“อยากจะเป็นพระเอกมากนักหรอมึง.. ตายซะ!” ปั้ง!…
เสียงปืนดังลั่นไปทั่วบริเวณอรฤดีหยุดชะงัก ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หยาดน้ำตาไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้หัวใจเธอตอนนี้มันเหมือนจะหยุดเต้นไปด้วยในทันที
ร่างของคนร้ายล้มหงายลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแน่นิ่ง จอมทัพเองก็ทิ้งตัวนอนลงไปด้วยความเหนื่อยหมดแรงหายใจหอบตัวโยน แล้วเสียงตำรวจก็วิ่งกรูกันเข้ามา
ให้ตายเถอะนี่แค่จะมารับสาวเองไม่ใช่เหรอทำไมเกือบได้เอาชีวิตมาทิ้งซะอย่างนั้น
ดูจากการต่อสู้แล้วต้องเป็นมืออาชีพแน่ๆ ถ้าตำรวจมาช้าอีกนิดคงเป็นเขาแน่ๆ ที่นอนหมดลมหายใจอยู่ตรงนี้
“ฮึก ..ฮึก คุณ คุณ เป็นอะไรมากไหมคุณ “
อรฤดีรีบวิ่งมาหาจอมทัพที่นอนเลือดอาบไปทั่วทั้งใบหน้าด้วยความเป็นห่วง แก้มใสๆ อาบชุ่มไปด้วยน้ำตาแต่เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยแล้วสติการรับรู้ของเขาก็ค่อยๆ เลือนหายไป..
“คุณ อย่าเป็นอะไรไปนะคุณ ฟื้นสิ.. ฟื้นสิคุณ ฮึก ฮึก..”
สองมือของเธอเขย่าร่างชายตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ต้องทำอะไร ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วไปหมด
.
…
.
“ลูกไม่เป็นอะไรหรอกคุณ อย่าเป็นกังวลไปเลย”
คนเป็นสามีพูดปลอบใจภรรยาที่นั่งเฝ้าลูกชายไม่ห่างจากเตียงแถมยังไม่พูดไม่จากับใครอีก
“ถ้าไม่เป็นอะไรแล้วทำไมลูกยังไม่ฟื้นอีกล่ะคะ “
“อรขอโทษนะคะคุณป้าความผิดอรเองค่ะ อรขอโทษ”
“โถลูกมันใช่ที่ไหนกัน ผิดที่คนร้ายนั่นต่างหาก “
ทัศนีย์หันมาพูดกับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดูทั้งที่เธอก็ได้รับบาดเจ็บแต่ก็ยังมานั่งเฝ้าชายหนุ่มอย่างใจจดใจจ่อไม่ยอมไปไหนเช่นกัน
“ผมไม่เป็นอะไรแล้วครับแม่ แต่หิวน้ำจังเลยครับ”
“ตาจอม! ตาจอมลูก! \ รอแปปนะคุณ”
ทั้งแม่ทั้งว่าที่เมียต่างตกใจ ดีใจจนหยิบจับอะไรไม่ถูกจนอดอมยิ้มออกมาเสียไม่ได้
“เจ็บมากไหมลูก โถลูกแม่แผลเต็มไปหมดเลย “
ทัศนีย์น้ำตาคลออีกครั้งด้วยความสงสารเธอเลี้ยงของเธอมาอย่างดี ไม่เคยทำให้ต้องเจ็บ ต้องช้ำใดๆ นี่ถ้าคนร้ายยังไม่ตายมีหวังเธอต้องโกรธจนได้เป็นคนฆ่าไอ้เลวนั่นเองกับมือแน่นอน
“ค่อยๆ ดื่มนะคุณ”
