“อะ แฮ่ม!”
เสียงกระแอมดังขึ้นขัดจังหวะ ทำให้ชายหนุ่มสองคนที่กำลังยืนคุยกันอยู่ต้องหยุดชะงัก แล้วหันมาดูต้นเสียงอย่างช่วยไม่ได้ เอริคกับลูกน้องอีกสองคนเดินมาตามทาง ก็เห็นบาร์เทนเดอร์หนุ่มที่เคยปฏิเสธตัวเองกำลังยืนคุยกับสจ๊วตของเรืออยู่ เขาก็เลยแกล้งส่งเสียงขัดจังหวะออกไป หึหึ นี่คงมาหาเหยื่อลากไปกินที่ห้องคืนนี้สินะ
“เออ...ผมขอตัวก่อนนะครับ”
สจ๊วตหนุ่มที่หันมาเห็นเอริคก็ตกใจ เลยรีบก้มหน้าเดินหนีไปด้วยความกลัว เพราะเขารู้ดีว่าเอริคเป็นใครและมีอิทธิพลมากขนาดไหน เลยทิ้งให้เฟยยืนรับหน้ากับทั้งสามคนเพียงลำพัง
“อุ๊ย! นี่ผมมาขัดจังหวะหรือเปล่าครับ คุณเฟย” เอริคยกยิ้มขึ้นอย่างถูกใจ ก่อนจะแสร้งพูดออกไปอย่างรู้สึกผิด เมื่อรู้ตัวว่าเป็นต้นเหตุ ที่ทำให้เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่กับเฟย เดินหนีไปเพราะรู้สึกกลัวตัวเอง
หลังจากที่เอริคถูกเฟยปฏิเสธกลับไปอีกครั้ง เขาก็ยังคงไม่ยอมแพ้หรือตัดใจอะไร แต่มันกับทำให้เขารู้สึกสนใจ และต้องการเฟยมากขึ้น เอริคเลยให้ลูกน้องของตัวเองคอยดูเฟยอยู่ห่าง ๆ เพื่อที่จะรอโอกาสเข้าหาอีกครั้ง
แล้วในที่สุดค่ำคืนขอการรอคอยก็สิ้นสุดลง เมื่อลูกน้องของเขาได้เดินมาบอกว่า เฟยกำลังเดินกลับห้องเพื่อไปพักผ่อน หลังจากที่ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ของคืนนี้เสร็จ เอริคที่ได้ยินแบบนั้นก็รีบพาลูกน้องเดินตามหาเฟย แล้วก็มาบังเอิญเจอภาพบาดตา ที่เฟยกำลังยืนพูดหยอกล้อกับสจ๊วตหน้าใสอยู่พอดี
“ก็นิดหน่อยครับ” เฟยที่อยู่ ๆ ก็ถูกคนเข้ามาขัดจังหวะ ก็หันไปปั้นหน้ายิ้มส่งให้เอริคอย่างช่วยไม่ได้
วันนี้พอเลิกงานเฟยเลยเดินหาเหยื่อที่ตัวเองหมายตาไว้ เพื่อที่จะได้เข้าไปพูดชักชวนหาอะไรสนุก ๆ ทำกัน เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเฟย เขาเลยไม่จำเป็นที่จะต้องรีบพักผ่อนเหมือนทุกวัน แต่เฟยพึ่งพูดคุยกับสจ๊วตหนุ่มได้ไม่กี่คำ เสียงแห่งความวุ่นวายก็ดังแทรกพวกเขาขึ้นมาซักก่อน
…หลังจากที่เฟยพูดปฏิเสธเอริคไปเมื่อสองคืนก่อน เอริคก็ไม่ได้มากวนหรือส่งลูกน้องมาหาอีก เฟยเลยคิดว่าทุกอย่างมันคงจะจบเพียงเท่านั้น แต่ดูจากที่คืนนี้เอริคมายืนอยู่ตรงหน้าเขาแบบนี้ เฟยคิดว่าตัวเองคงจะคิดน้อยไปสินะ...
