Home / รักโบราณ / สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า / บทที่ 5 ลงโทษสนมให้หลาบจำ

Share

บทที่ 5 ลงโทษสนมให้หลาบจำ

last update Last Updated: 2025-04-23 15:08:21

ขันทีเฒ่ารีบวางอาหารลงบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นเทา เขาไม่กล้ามองภาพตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย ชายชรารีบปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนาด้วยกลัวว่าจะถูกฮ่องเต้ผู้ซึ่งอารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ สั่งทำโทษเขา เขาไม่อยากต้องตกตายอย่างน่าอนาถเช่นนี้ 

เฟิ่งฟางเซียนใบหน้าร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย ให้ตายสิ!!! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน 

นางก้มลงไปมองสวีหลงเยียน ก่อนจะสะดุ้งตกใจไม่น้อย เมื่อพบว่าเขาเองก็กำลังมองนางอยู่เช่นกัน ริมฝีปากหนาใหญ่กัดหัวไก่เอาไว้แน่น สายตาเย็นชาจ้องมองมาที่นางด้วยความอำมหิต 

เฟิ่งฟางเซียนรีบถอยหลังหนีสวีหลงเยียน แต่เขากลับใช้ท่อนแขนแกร่งกอดรัดเอวบางเล็กของนางเอาไว้อย่างถือวิสาสะ

"พระองค์จะทำสิ่งใดเพคะ หม่อมฉันหายใจไม่ออกเพคะ!!! โอ๊ะ!!!"

เขากดร่างของนางให้นั่งลงบนเก้าอี้ ก่อนจะถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ของตนเองออกจนหมด เฟิ่งฟางเซียนจ้องมองแผงอกล่ำสันของเขาด้วยแววตาเป็นประกาย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า สวีหลงเยียนนั้นมีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจต่อนางเป็นอย่างยิ่ง 

เฟิ่งฟางเซียนพยายามเบือนหน้าหนีไม่อยากมองลำแท่งมังกรขนาดใหญ่ของเขา ใจนางเต้นถี่ระรัวจนแทบจะกระเด็นออกมาที่นอกอก 

สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก สตรีต่ำช้าผู้นี้คิดยั่วยวนเขา นางจะต้องได้รับบทเรียนที่สาสม!!!

"หันหน้ามา!!!"

"ไม่เพคะ อื้อ!!!"

สวีหลงเยียนใช้ฝ่ามือหนาใหญ่บีบคางเล็กของนางให้หันมาหาเขา แล้วจึงบดเบียดลำแท่งเอ็นอุ่นร้อนเข้าไปในโพรงปากสวยของนางจนมิดลำ เฟิ่งฟางเซียนเบิกตาโพลงด้วยความตกใจที่ถูกเขาจู่โจมเช่นนี้

ป่าเถื่อนที่สุด!!!

แต่ใหญ่คับปากมาก!!!

"ซี้ดดดดด!!!"

สวีหลงเยียนขยับลำแท่งแก่นกายขนาดใหญ่ยักษ์เข้าออกที่ริมฝีปากบางสวยของนางอย่างหนักหน่วง จนเกิดเสียงดัง อ๊อก อ๊อก

เขาใช้มือกดศีรษะของนางเอาไว้แน่น จนนางขยับหนีไปไหนไม่ได้ เฟิ่งฟางเซียนจำต้องยอมรับความเสียวซ่านที่เขายัดเยียดให้อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงไปได้

ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ดูดให้เน้น ๆ ไปเลยสิอย่าไปยอม!!!