อรฤดีค่อยๆ จับหลอดน้ำให้คนป่วยดื่ม สายตาที่มองก็มากมายไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ทั้ง ห่วงหา รู้สึกผิด และหวาดกลัว ยิ่งภาพที่คนร้ายนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ๆ และภาพที่คนตรงหน้าอาบไปด้วยเลือดก่อนจะหมดสติไปต่อหน้าเธอมันน่ากลัวมากเหลือเกินเกิดมาทั้งชีวิตไม่เคยต้องเจอกับอะไรแบบนี้มาก่อนเลย
“ขอบคุณครับ คุณเจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
เขามองสำรวจร่างกายเธอคร่าวๆ ซึ่งก็เต็มไปด้วยแผลถลอก ฟกช้ำที่แขนทั้งสองข้างให้เห็น
“ชั้นไม่เป็นไร คุณต่างหากที่ต้องเจ็บตัวเพราะชั้น “
“คุณมีศัตรูที่ไหน ทำไมมันถึงจับตัวคุณ”
นี่เป็นคำถามที่อรฤดีเองก็ถามกับตัวเองมาตลอดแต่ไม่ว่าจะคิดยังไงก็คิดไม่ออกเลยเพื่อนก็มีแค่ไม่กี่คน ทะเลาะกับใคร รึก็ไม่มีมันมืดแปดด้านไปหมด
“ชั้นก็ไม่รู้ชั้นไม่เคยมีเรื่องกับใคร อยู่ไทยก็น้อยมากชั้นไม่รู้จริงๆ “
“หรือว่าเป็นพวกขี้ยาต้องการเงิน”
สุเมธนั่งคิดตามที่อรฤดีเล่าให้ฟังแล้วก็คิดว่าน่าจะใช่..
“ไม่น่าใช่ครับพ่อ มันต่อสู้เก่งมากไม่น่าจะใช่พวกขี้ยาแน่นอน เดี๋ยวเรื่องนี้ผมต้องตามสืบให้รู้ให้ได้ครับ”
“ถ้างั้นช่วงนี้หนูอรต้องระวังตัวมากๆ นะ อย่าไปไหนคนเดียวอีกถ้าจะไปไหนให้จอมไปด้วยนะ”
“นั่นสิลูก แม่ใจคอไม่ดีเลย “
“ค่ะ คุณลุงคุณป้า”
“ลุงป้าอะไรอีก จะแต่งงานกันอยู่แล้วเรียกพ่อ เรียกแม่สิลูก”
“อะ เอ่อ ค่ะ คุณพ่อ คุณแม่”
ท่าทางและน้ำเสียงอึกอักของเธอทำให้คนป่วยบนเตียงยิ้มออกมาในทันที
“เรากลับกันเถอะคุณ ลูกไม่เป็นอะไรแล้ว”
สุเมธเอ่ยชวนภรรยาแสนสวยของตนเองเมื่อเห็นว่าเป็นเวลาที่ดีที่จะให้ทั้งสองคนได้เรียนรู้ ดูแลซึ่งกันและกัน
“ก็ได้ค่ะ งั้นแม่กลับก่อนนะตาจอม เดี๋ยวแม่จะมาใหม่พักผ่อนเยอะๆ นะลูก”
“ครับแม่”
“สวัสดีค่ะ “
อรฤดีลุกขึ้นไหว้พร้อมกล่าวคำลาก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้คนทั้งสองแล้วเดินกลับเข้ามอีกครั้ง
เธอจ้องมองใบหน้าของอีกคนด้วยความรู้สึกผิดที่เขาต้องมาเจ็บตัวแบบนี้เพราะเธอใบหน้าที่หล่อเหลาเกลี้ยงเกลาสะอาดตาของเขาในตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยแผลแตก ฟกช้ำ ตามเนื้อตามตัวก็ไม่เว้น
“มองอะไรคุณ”
“ก็มองแผลคุณน่ะสิ เพราะชั้นแท้ๆ เลยขอบคุณนะถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ป่านนี้ชั้นจะเป็นยังไงก็ไม่รู้”
“อย่าคิดมากไปเลยนะคุณ ผู้ชายกับเรื่องชกต่อยมันเป็นเรื่องปกติ เดี๋ยวอีกไม่กี่วันหน้าผมก็จะกลับมาหล่อเหมือนเดิมอยู่แล้วสบายใจได้”
ถึงจะพูดแบบนั้นแต่ในใจลึกๆ ก็กลัวเหมือนกันหน้ายับเยินซะขนาดนี้ ..
