Share

๑ หวนคืนกลับมา

last update Last Updated: 2025-11-10 22:35:16

นางลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แสงแดดจากอาทิตย์สาดส่องจนต้องกระพริบตาถี่ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายยังคงสั่นสะท้านจากความเจ็บปวดราวถูกฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ

เหตุการณ์ในคราวนั้น…ราวกับเป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่ง

จู้ซูเหยียนค่อยๆ ยกมือขึ้น ลูบไล้หน้าท้องอย่างแผ่วเบา หัวใจเต้นระส่ำด้วยความหวาดหวั่น

หวังเพียงว่า... ทารกในครรภ์จะยังคงปลอดภัย

“คุณหนูเจ้าคะ!”

“…” นางพลันสะดุ้งเฮือกใหญ่

“คุณหนูฟื้นแล้วเจ้าค่ะ!”

จู้ซูเหยียนนอนแผราบอยู่บนเตียงก่อนจะปรายสายตาหันไปมองจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น นางระบายยิ้มจางๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ข้ายังไม่ตายงั้นหรือ”

มิใช่ว่าการของนางหนักหนาสาหัส แม้กระทั่งท่านหมอยังต้องส่ายหน้าบอกให้ทำใจมิใช่หรือ…

แล้วเหตุใดถึงมีชีวิตต่ออีกอยู่เล่า

สาวใช้ผู้นั้นได้ยินแล้วชะงักไปครู่หนึ่ง “คุณหนูจะตายได้อย่างไรกันเจ้าคะ”

คุณหนูงั้นหรือ…?

จู่ๆ ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจก็พลันพรั่งพรูหลั่งไหลเข้าสู่ห้วงความคิด จู้ซูเหยียนจำได้ชัดเจนว่าอาภรณ์ของนางเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีสดจนกระทั่ง…

นางสมควรตายไปแล้ว เหตุใดยามนี้นางถึงยังนอนอยู่บนเตียงเช่นเดิมอยู่อีก นัยน์ตาเมล็ดซิ่งดูเหม่อลอยไร้อารมณ์ๆ

“ซูเออร์!...เจ้าฟื้นแล้วงั้นหรือ”

พอได้ยินน้ำเสียงนี้จู้ซูเหยียนหันขวับไปมองด้วยความตกใจทันที น้ำเสียงช่างคล้ายราวกับ…ในจังหวะนั้นหัวใจของนางพลันเต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง

จู้ฮูหยินรีบพุ่งตัวโผล่เข้ามาโอบกอดบุตรสาวเอาไว้แน่น ร่างของนางสั่นเทิ้มและน้ำเสียงสะอื้นสั่นเครือพึมพำพูดพร่ำขอโทษไม่ขาดปากด้วยความรู้สึกผิด

หากนางไม่ขัดบุตรสาวแต่แรกก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นนี้

“หากเจ้าอยากเป็นภรรยาของคุณชายมู่แม้ย่อมไม่ขัดทั้งสิ้น ทว่าได้โปรดอย่าทำเช่นนี้อีกได้หรือไม่” จู้ฮูหยินกล่าว

หมายความว่าอย่างไรกัน…?

จู้ซูเหยียนงุนงงไม่น้อย ภายในใจเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามมากมาย

“หากเจ้าปรารถนาจะเป็นภรรยาคุณชายมู่ แม่ย่อมไม่ขัด ทว่าขอร้องอย่าทำเช่นนี้อีกเลย” ตอนที่มีสาวใช้วิ่งแจ้นไปบอกกล่าวนั้นหัวใจของจู้ฮูหยินพลันกระตุกวูบเกรงว่าจะไม่ได้บุตรสาวกลับคืนมาแล้ว

!!!

