"เจ้าใช่หมอที่รักษาชาวบ้านเช่นนั้นหรือ"หลินสั่วปินถามพร้อมกับปรายตามอง" ใช่ขอรับ ท่านมีเรื่องอันใดกับข้าหรือ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถาม"ข้ามาจากสำนักตรวจการขอแจ้งข้อหาเจ้าที่เปิดรักษาโดยไม่มีใบรับรอง นำตัวไปสอบสวนและยึดทรัพย์สินทั้งหมด!" หลินสั่วปินสั่งลูกน้องเสียงดัง"เดี๋ยวก่อนนะขอรับ ที่ข้ารู้มาหมอเท้าเปล่า หมอสมุนไพรที่รักษาชาวบ้านไม่ต้องมีใบรับรองก็ได้มิใช่หรือขอรับ" เพราะวิชาสมุนไพรสามารถสืบทอดกันได้จากบรรพบุรุษไม่ต้องไปเรียนที่สำนักหมอหลวงจึงทำให้ไม่ต้องมีใบรับรองก็ได้"หึ เด็กเช่นเจ้าจะไปรู้อันใด มีผู้มาร้องเรียนกับข้าว่าเจ้าหลอกลวงเรื่องการรักษาอย่าทำเฉไฉไปอย่างไรเจ้าก็มิอาจรอดไปได้ พวกเจ้าจับเกอผู้นี้ไปขังไว้และริบทรัพย์สินที่หลอกลวงมาให้หมด! ""ท่านผู้ตรวจการข้าว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องเข้าใจผิดเป็นแน่ เสี่ยวฟานมีวิชาแพทย์และสามารถรักษาได้จริงๆ พวกข้าหลานคนได้ลองพิสูจน์มาแล้ว" หนึ่งในชาวบ้านรีบเอ่ย"ใช่ๆ เสี่ยวฟานรักษาพวกข้าหายแล้วจริงๆจะเป็นการหลอกลวงไปได้อย่างไร""ใช่ ต้องมีคนใส่ความเป็นแน่""หรือเราจะไปร้องเรียนที่อำเภอ""หุบปาก! ข้าบอกว่าหลอกลวงก็คือหลอกลวงชาวบ้านเช่นพ
เวลาผ่านล่วงเลยมาหนึ่งเดือนการเพาะปลูกเป็นไปตามที่เหอฟานเสวี่ยได้วางแผนไว้ นอกจากนั้นเขายังทำปุ๋ยหมักเพื่อบำรุงต้นข้าวและพืชผักของเขาให้เจริญเติมโตได้ดีอีกด้วยเพียงแต่ตอนนี้ยังไม่เห็นผลเพราะพืชผักยังไม่เติบโต ตอนนี้ในอำเภอกำลังคึกคักเพราะมีการสอบซิ่วไฉผู้คนต่างลุ้นว่าตำแหน่งซิ่วไฉจะเป็นของผู้ใด เหอฟานเสวี่ยไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เขายังคงทำหน้าที่รักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยเช่นเคย"เดี๋ยวท่านน้าต้มยาที่ข้าให้ทุกวันก่อนนอนนะขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอกผู้ป่วยที่มารักษา"จ้ะ ขอบใจมากนะจ๊ะหมอเทวดาน้อย" ตอนนี้เหอฟานเสวี่ยมีฉายาใหม่แล้วคือหมอเทวดาน้อย บรรดาชาวบ้านที่มารักษาก็ต่างพากันเรียกเขาเช่นนี้ หลังจากตรวจชาวบ้านคนสุดท้ายเสร็จเหอฟานเสวี่ยก็ลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย"นี่ๆ พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าชื่อของซิ่วไฉในปีนี้ประกาศแล้ว" เสียงชาวบ้านที่อยู่ด้านนอกเอ่ยขึ้น"จริงรึ""จริงสิ ข้าเพิ่งกลับมาจากอำเภอ""ผู้ใดสอบได้หรือ""หม่าจางอี้น่ะสิ เฮ้อ ปกติครอบครัวนั้นก็หยิ่งยโสอยู่แล้วตอนนี้ล๔กชายได้เป็นซิ่วไฉคงเดินชูคอตั้งเป็นแน่""นั่นน่ะสิ ต่อไปนี้คงเที่ยวดูถูกใครต่อใครไปทั่ว""ลูกเสียใจหรือเปล่า"