“คุณหิวไหม”
“ผมยังไม่หิว เปิดซีรี่ย์ให้ผมดูหน่อยสิคุณ โดนป้ายยามาติดงอมแงมเลย”
“คุณเนี่ยนะดูซีรี่ย์..”
“เปิดเถอะน่าตอนใหม่มาแล้วผมรอตั้งนานนะ”
อรฤดีไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเองแต่ก็ต้องเชื่อก่อนจะหยิบรีโมทของโทรทัศน์แบรนด์ดังขึ้นมากดเปิดให้อีกคนที่กำลังตั้งท่ารออย่างตั้งใจ
“เรื่องนี้แหละเรื่องนี้แหละตอนล่าสุดเลยคุณ”
คนที่จดจ่ออยู่กับจอทีวีรีบพูดขึ้นเมื่อเลื่อนไปเจอเรื่องที่ตัวเองกำลังติดตามอยู่
“โอ้โหนี่ไม่ใช่ว่าเพราะดูซีรีที่หลอกเหรอแล้วคิดว่าตัวเองเป็นพระเอกเข้าไปต่อยตีกับคนร้ายน่ะ”
เพียงแค่เห็นทั้งภาพปกและชื่อเรื่องอรฤดีก็อดคิดไม่ได้ถึงเหตุการณ์น่ากลัวที่พึ่งจะเกิดขึ้นกับตัวเอง
“แหมคุณ.. ดูออกด้วยเหรอ โอ้ยยย!!”
คำตอบทีเล่นทีจริงของเขาทำให้หญิงสาวอดไม่ได้จนฟาดป้าบเข้าให้ไปที่แขนของพ่อพระออกนอกจอหนักๆ ทีนึงจนเจ้าตัวร้องลั่นออกมาด้วยความเจ็บ
“เจ็บนะคุณ /เจ็บสิดี ทีหลังจะได้ไม่ทำอะไรแบบนี้อีก”
“เมื่อกี้ยังขอโทษผมอยู่เลยตอนนี้มาทำร้ายร่างกายผมแล้วคุณนี่อำมหิตจริงๆ! โอ้ยๆ! อย่าๆ! “
จอมทัพที่กำลังบ่นก็รีบร้องขึ้นมาทันทีเมื่ออรฤดีทำท่ายกมือจะตีเขาอีกรอบทั้งที่ไม่ได้จะตีจริงๆ สักหน่อยแต่อีกคนก็ส่งเสียงร้องลั่นเหมือนว่าเธอตีไปแล้วจริงๆ
“ไม่ใช่สักหน่อยนะคุณ ตอนนั้นผมตั้งใจช่วยคุณจริงๆ ไม่ได้เอาเท่สักหน่อย”
“ดูซีรี่ย์ของคุณไปเลยไม่ต้องพูดแล้ว”
ใบหน้าสวยมองค้อนขวับก่อนจะวางรีโมทไว้ใกล้ๆ เขาแล้วลุกไปหยิบผลไม้มาปอกเปลือกใส่จานเป็นของว่างให้อีกคน
.
