ผมเดินเข้าไปที่หลังตึกวิทยาลัยช่างที่เป็นอริกัน เห็นไอ้พันนั่งดูดบุหรี่อยู่กับเพื่อนวิทยาลัยนี้อยู่ไม่ไกล
มือผมกำหมัดแน่น สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไร
ไอ้พันมันสังเกตเห็นผมก่อนตอนที่ผมเหยียบใบไม้แห้งเสียงดัง มันที่นั่งยองๆ อยู่ลุกขึ้นยืนแล้วล้วงกระเป๋าสบตาผม ในขณะที่ผมเองก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามัน
“มึงมาที่นี่ทำไมวะ” มันถามผมขึ้นมา ใจผมนึกถึงชูใจแล้วก็คลายหมัดออก สบตากับมันอย่างเงียบงัน “เราไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว มึงคงไม่มีธุระอะไรกับกู”
“...”
“อีกอย่าง ช่วงนี้กูก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเมียมึงแล้ว...”
“แล้วถ้ากูอยากให้มึงกลับมายุ่งกับชูใจอีก มึงจะว่าไง?” ผมแทรกมันขึ้นมา ไอ้พันชะงักไป มันมีสีหน้าไม่เชื่อ
“พูดบ้าอะไร”
“กูยุ่งกับชูใจไม่ได้แล้วตอนนี้” ผมจ้องตามัน ก่อนที่จะแค่นยิ้ม “กูทำชูใจท้อง แล้วพ่อแม่ชูใจไม่คิดยอมรับกู”
“...!”
“ถ้าเป็นมึง เขาอาจจะยอมรับ อีกอย่างชูใจก็เคยชอบมึง”
ไอ้พันเบิกตากว้างเมื่อผมสารภาพออกมาว่าผมทำชูใจท้อง มันเซไปนิดหน่อย แต่เพื่อนมันคว้าแขนไว้ ผมเข้าใจดี เอาจริงๆ มันก็รักชูใจไม่ต่างกับผม ผมมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด ถ้าไม่ใช่ผม มันคงเป็นใครก็ได้
“ชูใจท้อง...?” มันทวนคำขึ้นมา ผมพยักหน้ารับ ก่อนที่จะถูกกระชากคอเสื้อเข้ามาตรงหน้าด้วยฝีมือของไอ้พันที่ฟิวส์ขาด “มึงแม่ง! ทำผู้หญิงท้องแต่กลับไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอวะ!”
“ต่อยกูดิ” ผมโพล่งขึ้นมาทันทีอย่างยอมแพ้ มันชะงักไป “ไม่ใช่ไม่รู้ว่าที่ทำไปมันเรียกว่าเหี้ยไร”
“...”
“กูก็เจ็บไม่ต่างกัน แต่ให้ทำไงวะ พอกูไปยอมรับว่าทำชูใจท้อง เขาก็หาผู้ชายใหม่ให้ชูใจแต่งงานทันที!” ผมแค่นหัวเราะออกมาอย่างสมเพชตัวเอง “กูไม่มีทางเลือก มันจะเป็นมึงก็ได้ เพราะมึงเป็นเพื่อนของกู”
“...”
“แต่กูไม่อยากยกชูใจให้ไอ้โชน” ผมพูดแล้วน้ำตาคลอขึ้นมาที่หน่วยตาอย่างสุดจะอดกลั้น “... ไม่อยากยกให้แม่งจริงๆ”
“...”
“ขอร้องมึงเลยว่ะไอ้พัน” ผมยกมือขึ้นไหว้มันในแบบที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน ไอ้พันเหมือนไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าคนอย่างไอ้เหี้ยโหนจะยอมไหว้ใครก่อนจริงๆ ที่ผ่านมาผมไม่เคยยอมใคร แต่เรื่องนี้ ผมว่าผมมันไม่ดีพอสำหรับเธอ
พลั่ก!!
“ไอ้เวร!!” มันผลักผมจนเซไปข้างหลัง ไอ้พันต่อยหน้าผมสุดแรงไปหมัดนึง พวกเพื่อนของมันไม่คิดจะยุ่งกับเราเพราะแม่งเป็นเรื่องของมันกับผมแค่สองคน “มึงทำไมขี้ขลาดขนาดนี้วะ!!”
“...”
“ถ้าเกิดว่ามึงทำเขาท้อง นั่นก็แปลว่าเขารักมึง รักมึง! เข้าใจมั้ยไอ้โง่!”
“...”