เหตุใดเหตุการณ์ยามนี้นางถึงได้คุ้นเคยราวกับว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อนกัน

จู้ซูเหยียนยังคงนิ่งเฉียบเนื้อตัวเย็นเฉียบ ในห้วงสุดท้ายของลมหายใจนางเคยภาวนาหากย้อนกลับมาได้จะไม่ยุ่งหรือข้องเกี่ยวกับมู่เซี่ยหยางอีกตลอดชีวิต

ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน หลังจากนางผ่านพิธีปักปิ่น จู้ซูเหยียนเผลอมีใจให้บุรุษผู้หนึ่ง กระทั่งร้องขอให้เขาเป็นสามีทว่าบิดามารดากลับมิยินยอมด้วยเห็นว่านางยังเยาว์วัยเกินไปไร้เดียงสากลัวว่าจะถูกล่อลวงเอาได้

และเพราะเหตุนี้นางจึงโกรธเคืองถึงขั้นประชดประชันชีวิตกระโดดลงสระบัวเพื่อเรียกร้องความสนใจ

เหอะ!...ช่างเป็นการกระทำที่โง่เขลานัก

พอนึกถึงเรื่องนั้น มุมปากของจู้ซูเหยียนเหยียดยกขึ้นอย่างเย้ยหยันทันที

นับแต่นั้นมาทั้งชีวิตของนางเอาแต่นึกถึงเพียงมู่เซี่ยหยางเท่านั้นแม้แต่ชีวิตก็ยอมได้

จู้ฮูหยินเห็นท่าทางของบุตรสาวเป็นเช่นนี้ก็พลันปวดใจเหลือเกิน นางคว้ามืออีกฝ่ายมากอบกุมไว้ก่อนจะกล่าวอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พรุ่งนี้แม่จะให้บิดาของเจ้าไปเจรจากับคุณชายมู่ ให้เขายินยอมรับเจ้ามาเป็นภรรยา”

จู้ซูเหยียนได้ยินแล้วจึงตอบออกไปทันทีแทบไม่ต้องคิด นัยน์ตาเมล็ดซิ่งฉายแววความแข็งกร้าวโกรธเคืองออกมาทันที “ข้าไม่ต้องการบุรุษผูนั้นแล้ว”

นี่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว ทว่าอาการของคุณหนูเล็กกับไม่ดีขึ้นเลย แม้ว่าจู้ฮูหยินจะเชิญท่านหมอหลายคนมาตรวจดูร่างกายอย่างละเอียดดีแล้ว แม้พวกเขาล้วนเอาแต่กล่าวว่าร่างกายได้มีบาดแผลหรืออาการบอบช้ำอันใด

แต่ไม่ว่าผู้ใดพบเห็นจู้ซูเหยียนแล้วก็ล้วนแต่กล่าวว่าแปลกไปมากราวกับเปลี่ยนไปคนละคนก็ไม่ปาน

สายตาที่แข็งกร้าวข่มความเก็บปวดเอาไว้ นิสัยที่สงบนิ่งเย็นยะเยือกต่างจากเดิมหรือแม้กระทั่งคำพูดวาจาที่ออกมาจากปากยิ่งบ่งบอกได้ชัดเจนว่าคุณหนูเล็กเปลี่ยนไป…

จู้ซูเหยียนพบว่านางยังไม่ตายและยิ่งกว่านั้นคือมีโอกาสได้หวนกลับมาก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์เหล่านั้น…หรือแท้จริงแล้วที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ฝันร้ายตื่นหนึ่งเท่านั้นกัน

ภายในใจของนางย่อมเกิดความสงสัยอยู่มาก

นัยน์ตาเมล็ดซิ่งเหม่อมองออกไปเบื้องหน้าอย่างเหม่อลอยไร้จุดหมายนานราวหนึ่งก้านธูป

เช่นนั้นแล้วตอนนี้นางยังไม่ได้ร่วมกราบไหว้ฟ้าดินและยังมิได้กลายเป็นภรรยาของบุรุษผู้นั้น หัวคิ้วของจู้ซูเหยียนขมวดคิ้วมุ่นกำลังนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ตลอดช่วงที่ผ่านมา

