เช้าวันต่อมาพี่น้องบ้านลู่มารวมตัวกันที่บ้านของหยางเทียนกันอย่างพร้อมเพรียง แต่ละคนเตรียมตัวมาอย่างดี เสิ่นซื่อตื่นขึ้นมาตั้งแต่ยามอิ๋นเพื่อทำอาหารเช้าให้สามีและลูกชายได้กินก่อนขึ้นเขา สามีของนางได้บอกกับนางเอาไว้แล้ว วันนี้พวกเขาจะไม่กลับมากินมื้อกลางวันที่บ้าน ให้นางเตรียมอาหารสำหรับมื้อกลางวันให้ด้วย
หลังจากพี่น้องบ้านลู่มาถึงได้ไม่นาน สามพ่อลูกจากบ้านใหญ่หยางก็มาถึง หยางเสี้ยวเห็นว่าทุกคนมาพร้อมกันหมดแล้ว จึงได้พาทุกคนเดินลัดเลาะลำธารหลังบ้าน มุ่งหน้าขึ้นเขาไปทันที วันนี้เขาหวังว่าจะพบของที่กินได้บ้าง เด็กชายไม่รู้ว่าฤดูหนาวของที่นี่จะยาวนานแค่ไหน จากความทรงจำของร่างเดิมนั้นไม่แน่ชัด แต่สิ่งที่จำได้ชัดเจนคือหนาวมาก และอาจจะมีพายุหิมะเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่าอาหารก็คือ ฟืน หากไม่มีฟืนนอกจากจะหนาวตายแล้วยังจะหิวตายด้วยเพราะไม่มีเชื้อเพลิงสำหรับทำอาหารและอบอุ่นร่างกาย
เดิมทีหยางเสี้ยวคิดว่าจะพาท่านพ่อกับท่านลุงไปเก็บผูเถาเพื่อนำไปขาย แต่วันก่อนเขาไปดูมาแล้ว ผูเถายังคงไม่สุก น่าจะใช้เวลาอีกสองถึงสามวัน และวันที่สามก็คือวันพรุ่งนี้ วันนี้พวกเขาตั้งใจจะขึ้นเขาเข้าไปในป่าลึกจากเดิมที่หยางเสี้ยวเคยไป ถึงแม้ว่าในใจเสิ่นซื่อจะเป็นกังวลและหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้พูดจาห้ามปรามบุตรชายและสามีแต่อย่างใด
คนกลุ่มหนึ่งเดินมุ่งหน้าขึ้นเขาไปอย่างฮึกเหิม ในที่สุดก็มาถึงภูเขาอู๋หลง คนทั้งกลุ่มเดินตามหยางเสี้ยวไปเรื่อย ๆ เมื่อมาถึงป่าลึก ทุกคนแยกย้ายกันไปวางกับดักของตัวเอง หยางเสี้ยวสอนให้หยางชิงวางกับดักด้วยเช่นเดียวกัน หยางชิงตื่นเต้นมาก เขาไม่เคยเข้าป่าลึกขนาดนี้มาก่อน หยางเทากับหยางเทียน ช่วยกันขุดหลุมดักสัตว์ สองพี่น้องบ้านลู่เองก็แยกตัวกันออกไปหาที่ทางขุดหลุมดักสัตว์ของตัวเอง
“เดี๋ยวพ่อกับลุงของเจ้าจะช่วยกันขุดหลุมกับดัก พวกเจ้าอย่าได้เดินไปไกลเข้าใจหรือไม่”หยางเทียน
“ขอรับท่านพ่อ ท่านไม่ต้องห่วงนะขอรับ ข้ากับพวกพี่ชายไม่เดินไปไหนไกลแน่นอน”
“พวกเราเองก็ไปกันเถอะ” พี่น้องบ้านลู่
หยางเสี้ยวพาหยางเชวียนกับหยางชิงเดินแยกออกมา ทั้งสามคนเดินผ่านเห็ดป่าก็เก็บเห็ดป่า เดินผ่านผักป่าก็เก็บผักป่าใส่ตะกร้าของตัวเอง หยางเสี้ยวเดินมองนั่นมองนี่เรื่อยเปื่อย แต่ใจกลับหวังว่าจะเจอมันเทศ มันฝรั่ง หรือเผือก และอะไรก็ตามแต่ที่สามารถกินได้ เขามั่นใจว่าในป่าจะต้องมีหัวเผือกหัวมันแน่นอน
