로그인หวานใจถูกแบกขึ้นบนบ่ากว้าง กายเล็กถูกเขาแบกไว้ทั้งที่เสือหาญไม่มีสีหน้าว่าหนักเลยด้วยซ้ำ พยายามดิ้นเร่าออกแรงทุบเขาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์ เป็นคนเหล็กหรือยังไง ตีเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
เสือหาญเดินดุ่มกลับไปที่บ้านอย่างไม่สนใจชาวบ้านตามสองข้างทางที่มองมาด้วยความสงสัย หวานใจหยุดนิ่งไปในตอนที่รู้สึกว่าเวียนหัวมากเต็มที ไม่มีแรงจะสู้เขาแล้ว เลือดในตัวตกไปอยู่ที่สมองหมดแล้วมั้ง
"เงียบได้แล้วหรือไง ข้านึกว่าเอ็งจะเก่งกว่านี้"
"........"
"มาอยู่ที่นี่เพราะใครก็ต้องอยู่บ้านคนนั้น เข้าใจหรือเปล่า"
ตั้งใจเงียบไม่ตอบอะไรเขาออกไป หวานใจเหนื่อยจะสู้กับเสือหาญเต็มที อยากแบกก็แบกไป ถ้าไม่หนักก็แบกต่อไปเถอะไอคนบ้า
"เอ้าๆ อะไรของเอ็งเนี่ย แบกนังหนูมาแบบนั้นได้ยังไง"
ยายนวลประคองหลังรับคนที่เสือหาญแบกมา หวานใจเซหมดเรี่ยวแรงไปด้านหลังแต่ถูกมือหนายื้อไว้ให้ยืนอยู่ได้ อีกนิดเดียวเลือดทั้งตัวคงจะมารวมกันอยู่ที่หัวหมด โชคดีที่มาถึงบ้านซะก่อน
"นังหนูของยายจะหนีไปอยู่ที่อื่น"
"หนูเปล่านะคะ ก็แค่อยู่ที่นี่แล้วมีใครบางคนดูเหมือนจะไม่เต็มใจ ก็เลยอยากไปอยู่ที่อื่นมากกว่า"
"ข้าไปพูดว่าไม่เต็มใจเมื่อไหร่"
"ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเป็นคุณสักหน่อย ร้อนตัวหรอ?"
หวานใจพูดจบก็ขยับไปยืนหลบหลังยายนวลทันที เสือหาญพยายามจะคว้าตัวคนอวดดีมาคุยกันให้รู้เรื่อง หน้าตายียวนเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน ยิ่งอยู่นานเข้าก็ยิ่งกล้ากับเขามากขึ้นทุกที ยายนวลถูกใช้เป็นกำบังสำหรับหลบหลีกก่อนหวานใจจะหาจังหวะวิ่งหนีขึ้นชั้นบนไป เสือหาญมองตามขึ้นไปแล้วยืนเท้าเอวก่อนจะลูบแขนตัวเองตอนที่โดนยายนวลตี
"เล่นอะไรเป็นเด็ก เอ็งจะอะไรกับนังหนูมันนัก"
"นังหนูของยายกวนจะตายไปยายก็เหัน ทำไมมาว่าแต่ฉันละจ๊ะ"
"ก็เอ็งชอบไปดุ นังหนูหวานใจตัวนิดเดียว ไม่ใช่พวกลูกน้องเอ็งนะ อย่าดุให้มันมากนัก"
เสือหาญเดินหนียายนวลออกมา ขืนอยู่นานได้ถูกบ่นจนหูชาแน่ มองไปทางข้างหน้าก็เลี้ยวหัวเปลี่ยนทิศแทบไม่ทันตอนที่เห็นว่ากะทิกำลังเดินมาทางที่เขาอยู่ ไม่ได้รังเกียจอะไรนักหรอก แต่ในตอนนี้หงุดหงิดเกินกว่าจะให้ใครมาเกาะแกะ
หยุดยืนมองในตอนที่เห็นใครบางคนเดินดุ่มมาจากชายป่าหลังหมู่บ้าน ท่าทางหันซ้ายหันขวายิ่งทำให้เขาต้องหยุดมองอย่างพิจารณา พอเห็นใบหน้าชัดขึ้นว่าเป็นใครก็เลยเดินเข้าไปหา แต่ไม่รู้ว่าเพราะเขาไม่ให้ซุ่มให้เสียงหรือเปล่าถึงทำให้อีกคนชะงักไปอย่างกับเห็นผีอย่างนั้น
"ไปไหนมาไอมิ่ง?"
