“ไม่ครับ...ช่วยหลีกทางให้ผมด้วย”
“แต่ผมสนใจคุณมากเลย ทำไงดีล่ะครับ”
“หึหึ แค่หาคู่นอนมันต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอครับ”
เฟยหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะพูดขึ้นอย่างเยอะหยัน ผู้ชายคนนี้อยากให้เขานอนด้วย ถึงขั้นไม่สนวิธีแล้วสินะ
เฟยมองเข้าไปในเสื้อสูทของเอริค ก็ต้องกลืนน้ำลายลงคอไปอึกใหญ่ เมื่อเห็นว่าในเสื้อสูทของคนตรงมีปืนอยู่ที่เอวด้วย ใบหน้าขาวของหนุ่มจีน ก็เปลี่ยนสีหน้ามาเป็นยิ้มประจบออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนมือทั้งสองข้างก็ค่อย ๆ ยกขึ้นไว้เหนือตัว เพื่อบอกให้คนตรงหน้ารับรู้ว่าตัวเองยอมจำนนแล้ว ดูถ้างานนี้เขาคงจะหนีไม่รอดจริง ๆ แล้วสินะ!!
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่ครับ…ก็ผมมันเป็นพวกที่อยากได้อะไรก็ต้องได้ซะด้วยนี่นา” พอเอริคเห็นท่าทีของเฟยยอมอ่อนให้แล้ว ก็ยิ้มร่าออกมาอย่างผู้ชนะ หึหึ ก็คิดว่าจะแน่
คนอย่างเอริคตั้งแต่เล็กจนโต ไม่ว่าเขาอยากได้อะไรก็ต้องได้ ถ้าไม่ยอมให้ดี ๆ ก็ต้องแย่งมาให้ได้ ไม่ว่าจะต้องใช้กำลังบังคับเขาก็ไม่สน ขอแค่ได้สิ่งที่ต้องการมาครอบครอง เขาก็ไม่เคยเลือกวิธีอยู่แล้ว...ยิ่งเป็นพวกปากดีชอบเล่นตัวแบบนี้ คนอย่างเอริคไม่มีวันที่จะปล่อยให้รอดเงื้อมมือไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน
“เฮ้ออ…งั้นผมขอสองเท่าจากเงินที่คุณเสนอมา โอเคไหมล่ะครับ”
เฟยถอนหายใจออกมายาว เมื่อคิดว่าคืนนี้เขาคงจะหนีคนเอาแต่ใจตรงหน้าไม่พ้นแน่ ๆ บาร์เทนเดอร์หนุ่มเลยลองต่อราคาค่าตัวให้สูงขึ้นอีก เผื่อว่าเอริคจะรับไม่ไหวแล้วเลิกล้มความตั้งใจไปซะ
“มันจะไม่มากไปหน่อยหรือไงวะ” เซ็นลูกน้องอีกคนของเอริค รับไม่ได้กับค่าตัวที่เฟยร้องขอ เลยพูดแทรกขึ้นกลางวงสนทนาอย่างอดไม่ได้
ขอเพิ่มเป็นสองเท่าอย่างงั้นเหรอ เซ็นรู้ดีว่าเจ้านายตัวเองดูสนใจในตัวของบาร์เทนเดอร์คนนี้มาก ถึงได้พยายามพูดหว่านล้อมอีกฝ่ายไม่หยุด แต่เขาว่าตัวเลขที่เอริคเขียนในเช็คตอนแรกมันก็มากอยู่แล้ว แต่นี่เฟยก็ยังคิดจะขอเรียกเงินเพิ่มอีกอย่างงั้นเหรอ มันไม่เกินไปหน่อยหรือไง
เห็นว่าเจ้านายของเขาสนใจเข้าหน่อย ทำเป็นได้ใจมันคิดว่าจำนวนเงินขนาดนั้น เจ้านายของเขาจะยอมจ่ายให้ง่าย ๆ หรือไง คนอย่างเอริคไม่ยอมเอาเงินมาเสียกับเรื่องไร้สาระพวกนี้อยู่แล้ว!!
