LOGINกุ้งตัวขนาดกลางถูกนำไปผัดกับกระเทียมพริกไทย แล้วเสร็จจึงราดลงบนข้าวต้มที่ต้มข้าวได้บานสวยงามมาก แล้วตักน้ำมันจากกระทะราดตามลงไป ตกแต่งด้วยผักชี ภาษิตตักอาหารเช้าเข้าปาก เคี้ยวชิมรสชาติว่าจะผ่านหรือไม่ น้อมกับต่ายถึงกับยืนลุ้น “อร่อยมาก”
น้อมกับต่ายต่างพากันโล่งอกและยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำชมจากปากภาษิต ที่ตักอาหารเข้าปากต่อเนื่อง พัฒนากับกนกวรรณได้ยินคำชมจึงตักอาหารใส่ปากบ้าง
“ไม่น่าเชื่อเลยนะว่า แกสองคนทำอาหารครั้งแรกจะอร่อยขนาดนี้ มันอร่อยมากๆ เลยนะ” กนกวรรณชมจากใจ ตักอาหารกินต่อเนื่อง
“แกสองคนมีฝีมือเหมือนกันนะเนี่ย” พัฒนาชมอีกคน
“ได้กินอาหารแปลกๆ ก็ดีนะครับคุณพ่อคุณแม่ รู้สึกตื่นเต้นยังไงไม่รู้”
“ที่ตื่นเต้นเพราะรู้ว่าเป็นฝีมือของน้อมกับต่ายไงล่ะ ก็รู้ๆ กันอยู่ว่านางทั้งสองทำกับข้าวเป็นซะที่ไหน แม่ยังจำได้เลยนะว่า บอกให้น้อมไปทอดไข่ดาว มันก็ยังทอดจนไหม้เกรียม” กนกวรรณพูดติดตลก “เนี่ยยังทึ่งอยู่นะว่า ทำครั้งแรกแต่ทำไมรู้สึกเหมือนกับว่า ทำอาหารมานับร้อยครั้ง อร่อยเกินเบอร์เลย”
“ก็น้อมทำตามที่เขาบอกไงคะ ทำตามทุกขั้นตอน เครื่องปรุงเป๊ะๆ ทุกอย่างค่ะ มันก็เลยอร่อยตามสูตรค่ะคุณผู้หญิง ต้องชื่นชมสูตรค่ะ สูตรเขาเจ๋งจริง”
น้อมแก้ตัว นึกดีใจแทนพรนับพันที่ได้รับคำชมจากทั้งสาม ทว่าอีกใจก็อยากบอกความจริงไปว่า ใครกันแน่ที่เป็นคนทำอาหารมื้อนี้ เพราะต้องการให้เจ้านายชมถูกคนมากกว่า แน่นอนว่าคนที่ได้รับคำชมต้องดีใจมากแน่นอน แต่ก็ต้องระงับสิ่งที่คิดไว้ เนื่องจากพรนับพันขอร้องไว้ว่าให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ
“สูตรเขาดีนะ อร่อยมากๆ เลย เหมือนลงตัวทุกอย่าง เจ้าของสูตรเปิดร้านอาหารได้สบายเลยนะ” พัฒนาเห็นด้วยเช่นกัน “ว่าแต่ก้อยไม่สบาย เป็นไงมั้ง ต้องไปหาหมอไหม”
“ป้าก้อยกินยาพาราไปแล้วค่ะ ตอนนี้หลับอยู่ ต้องรอแกตื่นถึงจะรู้ว่าแกค่อยยังชั่วไหม” น้อมตอบ
“ถ้ายังไม่หายก็ไปหาหมอนะ ก่อนไปมาเอาเงินที่ฉัน แล้วให้บุญขับรถพาไปโรงบาล”
“ค่ะคุณผู้ชาย” น้อมรับคำ จากนั้นไปจัดเตรียมชาและกาแฟมาเสิร์ฟให้เจ้านาย
พรนับพันที่แอบยืนฟังคำชมอยู่ตรงประตูห้องกินข้าวยิ้มหน้าบาน เมื่อได้ยินคำพูดและได้เห็นสีหน้าของสามพ่อแม่ลูกที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ข้าวต้มกุ้งพิโรธของตนอร่อย เธอยิ้มกับภาพที่เห็น ก่อนหมุนตัวเดินออกห่างประตูบานนั้น ก้าวเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน กลับไปอยู่ในโลกของเธอในห้องนอนอันเงียบเหงา