“กรี้ดดดดด!! ไอ้สวะเอ้ย! งานง่ายๆ แค่นี้ก็ทำพลาดเสียอารมณ์จริงๆ เลย” ลูกปัดกำโทรศัพท์ในมือแน่นเมื่อรู้ข่าวว่ามือดีที่ส่งไปจัดการกับศรัตรูหัวใจทำงานพลาดแถมยังจบชีวิตอีกต่างหากก็ทำเอาเธอถึงกับสติหลุดแต่ก็ดีเหมือนกันที่ตำรวจะได้สาวไม่ถึงตัวเธอ แต่หญิงสาวกลับไม่ได้รู้เลยว่าคนที่ต้องเจ็บตัวเพราะเรื่องที่เธอก่อขึ้นมานั้นคือคนที่เธอรัก …“เสียงดังโวยวายอะไรยายปัด” เปรมที่กำลังเดินผ่านมาพอดีเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นน้องสาวของตนเองกำลังหงุดหงิดกับอะไรบางอย่าง“พี่เปรม! ไหนบอกว่ารักบอกว่าชอบ อีนางนั่นไงคะ ทำไมไม่เห็นทำอะไรสักทีปัดจะทนไม่ไหวแล้วนะคะ!” “ปัดคิดจะทำอะไร ..”“ก็ถ้าพี่เปรมไม่ทำอะไรปัดจะทำเองค่ะ” “ถ้าปัดทำอะไรคุณอรละก็…”“ทำไมคะ พี่เปรมจะทำไม” “เรื่องอื่นพี่ไม่ว่า แต่ถ้าเรื่องคุณอร ปัดรู้เอาไว้เลยไม่ว่ายังไงพี่ก็จะไม่ยอมเด็ดขาด”คนเป็นพี่ยืนพูดด้วยน้ำเสียงดุดันและแววตาที่แข็งกร้าวท่าทางแบบนี้เธอจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อพี่ชายของเธอโกรธจัดหรือตอนที่จะทำเรื่องเลวร้ายเท่านั้น ลูกปัดได้แต่จ้องมองดวงตาคู่นั้นด้วยด้วยความไม่พอใจ อีนังนั่นมันมีดีอะไรนักหนาทุกคนถึงได้รุมปกป้องมันขนาดนั้น คิดอย่
“อยากจะเป็นพระเอกมากนักหรอมึง.. ตายซะ!” ปั้ง!… เสียงปืนดังลั่นไปทั่วบริเวณอรฤดีหยุดชะงัก ทั้งที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่หยาดน้ำตาไหลรินออกมาอย่างห้ามไม่ได้หัวใจเธอตอนนี้มันเหมือนจะหยุดเต้นไปด้วยในทันที ร่างของคนร้ายล้มหงายลงไปนอนกองอยู่กับพื้นแน่นิ่ง จอมทัพเองก็ทิ้งตัวนอนลงไปด้วยความเหนื่อยหมดแรงหายใจหอบตัวโยน แล้วเสียงตำรวจก็วิ่งกรูกันเข้ามา ให้ตายเถอะนี่แค่จะมารับสาวเองไม่ใช่เหรอทำไมเกือบได้เอาชีวิตมาทิ้งซะอย่างนั้นดูจากการต่อสู้แล้วต้องเป็นมืออาชีพแน่ๆ ถ้าตำรวจมาช้าอีกนิดคงเป็นเขาแน่ๆ ที่นอนหมดลมหายใจอยู่ตรงนี้ “ฮึก ..ฮึก คุณ คุณ เป็นอะไรมากไหมคุณ “อรฤดีรีบวิ่งมาหาจอมทัพที่นอนเลือดอาบไปทั่วทั้งใบหน้าด้วยความเป็นห่วง แก้มใสๆ อาบชุ่มไปด้วยน้ำตาแต่เมื่อเห็นว่าเธอปลอดภัยแล้วสติการรับรู้ของเขาก็ค่อยๆ เลือนหายไป.. “คุณ อย่าเป็นอะไรไปนะคุณ ฟื้นสิ.. ฟื้นสิคุณ ฮึก ฮึก..”สองมือของเธอเขย่าร่างชายตรงหน้าด้วยหัวใจที่เจ็บปวด ไม่รู้เลยว่าตอนนี้ต้องทำอะไร ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วไปหมด .….“ลูกไม่เป็นอะไรหรอกคุณ อย่าเป็นกังวลไปเลย”คนเป็นสามีพูดปลอบใจภรรยาที่นั่งเฝ้าลูกชายไม่ห่างจากเตีย