“ก็มันเป็นครั้งแรกของผมนี่ครับ”
เฟยหันไปฉีกยิ้มให้เซ็น แล้วพูดตอบกลับอย่างคนเหนือกว่า ก็นี่มันเป็นครั้งแรกของเขาเลยนะ เพราะฉะนั้นก็ต้องเรียกสูง ๆ หน่อยสิจริงไหม
“ได้...ฉันตกลง”
เอริคไม่สนใจคำพูดของลูกน้องตัวเอง ก่อนจะกระตุกยิ้มแล้วตอบกลับไปหน้านิ่ง ๆ หึหึ สองเท่าแล้วไง คิดว่าเขาไม่กล้าจ่ายให้หรือไง หึหึ รู้จักเอริคคนนี้น้อยไปซะแล้ว
“เจ้านาย!!”
เซ็นร้องเรียกชื่อเอริคออกมาเสียงดัง เพราะไม่คิดว่าเจ้านายตัวเองจะยอมทำตามที่บาร์เทนเดอร์ร้องของ่าย ๆ แบบนี้
เซ็นไม่คิดเลยว่าเอริคจะยอมเสียเงินมากมายขนาดนั้น เพื่อแลกกับการนอนกับไอ้หนุ่มหน้าขาวนี่เพียงคืนเดียว ดูถ้าเจ้านายของเขาจะอาการหนักจนกู่ไม่กลับแล้วสินะ
พอทั้งคู่พูดตกลงกันได้แล้วเอริคก็เดินนำเฟยไปที่ห้องนอนของตัวเอง โดยมีเซ็นกับแซมเดินหน้าบึ้งตามหลังไปติด ๆ
ห้องพัก VIP
ปัง!!
เสียงประตูห้อง VIP ถูกปิดลงพร้อมกับความเงียบที่คืบคลานเข้ามา เฟยจ้องมองแผ่นหลังของคนเอาแต่ใจ ที่กำลังก้าวเดินตรงไปทางเตียงอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะละสายตามามองสำรวจภายในห้อง ที่นี่มันช่างดูแตกต่างกับห้องพักของเขาราวฟ้ากับเหวซะจริง ๆ เพราะมันทั้งดูหรูหราและใหญ่มาก ถ้าเขาคิดไม่ผิดห้องนี้คงจะเป็นห้องที่แพงสุดบนเรือลำนี้แน่ ๆ
เอริคเดินนำเฟยไปหยุดอยู่ที่เตียงของตัวเอง ก่อนจะหันหลังกลับมาหาคนที่เดินตามตัวเองมา เมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“ก่อนที่จะเริ่ม ฉันขอบอกอะไรไว้ก่อนอย่างหนึ่ง” เอริคพูดขึ้นพร้อมจ้องมองไปที่เฟย
“ครับ” เฟยหันมองหน้าเอริคกลับอย่างงง ๆ
“ฉันไม่อนุญาตให้นายใช้ปากหรือทำรอยบนร่างกายของฉัน เข้าใจไหม”
เอริคพูดเรื่องข้อห้ามให้เฟยรับรู้ เพราะนี้ถือว่าเป็นกฎเหล็กของเขา ที่คู่นอนทุกคนต้องทำตามอย่างเคร่งครัดเลยนั้นเอง
ถึงเอริคจะรู้สึกถูกใจเฟยมากแค่ไหน เขาก็ไม่คิดที่จะปล่อยตัวหรือแหกกฎที่ตัวเองตั้งไว้เด็ดขาด เพราะสำหรับเขาแล้วชอบเป็นฝ่ายกระทำมากกว่า อีกอย่างการให้คู่นอนมาจูบหรือทำอะไรบนร่างกายของตัวเองนั้น มันทำให้เอริครู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองต้องตกเป็นเบี้ยล่างของอีกฝ่าย เลยทำให้เขารู้สึกไม่ชอบมาก ๆ และไม่คิดจะให้ใครทำด้วย
“ครับบบ”
เฟยกระตุกยิ้มขึ้นจาง ๆ อย่างนึกตลกกับคำพูดของเอริค ก่อนจะลากเสียงยาวตอบกลับไปอย่างว่าง่าย เฟยไม่เข้าใจผู้ชายคนนี้เลยจริง ๆ ทั้งที่เป็นคนบังคับเขาให้มานอนด้วยแท้ ๆ แต่คนตรงหน้ากลับมาออกคำสั่ง ทำเหมือนว่าเขาเป็นคนร้องขอมาที่นี่ซะอย่างงั้น