เฟิ่งฟางเซียนยื่นฝ่ามือเรียวงามไปบีบขยำที่บั้นท้ายของสวีหลงเยียนอย่างเอาแต่ใจ พร้อมกับเพิ่มแรงดูดที่ลำแท่งเอ็นร้อนให้มากยิ่งขึ้น จนร่างของสวีหลงเยียนกระตุกเบา ๆ น้ำรักสีขาวขุ่นที่มีกลิ่นคาวนิด ๆ ก็ไหลล้นทะลักเข้าไปในลำคอของนางจนมันไหลเยิ้มออกมาตามมุมปาก เฟิ่งฟางเซียนแลบลิ้นเลียชิมรสชาติที่เอร็ดอร่อยนั้นอย่างพึงพอใจ

สวีหลงเยียนยกยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาช้อนอุ้มร่างบางราวกับกิ่งหลิวของนางให้ขึ้นมานั่งบนโต๊ะอาหาร แล้วจึงโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้เฟิ่งฟางเซียน ริมฝีปากหนาใหญ่ทาบทับลงไปบนริมฝีปากบางสวยของนางอย่างดุดันและเร่าร้อน ลิ้นอุ่นร้อนสอดแทรกเข้าไปในโพรงปากสีหวาน เกี่ยวกระหวัดกับลิ้นชื้นแฉะของนางอย่างดูดดื่ม จนเฟิ่งฟางเซียนรู้สึกหายใจติดขัดกับรสจูบที่เขามอบให้

แต่มันช่างเผ็ดร้อนเสียจนมิอาจพร่ำบอกให้เขาหยุดการกระทำที่แสนสุขสม นางจึงกัดลงไปที่มุมปากของเขาเล็กน้อย แล้วเร่งสูดหายใจเข้าไปเฮือกใหญ่ ก่อนที่จะเม้มจูบกับเขาต่อไปอย่างมิให้ขาดช่วง

สวีหลงเยียนรู้สึกว่าร่างกายของเขาเร่าร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว ตั้งแต่เมื่อใดกันที่เขาเริ่มรู้สึกว่านางช่างเย้ายวนต่อสายตาของเขาเช่นนี้

แควก!!!

"ฝ่าบาทเพคะ"

"อยู่นิ่ง ๆ เจ้าไม่มีสิทธิ์มาขัดใจข้า"

เฟิ่งฟางเซียนเม้มริมฝีปากแน่น ยอมให้สวีหลงเยียนฉีกทึ้งเสื้อผ้าอาภรณ์บนร่างของนางออกจนหมด

สวีหลงเยียนเพ่งสายตาพิจารณาเรือนร่างของนางอย่างชัดเจนในคืนนี้ มันช่างงดงามราวกับภาพวาด งดงามเสียจนเขาแทบจะทนไม่ไหวแล้ว

เขาโน้มใบหน้าลงไปจูบไซ้ที่ซอกคอขาวนวลเนียนของนางด้วยความหื่นกระหาย กลิ่นหอมของสตรีที่เขาไม่เคยสัมผัส มันหอมราวกับกลิ่นมวลดอกไม้ที่ให้ความสดชื่นและเร่าร้อนในคราเดียวกัน

จ๊วบ จ๊วบ

"อื้ออ!!! ฝ่าบาทเพคะ!!!"

เฟิ่งฟางเซียนใช้มือทั้งสองเท้าเอาไว้บนโต๊ะอาหาร นางปล่อยตัวปล่อยใจให้สวีหลงเยียนเชยชมได้ตามใจชอบ สองมือหนาใหญ่กอบกุมบีบขยำเคล้นคลึงสองเต้าอวบอิ่มของนางจนเป็นรอยแดง แล้วจึงครอบริมฝีปากกลืนกินจุกดอกบัวสีหวานของนางด้วยความหลงใหล เขาทั้งดูดดึงและขบเม้มถี่เร่า จนเฟิ่งฟางเซียนแอ่นเนินอกอวบสวยเข้าหา เพื่อให้เขาได้ลิ้มรสความงามที่นางจงใจมอบให้

สวีหลงเยียนใช้มือกวาดถาดอาหารให้ร่วงลงจากโต๊ะไปจนหมด แล้วจึงผลักร่างของสนมรักให้นอนหงายไปบนโต๊ะอาหาร เขาทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ จับขาเรียวงามของนางให้อ้าออกจนกว้าง สายตาเร่าร้อนจับจ้องมองดูเนินสวาทที่ไร้ขนและกลีบดอกไม้สีชมพูที่อวบอูมด้วยความปรารถนา

"อื้ออ อ๊าส์!!! เสียวเพคะ อื้ออ!!!"