"พ พี่เสือหาญ ฉันแค่ไปเดินสำรวจมา ได้ยินว่าช่วงนี้มีหมู่บ้านโจรเพิ่ม ก็เลยกลัวว่าจะมาบุกเรา"
"อืม ก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้คงต้องระวังตัวกันหน่อย ยังไงมึงก็ไปเตือนคนในหมู่บ้านไว้ด้วยละ"
"ได้ๆ ฉันไปนะจ๊ะ"
เสือมิ่งเดินไปทันทีตอนที่เสือหาญพยักหน้าตอบรับ เขากำลังจะเดินก้าวเดินลับไปเช่นกันแต่เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่ดังอยู่ไม่ไกลนักเรียกให้หันไปมอง จับกระบอกปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลังเอาไว้ ขยับก้าวเดินเชื่องช้าและเบามากที่สุด ใครกันมันกล้ามาเหยียบถึงที่นี่ เสียงใบไม้ที่ถูกเหยียบดังใกล้หูมากขึ้น เบี่ยงตัวหันปืนไปหาแล้วหยุดมองก่อนจะถอนหายใจออกมา
"ปัดโธ่เอ๊ย ไอกระรอกน้อย เกือบโดนยิงตายแล้วไหมละ"
ดวงตะวันลับขอบฟ้าไปทั่วธาราวิหคก็มืดสนิท ตามทางเดินหมู่บ้านมีเพียงแค่ตะเกียงไฟเท่านั้น ยังโชคดีที่ภายในตัวบ้านยังพอมีไฟให้ไว้ใช้ หวานใจแอบปลีกตัวออกมาในตอนที่ยายนวลไปอาบน้ำ เดินมานั่งลงตรงแค่ไม้ริมธารน้ำตก เสียงน้ำไหลกับเสียงแมลงพอจะทำให้ผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้าง
มือเล็กคอยปัดเอายุงตัวน้อยตัวนิดที่กัดไปตามแขนทั้งสองข้าง พลันนึกถึงว่าป่านนี้แม่คงเป็นห่วงก็ยิ่งรู้สึกเศร้าขึ้นมา แล้วยิ่งน้องสาวที่ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้างอีก ถ้าน้องปลอดภัยก็คงจะดี แต่ถ้าถูกจับเหมือนกันแล้วป่านนี้หายไปอยู่ที่ไหนกัน
"ทำไมเอ็งมานั่งคนเดียว?"
หวานใจหันไปเห็นว่าเป็นเสือมิ่งก็เลยยิ้มขึ้นมา ขยับให้มีพื้นที่ว่างพอให้อีกคนได้นั่งลงข้างกัน
"กลางคืนมันอันตรายนะ ออกมาจากบ้านอย่างนี้ พี่หาญรู้หรือเปล่า"
"ถ้ารู้ก็คงไม่ได้ออกมาแบบนี้หรอกค่ะ"
"แสดงว่าเอ็งหนีออกมางั้นสิ"
เสือมิ่งเลิ่กคิ้วถามแล้วก็ยิ้มให้กับหวานใจที่ยักไหล่ขึ้นแล้วไม่พูดอะไร มองพินิจพิจารณาใบหน้าสวยของอีกคนที่แทบจะไมาสามารถละสายตาไปได้ สวยมากจริงๆ หรือเพราะเติบโตมาที่ธราวิหคตั้งแต่เด็กเลยไม่ค่อยได้เห็นใครที่สวยเท่านี้ก็ไม่รู้
"พอดีข้ามีเรื่องอยากจะถามเอ็งหน่อย"
"ค่ะ ถามมาสิ"
"ที่เอ็งบอกว่าถูกจับมา รู้ไหมว่าใคร แล้วระหว่างโดนจับได้เห็นหน้าพวกมันบ้างไหม"
"จริงๆก็เหมือนจะเห็นอยู่คนหนึ่งค่ะ แต่มันมืดมาก ก็เลยไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไงกันแน่"