เฟยเดินไปที่โต๊ะข้างหัวเตียงก่อนจะค่อย ๆ ยกมือขึ้นดึงเนกไทที่คอของตัวเองออก แล้ววางไว้โต๊ะข้างเตียง ในหัวของเขาก็คิดหาวิธีออกจากที่ไปด้วย เพราะตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้ เฟยไม่เคยมีความคิดที่จะนอนกับเอริคเลยสักนิด ที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อให้เอริคตายใจ แล้วค่อยหาทางหนีออกไปเท่านั้น แต่จนตอนนี้เฟยก็ยังคงมืดแปดด้านอยู่ดี เพราะถึงจะจัดการเอริคได้ก็ยังมีแซมกับเซ็นที่ยืนเฝ้าหน้าห้องอีกสองคนอยู่ดี
ในเมื่อตอนนี้ยังหาวิธีดี ๆ ไม่ได้ ก็คงต้องทวงเวลาให้ได้นานที่สุดไปก่อน พอคิดได้แบบนั้นเฟยก็หันหน้าส่งยิ้มหวาน ให้เอริคที่ยืนมองอยู่ด้านหลังอีกครั้ง
“อาบน้ำด้วยกันไหมครับ พวกเราจะได้ทำความคุ้นเคยกันก่อนขึ้นเตียงไง”
เฟยพูดหยอกเอริคไปอย่างนึกสนุก ไหน ๆ เดี๋ยวก็จะต้องขึ้นเตียงด้วยกันอยู่แล้ว เข้าไปอาบน้ำด้วยกันสักครั้ง มันจะเป็นอะไรไปจริงไหม
“ไม่จำเป็น…รีบเข้าไปอาบน้ำได้แล้ว อ๋อ! แล้วก็อย่าคิดตุกติกด้วยเข้าใจไหม” เอริคจ้องมองเฟยเขม็ง มือก็ถือปืนขึ้นมาชี้ขู่ ไปทางเฟยที่กำลังยืนถอนเสื้ออยู่อย่างไม่ไว้วางใจ
พอเอริคเห็นสีหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้มของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม เขาก็รู้สึกแปลก ๆ กับการกระทำของอีกฝ่ายอย่างบอกไม่ถูก ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังปฏิเสธเขาเสียงแข็งอยู่เลย แต่ตอนนี้กลับมายืนยิ้มหน้าระรื่นให้เขา แถมยังมาพูดหยอกล้อชวนให้ไปอาบน้ำด้วยกันอีก
“ครับบบ” เฟยตอบกลับยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินโชว์ผิวเนียนขาวของตัวเองผ่านหน้าเอริคไปอย่างไม่อาย
หลังจากที่เฟยอาบน้ำเสร็จแล้วเอริคก็เข้าไปอาบต่อ โดยที่ไม่ลืมพูดขู่ทิ้งท้ายเอาไว้อีกรอบ ว่าอย่าคิดหนีตัวเองซะให้ยาก เพราะหน้าห้องยังมีลูกน้องของเขายืนเฝ้าอยู่ เฟยที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้แต่ยิ้มรับอย่างว่าง่าย เพราะรู้ดีว่ายังไงคืนนี้ก็คงจะต้องอยู่ในห้องกับเอริคอย่างไม่มีทางเลือก
********************
“เดี๋ยวผมช่วยถอดให้นะครับ”
เฟยที่นั่งเล่นรออยู่บนเตียง พอเห็นเอริคที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวเดินเข้ามาหาตัวเองที่เตียง ก็พูดเสนอตัวขึ้นแล้วลุกขึ้นมายืนอยู่ตรงหน้าของเอริค ก่อนจะก็เอื้อมมือขาวของตัวเองออกไป เพื่อจะช่วยคนตรงหน้าถอยชุดคลุมออก
เอริคยืนนิ่งดูการกระทำของเฟยเงียบ ๆ ในใจก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ทำไมดูคนตรงหน้าว่าง่ายจัง ว่าง่ายจนเขาอดระแวงไม่ได้เลย แต่ทุกอย่างมันมาถึงขึ้นนี้แล้ว ก็น่าจะไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วสินะ แต่...ความแปลกใจก็อยู่กับเอริคได้ไม่นาน...