พีรภัทรเกิดอาการเซ็งอย่างหนัก เป็นอาการที่เกิดขึ้นนานแรมเดือนหรือตั้งแต่เขาแต่งงานกับพรนับพัน หญิงสาวที่ไม่ปรารถนาจะใช้ชีวิตคู่ด้วย แต่ก็ขัดพินัยกรรมของนพรุจคนเป็นปู่ไม่ได้ ตอนแรกเขาดีใจที่พินัยกรรมระบุว่า ตนจะต้องแต่งงานกับทายาทของศักดิ์ชัย เพื่อนสนิทที่รักกันมานานของนพรุจ บ้านใกล้เรือนเคียงที่เป็นเพื่อนบ้านกันมานานห้าสิบปี เพราะคิดว่าหญิงสาวที่ตนต้องแต่งงานด้วยคือ พลอยพรรณ ลูกสาวเพียงคนเดียวของคฑาเทพทายาทเพียงคนเดียวของศักดิ์ชัย ทว่าความคิดนั้นกลับไม่ใช่ คนที่เขาต้องแต่งงานด้วยคือ พรนับพัน บุตรบุญธรรมของคฑาเทพที่ถือว่า เป็นทายาทคนหนึ่งของตระกูลรัตนะเรือง
เมื่อเซ็งและไม่อยากเห็นหน้าพรนับพัน เขาจึงไม่กลับบ้านใช้คอนโดหรูที่ซื้อไว้เพื่อปล่อยให้เช่า หาความสุขกับบรรดาสาวๆ ที่ซื้อมา ดีกว่ากลับไปหลับนอนกับหญิงสาวที่ไม่พิศวาส สถานที่แห่งหนึ่งที่เขามาบ่อยๆ เพื่อคลายเครียดคือ ไนท์คลับรีเจนซี่
สถานบันเทิงแห่งนี้แบ่งออกเป็นสามโซน โซนแดนซ์ โซนร้านอาหารและโซนเล้าจ์ โซนที่พีรภัทรนั่งดื่มโดยมีสาวสวยคอยบริการคือโซนเล้าจ์ โซนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าที่ต้องการมีความเป็นส่วนตัวมาใช้บริการ อย่างเช่นพบปะลูกค้า เพื่อนนักธุรกิจหรือเพื่อนสนิทมิตรสหาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้ชาย แต่ก็มีสตรีที่มากับคู่รักหรือมากับเพื่อนมาใช้บริการเช่นกัน
พีรภัทรนั่งอยู่บนโซฟานวมบุหนังเนื้อดี ค่ำคืนนี้เขาไม่มีสาวสวยคอยนั่งเอาอกเอาใจเพราะอยากนั่งดื่มเงียบๆ คนเดียว ขณะที่เขากำลังนั่งดื่มด้วยอารมณ์เซ็งสุดใจ สตรีนางหนึ่งได้เดินมานั่งใกล้กับร่างเขา
“พี่พีคะ” พีรภัทรหันมามองหน้าต้นเสียง เขายิ้มกว้างเมื่อรู้ว่าคือใคร
“พลอย มาได้ไงเนี่ย” พีรภัทรทักพลอยพรรณ หญิงสาวข้างบ้านที่เขาพอใจในรูปร่างหน้าตาและความน่ารักสดใสมาตั้งแต่เธออายุสิบหกปี ในเวลานั้นพรนับพันมีอายุสิบแปดปี ส่วนเขาอายุ ยี่สิบห้าปี
“พลอยมากับเพื่อนค่ะ” พลอยพรรณชี้ไปยังโต๊ะที่นั่งกับเพื่อนๆ ที่มีทั้งชายและหญิง “พลอยเห็นพี่พีก็เลยเข้ามาทักค่ะ แล้วนี่พี่พีมาคนเดียวหรือคะ”
“ใช่พี่มาคนเดียว พอดีเซ็งๆ เบื่อๆ ก็เลยมานั่งดื่ม นั่งฟังเพลง” เขาตอบ
“พลอยได้ข่าวว่าพี่พีไม่กลับบ้านเลยนับตั้งแต่วันที่แต่งงานกับพี่หมิว”
ที่พลอยพรรณรู้ เพราะคนใช้ทั้งสองบ้านมักพูดคุยกันเสมอ ส้มจีนนำเรื่องมาคุยให้ป้านุ้ยฟัง ป้านุ้ยจึงนำเรื่องนี้มาบอกตน