“กับกู ชูใจไม่แม้แต่จะชายตามองด้วยซ้ำตั้งแต่ที่คบกับมึง” มันตรงมากระชากคอเสื้อผมที่ปาดเลือดที่ข้างมุมปากออก “ถ้าเกิดว่าสุดท้ายกูจะต้องมาเห็นมึงเป็นแบบนี้ กูจะไม่ยอมถอยจากชูใจให้มึงตั้งแต่แรกเลยว่ะ!”
“แล้วคนอย่างกูมันจะทำอะไรได้?” ผมเงยหน้าขึ้นไปจ้องตามันเขม็ง คว้าข้อมือมันที่ทึ้งคอเสื้อช็อปเด็กช่างของผมไว้แน่น “พ่อแม่ชูใจไม่คิดจะให้เธอคบกับกู แม้แต่คำว่าเพื่อนยังไม่ให้กูมีสิทธิ์ ที่ผ่านมาที่ชูใจคุยกับกู นั่นก็แค่ลับหลังพ่อแม่”
“...”
“ที่เราคบกันก็เพราะเธอก็แอบพ่อแม่เหมือนกัน”
“...”
“บางทีชูใจอาจจะเหมาะกับคนที่เธอไม่ต้องแอบคบลับหลังพ่อแม่เหมือนอย่างกูก็ได้”
“ไอ้โหน” มันเน้นย้ำชื่อผมอย่างหนักแน่น ก่อนที่จะผลักไหล่ผมออกห่าง “มึงไม่เคยเป็นแบบนี้”
“...”
“เพื่อนของกูไม่ใช่คนขี้ขลาดแบบนี้” ผมนิ่งไปเมื่อได้ยินคำนั้นออกมาจากปากมัน คำว่า ‘เพื่อน’ “คนที่ทำให้กูถอยให้ทั้งที่ชอบชูใจมากเหมือนกันเพราะมันมุ่งมั่นรักชูใจจนแทบบ้า นั่นคือมึงไม่ใช่เหรอวะ”
“...”
“คนที่สู้ทุกอย่าง ต่อยไอ้หมอโอห์มแฟนคนแรกของเธอตอนที่มันจะข่มขืนเธอนั่นมันใครวะ มึงทำขนาดนั้นไปเพื่อเหี้ยอะไร ถ้าไม่ใช่เพื่อได้หัวใจของชูใจ?”
“...”
“ถ้าสุดท้ายมึงได้ใจเธอมาแล้ว จนเธอไว้ใจมีอะไรกับมึงจนท้อง แล้วมึงมาขี้ขลาดตาขาวทิ้งชูใจกับลูกไปแบบนี้ กูว่า... มันไม่ใช่มึงเลยว่ะ”
ผมนั่งโทรคุยกับใครบางคนอยู่บนหลังเบาะมอเตอร์ไซค์ลูกรัก
“ถ้าสุดท้ายมึงได้ใจเธอมาแล้ว จนเธอไว้ใจมีอะไรกับมึงจนท้อง แล้วมึงมาขี้ขลาดตาขาวทิ้งชูใจกับลูกไปแบบนี้ กูว่า... มันไม่ใช่มึงเลยว่ะ”
คำพูดของไอ้พันทำให้ผมได้คิดอะไรหลายๆ อย่าง บางทีผมก็กลัวมากไป จนเผลอทำร้ายความรู้สึกของเมียและลูก บางทีผมอาจจะฝังใจที่เคยโดนพ่อแม่เธอเหยียดหยามผมขนาดนั้น จนเผลอคิดไปว่าผมมันไม่ดีพออย่างที่ใครๆ คิด
แต่สุดท้าย...
คนที่เป็นพ่อของลูกชูใจก็คือผมไม่ใช่เหรอวะ?
ถ้าผมยอมยกเธอให้ไอ้พัน นั่นมันก็จะไม่ใช่ตัวผมอีกต่อไป
ติ๊ด
[โทรมามีธุระอะไรกับกู ไอ้โหน?]
