โมงเช้า ลุกจากเตียงนอนยากเย็น เมื่อคืนผ่านช่วงเวลาอันหนักหน่วงมา ญรินดาคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำ ราวยี่สิบนาทีออกมา มองดูตัวเองในกระจก สภาพของใบหน้ายังคงความงดงามเหมือนเช่นเคย จัดการแต่งกายเพื่อเดินทางไปทำงาน ที่ผับมีเพียงแม่บ้านทำความสะอาด และพนักงานบางคนซึ่งเข้ามาจัดการโต๊ะ
ก๊อก ก๊อก
ประตูห้องเจ้าของผับเปิดออก เจ๊ราตรีมองผู้มาเยือนแล้วยิ้มกว้าง
“อ้าวริน มีอะไรหรือจ๊ะ”
ญรินดาปิดประตูแล้วเดินมานั่งลงบนเก้าอี้ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเจ๊ราตรี เธอเห็นสีหน้าลูกจ้างแล้วรู้สึกกังวล
“เป็นอะไรริน มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”
ริมฝีปากบางสั่น สูดลมหายใจเข้าปอด เธอควรเลือกทางนี้ ให้ไปทำงานโต๊ะเดิมแม้รู้แก่ใจว่าเมื่อคืนมันทำหน้าที่อะไรคงทำใจได้ยาก รังเกียจ สะอิดสะเอียดยิ่งกว่าอะไร
“เจ๊คะ รินขอทำงานกับเจ๊ได้ไหม” เสียงแผ่วบอกกับเจ้าของผับ
“หืม...” เจ๊ราตรีจ้องมองสีหน้าสาวหน้าตาสะสวยด้วยความสับสน
“รินอยากทำงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ค่ะ”
ราตรีเอนกายพิงพนักเก้าอี้แล้วครุ่นคิด
“แน่ใจเหรอริน เจ๊ขอให้รินทำกับเจ๊หลายครั้งรินยังไม่รับปากเลย ทำไมตอนนี้ถึงอยากทำล่ะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า” ราตรีอดสงสารไม่ได้ เพราะพี่ชาย ชีวิตรินถึงได้ย่ำแย่
คนถูกถามส่ายหน้า บอกความจริงก็ไม่ได้ ไม่รู้ควรทำเช่นไร อับอายที่แฟนตัวเองได้กับเพื่อน รู้ถึงไหนอายถึงนั้น คงกลายเป็นขี้ปากสนุกแน่ๆ
พอเห็นลูกจ้างปฏิเสธตอบคำถาม เธอรู้ว่าคงเป็นปัญหาหนักหนาแน่ แต่หากได้ญรินดามาเป็นเด็กอีกคน คงทำให้ร้านได้ชื่อเสียง ในเมื่อเต็มใจเธอคงไม่ว่าอะไร
“ก็ได้ริน จะเริ่มงานวันไหนล่ะ เจ๊ได้ให้คนเตรียมชุดไว้ให้”
“วันนี้ได้ไหมคะ” เธอไม่อยากไปนั่งโต๊ะทำงานอีกแล้ว
“วันนี้เลยเหรอ” เจ๊ราตรีสบตาลูกจ้างสีหน้าแปลกใจ
“ค่ะเจ๊ รินอยากให้หนี้ที่ร้านให้หมดเร็วๆ”
“ก็ได้ๆ กลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ งานเริ่มหกโมงเย็นจ้ะ”
ญรินดายกมือไหว้แล้วเดินออกมานอกห้องทำงาน ทำให้มันเสร็จๆ ไป แล้วก็ลาขาดจากที่นี่ ได้ไม่ต้องเห็นหน้าเพื่อนทรยศ กับแฟนสารเลวอีก หญิงสาวเร่งฝีเท้าเพื่อออกจากสถานที่อโคจรในทันที