สวีหลงเยียนใช้ลิ้นสากร้อนแลบเลียขึ้นลงที่ร่องหลืบสีหวานจนฉ่ำน้ำ แล้วจึงใช้นิ้วมือหนาใหญ่แบะกลีบบุปผางามให้แยกออกจากกัน เม็ดเกสรสีหวานที่ดึงดูดสายตากำลังรอให้เขาเข้าไปเชยชม

ชายหนุ่มครอบริมฝีปากลงไปดูดดึงขบเม้มเม็ดเกสรสีสวยอย่างเอาแต่ใจ แล้วค่อย ๆ สอดแทรกนิ้วอุ่นร้อนทั้งสี่นิ้วเข้าไปในรูสวรรค์ของนาง เขาขยับนิ้วเข้าออกอย่างช้า ๆ ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วแรงมากยิ่งขึ้น พร้อมกับใช้ลิ้นร้อนกระดกแลบเลียซอกหลืบสวาทจนฉ่ำแฉะ

เฟิ่งฟางเซียนที่ถูกเล้าโลมเร่งเร้า ก็รู้สึกเสียวกระสันเป็นอย่างยิ่ง จนนางถึงกับยกกระดกบั้นท้ายงอนงามขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

"อะ อ๊าส์!!! หม่อมฉันไม่ไหวแล้วเพคะ!!!"

ร่างของเฟิ่งฟางเซียนกระตุกอย่างรุนแรง น้ำหวานสีใสไหลเยิ้มออกมาจนเปียกชุ่มที่กลีบดอกบัวทั้งสองกลีบของนาง สวีหลงเยียนไม่นึกรังเกียจตรงกันข้ามเขากลับหลงใหลมันเป็นอย่างมาก น้ำหวานจากรูสวยของนางช่างรสชาติดีไม่น้อย

เขาอุ้มร่างของนางให้ไปนอนบนเตียงนอน แม้เตียงจะไม่นุ่มเบาสบายเช่นตำหนักของเขาแต่มันก็ใช้การได้ดีไม่น้อย

สวีหลงเยียนไม่เอ่ยสิ่งใดให้มากความ เขาบดเบียดลำแท่งไผ่ใหญ่ยาวเข้าไปในรูสวาทของนางจนมิดลำทันที เฟิ่งฟางเซียนถึงกับต้องซู้ดปากด้วยความจุกแน่นที่ท้องน้อย

"อูยยยย!!! เจ็บเพคะ!!!"

"เจ้าได้เจ็บทั้งคืนแน่!!! วันนี้ข้าจะลงโทษเจ้า ซี้ดดด!!!"

ตับตับตับ

เขายื่นฝ่ามือหนาใหญ่สองข้างไปจับรั้งที่เอวบางสวยของนางให้ยกขึ้นมาเล็กน้อย แล้วจึงขยับสะโพกกระแทกกระทั้นลำแท่งเอ็นร้อนเข้าออกที่รูเสียวของนางอย่างหนักหน่วงและถี่เร่า

"อ๊าส์!!! ฝ่าบาท หม่อมฉันจุกเพคะ อื้อออ!!!"

"ซี้ดดดด!!! ข้าเสียวยิ่งนัก!!!"