เฟยรู้ดีว่าคนตรงหน้าตัวเองมีอิทธิพลมากขนาดไหน เพราะฉะนั้นเวลานี้เขาเลยไม่อยากที่จะมีเรื่องด้วยสักเท่าไหร่ แถมบริเวณรอบ ๆ ที่เขายืนอยู่ตอนนี้ก็ไม่มีคนอื่นเลยด้วย ถึงในใจของเขาจะรู้สึกขุ่นเคืองมากแค่ไหน ตอนนี้ก็คงจะต้องอดทนเก็บไว้ในใจไปก่อนเท่านั้น
“เดี๋ยวก่อนสิ จะรีบไปไหนครับ”
เอริคเห็นว่าเฟยทำท่าเหมือนกำลังจะเดินหนีตัวเองไป เลยรีบเอาตัวเข้าไปขวาง เพื่อให้เฟยอยู่พูดคุยกับตัวเองก่อน หึหึ คิดว่าจะเดินหนีเขาไปได้ง่าย ๆ อย่างงั้นเหรอ ฝันไปเถอะ
“ผมคิดว่าพวกเราคุยกันรู้เรื่องแล้วซะอีก”
เฟยพูดถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ เมื่อคนตรงหน้าทำเหมือนจะตื้อตัวเองไม่เลิก เขาก็บอกไปหลายครั้งแล้วแท้ ๆ ว่าตัวเองเป็นพวกสายรุกไม่ใช่สายรับ ทำไมถึงไม่เข้าใจกันเลยนะ
“ดูนี่ก่อนไหมครับ เผื่อคุณอาจจะรู้สึกอยากเปลี่ยนใจขึ้นมาบ้างก็ได้นะครับ”
เอริคทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของเฟย เขาก้มหน้าหยิบอะไรสักอย่างออกมาจากกระเป๋าตัง แล้วยื่นไปตรงหน้าของเฟย หึหึ รับรองถ้าได้เห็นตัวเลขในนี้แล้ว จะต้องยอมเปลี่ยนใจมาเป็นคู่นอนของเขาอย่างแน่นอน
“อันนี้คือ…?”
ใบหน้าขาวสวยขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างไม่เข้าใจ เมื่อเห็นสิ่งที่เอริคยื่นให้ตัวเองแบบชัด ๆ ‘เช็คเงินสด’ ตัวเลขเจ็ดหลักลอยอยู่ตรงหน้าของเฟย
เฟยยืนมองเช็คเงินสดสลับกับหน้าของเอริคอย่างงง ๆ ผู้ชายคนนี้คงไม่ใช่ว่าอยากให้เขานอนด้วยมาก ถึงขั้นใช้เงินเจ็ดหลักมาแลกกับเขาหรอกนะ ถ้าเป็นอย่างที่เฟยคิดละก็ เอริคคนนี้คงจะอาการหนักมากแล้วจริง ๆ
“ค่าตัวคืนนี้ของคุณไงครับ”
เอริคพูดบอกที่มาของเช็คให้เฟยได้รับรู้ ในเมื่อไม่ยอมวันไนท์กับเขาง่าย ๆ งั้นก็ต้องใช้เงินมาเป็นสื่อกลางซะเลย เอริคไม่เชื่อหรอก ว่าคนอยากเฟย พอเห็นเงินหลักล้านลอยอยู่ตรงหน้า แล้วจะไม่รู้สึกลังเลขึ้นมาบ้างเลย
“ค่าตัว!” เฟยทวนคำพูดของเอริคออกไปอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง เพราะเขาไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะยอมใช้เงินมากมายขนาดนี้ กับความสนุกชั่วครั้งชั่วคราวพวกนี้จริง ๆ
“งานบาร์เทนเดอร์ที่นี่มันจะได้เงินสักเท่าไหร่กันเชียว”
“…”
“สู้คุณยอมตามใจผม เงินหลักล้านจะเข้าบัญชีของคุณทันที น่าสนใจกว่ากันเยอะเลยใช่ไหมครับ”
เอริคเห็นเฟยยืนนิ่งไม่ยอมรับเช็คของตัวเองสักที ก็พูดหว่านล้อมต่อไม่หยุด เพื่อให้เฟยได้ลองคิดตามที่ตัวเองเสนอไปอีกครั้ง บอกเลยงานนี้มีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น ถ้าคนตรงหน้ายังคิดจะปฏิเสธเขาอยู่อีกก็โง่สุด ๆ แล้ว
“หึหึ…ไม่น่าสนใจครับ ขอตัวก่อนนะครับ”
เสียงหัวเราะเย้ยหยันดังออกมาจากลำคอบาร์เทนเดอร์หนุ่ม เมื่อถูกอีกฝ่ายพูดและแสดงท่าทางดูหมิ่นตัวเอง เฟยพยายามปรับอารมณ์ให้นิ่ง แล้วพูดปฏิเสธกลับอย่างแทบไม่ต้องคิด เขาไม่ได้มีรสนิยมแบบนั้น ถึงคนตรงหน้าจะให้เงินมากเท่าไหร่ เขาก็ไม่มีวันเปลี่ยนความชอบของตัวเองอย่างแน่นอน
