เข้าสู่ระบบหวานใจถูกแบกขึ้นบนบ่ากว้าง กายเล็กถูกเขาแบกไว้ทั้งที่เสือหาญไม่มีสีหน้าว่าหนักเลยด้วยซ้ำ พยายามดิ้นเร่าออกแรงทุบเขาเท่าไหร่ก็ไม่มีประโยชน์ เป็นคนเหล็กหรือยังไง ตีเท่าไหร่ก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด
เสือหาญเดินดุ่มกลับไปที่บ้านอย่างไม่สนใจชาวบ้านตามสองข้างทางที่มองมาด้วยความสงสัย หวานใจหยุดนิ่งไปในตอนที่รู้สึกว่าเวียนหัวมากเต็มที ไม่มีแรงจะสู้เขาแล้ว เลือดในตัวตกไปอยู่ที่สมองหมดแล้วมั้ง
"เงียบได้แล้วหรือไง ข้านึกว่าเอ็งจะเก่งกว่านี้"
"........"
"มาอยู่ที่นี่เพราะใครก็ต้องอยู่บ้านคนนั้น เข้าใจหรือเปล่า"
ตั้งใจเงียบไม่ตอบอะไรเขาออกไป หวานใจเหนื่อยจะสู้กับเสือหาญเต็มที อยากแบกก็แบกไป ถ้าไม่หนักก็แบกต่อไปเถอะไอคนบ้า
"เอ้าๆ อะไรของเอ็งเนี่ย แบกนังหนูมาแบบนั้นได้ยังไง"
ยายนวลประคองหลังรับคนที่เสือหาญแบกมา หวานใจเซหมดเรี่ยวแรงไปด้านหลังแต่ถูกมือหนายื้อไว้ให้ยืนอยู่ได้ อีกนิดเดียวเลือดทั้งตัวคงจะมารวมกันอยู่ที่หัวหมด โชคดีที่มาถึงบ้านซะก่อน
"นังหนูของยายจะหนีไปอยู่ที่อื่น"
"หนูเปล่านะคะ ก็แค่อยู่ที่นี่แล้วมีใครบางคนดูเหมือนจะไม่เต็มใจ ก็เลยอยากไปอยู่ที่อื่นมากกว่า"
"ข้าไปพูดว่าไม่เต็มใจเมื่อไหร่"
"ฉันก็ไม่ได้บอกว่าเป็นคุณสักหน่อย ร้อนตัวหรอ?"
หวานใจพูดจบก็ขยับไปยืนหลบหลังยายนวลทันที เสือหาญพยายามจะคว้าตัวคนอวดดีมาคุยกันให้รู้เรื่อง หน้าตายียวนเมื่อครู่นี้มันอะไรกัน ยิ่งอยู่นานเข้าก็ยิ่งกล้ากับเขามากขึ้นทุกที ยายนวลถูกใช้เป็นกำบังสำหรับหลบหลีกก่อนหวานใจจะหาจังหวะวิ่งหนีขึ้นชั้นบนไป เสือหาญมองตามขึ้นไปแล้วยืนเท้าเอวก่อนจะลูบแขนตัวเองตอนที่โดนยายนวลตี
"เล่นอะไรเป็นเด็ก เอ็งจะอะไรกับนังหนูมันนัก"
"นังหนูของยายกวนจะตายไปยายก็เหัน ทำไมมาว่าแต่ฉันละจ๊ะ"
"ก็เอ็งชอบไปดุ นังหนูหวานใจตัวนิดเดียว ไม่ใช่พวกลูกน้องเอ็งนะ อย่าดุให้มันมากนัก"
เสือหาญเดินหนียายนวลออกมา ขืนอยู่นานได้ถูกบ่นจนหูชาแน่ มองไปทางข้างหน้าก็เลี้ยวหัวเปลี่ยนทิศแทบไม่ทันตอนที่เห็นว่ากะทิกำลังเดินมาทางที่เขาอยู่ ไม่ได้รังเกียจอะไรนักหรอก แต่ในตอนนี้หงุดหงิดเกินกว่าจะให้ใครมาเกาะแกะ
หยุดยืนมองในตอนที่เห็นใครบางคนเดินดุ่มมาจากชายป่าหลังหมู่บ้าน ท่าทางหันซ้ายหันขวายิ่งทำให้เขาต้องหยุดมองอย่างพิจารณา พอเห็นใบหน้าชัดขึ้นว่าเป็นใครก็เลยเดินเข้าไปหา แต่ไม่รู้ว่าเพราะเขาไม่ให้ซุ่มให้เสียงหรือเปล่าถึงทำให้อีกคนชะงักไปอย่างกับเห็นผีอย่างนั้น
"ไปไหนมาไอมิ่ง?"
