Share

บทที่ 8

Author: Davide
last update Last Updated: 2025-10-16 21:48:38

ตอนที่ 8 คำมั่นสัญญา

คืนก่อนผ่าตัดภีร์นอนค้างที่โรงพยาบาลเพราะวันรุ่งขึ้นมีผ่าตัดในช่วงเช้าคุณหมอหนุ่มจึงอยากใช้เวลาก่อนจะทำการผ่าตัดศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับมะเร็งในกระเพาะเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะทำมันออกมาได้ดีเหมือนที่คาดไว้

ช่วงกลางดึกปลายฟ้าที่นอนไม่หลับเพราะกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดของพ่อที่จะเกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้น แม้จะเชื่อในฝีมือของนายแพทย์หนุ่มที่ถือว่าเก่งที่สุด แต่ในฐานะคนเป็นลูกที่ห่วงพ่อก็ไม่อาจลบความกลัวออกไปได้ ปลายฟ้าจึงลองเดินมายังห้องพักแพทย์เพราะหวังว่าจะเจอภีร์ที่อาจจะยังอยู่เวรคืนนี้จะได้ขอหนังสืออ่านเผื่อจะได้ช่วยให้เธอง่วงขึ้นมาบ้าง และความหวังของปลายฟ้าก็เป็นผลเมื่อเดินมาถึงหน้าห้องพักแพทย์แล้วยังเห็นไฟเปิดอยู่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“เชิญครับ”

“คุณอยู่เวรหรือคะคืนนี้” ภีร์เงยหน้าขึ้นมองคนที่พึ่งเข้ามาในห้องทันทีเพราะนึกว่าเป็นพยาบาลที่นำกาแฟที่เขาขอมาให้ แต่กลับกลายเป็นญาติคนไข้เตียงหนึ่งที่เขาต้องผ่าตัดให้พรุ่งนี้แทน

“เปล่าครับ”

“แล้วคืนนี้...”

“พรุ่งนี้มีผ่าตัดแต่เช้านอนที่นี่จะสะดวกมากกว่า”

“ค่ะ” ปลายฟ้าพยักหน้ารับรู้ ท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าทำให้คุณหมอหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังวิตกเกี่ยวกับการผ่าตัดของคนเป็นพ่อ

“นอนไม่หลับหรือไง” เสียงทุ้มเอ่ยถามเมื่อสังเกตเห็นสีหน้าเป็นกังวลของปลายฟ้า

“ค่ะ ฉันแค่กังวลนิดหน่อย” ปลายฟ้าตอบกลับไปตามความจริง

“ความกังวลไม่มียารักษาให้หายได้แต่หมออย่างผมทำได้แค่บอกว่าพรุ่งนี้ผมจะทำให้ดีที่สุด ถ้าจะพูดว่าทุกอย่างจะราบรื่นไปทั้งหมดมันก็จะเป็นการโกหกเพราะทุกการผ่าตัดนั้นย่อมมีความเสี่ยงแต่ขอให้คุณไว้ใจผม เพราะฉะนั้นนมในตู้เย็นเอาไปอุ่นทานแล้วก็นอนพักผ่อนซะ” เสียงทุ้มอบอุ่นเอ่ยบอกขณะที่กำลังนั่งอ่านงานวิจัยทั้งที่เวลานี้ควรเป็นเวลาพักผ่อน

“คุณหมอยังไม่ง่วงเหรอคะ นี่ก็ดึกมากแล้วนะคะ” ปลายฟ้าเดินออกมาจากเคาน์เตอร์กาแฟพร้อมกับนมอุ่นในมือสองแก้ว อีกแก้วถือไว้ในมือส่วนอีกแก้ววางลงตรงหน้าคุณหมอหนุ่ม

“ผมอ่านหน้านี้จบก็กะว่าจะนอนแล้ว” ภีร์เก็บเอกสารลงลิ้นชักใต้โต๊ะและหยิบแก้วนมขึ้นดื่มทีเดียวจนหมดแก้ว

“งั้นฉันไม่รบกวนคุณหมอแล้วค่ะ ขอบคุณสำหรับนมนะคะ”