พอเฟยพูดจบเขาก็เตรียมตัวจะหันหลัง เดินหนีพวกเอริคไปอีกทาง แต่อยู่ ๆ ลูกน้องที่ตามเอริคมา เหมือนจะรู้ทันความคิดของเขา เลยรีบเดินมาปิดทางด้านหลังของเฟยเอาไว้ ทำให้เฟยตกอยู่กลางวงล้อมของพวกเอริคอย่างช่วยไม่ได้
“แค่คืนเดียวได้เงินมากกว่าคุณยืนเป็นบาร์เทนเดอร์เป็นปีเลยนะ ไม่สนใจจริง ๆ เหรอครับ คุณเฟย”
เอริคฉีกยิ้มกว้างออกมา ก่อนจะพูดเปรียบเทียบให้เฟยฟังอีกครั้ง พร้อมจับมือข้างหนึ่งของเฟยขึ้นมา แล้วยัดเช็คเงินสดใส่มือไป มาถึงขั้นนี้แล้วเขาไม่ยอมให้เรื่องจบง่าย ๆ เหมือนกับทุกครั้งหรอกนะ ยังงั้นคืนนี้เขาก็จะต้องลากคนตรงหน้าขึ้นเตียงด้วยให้ได้!!
“ไม่สนใจครับ ช่วยหลีกทางให้ผมด้วย”
เฟยพูดปฏิเสธกลับไปเสียงแข็ง โดยไม่มีทีท่าจะสนใจเช็คในมือเลยสักนิด พร้อมกับยัดเช็คเงินสดใส่มือของเอริคกลับคืน คนอยากเขาพูดคำไหนคำนั้นอยู่แล้ว
...อีกอย่างถ้าเกิดเขาเป็นคนเห็นแก่เงินพวกนี้จริง ๆ ปานนี้เขาคงไปเป็นเมียของผู้ชายคนนั้นนานแล้ว ไม่มาทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์อยู่บนเรือแบบนี้หรอก...
ถึงงานบาร์เทนเดอร์จะได้เงินไม่มากเท่าที่เอริคเสนอให้ แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกเสียดายเลยสักนิด เห็นเขาเป็นแบบนี้ก็ไม่ได้บ้าเงิน จนยอมทำทุกอย่างที่เสนอมาหรอกนะ
“แต่ผมสนใจคุณมากเลย ทำไงดีละครับ”
เอริคนิ่งไปครู่หนึ่ง เมื่อถูกเฟยพูดเสียงแข็งใส่ ก่อนจะกระตุกยิ้มร้ายออกมา แล้วค่อย ๆ โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้เฟย จากนั้นก็พูดกระซิบความต้องการของตัวเองออกไปด้วยน้ำเสียงยียวน พร้อมกับจับเสื้อสูทของตัวเองเปิดออก เพื่อให้เฟยได้เห็นสิ่งที่อยู่ในเสื้อของตัวเองชัด ๆ ในเมื่อพูดดีด้วยก็แล้ว เสนอเงินก้อนใหญ่ให้ก็แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังเล่นตัวไม่เลิก งั้นก็ต้องใช้วิธีนี้แทนแล้ว หึหึ
…เอริคไม่สนใจอีกแล้วว่าเฟยจะยอมนอนกับตัวเองหรือเปล่า เวลานี้เขารู้แค่ว่าคืนนี้เฟยจะต้องเป็นของเขาเท่านั้น…
หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง เจ้าของคาสิโนหน้านิ่งก็ได้ป่าวประกาศ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับอดีตบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ให้เพื่อน ๆ และลูกน้องทุกคนได้รับรู้ทั่วกัน ถึงระยะแรก ๆ เอริคจะรู้สึกประหม่าตอนเจอคนอื่นอยู่บ้าง เพราะไม่รู้ว่าใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มให้ตัวเองอยู่นั้น เป็นรอยยิ้มจริงจากใจหรือรอยยิ้มจอมปลอม แต่พอหลัง ๆ มาเอริคก็เริ่มเลิกสนใจสายตาพวกนั้นในที่สุดแล้วเวลานี้เอริครู้สึกโล่งใจมาก ๆ ที่ไม่ต้องคอยโกหกปิดบังเรื่องตัวเองอีก และที่เขารู้สึกดีมากที่สุดของการป่าวประกาศข่าวในครั้งนี้ คือมันทำให้เด็กหนุ่มที่ชอบมาหยอกล้อพูดเล่นกับเฟย ไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดเล่นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เอริครู้สึกชอบเรื่องนี้มาก เพราะเขาจะได้ไม่ต้องคอยระแวง กลัวเฟยอดใจไม่ไหวไปแอบหากินที่อื่นอีกเรือสำราญ-ห้องพัก“นายจำห้องนี้เตียงนี้ได้ไหมเฟย”“จำได้สิครับ ก็ห้อ