"พ พี่เสือหาญ ฉันแค่ไปเดินสำรวจมา ได้ยินว่าช่วงนี้มีหมู่บ้านโจรเพิ่ม ก็เลยกลัวว่าจะมาบุกเรา"
"อืม ก็ดีเหมือนกัน ช่วงนี้คงต้องระวังตัวกันหน่อย ยังไงมึงก็ไปเตือนคนในหมู่บ้านไว้ด้วยละ"
"ได้ๆ ฉันไปนะจ๊ะ"
เสือมิ่งเดินไปทันทีตอนที่เสือหาญพยักหน้าตอบรับ เขากำลังจะเดินก้าวเดินลับไปเช่นกันแต่เสียงฝีเท้าของใครบางคนที่ดังอยู่ไม่ไกลนักเรียกให้หันไปมอง จับกระบอกปืนที่เหน็บอยู่ด้านหลังเอาไว้ ขยับก้าวเดินเชื่องช้าและเบามากที่สุด ใครกันมันกล้ามาเหยียบถึงที่นี่ เสียงใบไม้ที่ถูกเหยียบดังใกล้หูมากขึ้น เบี่ยงตัวหันปืนไปหาแล้วหยุดมองก่อนจะถอนหายใจออกมา
"ปัดโธ่เอ๊ย ไอกระรอกน้อย เกือบโดนยิงตายแล้วไหมละ"
ดวงตะวันลับขอบฟ้าไปทั่วธาราวิหคก็มืดสนิท ตามทางเดินหมู่บ้านมีเพียงแค่ตะเกียงไฟเท่านั้น ยังโชคดีที่ภายในตัวบ้านยังพอมีไฟให้ไว้ใช้ หวานใจแอบปลีกตัวออกมาในตอนที่ยายนวลไปอาบน้ำ เดินมานั่งลงตรงแค่ไม้ริมธารน้ำตก เสียงน้ำไหลกับเสียงแมลงพอจะทำให้ผ่อนคลายขึ้นมาได้บ้าง
มือเล็กคอยปัดเอายุงตัวน้อยตัวนิดที่กัดไปตามแขนทั้งสองข้าง พลันนึกถึงว่าป่านนี้แม่คงเป็นห่วงก็ยิ่งรู้สึกเศร้าขึ้นมา แล้วยิ่งน้องสาวที่ไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้างอีก ถ้าน้องปลอดภัยก็คงจะดี แต่ถ้าถูกจับเหมือนกันแล้วป่านนี้หายไปอยู่ที่ไหนกัน
"ทำไมเอ็งมานั่งคนเดียว?"
หวานใจหันไปเห็นว่าเป็นเสือมิ่งก็เลยยิ้มขึ้นมา ขยับให้มีพื้นที่ว่างพอให้อีกคนได้นั่งลงข้างกัน
"กลางคืนมันอันตรายนะ ออกมาจากบ้านอย่างนี้ พี่หาญรู้หรือเปล่า"
"ถ้ารู้ก็คงไม่ได้ออกมาแบบนี้หรอกค่ะ"
"แสดงว่าเอ็งหนีออกมางั้นสิ"
เสือมิ่งเลิ่กคิ้วถามแล้วก็ยิ้มให้กับหวานใจที่ยักไหล่ขึ้นแล้วไม่พูดอะไร มองพินิจพิจารณาใบหน้าสวยของอีกคนที่แทบจะไมาสามารถละสายตาไปได้ สวยมากจริงๆ หรือเพราะเติบโตมาที่ธราวิหคตั้งแต่เด็กเลยไม่ค่อยได้เห็นใครที่สวยเท่านี้ก็ไม่รู้
"พอดีข้ามีเรื่องอยากจะถามเอ็งหน่อย"
"ค่ะ ถามมาสิ"
"ที่เอ็งบอกว่าถูกจับมา รู้ไหมว่าใคร แล้วระหว่างโดนจับได้เห็นหน้าพวกมันบ้างไหม"
"จริงๆก็เหมือนจะเห็นอยู่คนหนึ่งค่ะ แต่มันมืดมาก ก็เลยไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นยังไงกันแน่"
หวานใจพูดจบแล้วก็หันไปสนใจแสงหิงห้อยที่ล่องลอยอยู่ ดวงตาทอประกายทำให้เสือมิ่งมองอยู่อย่างนั้น สักพักก็ลุกขึ้นเดินตามหวานใจที่เดินไปตรงริมธารน้ำ รอยยิ้มที่หวานกว่าครั้งไหนทำใจเสือมิ่งแทบจะลุ่มหลงไป สายลมแผ่วเบานั้นพัดให้เส้นผมปลิวสไวยิ่งทำให้ชวนมอง กลิ่นกายหอมอ่อนๆที่แตะจมูกตลอดยามที่ได้เข้ามาใกล้ก็หอมมาก
หลุดเข้าไปในภวังค์นั้นพักใหญ่แล้วเสียงกรีดร้องของหวานใจก็ทำให้หลุดออกมา ก้มมองดูเรียวแขนเล็กที่วิ่งมาเกาะแขนกันอย่างไม่ได้ตั้งใจ แล้วมองตามสายตาถึงไปเห็นเข้าคางคกตัวใหญ่ที่กระโดดไป
"แค่คางคกเอง มันไม่ทำอะไรเอ็งหรอก"
"น่ากลัวจะตาย คุณไม่กลัวหรอคะ?"
