แชร์

บทที่ 458

ผู้เขียน: จิ้งซิง
เป่ยเฉินหยวน “ไม่ต้องแล้ว ขอบคุณสำหรับความหวังดีของคุณชายฉี แม่ชีลงจากเขาครั้งนี้ยังมีธุระอื่นอีก เกรงกว่าจะไม่สามารถไปเป็นแขกที่จวนเสนาบดีได้ ขออภัยด้วย”

ฉีเซิ่งไม่สามารถเชื้อเชิญได้สำเร็จ แม้ว่าจะผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังเอ่ยด้วยความยินดีปรีดา “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร หากธิดาศักดิ์สิทธิ์ยังมีธุระก็รีบไปทำเลยเถอะ แค่บอกข้าว่าอีกประเดี๋ยวจะไปหาท่านได้ที่ไหนก็พอ”

เวินซื่อเห็นเขามีท่าทีดึงดันที่จะมอบของขวัญชิ้นนี้ให้ได้ จึงทำได้เพียงพูดอย่างไม่มีทางเลี่ยง “ตอนนี้แม่ชีจะไปที่จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน ถ้าคุณชายฉีไม่ถือสา ก็ไปที่จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแล้วกัน”

จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทน?

ฉีเซิ่งรู้สึกปวดหัวขึ้นมาทันที

พูดตามตรง เขาค่อนข้างหวาดกลัวอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนท่านนั้นจริง ๆ

ถึงอย่างไรบารมีอันเด็ดเดี่ยวและเฉียบขาดจากร่างกายของอีกฝ่าย ก็ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปสามารถต้านทานได้จริง ๆ

แต่เพื่อมอบของขวัญชิ้นนี้ที่เขาตั้งอกตั้งใจเตรียมไว้ให้กับมือของเวินซื่อ ฉีเซิ่งก็ทำได้เพียงดึงดันพยักหน้าตอบว่า “ตกลง ถ้าอย่างนั้น...ก็ไปที่จวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแล้วกัน”

หลังจากนั้นไม่นาน เวินซื
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 814

    “อะ...อะไรนะ?”ตอนที่พาเข้ามา ฟ่านซิ่วซิ่วถูกปิดตาไว้ บวกกับแสงเทียนด้านในได้ดับลงจำนวนหนึ่ง เหลือเพียงแสงเทียนสีเหลืองสลัว ๆดังนั้นฟ่านซิ่วซิ่วจึงจำไม่ได้จริง ๆ ว่าที่นี่คือที่ไหนเมื่อนางได้ยินคำพูดนี้และลืมตาขึ้นอีกครั้ง แวบแรกนางไม่ได้มองไปรอบ ๆ แต่สายตากลับถูกดึงดูดไปที่ร่างที่อยู่ห่างออกไปสามเมตรตรงหน้า“เจ้า...เจ้าคือใคร?”เวินซื่อเห็นนางจ้องมองตัวเองอยู่ตลอดเวลา แววตานิ่งไม่ไหวติง นางดูเหมือนจะนึกอะไรออกบางอย่าง จึงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยพลางเอ่ยว่า “ข้าคือ...เวินซื่อ และเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงที่เจ้ากำลังตามหา”“เจ้าคือธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงอย่างนั้นหรือ?”เสียงที่อ่อนแรงอยู่แล้วของฟ่านซิ่วซิ่วได้ดังขึ้นอย่างฉับพลัน สายตาและน้ำเสียงของนางแฝงไว้ซึ่งความเหลือเชื่อ“เป็นไปไม่ได้...ภาพวาดเหมือน เจ้าดูแตกต่างจากในภาพวาดเหมือนอย่างสิ้นเชิง!”ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาก็ดี อากัปกิริยาก็ดี หรือแม้แต่จะว่ากันด้วยเรื่องอุปนิสัย ล้วนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เป็นคนละคนกันอย่างชัดเจน!เวินซื่อหัวเราะเบา ๆ “บางทีภาพวาดเหมือนที่เจ้ากำลังดูอยู่อาจจะไม่ใช่ตัวข้ากระมัง”ฟ่านซิ่วซิ่วจ้องเขม็ง