“ข้าน่าจะเอาตะกร้าที่ใหญ่กว่านี้มา” หยางชิง
“ข้าก็บอกเจ้าแล้ว เจ้าก็ไม่ฟัง ภูเขาอู๋หลงมีเห็ดป่าผักป่าเยอะแยะมากมาย ต่อไปนี้พวกเราจะมีเสบียงอาหารเก็บเอาไว้กินในฤดูหนาว ไม่ต้องกลัวว่าจะหิวจนไม่มีอะไรกิน ไม่ต้องมานั่งจำกัดอาหารในแต่ละมื้อเพราะกลัวอาหารไม่พอกินไปจนตลอดฤดูหนาว” หยางเชวียน
“อาเสี้ยว เจ้าเก่งมากจริง ๆ ที่กล้าเข้ามาในป่าลึกขนาดนี้ ต่อไปนี้ข้าจะตั้งใจเรียนรู้กับเจ้าให้มาก”
“อาชิงเจ้าพูดเกินไปแล้ว ข้าเองไม่ได้เก่งกาจอะไร เพียงแต่ข้าไม่อยากอดตายน่ะสิ ก็เลยจำเป็นต้องเสี่ยงชีวิตเข้าป่ามา โชคดีที่ป่าแห่งนี้ไม่ได้อันตรายมากมายอย่างเช่นที่พวกผู้ใหญ่บ้านพูด แต่เจ้าจงจำเอาไว้ว่าผืนป่าทุกทีย่อมมีอันตราย เพียงแต่เราต้องระวังให้มากก็เท่านั้น คนเราจะต้องไม่ประมาทเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองให้ปลอดภัย”
“ข้าเข้าใจแล้ว”
“อาเสี้ยว เจ้ามาดูนี่ ทางนี้ ๆ ” หยางเชวียน
"มีอะไรหรือขอรับพี่ใหญ่เชวียน"
“เจ้ามาดูเห็ดหอมเยอะมากเลย ดอกใหญ่มาก มาช่วยกันเก็บเร็วเข้า”
ทั้งสามคน ช่วยกันเก็บเห็ดหอมดอกใหญ่ใส่ตะกร้า นอกจากจะมีเห็ดหอมแล้วยังมีเห็ดหูหนูดำอีกด้วย เห็ดพวกนี้สามารถนำไปตากแห้งเก็บเอาไว้ได้ ถ้าหากมีจำนวนมากหยางเสี้ยวอยากจะลองนำเห็ดตากแห้งพวกนี้ไปขายแลกเป็นเงิน แต่ต้องไปสำรวจตลาดในเมืองเสียก่อน
เด็กชายทั้งสามคนเก็บเห็ดหอมจนหมดแล้วเริ่มออกเดินต่อ ในตอนที่หยางเสี้ยวเดินผ่านจอมปลวกขนาดใหญ่ สายตาของเขาก็ปะทะเข้ากับบางสิ่งบางอย่าง ใบแบบนี้นี่มันช่างคุ้นเคย มันต้องใช่แน่ ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้น หยางเสี้ยวเดินตรงดิ่งเข้าไปทันที ในที่สุดก็เจอแล้ว เจ้ามันเทศ หยางเสี้ยวลงมือขุดลงทันที ขุดลงไปไม่นานก็พบหัวมันเทศขนาดใหญ่ เด็กชายยิ้มกว้างด้วยความดีใจ นี่มันดงมันเทศชัด ๆ
“อาชิง พี่ใหญ่เชวียน มาช่วยข้าทางนี้หน่อยไม่ต้องเก็บเห็ดแล้ว”
“อาเสี้ยวเจ้าเจออะไรดี ๆ แล้วใช่หรือไม่”
“แน่นอนว่าข้าเจอแล้ว มาเร็วเข้าช่วยข้าขุดมันเทศพวกนี้ แล้วระวังด้วยอย่าได้ทำเถามันเทศเสียหาย ข้าจะเอากลับไปปลูกที่สวน ต่อไปจะได้มีมันเทศเก็บเอาไว้กิน”
“มันเทศหรือ คืออะไรทำไมข้าไม่เคยได้ยินมาก่อน” หยางชิง
“อย่าถามมาก ถ้าอาเสี้ยวบอกว่ากินได้ก็ย่อมต้องกินได้ จะถามทำไมให้มากความ เดี๋ยวขุดขึ้นมาก็รู้เองนั่นล่ะ” หยางเชวียน