ภรรยาไร้ใจ Chapter 5เครื่องบินส่วนตัวสุดหรูที่บินอยู่เหนือฟากฟ้า กำลังนำพาผู้โดยสารไปยังเกาะซิซิลี เกาะที่ถูกขนานนามว่าสวยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก เจ้าของยานพาหนะนั่งจิบบรั่นดีอย่างสบายอารมณ์ สายตามองไปยังลูกสาวลูกหนี้ที่ตนเพิ่งใช้กลอุบายเพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ไม่ว่านาราลักษณ์จะไม่เต็มใจหรือไม่ก็ตาม ก่อนหน้านี้สองชั่วโมงสามสิบนาที มาร์โก้เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นอีกครั้งพร้อมลักขณาและนาราลักษณ์ อันโตรเนียลเล่มองสามคนที่เข้ามานั่งบนโซฟาราวกับตนเองเป็นเจ้าของบ้าน “ตกลงว่าไงครับ” อันโตรเนียลเล่ถามลูกหนี้ “ตกลงตามที่คุณต้องการ” คนตอบคือนาราลักษณ์ เจ้าหนี้หันไปมองเจ้าของเสียงแล้วกระตุกยิ้ม “แต่ฉันต้องแน่ใจก่อนว่าคุณทำตามที่พูดจริง” นาราลักษณ์ต้องรอบคอบไว้ก่อน “ผมจะจ่ายหนี้ของเอริคให้ตอนนี้เลย ส่วนหนี้สินของคุณอา ผมเคลียร์ให้ครึ่งหนึ่งก่อน ส่วนอีกครึ่งจะหมดก็ต่อเมื่อครบสัญญา” คำตอบของเจ้าหนี้ เรียกความสงสัยให้นาราลักษณ์มาก “ครบสัญญา” นาราลักษณ์ทวนคำ “สัญญาอะไร” “แม่ลืมบอกลูกน่ะว่า ลูกต้องไปอยู่กับคุณอันโตรห้าปี แล้วในระยะเว
ภรรยาไร้ใจ Chapter 4 เขาไม่ใช่คนร่ำรวยถึงขั้นเศรษฐี ไม่ขัดสนเรื่องเงิน จัดอยู่ในระดับพอมีพอกินมีอู่ซ่อมรถของบิดาเลี้ยงคอยเลี้ยงครอบครัว และมีบริษัมรับเหมาก่อสร้างของตัวเองอีกหนึ่งบริษัท ที่ต้องใช้เงินหมุนในการบริหารเงิน เธอเชื่อว่าหากตนออกปากยืมเงินเขา พีระพลต้องให้ หากมีไม่พอก็จะหาให้จนได้ ทว่านาราลักษณ์กลัวว่าจะกระทบกับงานของเขา เธอถึงกับคิดหนัก ทว่าหากไม่คิดทำอะไรเลยก็ไม่ได้ มาร์โก้มีบุญคุณกับตนและมารดามาก หากไม่มีเขา ก็ไม่มีนาราลักษณ์ในวันนี้ ป่านนี้เธอคงอยู่กับพ่อที่รักแต่เหล้ามากกว่าลูกเมีย คงไม่ได้เรียนหนังสือสูงๆ มีที่กินที่อยู่อย่างสุขสบาย ตรงกันข้ามหากตนยอมไปเป็นภรรยาอันโตรเนียลเล่ ชายที่ไม่ได้รัก ความรู้สึกคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น ขณะที่นาราลักษณ์กำลังจมอยู่กับความคิดตัวเอง มาร์โก้ได้เดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าค่อนช้างซีด เขามองไปยังสามคนที่รักสุดหัวใจทั้งน้ำตา “นารา เจนนี่” มาร์โก้เรียกชื่อเล่นลูกสาวทั้งสองคน “ไม่ต้อง...โอ๊ย” ยังไม่ทันที่มาร์โก้พูดจบประโยค ความตกใจเกิดขึ้นกับลักขณา นาราลักษณ์และลักษมีเมื่อมาร์โก้เจ็บหน้าอกมาก มือข้างขวาจ