“นี่คุณยังไม่หายโกรธผมเรื่องนี้อีกเหรอ”“ไม่ได้โกรธค่ะก็เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวชั้นแค่ไม่อยากถูกใครมากล่าวหามาว่าชั้นอีก”มันก็จริงของเธออย่างที่เธอว่า..เธอมีสิทธิ์ที่จะไม่พอใจในเมื่อควรเป็นเค้าเองที่จะต้องจัดการเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้ดี ต่อให้เอ่ยคำขอโทษไปอีกกี่ครั้งเรื่องราวมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปความรู้สึกของเธอก็ไม่ได้กลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยเช่นกันเขาไม่ได้พูดอะไรระหว่างทางเพียงแต่ขับรถตรงไปยังร้านอาหารแห่งใหม่ที่คิดว่าเธอน่าจะชอบเพื่อเป็นการชดเชยที่ทำให้เธอต้องรู้สึกไม่ดีหญิงสาวนั่งตรงสายตาจ้องมองไปยังเส้นทางด้านหน้าเมื่อรถเลี้ยวเข้ามาในร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่งเธอนั้นคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี“คุณรู้จักร้านนี้ได้ยังไง..”คำพูดของเธอเรียกความสนใจจากชายหนุ่มได้ไม่น้อยเค้าเองก็หันมามองหน้าเธอเช่นเดียวกันเพราะ ไม่คิดว่าเธอเองก็จะรู้จักร้านนี้เช่นกัน“คุณก็รู้จักร้านนี้เหมือนกันเหรอ”“นี่เป็นร้านที่ฉันชอบมากับคุณปู่บ่อยๆ แต่ว่าตั้งแต่คุณปู่เสียไปฉันก็ไม่ค่อยได้มาอีก”สายตาของเธอไหววูบลงเมื่อนึกถึงคนที่จะไปอยู่บนสรวงสวรรค์และยิ่งคิดถึงมากขึ้นไปอีกเมื่อตอนนี้เธออยู่ไห
“ทำไมต้องเจอผู้หญิงหน้าด้านที่นี่นะ”คำพูดของลูกปัดดังพอที่จะทำให้ทั้งอรฤดีและกรองขวัญได้ชัดชัดเจนจนต้องเงยหน้ามามองตากันในทันทีตอนนี้อรฤดีรู้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นคนรักของว่าที่สามีเธอและเป็นผู้หญิงเดียวกันกับที่เดินชนเธอในวันก่อนไม่รู้ทำไมเมื่อเรียบเรียงสถานการณ์ได้อย่างนั้นแล้วก็เกิดความความรู้สึกไม่พอใจบางอย่างขึ้นมาทันทีทั้งที่ตกตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วแต่ปล่อยให้มีเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไงอรฤดีหันไปมองลูกปัดด้วยแววตาเอาเรื่องแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเพราะไม่อยากจะทำให้ เสียบรรยากาศอุตส่าห์ตั้งใจจะกินไอติมให้อารมณ์เย็นลงให้ใจดีขึ้นมา แต่กลับมาเจอต้นต่อตัวปัญหาเข้าเต็มๆ“มองทำไมยะ ไม่เคยเห็นคนมากับแฟนรึไงหรือว่ามองเพราะอยากจะได้ของของคนอื่นจนตัวสั่น!”“มันจะมากไปแล้วนะนังลูกปัด จะพูดจะจาอะไรหัดคิดก่อนซะบ้าง”กรองขวัญเอ่ยพูดสวนขึ้นมาทันที เมื่อ รู้สึกว่าผู้หญิงที่สวยแต่เปลือกคนนี้นั้นพูดจารุนแรงเกินไป“แหมก็เรื่องจริงทั้งนั้นทนฟังไม่ได้เหรอ จะคบเพื่อนก็เลือกคบหน่อยนะ ระวังจะโดนเพื่อนรัก สวมเขาให้รู้ตัว”ลูกปัดเบะปากพูดจีบปากจีบคอหน้าระรื่นหันไปทางกรองขวัญเพื่อนที่สนิทและก็ไม่อยากสน
