“แล้วเด็กที่มันเอาของมาให้คุณล่ะ ได้ข่าวว่าพี่สาวกับพ่อมันหายตัวไปจากบ้าน ฉันไม่เชื่อหรอกว่ามันจะหนีไปเฉยๆ หรือเพราะมีคนมาจับตัวมันไป หรือว่าจะเป็นคุณยักษ์”
สุมณฑาหน้าตื่นเมื่อนึกถึงชายหนุ่มอีกคนที่เธอไม่อยากจะเสี่ยงปะทะกับเขานัก
“ไม่หรอกน่า เราใช้เด็กตัวเล็กๆ ที่ขายของในตลาดลงมือ แล้วอีกอย่างคนอย่างไอ้ยักษ์มันไม่ลงทุนมาจัดการเองหรอก ลูกน้องมันมีแต่ขั้นเทพแค่มันชี้นิ้วทุกอย่างก็เรียบร้อย มันไม่ลดตัวลงมาจับตัวผู้หญิงหาเช้ากินค่ำกับพ่อพิการไปให้เป็นภาระหรอกน่า อีกอย่างสองคนนั้นบอกว่าพี่สาวมันหนีไปกับผู้ชายแล้วพ่อมันก็ช็อกตายไปแล้ว จะว่าไปที่ตรงบ้านหลังนั้นมันก็เข้าท่าดีนะ ผมว่าจะไปรื้อไอ้บ้านโกโรโกโสนั้นทิ้งแล้วทำเป็นร้านกาแฟเล็กๆ หรูๆ บังหน้า” เอกพลวาดฝันถึงโครงการในอนาคต
“จะดีเหรอ มันอาจจะเป็นที่ของคนอื่นแล้วเขาเช่าอยู่ก็ได้”
“ยายป้าสองคนนั้นบอกว่าที่ตรงนั้นเป็นของไอ้แก่คนนั้นล่ะ เรื่องนี้ต้องยกให้พวกแกสองคนจัดการเราก็แค่รอรับผลประโยชน์ คนโลภมันจะต้องยอมทำทุกอย่างอยู่แล้ว ว่าแต่พ่อคุณจะเอาด้วยไหม หากงานนี้สำเร็จบอกเลยว่าพ่อคุณจะได้สินค้าดีๆ ไร้ตำหนิมากกว่าเดิมโดยไม่ต้องลงทุนทำอะไรเลย”
เอกพลยิ้มเจ้าเล่ห์ สุมณฑายิ้มบางๆ ยั่วเย้าแล้วเคลื่อนกายเปล่าเปลือยขึ้นคร่อมร่างเขาเสียดสีกายไปมาสร้างความร้อนเร่าให้เกิดขึ้นอีกระรอก
“ก็น่าสนนะคะแบบนี้ต้องขอเวลาคิดอีกสักยก”
พูดอย่างแก่กร้านใบหน้าสวยจัดยิ้มพรายแล้วก็ก้มลงจูบเขาก่อน ซึ่งเอกพลก็ไม่รอช้ารีบสนองกระบวนการใช้เวลาคิดของเจ้าหล่อนทันที แล้วบทรักเร่าร้อนของพวกเขาก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
ร่างสูงใหญ่เดินเข้าไปในโกดังเก็บสินค้าที่อยู่ด้านในสุดของบริษัทให้เช่าโกดังชื่อดังด้วยก้าวย่างที่มั่นคง โดยมีวิลล์กับคนของเขาอีกสามคนเดินตามเข้าไปห่างๆ
“มาหาใคร”
ชายหน้าตาท่าทางกระด้าง ผิวดำคร้ามแดดแววตาแข็งกร้าวเดินออกมาขวางไว้เมื่อพยัคฆ์จะเดินเข้าไปในโกดัง ซึ่งด้านในมีอยู่หลายห้องและหนึ่งในนั้นมีห้องของเจ้านายของคนเหล่านี้อยู่ และไม่นานก็มีชายฉกรรจ์อีกเก้าคนรูปร่างสูงใหญ่ท่าทางกร่างวางโตเดินออกมาสมทบ