เสียงของปลายสายที่กดรับยังเถื่อนเหมือนเคย ผมเงยหน้าขึ้นมองตึกข้างหน้าที่ตัวเองเพิ่งขับมาถึงเมื่อไม่นาน มองนาฬิกาข้อมือก็เห็นว่าตอนนี้ตีสี่ครึ่ง
ก็แค่รีบไปหน่อย
“พ่อมาที่หอพักชูใจหน่อยดิ แล้วผมจะบอกว่าต้องทำไรต่อ” ผมพูดขึ้นมากับปลายสาย พร้อมกับฉีกยิ้มร้าย “ช่วยผมหน่อย”
รีบมาหาเธอ
[จบพาร์ท : โหน]
[พาร์ท : โหน]ผมนั่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์นิ่งงันShoujai Chutimon : โหนShoujai Chutimon : ว่างอยู่มั้ย เรามีอะไรจะปรึกษาหน่อยข้อความที่ไม่ได้อ่านของชูใจโผล่ขึ้นบนหน้าจอ ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ความพยายามที่จะลืมเธอพังลงก็วันนี้ไม่คิดว่าเธอจะทักมา ทำเหมือนเราเป็นเพื่อนกันอย่างสนิทใจขนาดนั้นเธอคงไม่รู้ ว่ามันลืมยากขนาดไหน กับการที่ต้องพยายามใช้ชีวิตโดยไม่มีเธอโดยที่ต้องเตือนตัวเองทุกวันว่ากูคือเพื่อน กูต้องเป็นเพื่อนแต่ก็คงเป็นเรื่องสำคัญมั้ง ถึงได้ทักมาได้ข่าวว่าไอ้ลูกโชนแทบไม่ยอมให้เธอออกห่างจากตัวเลยระหว่างสองอาทิตย์ที่ผ่านมา สองคนนั้นดูชัดเจนกันมากผมเคารพการตัดสินใจของเธอนะชื่อ โหน : รอเดี๋ยวนะชื่อ โหน : เราอยู่กับแฟนแต่ผมก็คงต้องเริ่มต้นใหม่เหมือนกันผมไม่ได้โกหก แค่พูดไม่หมดทุกอย่าง ว่าแฟนที่ว่าตอนนี้ก็แค่คุยๆ กัน ยังไม่ได้ตกลงคบกันจริงจัง เพราะผมยังตัดใจไม่ได้ชูใจชัดเจนขนาดนั้นแล้วว่ะ จะให้ผมเข้าไปแทรกกลางในฐานะอะไร ลูกก็ไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรที่จะผูกมัดเราให้อยู่ด้วยกันอีก เข้าใจใช่ปะว่าแม่งไม่มีทางแล้วผมไม่ได้ไม่พยายาม แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันตัดกำลังกูไปหมดแล้ว
ผมเมามาย ขับมอเตอร์ไซค์กลับไปที่ห้อง นอนกดแชทเฟสดูข้อความเก่าๆ ของผมกับชูใจที่คุยกันผมนึกยิ้มตอนที่นึกไปถึงสมัยที่คบกับเธอแต่เป็นได้แค่เพื่อนสนิท ไม่สามารถเป็นไรที่มากกว่านั้น อาจเพราะใจผมไม่กล้าพอ หรือไม่เธอแม่งก็ซื่อบื้อเกินไปแต่ก็นึกเสียใจว่ะ ที่วันนี้มันไม่มีวันนั้นอีกแล้วเป็นเพื่อนก็คงดีกว่า เพราะว่าเพื่อนไม่มีวันเลิกกันติ๊งเสียงแจ้งเตือนเฟสทำให้ผมชะงักที่จะเลื่อนดูแชทของเรา พอเปิดเข้าไปดูก็เห็นว่าเป็นแจ้งเตือนเฟสของชูใจที่ผมตั้งติดตามเธอไว้เวลาเธออัพอะไร มันขึ้นเหมือนว่าเธอจะลงรูปใหม่ใจผมเต้น ตอนที่กดเข้าไปดูมันใช่รูปเธอกับไอ้ลูกโชน เป็นภาพที่เธอเซลฟี่คู่กับมัน ในฐานะแฟนผมมองภาพนั้น ใจแม่งชายิบ ฉีกยิ้มออกมาตอนที่กดพิมพ์ข้อความส่งไปในแชทของเธอสั้นๆชื่อ โหน : ยินดีด้วยนะชูใจกดอ่านทันที ผมเผลอคิดว่าเธอจะรอผมอยู่ แต่ก็ใจแฟบลงเมื่อเธอพิมพ์ตอบกลับมาShoujai Chutimon : ขอบคุณนะShoujai Chutimon : โหนเอง ก็เป็นเพื่อนที่ดีเหมือนกันจงใจใช่มั้ยวะจงใจพิมพ์คำว่าเพื่อนให้ผมรู้สถานะตัวเองในตอนนี้ใช่ปะผมรู้อยู่แล้วชื่อ โหน : ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะชูใจชื่อ โหน : เรายังเป็นเพื่อนเ