“ปลายฟ้า!” เสียงทุ้มตะโกนเรียกเมื่อร่างบางกำลังหันหลังเดินออกห้องไป

“คะ?” ร่างบางเอี้ยวตัวหันกลับมาคิ้วเรียวยาวเลิ่กขึ้นเป็นคำถาม

“คุณนอนโซฟาที่เดิมก็ได้นะ”

“มันจะไม่รบกวนคุณหมอใช่ไหมคะ”

“ถ้าคุณไม่นอนกรนเสียงดังผมก็ไม่ได้ว่าอะไร”

“ขอบคุณค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะคุณหมอ” เมื่อคุณหมอหนุ่มอนุญาตให้ใช้โซฟาในห้องพักแพทย์เป็นที่พักพิงในคืนนี้ปลายฟ้าจึงไม่ปฏิเสธ เพราะยังไงการที่มีคุณหมอหนุ่มคอยเป็นเพื่อนคุยก็อุ่นใจกว่าที่เธอจะไปนอนฟุบอยู่ข้างเตียงคนเป็นพ่อแล้วคิดมากซ้ำไปซ้ำมาจนไม่อาจข่มตาหลับลงได้ อีกอย่างห้องพักแพทย์และห้องพักผู้ป่วยที่พ่อเธอนอนก็ไม่ไกลกันนัก ปลายฟ้าคิดว่าหากเธอได้งีบสักนิดก็ค่อยตื่นไปดูพ่อช่วงกลางดึกอีกที

“ครับราตรีสวัสดิ์” ภีร์พูดยิ้ม ๆ ก่อนจะเดินไปหยิบผ้าห่มในตู้เล็กมายื่นให้ปลายฟ้าแล้วเดินไปยังมุมพักผ่อนที่อยู่ด้านในถัดเข้าไปก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเก้าอี้ที่สามารถปรับนอนได้เพื่อพักผ่อนจากอาการเหนื่อยล้าที่ยืนผ่าตัดมาทั้งวันและต้องมานั่งอ่านวิจัยดึกดื่นจนถึงตอนนี้

ปลายฟ้าที่ได้ดื่มนมอุ่น ๆ และได้นอนบนโซฟานุ่ม ๆ ก็รู้สึกสบายตัวจนผ่อนคลายแล้วหลับไปนานจนกระทั่งสะดุ้งตื่นในตอนเช้ามืดนาฬิกาบนฝาผนังบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสี่ ปลายฟ้ารู้สึกห่วงคนเป็นพ่อที่ทิ้งให้นอนอยู่คนเดียวทั้งคืนจึงรีบกุลีกุจอลุกจากโซฟาและเดินดุ่ม ๆ เพื่อไปลาเจ้าของห้อง

ร่างสูงที่ยังนอนหลับสนิทบนเก้าอี้ตัวยาว ดวงตาคมดุที่ชอบเมินเธอตอนนี้เปลือกตาปิดสนิทแพขนตาดกดำดูมีเสน่ห์ ปลายฟ้ายืนพินิจพิเคราะห์รูปร่างหน้าตาชายหนุ่มอยู่นานจนคนที่ถูกจ้องรู้สึกตัว

“มายืนมองหน้าผมทำไม” ตาคมลืมตาขึ้นมองจังหวะที่ปลายฟ้ากำลังเอื้อมมือเพื่อที่จะปลุกชายหนุ่มพอดี องศาใบหน้าทั้งสองอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ไม่ทันที่หญิงสาวจะเอ่ยเรียกกลับเป็นอีกฝ่ายที่ถามเธอขึ้นมาก่อน

“คือ..ฉันจะเข้ามาบอกคุณว่าฉันจะกลับไปหาพ่อแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะสำหรับโซฟา” ปลายฟ้าเม้มปากแน่นรู้สึกประหม่าที่ต้องโดนสายตาคมจ้องหน้าในระยะใกล้แบบนี้

“พึ่งจะตีสี่” เสียงทุ้มพูดขึ้นเมื่อเหลือบมองเวลานาฬิกาบนข้อมือ

“ค่ะตีสี่ ตอนแรกฉันกะว่าแค่จะงีบสักหน่อยแต่เผลอหลับยาวเลย ทิ้งท่านมาทั้งคืนกลัวท่านตื่นแล้วไม่เจอจะถามหาค่ะ”