ภรรยาไร้ใจ Chapter 3 “พี่รู้ไหมว่าใครมาบ้านเรา” ลักษมีถามพี่สาว “ไม่รู้ ใครมาล่ะ” “เจ้าหนี้ป๊ะป๋า” “เจ้าหนี้ป๊ะป๋างั้นเหรอ” นาราลักษณ์ตกใจและงุนงง “ป๊ะป๋ามีหนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ไม่รู้เรื่องล่ะ” คนที่นั่งในห้องรับแขกคงเป็นลูกน้องของเจ้าหนี้มาร์โก้ นาราลักษณ์รู้สึกได้ว่า เจ้าหนี้คนนี้คงไม่ธรรมดาแน่นอน และจำนวนหนี้ก็ต้องสูงมาก ไม่เช่นนั้นคงไม่เดินทางมาทวงถึงที่ “พูดเหมือนแม่เลย แม่ก็พูดแบบนี้” ลักษมีพูดขึ้น “เข้าไปคุยกันตั้งนานแล้วนะพี่นารา ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า” “แล้วแม่ล่ะ แม่อยู่ไหน เข้าไปคุยด้วยหรือเปล่า” “อยู่ค่ะ เข้าไปพร้อมกัน” “เจนนี่รู้จักเจ้าหนี้ป๊ะป๋าหรือเปล่า” “ไม่รู้จักค่ะ รู้แค่ว่าหล่อลากไส้” ความที่ลักษมีอายุเพียงสิบเก้าปี เธอจึงเพ้อฝันตามประสาสาวแรกรุ่น อีกทั้งยังไม่รู้เรื่องภายนอกมานัก เนื่องจากลักษมีถูกเลี้ยงราวกับไข่ในหิน “แม่ออกมาแล้วพี่นารา” สองพี่น้องรีบเดินไปหาลักขณาที่เวลานี้น้ำตานองหน้า “แม่เป็นอะไรคะ แม่ร้องไห้ทำไม” นาราลักษณ์ถามมารดา
ภรรยาไร้ใจ Chapter 2 “หนูว่าหนูถามตรงๆ เลยดีกว่า มัวแต่มาคิดกันเองถามกันเองไม่ดีแน่ ถ้าป๊ะป๋ามีปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ หนูจะได้ช่วยคิด ช่วยหาทางออก”แม้ว่ามาร์โก้ไม่ใช่พ่อบังเกิดเกล้า แต่เขาก็เป็นพ่อที่เลี้ยงดูตนมาตั้งแต่อายุแปดขวบ จนตอนนี้นาราลักษณ์อายุยี่สิบเจ็ดปี สิบเก้าปีที่อยู่ด้วยกัน มาร์โก้ให้ความรัก ความอบอุ่นไม่ต่างกับเธอเป็นลูกคนหนึ่ง หากมาร์โก้มีปัญหาหรือเดือดร้อนเรื่องใดก็ตามแต่ หญิงสาวพร้อมช่วยเหลือเต็มที่ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะลำบากยากเย็นมากแค่ไหนก็ตาม“เอาไว้ตอนเย็นก็ได้ลูก รอดูไปอีกสักพัก หนูมีนัดกับพี่พลไม่ใช่เหรอ รีบไปเถอะ” พลคือพีระพล คู่รักที่คบหากันมานานสามปีและเป็นคู่หมั้นของนาราลักษณ์ แพลนแต่งงานของทั้งคู่คือกลางปีหน้า“ค่ะ เย็นนี้หนูจะพูดกับป๊ะป๋าค่ะ” นาราลักษณ์ตอบกลับมารดา “หนูไปก่อนนะคะแม่” นาราลักษณ์หอมแก้มมารดา ก่อนเดินออกจากห้องครัว ตรงไปยังรถยนต์ของตน จากนั้นจึงขับรถออกไปจากบ้าน จุดหมายของเธอคือห้างสรรพสินค้ากลางมิลาน สถานที่นัดหมายกับคนรัก สองหนุ่มสาวที่เดินเคียงคู่กัน โดยฝ่ายชายโอบบ่าฝ่ายหญิงแสดงถึงสถานะคนรักอย่างชัดเจน ทั้งสองเดินดูสินค้า
