Share

บทที่ 9

Author: Mu lingxi
last update Last Updated: 2025-09-19 16:23:43

บทที่ 9

เขาทรุดลงคุกเข่าข้างเดียว มือขวากดแน่นที่อก

คล้ายกำลังฝืนรับความเจ็บปวดที่แล่นผ่านสติ ผ้าคลุมหนาทึบปิดบังตั้งแต่ศีรษะจรดไหล่ เหลือเพียงเศษเสี้ยวที่เผยออกมา

แต่ก็ยังซ่อนด้วย หน้ากากเงินครึ่งซีก

แม้ไร้ถ้อยคำใดเล็ดรอด แต่แววตาที่ลอดผ่านหน้ากากนั้น…

เย็นชาประหนึ่งธารน้ำแข็งพันปี แผ่กระแสกดดันบาดลึกเข้าถึงจิตวิญญาณ

หลินเยว่ซินรู้สึกได้ทันทีนี่มิใช่เพียงมือสังหารธรรมดา

หากแต่เป็นศัตรูที่น่าหวั่นเกรงยิ่งนัก

ปลายนิ้วของบุรุษในชุดดำสะบัดเบาๆ แสงขาววาบหนึ่งพุ่งแหลมคมออกมา กลิ่นอายสังหารหนาแน่น ปะปนราวกับจะฉีกทึ้งทุกสิ่งตรงหน้า

นางขมวดคิ้วแน่นใบหน้าเคร่งขรึมลงทันใด นางเบี่ยงกายด้วยฝีเท้าแปลกพิสดาร ก้าวแต่ละก้าวราวกับซ้อนเงากับแสง แวบหายแล้วปรากฏใหม่ในชั่วพริบตา

แม้จะหลบได้ แต่หลินเยว่ซินก็รู้หากเป็นการโจมตีเต็มพลังของเขา นางเกรงว่าจะมิอาจรอดพ้นได้เช่นนี้แน่นอน

เสียงเข้มเย็นของนางดังขึ้นท่ามกลางแรงกดดัน

“เจ้าคือผู้ใดกันแน่!”

เสียงก้องในความเงียบกลางราตรี แววตาสีม่วงคมกริบฉายประกายเย็นยะเยือก

ในยามดึกเช่นนี้ยังมีผู้กล้าบุกรุกเข้ามาในเรือน

แถมทำร้ายสาวใช้คนสนิทของตน แล้วหันคมสังหารใส่นางอีก

มีหรือที่นางจะอารมณ์ดีได้

บุรุษในชุดดำคล้ายหมดสิ้นเรี่ยวแรงไปจริงๆ

การโจมตีเมื่อครู่ ได้กลืนพลังเฮือกสุดท้ายของเขาไป

ร่างกายเขาโงนเงน ก่อนจะล้มฟาดลงนอนแนบพื้นโดยไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน

หลินเยว่ซินยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง

ก่อนตัดสินใจสาวเท้าเข้าใกล้ ทว่าก้าวไปได้เพียงไม่กี่ก้าว

นางก็หยุดลง นิ้วเรียวเคลื่อนไหวว่องไว เข็มเงินสิบกว่าเล่มถูกปล่อยออกมาราวสายฝน พุ่งแทงเข้าจุดสำคัญทั่วร่างตรงหน้ารวดเร็ว แม่นยำ

เมื่อผนึกชีพจรเสร็จสิ้น นางสะบัดฝ่ามือปัดฝุ่นเบาๆ

แววตาพึงพอใจ ก่อนย่อตัวลงนั่งยองๆ ข้างร่างชายผู้นั้น

ใครก็ตามที่แต่งกายมิดชิดในยามวิกาลเช่นนี้

หากไม่ใช่ ‘นักฆ่า’ จะเป็นใครไปได้

เสื้อคลุมดำสนิท หน้ากากเงินปิดบังใบหน้า ปรากฏกายในเรือนนางกลางค่ำคืนชัดเจนยิ่งกว่าดวงจันทร์บนฟ้า