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 813

    หากปรมาจารย์ตัวอ่อนกู่เชื่อถือไม่ได้ เช่นนั้นก็เชิญคนอื่นมารับตำแหน่ง!อันที่จริงพันธมิตรที่มีมากที่สุดของตระกูลฟ่านก็คือปรมาจารย์กู่แน่นอน หากต้องการรับมือเป่ยเฉินหยวนแล้วล่ะก็ แค่จัดการกับปรมาจารย์กู่รุ่นหลังผู้นั้นยังไม่เพียงพอจำเป็นต้องจับตัวธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงให้ได้!มีเพียงการจับตัวนางไว้เท่านั้น ถึงจะสามารถข่มขู่เป่ยเฉินหยวนได้ฟ่านจงคิดเช่นนี้ แต่กลับไม่รู้ว่าบุคคลที่เขาต้องการจัดการและจับกุมนั้นความจริงแล้วเป็นคนคนเดียวกันสำหรับวิธีการที่เขาจะจับเวินซื่อมาเป็นตัวประกันนั้นได้ผลก็จริงอยู่ แต่น่าเสียดายที่เป่ยเฉินหยวนได้นำเขาไปหนึ่งก้าวแล้ว“พาคนขึ้นมา”เป่ยเฉินหยวนดูเหมือนจะไม่สนใจห้องลับที่ว่างเปล่านี้มากนัก และไม่สนใจ “หลักฐาน” เหล่านั้นที่ถูกย้ายออกไปตั้งนานแล้วด้วย หลังจากมองดูสภาพแวดล้อมโดยรอบแล้ว ก็สั่งให้คนกุมตัวฟ่านจงเข้ามา จากนั้นก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือขึ้นออกคำสั่งอีกครั้ง “ช่างมันเถอะ กุมตัวเขาไปที่ห้องข้าง ๆ ให้พื้นที่ใต้เท้าฟ่านได้ตรึกตรองบ้าง”พื้นที่ตรึกตรองอะไรกัน?ตอนนี้ฟ่านจงยังไม่รู้ว่าเป่ยเฉินหยวนกำลังเล่นลูกไม้อะไรอยู่จนกระทั่งในช

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 812

    เสียงสวดขอพร เสียงสวดมนต์ท้องฟ้าสีขาวโพลน กลายเป็นสีแดงเคลือบทองราวกับดวงอาทิตย์หิมะตกหนักไม่หยุด ดวงอาทิตย์ร้อนแรงไม่โผล่ออกมา แต่ที่แปลกก็คือ ทุกคนที่ได้ยินพิธีสวดขอพรนี้ ต่างรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูกในเวลาต่อมาเหมือนกับร่างกายที่ผ่านความทุกข์ยากลำบากมาอย่างโชกโชนต่อเนื่องยาวนานหลายเดือนในภัยพิบัติครั้งนี้ จู่ ๆ ก็สลัดฝุ่นและหมอกควัน สลัดความเจ็บปวด สลัดเงามืดทั้งหมดออกไป ต้อนรับชีวิตใหม่ในที่สุดความรู้สึกอันเหลือเชื่อนี้ยังทำให้เหล่าประชาชนแทบจะเกิดความรู้สึกคุ้นเคยและหวังพึ่งธิดาศักดิ์สิทธิ์ที่สวดขอพรให้พวกเขาท่ามกลางหิมะตกหนักผู้นั้นภายในชั่วข้ามคืน“ธิดาศักดิ์สิทธิ์! ธิดาศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ!”“ข้าได้ข่าวมาแล้ว ว่ากันว่าธิดาศักดิ์สิทธิ์ผู้นั้นน่าจะสัมผัสได้ถึงเจตนาของสวรรค์ จึงอัญเชิญตัวเองมาสวดขอพรให้ประเทศชาติและประชาชน และตอนนี้ฝ่าบาททรงรู้สึกขอบคุณในน้ำใจของนาง จึงได้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น ‘ธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิง’ ด้วยพระองค์เอง ความหมายก็คือผาสุขและปกป้องราชวงศ์หมิง!”“ถ้าอย่างนั้นธิดาศักดิ์สิทธิ์ก็มาช่วยพวกเราจริงหรือ?”“แต่เพราะเหตุใดถึงมาช้าเช่นนี้?”บางคนเช

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 811

    ใช่แล้ว!ฟ่านจงนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้โดยพลัน เขาส่งสายตาให้ผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่ในฝูงชนทันที แสดงเจตนาว่าเขาจะพาคนไปที่หอคอยเมืองหญิงที่ทำเขาเสียแผนผู้นั้นต้องเป็นธิดาศักดิ์สิทธิ์ฝูหมิงที่ร่ำลือกันแน่นอนขอเพียงจับกุมนางได้ ก็จะสามารถนำมาข่มขู่เป่ยเฉินหยวนได้!ขณะที่ผู้ใต้บังคับบัญชามองเห็นเจตนา รีบถอนตัวออกจากฝูงชนแล้วมุ่งหน้าไปที่หอคอยเมือง ประชาชนที่อยู่รอบ ๆ รถม้าของเจ้าเมืองก็อดไม่ได้ที่จะเร่งเร้าด้วยความกระสับกระส่าย“ท่านเจ้าเมือง เหตุใดท่านถึงไม่พูดจา?”“ใช่แล้ว พวกเขาเคยปราบจลาจลในใต้หล้าหรือไม่?”“เมื่อก่อนข้าเคยได้ยินเรื่องศัตรูภายนอกที่โจมตีชายแดน ประเทศศัตรูพยายามโจมตีราชวงศ์หมิงของเรา แต่ต่อมาก็ไม่ได้ยินข่าวคราวใด ๆ อีกเลย หรือว่าตอนนั้นเป็นกองทัพธงดำที่ไปสู้รบ?”“ท่านเจ้าเมือง เป็นเช่นนี้อย่างนั้นหรือ?”“หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็ กองทัพธงดำก็มิใช่กองทัพหาญกล้าที่เคยคุ้มครองความปลอดภัยของพวกเราประชาชนหรอกหรือ?”“แล้วอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนล่ะ?”“หรือว่าท่านอ๋องเคยเป็นตัวแทนผู้นำส่งกองทัพไปปราบ?”“ดังนั้น...ดังนั้นมันจริงหรือเท็จกันแน่? ใครถูกใครผิด?”เหล่าประช

