Share

บทที่ 468

Author: ชาผลไม้
“สองคนนี้ได้รับมอบหมายมาจากกรมวัง หากพวกนางปรนนิบัติเจ้าไม่ดีก็บอกได้เลย”

ฉู่กุ้ยเฟยชี้ไปที่นางกำนัลทั้งสองแล้วพูดกับฉู่เนี่ยนซี

ทันใดนั้นก็มีนางกำนัลผู้หนึ่งเข้ามาจากด้านนอกตำหนัก นางทำความเคารพฉู่กุ้ยเฟยและฉู่เนี่ยนซีแล้วกล่าวว่า “ถวายความเคารพฉู่กุ้ยเฟยและพระชายาหลี หม่อมฉันเป็นคนสนิทขององค์หญิงห้า องค์หญิงทรงตรัสว่าหากพระชายาหลีเข้าวังมาแล้วให้มาพบที่ศาลาจิ่งอวิ๋นเพคะ”

ฉู่เนี่ยนซีและฉู่กุ้ยเฟยมองหน้ากันราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่พวกนางคาดการณ์เอาไว้

ฉู่เนี่ยนซีพูดกับนางกำนัลผู้น้อย “ได้ ไปกันเถอะ”

ฉู่เนี่ยนซีพูดอีกสองสามคำกับฉู่กุ้ยเฟย จากนั้นนางและเสี่ยวเถาก็ตามนางกำนัลผู้น้อยที่นำทางไปยังศาลาจิ่งอวิ๋น

ศาลาจิ่งอวิ๋นแตกต่างจากตำหนักโซ่วคัง เย่เซวียนเล่อ ได้รับความโปรดปรานอย่างสุดซึ้งจากทั้งฮองเฮาและองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจึงมีรับสั่งให้ตกแต่งศาลาจิ่งอวิ๋นอย่างงดงามเป็นพิเศษ

แค่ผ้าที่ใช้ทำม่านแขวนตรงทางเข้าห้องโถงใหญ่ก็ใช้ทองคำและเงินเป็นจำนวนมาก

ฉู่เนี่ยนซีที่เข้าไปในห้องโถงใหญ่ก็เห็นองค์หญิงห้านั่งอยู่ตรงที่นั่งเจ้าบ้านพลางมองนางอย่างอวดดี

นางเพียงมองกลับไปด้วยสีหน้าสงบ ไม่ทำท่
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Dino Khamruangsri
จัดการองค์หญิงให้ไดันะ ชอบแกล้งนางเอกดีนัก
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 469

    จนกระทั่งเย่เซวียนเล่อสั่งให้นางกำนัลหยิบพู่กันและกระดาษมาให้ ฉู่เนี่ยนซีจึงหันมาสนใจอีกเรื่องแทนเย่เซวียนเล่อจดบันทึกสูตรอาหารบำรุงกระเพาะอาหารทีละรายการตามที่ฉู่เนี่ยนซีพูด ทว่าหลังจากที่เขียนสูตรอาหารไปแล้วห้าอย่างแต่ฉู่เนี่ยนซีก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดฉู่เนี่ยนซีที่กำลังพูดถึงอาหารอย่างที่หกก็หยุดกะทันหันและพูดกับเย่เซวียนเล่อ “สิ่งที่หม่อมฉันพูดเมื่อครู่นี้ผิดไปองค์หญิงทรงจดใหม่อีกครั้งนะเพคะ”เย่เซวียนเล่อจ้องฉู่เนี่ยนซี แต่ฉู่เนี่ยนซีเพียงมองไปที่ชาสีเข้มในถ้วยและทำทีไม่สนใจนาง“หม่อมฉันพูดผิดอีกแล้ว องค์หญิงห้าทรงจดใหม่นะเพคะ”“องค์หญิงห้าทรงจดใหม่อีกครั้ง…”……“ฉู่เนี่ยนซี นี่เจ้าล้อข้าเล่นรึ!”ในที่สุดเย่เซวียนเล่อก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป นางโยนพู่กันในมือทิ้ง ดวงตาของนางเบิกกว้างราวกับเถาองุ่นขึ้น“จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะเพคะ แต่จริง ๆ สิ่งที่เขียนไปก็เพียงพอแล้วสำหรับหลายวันต่อจากนี้ องค์หญิงห้าสามารถเขียนเพิ่มไว้อีกสองฉบับ เก็บไว้กับตัวท่านหนึ่งฉบับ มอบให้ไทเฮาหนึ่งฉบับ และอีกหนึ่งฉบับส่งไปที่ตำหนักโซ่วคัง องค์จักรพรรดิจะได้ทรงทราบถึงความกตัญญูขององค์หญิงห้า นั่นคงจะเป็นเรื