“ไปบอกเจ้านายพวกแกว่าฉันมาขอคนของฉันคืน”
พยัคฆ์บอกเรียบๆ มองหน้าชายทั้งสิบนิ่ง ซึ่งพวกมันก็ยิ้มเยาะเมื่อเห็นว่าเขามากันแค่ห้าคน เมื่อเทียบกันแล้วฝ่ายของพยัคฆ์รูปร่างเสียเปรียบชายในโกดัง หากมีเรื่องหรือเหตุการณ์ที่ต้องใช้กำลังฝ่ายของพยัคฆ์ก็น่าจะเสียเปรียบเพราะคนน้อยกว่ารูปร่างก็ดูจะเล็กกว่า
“เจ้านายเราไม่ว่าง มีไรฝากบอกเราก็ได้”
หนึ่งในชายทั้งสิบซึ่งดูเหมือนว่าเป็นหัวหน้าก้าวออกมาข้างหน้ายืนล้วงกระเป๋ามองเยาะด้วยท่าทางยียวน แต่พยัคฆ์ก็ไม่ได้แสดงท่าทีอย่างไรเพียงแต่ยิ้มบางๆ
“ไปบอกตามที่ฉันบอกดีกว่า แล้วแกก็จะรู้เองว่าการที่ไม่รับฝากคำพูดของฉันแกอาจจะไม่มีเงาหัว”
“พูดแบบนี้หาเรื่องพวกกูเหรอวะ มึงอยากลองดีกับไอ้โตมึงคิดผิดแล้ว” คนที่เรียกว่าตัวเองว่า ไอ้โต ทำท่าทางเดือดดาลไม่พอใจที่ถูกสบประมาท
“ไปทำตามที่ฉันบอกดีกว่า ถ้าไม่อยากมีปัญหา”
พยัคฆ์ยังคงยืนยันตามเดิมและกอดอกมองชายทุกคนตรงหน้าด้วยแววตาเย็นชานิ่งสนิท ยิ่งสร้างความเดือดดาลให้อีกฝ่ายยิ่งนัก
“ถ้ามึงคิดว่าเจ๋งจริงฝ่าดงตีนพวกกูไปก่อนสิวะ”
ไอ้โตยืดอกพูดด้วยความเดือดดาลดวงตาลุกโชนด้วยความโกรธ ที่ชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาตรงหน้าไม่มีท่าทางหวาดกลัวมันเลยสักนิด เพราะที่ผ่านมาใครๆ ก็กลัวไอ้โตกันทั้งนั้น
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจแก..”
สิ้นคำพูดของพยัคฆ์ไอ้โตก็กระเด็นไปไกลด้วยฤทธิ์ฝ่าเท้าของเขา ร่างใหญ่บึกบึนของไอ้โตไม่ทันได้ลุกขึ้นจากพื้นก็มีอันหงายหลังตึงหมดสติอยู่กับพื้นปูนหยาบๆ เมื่อพยัคฆ์วาดขาเตะเข้าไปที่ก้านคอของมันเต็มๆ ซึ่งการที่ไอ้โตนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นเพียงแค่เสี้ยววินาทีสร้างความตกใจและแตกตื่นให้กับคนที่เหลือ ที่มัวยืนงงอยู่กับเหตุการณ์ตรงหน้า ชายหนุ่มเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมากอย่างไม่น่าเชื่อจนมองตามแทบไม่ทัน รู้ตัวอีกทีไอ้โตก็สลบเหมือดต่อหน้าต่อตา