เพื่อความปลอดภัย นางจำเป็นต้องผนึกเขาไว้ก่อน

ดวงตาสีม่วงก้มลงจับจ้อง ไล่สายตามองจากศีรษะลงไปจนถึงปลายเท้า

ทุกสิ่งที่เขาสวมใส่ตั้งแต่ผ้าเนื้อดี จนถึงอาภรณ์ที่ตัดเย็บอย่างประณีตบ่งบอกฐานะที่ไม่ธรรมดา ค่าตัวสูงลิ่วเกินกว่านักฆ่ารับจ้างทั่วไป

มุมปากของนางแย้มยิ้มเย็นบางๆ นางขยับมือ ล้วงค้นตรวจตามเนื้อตัวโดยไม่สนใจสายตาใคร

พูดตามตรงนางยังไม่ชินกับชุดโบราณเหล่านี้นัก จึงใช้เพียงสัมผัสปลายนิ้วเป็นหลักในการตรวจค้น

บุรุษหน้ากาก รับรู้สิ่งแรกที่นางทำ กลับเป็น… ลูบไล้ทั่วร่างเขา

เลือดในกายแทบเดือดพล่าน ดวงตาที่โผล่พ้นหน้ากากเงินแทบพ่นไฟออกมา หากไม่ติดที่ถูกปิดจุดจนขยับไม่ได้ เขาคงจะบีบคอนางให้ตายคามือไปแล้ว

เขากัดฟันแน่น เสียงตะคอกลอดไรฟันดังลั่น

“เจ้าคิดจะทำอะไร!?”

หลินเยว่ซินเอียงคอยิ้มเจ้าเล่ห์ ริมฝีปากคลี่ยิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน

“ทำอะไรน่ะหรือ ท่านบุกรุกเข้ามากลางวิกาล ยังกล้าทำร้าย สาวใช้ของข้า เช่นนี้ ไม่สมควรต้องชดใช้ทั้งค่ารักษาและค่าทำขวัญบ้างหรือ?”

น้ำเสียงนั้นเย็นเยียบแต่แฝงรอยหยอกเหย้า

มือเรียวยังคงลูบไล้ตามร่างชายในชุดดำ

ราวกับกำลังค้นหาเงินทองหรือสมบัติล้ำค่าโดยไม่สนใจความอึดอัดของเจ้าของร่างเลยสักนิด

บุรุษหน้ากากสะอึกดวงตาแทบพ่นไฟด้วยโทสะ โกรธจนเส้นเลือดปูดขึ้นบนขมับ

นาง… นาง… พฤติกรรมเช่นนี้ใช่สิ่งที่สตรีพึงกระทำกับผู้บาดเจ็บหรือไม่!

“เจ้า เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร” เสียงของเขาแหบต่ำ กัดฟันกรอด

หลินเยว่ซินคลำอยู่เกือบทั่วทั้งร่าง กลับไม่พบแม้แต่เหรียญเดียว ใบหน้างดงามเริ่มฉายแววไม่พอใจ นางฟาดมือลงบนอกเขาเสียงดัง

ปัง!

แล้วเชิดหน้าพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“สมัยนี้นักฆ่าออกงาน ไม่พกแม้แต่เงินติดตัวเลยหรือยังไง!“

นางไม่ได้ใส่ใจด้วยซ้ำว่าผู้เบื้องหน้าจะเป็นใคร

น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยโสโอหัง คล้ายไม่คิดลดตัวถามไถ่ให้ต้องหงุดหงิดใจ

ทว่าทันใดนั้นที่บริเวณเอวของ บุรุษหน้ากาก กลับแผ่วกระจายกลิ่นอายแปลกประหลาดออกมา

สายตาคมกริบของหลินเยว่ซินวูบไหว นางเอื้อมมือไปคว้าอย่างว่องไวและแม่นยำ ก่อนจะดึงบางสิ่งออกมาได้สำเร็จ

ภายใต้แสงจันทร์สีเงินอาบทั่วเรือน หญิงสาวยกสิ่งนั้นขึ้นมาพลิกดูด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ หยกสีม่วงใสบริสุทธิ์ ขนาดราวฝ่ามือส่องประกายราวแก้วผลึกอันล้ำค่า ตรงกลางแกะสลักลวดลายประหลาดที่บ่งบอกว่าไม่ใช่ของสามัญ