หวานใจพูดจบแล้วก็หันไปสนใจแสงหิงห้อยที่ล่องลอยอยู่ ดวงตาทอประกายทำให้เสือมิ่งมองอยู่อย่างนั้น สักพักก็ลุกขึ้นเดินตามหวานใจที่เดินไปตรงริมธารน้ำ รอยยิ้มที่หวานกว่าครั้งไหนทำใจเสือมิ่งแทบจะลุ่มหลงไป สายลมแผ่วเบานั้นพัดให้เส้นผมปลิวสไวยิ่งทำให้ชวนมอง กลิ่นกายหอมอ่อนๆที่แตะจมูกตลอดยามที่ได้เข้ามาใกล้ก็หอมมาก
หลุดเข้าไปในภวังค์นั้นพักใหญ่แล้วเสียงกรีดร้องของหวานใจก็ทำให้หลุดออกมา ก้มมองดูเรียวแขนเล็กที่วิ่งมาเกาะแขนกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วมองตามสายตาถึงไปเห็นเข้าคางคกตัวใหญ่ที่กระโดดไป
"แค่คางคกเอง มันไม่ทำอะไรเอ็งหรอก"
"น่ากลัวจะตาย คุณไม่กลัวหรอคะ?"
"ข้าอยู่ในป่าตั้งแต่เด็ก เจอสัตว์มาก็มาก คางคกตัวเล็กแค่นี้ข้าจะกลัวได้ยังไง"
"จริงด้วยสิ"
เสือมิ่งก้มมองดูเรียวแขนเล็กนั้นอีกรอบจนหวานใจรู้สึกตัวแล้วผละออกไป ต่างคนต่างมองหน้าแล้วหัวเราะให้กัน ตามบ้านเรือนชาวบ้านเริ่มปิดไฟเข้านอนทำให้โดยรอบหมู่บ้านมืดขึ้นอีก คนที่นี่นอนกันเร็วมากคงจะเพราะไม่ได้มีอะไรทำเหมือนอย่างอยู่ในเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน และสำหรับหวานใจแล้วการเข้านอนเร็วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก พยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้
"ดึกมากแล้ว ข้าว่าเอ็งกลับเถอะ อย่ามานั่งตากน้ำค้างอยู่ที่นี่เลย"
หวานใจพยักหน้าเห็นด้วย ก็ดีเหมือนกัน เลือกที่จะกลับเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่เสือหาญจะจับได้และเป็นคนออกมาตามหาด้วยตัวเอง หากเป็นแบบนั้นละก็ หวานใจคนนี้จะต้องโดนบ่นจนหูชาแน่
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเสือหาญถึงได้ดูจงเกลียดจงชังเธอนัก ยิ่งตั้งแต่ที่เธอโดนแม่หมอของหมู่บ้านกล่าวหาว่าเป็นตัวกาลกิณี เขาก็จ้องจะหาเรื่องแกล้งหรือต่อว่าเธออยู่ตลอด หวานใจเกลียดดวงตาคมที่มองมาเหมือนกับไม่ชอบกัน ไหนจะคิ้วหนาที่ชอบขมวดใส่ตลอดทุกครั้งที่เจอ หรือแม้แต่คำพูดคำจาที่ว่าเธอจ้องจะจับผู้ชายในหมู่บ้านอีก
หวานใจอยากจะถามออกไปว่าเสือหาญเอาอะไรคิด ว่าเธอจะมาจับผู้ชายในหมู่บ้านกลางป่าลึกที่แทบจะไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกให้เลยเนื่ยนะ ก็ไม่รู้ว่าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือแค่ต้องการหาเรื่องต่อว่าเพื่อความสะใจกันแน่ ก้าวเดินเคียงกันกับเสือมิ่งมาจนถึงหน้าบ้าน เสียงเรียกชื่อหวานใจดังลั่นอยู่ด้านในติดต่อกันหลายครั้ง เป็นสัญญาณว่าควรจะต้องตั้งรับให้ดี เพระเสือหาญต้องหาเรื่องอะไรสักอย่างมาเล่นงานแน่
