แชร์

แค่เริ่มก็ล่มแล้ว (3)

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-23 16:30:13

ยายเมิ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าท่านเทพดื่มน้ำแกงเยอะเกินกว่าที่กำหนด นางจึงรีบอ้าปากหมายกล่าวคำห้ามปรามทันที

ปึ้ก!

เฮ่ยเสี่ยวอู่พลันกระทืบเท้ายายเมิ่ง หยุดการกระทำของอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้ากระบวยจากเฮ่ยเสี่ยวฉางมาตักน้ำเเกงใส่ในชามจนเต็มอีกครั้ง

“แต่สองชามนั้นมีไว้สำหรับเทพทั่วๆ ไป เทพที่มีพลังระดับตี้จวินต้องสามเท่านั้นถึงจะพอ” 

ดวงตาคู่งามตวัดมองหน้าคนพูดอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของเฮ่ยเสี่ยวอู่และเฮ่ยเสี่ยวฉาง ท่านเทพบรรพกาลก็ยกชามน้ำแกงขึ้นดื่มเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะออกคำสั่งน้ำเสียงราบเรียบ

“ข้าจะไปแล้ว พวกเจ้าจัดการเรื่องวิญญาณต้นไม้นั่นอย่าให้เกิดผิดพลาดได้เล่า” สั่งจบร่างสูงก็ก้าวเดินขึ้นสู่สะพานอนิจจังอย่างสง่างามเพื่อเข้าสู่วัฏสงสารในทันที

“เสี่ยวอู่ ทำอย่างไรดี น้ำเเกงตั้งสามชาม หากเป็นวิญญาณคนธรรมดากินมากกว่าหนึ่งชาม ก็ต้องไปเกิดเป็นคนสติไม่สมประกอบเเล้ว” 

“นั่นเเหละที่ต้องการ หากตี้จวินเป็นเช่นนั้นย่อมไม่มีทางระลึกถึงเรื่องราวของตนเองในภพเทพได้แน่นอน ส่วนพวกเราก็เเค่รีบหาวิญญาณต้นไม้นั่นให้พบโดยไว แล้วนำนางกลับมายังภพนี้ จากนั้นค่อยสร้างเหตุการณ์เผชิญด่านเคราะห์ให้ตี้จวินใหม่ ถึงจะไม่เหมือนกับที่เทพซื่อมิ่งเขียน แต่ถ้าเขาสามารถผ่านด่านได้ก็คงไม่ถือสาเอาความเรา” 

“ตกลง” แม้จะไม่มีความมั่นใจสักนิด ทว่าเสี่ยวฉางก็ตัดสินใจทำตามแผนของสหายทันที พวกเขาทั้งคู่รีบยื่นขอวันลาหยุด เพื่อค้นหาคู่วาสนาที่หายไปของเทพบรรพกาลอย่างขันแข็ง

บนสวรรค์ชั้นฟ้า

ในตำหนักของเฒ่าจันทราผู้มีหน้าที่เชื่อมวาสนาด้ายเเดงเเก่ผู้คน ร่างผอมของเจ้าของตำหนักกำลังนอนกรนคร่อกๆ อย่างสบายใจ ก่อนจะสะดุ้งตื่นตกใจเมื่อได้ยินเสียงเรียกทรงอำนาจดังขึ้นข้างๆ หู

“เฒ่าจันทรา ตื่นได้เเล้ว!” 

เพราะตกใจเสียงเรียก ผู้เฒ่าจันทราจึงลืมตาขึ้นมองรอบด้านด้วยท่าทางงุนงง ก่อนจะค้อมกายทำความเคารพอย่างตื่นตะลึง เมื่อเห็นประมุขสวรรค์ยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าตนเอง

“คารวะเทียนจวิน” 

เง็กเซียนสะบัดฝ่ามือเป็นเชิงให้ลุกได้ ก่อนจะเริ่มเอ่ยปากกล่าวถึงธุระที่มา” ข้ามาหาเจ้าด้วยเรื่องผูกด้ายเเดงเชื่อมวาสนาของตี้จวิน” 