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 470

    ฉู่กุ้ยเฟยตอบอย่างอ่อนโยน “ตลอดทางมาที่นี่อากาศหนาวเย็น เพราะการมาของเหล่าสนม เช่นนั้นข้าจึงเตรียมอ่างถ่านเพิ่มไว้ในตำหนักโซ่วคังเป็นพิเศษ ซีเอ๋อร์นางได้รับบาดเจ็บที่แขนจึงไม่เหมาะที่จะอยู่ในสถานที่ที่ร้อนเกินไป เพราะอาจติดเชื้อได้ง่าย เช่นนั้นข้าจึงไม่ได้ให้นางมา”“เป็นเช่นนี้นี่เอง เดิมทีหม่อมฉันมีเรื่องที่อยากจะถามชายาหลีเพราะนางเป็นหมอมีฝีมือ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคงไม่สะดวกจะรบกวนนาง” นางสนมพยักหน้าและกล่าวอย่างเสียดาย“มีเรื่องอะไรหรือ?” ฉู่กุ้ยเฟยถาม“หม่อมฉันเข้าวังมาปีกว่าแล้ว แต่ท้องของหม่อมฉันกลับไม่มีการเคลื่อนไหวเลย ไม่กี่เดือนก่อนพระชายาฉิงให้กำเนิดองค์ชาย หม่อมฉันจึงรู้สึกอิจฉามากน่ะเพคะ”“นอกจากนี้ แม้ว่าพระชายาฉิงจะได้รับการเลื่อนตำแหน่ง แต่สุขภาพของนางก็ไม่ดีขึ้นเลย ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หม่อมฉันเห็นนางไม่ถึงสองครั้งด้วยซ้ำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการรวมตัวพบปะตอนเช้าและตอนเย็นเลยเพคะ”นางสนมสูงอายุในชุดสีฟ้าน้ำทะเลคนหนึ่งกล่าวขึ้น“ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไปเยี่ยมพระชายาฉิง ร่างกายของนางดูอ่อนแอลงมากจริง ๆ แต่ก็มีการกำชับกับหมอหลวงให้ดูแลนางเป็นพิเศษแล้ว ช่วงนี้อากาศเริ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 471

    “เจ้ายังจำพระชายาฉิงผู้ที่เจ้าผ่าคลอดเพื่อช่วยลูกชายของนางเมื่อสองสามเดือนก่อนได้หรือไม่?”น้ำเสียงของฉู่กุ้ยเฟยนั้นอ่อนโยนเสมือนสายลมฤดูใบไม้ผลิที่พัดผ่านในเดือนเมษายน“จำได้เพคะ”“ช่วงนี้สุขภาพของนางย่ำแย่ลงมาก ถึงจะดื่มยาสมุนไพรแล้วก็ไม่เป็นผล ข้าเห็นนางแล้วก็รู้สึกสงสาร เช่นนั้นจึงอยากรบกวนซีเอ๋อร์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านการแพทย์ช่วยไปดูนางให้ข้าที”แม้ว่าศีรษะจะคลุมด้วยผ้าม่านสีแดงเข้มที่ปักลวดลายละเอียดอ่อนเช่นเมล็ดบัวและเถาวัลย์ แต่ก็ยังสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนแรงบนใบหน้าของฉู่กุ้ยเฟยฉู่เนี่ยนซีพยักหน้าและกุมนิ้วเรียวยาวของฉู่กุ้ยเฟยพลางกำชับขึ้นว่า “ท่านป้าอย่าทรงหักโหมมากเกินไป ท่านทรงตั้งครรภ์อยู่นะเพคะ”หลังจากพูดคุยกับฉู่กุ้ยเฟยอีกครู่ ฉู่เนี่ยนซีก็ให้ฉู่กุ้ยเฟยได้พักผ่อนหลังจากที่นางหลับไป ฉู่เนี่ยนซีก็ออกจากห้องบรรทม ก่อนจะเรียกเสี่ยวเถาและหยางเหอพร้อมกับบอกหยางเหอให้เฝ้าดูฉู่กุ้ยเฟยอย่างใกล้ชิด หากนางรู้สึกไม่สบายจะได้ตามหาคนได้ทันเวลาหยางเหอรับคำสั่ง และได้ยินว่าฉู่เนี่ยนซีต้องการไปเยี่ยมพระชายาฉิง เช่นนั้นจึงสั่งให้หวนเอ๋อร์นำทางไปที่นั่นจะได้ไม่หลงทางในสภาพอา