เขาเร่งจังหวะให้เร็วแรงมากยิ่งขึ้น เฟิ่งฟางเซียนใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านและเจ็บปวด มันปะปนผสมผสานกันจนนางแทบจะตัวลอยอยู่แล้ว

เขาจับตัวเฟิ่งฟางเซียนให้พลิกนอนตะแคง จากนั้นก็เอาตัวเข้าไปซ้อนกายอยู่ที่ด้านหลังของนาง พร้อมกับสอดท่อนแขนแกร่งเข้าไปที่ใต้ศีรษะมนสวยให้นางหนุน แล้วจึงใช้มือใหญ่ข้างเดียวกันจับสองมือเรียวสวยเอาไว้เพื่อมิให้นางขัดขืน

จากนั้นก็ค่อย ๆ บดเบียดลำแท่งมังกรเข้าไปในรูสวาทของนางอีกครั้งจนลึกสุด ก่อนจะจับเรียวขางามข้างขวาให้ยกขึ้นสูง แล้วสอดวางท่อนขาแกร่งพาดลงไปทาบทับกับขาข้างซ้ายเพื่อกักรั้งเอาไว้ไม่ให้นางขยับดิ้นหนี

ตับตับตับ

"อ๊าส์!!! หม่อมฉันเสียวเพคะ อื้อออ!!!"

"เจ้าชอบไม่ใช่หรือ โอว์!!! แน่นยิ่งนัก!!!"

สวีหลงเยียนแลบลิ้นเลียที่ใบหูขาวนวลเนียนของนางอย่างหื่นกระหาย จนเฟิ่งฟางเซียนรู้สึกขนลุกขนชันไปหมด เหตุใดจึงเร่าร้อนเช่นนี้!!! เขาช่างเร้าใจนางเหลือเกิน

สวีหลงเยียนขยับลำแท่งเอ็นอุ่นร้อนให้ถี่เร่ามากยิ่งขึ้น เขารู้สึกเสียวซ่านยิ่งนัก ราวกับว่ายิ่งได้สัมผัสร่างกายของนางอารมณ์ของเขาก็ยิ่งกระเจิดกระเจิงไปหมด

"ขึ้นมาทำให้ข้าบ้าง"

สวีหลงเยียนกระซิบที่ข้างใบหูของนางด้วยน้ำเสียงกระเส่าแหบพร่า เฟิ่งฟางเซียนพยักหน้าน้อย ๆ แล้วจึงขึ้นมานั่งคร่อมบนร่างใหญ่ของเขา มือเรียวเล็กกอบกุมลำแท่งมังกรใหญ่ยาวให้แทรกซึมเข้ามาในรูสวยของนางจนมิดลำ

"อูยย!!! มันแน่นมากเลยเพคะ"

"ขยับแรง ๆ เข้า ข้าชอบ ซี้ดด!!! "

เฟิ่งฟางเซียนขยับสะโพกขึ้นลงที่ลำแท่งเนื้อขนาดใหญ่ของเขาอย่างสนุกสนาน สะโพกสวยส่ายร่อนร่ายรำราวกับหงส์เหิน สวีหลงเยียนจับรั้งเอวบางสวยของนางกดเอาไว้แล้วจึงเด้งเอวสวนกระแทกกระทั้นลำแท่งแก่นกายขนาดใหญ่เข้าออกที่รูสวาทของนางอย่างหนักหน่วงและถี่เร่า

"อื้ออ!!! หม่อมฉันไม่ไหวแล้วเพคะ!!!"

"ขยับ ซี้ดดด!!! อย่าหยุด ข้าใกล้แล้ว!!!"

"อ๊าส์!!!"

"โอว์!!!"

น้ำสวาทสีขาวขุ่นไหลล้นทะลักเข้าไปในรูสวยของนางจนเต็มไปหมด เฟิ่งฟางเซียนรีบผละออกจากร่างของสวีหลงเยียนก่อนจะหาผ้ามาเช็ดคราบน้ำรักของเขา สวีหลงเยียนขมวดคิ้วมุ่นจ้องมองนางด้วยสายตาไม่พอใจ

"เจ้าจะเช็ดทำไมกัน?"

"มันเลอะนี่เพคะ?"

"ข้าไม่ได้สั่ง!!! ห้ามเช็ด!!! นี่เจ้ารังเกียจข้ารึ?"