”อ้าวสวัสดีครับเจอกันอีกแล้ว“เสียงที่ไม่ค่อยคุ้นหูจากคนที่ไม่ค่อยคุ้นหน้าเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเองด้วยรอยยิ้มพร้อมกับสองขาที่สาวเท้าก้าวเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าอรฤดีด้วยท่าทางที่เป็นมิตรกว่าครั้งก่อนที่เจอ”วันนี้มาคนเดียวเหรอครับ“ชายหนุ่มเอ่ยถามพร้อมกับกวาดสายตามองรอบๆ ไปด้วยซึ่งก็ไม่เห็นว่าจะมีเงาของจอมทัพหรือใคร“อรมากับเพื่อนค่ะ”“ผมอยากรู้จักคุณมากกว่านี้นะ..””อย่าดีกว่าค่ะอรกำลังจะแต่งงานแล้วนะคะคงจะดูไม่ดี“”การแต่งงานปลอมๆ น่ะเหรอครับ“ทันทีที่เปรมพูดอย่างนั้นอรฤดีก็เงยหน้าขึ้นมองสบตาเขาทันทีเพราะไม่คิดว่าชายหนุ่มตรงหน้านี้จะรู้ความจริง“คุณรู้ได้ยังไงคะ”“ผมรู้ได้ยังไงไม่สำคัญหรอกครับ ที่สำคัญคือผมช่วยคุณได้ถ้าหากคุณต้องการ”ชายหนุ่มตรงหน้าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นเขาถูกใจเธอตั้งแต่แรกพบแต่เมื่อเห็นว่าเธอนั่งอยู่กับคนรักของน้องสาวตนเองในวันนั้นก็รู้สึกผิดหวังไม่น้อยที่เธอเข้ามาเป็นบุคคลที่สามของชีวิตคู่คนอื่น แต่เมื่อได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากน้องสาวของตัวเองเขาก็มีแรงฮึดสู้ที่จะสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง แล้วตอนนี้เขาก็พร้อมลุยเดินหน้าเต็มที่เพื่อที่จะดึงผู้หญิงคนนี้
หลายวันต่อมา “ไม่ต้องห่วงนะคะคุณแม่ขวัญจะคอยเคี่ยวเข็ญให้ยายอรทำตามที่คุณแม่พูดอย่างเคร่งครัดเลยค่ะ”กรองขวัญจีบปากจีบคอพูดรับปากสิริวดีแม่ของเพื่อนสนิทตัวเองเป็นมั่นเป็นเหมาะในการรับหน้าที่พาอรฤดีไปเข้าคอร์สเจ้าสาวในวันนี้“ดีมากลูกถ้าเกิดว่ายายอรดื้อขึ้นมาโทรบอกแม่เลยนะ”“ได้เลยค่ะคุณแม่ไม่ต้องห่วงนะคะขวัญจะดูแลอย่างดีเลยค่ะงั้นพวกเราไปก่อนนะคะ”คนเป็นแม่โบกมือบ๊ายบายให้กับหญิงสาวทั้งสองที่รักปานดวงใจ เห็นลูกสาวของเธอมีเพื่อนสนิทที่รักใคร่กันดีพร้อมให้ความช่วยเหลือกันแบบนี้คนเป็นแม่แบบเธอก็นอนตายตาหลับ แต่ดูเหมือนว่าที่เจ้าสาวจะหน้างอไม่พอยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไหร่อีกต่างหาก “ไม่เห็นจำเป็นเลยคอร์สเจ้าทรงเจ้าสาวอะไรมันจะทำให้สวยขึ้นมาได้สักแค่ไหนกันเชียวก็แค่แผนการตลาดหาเงินเพิ่มเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ”อรฤดีขึ้นมาบนรถคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จแล้วก็นั่งกอดอกแล้วบ่นอุ๊บอิ๊บในทันที “จะบ้าเหรออรมันจำเป็นมากเลยนะ ไม่ว่าแกจะแต่งเล่นหรือแต่งจริงแต่งแล้วจะอยู่ทนหรือจะเลิกมันไม่สำคัญมันสำคัญตรงที่วันที่แกได้แต่งตัวแต่งหน้าแต่งชุดเจ้าสาวคนที่สวยที่สุดในงานก็คือแกทุกสายตาจะต้องจับจ้องมาที่แก