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 472

    พวกเขาทั้งสองเดินไปที่ประตูพระราชวัง เย่เหลียนก็เหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างมีความหมาย“ข้าจะไม่แตะต้องนาง”หลังจากพูดจบเย่เหลียนก็ขึ้นเกี้ยวไป ยามที่อยู่ด้านข้างลดม่านลง ก่อนจะพยักหน้าทำความเคารพเย่เฟยหลีแล้วจากไปเย่เฟยหลีขี่ม้าตัวสูงหันหลังให้กลุ่มคน เหลียงหยวนขี่ม้าตามมาที่ด้านข้างก่อนจะกระซิบเสียงต่ำ “ท่านอ๋อง กระหม่อมตรวจสอบแล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ฝีมือของท่านอ๋องเหลียนพ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่...”“อะไร?”ใบหน้าที่เย็นชาของเย่เฟยหลีไม่ได้ผ่อนคลาย คิ้วของเขาขมวดและดูเย่อหยิ่ง แต่รัศมีอันเยือกเย็นที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายของเขานั้นก็ทำให้เขาดูภูมิฐานมาก“ช่วงนี้ท่านอ๋องเหลียนไปมาหอการแพทย์บ่อยครั้ง เขาส่งของบางสิ่งไปเป็นครั้งคราว รวมถึงเงิน เครื่องประดับ และวัสดุยาล้ำค่า ส่วนหอการแพทย์ก็รับไว้ตามคำสั่งโดยไม่ปฏิเสธด้วยขอรับ” เหลียงหยวนพูดกับเย่เฟยหลีอย่างเป็นกังวล“ตรวจสอบอย่างละเอียด”“ขอรับ”ฉู่เนี่ยนซี เสี่ยวเถา และหวนเอ๋อร์มาถึงตำหนักเต๋อซิ่งของพระชายาฉิง เมื่อแม่นมที่รออยู่ด้านข้างเห็นฉู่เนี่ยนซีจึงรีบโค้งคำนับแล้วกล่าวกับนางว่า “น่าเสียดายที่พระชายาหลีเสด็จมาที่นี่เวลานี้ ตอนนี้

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 473

    นางกำนัลอาวุโสคนนั้นเป็นหญิงชราที่ฉลาด นางอธิบายเรื่องนี้อย่างชัดเจน และเห็นได้ชัดว่านางเป็นห่วงพระชายาฉิงจริง ๆฉู่เนี่ยนซีโน้มตัวไปข้างหน้าและจับแขนของนางไว้ เมื่อเสี่ยวเถาและหวนเอ๋อร์ที่อยู่ด้านข้างเห็นเช่นนั้นรีบพยุงนางกำนัลอาวุโสให้ลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นนางกำนัลอาวุโสร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้ม ฉู่เนี่ยนซีก็ทนไม่ไหว“วันนี้ที่ข้ามาที่นี่ก็เพราะคำขอจากฉู่กุ้ยเฟย ท่านป้าของข้า ท่านไม่ต้องกังวล ในเมื่อข้ามาที่นี่แล้ว ข้าก็จะพยายามรักษาพระชายาฉิงอย่างเต็มที่แน่นอน”“ขอบพระทัยพระชายามากเพคะ”นางกำนัลอาวุโสดีใจมาก ขณะที่กำลังปาดน้ำตาก็เห็นสาวใช้ตัวน้อยวิ่งเข้ามา“ทูลพระชายา ชายาฉิงทรงตื่นจากบรรทมแล้วเพคะ พอทราบว่าพระชายาเสด็จมาที่นี่ จึงสั่งให้บ่าวรีบเชิญพระชายาไปที่ตำหนักเพคะ”ทันทีที่ฉู่เนี่ยนซีเข้ามาในพระตำหนักนางก็รู้สึกถึงความร้อนไปทั่วร่างกาย ช่องมังกรดินในตำหนักร้อนแรงเป็นพิเศษ แต่พระชายาฉิงก็ยังวางอ่างถ่านเพิ่มอีกสองอ่างราวกับนางกลัวความหนาวนางเดินไปที่ข้างเตียงและมองพระชายาฉิงที่ครั้งหนึ่งเคยมีเนื้อหนัง แต่ตอนนี้กลับผอมแห้ง จนแม้แต่ชุดนอนก็ดูหลวมโพรกนางทักทายพระชายาฉิงก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 474

    หลังจากสั่งให้ทุกคนออกไปหมดแล้ว ฉู่เนี่ยนซีก็เปลื้องอาภรณ์ของพระชายาฉิงออก แล้วจึงหยิบเข็มเงินออกมาก่อนจะแทงไปที่จุดฝังเข็มต่าง ๆ บนร่างกายของนาง ฉู่เนี่ยนซีพุ่งความสนใจไปที่มันแต่ก็ไม่ได้ใช้ความพยายามมากนัก หลังจากรอประมาณสิบห้านาทีจึงดึงเข็มออกฉู่เนี่ยนซีจัดอาภรณ์ให้พระชายาฉิงและห่มผ้าห่มให้นางหลังจากยุ่งมาระยะหนึ่ง ประกอบกับความร้อนในห้อง ฉู่เนี่ยนซีก็รู้สึกว่ามีเหงื่อผุดขึ้นบนหลังของนางจนชุดชั้นในเปียกโชกนางใช้หลังมือเช็ดเหงื่อจากปลายจมูก และทันใดนั้นก็คิดขึ้นได้ว่าตอนที่นางถอดอาภรณ์ให้พระชายาฉิงนางไม่เห็นคราบเหงื่อบนร่างกายของชายาฉิงเลยนางอยู่ในเรือนที่ร้อนเช่นนี้โดยปิดประตูและหน้าต่างไว้อย่างแน่นหนาจนไม่มีลมเข้ามา แถมยังห่มผ้าห่มฤดูหนาวด้วย เหตุใดพระชายาฉิงถึงไม่รู้สึกร้อนกันล่ะ?ฉู่เนี่ยนซีระงับความสงสัยในใจและเรียกคนที่อยู่นอกประตูเข้ามาฉู่เนี่ยนซีพูดกับนางกำนัลอาวุโสว่า “พระชายาต้องพักผ่อน และสูดอากาศบริสุทธิ์แม้ในฤดูหนาว ทุกวันในยามที่แสงแดดร้อนที่สุดเจ้าจงเปิดหน้าต่างเพื่อรับลม ไม่ต้องนานนัก อีกเดี๋ยวข้าจะเขียนใบสั่งยาเพื่อให้พระชายามีกำลังวังชาขึ้น หลังอาหารกลางว