พี่ลูกโชนมาส่งฉันที่หอพักอย่างเคย เหมือนทุกๆ วันที่เขามาส่งฉันแต่ก็แปลกนะ... ที่ฉันไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลยหัวใจเล็กๆ ที่เติบโตอยู่ในท้อง มันถูกตีตราว่าเป็นลูกของเขาคนนั้น เป็นลูกของคนที่เลือกจะปล่อยฉันไปแค่เพราะว่าพ่อแม่ฉันไม่ยอมรับเขา“เลิกคบกับมันแล้วเหรอ น้องชูใจ” ฉันชะงักไปเมื่อได้ยินเสียงของพี่ลูกโชนที่กำลังขับรถอยู่ตรงหน้า ผู้ชายที่มีความมั่นคง มีรถ บ้านมีฐานะ เรียนวิศวะ ผู้ชายแบบนี้สินะที่พ่อแม่ฉันต้องการ“หมายถึงใครคะ?”“ไอ้ขี้ก้างนั่น” เขาเรียกโหนแบบไม่มีความเกรงใจ ฉันคลี่ยิ้มบางออกมา“ไม่ได้คบหรอกค่ะ ทำไมเหรอ?”“พี่แค่อยากรู้ว่าหนูคิดยังไง ที่พ่อแม่หนูให้หนูหมั้นกับพี่” พี่ลูกโชนหันมาถามอย่างต้องการคำตอบ ฉันนิ่งไปฉันในตอนนี้ต้องรู้สึกอะไรเหรอ?ก็เป็นแค่ตุ๊กตาล้มลุกที่พ่อแม่จับให้เดินไปทางไหนก็ได้ แม้กระทั่งเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองฉันยังทำอะไรไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับการที่ฉันจะต้องแสดงความคิดเห็นกับเขาว่าฉันชอบหรือไม่ฉันยังคงยิ้มอยู่ แต่หัวใจแตกสลาย“ชูใจคงรู้สึกอะไรไม่ได้ นอกจากยินดีค่ะ” ฉันเลือกที่จะตอบอย่างเป็นกลางที่สุด แม้มันจะดูให้ความหวังคนตรงหน้าก็ตาม “พ่อแม่เลื
ผมเดินเข้าไปที่หลังตึกวิทยาลัยช่างที่เป็นอริกัน เห็นไอ้พันนั่งดูดบุหรี่อยู่กับเพื่อนวิทยาลัยนี้อยู่ไม่ไกลมือผมกำหมัดแน่น สูดลมหายใจลึกๆ เพื่อให้รู้ตัวว่าผมกำลังทำอะไรไอ้พันมันสังเกตเห็นผมก่อนตอนที่ผมเหยียบใบไม้แห้งเสียงดัง มันที่นั่งยองๆ อยู่ลุกขึ้นยืนแล้วล้วงกระเป๋าสบตาผม ในขณะที่ผมเองก็เดินไปหยุดอยู่ตรงหน้ามัน“มึงมาที่นี่ทำไมวะ” มันถามผมขึ้นมา ใจผมนึกถึงชูใจแล้วก็คลายหมัดออก สบตากับมันอย่างเงียบงัน “เราไม่ใช่เพื่อนกันแล้ว มึงคงไม่มีธุระอะไรกับกู”“...”“อีกอย่าง ช่วงนี้กูก็ไม่ได้ไปยุ่งกับเมียมึงแล้ว...”“แล้วถ้ากูอยากให้มึงกลับมายุ่งกับชูใจอีก มึงจะว่าไง?” ผมแทรกมันขึ้นมา ไอ้พันชะงักไป มันมีสีหน้าไม่เชื่อ“พูดบ้าอะไร”“กูยุ่งกับชูใจไม่ได้แล้วตอนนี้” ผมจ้องตามัน ก่อนที่จะแค่นยิ้ม “กูทำชูใจท้อง แล้วพ่อแม่ชูใจไม่คิดยอมรับกู”“...!”“ถ้าเป็นมึง เขาอาจจะยอมรับ อีกอย่างชูใจก็เคยชอบมึง”ไอ้พันเบิกตากว้างเมื่อผมสารภาพออกมาว่าผมทำชูใจท้อง มันเซไปนิดหน่อย แต่เพื่อนมันคว้าแขนไว้ ผมเข้าใจดี เอาจริงๆ มันก็รักชูใจไม่ต่างกับผม ผมมันก็แค่ไอ้ขี้ขลาด ถ้าไม่ใช่ผม มันคงเป็นใครก็ได้“ชูใจท้อง...?” มั