ห้าโมงเย็นญรินดาเข้าห้องแต่งตัว สายตาหลายคู่จ้องมองมา เจ๊นกยูงนำชุดมาให้ แล้วตวัดสายตามองเด็กคนอื่นด้วยความไม่พอใจ ญรินดาสบตากับคนเข้ามาใหม่ นั่นคือเพื่อนของเธอเอง นาริสามีสีหน้าไม่ยินดียินร้าย เดินมาหยิบชุดตัวเอง แล้วจัดการเปลี่ยน
“นี่ชุดของรินนะ”
เธอรับมาแล้วมองมัน บิกินี่สองชิ้นสีม่วงเข้ม โชคดีที่มีกางเกงยีนส์ขาสั้นใส่ปิดด้านล่าง แต่ด้านบนยังคงเป็นบิกินี่ผูกเชือกตรงช่วงคอ เจ๊นกยูงส่งชิ้นส่วนสำคัญให้อีกชิ้น
“นี่จ้ะ”
ญรินดารับมาสีหน้ามึนงง
“อะไรคะนี่”
“เอาไว้ปิดหัวนมไงล่ะจ๊ะหนู เดี๋ยวมันโผล่เสียราคา”
คนฟังหน้าแดงขึ้นมาทันที แล้วรีบเดินเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า นาริสาเดินออกมาแต่งหน้าตรงโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่นานเด็กนั่งดริงก์คนใหม่ก็ตามมา นาริสาเหลือบมองแล้วกัดฟันแน่น ด้วยความริษยา
ช่วงเอวคอดกิ่ว ผิวขาวเนียนละเอียด หน้าอกพอดีมือ เรียวขายาว พอใส่ชุดแบบนี้ยิ่งส่งให้ดูเซกซี่สะดุดตา ไม่ได้ดูโป๊สักนิดเดียว เรือนร่างแบบนี้เรียกความต้องการเพศตรงข้ามได้อย่างดี คงมีแต่คนเข้าหา ราคาคงสูงไม่น้อยเลย
“ตายแล้วหนูรินของเจ๊ สวยอะไรเบอร์นี้ล่ะลูก!” เจ๊นกยูกร้องดีใจ แล้วตรงเข้าไปดึงร่างงามมานั่งลงบนเก้าอี้เพื่อแต่งหน้า
“รู้สึกโล่งๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะเจ๊” ญรินดาบอก
“ก็แบบนี้แหละจ้ะหนู อีกหน่อยก็ชินไปเอง”
นาริสาเหลือบมองเพื่อน แล้วเหยียดยิ้ม
“รินจ๊ะ ทำไมถึงมาทำงานเป็นเด็กนั่งดริงก์ได้ล่ะ ไหนบอกว่าไม่มีวันทำงานแบบนี้” น้ำเสียงแกมเยาะเอ่ยออกมา
เธอเหลือบมองคนถาม แล้วยิ้มเยาะ
“อยากได้เงินน่ะสา เห็นว่าทำงานนี้ได้เงินดี”
“ตายล่ะ ยอมเอาตัวแลกเงินแล้วเหรอจ๊ะ”
“ก็ดีกว่าเอาตัวเข้าแลกแล้วไม่ได้เงิน ฉันว่าคงมีคนซื้อฉันเยอะนะ ถ้าฉันต้องการขายตัว เผลอๆ ราคาคงดีกว่าบางคนอีก!” แววตาญรินดาเหลือบมอง กระตุกมุมปากเหมือนเย้ย
นาริสากัดฟันแน่น เก็บความคับแค้นไว้ภายใน หลังจากสงบศึกรักคืนนั้นไปแล้ว กวินทรก็ไม่เคยติดต่อมา เขาเงียบหายและที่สำคัญแววตาในวันจากลาช่างเย็นชาราวกับเธอไม่มีค่าอะไรให้หวนนึกถึงแม้แต่น้อย
“แต่อย่างน้อย ฉันก็ได้ผัวเป็นวิศวกรล่ะนะ เนี่ย... เมื่อเช้า เขายังนอนไม่ลุกอยู่เลย” พูดจบหัวเราะคิดออกมา