“โอ๊ยยย!!”
“อย่าดิ้นสิครับ”
“นี่มึงคิดจะทำบ้าอะไร ปล่อยกูนะโว้ยยย!!”
“ก็ทำสิ่งที่คุณต้องการมาตลอดไงครับ”
“ไอ้เฟย!! กูบอกให้ปล่อยไงวะ!! ปล่อยกู!!”
หลังจากเรื่องวุ่นวายทั้งหมดจบลง เจ้าของคาสิโนหน้านิ่งก็ได้ป่าวประกาศ เรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองกับอดีตบาร์เทนเดอร์หนุ่ม ให้เพื่อน ๆ และลูกน้องทุกคนได้รับรู้ทั่วกัน ถึงระยะแรก ๆ เอริคจะรู้สึกประหม่าตอนเจอคนอื่นอยู่บ้าง เพราะไม่รู้ว่าใต้ใบหน้าที่ยิ้มแย้มให้ตัวเองอยู่นั้น เป็นรอยยิ้มจริงจากใจหรือรอยยิ้มจอมปลอม แต่พอหลัง ๆ มาเอริคก็เริ่มเลิกสนใจสายตาพวกนั้นในที่สุดแล้วเวลานี้เอริครู้สึกโล่งใจมาก ๆ ที่ไม่ต้องคอยโกหกปิดบังเรื่องตัวเองอีก และที่เขารู้สึกดีมากที่สุดของการป่าวประกาศข่าวในครั้งนี้ คือมันทำให้เด็กหนุ่มที่ชอบมาหยอกล้อพูดเล่นกับเฟย ไม่มีใครกล้าเข้ามาพูดเล่นเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว เอริครู้สึกชอบเรื่องนี้มาก เพราะเขาจะได้ไม่ต้องคอยระแวง กลัวเฟยอดใจไม่ไหวไปแอบหากินที่อื่นอีกเรือสำราญ-ห้องพัก“นายจำห้องนี้เตียงนี้ได้ไหมเฟย”“จำได้สิครับ ก็ห้อ
หลังจากที่คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จแล้ว ภายในห้องก็กลับเข้าสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง เอริคนั่งเล่นไอแพดอยู่ข้างเตียงของเฟย ส่วนมังกรไซออนกับแซมเซ็นลูกน้องของเอริค ก็นั่งพูดคุยเล่นกันอยู่ที่โซฟาข้าง แล้วอยู่ ๆ สองหนุ่มเพื่อนสนิทเจ้าของห้อง ก็เปลี่ยนมานั่งจ้องมองเพื่อนกับคนบนเตียง แล้วหันกับมาพูดกระซิบกัน เมื่อทั้งสองก็เกิดความสงสัยอะไรบางอย่างในตัวเพื่อนสนิทขึ้นมาแต่จะให้พวกเขาพูดถามเพื่อนออกไปตรง ๆ ความกล้าในตัวมันก็ยังมีไม่พอ เลยได้แต่นั่งสงสัยกันอยู่เงียบ ๆ สองคน“พวกมึงสองคนมีอะไรจะพูดกับกูก็พูดมา นั่งจ้องพวกกูกันอยู่ได้”เอริคสังเกตท่าทางของเพื่อนสนิททั้งสองมาได้สักพัก สุดท้ายก็อดใจไม่ไหวพูดถามออกไปด้วยความสงสัย ทำเหมือนพวกเขาเป็นผู้ต้องสงสัยทำความผิดอะไรมาซะอย่างงั้น“แล้วมึงล่ะ มีเรื่องอะไรอยากจะสารภาพกับพวกกูหรือเปล่า” พอมังกรได้ยินเอริคพูดเปิดประเด็นขึ้นมาก่อน ก็ไม่รอช้ารีบถามเรื่องที่ตัวเองรู้สึกสงสัยออกไปทันที
กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยคลุ้งไปทั่วห้องพักฟื้นของผู้ป่วย เมื่อบาดแผลที่ใกล้จะหายดีแล้วของคนไข้ อยู่ ๆ ก็ฉีกมีเลือดไหลออกมาอีกครั้งอย่างไม่มีสาเหตุ เอริคนั่งนิ่งดูคุณหมอกับพยาบาลสาวยืนทำแผลให้เฟยอยู่โซฟาเงียบ ๆ โดยมีสายตาของมังกรกับไซออนแอบมองมาทางเขาเป็นระยะ ๆ แล้วหันไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กันอยู่สองคนอย่างมีเลศนัย“ทำแผลเสร็จแล้วครับ เออ...ยังไงหมอก็ขอให้ญาติช่วยระมัดระวังเรื่องการขยับร่างกายของคนไข้ด้วยนะครับ”คุณหมอทำแผลให้เฟยเสร็จก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ก็ได้หันมาพูดกับเอริคที่นั่งอยู่ด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ เพราะถ้าท่านคิดไม่ผิด ที่แผลของคนไข้เปิดมีเลือดออกครั้งนี้ สาเหตุอาจมาจากคนดูแลเป็นต้นเหตุก็ได้นั่นเอง“เออ...ครับ”ใบหน้าของเอริคร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างฉับพลัน เมื่อฟังที่คุณหมอพูดบอกจบประโยค เขานิ่งอึ้งพูดอะไรแทบไม่ออก เพราะรู้ดีว่าท่านกำลังจะสื่อถึงเรื่องอะไรแต่เรื่องนี้จะมาบอกเขาฝ่ายเดียวได้ยังไง ก็ในเมื่อไอ้คนท
“เฟย!! นายเป็นอะไร นี่มัน...เลือด!!”เอริคเห็นเฟยร้องออกมาเสียงดัง ก็รีบเข้าไปประคองด้วยความตกใจ พอได้ยินเสียงร้องของเฟยแล้ว มันทำให้เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงมาก เอริคมองสำรวจร่างกายของเฟยอีกรอบ เพื่อให้มั่นใจว่าเฟยไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนจริง ๆ แต่แล้วสายตาของเขาก็ต้องหยุดชะงักค้าง อยู่ที่สะโพกข้างหนึ่งที่เฟยใช้มือปิดไว้ มีน้ำสีแดงสดเริ่มไหลอาบไปทั่วมือ“ผมไม่เป็นไรครั...” เฟยพยายามเก็บสีหน้าความรู้สึกเจ็บเอาไว้ แล้วพูดยิ้ม ๆ กับเอริคออกไป เพื่อไม่ให้คนตรงหน้าเป็นกังวลไปมากกว่านี้ แต่เขายังไม่ทันได้พูดจบประโยค ดวงตาทั้งสองข้างก็เริ่มพร่ามัว แล้วมืดดับลงไปอย่างห้ามไม่ได้“เฟย เฟย เฟย!!!” เอริคร้องเรียกชื่อเฟยออกมาซ้ำ ๆ ด้วยความตกใจ เมื่ออยู่ ๆ เฟยก็หมดสติไปต่อหน้าตัวเองโรงพยาบาล-หน้าห้องฉุกเฉินหน้าห้องฉุกเฉินที่เต็มไปด้วยญาติผู้ป่วย และพวกคุณ