“ถ้าคุณจะไปตอนนี้เดี๋ยวผมเดินไปส่งหรือจะให้ผมโทรเช็กที่พยาบาลให้ว่าท่านตื่นหรือยังคุณจะได้นอนต่ออีกสักนิด”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันเดินกลับไปเลยดีกว่า ขอบคุณอีกครั้งนะคะ”

“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเปลี่ยนเวร ข้างนอกไม่มีคนมาเดินเพ่นพ่าน เดินไปถ้าเจอเสียงอะไรก็ไม่ต้องหันไปมอง” เท้าเล็กหยุดชะงักทันที มือทั้งสองข้างกำชายเสื้อแน่น หยุดยืนอยู่สักพักก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับมา

“ถ้าไม่รบกวนคุณหมอจนเกินไปฉันจะขอให้..คุณเดินไปส่งที่หน้าทางเข้าหอผู้ป่วยได้ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยขึ้นสายตาหลุบมองมือสองข้างที่ประสานกันอยู่ด้านหน้า

“หึ..ตามมา” ภีร์พยักหน้าแล้วลุกขึ้นจากเก้าอี้มือหนายกเสยผมอย่างลวก ๆ ก่อนจะเดินนำหน้าปลายฟ้าออกไปจากห้อง

“ฉันขอโทษนะคะ” น้ำเสียงที่รู้สึกผิดเอ่ยขึ้นเมื่อภีร์เดินนำหน้าและปลายฟ้าเดินตามหลังมาติด ๆ มือด้านขวาก็เผลอไปจับชายเสื้อชายหนุ่มอย่างลืมตัว

“ขอโทษเรื่องอะไร” เท้ายาวหยุดฝีเท้าลง ใบหน้าคมหันมาถามอย่างสงสัย

“อะ! จะหยุดทำไมไม่บอกกันบ้างล่ะคะ” ใบหน้าเรียวเล็กกระแทกเข้ากับอกแกร่งอย่างจังเพราะมัวแต่มองบริเวณรอบ ๆ ไม่ได้มองทางข้างหน้า

“ยังไม่ตอบคำถาม” มือหนาทั้งสองข้างพยุงไหล่บางให้กลับไปทรงตัวยืนหลังจากที่เซเกือบเสียหลักล้ม

“ขอโทษที่ฉันมาแย่งที่นอนจนคุณหมอต้องไปนอนบนเก้าอี้แทน น่าจะปวดหลังมากสินะคะ” เมื่อรู้ว่าเรื่องอะไรภีร์ก็หัวเราะในลำคอ

“ผมบอกคุณตอนไหนว่าผมปวดหลัง” เสียงทุ้มถามกลับเสียงเรียบสีหน้าดูจริงจัง จนคนถูกถามต้องหลบสายตามองไปทางอื่น

“ก็เก้าอี้มันแข็ง นอนทั้งคืนก็ต้องปวดหลังสิคะ”

“ผมเป็นหมอหลักสรีรศาสตร์ผมย่อมทราบดี คงไม่ซื้อเก้าอี้ที่ทำลายสุขภาพมาใช้งานหรอก..เด็กโง่จริง ๆ” ประโยคหลังน้ำเสียงไม่ได้จริงจังนัก พูดจบก็สาวเท้าเดินต่อไปตามทางเดินที่เชื่อมระหว่างห้องพักแพทย์และห้องพักผู้ป่วยใน

“คุณส่งฉันแค่นี้ก็พอแล้วค่ะ คุณกลับไปนอนต่อเถอะ ขอบคุณนะคะที่เดินมาส่ง”

“ตาสว่างขนาดนี้คิดว่าจะหลับต่อได้หรือไง ผมจะเดินไปซื้อกาแฟสักแก้ว”