"ข้าอยู่ในป่าตั้งแต่เด็ก เจอสัตว์มาก็มาก คางคกตัวเล็กแค่นี้ข้าจะกลัวได้ยังไง"
"จริงด้วยสิ"
เสือมิ่งก้มมองดูเรียวแขนเล็กนั้นอีกรอบจนหวานใจรู้สึกตัวแล้วผละออกไป ต่างคนต่างมองหน้าแล้วหัวเราะให้กัน ตามบ้านเรือนชาวบ้านเริ่มปิดไฟเข้านอนทำให้โดยรอบหมู่บ้านมืดขึ้นอีก คนที่นี่นอนกันเร็วมากคงจะเพราะไม่ได้มีอะไรทำเหมือนอย่างอยู่ในเมืองที่ผู้คนพลุกพล่าน และสำหรับหวานใจแล้วการเข้านอนเร็วเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก พยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็ทำไม่ได้
"ดึกมากแล้ว ข้าว่าเอ็งกลับเถอะ อย่ามานั่งตากน้ำค้างอยู่ที่นี่เลย"
หวานใจพยักหน้าเห็นด้วย ก็ดีเหมือนกัน เลือกที่จะกลับเสียตั้งแต่ตอนนี้ ก่อนที่เสือหาญจะจับได้และเป็นคนออกมาตามหาด้วยตัวเอง หากเป็นแบบนั้นละก็ หวานใจคนนี้จะต้องโดนบ่นจนหูชาแน่
ก็ไม่รู้ว่าทำไมเสือหาญถึงได้ดูจงเกลียดจงชังเธอนัก ยิ่งตั้งแต่ที่เธอโดนแม่หมอของหมู่บ้านกล่าวหาว่าเป็นตัวกาลกิณี เขาก็จ้องจะหาเรื่องแกล้งหรือต่อว่าเธออยู่ตลอด หวานใจเกลียดดวงตาคมที่มองมาเหมือนกับไม่ชอบกัน ไหนจะคิ้วหนาที่ชอบขมวดใส่ตลอดทุกครั้งที่เจอ หรือแม้แต่คำพูดคำจาที่ว่าเธอจ้องจะจับผู้ชายในหมู่บ้านอีก
หวานใจอยากจะถามออกไปว่าเสือหาญเอาอะไรคิด ว่าเธอจะมาจับผู้ชายในหมู่บ้านกลางป่าลึกที่แทบจะไม่มีอะไรอำนวยความสะดวกให้เลยเนื่ยนะ ก็ไม่รู้ว่าคิดอย่างนั้นจริงๆ หรือแค่ต้องการหาเรื่องต่อว่าเพื่อความสะใจกันแน่ ก้าวเดินเคียงกันกับเสือมิ่งมาจนถึงหน้าบ้าน เสียงเรียกชื่อหวานใจดังลั่นอยู่ด้านในติดต่อกันหลายครั้ง เป็นสัญญาณว่าควรจะต้องตั้งรับให้ดี เพระเสือหาญต้องหาเรื่องอะไรสักอย่างมาเล่นงานแน่
เสือหาญอุ้มคนที่แทบจะไม่มีสติมาถึงกระท่อมอีกมุมหนึ่งในป่า กระท่อมนี้มิดชิดมากพอที่จะไม่มีใครมองเห็น เขาวางหวานใจลงบนแค่ไม้ เตรียมจะขยับตัวออกห่างแต่เธอก็รั้งคอเขาเอาไว้ซะก่อน เสือหาญล้มลงทั้งมือค้ำยันกับแค่ไม้เอาไว้หวานใจที่นอนดิ้นเร่าทั้งเสียงแหบพร่าที่เอาแต่เอ่ยร้องเรียกเขาทำเอาเขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ แขนเรียวสองข้างยกขึ้นคล้องคอเขาแล้วรั้งเขาเข้าไปจูบอย่างไม่ได้ตั้งตัว เสือหาญพยายามดันตัวออกในตอนแรก