Share

บทที่ 4 ชอบกินหัวไก่ต้ม

last update Последнее обновление: 2025-04-23 15:08:00

สวีหลงเยียนใบหน้าเขียวคล้ำจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยสายตาชิงชัง นางถึงกับกล้าทำให้เขาอับอายต่อหน้าบ่าวไพร่ถึงขนาดนี้เชียวหรือ

เฟิ่งฟางเซียนเริ่มสัมผัสได้ถึงความแข็งชูชันของแท่งเอ็นอุ่นร้อนในใต้ร่มผ้าของเขา นางรีบปล่อยมือออกทันที ในหัวนึกถึงแต่ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างเขากับนางเมื่อคืน 

ไข่ใหญ่มาก!!!

ให้ตายสิ!!! นี่ข้าคิดอะไรเช่นนี้ทุเรศสิ้นดี!!!

เฟิ่งฟางเซียนถอยห่างออกมาจากสวีหลงเยียน นางไม่อยากจะพบเจอหน้าเขาด้วยซ้ำ เขาเป็นฮ่องเต้ที่จิตไม่ปกติ น่ากลัวเกินไปแล้ว 

สวีหลงเยียนยกยิ้มมุมปาก เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเฟิ่งฟางเซียน ยิ่งนางถอยหนีเขาก็ยิ่งเดินเข้าไปใกล้นางเรื่อย ๆ

"จะเดินตามหม่อมฉันมาทำไมเพคะ?"

"ที่นี่เป็นวังหลวงของข้า ข้าจะเดินไปไหนก็เรื่องของข้า"

"ถอยไปเพคะ หม่อมฉันจะกลับไปถางหญ้าต่อ"

"เจ้ากล้า!!!"

"หากคิดทุบตีหม่อมฉันอีก หม่อมฉันบีบอีกแน่!!! ครั้งนี้รับรองจะดึงให้ไข่ขาดเลยเพคะ!!!"

สวีหลงเยียนกัดฟันกรอด คิดในใจว่าฝากไว้ก่อนเถอะ!!! ก่อนจะเดินกลับตำหนักใหญ่ด้วยความหงุดหงิดใจ 

ตั้งแต่เมื่อใดกันที่นางคิดกล้าเหิมเกริมกับเขา!!!

สวีหลงเยียนกลับมานั่งอ่านฎีกาที่เหล่าขุนนางถวายให้เขาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ยามนี้ที่เขตชายแดนเกิดภัยแล้งอย่างหนัก ชาวบ้านคิดก่อกบฏปล้นชิงเสบียงจากเหล่าขุนนาง จนเกิดการจลาจลขึ้นมาขนาดย่อม สวีหลงเยียนสั่งให้ โจวอี้ องครักษ์คนสนิทรีบรุดหน้าไปตรวจตราที่เกิดเหตุทันที 

ด้านหลินกุ้ยเฟยเองก็รู้สึกร้อนใจไม่น้อย ตั้งแต่นางเข้าวังหลวงมาเป็นพระสนม ฝ่าบาทไม่เคยร่วมหลับนอนกับนางเลยด้วยซ้ำ เขาเพียงแค่ถอดเสื้อผ้าและช่วยตนเองให้นางดู แล้วยังบังคับให้นางส่งเสียงครวญครางพร้อมกับยืนโยกเตียงไปมาเพื่อกระตุ้นอารมณ์ของเขาเพียงเท่านั้น แต่เมื่อคืนกลับมีนางกำนัลน้อยมารายงานต่อนางว่าพบสวีหลงเยียน เดินเปลือยท่อนบนออกมาจากตำหนักเย็นที่เฟิ่งฟางเซียนอาศัยอยู่ นางอยากจะเอ่ยถามให้รู้แล้วรู้รอด แต่ตอนนี้นางไม่อยากจะเคลื่อนไหวเรื่องใดให้มากนัก เพราะสวีหลงเยียนกำลังจับตาดูนางอยู่ทุกฝีก้าว นางจึงทำได้เพียงส่งคนไปลอบสังเกตการณ์ที่ตำหนักเย็นอย่างลับ ๆ