หยางเสี้ยวใช้มีดตัดเถามันเทศออก จากนั้นก็รื้อเถามันเทศออกไปกองเอาไว้อีกด้าน เด็กสามคนตั้งหน้าตั้งตาขุดมันเทศจนไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว แต่พอรู้สึกตัวอีกที มันเทศที่ขุดขึ้นมากองรวมกันเอาไว้กลายเป็นภูเขามันเทศขนาดเล็ก หยางเสี้ยวไม่กลัวว่าจะเอากลับไปไม่ไหว เด็กชายคิดว่าจะให้พวกท่านพ่อขนกลับไปก่อน ส่วนพวกเขาสามคนจะขุดรออยู่ที่นี่
หลังจากขุดหลุมดักสัตว์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทุกคนออกมาพบกันที่จุดนัดพบ แต่พวกเขากลับไม่เจอเด็กทั้งสามคน สองพี่น้องบ้านลู่ค่อนข้างเป็นห่วง เพราะถึงยังไงหยางเสี้ยวก็ยังเป็นแค่เด็กอายุแปดขวบเท่านั้น แต่หยางเทียนกลับบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ป่าแถบนี้ลูกชายของเขาเคยเข้ามาแล้ว
“อาเทียน พวกเด็ก ๆ ยังไม่มาเลยนะ” ลู่คง
“ไม่ต้องเป็นห่วง คงจะเก็บเห็ดป่าอยู่แถว ๆ นี้ล่ะ ป่าแถบนี้อาเสี้ยวเคยเข้ามาแล้ว”
“เจ้านี่เป็นพ่อที่ไม่ห่วงลูกเอาเสียเลย” ลู่คงยังต่อว่าสหาย
“ใครบอกว่าข้าไม่ห่วงลูกล่ะ นั่นลูกข้านะ แถมลูกคนโตด้วย กว่าจะเลี้ยงลูกให้โตขึ้นมาไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
“ไป ๆ ไปเดินตามหาเด็กพวกนั้นสักหน่อยไม่รู้ว่าเดินไปถึงไหนกัน” หยางเทา
“คงจะเดินไปทางนี้กระมัง นั่นไงสัญลักษณ์ที่อาเสี้ยวทำเอาไว้” หยางเทียน
หยางเสี้ยวจะทำสัญลักษณ์เอาไว้ตลอด ป้องกันการหลงป่า เมื่อผู้ใหญ่สี่คนเดินตามสัญลักษณ์ที่เด็กชายทั้งเอาไว้ ไม่นานก็พบกับเด็กทั้งสามคนที่กำลังก้มหน้าก้มตาขุดอะไรสักอย่าง ทั้งสี่คนสาวเท้าเดินเข้าไปก็พบว่าสิ่งที่พวกเขาขุดขึ้นมาเหมือนจะเป็นหัวของอะไรสักอย่าง แต่ที่ทั้งสี่คนรู้คือมันต้องกินได้แน่ ๆ
“เสี้ยวเอ๋อร์ พวกลูกขุดอะไรกันอยู่หรือ” หยางเทียน
“ท่านพ่อ พวกท่านมาแล้ว พวกเรากำลังขุดมันเทศกันอยู่ขอรับ”
“มันเทศ มันเทศหรือ ลูกหามันเจอแล้วจริง ๆ”
“ใช่แล้วท่านพ่อ ข้าอยากให้พวกท่านขนมันเทศพวกนี้กลับไปที่บ้านก่อน พวกข้าสามคนจะรั้งขุดอยู่ที่นี่ ท่านลุงลู่พวกท่านเองก็มาช่วยกันขนกลับลงไปไว้ที่บ้านข้าก่อนนะขอรับ แล้วพวกเราค่อยแบ่งกัน ส่วนเถามันเทศที่ข้าตัดเอาไว้ก็ต้องขนกลับไปด้วย ข้าจะเอาไปปลูกในสวนหลังบ้าน”
“ตกลง ลู่คงเจ้าขุดมันเทศอยู่กับเด็ก ๆ ส่วนข้าจะช่วยกันขนลงไปกับพวกอาเทาตอนนี้เรายังมีเวลาอีกมาก” ลู่จื้อ
“ตกลง ข้าว่าพวกเจ้าเอากระสอบมาใส่จะดีกว่า พอขนรอบนี้ลงไป ก็อย่าลืมเอากระสอบมาด้วยล่ะ ส่วนเถามันเทศเดี๋ยวเอาเถาวัลย์มัดเข้าด้วยกันจะได้ขนกลับไปง่ายหน่อย ลุงขอบใจเจ้านะอาเสี้ยวที่แบ่งปันอาหารใหม่ ๆ อีกแล้ว" ลู่จื้อพูดพร้อมกับยิ้มตาหยี