“มีใครอยากจะให้ฉันฝ่าดงตีนอีกมั้ย หรือจะเข้าไปบอกเจ้านายพวกแกว่า ฉัน พยัคฆ์ คิงส์ มาพบ”
“เอ่อ.. มะ ไม่มีจ้ะ อ้าว ไอ้อ๋อง มึงรีบไปบอกนายเร็วๆ สิวะ”
ชายอีกคนรีบพูดขึ้นแล้วถอยห่างเมื่อพยัคฆ์ย่างสามขุมเข้าไปหา คนอื่นๆ ต่างก็ถอยไปคนละก้าว บางคนหลบตาขุ่นเข้มของพยัคฆ์พัลวันทั้งที่เมื่อครู่ก่อนที่ไอ้โตจะล้มลงยังมีท่าทางกร่างและเรียกได้ว่ากวนบาทาอยู่เลย และไม่นานชายวัยกลางคนหัวล้านเถิกอ้วนลงพุงก็เดินออกมาด้วยเหงื่อที่ชุ่มโชกทั้งใบหน้าแววตาหลุกหลิกลนลาน
“อ่า ซาหวัดลีคับอาคุงยักษ์ แหะๆ ขอโทดล่วยที่ลูกน้องอั้วล่วงเกิง” เฮียตือ เจ้าของโกดังผงกหัวรัวๆ เป็นการขอโทษซึ่งพยัคฆ์ก็เพียงแต่มองเฉย
“ผมคิดว่าเฮียคงไม่ขัดข้องถ้าผมจะมาขอเด็กของผมคืน”
“เด็กของคุงยักษ์ เอ่อ.. คนไหนคับ ผมไม่มีเด็ก ไม่เคยใช้แรงงานเด็กเลยนา”
พูดรัวๆ ลนลานด้วยความเสียวสันหลังเมื่อเบื้องหลังความสำเร็จของของเฮียตือนั้นมาจากการใช้แรงงานเด็กส่วนหนึ่งและการค้าประเวณีเด็ก
“เด็กผู้ชายที่ชื่อจ้อย ที่ถูกส่งตัวมาเมื่อสองวันก่อน เด็กนั่นขโมยของสำคัญผมมา”
“เอ่อ คือ มะ..”
“ผมเองก็กำลังสงสัยว่าเฮียมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยรึเปล่า” เฮียตือกำลังจะปฏิเสธพยัคฆ์จึงจี้ไปให้ตรงจุด
“อ้อ.. ไอ้จ้อยเด็กตัวเล็กๆ ผอมๆ ใช่มั้ยคับ คือเจ้วัชแกเอามาฝากบอกว่ามันกำพร้าพ่อตายไม่มีใครดูแลเลยให้มาอยู่ช่วยงานที่บ้านอั๊วเองล่ะ เดี๋ยวให้คนไปตามมันมา ฮี่ๆ”
ใบหน้ากลมๆ แก้มแดงตาตี่ๆ ยิ้มเลี่ยนๆ รีบรับคำเมื่อตัวเขาเองก็ไม่ได้อยากมีปัญหากับคนอย่างพยัคฆ์ คิงส์ และไม่นานเด็กชายก็ถูกจูงมาเร็วๆ จนดูลนลานแทบจะลากกันวิ่งมาจากหลังโกดังเลยก็ว่าได้ สภาพร่างกายที่ผ่ายผอมร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้ายให้เห็นอย่างชัดเจนและความอ่อนล้าเศร้าสร้อยจากแววตาของจ้อยทำให้พยัคฆ์กัดกรามกรอด แววตาคมเข้มแข็งกร้าว คนพวกนี้จิตใจทำด้วยอะไรกันถึงทำกับมนุษย์ด้วยกันได้โหดร้ายขนาดนี้ แม้เขาจะเหี้ยมเกรียมกับคู่แข่งทางธุรกิจและสามารถฆ่าคนเลวๆ ได้โดยไม่รู้สึกผิดแต่กับเด็กตัวเล็กๆ หรือการทำร้ายมนุษย์ด้วยกันแบบที่เฮียตือทำ คนอย่างพยัคฆ์ไม่เคยมีในหัว