เฟิ่งฟางเซียนถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเอือมระอา โรคประสาทกำเริบอีกแล้วสินะ!!!

สวีหลงเยียนดึงร่างของนางให้นั่งลงบนเตียง เฟิ่งฟางเซียนหยิบผ้าห่มผืนบางขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายของตนเองเอาไว้ อากาศในตำหนักเย็นค่อนข้างหนาวไม่น้อย แต่เมื่อครู่ตอนที่นางร่วมรักกับเขาเหตุใดมันจึงรู้สึกอบอุ่นไม่รู้สึกหนาวเลยเล่า?

สวีหลงเยียนปรายตามองเฟิ่งฟางเซียนอย่างดูแคลน

"ไม่ต้องมาแอบมองข้าด้วยสายตายั่วยวนเช่นนี้ ข้าไม่ได้รู้สึกหลงใหลเจ้าแม้แต่น้อย ข้าเพียงลงโทษเจ้าเท่านั้น!!! อย่าได้หลงตนเอง!!!"

เฟิ่งฟางเซียนลอบเบ้ปากอย่างรำคาญใจ ช่างปากร้ายไม่ตรงกับใจเสียจริง ๆ เห็น ๆ อยู่ว่าเป็นเขาที่เริ่มกินนางก่อนด้วยซ้ำ

"นอนลง!!!"

"นอนทำไมเพคะ?

"ข้าจะทำอีก ต่อไปเป็นการลงโทษที่เจ้าขัดขืนคำสั่งข้า"

เฟิ่งฟางเซียน "..."

เสียงครางกระเส่าสลับกับเสียงเหนื่อยหอบดังแว่วออกมาจากตำหนักเย็นตลอดทั้งคืน เฟิ่งฟางเซียนรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งร่าง เขากระทำการย่ามใจต่อนางตลอดทั้งคืน นางเตือนว่าขาเตียงมันไม่ทนทานเพราะเป็นเพียงเสาไม้ค้ำเตียงธรรมดาและใกล้ผุเต็มทนแต่เขาก็ไม่ยอมฟังนาง จนใกล้รุ่งสางขาเตียงข้างหนึ่งจึงหักลงทันที 

สวีหลงเยียนสั่งให้คนนำเตียงใหม่มามอบให้นาง มันดูสวยงามและทนทานกว่าเตียงอันเก่าเป็นอย่างมาก

"พระสนม ฝ่าบาทตรัสว่าคืนนี้จะมาทำโทษพระองค์อีกพ่ะย่ะค่ะ"

ขันทีชราเข้ามารายงานเฟิ่งฟางเซียนด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม นางกระทืบเท้าด้วยความขุ่นเคือง สามคืนติดแล้วที่เขามาหานาง และทำโทษนางอย่างหื่นกระหายเช่นนี้ 

อย่ามาอ้างว่าทำโทษเลย เขาติดใจเรื่องอย่างว่าต่างหาก!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   ตอนพิเศษ จนแก่เฒ่า