คนถูกถามยังคงดึงดัน สะโพกหนาเลยกระแทกหนักจนร้องลั่น“ตอบมาเร็วเข้า!”“ชะ...ชอบ...” เสียงหวานตอบแผ่วคนชนะกระตุกยิ้มมุมปาก เร่งความเร็วมากขึ้น ร่างบางกระตุกเกร็ง น้ำหวานทะลักทะลายออกมา เป็นจังหวะที่เขาปล่อยน้ำรักตนสวนทางเข้าไปแล้วโน้มกายลงจุมพิตริมฝีปาก ถอนแก่นกายแล้วพลิกมานอนเคียงข้างญรินดาหอบสะท้าน ร่างกายยังมีไออุ่นสัมผัสอันเร้าร้อนเมื่อครู่ คิดแล้วอยากตีตัวเองนัก ทำไมถึงยอมเขาง่ายๆ แบบนี้ มือใหญ่เอื้อมจับไหล่บางคนตัวเล็กสะดุ้ง แล้วเหลือบมอง“หิวหรือเปล่า”“มะ..ไม่ค่ะ”เขาช้อนสายตามองแล้วระบายลมหายใจ“พี่ชายเธอ สัญญากับฉันไว้แล้ว เพราะฉะนั้นเธอต้องอยู่ที่นี่กับฉัน”“จนถึงเมื่อไหร่ล่ะคะ!” เธอย้อนถามทันควันดวงตาคมไหววูบ สีหน้าครุ่นคิด“จนกว่า...ฉันจะเบื่อ” ธีภพตอบแล้วลุกยืนเห็นแก่ตัวชะมัด จนกว่าจะเบื่องั้นเหรอ เธอไม่ใช่สิ่งของ ไม่ใช่สักนิด สิ่งที่เขาทำมันสร้างความอับอาย น่าละอายมากแค่ไหนเคยรู้บ้างไหม“ฉันจะลงไปข้างล่างมีเรื่องงานต้องทำ นอนพักผ่อนก่อนก็แล้วกัน” เขามองไปยังตู้เย็น “มีของกินในตู้เย็น หิวหยิบเลยไม่ต้องขออนุญาต เพราะห้องนี้คือห้องของเธอเหมือนกัน ต่อไปเธอต้องนอนที่ห้องนี
ประตูห้องเปิดออก ร่างบางลุกยืนแววตาตระหนก เมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามา ประตูปิดลงตามเดิม ท่าทางเขาดูคุกคามและน่ากลัว ญรินดาระแวดระวังสุดท้ายตัดสินใจกระโจนหนีไปอีกทาง ทว่าเอวบางกลับถูกรวบไว้อย่างรวดเร็ว สองร่างล้มลงบนเตียง“อย่านะ ฉันจะไม่ยอมให้คุณทำอะไรฉันอีกแล้ว!” เธอดิ้นรน ตะเกียกตะกายหนีแต่ไม่เป็นผล เมื่อคนจับดูไม่สะเทือนต่อแรงเธอแม้แต่น้อยญรินดาหอบ ร่างกายถูกกอดรัดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ธีภพจ้องมอง“ทำไมเธอต้องกลัวฉันด้วย ทั้งที่เรามีอะไรกันมาสองครั้งแล้ว หรือเธอลืมไปแล้ว” ชายหนุ่มย้ำความทรงจำผิวแก้มคนฟังแดงระเรื่อ ยกมือผลักดันแผงอกให้ออกห่าง ก็เพราะเคยมีอะไรกัน เธอถึงกระดากอายจนถึงตอนนี้ อาชีพเด็กนั่งดริงก์เธอเลิกทำอย่างถาวร ได้รับอิสรภาพคืนมา แต่ก็ต้องสูญเสียสิ่งสำคัญไป“มีแล้วยังไงคะ ถึงฉันจะมีอะไรกับคุณมากี่ครั้งก็ยังเป็นได้แค่ของเล่นอยู่ดี!”เขาเลิ่กคิ้ว “แล้วเธออยากเป็นอะไรสำหรับฉันเหรอญรินดา”คนถูกถามไม่ตอบหลบสายตา ไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่าการรอดพ้นจากเรื่องวุ่นวายของพี่ชาย นอนกับเขาแค่ครั้งนั้นควรจบกันไปไม่มีอะไรต่อกัน แล้วทำไมเขาต้องพยายามดึงตัวเธอกลับมาอีก“ฉันไม่อยากเป็นอะ