ตอนที่48. อวสาน“ก็พี่รักจ๋อม รักลูกของเรา และจะรักตลอดไป”“จ๋อมก็รักพี่ยักษ์และลูกของเราค่ะ เราจะรักกันตลอดไป..” หญิงจูบแก้มสามีเบาๆ แล้วโอบกอดเขาไว้“แบบนี้ต้องตกรางวัลหนักๆ เลยนะครับที่รัก”“แน่ะ คนอะไรเห็นแก่รางวัลจริงเชียว นี่บอกรักกันเพราะหวังรางวัลแค่นั้นหรือคะ”หญิงสาวทำทีเง้างอดขณะเคลื่อนกายขึ้นเหนือร่างแกร่งเปล่าเปลือยที่เอนกายลงนอนอย่างรู้งานมองภรรยาคนสวยนัยน์ตากรุ้มกริ่ม“เปล่าเสียหน่อยก็รักเมียหลงเมียจะแย่แล้วครับ” ปากก็พูดไปมือก็ลูบไล้เรือนกายขาวลอออิ่มเอิบอย่างแสนรัก“แบบนี้ต้องทำให้หลงมากๆ ค่ะ จะได้ไม่ไปวอแวกับสาวๆ คนไหน..”ว่าแล้วหญิงสาวก็ก้มลงจูบสามีสุดหล่ออย่างเร่าร้อนซึ่งพยัคฆ์ก็จูบตอบภรรยาที่รักเร่าร้อนไม่แพ้กัน แม้เธอจะอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ก็ไม่ได้ทำให้ความเสน่หาของเขาลดลงแม้แต่น้อย นับวันมันยิ่งเพิ่มความรักความเสน่หาให้กับเขาจนไม่อาจจะละเลยที่จะให้ความรักแก่เธอกับลูกได้มือหนาลูบไล้ท้อง
ตอนที่47.บทส่งท้าย หญิงสาวมองดูสองพ่อลูกที่ทุ่มเถียงกันเรื่องเลี้ยงแมวจรจัดที่ถูกทำร้ายมาจนบาดเจ็บสาหัสซึ่ง น้องเจ้าจอม หรือ เด็กหญิงจันท์ยาวี วัยห้าขวบเศษเป็นคนพามันไปส่งโรงพยาบาลด้วยตัวเองโดยมีชาติชายเป็นคนขับรถพามาเด็กหญิงเฝ้าดูอาการเจ้าแมวเหมียวตัวสีขาวสะอาดเพศผู้อย่างใจจดจ่อ และรอฟังอาการของมันโดยไม่ยอมกลับบ้านจนกว่าจะรู้ว่ามันปลอดภัย เมื่อจุมพิตาซึ่งออกไปธุระกับสามีรู้ข่าวว่าลูกสาวจอมซนพาลูกแมวไปโรงพยาบาลรักษาสัตว์ก็รีบเดินทางมาดูด้วยห่วงลูกสาวทั้ งยังอยากเห็นเจ้าแมวน้อยที่น้องเจ้าจอมดั้นด้นพามันมาส่งด้วยตัวเอง“คุณพ่อบอกเหตุผลมาสิคะว่าทำไมเจ้าจอมเลี้ยงเจ้าเสือขาวไม่ได้”เด็กหญิงวัยห้าขวบผมหยักศกรวบผมครึ่งศีรษะปล่อยลอนผมยาวครึ่งแผ่นหลังคลอเคลียแผ่นหลังเล็กในชุดฟูฟ่องตามแบบที่เด็กหญิงชื่นชอบดูงดงามราวเจ้าหญิง แก้มแดงเปล่งปลั่ง และริมฝีปากสีชมพูระเรื่อเม้มแน่นดวงตากลมโตที่ถอดแบบผู้เป็นแม่มานั้นจ้องบิดาเขม็งพร้อมทั้งตั้งชื่อให้เจ้าแมวน้อยเสร็จสร