เพียงมองแวบเดียวก็รู้ นี่คือของล้ำค่าหาที่เปรียบไม่ได้

หลินเยว่ซินหัวเราะเบาๆ

ยกหยกขึ้นสูงแล้วเอ่ยเสียงใสปนหยอกเย้า

“เฮ้~~ ของดีเช่นนี้ ข้อขอนะ อยู่ในมือของข้าพอดีเลย~”

เสียงหวานแฝงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่ก็ยังคงความขี้เล่นน่าหมั่นไส้ที่สุดไว้

หญิงสาวแกว่งหยกในมือไปมาอย่างยียวน

แววตาเล่นสนุกปนความเย่อหยิ่ง ยิ้มระรื่นราวกับเด็กน้อยที่เพิ่งได้ของเล่นใหม่

ในเมื่อพรุ่งนี้นางก็ตั้งใจจะหนีออกจากจวนอยู่แล้ว

ก็ไม่เห็นความจำเป็นใดต้องรักษามารยาทอีกต่อไป

ที่นี่… ไม่มีสิ่งใดให้นางต้องจดจำเลยแม้แต่น้อย

“คอยดูเถอะ วันใดที่ข้ากลับมาอีกครั้ง หึหึ”

รอยยิ้มเย็นที่แต้มบนเรียวปากในเงามืด ราวกับมารร้ายในร่างสตรีน้อย พลันเผยเจตนาน่าขนลุก

“ถึงตอนนั้น…ทุกคนจะได้เห็นตัวตนที่แท้จริงของข้าว่าเป็นเช่นไรฮ่าๆๆ”

บุรุษชุดดำกัดฟันกรอด เลือดแทบพุ่งขึ้นหน้า

ชั่วชีวิต เขาไม่เคยพบสตรีใดที่อวดดี หน้าไม่อายถึงเพียงนี้

ปล้นหยกอันล้ำค่าของเขาไปหน้าตาเฉย แล้วยังกล้าสำราญ

นั่งยิ้มเยาะอยู่ตรงหน้า ราวกับเป็นเรื่องขบขัน

“นั่นเป็นของข้า! เจ้ายังไม่มีคุณสมบัติแม้แต่จะแตะต้อง”

เสียงของเขาดุดันกร้าวแกร่ง ประหนึ่งหยกชิ้นนั้นมีค่ามากกว่าลมหายใจของเขาเอง

หลินเยว่ซินกลับหัวเราะในลำคอ เบนสายตามองอย่างดูแคลน

“คำพูดเช่นนี้ของท่าน ข้าไม่ปลื้มเลยนะ”

นางเอนกายนั่งอย่างสบายอารมณ์ มือยังควงหยกเล่นไปมาอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“แต่เอาเถิด ถ้าเจ้าคิดว่าข้าไม่มีคุณสมบัติ… เชิญสิ มาชิงคืนไปด้วยมือของเจ้าเอง~”

จะให้ชิงคืน?

นางบ้าไปแล้วรึ ยังมีหน้าพูดได้อีกหรือ

ใครกันที่เพิ่งผนึกจุดชีพจรเขาจนขยับไม่ได้

แม้แต่ตอนนี้ต่อให้ไม่ถูกผนึกชีพจร เขาเองก็ยังไร้เรี่ยวแรงจะลุกขึ้น… เพราะพิษเย็นที่กัดกินในกาย กำลังแผลงฤทธิ์อย่างบ้าคลั่ง

“เจ้าจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำในคืนนี้”

เสียงชายหนุ่มก้องต่ำ เต็มไปด้วยโทสะสะท้านในอกขบฟันแน่นราวจะบดขยี้

แต่หญิงสาวกลับหัวเราะเบาๆ รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏบนเรียวปากงาม

“เจ้า… เป็นใครกันแน่เล่า คลุมหน้าคลุมตาซะราวกับมัมมี่…”

ม่านตาสีม่วงของนางหรี่ลง จ้องอีกฝ่ายเขม็ง ราวกับจะมองทะลุทุกสิ่งที่เขาพยายามปกปิดไว้

“หรือว่า… เจ้าแท้จริงมิใช่บุรุษ ข้าเริ่มสงสัยแล้วนะ

ว่าเจ้าอาจเป็นสาวงามปลอมเพศ!”