ฟ้าเริ่มมืดแล้ว เฟิ่งฟางเซียนเองก็รู้สึกปวดเมื่อยตามร่างกายไปหมด นางอาบน้ำผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ แล้วจึงเดินมาที่โต๊ะอาหาร ป่านนี้หลิวหมัวหมัวคงจัดเตรียมสำรับเย็นไว้ให้นางเรียบร้อยแล้ว 

เฟิ่งฟางเซียนเดินออกมาอย่างสบายใจ แต่นางกลับพบว่าสวีหลงเยียนกำลังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ไม้ เขายกขาขึ้นวางพาดบนโต๊ะกินข้าวของนาง จนแทบจะเตะถ้วยชามอาหารของนางให้หกอยู่แล้ว 

"ถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ"

เฟิ่งฟางเซียนทำความเคารพอย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก จะมาทำไมทุกคืนกันนะ ไม่รู้จักไปหานางสนมคนอื่น ๆ บ้าง!!!

สวีหลงเยียนปรายตามองอาหารบนโต๊ะของนางด้วยความดูแคลน มันมีแต่หัวผักกาดดองเค็ม ผัดผักกาดขาวที่มันเยิ้มจนชวนอาเจียน 

"ข้ามาหาเจ้าถึงตำหนัก แต่กลับเตรียมของกินต่ำช้าเช่นนี้รอข้าหรือ!!!"

"ใครจะคิดว่าพระองค์จะเสด็จมาเล่าเพคะ ที่นี่คือตำหนักเย็น ที่พระองค์สั่งกักบริเวณหม่อมฉันอยู่นะเพคะ"

"แล้วยังไง ข้าต้องสนด้วยหรือ?"

เฟิ่งฟางเซียนหลับตาลง พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้ยกเท้าขึ้นกระโดดถีบเขา ช่างกวนประสาทและโรคจิตเสียจริง ๆ !!!

สวีหลงเยียนดีดนิ้วมือจนเกิดเสียงดังครั้งหนึ่ง เหล่านางกำนัลก็พากันยกอาหารชั้นดีเข้ามา ทั้งเป็ดไก่ ผลไม้ ต่างวางเรียงรายแทนอาหารที่แสนจะไร้รสชาติของนาง เฟิ่งฟางเซียนขมวดคิ้วมุ่นจ้องมองสวีหลงเยียนด้วยสายตาไม่เข้าใจ 

วันนี้เขาจะมาไม้ไหนอีก?

"มานี่!!!"

"เพคะ?"

"มาป้อนหัวไก่ให้ข้า ข้าชอบกินหัวไก่ต้ม"

เฟิ่งฟางเซียนจ้องมองเขาด้วยสายตาดูแคลนคราหนึ่ง เนื้อไก่เนียนนุ่มน่ากินออกปานนั้น แต่เขากลับเลือกกินหัวของมัน น่ากินตรงไหนกัน?

"มานี่!!! ชักช้าข้าจะสั่งโบยเจ้าเสีย!!!"

"เพคะ"

เฟิ่งฟางเซียนเดินเข้าไปใกล้ ๆ เขา นางใช้ตะเกียบพยายามคีบหัวไก่ขึ้นมา แต่มันกลับลื่นเสียจนนางคีบมันขึ้นมาไม่ได้ สวีหลงเยียนที่เห็นเช่นนั้นก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาทันที 

"น่ารำคาญ!!! ใช้มือจับสิ ช่างโง่งมยิ่งนัก"

ไม่จับกินเองล่ะคนโรคประสาท!!!

เฟิ่งฟางเซียนทำได้เพียงลอบสบถด่าทอเขาในใจเป็นพันเป็นหมื่นครั้ง นางยื่นฝ่ามือเรียวงามไปจับหัวไก่ขึ้นมา แต่ทว่าเพราะมันลื่นยิ่งนัก นางจึงพยายามจับมันเอาไว้ จนหัวไก่กระเด็นเข้าไปซุกที่ร่องอกอวบสวยของนาง 

ตายแล้ว!!! หัวไก่ติดร่องนม!!!