ผู้เฒ่าพอได้ฟังก็ถึงบางอ้อ รีบงัดด้ายเเดงเส้นหนึ่งขึ้นมาให้ดูทันที “เรียนเทียนจวิน พอได้รายชื่อจากท่านเทพซื่อมิ่ง ผู้น้อยก็รีบผูกให้เเล้วเสร็จในทันทีเลยพ่ะย่ะค่ะ” 

เง็กเซียนปรายตามองเส้นด้ายในมือผู้เฒ่าเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวไม่เห็นชอบ พลางออกความคิดเห็น “ข้าว่าด้ายแดงเส้นแค่นี้คงไม่อาจสำแดงเดช ผูกวาสนาของตี้จวินที่ไร้ชื่อสลักบนหินสามชาติได้ เกรงว่ามันจะขาดเอาเสียก่อนนี่สิ” 

ผู้เฒ่าพลันอ้าปากหมายเเย้งคำพูดประโยคนั้น แต่ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่าตี้จวินผู้นั้นมีพลังตบะที่มากล้ำ คำกล่าวของเง็กเซียนนับว่ามีโอกาสเป็นไปได้อยู่

“เช่นนั้น เทียนจวินคิดว่าควรทำอย่างไรดีพ่ะย่ะค่ะ” 

ครั้นได้ฟังคำถาม ผู้เป็นใหญ่เเห่งเเดนสรวงพลันมีดวงตาเเวววาวสว่างวาบในทันที ท่าทีคล้ายกับว่ารอคอยคำพูดเช่นนี้อยู่ก่อนเเล้ว

“ข้าได้คิดวิธีเเก้ปัญหาไว้ให้เจ้าเเล้ว นี่คือเชือกวิเศษจากยอดเขาคุนหลุน ที่ข้าได้ขอยืมมาจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่ ถ้าหากใช้มันแทนด้ายแดงผูกชะตา ต่อให้ตี้จวินมีพลังเทพมากเพียงใด ก็ไม่อาจทำให้เชือกเส้นนี้ขาดลงอย่างเเน่นอน” 

ผู้เฒ่าจันทรานั้นรับหน้าที่เชื่อมชะตาผูกด้ายเเดงสร้างบุพเพให้เหล่าผู้คนมาไม่น้อย เเต่ก็ยังไม่เคยได้ยินเรื่องพิลึกพิลั่นขนาดนี้มาก่อน มีอย่างที่ไหนกัน ถึงขนาดต้องใช้เชือกวิเศษจากเจ้าเเม่ซีหวังหมู่เเทนด้ายเเดงปกติ ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือด้วยรูปลักษณ์ของเชือกนั่น ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ห่างไกลคำว่าด้ายไปมากโข

เพราะหากจะจำกัดคำเรียก ควรบอกว่าเป็นเชือกที่เอาไว้ใช้ล่ามสัตว์สี่เท้าตัวใหญ่เสียมากกว่า ยิ่งกว่านั้นยังมีปัญหาสำคัญอีกข้อนั่นก็คือว่า ด้ายเเดงยิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะยิ่งมากล้นด้วยพลังเเห่งบุพเพ หากนำเชือกเส้นนี้มาผูกวาสนาแทนด้ายเเดงเชื่อมชะตาให้แก่ตี้จวิน เกรงแต่ว่าวาสนาคู่รักจะไม่มีทางไม่สมหวังแน่นอน

เพียงแต่ตี้จวินนั้นลงไปเผชิญด่านรักที่ไม่สมหวังนี่นา ใช้เชือกเส้นเท่าบ้านขนาดนี้ มีหรือที่ทั้งคู่จะต้านทานอำนาจบุพเพได้ เกรงว่าจากที่ไม่สมหวังจะกลายเป็นรักกันไม่ยอมเเยกจากเเทนน่ะสิ