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 475

    “ตกลงเพคะ”ฉู่เนี่ยนซีรับปากและกำลังจะจากไป เมื่อดวงตาเหลือบไปเห็นอ่างถ่านที่กำลังลุกไหม้ทั้งสองอ่าง และกระแสไฟก็แวบเข้าไปในใจของนาง แต่กระแสไฟนั้นเร็วเกินไปและนางก็ไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรฉู่เนี่ยนซีขอให้หวนเอ๋อร์นำทางไปยังตำหนักขององค์ชาย ตลอดทางนางไม่พูดอะไรเลย และเอาแต่ขบคิดว่าเหตุใดพระชายาฉิงถึงได้ป่วยหนักเช่นนั้น แสงแดดจ้าตกกระทบคิ้วอันงดงามและละเอียดอ่อนทำให้ดวงตาของนางชัดเจนยิ่งขึ้นเสี่ยวเถาเรียกนางเบา ๆ จากด้านข้าง “พระชายาเพคะ”ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้าขึ้นเพื่อตอบรับ จากนั้นก็เห็นเย่เฟยลี่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยความดื้อรั้นและความเยือกเย็นกำลังเอนกายอยู่ใต้ต้นไม้ ดวงตาที่ลุกเป็นไฟของเขาจ้องมาที่นางเท่านั้น เสี่ยวเถาและหวนเอ๋อร์ทำความเคารพเย่เฟยหลีแล้วก้าวออกไปอย่างรวดเร็ว เย่เฟยหลีเกี่ยวมือนางไว้ แต่ฉู่เนี่ยนซียืนอยู่กับที่และมองดูเขาด้วยรอยยิ้มที่นุ่มนวลและอบอุ่น เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยืนขึ้นข้างหน้าฉู่เนี่ยนซี“ท่านมาที่นี่ทำไม?” ฉู่เนี่ยนซีถามขณะมองไปที่ดวงตาที่เหมือนสระน้ำของเย่เฟยหลีเย่เฟยหลีจับนิ้วสีขาวบาง ๆ ของฉู่เหนียนซี สัมผัสถึงความกังวลและความทุกข์ระหว่างคิ้วของเ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 476

    ฉู่เนี่ยนซีเงยหน้าขึ้นมองแล้วเดินไปที่โต๊ะ ชามน้ำมีช้อนเล็ก ๆ วางอยู่ในนั้น คาดว่าน่าจะเอาไว้ป้อนเด็กฉู่เนี่ยนซีเหยียดนิ้วก่อนจะจุ่มลงไป อุณหภูมิของน้ำเย็นทะลุเลือดผ่านปลายนิ้วกระทบหัวใจของนางทันที นางเหยียดนิ้วออกและเลียหยดน้ำ ก่อนที่ดวงตาที่สวยงามของนางจะเปล่งประกายไฟนางอุ้มเด็กขึ้นมาและไม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวใด ๆ ของเขา“เสี่ยวเถา ถือชามน้ำนั้นไว้”“เพคะ”ฉู่เนี่ยนซีอุ้มเด็กไว้ก่อนจะห่อเขาในผ้าห่มผืนเล็กอย่างแน่นหนา และเดินเข้าไปหานางกำนัลอาวุโสสองคนนั้นด้วยความโกรธ ดวงตาของนางเย็นชาและดุร้าย“พวกเจ้าป้อนยาขับเหงื่อให้เด็กเล็กแค่นี้อย่างนั้นรึ ช่างกล้ายิ่งนัก!”เย่เฟยหลีมองทารกในอ้อมแขนของนางด้วยความประหลาดใจ โดยกังวลอาการบาดเจ็บของแขนนาง จึงรับเด็กทารกมาไว้ในอ้อมแขนของเขาแทน ทารกไม่ร้องไห้หรือเอะอะโวยวาย และดูเหมือนไร้ความรู้สึก นางกำนัลอาวุโสทั้งสองมองหน้ากัน คนหนึ่งถลึงตาใส่อีกฝ่ายอย่างตำหนิ แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พระชายาอาจไม่ทราบ องค์ชายแปดเอาแต่ร้องไห้ บ่าวจึงรู้สึกสงสารมาก กลัวว่าพระองค์จะร้องไห้จนเสียสุขภาพ จึงได้ป้อนยาให้กับองค์ชายเพียงเล็กน้อยพอให้องค์ชายแปดได้