เฟิ่งฟางเซียนพยายามจะดึงหัวไก่ออกมาจากร่องอกของนาง แต่ความลื่นของมันกลับทำให้มันยัดเข้าไปลึกกว่าเดิม 

ปากไก่โผล่ออกมาจากร่องเนินอกอวบอิ่มของนาง ราวกับมันต้องการจะส่งเสียงขันกระต๊าก กระต๊าก!!!

สวีหลงเยียนอ้าปากค้างจ้องมองนางด้วยสายตาที่ตกตะลึงไม่น้อย

หัวไก่ของข้า!!!

"ฝ่าบาทเพคะ!!!"

"ดึงมันออกมาสิ!!!"

"ดึงไม่ออกเพคะมันเข้าไปลึกมากเพคะ!!!"

"หัวไก่ของข้า!!!"

"ขออภัยเพคะฝ่าบาท พระองค์ช่วยใช้ปากกัดและดึงมันออกมาทีเพคะ!!!"

เฟิ่งฟางเซียนกดศีรษะของสวีหลงเยียนแนบมาที่ร่องอกขนาดใหญ่ของนาง เนินอกอวบอิ่มกระทบกับใบหน้าของเขา กลิ่นหอมยั่วยวนผสมผสานกับกลิ่นหัวไก่ต้มช่างเย้ายวนจิตใจเขาไม่น้อย 

"ฝ่าบาท อาหาร...."

ขันทีเฒ่ารีบเดินเข้ามาพร้อมกับอาหารที่สั่งจากครัววังหลวงมาเพิ่ม ภาพตรงหน้าคือฝ่าบาทของเขากำลังใช้ปากกัดกินหัวไก่ที่ตรงร่องอกขาวเนียนของเฟิ่งฟางเซียน 

"ขออภัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมจะไสหัวไปเดี๋ยวนี้พ่ะย่ะค่ะ!!!"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   ตอนพิเศษ จนแก่เฒ่า

    เฟิ่งฟางเซียนให้กำเนิดพระโอรสอีกองค์ในเวลาต่อมา สวีหลงเยียนรู้สึกปลื้มใจไม่น้อย เขาวางแผนเอาไว้ว่าจะมีอีกสักห้าคนในเร็ววันนี้ สถานการณ์บ้านเมืองเริ่มกลับมาปกติสุขมากยิ่งขึ้น ราษฎรอยู่กันอย่างร่มเย็น ไร้สงคราม ไร้กบฏ ทุกคนต่างอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เว่ยอ๋องเดินทางมาเยี่ยมสวีหลงเยียนที่เมืองหลวงเสียนหยาง พร้อมกับนำสาวงามมากมายมามอบเป็นเครื่องบรรณาการให้แก่เขา สวีหลงเยียนปรายตามองเว่ยอ๋องด้วยความหงุดหงิด เห็นเขาเป็นคนบ้ากามเช่นนั้นหรือ!!!"ฝ่าบาทนี่เป็นสาวงามที่ขึ้นชื่อจากแคว้นเว่ย มิทราบว่าฝ่าบาททรงถูกใจหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"ถูกใจกับผีน่ะสิ!!! นี่หาเรื่องให้เขาทะเลาะกับเมียใช่หรือไม่?"ส่งนางไปเป็นนางกำนัลของฮองเฮา ไม่ต้องมาเสนอหน้าอยู่ใกล้ข้า ข้ารำคาญ""ฝ่าบาทนี่เป็นสาวงามขึ้นชื่อเชียวนะพ่ะย่ะค่ะ""เจ้าอยากขึ้นชื่อว่าตายเพราะโดนข้าถีบยอดหน้าหรือไม่เล่า!!!"เว่ยอ๋องรีบหุบปากทันที แต่ไหนแต่ไรมาฮ่องเต้พระองค์นี้เคยพูดจาไว้หน้าใครเสียที่ไหนกัน แม้แต่คนหัวหงอกเช่นเขายังโดนถอนจนแทบจะกลายเป็นหัวล้านอยู่แล้ว "เว่ยอ๋อง ข้าได้ยินมาว่าท่านเชี่ยวชาญด้านการแต่งบทกลอนบทกวีบอกรัก ใช่หรือไม่?""โอววว ฝ