ถึงแม้จะรู้สึกขัดแย้งเพียงใด แต่อีกฝ่ายคือเง็กเซียนประมุขเเห่งเเดนสวรรค์เชียวนะ เขามีหรือจะกล้าขัดใจ ผู้เฒ่าตำหนักจันทราได้เเต่ยิ้มแห้งๆ ขณะรับเชือกวิเศษจากท่านผู้นำ ก่อนลงมือผูกวาสนาให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวถึง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าเทียนจวินนั้นต้องการจะกลั่นแกล้งตี้จวินก็ตาม

'ตี้จวิน ข้าน้อยถูกสั่งให้กระทำ หากท่านหวนกลับคืนมาเเล้วรู้เรื่องนี้ ก็ขอให้ไปทวงเเค้นกับเทียนจวินผู้นั้นเอาเองเถิด'

เง็กเซียนยืนมองการกระทำของผู้เฒ่าจันทราเขม็ง เขายกมือขึ้นลูบเคราตนเองพลางหัวเราะออกมาเบาๆ ท่าทีพออกพอใจเป็นอย่างมาก เจ้าตัวอันธพาลนั่นต้องลงไปเผชิญด่านเคราะห์รักที่ไม่สมหวัง จึงจะกลับขึ้นมาสู่ภพเทพได้ แล้วถ้าหากสมหวังเล่า...

ใช้เชือกจากเขาคุนหลุนมาผูกเสียขนาดนี้ ต่อให้อีกฝ่ายเก่งกล้าเพียงใดก็ไม่อาจทำลายมันลงได้ เช่นนี้มีหรือความรักจะไม่สมหวังอย่างที่คิด แต่ถ้าสมหวังก็ย่อมกลับคืนฐานะเทพไม่ได้

หากไม่มีเจ้าเทพอันธพาลนั่นค่อยปั่นป่วน แดนสวรรค์ของเขาก็จะสงบสุขตลอดกาล

เพราะฉะนั้นตี้จวินท่านก็จงอยู่กับรักที่สมหวังของท่านในโลกมนุษย์เถอะ ยิ่งคิดเง็กเซียนก็ยิ่งอารมณ์ดี ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้าขัดคอหรือหาเรื่องทุบตีเขาอีกเเล้ว

“อืม...ข้านี่ช่างฉลาดล้ำที่สุดในสามโลก” 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์

    จากวันกลายเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนเป็นปี โลกมนุษย์ทั้งอดีตเเละอนาคตผันผ่านไปตามกาลเวลากระบองเพชรน้อยต้นไม้จากเมืองมนุษย์ถูกนำลงสู่ยมโลก ได้ไอหยินเเละหยาดน้ำทิพย์จากสระมรกตหล่อเลี้ยงจนเริ่มมีพลังวิญญาณ ทว่ายังมิทันได้สร้างรูปลักษณ์ของตนเองขึ้นมา นางกลับถูกความมักง่ายของมหาเทพบรรพกาลนอกฝั่งฟ้าเล่นงาน โดนเปลี่ยนเเปลงวิญญาณด้วยพลังเทพ ต้องเข้าสู่วัฏสงสารเพื่อเวียนว่ายตายเกิดบัดนี้นางถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์เต็มตัวแล้ว อิ๋งอิ๋งน้อยของเหยียนหลัวหวางมีชื่อใหม่ในชาติภพนี้ว่า 'หยูหนิง' เกิดในครอบครัวสกุลหยูที่มีฐานะค่อนข้างดี ทว่าตอนที่หยูหนิงเกิด ในห้องคลอดนั้นไร้เสียงร้องของทารกให้ได้ยิน มีเพียงความเงียบที่แผ่ขยาย ไม่ว่าคุณหมอหรือนางพยายาลจะใช้วิธีไหน เด็กน้อยก็เพียงแค่นอนมองตาเเป๋วข่าวร้ายที่มาพร้อมการเกิดของลูกสาวทำให้ผู้เป็นเเม่เเทบหัวใจสลาย สามีที่เป็นช่างภาพไปถ่ายงานนอกสถานที่ เกิดอุบัติเหตุรถที่โดยสารพลิกคว่ำ เพราะคนขับรถบัสประมาทจึงทำให้สามีเสียชีวิต ทว่าคนในตระกูลหยูกลับพากันกล่าวโทษว่าเพราะลูกสาวเธอเป็นตัวซวยเฮอะ สารเลว...เด็กเกิดมาจะไปรู้เรื่องอะไร รถบัสพลิกคว่ำเพราะคนขับหลับใน