ภรรยาไร้ใจ Chapter1งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดอดีตมาเฟียชื่อดังของอิตาลี ที่คลุมพื้นที่กว่าสามเมือง มิลาน โรมและเกาะซิซิลีต้องไม่ธรรมดา งานถูกจัดขึ้นในโรงแรมหรูกลางกรุงโรม เมื่อเจ้าของงานเป็นมาเฟีย แขกที่มาร่วมงานเกินครึ่งเป็นมาเฟียที่มาจากหลายที่หลายทาง และต่างระดับชั้น หรือพูดได้ว่ามาเฟียใหญ่ไล่ลงไปถึงมาเฟียระดับล่าง หนึ่งในกลุ่มมาเฟียที่มาร่วมงานนี้คือมาร์โก้ เขาไม่ได้เป็นมาเฟียเสียทีเดียว แต่เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จหลายอย่างของมารูแอล เดอมาร์ชี เจ้าของงานในวันนี้ ก่อนจะหันหลังจากวงการนี้หลังจากภรรยาคลอดลูก เขาอยากใช้ชีวิตแบบสงบ อยู่กับครอบครัวของตน หลังจากมาร์โก้เดินเข้าไปในงานไม่ถึงหนึ่งนาที ร่างระหงของสตรีวัยยี่สิบเจ็ดปีที่สะกดทุกสายตาให้มองมายังเธอเป็นตาเดียว ได้เดินเข้ามาภายในงานด้วยท่าทางสง่างาม เธอสวมชุดราตรีแบบเกาะอกสีแดงเพลิง ขับกับสีผิวขาวนวลเนียน เครื่องหน้าไม่ได้แต่งจัดจ้าน แต่งบางเบาทว่าสวยจับใจ เส้นผมเป็นลอนคลื่นพลิ้วไหวตามแรงเดินของเจ้าตัว ยิ่งทำให้ดวงหน้าเธอมีเสน่ห์มากขึ้น อันโตรเนียลเล่ เดอมาร์ชี ลูกชายเพียงคนเดียวของมารูแอล
วิวาห์ไร้เสน่หา Chapter 27“อา...พี่พุฒิ...อา” สาวใต้ร่างครางกระเส่า เมื่อพุฒิวัตรเพิ่มพละกำลังในการเสพสมทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เข้าลึกล้ำสุดเส้นทางรัก อัดกระแทกเมามัน โดยร่างสาวยกก้นสูงส่ายร่อนรับแรงรักของสามีเขารับรู้ได้จากอาการเกร็ง ช่องทางสวรรค์เริ่มห่อตัวกระชับอาวุธชายเป็นจังหวะ พุฒิวัตรจึงกระตุ้นความปรารถนาของเมียรักให้บรรลุเป้าหมาย ฝ่ามือใหญ่คลึงเคล้นดอกบัวงาม ขยำจนเกิดรอยฝ่ามือ บี้บดยอดถันและดึงรั้ง ปั่นด้วยมือ พร้อมเพรียงกับเอวใหญ่ซอยระรัว เร่งให้เธอลอยตัวขึ้นสู่สวรรค์ชั้นฟ้าเป็นความสุขที่วิ่งเข้าหาตัวพราวพรรณสองครั้งติดกัน เพราะพุฒิวัตรเร่งเครื่องยามเธอบรรลุจุดหมาย ซอยระรัวด้วยความเร็วแรงเต็มพิกัด ทรวงอกสาวถูกปากและลิ้นเขาแทะเล็ม ร่างสวยสั่นสะท้านจากความเสียวสยิวที่แทรกทุกอณูเนื้อ“โอ้ว...พระเจ้า...พราวจ๋า...ดีเหลือเกิน...ที่รัก” กล้ามเนื้อสาวตอดรัดเอกบุรุษเป็นจังหวะ รัดแน่นจนเขาอยากระเบิดความสุขเสียตอนนี้ เขาทำได้แต่ไม่ทำ อดกลั้นไว้เพราะต้องการเสพสมกับเธอนานกว่านี้พุฒิวัตรหยุดเคลื่อนไหวชั่วคราว ขยับตัวลงนั่งโดยรั้งร่างแน่งน้อยตามมาด้วย ส่งผลให้เวลานี้เธอนั่งคร่อมแก่นกา