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 19 ชะตาชีวิตของสวีเหมยหลิง

    เมื่อสวีหลงเยียนขึ้นไปยืนมองดูสถานการณ์บนกำแพงเมือง เขาก็พบว่ายามนี้หวางต้าเฟิ่งและฉู่อ๋องกำลังมุ่งหน้ามาทางประตูเมืองเสียนหยางดั่งเช่นที่สวีมู่หรงเอ่ยไว้ไม่มีผิด เหล่าทหารนักรบเรือนห้าแสนนายต่างถือดาบมุ่งตรงมาทางพวกเขา หวางต้าเฟิ่งยกยิ้มเจ้าเล่ห์จ้องมองสวีหลงเยียนราวกับผู้ชนะ สายตาหยาดเยิ้มของเขาหันมาจ้องมองเฟิ่งฟางเซียนด้วยความหลงใหล อีกไม่นานเสียหรอก ทั้งแผ่นดิน บัลลังก์ และสตรีโฉมงามจะต้องตกเป็นของข้าทั้งหมด ยามนี้ป้ายสั่งการทหารอยู่ในมือของเขาแล้ว สวีหลงเยียนย่อมต้องตกตายในเงื้อมมือของเขาในไม่ช้านี้เป็นแน่"สวีหลงเยียน วันนี้เป็นวันตายของเจ้าแล้ว ข้าสัญญาว่าจะให้เจ้าค่อย ๆ ตายอย่างช้า ๆ ได้มองดูความยิ่งใหญ่ของข้าก่อนตาย ฮ่า ๆๆๆ ช่างสาแก่ใจข้ายิ่งนัก ดูเอาเถิด!!! แม้แต่พี่สาวของเจ้ายังหักหลังเจ้าเลย ช่างน่าสมเพชสิ้นดี"สวีหลงเยียนส่งเสียงเฮอะในลำคอ เขาจ้องมองสวีเหมยหลิงที่นั่งอยู่บนม้าตัวเดียวกับหวางต้าเฟิ่งด้วยสายตาที่สั่นไหว สวีเหมยหลิงส่งยิ้มให้เขา แต่มันช่างเป็นรอยยิ้มที่โศกเศร้าที่สุดตั้งแต่เขาได้พบเจอมาหากเขานำป้ายสั่งการทหารออกมา เขาย่อมเป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้ แต่ทว่าพ