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   กำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ (1)

    โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมือง X ประเทศจีนภายในห้องคลอดที่กำลังวุ่นวาย เเพทย์เเละพยาบาลต่างวิ่งวุ่นทำงานเเข่งกับเวลา บนเตียงนอนสีขาวสะอาดตามีร่างหญิงสาวนอนกระสับกระส่ายอยู่ พร้อมเสียงออกคำสั่งของคุณหมอผู้ทำคลอดดังเร่งเป็นช่วงๆ“คุณนายหยู เบ่งอีกค่ะ...เบ่งอีก ใกล้เเล้ว...เด็กใกล้คลอดเต็มทีเเล้ว” ภายในห้องคลอดวุ่นวายกับการต้อนรับอีกหนึ่งชีวิตใหม่ที่กำลังจะกำเนิด ด้านนอกห้องมีหญิงชายคู่หนึ่งชะเง้อมองผ่านกระจกอย่างรอคอย เเม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นเหตุการณ์ด้านในได้ก็ตามในขณะที่ทั้งคู่พยายามเพ่งมองผ่านกระจกอยู่นั้น ร่างโปร่งเลือนรางของวิญญาณผู้หญิงคนหนึ่งก็ลอยผ่านหน้าพวกเขาไป ร่างเรืองเเสงนั้นลอยไปหยุดหน้าเตียงหญิงท้องแก่ใกล้คลอด ก่อนที่รูปลักษณ์เเบบหญิงสาวจะเเปรเปลี่ยนกลายเป็นกลุ่มเเสงขนาดใหญ่ เเล้วพุ่งเข้าหาหน้าท้องกลมนั่นทันทีฟิ้ว...!ยังไม่ทันที่วิญญาณหญิงสาวผู้นั้นจะพุ่งเข้าไปเกิดในครรภ์คนบนเตียง ฉับพลันกลับมีลูกบอลเเสงสีเรื่อพุ่งเข้ามาจากทิศทางข้างหน้าต่างห้อง เบียดกลุ่มเเสงของวิญญาณหญิงสาวจนเธอกระเด็นออกจากเป้าหมายทะลุผนังห้องไปอีกด้าน เธอมองภาพนั้นพลางกรีดร้องโวยวาย ดวงตาเห็นเจ้าลูกกล

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   แค่เริ่มก็ล่มแล้ว (3)

    ยายเมิ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าท่านเทพดื่มน้ำแกงเยอะเกินกว่าที่กำหนด นางจึงรีบอ้าปากหมายกล่าวคำห้ามปรามทันทีปึ้ก!เฮ่ยเสี่ยวอู่พลันกระทืบเท้ายายเมิ่ง หยุดการกระทำของอีกฝ่ายไว้อย่างรวดเร็ว ก่อนจะคว้ากระบวยจากเฮ่ยเสี่ยวฉางมาตักน้ำเเกงใส่ในชามจนเต็มอีกครั้ง“แต่สองชามนั้นมีไว้สำหรับเทพทั่วๆ ไป เทพที่มีพลังระดับตี้จวินต้องสามเท่านั้นถึงจะพอ” ดวงตาคู่งามตวัดมองหน้าคนพูดอยู่ครู่หนึ่ง ท่ามกลางความใจหายใจคว่ำของเฮ่ยเสี่ยวอู่และเฮ่ยเสี่ยวฉาง ท่านเทพบรรพกาลก็ยกชามน้ำแกงขึ้นดื่มเป็นครั้งที่สาม ก่อนจะออกคำสั่งน้ำเสียงราบเรียบ“ข้าจะไปแล้ว พวกเจ้าจัดการเรื่องวิญญาณต้นไม้นั่นอย่าให้เกิดผิดพลาดได้เล่า” สั่งจบร่างสูงก็ก้าวเดินขึ้นสู่สะพานอนิจจังอย่างสง่างามเพื่อเข้าสู่วัฏสงสารในทันที“เสี่ยวอู่ ทำอย่างไรดี น้ำเเกงตั้งสามชาม หากเป็นวิญญาณคนธรรมดากินมากกว่าหนึ่งชาม ก็ต้องไปเกิดเป็นคนสติไม่สมประกอบเเล้ว” “นั่นเเหละที่ต้องการ หากตี้จวินเป็นเช่นนั้นย่อมไม่มีทางระลึกถึงเรื่องราวของตนเองในภพเทพได้แน่นอน ส่วนพวกเราก็เเค่รีบหาวิญญาณต้นไม้นั่นให้พบโดยไว แล้วนำนางกลับมายังภพนี้ จากนั้นค่อยสร้างเห