    เฟิ่งฟางเซียนให้กำเนิดพระโอรสอีกองค์ในเวลาต่อมา สวีหลงเยียนรู้สึกปลื้มใจไม่น้อย เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะมีอีกสักห้าคนในเร็ววันนี้ สถานการณ์บ้านเมืองเริ่มกลับมาปกติสุขมากยิ่งขึ้น ราษฎรอยู่กันอย่างร่มเย็น ไร้สงคราม ไร้กบฏ ทุกคนต่างอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เว่ยอ๋องเดินทางมาเยี่ยมสวีหลงเยียนที่เมืองหลวงเสียนหยาง พร้อมกับนำสาวงามมากมายมามอบเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่เขา สวีหลงเยียนปรายตามองเว่ยอ๋องด้วยความหงุดหงิด เห็นเขาเป็นคนบ้ากามเช่นนั้นหรือ!!!"ฝ่าบาทนี่เป็นสาวงามที่ขึ้นชื่อจากแคว้นเว่ย มิทราบว่าฝ่าบาททรงถูกใจหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"ถูกใจกับผีน่ะสิ!!! นี่หาเรื่องให้เขาทะเลาะกับเมียใช่หรือไม่?"ส่งนางไปเป็นนางกำนัลของฮองเฮา ไม่ต้องมาเสนอหน้าอยู่ใกล้ข้า ข้ารำคาญ""ฝ่าบาทนี่เป็นสาวงามขึ้นชื่อเชียวนะพ่ะย่ะค่ะ""เจ้าอยากขึ้นชื่อว่าตายเพราะโดนข้าถีบยอดหน้าหรือไม่เล่า!!!"เว่ยอ๋องรีบหุบปากทันที แต่ไหนแต่ไรมาฮ่องเต้พระองค์นี้เคยพูดจาไว้หน้าใครเสียที่ไหนกัน แม้แต่คนหัวหงอกเช่นเขายังโดนถอนจนแทบจะกลายเป็นหัวล้านอยู่แล้ว "เว่ยอ๋อง ข้าได้ยินมาว่าท่านเชี่ยวชาญด้านการแต่งบทกลอนบทกวีบอกรัก ใช่หรือไม่?""โอววว ฝ

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 19 ชะตาชีวิตของสวีเหมยหลิง

    เมื่อสวีหลงเยียนขึ้นไปยืนมองดูสถานการณ์บนกำแพงเมือง เขาก็พบว่ายามนี้หวางต้าเฟิ่งและฉู่อ๋องกำลังมุ่งหน้ามาทางประตูเมืองเสียนหยางดั่งเช่นที่สวีมู่หรงเอ่ยไว้ไม่มีผิด เหล่าทหารนักรบเรือนห้าแสนนายต่างถือดาบมุ่งตรงมาทางพวกเขา หวางต้าเฟิ่งยกยิ้มเจ้าเล่ห์จ้องมองสวีหลงเยียนราวกับผู้ชนะ สายตาหยาดเยิ้มของเขาหันมาจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยความหลงใหล อีกไม่นานเสียหรอก ทั้งแผ่นดิน บัลลังก์ และสตรีโฉมงามจะต้องตกเป็นของข้าทั้งหมด ยามนี้ป้ายสั่งการทหารอยู่ในมือของเขาแล้ว สวีหลงเยียนย่อมต้องตกตายในเงื้อมมือของเขาในไม่ช้านี้เป็นแน่"สวีหลงเยียน วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้ว ข้าสัญญาว่าจะให้เจ้าค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ ได้มองดูความยิ่งใหญ่ของข้าก่อนตาย ฮ่า ๆๆๆ ช่างสาแก่ใจข้ายิ่งนัก ดูเอาเถิด!!! แม้แต่พี่สาวของเจ้ายังหักหลังเจ้าเลย ช่างน่าสมเพชสิ้นดี"สวีหลงเยียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ เขาจ้องมองสวีเหมยหลิงที่นั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกับหวางต้าเฟิ่งด้วยสายตาที่สั่นไหว สวีเหมยหลิงส่งยิ้มให้เขา แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่โศกเศร้าที่สุดตั้งแต่เขาได้พบเจอมาหากเขานำป้ายสั่งการทหารออกมา เขาย่อมเป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ แต่ทว่าพ