หลังจากที่คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จแล้ว ภายในห้องก็กลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เอริคนั่งเล่นไอแพดอยู่ข้างเตียงของเฟย ส่วนมังกรไซออนกับแซมเซ็นลูกน้องของเอริค ก็นั่งพูดคุยเล่นกันอยู่ที่โซฟาข้าง แล้วอยู่ ๆ สองหนุ่มเพื่อนสนิทเจ้าของห้อง ก็เปลี่ยนมานั่งจ้องมองเพื่อนกับคนบนเตียง แล้วหันกับมาพูดกระซิบกัน เมื่อทั้งสองก็เกิดความสงสัยอะไรบางอย่างในตัวเพื่อนสนิทขึ้นมาแต่จะให้พวกเขาพูดถามเพื่อนออกไปตรง ๆ ความกล้าในตัวมันก็ยังมีไม่พอ เลยได้แต่นั่งสงสัยกันอยู่เงียบ ๆ สองคน“พวกมึงสองคนมีอะไรจะพูดกับกูก็พูดมา นั่งจ้องพวกกูกันอยู่ได้”เอริคสังเกตท่าทางของเพื่อนสนิททั้งสองมาได้สักพัก สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวพูดถามออกไปด้วยความสงสัย ทำเหมือนพวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยทำความผิดอะไรมาซะอย่างงั้น“แล้วมึงล่ะ มีเรื่องอะไรอยากจะสารภาพกับพวกกูหรือเปล่า” พอมังกรได้ยินเอริคพูดเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน ก็ไม่รอช้ารีบถามเรื่องที่ตัวเองรู้สึกสงสัยออกไปทันที
กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคลุ้งไปทั่วห้องพักฟื้นของผู้ป่วย เมื่อบาดแผลที่ใกล้จะหายดีแล้วของคนไข้ อยู่ ๆ ก็ฉีกมีเลือดไหลออกมาอีกครั้งอย่างไม่มีสาเหตุ เอริคนั่งนิ่งดูคุณหมอกับพยาบาลสาวยืนทำแผลให้เฟยอยู่โซฟาเงียบ ๆ โดยมีสายตาของมังกรกับไซออนแอบมองมาทางเขาเป็นระยะ ๆ แล้วหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันอยู่สองคนอย่างมีเลศนัย“ทำแผลเสร็จแล้วครับ เออ...ยังไงหมอก็ขอให้ญาติช่วยระมัดระวังเรื่องการขยับร่างกายของคนไข้ด้วยนะครับ”คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ก็ได้หันมาพูดกับเอริคที่นั่งอยู่ด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ เพราะถ้าท่านคิดไม่ผิด ที่แผลของคนไข้เปิดมีเลือดออกครั้งนี้ สาเหตุอาจมาจากคนดูแลเป็นต้นเหตุก็ได้นั่นเอง“เออ...ครับ”ใบหน้าของเอริคร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างฉับพลัน เมื่อฟังที่คุณหมอพูดบอกจบประโยค เขานิ่งอึ้งพูดอะไรแทบไม่ออก เพราะรู้ดีว่าท่านกำลังจะสื่อถึงเรื่องอะไรแต่เรื่องนี้จะมาบอกเขาฝ่ายเดียวได้ยังไง ก็ในเมื่อไอ้คนท
“เฟย!! นายเป็นอะไร นี่มัน...เลือด!!”เอริคเห็นเฟยร้องออกมาเสียงดัง ก็รีบเข้าไปประคองด้วยความตกใจ พอได้ยินเสียงร้องของเฟยแล้ว มันทำให้เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงมาก เอริคมองสำรวจร่างกายของเฟยอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเฟยไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนจริง ๆ แต่แล้วสายตาของเขาก็ต้องหยุดชะงักค้าง อยู่ที่สะโพกข้างหนึ่งที่เฟยใช้มือปิดไว้ มีน้ำสีแดงสดเริ่มไหลอาบไปทั่วมือ“ผมไม่เป็นไรครั...” เฟยพยายามเก็บสีหน้าความรู้สึกเจ็บเอาไว้ แล้วพูดยิ้ม ๆ กับเอริคออกไป เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าเป็นกังวลไปมากกว่านี้ แต่เขายังไม่ทันได้พูดจบประโยค ดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มพร่ามัว แล้วมืดดับลงไปอย่างห้ามไม่ได้“เฟย เฟย เฟย!!!” เอริคร้องเรียกชื่อเฟยออกมาซ้ำ ๆ ด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ ๆ เฟยก็หมดสติไปต่อหน้าตัวเองโรงพยาบาล-หน้าห้องฉุกเฉินหน้าห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยญาติผู้ป่วย และพวกคุณ
“หยุดนะคุณชุน!! อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ”เสียงร้องโวยวายดังก้องไปทั่วห้องนอน เมื่อบนเตียงกลางห้องเวลานี้ มีชายร่างกายเปลือยเปล่าคนหนึ่ง กำลังพยายามปลุกปล้ำ ก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอขาว ของชายหนุ่มที่ถูกมัดนอนอยู่บนเตียงอย่างเร่าร้อน มือทั้งสองข้างของเขาก็ไม่อยู่นิ่ง พยายามถอดดึงเสื้อผ้าของคนนอนอยู่ออกไปด้วยเฟยถูกจู่โจมอย่างหนักโดยที่สามารถปัดป้องอะไรได้เลย เขาพยายามส่ายหน้าไปมาเพื่อหลบริมฝีปากร้าย ที่เข้ามาเล่นงานซอกคอของตัวเอง ปากก็ร้องตะโกนออกมาไม่หยุด หวังว่าจะมีใครสักคนได้ยิน แล้วเข้ามาช่วยเหลือตัวเองจากเหตุการณ์ตอนนี้เฟยพยายามกระชากข้อมือของตัวเองออกจากผ้าหัวเตียงอย่างสุดแรง จนข้อมือทั้งสองข้างเจ็บแสบและเป็นรอยแดง เพื่อจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการครั้งนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะขยับร่างกายดิ้นหนีสุดแรงยังไง มันก็แทบจะไม่เป็นผลเลยสักนิด ส่วนคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตัวของเขา ก็ยังคงพยายามถอดดึงเสื้อผ้าบนตัวของเขาไม่หยุด…หรือว่าครั้งนี้เขาจ
โรงแรมหรูกลางใจเมืองในค่ำคืนที่มืดมิดภายในห้องหรูของโรงแรมห้องหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนหลับใหลไร้สติอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยผ้าสีขาวมัดตึงไว้กับหัวเตียง โดยมีดวงตาหวานเยิ้มของชายหนุ่มอีกคน นั่งจ้องมองดูเรือนร่างนั้นอยู่อย่างไม่ละสายตาหลังจากที่จับตัวเฟยขึ้นรถมาได้ ชุนก็ทำให้เฟยสลบแล้วพามาที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็สั่งให้ลูกน้องมัดมือทั้งสองข้างของเฟยผูกติดกับหัวเตียงเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เฟยแผลงฤทธิ์เวลาที่ตื่น ส่วนตัวเองก็นั่งดื่มเหล้ารออยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็นชุนอย่างให้ครั้งแรกของตัวเองกับเฟยเป็นเวลาที่ทั้งสองฝ่ายมีสติครบถ้วน เลยไม่คิดจะรีบร้อนทำอะไรเฟยในตอนนี้ เพราะเขายังมีเวลาดื่มด่ำกับความหอมหวานตรงหน้าอีกนาน โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครหน้าไหนจะมาขัดขว้างความสุขครั้งนี้ของเขาได้…และแล้วในที่สุดคนบนเตียงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เฟยหันมองซ้ายมองขวาดูรอบตัวอย่างงง ๆ เมื่อภาพที่เห็นตร