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   แค่เริ่มก็ล่มแล้ว (2)

    “เอามา!” เมื่อเห็นว่าพูดไปอย่างไรก็ไม่ชนะเป็นแน่ เฮ่ยเสี่ยวอู่จึงกัดฟันไม่โต้ตอบอีกฝ่าย พลางยื่นมือออกมาข้างหน้าด้วยท่าทีบ่งบอกถึงความมีโทสะ“ขอบใจมากนะ…เสี่ยวอู่” เฮ่ยเสี่ยวฉางจับมือที่ยื่นมาดึงตนเองลุกพลางเอ่ยอย่างซาบซึ้ง ถึงแม้จะปากร้ายหน้าตาไม่รับแขกตลอดเวลา แต่เสี่ยวอู่ก็ยังมีน้ำใจกับเขาเสมอ ในใจยมทูตชุดขาวพลันรู้สึกตื้นตันจนต้องบีบกระชับมืออีกฝ่ายเเรงๆ“...” เฮ่ยเสี่ยวฉาง...ไอ้เจ้ายมทูตสมองมีปัญหาเฮ่ยเสี่ยวอู่สะบัดมืออีกฝ่ายทิ้งก่อนจะถลึงตาดุดันใส่ พลางเอ่ยเสียงลอดไรฟันด้วยท่าทีคล้ายหมดความอดทน “เอา-วิญ-ญาณ-นาง-ต้น-ไม้-มา-ให้-ข้า” “วิญญาณนั่นอยู่กับข้าที่ไหนกันเล่า” ยมทูตชุดขาวพลันแยกเขี้ยวยิงฟันตอบ ก่อนจะถามกลับอย่างหงุดหงิด “เจ้าเป็นคนรับนางไว้ได้ไม่ใช่หรือ” เฮ่ยเสี่ยวอู่ฟังแล้วส่ายหน้าพรืด” ข้าโดนเจ้าขัดขวาง เมื่อครู่ยังไม่ทันได้แตะถูกนางเลย จะไปอยู่กับข้าได้อย่างไรเล่า โง่เง่า!” เขาถูกอีกฝ่ายขัดจังหวะจะไปรับเจ้าลูกเเสงนั่นได้ตอนไหน ช่างไม่รู้จักคิดเอาเสียเลย เฮ่ยเสี่ยวฉางผู้นี้“ไม่ได้อยู่ที่ข้าเเละก็ไม่ได้อยู่ที่เจ้า เช่นนั้นเเล้วนางอยู่ที่ไหนกัน” เฮ่ยเสี่ยวอู่พลันเกิ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   แค่เริ่มก็ล่มแล้ว (1)