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 18 ป้ายสั่งการของจริง

    สวีหลงเยียนมององค์ชายน้อยที่นอนหลับตาพริ้มด้วยสายตารักใคร่ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก เจ้าเกิดมาในช่วงที่สงครามก่อตัวขึ้นและแผ่นดินกำลังจะลุกเป็นไฟ เฟิ่งฟางเซียนในยามนี้นางแข็งแรงขึ้นมากแล้ว แต่ยังคงต้องพักรักษาร่างกายเพิ่มอีกสักหน่อยยามนี้เยี่ยนอ๋องและฉู่อ๋องสามารถยึดครองชายแดนทางทิศเหนือของเขาเอาไว้ได้แล้ว สวีมู่หรงจำต้องรีบนำทหารที่เหลือรอดหนีตายกลับมายังเสียนหยาง รวมถึงนำราษฎรที่เหลือรอดชีวิตมุ่งหน้ากลับมากับเขาด้วย เยี่ยนอ๋องและฉู่อ๋องกระทำการโหดเหี้ยมไร้ความเป็นมนุษย์ พวกมันปล้นฆ่าชาวบ้านอย่างเลือดเย็น ใครที่คิดต่อต้านพวกมันจะลงมือเข่นฆ่าราวกับผักปลา สวีหลงเยียนนั่งมองสวีมู่หรงที่บาดเจ็บกลับมาด้วยสายเย็นเยียบ เห็นทีสงครามในครั้งนี้เขาคงจะต้องออกไปต่อสู้ด้วยตนเองเสียแล้ว เป้าหมายของพวกมันก็คือตัวเขา หากเขาตายไปเสีย หวางต้าเฟิ่งต้องตั้งตนเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ บ้านเมืองจะต้องลุกเป็นไฟ ราษฎรคงต้องอกสั่นขวัญผวาเป็นแน่ "เจ้าไปพักรักษาตัวก่อนเถิด ข้าจะออกไปต้านทัพของเยี่ยนอ๋องด้วยตัวข้าเอง""เสด็จพี่ กองทัพของพวกมันแข็งแกร่งไม่น้อยนะพ่ะย่ะค่ะ""ข้ารู้ แต่ข้าไม่มีทางขี้ขลาดหวาดกลัวให้พวกมันม

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 17 ประสูติพระโอรส

    ใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว ยามนี้เฟิ่งฟางเซียนก็ท้องใหญ่ขึ้นไม่น้อย นางใกล้จะคลอดอีกไม่นานนี้แล้ว สวีหลงเยียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นกุ้ยเฟย เดิมทีเขาคิดจะแต่งตั้งนางให้เป็นฮองเฮา แต่ด้วยเพราะสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้ทำให้เขาต้องเลื่อนเรื่องนี้ออกไปเสียก่อน สวีมู่หรงส่งข่าวมาแจ้งแก่เขาว่าฉู่อ๋องสมคบกับเยี่ยนอ๋องเพื่อก่อกบฏ และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นก็คือ พี่หญิงได้มอบป้ายสั่งการทหารให้แก่หวางต้าเฟิ่ง เขาพอจะคาดเดาสถานการณ์ในตอนนี้ได้ทันทีว่าอีกไม่นานสงครามระหว่างแคว้นต้องก่อเกิดขึ้นมาเป็นแน่ แม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่หญิงทำลงไป แต่เขาก็ไม่คิดจะโกรธเกลียดนางเลยแม้แต่น้อย นางคงมีเหตุผลของนาง แต่ทว่าเหตุผลนั้นก็คือการที่นางคิดร่วมมือกับหวางต้าเฟิ่งเพื่อกำจัดเขาซึ่งเป็นน้องชายร่วมสายเลือดเดียวกันกับนางความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือดนั้น ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยการแย่งชิงแผ่นดินและอำนาจของกันและกัน "ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!!!"ขันทีชราเร่งรุดวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีตระหนกปนความเหนื่อยหอบ สวีหลงเยียนจ้องมองเขาเล็กน้อยด้วยความสงสัย "มีเรื่องใดกัน?""เฟิ่งกุ้ยเฟยจะมีประสูติกาลแล้วพ่ะย่ะค่ะ