แต่จูบนี้ก็หวานเหลือเกินมือหนาประคองใบหน้าอีกคนเอาไว้แล้วบดจูบตอบกลับไป ตอนนี้มันยากสำหรับเขาที่จะหักห้ามใจ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนหวานใจมีอิทธิพลต่อความอยากของเขามากขนาดนี้เลย“ไม่ไหวแล้ว” เสียงสั่นเครือของหวานใจกลับทำให้เขารู้สึกถึงความเย้ายวนมากกว่าเก่า มือเล็กที่จับหน้าเขาเอาไว้ยิ่งเพิ่มสัมผัสให้ต้องการมากขึ้นไปอีกเสือหาญก้มลงกดจูบริมฝีปากคนร้องขอ ลิ้นร้อนแทรกผ่านเกี่ยวกระหวัดอย่างลุ่มหลง ก่อนเขาจะผละออกมาแล้วหายใจหอบถี่ มองดูคนที่ยังคงยั่วยวนกันไม่หยุด“ข้าจะถามเอ็งอีกครั้ง เอ็งแน่ใจนะ?” หวานใจไม่พูดอะไร แต่ใช้ปลายนิ้วไล้ไปตามอกแกร่ง ทันทีที่นิ้วเรียวลากผ่านหน้าท้องเขาก็ขนลุกซู่ มือเ
"ยายนวลไหวไหมจ๊ะ?" หวานใจกับเสือหาญเดินตามมาก็ได้ยินเสียงเพ้งถามยายนวลขึ้นมาพอดี มองดูถึงได้เห็นว่าหญิงสูงวัยกำลังนั่งพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ ท่าทางเหมือนจะเป็นลมหน้ามืดลงไป เสือหาญกำลังจะเดินเข้าหาแต่หวานใจกลับเร็วกว่า อีกคนเดินไปนั่งลงใกล้ยายนวลก่อนเขา"หนูว่ากับดีไหมคะ? ยายน่าจะไม่ไหว""แต่ข้ายังต้องหาสมุนไพรอีกหลายอย่าง""เสือหาญแล้วจะทำยังไงดี?" ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักก็พอจะนึกวิธีออก เสือหาญเลือกจะบอกให้หวานใจพายายนวลกลับก่อน เหลือแค่เขากับเพ้งอู่หาสมุนไพรให้ต่อ แต่พอจบประโยคยายนวลก็พูดขัดขึ้นมา"นังหนูหวานใจตัวเล็กแค่นี้จะพาข้ากลับยังไง ให้ไอเพ้งพาข้ากลับ ส่วนเอ็งกับนังหนูช่วยกันหาสมุนไพรแล้วกัน""เอ่อคือว่าหนูพายายกลับได้นะคะ ถึงหนูจะตัวเล็กแต่แข็งแรงมาก" หวานใจยกแขนเรียวเล็กขึ้นมาแล้วทำหน้ามั่นใจ"ทำไม? กลัวไม่กล้าอยู่กับข้าหรือไง"ดวงตากลมตวัดไปมองคนที่พูดจาดูถูกกันเมื่อครู่ คิ้วหนาที่ยักขึ้นราวกับตั้งใจกวนกันนั่นแสนน่าหงุดหงิด แบบนี้หวานใจจะไปยอมได้ยังไง สุดท้ายก็ตกปากรับคำที่จะอยู่หาสมุนไพรต่อกับเสือหาญเอง ขาเรียวก้าวเดินตามคนที่ไม่ยอมรอกันแล้วถอนหายใจ พยายามเอ่ยบอกเขาเท่าไหร่ก็ไม