    เหยียนหลัวหวางก้าวเดินออกมาด้านนอกด้วยดวงตาแดงระเรื่อ สองมือโอบประคองก้อนเเสงกลมๆ อย่างทะนุถนอม หากรู้ล่วงหน้าว่าเจ้าเทพจอมอันธพาลนั่นจะมาเยือน เขาคงพาอิ๋งอิ๋งน้อยไปซ่อนให้ไกลแล้ว จะได้ไม่ต้องเสียนางให้แก่อีกฝ่ายเช่นนี้ยิ่งคิดผู้ปกครองแดนนรกภูมิยิ่งยากจะทำใจ และในขณะที่กำลังจมอยู่กับความโศกานั่นเอง บุคคลในชุดดำและขาวคู่หนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้ พร้อมเสียงทักทายแสดงความเคารพจากผู้มาใหม่“คารวะเหยียนหลัวหวาง”“เฮ่ยเสี่ยวอู่ เฮ่ยเสี่ยวฉาง” เหยียนหลัวหวางขานชื่อสองยมทูตตรงหน้า “พวกเจ้ามาก็ดีแล้ว จงนำนางไปเกิดใหม่ที่เดียวกับตี้จวินโดยเร็วเถิด ชักช้าไปเวลาบนโลกมนุษย์จะทำให้คลาดเคลื่อนกัน”เห็นสีหน้าสองยมทูตมีความงุนงง เหยียนหลัวหวางพลันนึกขึ้นได้ว่าทั้งคู่เพิ่งมาถึงยังไม่รู้เรื่องราว จึงบอกเล่าให้ฟังอย่างคร่าวๆ ก่อนจะตัดใจส่งลูกเเสงก้อนกลมในมือให้เฮ่ยเสี่ยวฉางรับไป จากนั้นพญายมราชจึงหมุนกายเดินกลับห้องทำงานตนเองทั้งน้ำตา เขาทำใจไปส่งนางด้วยตนเองไม่ได้จริงๆ‘โธ่...อิ๋งอิ๋งน้อยของข้า’เฮ่ยเสี่ยวอู่มองก้อนกลมที่สว่างเรื่อบนมือเฮ่ยเสี่ยวฉาง ก่อนจะมองหน้าสบตากันอย่างไร้คำพูดอยู่ครู่หนึ่ง บางทีเทพเจ

  • สามชาติ สองภพ จบปรารถนา   บทนำ

    “ด่านรัก!” เหยียนหลัวหวางร้องตะโกนเสียงดังลั่น ดวงตาผู้ยิ่งใหญ่เเห่งเเดนยมโลกมองบุรุษเบื้องหน้าด้วยเเววเหลือเชื่อ นี่เทพนอกคอกผู้นี้คิดจะสร้างความวุ่นวายอะไรให้เเก่พวกเขาอีกยามนี้เเดนสวรรค์ถูกปกครองโดยเง็กเซียนฮ่องเต้ เหล่าเทพรุ่นใหม่ถือกำเนิดขึ้นปานดอกเห็ด ทว่าบรรดาเทพยุคเก่ากลับเริ่มเสื่อมถอย ในหมู่เทพบรรพกาลนอกขอบฟ้า หลายองค์บ้างถึงกาลเเตกดับ บางองค์ก็ลงไปเผชิญกับด่านเคราะห์เล่นเเก้เบื่อเเต่นั่นไม่ใช่กับผู้ที่กำลังอยู่ตรงหน้าเขา จอมเทพนอกฝั่งฟ้าผู้นี้หาได้เคยให้ความสนใจแก่ผู้ใด อีกทั้งยังมีความเป็นมาลึกลับเกินกว่าจะกล่าวถึง เพราะเทพบรรพกาลองค์นี้ถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไรนั้น ไม่มีผู้ใดสามารถให้คำตอบได้ เเม้เเต่เหล่าเทพในยุคก่อนด้วยกันเองก็ตามเนื่องด้วยเขานั้นไร้ตัวตนอย่างยิ่ง ทำให้แม้แต่บนหินสามชาติก็หาได้มีชื่อสลักดั่งผู้อื่น นับว่าเป็นเทพที่อยู่นอกเหนือกฎเกณฑ์ทั้งปวง ไร้ซึ่งความเป็นมา ไร้นามให้ขับขาน ดังนั้นเหล่าบรรดาเทพเซียนทุกตนจึงพากันขนานนามอีกฝ่ายว่า ‘ตี้จวิน’ จนติดปากเเต่พลังของเทพนอกฝั่งฟ้าผู้นี้กลับมิได้ไร้ตัวตนเหมือนสถานะของเขาแม้แต่น้อย เมื่อรวมเข้ากับนิสัย ‘มองหน้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status