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 16 หลินกุ้ยเฟยตกตาย

    นางกำนัลห้องเครื่องถูกนำตัวเข้ามาในตำหนักใหญ่อย่างลับ ๆ นางนั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ไม่คาดคิดว่าฝ่าบาทจะล่วงรู้ว่านางเป็นคนใส่ยาพิษลงไปได้รวดเร็วเช่นนี้ "ฝะ ฝ่าบาท!!!""ใครบงการเจ้าให้วางยาพิษพระสนมของข้า?"นางกำนัลยังคงนั่งก้มหน้าเงียบไม่ยอมปริปาก นางไม่อาจเอ่ยปากบอกแก่ฝ่าบาทได้ว่าเป็นฝีมือของหลินกุ้ยเฟย หากนางถูกฆ่าปิดปากนางจะทำเช่นไรกันเล่า แล้วนางเอ่ยวาจาปากเปล่าโดยที่ไร้หลักฐานเช่นนี้ มิเท่ากับโยนตนเองลงไปบนกองไฟหรอกหรือ!!!แต่การที่ถูกฝ่าบาทจับได้เช่นนี้ก็เหมือนกับการนั่งรอความตายไปแล้วกึ่งหนึ่งอยู่ดี สวีหลงเยียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาพยายามข่มอารมณ์มิให้ความโกรธครอบงำจนเสียแผน คราแรกเขาคิดว่าเป็นฝีมือของเยี่ยนอ๋อง แต่จะว่าไปแล้วเยี่ยนอ๋องคงมิกล้าทำการอุกอาจเช่นนี้ยามอยู่ในอาณาเขตการปกครองของเขาแน่นอน หวางต้าเฟิ่งเป็นพวกหมาลอบกัดจากที่ลับ ยามอยู่ในพื้นที่ของเขามันไม่กล้าเสนอหน้าลงมือเป็นแน่ สวีหลงเยียนยื่นมือขึ้นไปเชยคางของนางกำนัลน้อยผู้นั้นให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา สวีหลงเยียนพิจารณาใบหน้าของนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก ใบหน้างดงามได้รูป ดวงตาคู่สวยที่ดูเย้ายวนจิตใจ นางช่างเป

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 15 วางยาพิษ

    สวีเหมยหลิงปรายตามองหวางต้าเฟิ่งด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ สิ่งใดที่เขาคิดมีหรือที่นางจะไม่รู้ แม้แต่สตรีมีครรภ์เขาก็ยังหมายตา เหตุใดเขาจึงชั่วช้าได้ถึงเพียงนี้ งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ แต่ทว่าสายตาของสวีหลงเยียนกลับหันไปพบเข้ากับหวางต้าเฟิ่งที่มองมายังเฟิ่งฟางเซียนด้วยแววตาเป็นประกายแววตาของสวีหลงเยียนเย็นเยียบขึ้นมาทันใด เขาหันไปมองเฟิ่งฟางเซียนแต่กลับพบว่านางกำลังสนใจเพียงอาหารตรงหน้าไม่ได้รับรู้ด้วยซ้ำว่าถูกหวางต้าเฟิ่งแอบจ้องมองอยู่ ไม่ใช่แอบมองสิ! เรียกว่ามองแบบโจ่งแจ้งเลยต่างหากเล่า บังอาจนัก!!! กล้ามามองสนมของข้าต่อหน้าต่อตาข้าเชียวหรือ!!!หวางต้าเฟิ่งราวกับจะรับรู้ได้ว่าถูกสวีหลงเยียนจ้องมองมาอย่างคาดโทษ เขาจึงเบี่ยงเบนความสนใจจากเฟิ่งฟางเซียนและหันไปส่งยิ้มให้สวีหลงเยียนแทน สวีหลงเยียนส่งเสียงเฮอะในลำคออย่างดูแคลน ยิ้มเช่นนี้อยากโดนถีบหรือไร?หลังจากที่งานเลี้ยงจบสิ้นลง สวีหลงเยียนก็สั่งให้ทุกคนแยกย้าย หลินกุ้ยเฟยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะแยกตัวกลับไปยังตำหนักของตนเอง สวีหลงเยียนยื่นมือไปจับแขนของเฟิ่งฟางเซียนเอาไว้ ทำให้นางต้องหันกลับมามองเขาด้วยแววตาสงสัย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status