Latest chapter

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 550

    เมื่อได้ยินดังนั้น ฉู่เนี่ยนซีจึงฟาดไปที่ไหล่ของเขาหนึ่งที พลางมองดูสีหน้าเจ็บปวดของอีกฝ่าย “เช่นนั้นท่านก็ถอดเสื้อออก ข้าจะดูแผลให้”เดิมทีไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อเห็นเย่เฟยหลีถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นตรงหน้า ฉู่เนี่ยนซีก็หันหน้าหนีด้วยความเขินอาย แม้ว่าเขาจะทำอย่างองอาจ แต่ก็ยังทำให้นางอายจนต้องเบือนหน้าหนี“เสร็จแล้ว”ฉู่เนี่ยนซีหันกลับมาจับแผ่นหลังกว้างของเย่เฟยหลีไว้ แต่นางก็ไม่เขินอายอีกต่อไป เพราะร่องรอยบาดแผลจากการสู้รบในอดีตทำให้ใจของนางสั่นสะท้านนางค่อย ๆ แกะผ้าพันแผลออกทีละชั้น เมื่อแกะชั้นสุดท้าย เย่เฟยหลีก็ทนต่อความเจ็บปวดจนตัวสั่นฉู่เนี่ยนซีรีบโรยผงยาลงบนผ้าผ้าพันแผลทันที ซึ่งไม่เพียงแต่บรรเทาความเจ็บปวดของเย่เฟยหลีเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปลดผ้าพันแผลออกได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผงยานำความเย็นแพร่ไปตามบาดแผลทั่วทั้งแผ่นหลัง เย่เฟยหลีจึงคลายคิ้วที่ขมวดอยู่ช้าๆฉู่เนี่ยนซีมองไปยังบาดแผลไฟไหม้ที่สภาพดูไม่ได้“นอนลงบนเตียง ข้าจะทายาให้ท่านใหม่”“ได้”เย่เฟยหลีทำตามอย่างเชื่อฟัง เขาคว่ำตัวเหยียดยาวอยู่บนเตียงฉู่เนี่ยนซีโรยผงยาอีกขวดบนแผลให้เสมอกัน ผงยานี้ให้ผลลัพธ์ที่น่าอัศจรรย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 549

    ซุนจื่อซีที่อยู่ข้าง ๆ ไทเฮา ครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ท่านป้า เนื่องด้วยจื่อซีและพระชายาหลีอยู่ด้วยกันมาระยะหนึ่งแล้วจึงได้รู้ว่าหากตระกูลไม่มีการอบรมสั่งสอนที่เข้มงวด พวกเขาก็จะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรีให้เติบโตมาอย่างดีเช่นนี้ได้ ฉู่กุ้ยเฟยต้องถูกใส่ร้ายแน่นอนเพคะ ได้โปรดทรงอย่าปล่อยให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดอย่างไม่เป็นธรรมเลยนะเพคะ”องค์จักรพรรดิคิดว่าเขาไม่สามารถลงโทษสนมไป๋ได้เพียงเพราะการคาดเดาของหยางเหอ แต่สนมไป๋ ล่วงเกินฉู่กุ้ยเฟยซ้ำแล้วซ้ำเล่า ซึ่งนั่นเป็นความจริงที่แน่ชัด จึงมีรับสั่งให้สนมไป๋ถูกปรับเงินเดือนครึ่งปีและถูกกักบริเวณในตำหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือน และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกไปข้างนอกโดยพลการองค์จักรพรรดิมีรับสั่งให้เย่เหลียนและเย่เฟยหลีสืบเรื่องนี้ด้วยกัน หลังจากเหตุการณ์เลวร้ายพ้นผ่าน งานเลี้ยงในพระราชวังก็สูญเสียบรรยากาศที่สนุกสนานไป องค์จักรพรรดิทรงกังวลว่าไทเฮาจะทรงหวาดกลัว จึงประคองไทเฮาเสด็จกลับไปยังพระตำหนักอันชิ่งเพื่อพักผ่อนทุกคนที่หมดสนุกแล้วจึงหยุดทุกอย่างและรีบพากันกลับจวนช่องว่างเล็ก ๆ ของหน้าต่างหน้าต่างสีแดงลายมังกรถูกปิดลงอย่างเงียบ ๆ อย่างไม่มีใครสังเกตเผย