เสือหาญทิ้งตัวคุกเข่าลงอย่างไม่นึกห่วงคำว่าศักดิ์ศรี เขาตะโกนขอร้องเสียงดังลั่นให้เธอไม่ก้าวต่อไปอีก น้ำตาถูกปลดปล่อยออกมาจนนองหน้า เสือหาญคนนี้ไม่เคยเสียน้ำตาเพราะใครมาก่อน แต่ในครั้งนี้เขาไม่อาจต้านทานความเจ็บปวดในใจได้แม้เพียงสักนิด“พี่ยอมแล้ว พี่ยอม…แล้ว” เขาเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงสั่น แขนแกร่งพยายามอ้าออกหวังเพียงให้คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นเดินกลับมาหาอ้อมกอดของเขา แต่หวานใจยังคงยืนนิ่ง“หวานจะมั่นใจได้ยังไง ฮึก ว่าพี่จะไม่หลอกกันอีก” เสือหาญได้ยินสิ่งที่หวานใจถามแล้วก็ได้แต่นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขามองเท้าของหวานใจที่หมิ่นอยู่ตรงผาน้ำตก ถ้าขยับแค่เพียงนิดเดียวหรือพลาด อีกคนคงจะตกลงไปในทันที“หวานใจเข้ามานะลูก แม่จะช่วยคุยกับพ่อให้ ฮึก อย่าทำแบบนี้นะลูก” วารินเองก็ร้องปานจะขาดใจ แต่เธอไม่นึกโกรธเคืองลูกสาวที่ตัดสินใจทำอย่างนี้เลย จะมีใครเข้าใจความเจ็บปวดของลูกมากเท่าคนเป็นแม่ และในตอนนี้หวานใจกำลังท้อง ในใจดวงน้อยคงจะอ่อนไหวมาก“กลับมาหาพี่เถอะ พี่ขอร้อง”“พี่หาญ….”&ldqu
หวานใจรอบสังเกตเสือหาญที่เอาแต่หันมามองเธอเป็นระยะ แม้จะแปลกใจนิดหน่อยที่ยายนวลไม่ออกมาหาสมุนไพรครั้งนี้ด้วย แต่ก็ไม่อยากคิดมากเกินไป เธอพยายามก้าวเดินอย่างระวัง แต่ก็ยังพลาดเกือบล้มลงแต่เสือหาญโอบรับเอาไว้แน่นดวงตาคมมองดุจนหวานใจยู่ปากแล้วก้มหน้าหนี ครั้งนี้เสือหาญดึงมือของหวานใจมากุมเอาไว้ ดวงตากลมมองดูมือที่ถูกเขากอบกุมแล้วยิ้มกว้าง ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเงยหน้ามองไปข้างหน้าแล้วเห็นคนที่เธอไม่ควรเจออยู่ที่นี่“คุณแม่” หวานใจพูดขึ้นมาเสียงสั่น หันมองเสือหาญด้วยดวงตาเอ่อคลอน้ำตา กว่าเธอจะเข้าใจทุกอย่างก็สายเกินไปแล้ว ที่เขาทำเป็นดีกับเธอเมื่อวาน ทั้งยังชวนเธอออกมาที่นี่ แค่เพราะต้องการจะส่งเธอกลับไปเท่านั้น“หวานใจ….” เธอสะบัดมือที่เขาเกาะกุมอยู่ออก น้ำตาที่เอ่อคลอมานานไหลอาบแก้ม ที่แท้แล้วแม้เธอจะมีลูกของเขาอยู่ในท้อง นั่นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะทำให้เขาอยู่ด้วยกัน“ทำไมทำอย่างนี้ลูก แม่กับพ่อเป็นห่วงมากนะ” วารินเดินเข้ามากอดลูกสาวแน่น หวานใจร้องไห้ออกมาหนักขึ้นแล้วโอบกอดแม่เธอเอาไว้“หวานใจ พี่….&