ร่างสูงกำยำที่ใส่เพียงเสื้อยืดและกางเกงวอร์มพร้อมรองเท้าแตะเป็นภาพที่ไม่คุ้นตาของเหล่าพยาบาลในวอร์ดแต่ก็เป็นภาพที่พยาบาลสาว ๆ มองกันจนตาค้างกับลุคแปลกตาที่ดูกระชากใจของคุณหมอหนุ่มในครั้งนี้ รวมถึงแปลกใจเป็นอย่างมากที่ข้างหลังคุณหมอหนุ่มมีญาติคนไข้ยืนอยู่ข้าง ๆ

“หมอภีร์มีอะไรหรือเปล่าคะ” หนึ่งในพยาบาลสาวที่เข้าเวรเอ่ยถามภีร์เมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้

“คนไข้เตียงหนึ่งเป็นยังไงบ้างครับ” ภีร์พูดกับพยาบาลที่ถามเขาปลายฟ้าจึงถือโอกาสเดินเลี่ยงไปหาพ่อของเธอ

“ทั้งคืนที่ผ่านมาก็มีอาการปวดท้องและท้องอืดค่ะแต่ก็ยังอยู่ในระดับที่คนไข้ทนได้” ภีร์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะเอ่ยขอบคุณพยาบาลสาวแล้วเดินไปยังลิฟต์เพื่อลงไปหากาแฟร้อน ๆ ทานสักแก้ว

“ฝากให้ญาติคนไข้เตียงหนึ่งด้วยครับ ผมขอตัวก่อน” ถุงกระดาษใบเล็กที่ข้างในบรรจุไปด้วยน้ำเต้าหู้ร้อน ๆ หนึ่งถุงและปาท่องโก๋อีกสามสี่ชิ้น

เช้าวันรุ่งขึ้นหน้าห้องผ่าตัด

“เดี๋ยวขอพาคนไข้ไปห้องเตรียมตัวผ่าตัดก่อนนะคะส่วนญาติรบกวนรออยู่ที่นี่ก่อนค่ะ” พยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ชายอีกหนึ่งคนเอ่ยบอกเมื่อใกล้ถึงเวลาที่พ่อของเธอต้องเข้าห้องผ่าตัดแล้ว

“เอ่อ แล้วใช้เวลาในการผ่าตัดนานไหมคะ” ปลายฟ้าถามพยาบาลน้ำเสียงสั่น ๆ ด้วยความกังวล

“เรื่องเวลาคงตอบญาติไม่ได้ว่าใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่าคนไข้จะเข้าห้องผ่าตัดทางเราจะมาแจ้งญาติอีกครั้งนะคะ” พยาบาลสาวที่เข้าใจญาติคนไข้เป็นอย่างดีบอกกับปลายฟ้าพร้อมรอยยิ้มที่อบอุ่น พ่อของปลายฟ้าถูกพยาบาลนำตัวพาไปเตรียมสำหรับผ่าตัดตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า ตอนนี้ปลายฟ้าทำได้แค่นั่งรอพยาบาลมาเรียกเท่านั้น แม้พ่อของหญิงสาวจะถูกนำตัวไปได้แค่เพียงสิบห้านาทีแต่ปลายฟ้าก็นั่งไม่ติดเก้าอี้เพราะความกังวลหลายอย่างประเดประดังเข้ามาในหัว หญิงสาวจึงอดไม่ได้ที่จะเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไปยังห้องพักแพทย์ที่อยู่โซนซ้ายของตึก

ปลายฟ้าเดินมาถึงหน้าห้องพักแพทย์โดยไม่รู้ตัวเพราะมัวแต่คิดและกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดของพ่อซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว รู้ตัวอีกทีก็ยืนอยู่หน้าประตูห้องแล้วหญิงสาวถอนหายใจ มือบางกำลังจะยกขึ้นเพื่อเคาะประตูเป็นจังหวะเดียวกับที่ภีร์เปิดประตูห้องออกมาพอดี ปลายฟ้าที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเมื่อจู่ ๆ ประตูถูกเปิดออกมาจากด้านในห้องก็ตกใจ ภีร์ที่เห็นปลายฟ้ามายืนอยู่หน้าห้องด้วยท่าทางเหมือนคนจิตใจล่องลอยจึงถามขึ้น

“คุณมีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าปลายฟ้า” เสียงทุ้มถามคนที่กำลังยืนมองหน้าเขา คำตอบที่ได้คือความเงียบมีเพียงแววตาที่สั่นไหวและมือสองข้างที่กำเข้าหากันแน่นนั่นคืออาการของคนที่กำลังมีความเครียดและความกังวล เมื่อเห็นท่าทางของคนตรงหน้าภีร์ไม่รีรอที่จะดึงร่างบางเข้ามาในห้องและปิดประตูทันที

“หายใจเข้าลึก ๆ ปลายฟ้าผ่อนคลายครับ” เสียงทุ้มบอกออกไปขณะที่ดึงร่างบางเข้ามากอดปลอบ ความอบอุ่นจากอกแกร่งและคำปลอบโยนจากคุณหมอหนุ่มช่วยให้ปลายฟ้าผ่อนคลายขึ้น

“ฟ้ากลัว” เมื่อความกลัวที่มีเกินจะรับไหวหญิงสาวจึงร้องไห้ออกมาเพื่อระบายความอัดอั้นนั้น ใบหน้าหวานซุกอยู่กับอกหนาเหมือนว่าต้องการที่พึ่งพิง

“คุณเชื่อผมนะ คุณและพ่อของคุณต้องมีวันต่อไปที่แสนยาวนานด้วยกันผมจะทำสุดความสามารถของผม ผมสัญญาปลายฟ้า..ผมสัญญา”

“แล้วถ้ามันไม่เป็นเหมือนที่คุณบอกล่ะคะ” เสียงสั่น ๆ ที่ออกมาจากผู้หญิงที่กำลังซบใบหน้าอยู่ที่อกของตนทำเอาภีร์สงสารยิ่งนัก

“คุณอย่าพึ่งคิดอะไรไปก่อนปลายฟ้าคุณฟังผมนะ พ่อคุณจะต้องหายคุณต้องคิดในแง่ดีไว้พ่อคุณต้องการกำลังใจจากคุณฉะนั้นคุณต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเองก่อนเข้าใจไหม” เสียงทุ้มดูอบอุ่นปลอบโยนคนที่กำลังร้องไห้ ปลายฟ้าพยายามตั้งสติตามที่ภีร์บอกร่างบางที่ค่อย ๆ สงบจากการร้องไห้แล้วถอยออกจากอกแกร่งมานั่งที่โซฟา

“ฉันจะพยายามค่ะขอบคุณหมอมากนะคะฉันฝากคุณพ่อด้วย” น้ำเสียงที่คัดจมูกจากการร้องไห้บอกคุณหมอหนุ่มพร้อมยกมือปาดน้ำตาที่ยังคงเหลืออยู่บนใบหน้า

“ผมจะพยายามให้ดีที่สุด เดี๋ยวผมต้องไปเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดแล้วระหว่างนี้คุณก็ทำใจให้สบายไม่ต้องกังวลอะไรเข้าใจไหม” เมื่อแน่ใจว่าปลายฟ้าดูผ่อนคลายลงแล้วภีร์จึงพยักหน้าให้กับหญิงสาวเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่เขาต้องไปเตรียมตัวผ่าตัดแล้ว ประตูห้องพักแพทย์ถูกเปิดออกพร้อมกับที่ภีร์และปลายฟ้าเดินออกจากห้องตามกันออกมาเป็นจังหวะเดียวกันที่พยาบาลกำลังเดินมาตามภีร์ไปห้องผ่าตัด

“คุณหมอภีรภัทรคะ เอ่อ เชิญที่ห้องผ่าตัดค่ะ” เมื่อเห็นศัลยแพทย์มือหนึ่งของโรงพยาบาลเดินออกจากห้องมากับญาติคนไข้พยาบาลที่เดินมาตามคุณหมอหนุ่มจึงทำท่ายิ้ม ๆ

“ครับผมกำลังจะไป” ภีร์หันหน้ามาส่งกำลังใจให้ปลายฟ้าทางสายตาอีกครั้งแล้วจึงเดินตามพยาบาลไปยังห้องผ่าตัด
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หมอในฝัน (หมอภีร์)   บทที่ 58

