้องสาวเอ่ยแซวแบบนี้“อะไร ใครจ้อง มั่วละ”เขารีบปฏิเสธทันควัน ต่อหน้าทุกคนก็ต้องรักษาภาพพจน์หน่อยสิ“ก็เห็นๆ กันอยู่อ่ะเฮีย”“พูดมาก กินข้าวไปเลย”เขารีบตัดบทก่อนที่ยัยน้อง
วันเสาร์อิงฟ้ากำลังงุ่นง่านกับการจัดกระเป๋าเพื่อย้ายไปอยู่บ้านเลิศรัตนพาณิชย์ซึ่งเป็นบ้านของคิมหันต์ เธอเก็บเอาเสื้อผ้าและของใช้ที่จำเป็นพลางกับบ่นไปด้วย“เห้อ ฉันต้องคิดถึงพวกแกแน่ๆ เจ้าคิตตี้สีชมพูที่รักของฉัน”“นี่ฉันจะไม่ได้นอนในอาณาจักรคิตตี้อีกแล้วสิเนี่ย ฮือ”“ไว้ฉันจะกลับมาเยี่ยมพวกแกบ่อยๆ นะ”คนตัวเล็กร่ำลาห้องนอนสุดที่รักของเธอ ห้องที่ประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นสีชมพูและตัวการ์ตูนที่เธอชื่นชอบ เธอยืนอาลัยอาวรณ์ห้องนอนแสนรักอยู่พักใหญ่ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ร่างบางเอื้อมมือเล็กไปหยิบมาดู เป็นคุณหญิงรัญญา คุณแม่สุดที่รักของเธอนั่นเอง เธอไม่รอช้ากดรับสายทันที“ค่ะคุณแม่”“เก็บของเสร็จหรือยังลูก” ปลายสายถามขึ้น“เสร็จแล้วค่ะ ตอนนี้ฟ้ากำลังร่ำลาอาณาจักรคิตตี้ของฟ้าอยู่”“แหม ชอบมาตั้งแต่เล็กจนโตไม่เบื่อหรอลูก” คุณหญิงรัญญาถามลูกสาว“ไม่ค่ะ มีแต่ชอบมากขึ้น แฮ่ๆ”“ไปอยู่บ้านป้าเพ็ญอย่าดื้อ อย่าซนล่ะ เข้าใจไหม”“ฟ้าไม่เคยดื้อสักหน่อย”“เดี๋ยวเดือนหน้าแม่กับพ่อต้องบินไปดูงานที่จีนนะลูก”“อ้าว ไปนานแค่ไหนคะเนี่ย”“ไปศึกษาดูงานกับทางมหาลัยที่จีนประมาณ 2 เดือนจ้ะ ถ้าหนูว่างก็แ
ร่างสูงตอนนี้กำลังยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างเจ้าเล่ห์ ที่แผนล่อแมวน้อยเข้าถ้าเสือเป็นไปตามที่เขาคาดหวัง เหลือแค่ยัยเลขาตัวแสบของเขาสินะ ที่ไม่รู้ว่าจะยอมโดยดีรึเปล่า หรือจะดื้อรั้นสักแค่ไหนกัน‘ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด’เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของอิงฟ้าดังขึ้น ร่างบางไม่รอช้ารีบกดรับสายทันที“ค่ะบอส” เธอเอ่ยทักปลายสายที่โทรเข้ามา“เข้ามาหาผมหน่อยครับ” ปลายเสียงเอ่ยสั่ง“ได้ค่ะ”‘ติ๊ด......วางสาย’ก๊อก...ก๊อก...ก๊อก“ขออนุญาตค่ะบอส” อิงฟ้าเอ่ยขึ้นหลังจากเปิดประตูเข้ามา“อืม นั่งก่อนครับ”“ค่ะ บอสมีอะไรรึเปล่าคะ”คนตัวเล็กเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อถูกเจ้านายอย่างคิมหันต์เรียกเข้ามาให้ห้อง แล้วคนตรงหน้ายิ่งนั่งทำหน้านิ่งจนเธอก็เดาอารมณ์ไม่ถูกซะด้วย“ตอนเย็นคุณกลับไปก็รีบเก็บของ แล้วผมจะให้คนไปรับ”คิมหันต์เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ“รับ?? รับไปไหนคะ แล้วทำไมต้องเก็บของจะไปดูงานต่างประเทศเหรอคะ”“เปล่า ไปบ้านผม” คิมหันต์เอ่ยเสียงรียบ“ไปบ้านบอส ไปทำไมคะ มีเรื่องอะไรด่วนรึเปล่าคะ” อิงฟ้าถามด้วยความสงสัย“ผมจะให้คุณย้ายไปอยู่ที่บ้านผม!!”“หะ...ห๊า!!!!!! อะไรนะคะ” เธออุทานออกมาเสียงดังลั่นห้อง
@ บ้านเลิศรัตนพาณิชย์---ห้องนอนของคิมหันต์---ร่างสูงเอนอิงร่างกายที่โซฟาตัวหรู ใบหน้าอันหล่อเหลากำลังขมวดคิ้วเป็นปมกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา“คุณคือคนที่ผมรู้สึกดีด้วย”“ผมหวงคุณ หึงคุณ”“ผมไม่ชอบที่คุณไปใกล้ชิดผู้ชายคนอื่น ที่ไม่ใช่ผม”“ผมอยากให้คุณเป็นของผมแค่คนเดียว”“ถึงตอนนี้ผมยังตอบคุณไม่ได้ว่า ผมกับคุณเราเป็นอะไรกัน”“แต่อีกไม่นาน ผมจะมีคำตอบให้คุณแน่นอน”“รอหน่อยนะ..........”