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 548

    ฉู่เนี่ยนซีมาอยู่ข้างกายฉู่กุ้ยเฟยร่วมกับหยางเหอ หลังจากจับชีพจรและตรวจดูให้แน่ใจว่านางไม่เป็นอะไรแล้ว ก็สั่งให้คนรับใช้นำเบาะขนห่านมาวางไว้ด้านหลังฉู่กุ้ยเฟยหยางเหอดูเหมือนจะมีอะไรจะพูด แต่นางก็ไม่กล้าพูด ทว่าเมื่อเห็นฉู่กุ้ยเฟยเอนตัวอยู่บนเก้าอี้ หัวใจของนางก็เต้นรัวและสุดท้ายนางก็ลุกขึ้นยืนทันใดนั้นสายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่หยางเหอ นางหายใจเข้าลึก ๆ พลางมองตรงไปที่องค์จักรพรรดิ“โปรดทรงอภัยในความอวดดีของหม่อมฉัน แต่หม่อมฉันไม่สามารถทนเห็นกุ้ยเฟยถูกกล่าวหาอย่างผิด ๆ เช่นนี้ได้ แม้จะเสี่ยงต่อการถูกบั่นหัว แต่หม่อมฉันก็ต้องพูดอะไรบางอย่างเพคะ”“เกิดอะไรขึ้น?”องค์จักรพรรดิทรงโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยและหรี่ตามองไปยังหยางเหอที่กำลังคุกเข่าด้วยใบหน้าแห่งความยุติธรรม“สนมไป๋ที่เข้ามาใหม่ไม่มีความเคารพต่อกุ้ยเฟยเลย เมื่อใดก็ตามที่ได้พบกับกุ้ยเฟย นางมักจะใช้คำพูดที่แฝงเป็นนัยเสียดสีอยู่เสมอ ไม่ก็สาปแช่งให้กุ้ยเฟยรักษาพระโอรสไว้ไม่ได้หรือไม่ก็เสียดสีว่ากุ้ยเฟยไม่คู่ควรกับตำแหน่งสูง กุ้ยเฟยไม่ต้องการโต้เถียงกับสนมไป๋จึงลืมมันไปทุกครั้งเพคะ”“สาวใช้ต่ำช้า กล้าพูดจาว่าร้ายข้าอย่างนั้นห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 547

    เย่เฟยหลีอาศัยโอกาสนี้จับมือนาง รู้สึกดีกับการตรวจดูอย่างละเอียดของอีกฝ่ายพลางพูดเสียงอ่อน “ข้าไม่เป็นไร แค่เป็นแผลนิดหน่อย หมอหลวงจ่ายยาให้ข้าเรียบร้อยแล้ว”“เจ้ามาดูสิ นี่มันคืออะไร?”เย่เฟยหลีพาฉู่เนี่ยนซีไปยังจุดที่เพิ่งเกิดเพลิงไหม้ พื้นถูกไฟไหม้และมีรอยดำเต็มไปหมด เก้าอี้เอียงตะแคงโดยมีขาหักไปฉู่เนี่ยนซีนั่งยอง ๆ พลางใช้นิ้วชี้ขวาสัมผัสพื้น จากนั้นยกมาที่ปลายจมูกสูดดมเบาๆ ก่อนพูดด้วยความตกใจ “มันคือดินปืน แต่ไม่ใช่ดินปืนบริสุทธิ์ มันจึงไม่ทำให้เกิดการระเบิด แค่ติดไฟเร็วเท่านั้น”“ใช่ มีคนโปรยดินปืนประเภทนี้ไว้ตั้งแต่แรก แต่ท้องฟ้ามืดจนมองไม่เห็น คนจึงคิดว่ามันดูเหมือนฝุ่นกรวดทั่วไป”เย่เฟยหลีเหยียดแขนออกไปประคองให้ฉู่เนี่ยนซียืนขึ้นฉู่เนี่ยนซีขึ้นไปที่ลานถงฮวาอีกครั้งและมองไปที่เครื่องมือที่ฉู่กุ้ยเฟยใช้ในการจุดไฟ มันปนเปื้อนด้วยเศษสะเก็ดไฟบางส่วน แม้จะเผาไหม้ได้ แต่มันก็อยู่ได้ไม่นานและเปลวไฟก็ไม่ลุกลามมากเท่ากับดินปืนโดยทั่วไปนางยืนอยู่บนลานพลางมองไปที่เย่เฟยหลี ดวงตาของนางก็ค่อย ๆ ดูน่ากลัวมากขึ้น น้ำเสียงของนางก็เยือกเย็นลงตามลมหนาว“รู้หรือไม่ว่าใครมาที่นี่บ้างก่อ