คำว่า ‘สาวงามปลอมเพศ’ หลุดจากเรียวปากดุจคมมีดเชือดเฉือนศักดิ์ศรีกรีดลึกถึงกระดูก

ใต้หน้ากากเงินครึ่งหน้า สีหน้าชายหนุ่มมืดดำในบัดดล ดวงตาสีเลือดวาวโรจน์ด้วยโทสะจนแทบระเบิด

‘นางผู้นี้เป็นใครกัน ถึงกล้าลบหลู่เขาถึงเช่นนี้’

เสียงทุ้มของบุรุษดังขึ้นเต็มไปด้วยโทสะ “เจ้าจะต้องชดใช้!”

เขาสาบานในใจว่าจะทำให้สตรีตรงหน้า

ต้องชดใช้จนไร้หนทางหวนกลับ

เพียงแค่เสี้ยวลมหายใจ หลินเยว่ซินกลับแย้มรอยยิ้มบางเบา

มือพลันฉวยโอกาสกระชากผ้าคลุมของเขาออกอย่างรวดเร็วโดยไม่ให้ทันตั้งตัว

พรึ่บ!

เส้นผมสีเงินยาวสลวยจรดเอว พลันสยายออกมาดั่งม่านน้ำตก

ทอประกายเจิดจ้าภายใต้แสงจันทร์ยามราตรี

ราวหยกเงินต้องแสงพร่างพราย

แสงเงาสะท้อนบนหน้ากากเงินที่เคยปิดบังใบหน้า ทำให้ภาพเบื้องหน้างดงามเยียบเย็นจนแทบหยุดลมหายใจ

ม่านตาสีม่วงของหลินเยว่ซินเบิกกว้าง “เรือนผม…สีเงิน!?”

โลกปัจจุบันก็แทบไม่มีผู้ใดจะควบคุมโทนสีเช่นนี้ได้ง่ายๆ

จะมีแต่พวกที่หลุดโลกหรือแหวกแนวสุดขั้วเท่านั้น

แต่บุรุษตรงหน้ากลับมิได้ดูตลกหรือแปลกตา… ตรงกันข้าม

มันช่างงามจับตาเสียจนยากจะละสายตา

มุมปากของนางกระตุกเบาๆ พลางพึมพำ “ดูท่าคงเป็นบุรุษรูปงามโดยแท้…”

ว่าพลาง นางยื่นมือออกหมายจะถอดหน้ากากของเขาออกให้ได้

“เจ้า! หยุดเดี๋ยวนี้!”

เสียงเย็นเยียบเฉกเช่นน้ำแข็งพันปี แผ่ซ่านออกจากปากชายหนุ่ม ราวกับอุณหภูมิรอบกายลดต่ำลงทันใด

“หืม?” หลินเยว่ซินเลิกคิ้ว ยิ้มมุมปากยียวน “ข้าไม่หยุดหรอก”

นางเป็นเช่นนี้เสมอ ใครบอกให้ไปทิศตะวันตก

นางจะหันไปตะวันออก ใครบอกห้าม นางกลับยิ่งอยากทำ

มือเล็กเคลื่อนไหวฉับไว หน้ากากเงินถูกถอดออกในพริบตา

ชายหนุ่มเบือนหน้าออกเล็กน้อย สีหน้าฝืนราวกับไม่ต้องการเผชิญสายตารังเกียจจากสตรีตรงหน้า

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้าม หลินเยว่ซินถึงกับกลั้นลมหายใจไปชั่วขณะ

เส้นผมสีเงินสยายพลิ้ว ดวงตาสีโลหิตสดราวโลหิตส่องประกายกลางความมืด

สวรรค์!

นางถึงกับตะลึงงัน “งดงาม งดงามมากๆ…”

คำพูดพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว

บุรุษตรงหน้าในชุดดำสนิท ผมสีเงินยาวสลวย นัยน์ตาแดงฉานราวอัญมณีสีเลือด ใบหน้าคมกริบดั่งสลักจากมีดเทพ

ทุกสัดส่วนช่างไร้ที่ติ เสมือนบุรุษที่ถูกวาดขึ้นมาจากภาพฝัน

เป็นความงามที่โลกยากจะหาเทียบ

ดวงตาสีม่วงของหลินเยว่ซินพร่างพราย ด้วยประกายอิจฉาและทึ่งในเวลาเดียวกัน

ใช่ใช่ ชายหนุ่มชะงักไปทั้งร่าง

“…งดงาม?”

