1 ปีผ่านไป
ผับ The Drunken Dragon
แสงไฟสีสันฉูดฉาดสะท้อนบนพื้นกระจกเงาของผับหรู บวกกับเสียงเพลงดังกระหื่มไปทั่วทั้งห้อง หนุ่มสาวเริ่มพากันออกมา เต้นวาดลวดลายตามเสียงดนตรีอย่างสนุกสนาน สองหนุ่มเดินจับมือผ่าฝูงคนไปที่โต๊ะของตัวเอง
“ไงครับคุณเพื่อน ไม่โทรตามก็ไม่คิดจะออกมาเที่ยวหาเพื่อนฝูงเลยหรือไงครับ” เสียงเอ่ยแซวของมังกรดังขึ้น
สายตาคู่คมจ้องมองมือของเพื่อนสนิทที่จับมือของอีกคนไว้แน่น ก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา ปากบอกว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คู่นอนไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่การกระทำที่แสดงออกมานั้นกับตรงข้ามกันไปหมด ขนาดเดินมาแค่นี้ยังจะจับมือกันไม่ปล่อย แล้วจะให้พวกเขาเชื่อที่พูดบอกได้ไง
ตั้งแต่เอริคพาเฟยกลับมาทำงานที่คาสิโนด้วย ตอนนี้ก็ผ่านมาปีกว่าแล้ว มังกรก็ยังคงเห็นทั้งสองทำตัวติดกันเหมือนเดิมอยู่เลย แต่พอเขาถามว่าคบกันแบบจริง ๆ จัง ๆ แล้วเหรอ เพื่อนสนิทของเขาก็จะตอบกลับมาคำเดิมทุกครั้ง ว่า บ้าหรือเปล่า พวกเขาเป็นแค่คู่นอน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แบบนี้ตลอด
“งานกูยุ่งไหม” เอริคพูดตอบกลับ
“โอ๊ย! มันเจ็บนะ”เสียงร้องโอดโอยดังขึ้นด้วยความเจ็บปวด เมื่อร่างเล็กถูกเหวี่ยงติดผนังอย่างแรง จนล้มพับไปกองอยู่กับพื้น เรนชักสีหน้าไม่พอใจใส่เอริคที่ยืนกอดอกมองตัวเองอยู่อย่างไม่เกร็งกลัว“แค่นี้มันยังน้อยไป ถ้ามึงยังไม่เลิกมาตอแยเมียกูอีก มึงได้เจ็บตัวมากกว่านี้แน่” เอริคยืนกอดอกดูผลงานตัวเองอย่างชอบใจ ก่อนจะพูดขู่ออกไปอีกครั้ง ทำแค่นี้ทำมาเป็นร้องโวยวายสำออยจริง ๆ“อย่ามาโกหกซะให้ยากเลย ผมไม่เชื่อหลอกว่าเฮียเฟยเป็นเมียของคุณจริง ๆ” เรนยันตัวเองลุกขึ้นยืนประจันหน้า แล้วพูดเถียงกลับอย่างไม่ยอมเรนรู้จักนิสัยของเฟยดีว่าเป็นคนยังไง ในอดีตเพราะหน้าตาสวยราวกับผู้หญิง เลยทำให้มีผู้ชายมากมายมาสนใจในตัวของเฟย แต่ไม่ว่าคนพวกนั้นจะเอาเงินหรือของมาให้มากเท่าไหร่ เฟยก็ไม่เคยสนใจและมีความคิดเปลี่ยนมาเป็นรับ เพื่อสนองอารมณ์ของผู้ชายพวกนั้นเลยสักครั้ง แล้วตอนนี้จะมาบอกว่าเฟยเป็นเมีย ใครมันจะเชื่อลง“แล้วทำไมกูจะต้องโกหกมึงด้วย” เอริคชักสีหน้าใส่คนเถียง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่มีทีท่าจะเชื่อคำพูดของตัวเองเลยสักนิด“คนอย่างเฮียเฟย ให้ตายก็ไม่มีทางจะเปลี่ยนใจมาเป็นรับหลอก” เรนพูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขารู้จ
ตุบ!เสียงกำปั้นทุบลงโต๊ะทำงานด้วยความโกรธเกรี้ยว จนคนที่ยืนพูดรายงานอยู่ สะดุ้งตกใจรีบก้าวถอยหนีคนโมโหอย่างงง ๆ แซมไม่เข้าใจว่าเอริคโกรธตัวเองเรื่องอะไร เขาแค่มารายงานตามปกติเองนี่นา“ไอ้เด็กบ้า เดี๋ยวมึงได้เจอดีแน่” เอริคสถบด่าออกอย่างไม่พอใจ กล้ามาหาผู้ชายของเขาถึงที่นี่เลยเหรอ“เออ…” แซมยืนนิ่งค้างทำตัวไม่ถูก เมื่ออยู่ ๆ เจ้านายตัวเองก็แสดงท่าทีฉุนเฉียวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ“แล้วเฟยล่ะ ตอนนี้อยู่ที่ไหน” เอริคถามขึ้นเสียงแข็ง เมื่อนึกถึงตัวต้นเหตุของเรื่องขึ้นมาได้“อ๋อ พึ่งเดินลงไปหาเด็กคนนั้นเมื่อกี้เองครับ” แซมตอบกลับไปตรง ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มอย่างไม่ได้คิดอะไร“ใครบอกมัน”เอริคถามต่ออย่างสงสัย เพราะตามปกติแล้วเฟยจะอยู่แต่ชั้นบน ไม่ห้องพักก็จะมาช่วยงานเขาที่ห้องนี้เท่านั้น เฟยไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีคนมาหา ถ้าไม่มีใครขึ้นมาบอก“ผมบอกเองครับ”แซมชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง แล้วพูดบอกเอริคออกไปตรง ๆ พร้อมปั้นหน้ายิ้มแป้นรอรับคำชมจากอีกฝ่าย เมื่อคิดว่าตัวเองพึ่งทำเรื่องดี ๆ ไปแต่…สิ่งที่ได้มากับไม่ใช่คำชมเชย แต่กลับเป็นแฟ้มเอกสารเล่มหนา ปามาทางเขาแทน“ไอ้แซม มึงนี่มัน” เอริคตะคอกว่าลูกน้อ
ปัง!เสียงประตูห้องนอนปิดลงพร้อมความเงียบเข้ามาปกคลุม จนทำให้บรรยากาศภายในห้องดูหนาวเย็นขึ้นเป็นเท่าตัว เอริคยืนกอดอกหน้านิ่วคิ้วขมวด จ้องมองเฟยที่ยืนทำหน้าสลดอยู่ตรงหน้า ในหัวของเอริคตอนนี้ความคิดมันตีกันไปหมด ทั้งความอยากรู้ต้นสายปลายเหตุของเรื่อง ทั้งความรู้สึกขุ่นเคืองที่มีต่อคนตรงหน้าตอนนี้เอริคต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้นิ่งที่สุด เพื่อพูดคุยกับตัวต้นเหตุของเรื่องในคืนนี้“มีอะไรจะอธิบายไหม” เอริคพูดเปิดประเด็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก หลังจากที่นั่งเงียบมาตลอดทางกลับบ้านตอนแรกเขาก็ไม่มีความคิดที่จะอยากรู้เรื่องอดีตของเฟยหรอกนะ แต่ตอนนี้คงจะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้แล้ว วันนี้มีเด็กหน้าตี๋มาบอกว่าเป็นคนรัก ไม่รู้วันหน้าจะมีใครโผล่ออกมาอีกบ้าง ไอ้จีนหื่นหน้าทะเล้นนี่ ยิ่งชอบแจกยิ้มให้คนอื่นไปทั่วอยู่ด้วย“แต่ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะครับ ผมว่าเอาไว้…” เฟยยิ้มออกมาแห้ง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปโอบกอดคนที่ยืนทำหน้าบึ้งตึงอยู่ แล้วเอ่ยพูดขึ้นเสียงอ่อนตอนนี้มันจะตีสามเข้าไปแล้ว ถ้าเกิดให้มานั่งอธิบายเช้าก็คงจะยังพูดไม่จบแน่ ๆ“ถ้าไม่พูด งั้นก็ไสหัวออกไปจากห้องกูเดี๋
หลังจากที่ทั้งสี่คนพูดคุยเล่นกันได้พักใหญ่ ต่างคนก็ต่างเตรียมตัวแยกย้ายกลับห้องของตัวเอง“เออ ไงคืนนี้กูกลับกันก่อนนะ” เอริคลุกขึ้นยืนเต็มตัวตามด้วยเฟย“โอเค แล้วเจอกันใหม่ ส่วนมึงไอ้ริคกูขอเตือนอะไรหน่อย” มังกรลุกยืนตาม พร้อมหันไปพูดกับเอริคด้วยสีหน้าเคร่งเครียด“อะไร” เสียงทุ้มเข้มถามกลับอย่างงง ๆ เตือน เตือนเรื่องอะไร เอริคชักสีหน้าไม่เข้าใจ เขารู้สึกงุนงงกับคำพูดของเพื่อนตัวเองมากมังกรยืนทำหน้าจริงจังจ้องมองไปที่เพื่อนสนิท ราวกับว่ากำลังจะเอ่ยพูดเรื่องสำคัญ จนทุกคนที่เห็นใบหน้าต้องหยุดนิ่งรอฟัง เพราะคิดว่าหน้าจะเป็นเรื่องใหญ่แน่นอนแต่…“เลิกกักตัวน้องเฟยไว้แต่ห้องได้แล้ว ระวังเถอะสักวันตำรวจจะไปจับมึง ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว”ใบหน้าเคร่งขึงก่อนหน้า อยู่ ๆ ก็กลายเป็นใบหน้าทะเล้น ก่อนจะเอ่ยพูดขู่เพื่อนตัวเองขึ้นอย่างหยอกล้อ เพราะมังกรคิดว่าถ้าเอริคยังเอาแต่ใจ ไม่ยอมให้เฟยอยู่ห่างตัวแบบนี้ สักวันเด็กหนุ่มอาจจะทนไม่ไหวก็ได้ นี่เขาเตือนด้วยความเป็นห่วงจริง ๆ นะเนี่ย“กักขังพ่อมึงสิ” เอริคที่ยืนรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ ก็พูดว่ากลับอย่างหัวเสีย กักขังบ้าบออะไร เขาไม่ได้ทำแบบนั้นสักหน่อยถึง
1 ปีผ่านไปผับ The Drunken Dragonแสงไฟสีสันฉูดฉาดสะท้อนบนพื้นกระจกเงาของผับหรู บวกกับเสียงเพลงดังกระหื่มไปทั่วทั้งห้อง หนุ่มสาวเริ่มพากันออกมา เต้นวาดลวดลายตามเสียงดนตรีอย่างสนุกสนาน สองหนุ่มเดินจับมือผ่าฝูงคนไปที่โต๊ะของตัวเอง“ไงครับคุณเพื่อน ไม่โทรตามก็ไม่คิดจะออกมาเที่ยวหาเพื่อนฝูงเลยหรือไงครับ” เสียงเอ่ยแซวของมังกรดังขึ้นสายตาคู่คมจ้องมองมือของเพื่อนสนิทที่จับมือของอีกคนไว้แน่น ก่อนจะส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา ปากบอกว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คู่นอนไม่มีอะไรมากกว่านั้น แต่การกระทำที่แสดงออกมานั้นกับตรงข้ามกันไปหมด ขนาดเดินมาแค่นี้ยังจะจับมือกันไม่ปล่อย แล้วจะให้พวกเขาเชื่อที่พูดบอกได้ไงตั้งแต่เอริคพาเฟยกลับมาทำงานที่คาสิโนด้วย ตอนนี้ก็ผ่านมาปีกว่าแล้ว มังกรก็ยังคงเห็นทั้งสองทำตัวติดกันเหมือนเดิมอยู่เลย แต่พอเขาถามว่าคบกันแบบจริง ๆ จัง ๆ แล้วเหรอ เพื่อนสนิทของเขาก็จะตอบกลับมาคำเดิมทุกครั้ง ว่า บ้าหรือเปล่า พวกเขาเป็นแค่คู่นอน ไม่มีอะไรมากกว่านั้น แบบนี้ตลอด“งานกูยุ่งไหม” เอริคพูดตอบกลับ
แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอน แตะถูกผิวหน้าของคนนอนหลับใหลอยู่บนเตียง ทำให้เจ้าตัวเริ่มกะพริบตารู้สึกตัวอย่างช้า ๆ ร่างกายที่หนักอึ้งและปวดเมื่อยไปทั้งตัว ค่อย ๆ ขยับ แล้วลืมตาตื่นในที่สุดเอริคหันมองซ้ายมองขวาสำรวจรอบ ๆ ตัว ก่อนที่จะพยายามขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง แต่เขารู้สึกร่างกายหนักอึ้งไปหมด เลยก้มมองดูที่หน้าอกของตัวเอง ก็เห็นว่าไอ้จีนหื่นคนเมื่อคืนกำลังนอนกอด เอาหน้าซบที่อกของตัวเองอยู่ เอริคจ้องมองคนหลับด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ปะปนกันไป ทั้งรู้สึกโกรธทั้งรู้สึกดีในเวลาเดียวกัน เขาไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวเองตอนนี้เลยจริง ๆทั้งที่เมื่อก่อนเอริคไม่ชอบให้คู่นอนคนไหน ใช่ปากหรือถูกเนื้อถูกตัวเวลามีอะไรกันที่สุด เรื่องนอนค้างหรือนอนกอดกัน ยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าคู่นอนคนอื่นพอสนุกกันเสร็จแล้ว ก็แค่จ่ายเงินแล้วต่างคนต่างแยกย้ายทั้งนั้นแต่สำหรับคนที่นอนหลับซบอกเขาในตอนนี้ กลับต่างออกไปจากคนอื่น ไม่รู้เป็นเพราะความหน้ามึนของอีกฝ่าย ที่ไม่ยอมทำตามคำสั่งของเขา ชอบทำอะไรตามใจซะทุกครั้ง แต่มันก็แปลกมากที่เอริคกับไม่รู้สึกรังเกียจสัมผัสของอีกฝ่ายเลยสักนิด ไม่ว่