“หยุดนะคุณชุน!! อย่าทำแบบนี้เลยนะครับ”เสียงร้องโวยวายดังก้องไปทั่วห้องนอน เมื่อบนเตียงกลางห้องเวลานี้ มีชายร่างกายเปลือยเปล่าคนหนึ่ง กำลังพยายามปลุกปล้ำ ก้มหน้าซุกไซร้ซอกคอขาว ของชายหนุ่มที่ถูกมัดนอนอยู่บนเตียงอย่างเร่าร้อน มือทั้งสองข้างของเขาก็ไม่อยู่นิ่ง พยายามถอดดึงเสื้อผ้าของคนนอนอยู่ออกไปด้วยเฟยถูกจู่โจมอย่างหนักโดยที่สามารถปัดป้องอะไรได้เลย เขาพยายามส่ายหน้าไปมาเพื่อหลบริมฝีปากร้าย ที่เข้ามาเล่นงานซอกคอของตัวเอง ปากก็ร้องตะโกนออกมาไม่หยุด หวังว่าจะมีใครสักคนได้ยิน แล้วเข้ามาช่วยเหลือตัวเองจากเหตุการณ์ตอนนี้เฟยพยายามกระชากข้อมือของตัวเองออกจากผ้าหัวเตียงอย่างสุดแรง จนข้อมือทั้งสองข้างเจ็บแสบและเป็นรอยแดง เพื่อจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากพันธนาการครั้งนี้ แต่ไม่ว่าเขาจะขยับร่างกายดิ้นหนีสุดแรงยังไง มันก็แทบจะไม่เป็นผลเลยสักนิด ส่วนคนที่นั่งคร่อมอยู่บนตัวของเขา ก็ยังคงพยายามถอดดึงเสื้อผ้าบนตัวของเขาไม่หยุด…หรือว่าครั้งนี้เขาจ
โรงแรมหรูกลางใจเมืองในค่ำคืนที่มืดมิดภายในห้องหรูของโรงแรมห้องหนึ่ง มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนหลับใหลไร้สติอยู่บนเตียง มือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยผ้าสีขาวมัดตึงไว้กับหัวเตียง โดยมีดวงตาหวานเยิ้มของชายหนุ่มอีกคน นั่งจ้องมองดูเรือนร่างนั้นอยู่อย่างไม่ละสายตาหลังจากที่จับตัวเฟยขึ้นรถมาได้ ชุนก็ทำให้เฟยสลบแล้วพามาที่ห้องของตัวเอง จากนั้นก็สั่งให้ลูกน้องมัดมือทั้งสองข้างของเฟยผูกติดกับหัวเตียงเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เฟยแผลงฤทธิ์เวลาที่ตื่น ส่วนตัวเองก็นั่งดื่มเหล้ารออยู่ที่โต๊ะข้าง ๆ อย่างใจเย็นชุนอย่างให้ครั้งแรกของตัวเองกับเฟยเป็นเวลาที่ทั้งสองฝ่ายมีสติครบถ้วน เลยไม่คิดจะรีบร้อนทำอะไรเฟยในตอนนี้ เพราะเขายังมีเวลาดื่มด่ำกับความหอมหวานตรงหน้าอีกนาน โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าใครหน้าไหนจะมาขัดขว้างความสุขครั้งนี้ของเขาได้…และแล้วในที่สุดคนบนเตียงก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมาอย่างสะลึมสะลือ เฟยหันมองซ้ายมองขวาดูรอบตัวอย่างงง ๆ เมื่อภาพที่เห็นตร