"ยายนวลไหวไหมจ๊ะ?" หวานใจกับเสือหาญเดินตามมาก็ได้ยินเสียงเพ้งถามยายนวลขึ้นมาพอดี มองดูถึงได้เห็นว่าหญิงสูงวัยกำลังนั่งพิงต้นไม้ใหญ่อยู่ ท่าทางเหมือนจะเป็นลมหน้ามืดลงไป เสือหาญกำลังจะเดินเข้าหาแต่หวานใจกลับเร็วกว่า อีกคนเดินไปนั่งลงใกล้ยายนวลก่อนเขา"หนูว่ากับดีไหมคะ? ยายน่าจะไม่ไหว""แต่ข้ายังต้องหาสมุนไพรอีกหลายอย่าง""เสือหาญแล้วจะทำยังไงดี?" ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักก็พอจะนึกวิธีออก เสือหาญเลือกจะบอกให้หวานใจพายายนวลกลับก่อน เหลือแค่เขากับเพ้งอู่หาสมุนไพรให้ต่อ แต่พอจบประโยคยายนวลก็พูดขัดขึ้นมา"นังหนูหวานใจตัวเล็กแค่นี้จะพาข้ากลับยังไง ให้ไอเพ้งพาข้ากลับ ส่วนเอ็งกับนังหนูช่วยกันหาสมุนไพรแล้วกัน""เอ่อคือว่าหนูพายายกลับได้นะคะ ถึงหนูจะตัวเล็กแต่แข็งแรงมาก" หวานใจยกแขนเรียวเล็กขึ้นมาแล้วทำหน้ามั่นใจ"ทำไม? กลัวไม่กล้าอยู่กับข้าหรือไง"ดวงตากลมตวัดไปมองคนที่พูดจาดูถูกกันเมื่อครู่ คิ้วหนาที่ยักขึ้นราวกับตั้งใจกวนกันนั่นแสนน่าหงุดหงิด แบบนี้หวานใจจะไปยอมได้ยังไง สุดท้ายก็ตกปากรับคำที่จะอยู่หาสมุนไพรต่อกับเสือหาญเอง ขาเรียวก้าวเดินตามคนที่ไม่ยอมรอกันแล้วถอนหายใจ พยายามเอ่ยบอกเขาเท่าไหร่ก็ไม
"ข้าเคยบอกไปแล้วว่าผู้หญิงคนนี้มันเป็นตัวกาลกิณี ฤกษ์แต่งไม่มีหรอก!"ยายนวลมองแม่หมอที่พูดจบแล้วหันไปยิ้มกับกะทิอย่างมีเลศนัย สองแม่ลูกนี่อยากจะจับหลานชายให้อยู่หมัดทำไมยายนวลจะไม่รู้ ไอเรื่องตัวกาลกิณีกับฤกษ์ยามที่หาไม่ได้ก็คงตั้งใจพูดขึ้นมาก็เท่านั้น "ดีเลยค่ะ ไม่มีฤกษ์ งั้นไม่ต้องแต่งหรอกนะคะ" แทนที่หวานใจจะเสียใจแต่กลับยิ้มร่าจนเสือหาญกลายเป็นคนหงุดหงิดกับรอยยิ้มนั้นซะเอง การไม่ได้แต่งกับผู้ชายอย่างเขาหวานใจควรจะต้องเสียใจถึงจะถูก แต่ไอท่าทางโล่งอกโล่งใจแล้วยังหันไปยิ้มกับเสือมิ่งนี่มัน อยากจับมาหักคอเสียจริง"ไม่ได้ ยังไงก็ต้องแต่ง ถึงแม่หมอจะไม่มีฤกษ์ก็ไม่เป็นไร แต่ข้ามี"หวานใจหันไปมองเสือหาญแล้วอ้าปากค้าง อุตส่าห์ดีใจแต่ยิ้มได้ไม่ถึงสองนาทีก็ต้องกลับมากลุ้มอีกแล้ว"ในเมื่อเป็นอย่างนี้ก็เอาฤกษ์สะดวก วันอาทิตย์หน้าเลยเป็นยังไง""อะไรนะ!?"เสือหาญอุทานลั่นกำลังจะเอ่ยปากคัดค้านแต่ยายนวลยกมือปามเอาไว้ ก็อย่างที่บอกยายนวลอยู่เหนือเสือหาญทุกสิ่ง ไม่เคยมีสักเรื่องที่ยายนวลต้องการแล้วเสือหาญจะขัดใจ สุดท้ายก็เลยได้แต่เดินหนีออกไปจากตรงนี้ก่อนที่จะหัวเสียมากกว่าเก่ากะทิลุขึ้นมองตามเสือ