หากนางปฏิเสธการแต่งงานครั้งนี้ไป…

ก็เท่ากับว่าจะไม่เกี่ยวข้องหรือมีชะตาชีวิตที่นางเวทนาเช่นนั้นใช่หรือไม่

“คุณหนูเจ้าคะ…” สาวใช้ผู้หนึ่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา สายตาจับจ้องมองสตรีตรงหน้าด้วยความเห็นใจ

คุณหนูเล็กล้วนถูกเลี้ยงดูตามใจมากตั้งแต่เด็กจึงมีนิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจ ไม่ว่าอยากได้อันใดจู้ฮูหยินและนายท่านไม่เคยปริปากเอ่ยขัดแม้แต่สักครึ่งคำเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งเหตุการณ์เมื่อหลายวันก่อนนั้นคงทำให้คุณหนูรู้สึกน้อยใจจนตัดสินใจทำเช่นนี้

“…”

“คุณหนูเล็กเจ้าคะ…”

จู้ซูเหยียนสะดุ้งตกใจเล็กน้อย “ว่าอย่างไร…” นางย่อมรู้สึกไม่คุ้นชิน

จู้ซูเหยียนแต่งงานออกเรือนมาหลายปี ไม่ว่าจะเดินผ่านไปที่ใด ผู้คนก็เอาแต่เรียกขานว่าฮูหยินทั้งสิ้นหรือไม่แล้วก็ภรรยาของคุณชายมู่เพียงเท่านั้น

“จู้ฮูหยินและนายท่านต้องการพบคุณหนูเจ้าคะ”

“อืม” จู้ซูเหยียนขานรับน้ำเสียงแผ่วเบาพยักหน้าเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”

ทว่าในขณะเดียวกันนั้นจังหวะที่จู้ซูเหยียนลุกขึ้นยืนนั้นนางพลางเซถลาเล็กน้อย เหล่าสาวใช้ที่มองเห็นต่างสะดุ้งเร่งรีบเข้ามาประคองเกรงว่าจะล้มลงพื้นจนร่างกายได้รับบาดเจ็บอีกได้

“คุณหนู!”

จู้ซูเหยียนถอนหายใจออกมา “ข้าหาได้เป็นอันใด” ใบหน้าคนงามระบายยิ้มจางๆ ก่อนจะยกชายกระโปรงเดิน

สาวใช้ผู้หนึ่งกล่าว “ไม่ได้เจ้าค่ะ!...ร่างกายและชีวิตของคุณหนูมีค่ายิ่งกว่าทองคำเสียอีก”

พอนางได้ยินถ้อยคำนี้นั้น จู้ซูเหยียนพลันชะงักฝีเท้าทันที นางเม้มริมฝีปากแน่น ภายในอกบีบรัดแน่นจนรู้สึกปวดหนึบขึ้นมา นัยน์ตาเมล็ดซิ่งพลางสั่นระริก “เหอะ! ข้ามีค่ามากเพียงนี้แต่กลับโง่เขลาและตาบอดจะเหมาะสมกับก้อนกรวดได้อย่างไรกัน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • หวนคืนอีกคราไม่ขอมีท่านเป็นสามีอีก   ๓ สิ่งที่ต้องการ