ตอนที่46.“อุ๊ย..”หญิงสาวอุทานอย่างตกใจเมื่อมือใหญ่คว้ามือเล็กของเธอหมับพร้อมทั้งลืมตามองเธออย่างมีความหมาย“แอบคิดอะไรกับพี่รึเปล่าคนสวย”“บ้า เปล่าเสียหน่อยจ๋อมเห็นว่าผ้ามันเลื่อนลงมาจะหยิบมาปิดหน้าอกให้หรอกเดี๋ยวไม่สบาย” แก้ตัวหน้าแดงก่ำหลบตาคมพราวพราย“แน่ใจเหรอจ๊ะ เอ.. จ๋อมบุกรุกที่ของพี่รึเปล่านี่ แบบนี้ต้องลงโทษข้อหาบุกรุก”“จะบ้าเหรอ จ๋อมยังไม่ได้ทำอะไรเลย อย่ามาโมเมนะ ไม่เอาแล้วจ๋อมจะไปอาบน้ำพี่ยักษ์ปล่อยมือจ๋อมได้แล้วค่ะ คนอะไรเขาอุตส่าห์หวังดีแท้ๆ มากล่าวหาเขา เชอะ.. ไม่ยุ่งด้วยแล้ว..”หญิงสาวทำทีขึงขังกลบเกลื่อนความหวั่นไหวเมื่อรู้ดีว่าบทลงโทษของเขานั้นร้อนแรงเพียงใด“ก็ได้ครับเจ้าหญิง”พยัคฆ์ปล่อยมือเธอแต่โดยดีหญิงสาวจึงรีบลุกไปเข้าห้องน้ำจึงไม่ได้เห็นแววตาของสามีที่มองตามไปพยัคฆ์ยิ้มกริ่มเมื่อกวางน้อยติดกับร่างสูงลุกขึ้นจากที่นอนแล้วเดินตามภรรยาเข้าไปในห้องน้ำ จุมพิตาซึ่งกำลังจะหันมาป
ตอนที่45.งานแต่งงานของจุมพิตากับพยัคฆ์มีขึ้นในสองสัปดาห์ถัดมา งานแต่งของพวกเขานั้นไม่ได้ใหญ่โตหรูหราอย่างที่ใครๆ หลายคนคิด เพราะหญิงสาวเพียงต้องการจัดงานแต่งงานเล็กๆ ที่เชิญเฉพาะคนที่สนิทเท่านั้นเพราะไม่ชอบความวุ่นวาย และเธอเองก็มีเพื่อนแค่ไม่กี่คนและแทบไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเลย เนื่องจากนายจักรนั้นอพยพมาจากที่อื่นแล้วมาตั้งรกรากอยู่แถบชายแดนไทย ลาว ญาติของนายจักรที่จุมพิตาเคยเห็นหน้าค่าตา พอรู้ว่าเขาไม่ได้รับราชการต่างก็พากันเหินห่างออกไปและก็ขาดการติดต่อไปโดยปริยายงานแต่งงานที่ใหญ่โตหรูหราที่เชิญแขกมาเป็นร้อยเป็นพันแต่ไม่มีสักคนที่เธอรู้จักอย่างจริงจังจริงใจมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อันใดเลย เพราะคนเหล่านั้นไม่รู้จักเธอด้วยซ้ำ และเธอเองก็ไม่ได้รู้จักพวกเขาด้วย งานแต่งงานในความคิดของจุมพิตาจึงต้องเป็นงานแต่งที่อบอุ่นเต็มไปด้วยญาติมิตรที่สนิทสนมกัน มีความรักและความจริงใจต่อกันมากกว่างานแต่งใหญ่โตหรูหรา แต่แสนอ้างว้างมีแต่คนใส่หน้ากากมาร่วมงาน ซึ่งพยัคฆ์เองก็เห็นด้วยกับความคิดของคนที่จะมาศรีภรรยาโดยไม่คัดค้านใดๆ