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 546

    เหล่าขันทีและนางกำนัลที่รีบรุดมาพร้อมกับอ่างน้ำเย็น นำมาราดลงบนเปลวไฟที่อยู่บริเวณรอบ ๆ องค์จักรพรรดิและเย่เฟยหลี ทำให้เกิดเสียงน้ำสาดกระเซ็นเย่เฟยหลีไม่รู้สึกถึงความรู้สึกแสบร้อนที่แผ่นหลัง เขาจึงประคององค์จักรพรรดิลุกขึ้นยืนไทเฮาถูกนางกำนัลอาวุโสซิวเหลียงประคองมา ทว่าพระนางยังไม่หายตกใจ องค์จักรพรรดิทอดพระเนตรเห็นคิ้วคมเข้มของเย่เฟยหลีที่ขมวดเล็กน้อยเพราะความเจ็บปวด จึงทอดพระเนตรมองไปยังแผ่นหลังของเขา พบว่าอาภรณ์สีดำของเขาถูกไฟไหม้เป็นวงกว้าง และร่างกายที่แข็งแกร่งของเขาถูกเปลวเพลิงเผาจนเป็นสีแดงเข้ม เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลยิ่งเพิ่มความเจ็บปวดขึ้นไปอีก“ฝ่าบาท” ฉู่กุ้ยเฟยเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบคุกเข่าคำนับด้วยความตื่นตระหนกเย่เหลียนตะโกนทันที “ฉู่กุ้ยเฟย นี่ท่านคิดลอบปลงพระชนม์หรือ? ท่านจงใจล่อลวงทุกคนมาที่นี่เพื่อวางแผนลอบปลงพระชนม์เสด็จพ่อหรือ เอาคนมา จับฉู่กุ้ยเฟยไว้!”“ฝ่าบาท หม่อมฉันไม่ได้ทำ! หม่อมฉันไม่มีทางทำเช่นนั้นเด็ดขาด! ขอฝ่าบาทโปรดทรงพิจารณาด้วยเพคะ!”เมื่อเห็นเหล่าราชองครักษ์ในชุดเกราะเข้ามาใกล้ ฉู่กุ้ยเฟยก็ตะโกนทูลต่อองค์จักรพรรดิด้วยความตื่นกลัว“โอหัง!

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 545

    ทุกคนเดินไปที่ลานถงฮวาและเห็นว่ามีโต๊ะและเก้าอี้ตั้งอยู่ด้านล่าง อีกทั้งยังมีน้ำชากับผลไม้ที่จัดอย่างประณีตวางไว้ด้วยบนเวทีมีเสาไม้ห้าต้นสูงประมาณหกศอก ติดตั้งล้อมรอบมุมทั้งสี่และด้านบนตรงกลาง เสาไม้ทั้งหมดนั้นถูกพันด้วยเชือกหากมองลงมาจากหลังคาตำหนักที่อยู่ใกล้ ๆ จะรู้สึกว่าเชือกนั้นเปรียบเสมือนใยแมงมุมขนาดใหญ่ที่ปกคลุมเสาไม้ไว้แม้องค์จักรพรรดิจะทรงสับสน แต่พระองค์ก็ไม่ได้ตรัสถามอะไรมากนัก เพียงแค่ทรงยิ้มมุมปากแล้วตรัสกับไทเฮา “ดูเหมือนว่าฉู่กุ้ยเฟยจะมีอะไรใหม่ ๆ มานำเสนอ เสด็จแม่ทรงนั่งลงก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”เหล่าขันทีและนางกำนัลมาช่วยบรรดาผู้เป็นนายหาที่นั่งเพื่อไม่ให้ทุกคนพากันสับสนวุ่นวายนางกำนัลผู้น้อยจัดให้เย่เฟยหลีและฉู่เนี่ยนซีนั่งด้วยกันที่ฝั่งหนึ่ง ทว่ายังไม่ทันจะได้นั่งลง ก็เห็นหลานชุ่ยที่อยู่ข้าง ๆ เย่หลิงเอ๋อร์เดินมาเชิญฉู่เนี่ยนซีไปพูดคุยหลานชุ่ยมาเชิญนางด้วยตนเอง คงจะไม่มีเรื่องหลอกลวง ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่เฟยหลีอย่างสบายใจ หลังจากทำความเคารพองค์จักรพรรดิและไทเฮา นางก็ตามหลานชุ่ยไปทันใดนั้น ลานถงฮวาก็สว่างขึ้นมาก ทุกคนเงยหน้าเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวเจ็ดแปดขวบห

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 544

    “ไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ให้นางอยู่ด้วยกันต่อไปเถอะ ช่วงนี้เราเข้ากันได้ดี นางอ่อนโยน มีน้ำใจและใฝ่เรียนใฝ่รู้ ข้าชอบนางมาก ดีที่มีนางอยู่ที่จวนแห่งนี้ ข้าจึงคลายความเบื่อลงไปได้บ้าง”สิ่งที่ฉู่เนี่ยนซีพูดนั้นเป็นความจริง ตอนแรกนางสงสัยในเจตนาของซุนจื่อซีที่ช่วยนางจากการตกน้ำ แต่ตอนที่นางตกจากรถม้า ซุนจื่อซีกลับไม่ห่วงตนเองและเอาตัวมารองรับนางไว้ ช่างเป็นสตรีที่จิตใจงามอย่างแท้จริงทันใดนั้น ท้องฟ้าก็สว่างไสวไปด้วยดอกไม้ไฟ ส่องแสงไปทั่วทุกสารทิศ ราวกับแสงสว่างของรุ่งอรุณส่องขึ้นมาจากความมืดมิดประกายแสงนั้นส่องสว่างราวกับหมู่ดาวที่โอบล้อมภูเขาและแม่น้ำอันกว้างใหญ่ที่กระแสน้ำเชี่ยวกราก รวมไปถึงป่าอันงดงามและที่ราบอันไร้ขอบเขต ทำให้ความขุ่นข้องในใจของคนสองคนจางลง และคนทั้งคู่ก็ยังได้มองดูความยิ่งใหญ่ที่พร่างพราวนี้ไปด้วยกันณ พระตำหนักเจาฮุย ซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอย่างงดงามดุจนางสวรรค์ หลังจากการแสดงสิ้นสุดลง ผู้คนในโถงยังคงตกอยู่ในภวังค์องค์จักรพรรดิทรงปรบมือใหญ่แล้วหันไปหาไทเฮาพร้อมรอยยิ้ม “ทักษะการร่ายรำของจื่อซีดีขึ้นเรื่อย ๆ ดูเหมือนว่านางจะฝึกฝนอย่างหนักและลำบากไม่น้อย เป็นเสด็จแม่