    “แท้จริงแล้วท่านเคยรักข้าหรือไม่มู่เซี่ยหยาง” จู้ซูเหยียนเข้าใจแล้ว แม้ว่าการกระทำที่ผ่านมาของเขาล้วนแสดงออกเปิดเผยชัดเจนไม่น้อยทว่าคำถามกลับยังค้างคาอยู่ในใจ นางรู้ดี…นางเข้าใจเรื่องทั้งหมดดี…แต่ทว่าน้ำตากลับไม่ยอมหยุดไหลเสียที ภายในใจบีบรัดแน่นจนปวดหนึบชาไปทั้งร่างสายตาคมกริบของมู่เซี่ยหยางปรายมองสตรีตรงหน้าโดยไม่แสดงท่าทีใดนอกจากความนิ่งสงบ เขาไม่ได้เข้าไปปลอบนางแม้แต่น้อย “ตลอดหลายปีที่ผ่านมาข้าลงนามหย่าให้เจ้าอยู่หลายครา..แน่ใจหรือว่าไม่รู้คำตอบหรือแท้จริงแล้วจงใจเสแสร้งโง่งม ตาบอด มองไม่เห็นกันแน่จู้ซูเหยียน”น้ำเสียงของเขาที่เอ่ยออกมาทั้งเย็นชาและห่างเหินจนนางได้ยินแล้วพลันสะอึกจุกในคอทันที จู้ซูเหยียนเม้มริมฝีปากแน่น มองอีกฝ่ายผ่านม่านน้ำตาด้วยความเจ็บปวด “ข้าถามว่าท่านเคยรักข้าหรือไม่มู่เซี่ยหยาง!”“ไม่เคยรัก”เพราะพี่สาวของจู้ซูเหยียนบุตรสาวคนโตของสกุลจู้ได้รับเลือกเข้าวังทั้งยังได้เป็นถึงสนมขั้นเฟย มู่เซี่ยหยางจึงถูกกดดันอย่างไร้หนทางจำต้องรับจู้ซูเหยียนเป็นภรรยา หาไม่แล้ว ย่อมมิอาจหลีกพ้นโทษฐานลบหลู่เบื้องสูง!มู่เซี่ยหยางออกมาจากจวนสกุลจู้ก็พลันเป็นยามพลบค

  • หวนคืนอีกคราไม่ขอมีท่านเป็นสามีอีก   ๒ มู่เซี่ยหยาง

    บทที่ ๒มู่เซี่ยหยางเกรงว่าสวรรค์คงกลั่นแกล้งให้นางได้หวนกลับมาพบเจอบุรุษต่ำทรามผู้นี้กระมังเมื่อได้ยินน้ำเสียงนี้อีกครั้ง จู้ซูเหยียนหยุดชะงักฝีเท้าหยุดอยู่ที่หน้าประตูพลางกำมือแน่นด้วยความเคียดแค้น นัยน์ตาเมล็ด ซิ่งดูแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีมู่เซี่ยหยาง…บุรุษใจร้ายที่ผ่านมานางล้วนเป็นภรรยาที่ดีหวังว่ากลายเป็นภรรยาแล้วเขาจะให้ความสนใจนางบ้าง ทว่าทุกอย่างที่จู้ซูเหยียนกระทำลงไปนั้นในสายตาของมู่เซี่ยหยางย่อมมองว่าไร้ค่าอยู่ดีแม้จะแต่งงานหลายปีแล้วอย่างไรกันความสัมพันธ์ของนางและมู่เซี่ยหยางห่างเหินยิ่งกว่าคนแปลกหน้าเสียอีก ‘หึ!’ มู่เซี่ยหยางแค่นเสียงออกมา สายตาคมกริบปรายมองสตรีตรงหน้านิ่งๆ ‘ภายในใจของข้าย่อมไม่เคยและไม่มีวันมีเจ้าอยู่ข้างในจู้ซูเหยียน’‘เหลวไหลมู่เซี่ยหยาง! ท่านแต่งกับข้าแล้วซ้ำยังเป็นสามีของข้า…หากไม่มีข้าในใจแล้วจะมีสตรีอื่นได้งั้นหรือ’ จู่ๆ จู้ซูเหยียนก็นึกถึงเหตุการณ์ในครานั้นขึ้นมา นางในตอนนั้นช่างนางสมเพชเวทนาไม่น้อย เหตุใดนางถึงได้โง่งมไปร้องขอความรักจากเขากันหรือเพียงเพราะว่านางมีใจให้เขา…เขาจำต้องมีใจให้นางเช่นกันงั้นรึ ช่างเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีจู

  • หวนคืนอีกคราไม่ขอมีท่านเป็นสามีอีก   ๑ หวนคืนกลับมา

    นางลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แสงแดดจากอาทิตย์สาดส่องจนต้องกระพริบตาถี่ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ร่างกายยังคงสั่นสะท้านจากความเจ็บปวดราวถูกฉีกขาดเป็นเสี่ยงๆ เหตุการณ์ในคราวนั้น…ราวกับเป็นเพียงฝันร้ายตื่นหนึ่งจู้ซูเหยียนค่อยๆ ยกมือขึ้น ลูบไล้หน้าท้องอย่างแผ่วเบา หัวใจเต้นระส่ำด้วยความหวาดหวั่นหวังเพียงว่า... ทารกในครรภ์จะยังคงปลอดภัย“คุณหนูเจ้าคะ!” “…” นางพลันสะดุ้งเฮือกใหญ่“คุณหนูฟื้นแล้วเจ้าค่ะ!”จู้ซูเหยียนนอนแผราบอยู่บนเตียงก่อนจะปรายสายตาหันไปมองจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น นางระบายยิ้มจางๆ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ข้ายังไม่ตายงั้นหรือ”มิใช่ว่าการของนางหนักหนาสาหัส แม้กระทั่งท่านหมอยังต้องส่ายหน้าบอกให้ทำใจมิใช่หรือ…แล้วเหตุใดถึงมีชีวิตต่ออีกอยู่เล่าสาวใช้ผู้นั้นได้ยินแล้วชะงักไปครู่หนึ่ง “คุณหนูจะตายได้อย่างไรกันเจ้าคะ” คุณหนูงั้นหรือ…?จู่ๆ ภาพเหตุการณ์สุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจก็พลันพรั่งพรูหลั่งไหลเข้าสู่ห้วงความคิด จู้ซูเหยียนจำได้ชัดเจนว่าอาภรณ์ของนางเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีสดจนกระทั่ง…นางสมควรตายไปแล้ว เหตุใดยามนี้นางถึงยังนอนอยู่บนเตียงเช่นเดิมอยู่อีก นัยน์ตาเมล็ดซิ

  • หวนคืนอีกคราไม่ขอมีท่านเป็นสามีอีก   บทนำ

    ปัง! ปัง!...ปัง!!ซ่า…าาา!ปังๆๆ“นายท่านเจ้าค่ะ!”ยามค่ำคืนของราตรีที่มืดมิดสนิท พายุฝนตกกระหน่ำโหมอย่างรุนแรง เสียงท้องฟ้าคำรามดังก้องพร้อมกับอัสนีบาตฟาดผ่าอยู่กลางอากาศราวกับกำลังโกรธเคือง ในขณะเดียวกันนั้น มีร่างของสาวใช้ยืนตัวสั่นยืนเปียกปอนอยู่หน้าประตูเรือน นางออกแรงเคาะบานประตูครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมทั้งร้องเรียกตะโกนจนน้ำเสียงแหบพร่ากลืนหายไปกับเสียงฝนตกกระหน่ำ“นายท่านเปิดประตูเถิดเจ้าค่ะ!”ปัง! ปัง! ปัง…บานประตูยังคงปิดสนิท ไร้เสียงเคลื่อนไหวจากข้างใน ปัง!...ปัง ซ่า...!นางจึงออกแรงทุบอย่างแรงอีกครั้ง ฝนยังคงตกกระหน่ำโปรยปรายลงมาไม่หยุดพลันสาดกระทบเรือนของนางจนอาภรณ์เปียกชุ่มไปทั่วทั้งร่าง “นายท่านเจ้าคะ!...แย่แล้วเจ้าค่ะ”ทันใดนั้น…บานประตูก็ถูกกระชากเปิดออกอย่างแรง มู่เซี่ยนหยางปรากฏตัวอยู่ในสภาพไม่ค่อยจะเรียบร้อยนัก ท่อนบนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์เผยให้เห็นแผงอกกำยำและเม็ดหยาดเหงื่อไหลทั่วทั้งร่างจนเปียกชุ่มราวกับว่าเพิ่งผ่านพ้นค่ำคืนอันหนักหน่วงมา หัวคิ้วของเขาพลางขมวดมุ่นฉายแววความไม่พอใจออกมาอย่างชัดเจน สายตาคมกริบดูเย็นยะเยือก“มีผู้ใดตายหรืออย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status