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 810

    “เกินไปแล้ว! ต่อให้เป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนแล้วอย่างไรเล่า?!”“ใต้เท้าฟ่านรักราษฎรดุจลูกในไส้ จะยอมให้พวกท่านจับตัวเขาไปแบบนี้ได้อย่างไร!”“ไสหัวไป! พวกทหารโจรที่เหมือนกับโจรป่า!”“ไสหัวไป!”“ไสหัวไป!”“…”ประชาชนมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาคุ้มกันอยู่หน้าฟ่านจง ขวางอยู่ข้างหน้ากองทัพธงดำคำว่า “ทหารโจร” ทำให้เหล่าทหารกองทัพธงดำอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น“เงียบนะ!”ในขณะนั้นเอง ก็มีน้ำเสียงที่เย็นเยียบแต่ใสกระจ่างดังมาจากที่สูงทุกคนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นร่างที่บอบบางร่างหนึ่ง ยืนอยู่บนขอบกำแพงเมืองบนหอคอยเมือง นางทอดสายตาลงมายังฝูงชน แววตาเย็นชา น้ำเสียงที่โปร่งใสกังวานแฝงไปด้วยพลังวิญญาณเล็กน้อยส่งไปถึงชาวเมืองจงซินทุกคน บอกกับพวกเขาว่า...“คนที่อยู่ตรงหน้าพวกท่านไม่ใช่ทหารโจร พวกเขาคือกองทัพธงดำ เป็นกองทัพผู้กล้าหาญที่สู้รบในสนามรบเพื่อต้าหมิง และสร้างสันติสุขให้แก่แผ่นดิน!”“ที่พวกท่านไม่เคยได้ยินชื่อของพวกเขา เป็นเพราะพวกท่านอยู่ในเมืองจงซินมาโดยตลอด แต่หากก้าวออกจากเมืองจงซินไป บนแผ่นดินต้าหมิงแห่งนี้ ไม่มีผู้ใดไม่เคยได้ยินชื่อของกองทัพธงดำ ไม่มีใครไม่เคยได้ยินฉายาจ

  • หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก   บทที่ 809

    “ไม่!”ฟ่านจงกัดฟันกรอด ดวงตาแน่วแน่ ยังไม่ถึงวินาทีสุดท้าย แผนการที่เขาวางมานานหลายปี จะมาพังทลายเพราะเป่ยเฉินหยวนผู้นี้ได้อย่างไร!“ทหาร ผู้บัญชาการเฉินอยู่ที่ใด?!”“เรียนท่านเจ้าเมือง ผู้บัญชาการเฉินอยู่บนหอคอยเมืองขอรับ!”“ส่งคนไปแจ้งข่าวทันที ให้เขานำทหารไปสกัดเป่ยเฉินหยวนไว้!”“ขอรับ! ข้าน้อยจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”“ที่ปรึกษาจาง!”ฟ่านจงตะโกนเรียกไปด้านหลัง ที่ปรึกษาจางรีบก้าวออกมาข้างหน้าทันที “ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ! ท่านเจ้าเมืองมีคำสั่งใด?”“เจ้าจงปลดม้าแล้วรีบควบม้ากลับจวนเจ้าเมืองทันที แจ้งให้ปรมาจารย์กู่เหมียว ย้ายทุกสิ่งทุกอย่างในห้องลับออกไปทันที อย่าทิ้งหลักฐานใดๆ ไว้ให้เป่ยเฉินหยวนเด็ดขาด!”“แล้วท่านเจ้าเมืองเล่าขอรับ จะทำอย่างไร?”แววตาของฟ่านจงแข็งกร้าว “ต่อให้เขาเป่ยเฉินหยวนอยากจะฆ่าข้า ก็ต้องมีหลักฐานมัดตัวแน่นหนา! ตอนนี้ที่เขาบุกโจมตีอย่างกะทันหันย่อมต้องเป็นเพราะค้นพบทุกสิ่งในห้องลับแล้ว แต่ขอเพียงพวกเจ้าย้ายทุกอย่างออกไปก่อนหน้านั้น เขาเป่ยเฉินหยวนก็จะฆ่าข้าไม่ได้!”“ขอรับ ข้าน้อยเข้าใจแล้ว!”หลังจากนั้นฟ่านจงก็เรียกให้พ่อบ้านเข้ามา “กลับไปบอกท่านแม่ ให้นางย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status