ร่างสูงพร่ำพรรณาออกมา คำถามที่เขาได้รับจากร่างบางนั้นมันยังดังก้องอยู่ในหัวตลอดเวลาเลย‘ถ้าคุณบอกว่า คุณกับคุณเชอร์รี่ไม่ได้เป็นแฟนกัน แล้วคุณกับฉันเราเป็นอะไรกันคะ’นั่นสินะ ตอนนี้เราเป็นอะไรกัน ผมไม่เคยอาลัยอาวรณ์กับผู้หญิงคนไหนที่ผมเคยมีอะไรด้วย แค่จบแล้วก็แยกทางกัน แต่ทำไมกับคนๆ นี้ “อิงฟ้า” ทำไมผมถึงไม่อยากปล่อยเธอไป ผมอยากครอบครองเธอเพียงคนเดียว ผมอยากเป็นคนเดียวที่ได้ลิ้มรสความหวานจากตัวเธอ เห้อออ...ผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลยหงุดหงิดชะมัดหลากหลายสารพันความคิดกำลังพรั่งพรูเข้ามาในหัวของคนตัวสูงที่กำลังเอนนอนอยู่บนโซฟาหรูในห้องนอนที่ตกแต่งคลุมโทนสีเทา-ดำ เขาเคยเป็นเสือที่มีเหยื่อมา
เมื่อประตูลิฟต์เปิดออกร่างบางรีบเดินออกจากลิฟต์ทันที เธอรีบเดินไปหารถสปอร์ตคันหรูที่จอดรออยู่หน้าบริษัท ในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้อีกคนที่อยู่บนชั้น 25 ตามลงมาเลย.... แต่ไม่ทันแล้วสิ คนที่เธอคิดนั้นตามลงมาเห็นหลังเธออยู่ไวๆ เห็นเธอกำลังขึ้นรถไปกับไอ้หมอนั่น ไอ้คนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเอาซะเลย"อานนท์ อาซาน วันนี้พวกนายกลับไปก่อน ฉันมีธุระ""ครับนายน้อย"ร่างสูงเอ่ยบอกลูกน้องคนสนิททั้งสองคน ก่อนจะก้าวขึ้นรถหรูขับตามออกไป เขาทิ้งระยะห่าวพอสมควรเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายรู้ตัวว่ากำลังถูกอีกตามอยู่รถสปอร์ตคันหรูของซีโน่จอดลงที่ลานจอดรถของห้างดังใจกลางเมือง ไม่ต่างจากอีกคนที่แอบตามมาก็จอดรถที่ลานจอดรถชั้นเดียวกัน เขาแอบเดินตามห่างๆเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กรู้ตัว เขารู้สึกหงุดหงิดที่เห็นทั้งคู่เดินด้วยกันอย่างใกล้ชิดสนิทสนม คนตัวเล็กเดินเกาะแขนไอ้หมอนั่นเข้าไปในร้านไอศกรีมแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด เขาจึงรีบตามเข้าไปที่ร้านไอศกรีมโดยที่ไม่ให้อีกฝ่ายเห็น เขาเลือกที่นั่งในมุมที่ลับตาอิงฟ้าแต่เป็นมุมที่เขาสามารถมองเห็นอีกฝ่ายได้ชัดเจนเลยทีเดียวทุกการกระทำของทั้งสองคนอยู่ในสายตาของคิมหันต์ตลอด เขามองเห็นทั้
สิ้นเสียงปิดประตูกับภาพคนตัวเล็กที่เดินออกไปด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจนัก ร่างสูงเริ่มใจไม่ดีกับเหตุการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ เขาต้องรีบเคลียร์ปัญหาและอธิบายให้คนตัวเล็กฟังก่อนที่เธอจะเข้าใจผิดไปมากกว่านี้"เชอร์รี่คุณมาทำไม""เชอร์รี่ก็มาหาคิมไงคะ รี่คิดถึงคิมนะ" สาวเจ้าพูดพลางก้มลงไปหอมแก้มเขาเบาๆด้วยท่าทีเย้ายวน"เชอร์รี่อย่าทำแบบนี้" คิมหันต์เอ่ยห้าม"ทำไๆเชอร์รี่จะทำไม่ได้คะ ก็เชอร์รี่เป็นแฟนคุณนิ""ผมว่าเราคุยกันชัดเจนแล้วนะว่าผมกับคุณเราไม่มีข้อผูกมัดต่อกัน""แต่รี่ไม่ยอม รี่เป็นของคุณแล้วนะคะคิม" สาวเจ้ายังดึงดันไม่หยุด"เชอร์รี่ปล่อยผม ผมบอกชัดเจนแล้วนะว่าระหว่างคุณกับผมแค่วันไนท์สแตน คุณเสนอ ผมสนอง เราวินๆทั้งคู่""ไม่ค่ะ เชอร์รี่ไม่ยอมแน่ คิมต้องเป็นของเชอร์รี่คนเดียว รี่รักคุณนะคะ"หญิงสาวพูดพลางก้มหน้าลงไปซุกไซ้บริเวณซอกคอของคิมหันต์เพื่อหวังสร้างอารมณ์ให้อีกฝ่าย"เชอร์รี่คิดถึงคุณทุกวันเลย ช่วงนี้ไม่เห็นคุณมาหาเชอร์รี่บ้างล่ะคะ”"เชอร์รี่ปล่อยอย่าทำแบบนี้"คิมหันต์ร้องห้ามพร้อมกับผลักคนตรงหน้าออก"คุณอย่าทำแบบนี้ กลับไปซะเชอร์รี่ก่อนที่ผมจะเรียก รปภ. มาเชิญคุณออกไป"คิม