“เค้าไม่พร้อมจะมีลูก ไม่พร้อมเหี้ยไรทั้งนั้น”“...”“เค้าไม่มีอนาคตว่ะเธอ เค้าเรียนยังไม่จบ เค้าไม่มีงานเป็นหลักเป็นแหล่ง” ผมร้องไห้ออกมา สุดท้ายก็อ่อนแอต่อหน้าเธอ ผมรู้ว่าร้อยทั้งร้อย ผู้ชายอายุยี่สิบต้นๆ มาเจอเรื่องแบบนี้คงตันไปหมดทุกทางเหมือนผมผมไม่พร้อมเลยจริงๆ ว่ะ“...”“ให้เวลาเค้าหน่อยนะชูใจ” ผมพูดคำนั้นออกมา เพราะผมไม่รู้ว่าผมจะทำหน้าที่พ่อที่ดีได้มั้ย ในเมื่อทุกวันนี้ผมยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่เคยคิดถึงเรื่องอนาคต ลำพังที่ขยันเรียน เพราะหลงรักเธอแค่นั้น “ให้เวลาเค้าสักสองเดือน”“...”“เค้าขอเวลาแค่สองเดือน” ชูใจมองผมทั้งน้ำตา เธอเองคงเจ็บช้ำกับคำพูดผมมากพอ ลำพังแค่ทำตัวแบบนี้ก็ทำลายความเชื่อใจลงไปมากแล้วกับแฟนที่กำลังตั้งท้องอยู่ แถมยังให้เธอรอผมอีกรอแม่งตั้งสองเดือน เป็นใครก็ไม่รอหรอกว่ะ“... งั้นโหนก็ไปตามทางของโหนเถอะ” ชูใจโพล่งขึ้นมาอย่างหนักแน่น เหมือนเธอรู้แล้วว่าคนอย่างผมมันไม่มีอะไรดีจริงๆ“...”“เค้าพร้อมจะลาออกเมื่อท้องโต และเค้าจะเลี้ยงลูกเอง”ผมกลับมาที่ห้อง หลังจากเมามายไม่ได้สติผมทรงตัวไม่อยู่ ร้องไห้ตลอดเวลาเลยว่ะ ผมได้แต่โทษตัวเอง ว่าเป็นเพราะผม ชูใจถึงได้ท
[ชูใจมีน้องแล้วนะคะ!]หัวใจผมแทบหยุดเต้นซะเดี๋ยวนั้น ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว มือถือที่กำไว้แทบหลุดจากมือหลังจากที่เพื่อนของชูใจโทรมาบอกว่าเธอท้อง ผู้หญิงคนนั้นบอกทางไปคลีนิคเสร็จสรรพก่อนจะวางสายไปเพราะต้องเข้าไปดูอาการชูใจ ผมก็ขับไปอย่างไร้จุดหมาย เรื่องที่ผมกลัวที่สุดแม่งเกิดขึ้นแล้ว ชูใจท้องแล้ว แล้วผมจะทำไงต่อไปดีวะ?ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องที่จะมีลูกมาก่อน เท่าที่คิดได้คือ... ต้องไปหาเธอต้องไปดูให้เห็นกับตาว่าเธอท้องจริงๆ!ผมเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิม แต่เพราะความเหม่อลอยของผม มารู้สึกตัวอีกทีรถมอเตอร์ไซค์ของผมก็พุ่งเข้าชนเสาอย่างแรงเปรี้ยง!!เฮือกสุดท้ายผมคิดถึงชูใจ ก่อนที่จะคิดถึงลูกลูกของผม[จบพาร์ท : โหน]ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในความเงียบ พอรู้สึกตัวก็เห็นว่ามีมินตันนั่งอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเป็นห่วง เธอกุมมือฉันไว้ ในขณะที่ฉันเองก็รู้สึกอ่อนแรง“มินตัน...” ฉันเรียกชื่อเพื่อนออกมา ก่อนที่จะลูบหน้าท้องของตัวเองอย่างลืมตัว“ตื่นแล้วเหรอ” เธอสบตาฉัน ในความรู้สึกนั้นเหมือนเธอจะตำหนิกลายๆ ด้วยสายตา “ถ้ารู้ว่าไม่ไหวก็อย่าฝืนมาเรียนสิ”ฉันเม้มริมฝีปากแน่น ไม่อยากยอมรับว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