ญรันต์ดวงตาเบิกกว้าง สีหน้าสับสน“ต้องการให้ผมแข่งรถนะเหรอ”“ใช่”“ให้ผมแข่งกับใคร แล้วของเดิมพันล่ะคืออะไร!” สีหน้าญรันต์แช่มชื่นขึ้นเมื่อได้ยินกติกา“แข่งวิศรุต นักแข่งในสังกัดฉันเอง”ญรันต์เงียบลงเมื่อรู้ชื่อคนแข่งด้วย วิศรุตเป็นนักแข่งดีกรีแชมป์ประเทศไทย แล้วเขาจะมีปัญญาสู้ได้หรือไงกัน“ว่ายังไง จะแข่งหรือเปล่า” ธีภพถามย้ำคนถูกถามช้อนสายตามองสีหน้าเคร่งเครียด“ของเดิมพันล่ะครับ”อยุทธ์กัดฟันจ่อปืนไปที่ศีรษะมันทันทีด้วยความขุ่นเคือง ติดหนี้เจ้านายเกือบห้าแสนยังถามหาของเดิมพันอีก ไอ้นี่มันเลวได้ใจธีภพโบกมือห้าม “เงินสดหนึ่งล้าน คือของเดิมพันของฉันไอ้ญรันต์ แล้วแกล่ะ ของเดิมพันของแกคืออะไร”สีหน้ามันสับสนครุ่นคิดหนัก สิ่งใดราคาเทียบเงินหนึ่งล้านนั้นไม่มีเลย“ผะ...ผมไม่มีหรอกครับ คุณต้องการอะไรจากผมถึงได้เสนอเงื่อนไขการแข่งรถ คุณต้องมีของที่ต้องการอยู่ในใจแล้วใช่ไหม”ดวงตาคมหรี่มอง ใครว่ามันโง่ ไม่เลยมันฉลาด แถมรู้ด้วยว่าเขาต้องการอะไร เพราะสายตามันกำลังจ้องมองน้องสาวตัวเอง“น้องสาวของแกไงไอ้ญรันต์” เขาตอบ แล้วปรายตามองสินค้าเดิมพันดวงตาเรียวสวยเบิกกว้าง ถลาเข้าหาพี่ชาย“พี่อย่านะ
พอคำนวณดูแล้ว มันมีความเป็นไปได้อยู่ เพราะเงินที่เขาให้เจ๊ราตรีมูลค่าสองแสน หัวเตียงอีกห้าหมื่น คงใช้หนี้ได้หมด ดูท่าแล้ว ญรินดาคงต้องทรมานจากพี่ชายตัวเองไปอีกนาน เพราะคนอย่างไอ้ญรันต์มันเคยหยุดทำเรื่องชั่วๆ“เจ้านายจะให้ผมทำยังไงดีครับ” อยุทธ์ถามความเห็น พอเจอเหตุการณ์ก่อนหน้านั้น เลยคันไม้คันมืออยากอัดไอ้ญรันต์ให้ปางตายสักที“ไปจับตัวไอ้ญรันต์มาให้ได้ก่อน ทีเหลือเราค่อยว่ากัน”“ครับเจ้านาย” เขารับคำแล้วเดินออกจากห้องทันทีร่างสันทัดถูกกระชากลากเข้ามาในห้อง ญรันต์กวาดตามองรอบๆ สีหน้าตื่นตระหนก พอเห็นหน้าคนในห้องแข้งขาพาลอ่อนแรงทรุดลงกองกับพื้นแววตาไหวสั่น ธีภพเดินเข้าหามันกำคอเสื้อแล้วกระชากเข้าหา“แกกล้าโกงฉันเหรอญรันต์” ธีภพถามเสียงเหี้ยม“ผะ...ผมเปล่า ผะ...ผมจะเอามาใช้ให้คุณธีภพอยู่แล้ว พรุ่งนี้ผมแข่งผมก็ได้เงินแล้วครับ!” เสียงคนตอบสั่นเครือ ร่างกายมันสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้เขาปล่อยคอเสื้อมันเป็นอิสระ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก แล้วพับแขนจ้องมองมันแววตาแข็งกร้าว หายใจหนักขึ้นทุกขณะเพราะความเดือดดาล“คนอย่างแกนะเหรอไอ้ญรันต์ แค่ตัวแกเองยังรับผิดชอบไม่ได้ จะมาแข่งรถหาเงิน!” เขาด่าด้วยคว