    “จริงเหรอคะ” ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุขภีร์เองก็พลอยมีความสุขไปด้วย“ครับ เข้าไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนเดี๋ยวอีกหนึ่งชั่วโมงพวกเขาก็คงเดินทางมาถึง” มือหนาโอบรอบเอวคอดประคองเดินเข้าไปในบ้าน“แล้วอาหารกับพวกเครื่องดื่มล่ะคะ คุณเตรียมหมดแล้วเหรอ”“ผมสั่งมาหมดแล้วครับ อีกครึ่งชั่วโมงพวกเขาจะเอามาส่ง

  • หมอในฝัน (หมอภีร์)   บทที่ 57

    สามเดือนถัดมาวันนี้เป็นวันที่ปลายฟ้าต้องขึ้นแสดงคอนเสิร์ตในงานเทศกาลดนตรีนานาชาติของเยอรมันหลังจากที่ฝึกซ้อมกันมาหลายเดือน“ตื่นเต้นเหรอครับ” ปลายฟ้าที่นั่งกุมมือตัวเองแน่นตลอดตั้งแต่ออกจากบ้านจนตอนนี้มาถึงสถานที่จัดงาน ภีร์ที่จอดรถสนิทจึงหันมาเอ่ยถามขึ้น“นิดหน่อยค่ะ ฉันกลัวว่าจะทำออกมาได้ไม่ดีพอ”

  • หมอในฝัน (หมอภีร์)   บทที่ 56

    ตอนที่ 33 ขอบคุณที่เกิดมา“อือ..อื้อ” สิ้นเสียงคำตอบภีร์ก็กระโจนใส่ร่างบางราวเสือเจอเนื้อชิ้นโปรดที่ยืนเฝ้าอยู่เนิ่นนาน บัดนี้ถึงเวลาเจ้าของชิ้นเนื้ออนุญาตให้ลิ้มรสได้จึงไม่รีรอที่จะเขมือบเข้าปากภีร์จัดการถอดชุดนอนปลายฟ้าจนเธออยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ก่อนจะหันกลับมาปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองพลางซุกคล

  • หมอในฝัน (หมอภีร์)   บทที่ 55

    “ขยับเข้ามาอีกก็ได้ เดี๋ยวคุณก็ตกเตียงหรอก” ร่างบางที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มนอนชิดขอบเตียงอีกด้าน เว้นระยะห่างจากภีร์ไกลพอสมควร“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอกฟ้า..ถ้าคุณไม่ยินยอม อากาศหนาวนอนใกล้กันอุ่นจะตาย..มา”“อ๊ะ!” ปลายฟ้าร้องเสียงหลงเมื่อมือหนาดึงเธอเข้ามากอด ใบหน้าทั้งสองห่างกันไม่ถึงสิบเซน“หายกลัวหรือย

  • หมอในฝัน (หมอภีร์)   บทที่ 54

    ตอนที่32 เรื่องเล่าหลอกเด็กมื้อค่ำบรรยากาศที่เงียบสงัดยามค่ำคืนพระอาทิตย์ที่ลับขอบฟ้าไปและมีแสงไฟหลากสีสว่างขึ้นแทน บ้านเรือนที่ตั้งอยู่ไม่ห่างกันต่างกำลังมีความสุขกับครอบครัวในมื้อค่ำ ภีร์และปลายฟ้านั่งทานอาหารที่ช่วยทำขึ้นมาอย่างมีความสุข“คุณกลัวผีไหม” อยู่ ๆ ภีร์ก็ถามขึ้นเมื่อเห็นว่าปลายฟ้านั้

  • หมอในฝัน (หมอภีร์)   บทที่ 53

    “เห็นนั่งชมวิวเงียบ ๆ ช่างสังเกตเหมือนกันนะเนี่ย แล้วชอบไหมครับ”“ชอบค่ะ บรรยากาศดีมากเลยนะคะ”สองวันต่อมาเช้าวันจันทร์ที่สดใสกับอุณหภูมิ 13 องศา ปลายฟ้าตื่นแต่เช้ามืดมาเตรียมอาหารเช้าสำหรับเธอและภีร์เล่นเคย วันนี้เป็นวันที่สามที่ทั้งสองเดินทางมาเยอรมันและวันนี้เป็นวันแรกที่ทั้งสองต้องเริ่มไปทำหน้า

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status