ตอนที่44.คุณนทีปรายตามองว่าที่ลูกเขยอย่างไม่ค่อยพอใจนัก เพราะพยัคฆ์มักแอบขโมยลูกสาวของตนไปพลอดรักอยู่ร่ำไป เผลอเป็นไม่ได้เสือร้ายที่ทำตัวเป็นแมวจะต้องขโมยปลาย่างไปกินเสียทุกที“มันยังไม่ถึงฤกษ์จะแต่ง ก็ควรอยู่ห่างๆ กันไว้บ้างนะ”“โธ่.. คุณพ่อครับ แค่ห่างจ๋อมนาทีเดียวผมก็จะใจขาดแล้วครับให้ผมเจอหน้าจ๋อมสักสามนาทีได้ไหมครับ”“งั้นก็ห่างไปสักสามวันก็แล้วกัน”คุณจริยาพูดขึ้นนางเดินมาพร้อมด้วยคุณย่าคริสตี้และคนงานที่ถือพลั่วและบุ้งกี๋มาด้วย“เอาล่ะไปทำงานของตัวเองเสียทีอย่ามาวุ่นวายกับน้องเขา มันจะเสียฤกษ์เสียยาม ความจริงแล้วถ้ายึดแบบประเพณีโบราณของไทยเจ้าบ่าวเจ้าสาวนี่ต้องห้ามเจอหน้ากันเป็นเดือนๆ เลยนะ”คุณย่าคริสตี้ซึ่งร่างกายยังคงแข็งแรงเดินเหินราวกับคนวัยห้าสิบต้นๆ ทั้งที่ปีนี้ท่านจะย่างเข้าสู่ปีที่เจ็บสิบเก้าแล้วทำสีหน้าจริงจังใส่หลานชายหัวแก้วหัวแหวน ยิ่งรู้ว่าก่อนหน้าที่จะพิสูจน์ได้ว่าจุมพิตาเป็นลูกสาวของคุณนทีกับคุณจริยา พยัคฆ์ได้ทำอะไรกับจุ
ตอนที่43.“โอ้ว จ๋อมจ๋า จ๋อม อา.. อ๊า..”พยัคฆ์ครางกระเส่าไม่แพ้กันก่อนที่ความเสียวซ่านจะบีบรัดจนเขาและเธอไม่อาจจะทานทนกับความร้อนระอุแห่งกระแสสวาทได้ ชายหนุ่มโถมกายเข้าหาร่างงามครั้งสุดท้ายปลดปล่อยทุกหยาดหยดแห่งความสุขสมเข้าสู่กายบางที่แทบจะทรุดลงกับพื้นทันทีที่พุ่งทะยานไปสู่จุดสูงสุดแห่งเพลงสวาทร้อนแรงพยัคฆ์มองร่างงามที่ซวนซบอยู่กับพื้นกระเบื้องลายสวยอย่างพอใจ หากเขาพยายามปั๊มลูกทุกๆ วันมีหรือที่เธอจะไม่ท้องแล้วทีนี้พอแต่งปุ๊บเขาก็จะได้เป็นว่าที่คุณพ่อปั๊บสมปรารถนา ใครจะว่าเขาโกหกเรื่องเธอท้องไม่ได้เพราะจุมพิตาจะท้องจริงๆ“ทีนี้เรามาอาบน้ำด้วยกันดีกว่านะครับที่รัก”ปากบอกว่าจะอาบน้ำแต่เขาไม่ยอมถอดถอนตัวตนใหญ่โตออกจากร่างสาว พยัคฆ์พลิกร่างงามให้หันกลับมาแล้วจับเรียวเขาเสลาให้โอบรัดรอบเอวสอบก่อนจะพาเธอไปที่ฝักบัวใหญ่หรูหราแล้วเปิดน้ำพร่างพรมลงมาและเริ่มเกมรักเราร้อนใต้ฝักบัวอีกครั้งโดยที่จุมพิตาไม่มีโอกาสได้คัดค้านความต้องการของเขาได้เลย...