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 18 ป้ายสั่งการของจริง

    สวีหลงเยียนมององค์ชายน้อยที่นอนหลับตาพริ้มด้วยสายตารักใคร่ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก เจ้าเกิดมาในช่วงที่สงครามก่อตัวขึ้นและแผ่นดินกำลังจะลุกเป็นไฟ เฟิ่งฟางเซียนในยามนี้นางแข็งแรงขึ้นมากแล้ว แต่ยังคงต้องพักรักษาร่างกายเพิ่มอีกสักหน่อยยามนี้เยี่ยนอ๋องและฉู่อ๋องสามารถยึดครองชายแดนทางทิศเหนือของเขาเอาไว้ได้แล้ว สวีมู่หรงจำต้องรีบนำทหารที่เหลือรอดหนีตายกลับมายังเสียนหยาง รวมถึงนำราษฎรที่เหลือรอดชีวิตมุ่งหน้ากลับมากับเขาด้วย เยี่ยนอ๋องและฉู่อ๋องกระทำการโหดเหี้ยมไร้ความเป็นมนุษย์ พวกมันปล้นฆ่าชาวบ้านอย่างเลือดเย็น ใครที่คิดต่อต้านพวกมันจะลงมือเข่นฆ่าราวกับผักปลา สวีหลงเยียนนั่งมองสวีมู่หรงที่บาดเจ็บกลับมาด้วยสายเย็นเยียบ เห็นทีสงครามในครั้งนี้เขาคงจะต้องออกไปต่อสู้ด้วยตนเองเสียแล้ว เป้าหมายของพวกมันก็คือตัวเขา หากเขาตายไปเสีย หวางต้าเฟิ่งต้องตั้งตนเป็นฮ่องเต้องค์ใหม่ บ้านเมืองจะต้องลุกเป็นไฟ ราษฎรคงต้องอกสั่นขวัญผวาเป็นแน่ "เจ้าไปพักรักษาตัวก่อนเถิด ข้าจะออกไปต้านทัพของเยี่ยนอ๋องด้วยตัวข้าเอง""เสด็จพี่ กองทัพของพวกมันแข็งแกร่งไม่น้อยนะพ่ะย่ะค่ะ""ข้ารู้ แต่ข้าไม่มีทางขี้ขลาดหวาดกลัวให้พวกมันม

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 17 ประสูติพระโอรส

    ใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูหนาวแล้ว ยามนี้เฟิ่งฟางเซียนก็ท้องใหญ่ขึ้นไม่น้อย นางใกล้จะคลอดอีกไม่นานนี้แล้ว สวีหลงเยียนจึงแต่งตั้งนางขึ้นเป็นกุ้ยเฟย เดิมทีเขาคิดจะแต่งตั้งนางให้เป็นฮองเฮา แต่ด้วยเพราะสถานการณ์บ้านเมืองในตอนนี้ทำให้เขาต้องเลื่อนเรื่องนี้ออกไปเสียก่อน สวีมู่หรงส่งข่าวมาแจ้งแก่เขาว่าฉู่อ๋องสมคบกับเยี่ยนอ๋องเพื่อก่อกบฏ และที่ร้ายแรงไปกว่านั้นก็คือ พี่หญิงได้มอบป้ายสั่งการทหารให้แก่หวางต้าเฟิ่ง เขาพอจะคาดเดาสถานการณ์ในตอนนี้ได้ทันทีว่าอีกไม่นานสงครามระหว่างแคว้นต้องก่อเกิดขึ้นมาเป็นแน่ แม้จะไม่เข้าใจในสิ่งที่พี่หญิงทำลงไป แต่เขาก็ไม่คิดจะโกรธเกลียดนางเลยแม้แต่น้อย นางคงมีเหตุผลของนาง แต่ทว่าเหตุผลนั้นก็คือการที่นางคิดร่วมมือกับหวางต้าเฟิ่งเพื่อกำจัดเขาซึ่งเป็นน้องชายร่วมสายเลือดเดียวกันกับนางความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องร่วมสายเลือดนั้น ท้ายที่สุดก็จบลงด้วยการแย่งชิงแผ่นดินและอำนาจของกันและกัน "ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!!!"ขันทีชราเร่งรุดวิ่งเข้ามาหาเขาด้วยท่าทีตระหนกปนความเหนื่อยหอบ สวีหลงเยียนจ้องมองเขาเล็กน้อยด้วยความสงสัย "มีเรื่องใดกัน?""เฟิ่งกุ้ยเฟยจะมีประสูติกาลแล้วพ่ะย่ะค่ะ