เสือหาญอุ้มคนเมาขึ้นมาชั้นบนของบ้าน เห็นห้องยายนวลถูกล็อกกุญแจไว้จากข้างนอกก็ได้แต่ถอนหายใจ ก้มมองคนที่เมาหลับไปอยู่ในอ้อมแขนเขา ตัวเสือหาญเองก็มีอาการมึนเมาอยู่บ้างแต่พอเห็นคนที่เมากว่าก็สร่างขึ้นมาเสียดื้อๆ เดินพาหวานใจเข้าไปในห้องนอนตัวเองอย่างห้ามไม่ได้ ที่นอนที่ไม่เคยมีใครได้ย่างกายขึ้นไปแต่บัดนี้มีกายเล็กของหวานใจนอนอยู่บนนั้นถึงจะแสดงสีหน้าไม่อยากจะดูแลแต่มือก็ยังจัดแจงท่าให้หวานใจได้นอนสบายแถมยังดึงผ้าห่มขึ้นคลุมให้อย่างดี กำลังลุกลงจากเตียงตั้งใจจะอาบน้ำอาบท่าแล้วพาตัวเองไปนอนพื้นชั่วคราวสักคืนแต่ถูกหวานใจดึงรั้งแขนเอาไว้จนล้มลงไปบนที่นอน"นังหวานใจ เอ็งปล่อยข้า!"เสือหาญเหวขึ้นมาตอนที่แขนถูกดึงไปเป็นหมอนหนุน แล้วขาเรียวยกขึ้นมาก่ายพาดบนตัวเขา แต่เพราะเสียงงอแงราวเด็กน้อยถูกรบกวนตอนนอนนั่นทำเอาเสือหาญหยุดนิ่ง ได้แต่นอนแข็งทื่อเป็นหมอนหนุนกับหมอนข้างให้ทั้งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ ในตอนที่พยายามขยับตัวทีไรเสียงงอแงก็ดังขึ้นทุกทีเลยได้แต่ปล่อยเลยตามเลย ก็ไม่รู้ทำไมถึงได้กลัวว่าจะรบกวนการนอนของอีกคนเข้า"เอ็งนี่นะ เอาแต่ใจจริง"ราวกับหวานใจได้ยินที่เขาพูดแล้วก็ขยับเข้ามาแนบชิด
"เดินให้มันเร็วๆหน่อย"หวานใจเดินหอบของพะรุงพะรังถอนหายใจใส่คนที่เดินนำหน้าตัวเปล่าแล้วออกคำสั่งไม่หยุด ก้าวเดินตามเขามาตั้งแต่หน้าบ้านกว่าจะไปถึงธารน้ำตกคงหมดแรงก่อนพอดี ดูก็รู้ว่าตั้งใจแกล้งกัน เอาไว้จะหาทางเอาคืนแน่"คุณหวานใจหนักไหมจ๊ะ มาเพ้งช่วย"เผยรอยยิ้มออกมาในตอนที่ได้ยินคำนั้นจากขึ้นที่เดินมาเจอ กำลังจะส่งของให้เพ้งช่วยถือไปแต่เสียงเข้มของเสือหาญหยุดทุกอย่างไว้ ก่อนเพ้งจะเดินถอยหลังเพราะไม่กล้าขัดคำสั่งของเสือหาญที่ไม่ให้เข้ามาช่วยเธอหวานใจแบกของหนักเดินต่อไปทั้งใบหน้ามุ่ย กว่าจะมาถึงธารน้ำตกที่เป็นจุดหมายก็หอบหนักจนแทบหายใจไม่ทัน เป็นเสือมิ่งที่วิ่งเข้ามาช่วยรับไปโดยที่ไม่สนใจสายตาของเสือหาญที่มองอยู่"เสือมิ่งแผลหายแล้วหรอคะ? ฉันขอโทษนะคะที่ทำให้เดือดร้อน""ข้าดีขึ้นแล้ว เอ็งไม่ต้องขอโทษหรอก ยังไงข้าก็ต้องช่วยเอ็ง"เสือมิ่งยิ้มมาให้ทั้งที่ยังถือของหนักอยู่ในอ้อมแขนโดยไม่แสดงอาการหนักเลยสักนิด สองคนยืนยิ้มให้กันไม่ได้พูดอะไรแต่กลับดูน่ารำคาญสำหรับเสือหาญ จนเขาต้องเดินผ่ากลางคนที่จ้องมองกันอยู่ นี่ถ้าเป็นปลากัดคงท้องไปแล้ว "เจ็บนะเนี่ย เดินชนมาได้"กำปั้นเล็กยกขึ้นทำท่าจะช