ภาพเบื้องหน้าทำเอาน้ำตาตก รอยแดงทั่วกาย กลางกายปวดร้าวจนแสบไปหมด ช่องท้องจุกแน่นเสียจนตัวงอ เปิดฝักบัวรดกายพยายามถูกคราบคาวออก แม้รู้ดีว่าไม่มีทางเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทุกอย่างมันเสียไปแล้วญรินดาออกมาจากห้อง มองดูเงินบนโต๊ะหัวเตียง ริมฝีปากบางเม้มแน่น หยิบมันนับดู น้ำตาไหลรินไม่ขาด เหมือนผู้หญิงขายตัวไม่มีผิด แต่ให้ทำอย่างไรในเมื่อเธอไม่มีทางเลือกอะไรเลย กำเงินในมือแน่นแล้วค่อยๆ เดินออกมาด้านนอกร่างบางถูกขวางด้วยชายใส่ชุดสูท รีบถอยหลังครูดด้วยความกลัว หรือว่าเขายกเธอให้คนอื่นอีก“ผมจะไปส่งที่บ้านครับ คุณธีภพสั่งไว้”แววตาคนบอกไม่มีสิ่งผิดปกติ เธอไว้ใจเขาได้ใช่ไหม แต่ตอนนี้ไม่อยากเชื่ออะไรใครอีก แม้แต่เจ๊ราตรีก็ไว้ใจไม่ได้“ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันจะกลับไปเอง” เธอบอกแล้วเดินหนีออกมาบ้านเขาหลังใหญ่โอ่อ่า แต่เธอกลับต้องเจอเรื่องเลวร้าย ณ สถานที่แห่งนี้ ปาดน้ำตาพร้อมก้าวยาวจนถึงรั้ว มีคนคอยเปิดให้ ออกมายืนด้านนอกมีรถแท็กซี่มาจอดรับพอดี รีบขึ้นนั่งแล้วบอกจุดหมายเขาอยุทธ์หยิบโทรศัทพ์ติดต่อเจ้านายทันที“ครับนาย ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วครับ”“ขอบใจมาก” ธีภพวางสายสีหน้าครุ่นคิด เรือนร่างเธอยังติดอยู่ใ
คนถูกห้ามกระตุกยิ้มมุมปาก“เมื่อคืนเธอบอกฉันเองว่า ไม่ไหวแล้วช่วยฉันด้วย ในเมื่อบอกให้ช่วยฉันคงไม่ปฏิเสธ ผู้หญิงสวยๆ อย่างเธอ ใครปล่อยไปก็คงโง่จริงไหม”มือบางยกปิดปากสะอื้นแผ่ว เขาไม่ผิด ผิดที่เธอ ปล่อยตัวปล่อยใจ แถมยังไม่ระวังตัวเองอีก ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับเธอด้วย“หยุดพูดแบบนี้สักทีเถอะค่ะ” คนตัวเล็กเริ่มอ้อนวอน“ก็ได้ ฉันจะไม่พูด” ดวงตาคมพิศมองใบหน้าของอีกฝ่าย หัวใจเต้นโครมคราม ความต้องการดันตีตื้นขึ้นมาอีก “ฉันมีเรื่องอยากถามสักหน่อย”เธอเงยหน้ามองทั้งน้ำตา กลั้นสะอื้นเอาไว้“เรื่องอะไรคะ”“เธอ... อยากเป็นผู้หญิงของฉันไหม ฉันยินดีดูแลเธออย่างดี”ริมฝีปากบางสั่นระริก นี่หมายความว่ายังไง เขาเห็นเธอเป็นตัวอะไร เรื่องที่ผ่านมาไม่เคยต้องการให้มันเกิด แต่ทำอะไรเพราะเธอทำพลาดเอง แต่ตอนนี้กลับถูกขอให้เป็นของเล่นนะเหรอ“ฉันไม่อยากเป็น!” ญรินดาสวนกลับทันทีคนถามเริ่มหงุดหงิด อะไรกัน ผู้หญิงมากมายต้องการตำแหน่งที่เขาเสนอให้เธอทั้งนั้น“ทำไมกัน”“ก็ฉันไม่อยากเป็น ไม่มีเหตุผล!”พอเจอคำพูดแบบนี้ หัวใจชายหนุ่มเต้นรัว“เธอแค่เด็กนั่งดริงก์ จะห่วงอะไรหนักหนา ในเมื่อตัดสินใจทำงานแบบนี้ ยังไงม