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 16 หลินกุ้ยเฟยตกตาย

    นางกำนัลห้องเครื่องถูกนำตัวเข้ามาในตำหนักใหญ่อย่างลับ ๆ นางนั่งตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว ไม่คาดคิดว่าฝ่าบาทจะล่วงรู้ว่านางเป็นคนใส่ยาพิษลงไปได้รวดเร็วเช่นนี้ "ฝะ ฝ่าบาท!!!""ใครบงการเจ้าให้วางยาพิษพระสนมของข้า?"นางกำนัลยังคงนั่งก้มหน้าเงียบไม่ยอมปริปาก นางไม่อาจเอ่ยปากบอกแก่ฝ่าบาทได้ว่าเป็นฝีมือของหลินกุ้ยเฟย หากนางถูกฆ่าปิดปากนางจะทำเช่นไรกันเล่า แล้วนางเอ่ยวาจาปากเปล่าโดยที่ไร้หลักฐานเช่นนี้ มิเท่ากับโยนตนเองลงไปบนกองไฟหรอกหรือ!!!แต่การที่ถูกฝ่าบาทจับได้เช่นนี้ก็เหมือนกับการนั่งรอความตายไปแล้วกึ่งหนึ่งอยู่ดี สวีหลงเยียนถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาพยายามข่มอารมณ์มิให้ความโกรธครอบงำจนเสียแผน คราแรกเขาคิดว่าเป็นฝีมือของเยี่ยนอ๋อง แต่จะว่าไปแล้วเยี่ยนอ๋องคงมิกล้าทำการอุกอาจเช่นนี้ยามอยู่ในอาณาเขตการปกครองของเขาแน่นอน หวางต้าเฟิ่งเป็นพวกหมาลอบกัดจากที่ลับ ยามอยู่ในพื้นที่ของเขามันไม่กล้าเสนอหน้าลงมือเป็นแน่ สวีหลงเยียนยื่นมือขึ้นไปเชยคางของนางกำนัลน้อยผู้นั้นให้เงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา สวีหลงเยียนพิจารณาใบหน้าของนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก ใบหน้างดงามได้รูป ดวงตาคู่สวยที่ดูเย้ายวนจิตใจ นางช่างเป

  • สนมรักคืนนี้ข้าจะไปหาเจ้า   บทที่ 15 วางยาพิษ

    สวีเหมยหลิงปรายตามองหวางต้าเฟิ่งด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ สิ่งใดที่เขาคิดมีหรือที่นางจะไม่รู้ แม้แต่สตรีมีครรภ์เขาก็ยังหมายตา เหตุใดเขาจึงชั่วช้าได้ถึงเพียงนี้ งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ แต่ทว่าสายตาของสวีหลงเยียนกลับหันไปพบเข้ากับหวางต้าเฟิ่งที่มองมายังเฟิ่งฟางเซียนด้วยแววตาเป็นประกายแววตาของสวีหลงเยียนเย็นเยียบขึ้นมาทันใด เขาหันไปมองเฟิ่งฟางเซียนแต่กลับพบว่านางกำลังสนใจเพียงอาหารตรงหน้าไม่ได้รับรู้ด้วยซ้ำว่าถูกหวางต้าเฟิ่งแอบจ้องมองอยู่ ไม่ใช่แอบมองสิ! เรียกว่ามองแบบโจ่งแจ้งเลยต่างหากเล่า บังอาจนัก!!! กล้ามามองสนมของข้าต่อหน้าต่อตาข้าเชียวหรือ!!!หวางต้าเฟิ่งราวกับจะรับรู้ได้ว่าถูกสวีหลงเยียนจ้องมองมาอย่างคาดโทษ เขาจึงเบี่ยงเบนความสนใจจากเฟิ่งฟางเซียนและหันไปส่งยิ้มให้สวีหลงเยียนแทน สวีหลงเยียนส่งเสียงเฮอะในลำคออย่างดูแคลน ยิ้มเช่นนี้อยากโดนถีบหรือไร?หลังจากที่งานเลี้ยงจบสิ้นลง สวีหลงเยียนก็สั่งให้ทุกคนแยกย้าย หลินกุ้ยเฟยยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก ก่อนจะแยกตัวกลับไปยังตำหนักของตนเอง สวีหลงเยียนยื่นมือไปจับแขนของเฟิ่งฟางเซียนเอาไว้ ทำให้นางต้องหันกลับมามองเขาด้วยแววตาสงสัย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status