ไม่มีใครสงสัยหยางเสี้ยวว่าเหตุใดเด็กชายถึงรู้จักมันเทศ และก็ไม่มีใครตั้งคำถามว่ามันกินได้จริงหรือไม่ พวกเขาทุกคนล้วนเชื่อในตัวของเด็กชายและเชื่อว่าพรานเฒ่าที่ไม่มีตัวตนอยู่จริงได้ถ่ายทอดความรู้มากมายให้กับเขา สองพี่น้องบ้านลู่เป็นคนที่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ หลังจากคนกลุ่มหนึ่งขนมันเทศกลับบ้าน คนที่รั้งอยู่ก็ช่วยกันขุดกันอย่างไม่ยอมหยุดพัก
“อาเสี้ยว มันเทศเก็บเอาไว้ได้นานใช่หรือไม่”
“ใช่แล้วขอรับท่านลุงลู่คง เก็บเอาไว้ได้หลายเดือนเลยล่ะ มีมันเทศแล้วหน้าหนาวปีนี้ก็ไม่น่ากลัวแล้วขอรับ มันเทศทั้งอิ่มท้องทั้งอร่อย”
“ความดีความชอบวันนี้ยกให้เจ้าเลยนะ ลุงต้องขอบใจเจ้าที่ช่วยเพิ่มเสบียงในบ้านของลุงด้วย”
“ข้ายินดีและเต็มใจขอรับ พวกเราต้องรอดไปด้วยกัน และยืนหยัดเพื่อครอบครัวของพวกเรา”
“ชาวบ้านในหมู่บ้านของพวกเราล้วนแต่เรียบง่ายและซื่อสัตย์ เพียงแต่พวกเราโชคร้ายที่มีหัวหน้าหมู่บ้านเห็นแก่ตัว เอาแต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่เคยทำหน้าที่ผู้นำหมู่บ้านที่ดีเลยสักครั้ง”
“ท่านลุงอย่าได้ไปสนใจคนพวกนั้นเลย ถ้าหากพวกเขาเข้มแข็งและมีกำลังมากพอ หากชาวบ้านล้วนรักใคร่สามัคคี ทำไมจะต้องไปหวาดกลัวและกังวลกับคนไม่กี่คนกัน ข้าตั้งใจว่าจะหาเงินให้มากสักหน่อยแล้วให้ท่านพ่อไปติดต่อทางการซื้อที่ดินเพิ่ม ยังดีว่าการซื้อที่ดินสามารถซื้อได้กับทางการโดยตรง ถ้าหากซื้อกับผู้ใหญ่บ้านข้าเกรงว่านอกจากจะซื้อไม่ได้แล้วพวกเรายังจะถูกรังแกเอาด้วย”
“ข้าเห็นด้วยกับเจ้า ขอให้สมหวังในเร็ววันนะ เป็นเศรษฐีที่ดินเมื่อไหร่อย่าลืมลุงล่ะ”
“ท่านลุงก็พูดไปเรื่อยนะขอรับ”
“ฮ่า ฮ่า ลุงก็ต้องพูดเอาไว้ก่อนสิ อาเสี้ยวเก่งกาจขนาดนี้” ลู่คงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“ข้าก็เก่งนะขอรับท่านลุง” หยางชิง
“ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกเจ้าพี่น้องล้วนเก่งกาจกันทุกคน”
หยางเทียนเดินนำหน้าพี่ชายกับสหายมุ่งหน้ากลับบ้าน เสิ่นซื่อตกใจมากที่เห็นสามีกลับมาเร็วแล้วยังไม่มีพวกเด็ก ๆ กลับมาด้วย หยางเทียนเห็นสีหน้าของภรรยาไม่ดี จึงได้อธิบายว่าพวกเขาเพียงแค่เอาของมาเก็บเท่านั้น จากนั้นก็บอกให้ภรรยาไปหากระสอบมาให้เพื่อที่จะได้นำไปขนมันเทศกลับมา วันนี้พวกเขาคงไม่ได้ล่าสัตว์แล้ว คงต้องฝากความหวังเอาไว้กับหลุมดักสัตว์ที่ขุดขึ้นเท่านั้น