เสือหาญกำลังซ้อมยิงปืนอย่างตั้งใจ ฝีมือของเขายังคงดีไม่มีตก ในครั้งนี้ทันทีที่เห็นเป้าแสนคุ้นตากลับนึกถึงใครบางคน นึกถึงวันนั้นที่บ้าบิ่นให้หวานใจไปเป็นเป้าแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ ผ่านมาร่วมเดือนแล้ว แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะหยุดคิดถึง"พี่หาญจ๊ะ""ไอโชคมาพอดี ข้ากำลังเบื่อๆ มาแข่งยิ่งปืนกัน""พี่หาญ คือ...ฉันพาคนมาหาพี่""ใคร?" เสือหาญถามแล้วหันมามอง ทันทีที่เสือโชคเบี่ยงตัวหลบก็ทำให้เขานิ่งไป นี่ไม่ใช่ว่าเขาคิดถึงหวานใจจนเพี้ยนไปแล้วใช่ไหมราวกับมีบางอย่างดึงดูดให้เดินเข้าหากัน เสือหาญมองหวานใจตั้งแต่หัวจรดเท้า ชายกระโปรงกับรองเท้าที่เลอะเทอะ ไหนจะใบหน้าที่เปื้อนดำปะปนกับหยาดน้ำตา ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะยกมือไปเช็ดให้"ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?""เพราะพี่อยู่ที่นี่" เสือหาญลูบแก้มเนียนแผ่วเบา เขาพึ่งได้เข้าใจว่าความคิดถึงมันทรมานขนาดนี้ อยากกอดคนตรงหน้าเอาไว้แน่นๆ แต่ก็หยุดชะงักและหยุดความคิดที่จะโอบกอดเอาไว้ได้"กลับไปเถอะ อย่าอยู่ที่นี่เลย""ไล่หรอ? ทำไม ฮึก ทำไมถึงใจร้ายขนาดนี้""ไอโชค กูฝากไปส่งหวานใจออกไปจากที่นี่ด
แสงแดดอุ่นสาดมารบกวนคนที่นอนอยู่บนเตียงนุ่ม มือเล็กควานหาใครบางคนที่ควรจะนอนอยู่บนเตียงด้วยกันหลังจากที่ผ่านบทรักอย่างหนักหน่วงมาตลอดคืนแต่ก็ไม่เจอใคร ดวงตากลมลืมขึ้นมองดู สัมผัสที่นอนข้างกายเย็นเฉียบราวกับว่าไม่ได้มีใครนอนอยู่ข้างกายมาตลอดทั้งคืน"หายไปไหนแต่เช้านะ" หวานใจรู้สึกใจโหวงขึ้นมาจนน่าแปลกใจกับการตื่นมาแล้วไม่เจอเขาในครั้งนี้ เธอก้าวลงจากเตียงนอนด้วยความร้อนใจ แต่ไม่ทันได้ไปไหนก็เหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งกับสร้อยแสนคุ้นตาวางอยู่มือบางสั่นเทายามที่เอื้อมไปหยิบมันขึ้นมา แม้จะไม่อ่านมันก็สามารถเข้าใจได้ในสถานการณ์ เขาหายไปทั้งทิ้งจดหมายกับสร้อยเอาไว้ที่นี่ จะมีอะไรได้ นอกจากเขาจะทิ้งเธอไปโดยไม่บอกกล่าว"หวานใจคนดีของพี่ ในตอนนี้พี่ดีใจที่เราต่างก็จำทุกอย่างได้ พี่มีสิ่งหนึ่งที่พี่ตระหนักได้และพี่ควรบอกหวานให้รับรู้คือพี่หาญคนนี้รักหวานใจสุดหัวใจ แต่พี่คงไม่สามารถทิ้งคนที่ธาราวิหคเพื่ออยู่กับหวานที่นี่ได้ หรือแม้แต่หวานเองก็ไม่สามารถทิ้งชีวิตที่ดีของหวานไป ดังนั้นตอนนี้พี่ตัดสินใจแล้วว่าเราแค่ต้องอยู่ในที่ที่ตัวเองควรอยู่หวานต้อง