วันรุ่งขึ้นเหอจงเทาออกไปสอบถามเหล่าชาวบ้านเรื่องการจ้างเพาะปลูกตามที่บุตรเกอต้องการ เขาบอกชาวบ้านทุกครัวเรือนยกเว้นเพียงสกุลหม่ า เหอจงเทาบอกให้ชาวบ้านมาฟังรายละเอียดในยามเชิน (15:00-16:59) เพราะเป็นช่วงที่ชาวบ้านที่มารักษาจะกลับไปกันหมดแล้วเมื่อยามเชินมาถึงเหล่าชาวบ้านก็ต่างมาที่บ้านเหอเพื่อที่จะฟังรายละเอียดและตัดสินใจว่ารับจ้างหรือไม่ เสียงพูดคุยจอแจของบรรดาชาวบ้านที่พากันตื่นเต้นเพราะมีคนจ้างงาน หากมีงานพวกเขาก็จะมีเงินไม่ต้องเก็บแต่ผักป่ามากินอย่างน้อยก็มีรายได้ไว้กักตุนเสบียงยามฤดูหนาว"ทุกท่านมากันครบแล้วใช่หรือไม่ขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถาม"ครบแล้วๆ" ชาวบ้านคนหนึ่งตะโกนขึ้น"เช่นนั้นข้าจะเริ่มบอกรายละเอียดของงานเลยนะขอรับ งานที่ข้าจะจ้างพวกท่านมีทั้งหมด 4 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกคือการเตรียมแปลงและเพาะปลูกผัก ส่วนที่สองคือการเตรียมที่นาและปลูกข้าว ส่วนที่สามคือการทำโรงเรือนเพาะปลูก ส่วนที่สี่คือทำโรงเลี้ยงสัตว์และโรงเก็บของขอรับ" เหอฟานเสวี่ยพูดเสียงดังเพื่อให้ได้ยินกันอย่างทั่วถึง"เสี่ยวฟาน หมู่บ้านเรานั้นเเห้งเเล้งนักการเพาะปลูกมากขนาดนี้จะไม่สูญเปล่าหรือ" หนึ่งในชาวบ้านเอ่
เหอฟานเสวี่ยเดินนำเนื้อหมูเอาไปเก็บไว้ที่รถม้าก่อนที่จะเดินไปซื้อของต่อรหว่างที่กำลังเดินไปนั้นก็พบชายวัยกลางคนผู้หนึ่งทำท่าทางอ่อนแรงก่อนจะล้มลงแล้วคนที่คาดว่าเป็นผูู้ติดตามก็รีบเข้าไปประคองทันทีเหอฟานเสวี่ยจึงรีบเดินเข้าไปดู"เกิดอันใดขึ้นหรือขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยถาม"นายท่านของข้าอยู่ดีๆก็ล้มลงไป" บ่าวรับใช้ที่ติดตามเอ่ยบอก"ขอข้าดูหน่อยนะขอรับ ข้าพอรู้วิชาแพทย์รบกวนพวกท่านอย่าให้คนมามุงมิเช่นนั้นนายท่านอาจจะหายใจไม่สะดวก" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอก ผู้ติดตามมีแววตาลังเลอยู่ครู่หนึ่งสุดท้ายก็ยอมให้เกอน้อยตรงหน้าตรวจดูอาการของนายตนแล้วช่วยกันคนออกไป เหอฟานเสวี่ยจับชีพจรตรวจดูก็ต้้องตกใจคนผู้นี้ถูกพิษไม่ผิดแน่ก่อนจะหันไปพูดกับคนที่ติดตามบุรุษผู้นี้"ท่านรีบพาเขากลับจวนเถิด เราต้องไปรักษาเขาที่จวน" "ดะ ได้ขอรับ" ผู้ติดตามรีบให้บ่าวคนอื่นไปเอารถม้ามาทันที"เสวี่ยเออร์เกิดอันใดขึ้นหรือ" เหอจงเทากำลังจะเดินกลับไปที่เกวียนเห็นคนกำลังมุงดูและเห็นว่าบุตรเกอของตนอยู่ตรงนั้นจึงรีบเข้ามาถาม"นายท่านผู้นี้ป่วยขอรับท่านพ่อ ข้าต้องรักษาเขา" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยบอก บิดา"เจ้ารักษานายท่านได้จริงๆหรื