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 543

    ดวงจันทร์ในค่ำคืนนี้ถูกบดบังด้วยเมฆหนาทึบ จนแทบมองเห็นแสงสว่าง เช่นนี้เขาเห็นดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่สุดที่ว่านั่นจากที่ใดกัน?“ท่านอ๋องชื่นชมดวงจันทร์ได้อย่างไรหรือ?”ฉู่เนี่ยนซีมองดูแสงสีเหลืองจาง ๆ ที่ขอบฟ้านั้น อย่างกับมันถูกขัดถูจนไร้ซึ่งความแวววาวเย่เฟยหลีทัดผมฉู่เนี่ยนซีไว้ข้างหลังใบหูของนาง พลางพูดด้วยเสียงอ่อนโยน “เพราะดวงจันทร์ที่สุกสกาวที่ว่านี้ไม่ใช่ดวงจันทร์ดวงนั้น”ฉู่เนี่ยนซีหันมาสบตาที่เป็นประกายของเย่เฟยหลี มือที่ค้างเติ่งในตอนแรกเลื่อนมาตรงแก้มของนาง เย่เฟยหลีรู้สึกได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมายังฝ่ามือ เขาคลี่ยิ้มออกมาเพราะรู้ว่าฉู่เนี่ยนซีกำลังเขินอาย“ข้าได้ยินจากน้องเจ็ดว่าเจ้าคิดว่าซุนจื่อซีกับข้าเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมากหรือ?”เย่เฟยหลีดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน หางตาของเขาเห็นท่าทางหงุดหงิดของฉู่เนี่ยนซีพลางคิดว่าช่างน่าสนุกฉู่เนี่ยนซีแอบด่าทอเย่ฉงเฉิงในใจว่าเป็นคนที่ไม่น่าเชื่อถือ นางพูดความในใจออกไปเพียงนิดเดียวเขาก็นำไปบอกเจ้าตัวในพริบตาเสียอย่างนั้น“ก็คิดบ้าง เป็นบางครั้ง”ฉู่เนี่ยนซีกะพริบตาและพยายามอย่างมากเพื่อรักษาท่าทางสงบนิ่งอย่างเคย นางไม่สามารถปฏิเส

  • องค์ชายหลีกับชายาลี้รัก   บทที่ 542

    เย่เฟยหลีเหลือบมองอีกฝ่าย “เจ้าว่าเจ้ารู้จักข้าดีที่สุดไม่ใช่หรือ?”“แต่พี่สะใภ้สามไม่รู้จักท่านดีเท่าข้า หากมีเรื่องเข้าใจผิดกันก็ควรรีบแก้ไขเสียดีกว่า ไม่อย่างนั้นข้าก็ช่วยท่านไม่ได้”เมื่อได้ยินเสียงดนตรีดังมาจากพระตำหนักเจาฮุย เขาก็รู้ได้ทันทีว่างานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว เย่เฟยหลีจึงให้เย่ฉงเฉิง เรียกฉู่เนี่ยนซีมาที่นี่เพราะเขามีเรื่องจะพูดกับนางเย่ฉงเฉิงรับคำสั่งแล้วจากไป ทันทีที่เขาเข้าไปในห้องจัดงาน เขาก็เห็นซุนจื่อซีกำลังร่ายรำอยู่อย่างอ่อนช้อย นางอยู่ในชุดกระโปรงสีแดงราวกับดอกเหมยที่กำลังบานสะพรั่งอยู่ท่ามกลางหิมะขาว ส่งกลิ่นหอมฟุ้งเขาหันไปด้านข้างและกระซิบกับฉู่เนี่ยนซี “พี่สะใภ้สาม พี่สามกำลังรอท่านอยู่ไม่ไกลจากทางเหนือของ พระตำหนักเจาฮุย ท่านรีบไปเถิด”ฉู่เนี่ยนซีเหลือบมองเย่ฉงเฉิงอย่างสงสัยและบอกให้เสี่ยวเถารออยู่ที่นี่ หากใครถามหาก็บอกว่านางออกไปเดินรับลมข้างนอกให้สร่างเมาในห้องจัดงาน ซุนจื่อซีออกท่วงท่าราวกับต้นหลิวที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขาอย่างเพลินใจ ชายแขนเสื้อในมือของนางกระพือเบา ๆ แขนเรียวยาวใต้เสื้อคดเคี้ยวราวกับดอกบ๊วยแดงที่ล่องลอยในอากาศแต่ไม่ว่านางจะพย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status