มันเทศที่หยางเสี้ยวพบมีประมาณเกือบหนึ่งหมู่ พวกเขาขุดไปได้เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น พวกของหยางเทียนเองก็ขนมันเทศกลับไปถึงห้าเที่ยวด้วยกัน หยางเสี้ยวเห็นว่าเวลาไม่พอจึงได้บอกให้ทุกคนหยุดขุดและกลับบ้านกันก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาขุดใหม่ หากไม่รีบกลับไปในตอนนี้เกรงว่าจะออกจากป่าไม่ทัน จะมืดค่ำเอาเสียก่อน
หยางเสี้ยวแวะตรวจดูกับดักที่พวกเขาวางเอาไว้ กับดักของหยางอินมีไก่ฟ้ามาติดสองตัว กับดักของหยางเชวียนเองก็ไม่น้อยหน้า มีกระต่ายป่าอยู่สามตัว ส่วนของหยางเสี้ยวนั้นไม่รู้ว่าเด็กชายเป็นลูกรักของป่าหรืออย่างไร เขาได้ไก่ฟ้าถึงห้าตัวกระต่ายป่าอีกสามตัว
กับดักที่พวกหยางเทียนและพี่น้องบ้านลู่วางเอาไว้ก็มีสัตว์ป่ามาติดอยู่เช่นเดียวกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะโชคดีเข้าแล้วจริง ๆ การขึ้นเขาอู๋หลงวันนี้เก็บเกี่ยวได้ไม่เลวเลย ทุกคนกลับบ้านไปด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า หยางเสี้ยวกับหยางเทียนพ่อลูกได้ไก่ฟ้ารวมกันถึง 10 ตัว ส่วนบ้านใหญ่หยางสามพ่อลูกก็ไม่น้อยหน้า รวมกันแล้วมีไก่ฟ้ากระต่ายป่ามากถึงสิบกว่าตัว
“ลูกข้ามีเนื้อกินแล้ว ข้าจะไม่เอาไปขายทั้งหมด จะแบ่งเอาไว้ทำอาหารด้วย” ลู่คง
“ท่านลุงทำถูกแล้วขอรับ คนเรากินไม่อิ่มจะเอาแรงที่ไหนไปทำงาน กินไม่อิ่มย่อมเจ็บป่วย น้ำแกงไก่บำรุงร่างกายดีมากขอรับ” หยางเสี้ยว
“ได้ ลุงเชื่อฟังเจ้าอาเสี้ยว”
“ข้าเองก็เห็นด้วย ขอบใจเจ้ามาอาเสี้ยว” ลู่จื้อ
“รีบกลับกันเถิดขอรับ พรุ่งนี้พวกเรายังต้องมาขุดมันเทศอีก ท่านพ่อ พรุ่งนี้ท่านกับท่านลุงลู่จื้อเอาสัตว์ป่าไปขายในเมืองแต่เช้า ส่วนพวกเราที่เหลือจะขึ้นเขามาขุดมันเทศรอขอรับ” หยางเสี้ยว
“ตกลง พ่อจะทำตามที่เจ้าว่ามา” หยางเทียน
เช้าวันต่อมาหยางเสี้ยวตื่นขึ้นมาในยามอิ๋น เด็กชายชวนหยางเทียนเข้าป่าไปดูผูเถา เพราะยังเช้าอยู่มาก ท้องฟ้ายังมืดอยู่จึงทำได้แค่จุดคบไฟเดินขึ้นเขาไป เมื่อมาถึงบริเวณที่มีผูเถาอยู่ เป็นไปตามคาด ผูเถาส่วนใหญ่สุกแล้ว หยางเทียนเก็บส่วนที่สุกใส่ตะกร้า เขากับลูกชายแบกลงมาคนละตะกร้า เมื่อกลับมาถึงบ้านก็เป็นปลายยามเหม่าแล้ว
พอดีกับที่ลู่จื้อมารออยู่หน้าบ้าน หยางเทียนเห็นว่าของที่จะนำไปขายมีมาก จึงให้หยางเสี้ยวไปเรียกหยางเทาไปด้วยกัน ส่วนเรื่องขุดมันเทศให้หยางไห่ผู้เป็นพ่อไปกับเด็ก ๆ แทน