หลังจากที่เหอฟานเสวี่ยเปิดบ้านรักษาคนในหมู่บ้านผ่านไปได้หลายวันข่าวที่มีหมออายุน้อยสามารถรักษาได้ทุกโรคก็กระจายไปทั่วอีกทั้งยังไม่คิดค่ารักษาทำให้มีชาวบ้านจากหลายหมู่บ้านต่างพากันเดินทางมารักษา "นี่ใช่บ้านของหมอเหอหรือไม่ขอรับ" "ใช่แล้ว นี่แหละบ้านหมอเหอ เจ้าเป็นอะไรมาล่ะ" "บุตรชายของข้าไม่สบายขอรับ ได้ยินว่าหมอเหอมีความสามารถเก่งกาจรักษาได้ทุกอย่างอีกทั้งไม่คิดเงินจริงหรือไม่ขอรับ" บุรุษผู้หนึ่งเอ่ยถามบรรดาชาวบ้านที่มารอรักษา "ก็จริงน่ะสิ มีชาวบ้านที่หมู่บ้านฉันมารักษาที่นี่แค่สามวันก็หายราวกับไม่เคยป่วยมาก่อน" สตรีวัยกลางคนเอ่ยตอบ "บุตรชายของเจ้าป่วยมานานหรือยังล่ะ" "ป่วยมาได้หลายวันแล้วขอรับ ข้าพาไปหาหมอในเมืองก็ไม่ดีขึ้นได้ยินคนในหมู่บ้านบอกว่าที่นี่มีหมอเทวดาสามารถรักษาได้ทุกโรคจึงลองพาบุตรชายมารักษาดู" บุรุษหนุ่มเอ่ยตอบ เขานั้นเสียค่ารักษามากมายให้กับหมอในเมืองแต่อาการของบุตรชายกลับไม่ดีขึ้นเลยจนเงินที่เก็บไว้แทบไม่เหลือ ได้ยินจากชาวบ้านในหมู่บ้่นพูดว่าที่นี่มีหมอรักษาไม่คิดเงินสักอีแปะจึงตัดสินใจแบกบุตรชายที่อ่อนแรงเดินมายังหมู่บ้านแห่งนี้ "เจ้าบอกว่าบุตรชายของเจ้าป่
หลังจากชาวบ้านแยกย้ายกันกลับไปเหอฟานเสวี่ยก็นำสมุนไพรจากมิติออกมาจัดเตรียมไว้เพื่อที่จะได้เอามารักษาชาวบ้านในวันรุ่งขึ้น "เจ้ากำลังทำอันใดอยู่หรือเสวี่ยเออร์" สวี่ฟางเอ่ยถามบุตรเกอที่กำลังแยกสมุนไพรอยู่"ข้ากำลังคัดแยกสมุนไพรอยู่ขอรับ บางส่วนต้องนำไปเผาจื้อเสียก่อน" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยตอบมารดา"เผาจื้อเช่นนั้นหรือ มันคืออันใดแล้วต้องทำอย่างไรเล่า" เหอจงเทาเอ่ยถามอย่างสงสัย"การเผาจื้อเป็นการกำจัดพิษหรือลดผลข้างเคียงของตัวยาขอรับ อีกทั้งยังทำให้ตัวยาออกฤทธิ์ดีขึ้นขอรับ" เหอฟานเสวี่ยเอ่ยตอบบิดา วิธีเผาจื้อนั้นมีหลายวิธีเลยแหละ"เช่นนั้นพ่อจะช่วยเจ้า" เหอจงเทาเอ่ยบอกบุตรเกออย่างกระตือรือร้น"ขอบคุณขอรับ" เหอฟานเสวี่ยส่งยิ้มให้บิดาและมารดาของตน เขาไม่ได้จะใช้ตัวยาที่เตรียมวันนี้ใช้รักษาชาวบ้านหรอกเพราะอย่างไรก็คงทำไม่ทัน คงต้องใช้ยาสมุนไพรแบบสำเร็จแล้วไปก่อน สามคนพ่อแม่ลูกช่วยกันทำการเผาจื้อตามที่เหอฟานเสวี่ยบอกอย่างขยันแข็งขันจนเวลาล่วงเลยควรแก่การพักผ่อนจึงแยกย้ายกันไปนอนรุ่งเช้าเหอฟานเสวี่ยตื่นขึ้นปลายยามเหม่าแล้วทำกิจวัตรประจำวันของตนเองจนเสร็จ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็มาช่วยกันเตรี