เขาหันกลับมามองนางอีกครั้งด้วยแววตาซับซ้อน ริมฝีปากขยับแผ่ว

“เจ้า…ไม่กลัวข้าหรือ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 186

    ในมือที่กำลังถือปิ่นทองอยู่ถึงกับสั่นจนเครื่องประดับสั่นไหวไปทั้งชิ้น หลินเยว่ซินมองนางผ่านกระจกเงา ก่อนจะกระตุกมุมปากอย่างอดรนทนไม่ได้ “เสี่ยวถิง เจ้าจะให้ข้าสวมเครื่องในตู้ทั้งหมดเลยไหม เอามาหมดเลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องเลือกแล้ว!” เสี่ยวถิงถึงกับหน้าเจื่อน ในมือนางยังถือปิ่นทองอยู่ ทำท่าทางจะลองปั

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 185

    สีหน้าเหม่อๆ มึนงงของนาง ทำเอาเขาถอนหายใจออกมายาวเหยียด รู้สึกจนปัญญาจะพูดอะไรต่อ ได้แต่เอ่ยถามซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงปลงใจ “เมื่อครู่ เจ้ากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่กันแน่” “อ๋อ~ ไม่มีอะไรหรอก~” หลินเยว่ซินยิ้มกว้างอย่างไม่มีพิรุธ “ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันหายไปตั้งแต่เมื่อไร แต่เอาเถอะ อย่างน้อย ผลลัพธ

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 184

    หนานกงเยี่ยนหลัวโดนด่าจนเงียบไปชั่วครู่ มุมปากกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะมองนางด้วยสายตาไม่กะพริบ “ก็เจ้าเป็นคนพูดเองไม่ใช่หรือ?” แววตาสีแดงชาดของเขาจับจ้องอยู่ที่นางราวกับจะอ่านทุกอารมณ์ ทุกคำโกหกในดวงตาคู่นั้นให้ทะลุ คำพูดจริงจังของเขาทำเอานางเดือดปุด “เจ้านี่มันหมูหรือเปล่า ข้าพูดอะไรเจ้าก็เชื่อหมดเ

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 183

    นางนิ่งค้างไปชั่วขณะ รู้สึกเพียงไอร้อนบางเบาไหลซึมจากปลายจมูก เพียงพริบตาเดียว ใบหน้างดงามก็ระเรื่อแดง ก่อนจะซีดเผือดลงราวสูญสิ้นโลหิต นางเบิกตารีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากอกเสื้อ กดแนบจมูกอย่างร้อนรนทั้งตกใจ ทั้งอับอาย มือหนึ่งสั่นไหวเล็กน้อย เงยหน้าขึ้นเพื่อห้ามเลือดไม่ให้ไหลยิ่งไปกว่านี้ เขายืนม

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 182

    ก็ล้วนถูกเจ้าตัวนี้ยัดลงท้องไปจนหมด นั่นแหละ จึงพอทำให้มันยอมน้อมรับเขาเป็นนาย จื่อจู่กิเลนม่วงสัตว์วิญญาณผู้หายากยิ่ง โดยปกตินั้นจัดว่ามีรสนิยมเรื่องอาหารสูงลิบ นิสัยก็กินจุกจิกอย่างหาใครเสมอเหมือนไม่ได้ จนบัดนี้ เขายังไม่เคยเห็นมันแตะต้องสิ่งใดนอกจากผลน้ำแข็งเลยแม้แต่ครั้งเดียว และไม่เคยเห็นมัน

  • หมอพิษคืนชีพ ล้างแค้นใต้หล้า    บทที่ 181

    ใครเลยจะคาดคิดว่าครั้งนี้ จะเป็นเพราะนาง เสียงฝีเท้าหนักแน่นสองคู่ กระแทกพื้นหินดังกังวานท่ามกลางความเงียบงัน ชายสองคนก้าวเข้ามาในลานด้วยสีหน้าเย็นชา ในมือถือเชือกเส้นหนา พวกเขาไม่แม้แต่จะชายตามองหญิงสาวตรงหน้า ไม่มีคำพูด ไม่มีแม้แต่คำถาม เพียงเดินตรงเข้ามาอย่างเชี่ยวชาญ ราวกับการพันธนาการเช่นนี้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status