"แม่เห็นพี่หาญบ้างไหมคะ?" หวานใจเอ่ยปากถามแม่ที่กำลังนั่งป้อนมื้อเที่ยงให้เธอ ดวงตากลมเฝ้ามองประตูด้วยความสงสัยเสือหาญหายไปตั้งแต่เมื่อเช้า จนกระทั่งตอนนี้เธอก็ยังไม่เห็นเขาเลย"อาจจะกลับไปทำธุระที่บ้านก็ได้ลูก""หรอคะ" ไม่รู้ทำไมแต่ในใจเธอกับรู้สึกว้าวุ่นไปหมด ความรู้สึกในตอนนี้มันโหวงราวกับว่าไม่อยากให้เขาอยู่ห่างกาย กลัวว่าเขาจะหายไปไหน แล้วต้องแยกจากกันอีก"นั่นไงมาแล้ว" เป็นเสือหาญที่เดินเข้ามาพร้อมกับดอกไม้ดอกหนึ่งที่เธอคิดว่าน่าจะเด็ดทันมาจากสวนที่บ้านเธอ หวานใจส่งยิ้มให้เขา แม้เขาจะส่งกลับมาแต่เธอกลับรู้ว่ารอยยิ้มนั้นมันฝืนเหลือเกินวารินหลีกทางให้เสือหาญกับลูกสาวได้อยู่ด้วยกันตามเคย แม้เรื่องที่พ่อเลี้ยงหิรัญพูดจะน่าคิด แต่ยิ่งเห็นว่าทั้งสองมีความรู้สึกที่ดีต่อกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งยากที่จะแยกสองคนให้ห่างจากกันเสือหาญยื่นดอกไม้ในมือให้หวานใจ เขาพยายามเผยรอยยิ้มให้อีกคนได้เห็น หวานใจจะได้ไม่รอบสังเกตถึงสิ่งที่เขากำลังคิดอยู่ในใจจู่ๆ มือหนาก็ลูบหัวจนหวานใจต้องเงยหน้ามา เธอหรี่ตาทั้งจ้องตากับเขาจนเขาต้องเป็นคนหลบตาไปเอง มือเล็กสองข้าง
“ตอนนี้หวานจำได้แล้ว วันนั้นที่พี่พยายามจะทำร้ายหวาน มันเป็นเพราะพี่ถูกฉีดยา แต่พี่ก็สู้เต็มที่ พยายามเต็มที่เพื่อให้ตัวเองมีสติจนต้องทำร้ายตัวเองเพราะพี่อยากให้สติของพี่กลับมา”“……” เสือหาญหยุดเงียบเพื่อฟังในสิ่งที่อีกคนเล่าอย่างไม่เข้าใจ หรือว่าที่เขาจำในช่วงที่อีกคนเล่าไม่ได้ ไม่ใช่เพราะเขาความจำเสื่อมเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะเขาทำทุกอย่างด้วยฤทธิ์ยา“พี่เลือกที่จะหนีไปไกล เพื่อทำให้ทุกอย่างชุลมุน ตำรวจถึงหาหวานเจอได้ทันเวลาไง”“จะ จริงหรอ?” เขาถามอย่างคาดคั้นและในใจก็หวังให้เป็นความจริง อย่างน้อยเมื่อได้รับรู้ว่าตัวเองไม่ได้ทำร้ายหวานใจก็ทำให้เขาสบายใจขึ้นมาก“อื้ม แล้วอย่างนี้ หวานจะไปเกลียดพี่ได้ยังไง”“ละ แล้วทำไมหวานถึงลืมพี่ละ?” เอ่ยถามคำถามที่ต้องการอยากรู้มากที่สุด ถ้าเกิดเขาไม่ได้ทำร้ายเธออย่างที่เราเข้าใจกันไปในตอนแรก แล้วทำไมหวานใจถึงเลือกที่จะลืมเขา“ที่หวานลืมพี่ ไม่ใช่เพราะหวานเคยถูกพี่ทำร้าย แต่มันเพราะหวานเห็นว่าพี่







