นางเพิ่งเคยประจักษ์ถึงสมรภูมิที่อันตรายยิ่งกว่าแนวหน้าเป็นครั้งแรก ริมฝีปากคือทวน ลิ้นคือกระบี่ ไม่ต้องใช้ดาบหรือทวนแม้แต่เล่มเดียว แต่ทั่วทั้งท้องพระโรงกลับเต็มไปด้วยเงาคมดาบประกายกระบี่ เพียงลมปาก ก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของคนผู้หนึ่งได้ องค์หญิงใหญ่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินต้องตายอย่างแน่นอน ข้อกล่าวหาเหล่านี้ของนาง เขาไม่มีช่องทางใดจะโต้แย้งได้! หลี่หลงหลินค่อยๆ ยืนขึ้น แย้มยิ้มเล็กน้อย: “ใครบอกว่าซีเหลียงอ๋องสิ้นชีพแล้ว?” ทั่วทั้งลานเกิดเสียงฮือฮา ขุนนางทั้งบุ๋นทั้งบู๊ล้วนมองไปยังหลี่หลงหลินด้วยความเหลือเชื่อ องค์หญิงใหญ่ตวาด: “หลี่หลงหลิน! หรือเจ้ายังคิดจะแก้ตัวอีก เจ้าช่างไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่ชนกำแพงใต้ไม่หันหลังกลับจริงๆ!” “หากเจ้ารีบยอมรับผิดโดยเร็ว บางทีอาจจะยังเหลือร่างที่สมบูรณ์ไว้ให้เจ้า หากยังดิ้นรนต่อสู้จนตัวตายต่อไป มีแต่จะทำให้เจ้าตายอย่างน่าอนาถยิ่งกว่าเดิม” องค์หญิงใหญ่กอดอก ยิ้มอย่างลำพองใจอย่างมาก นางไม่คิดว่าหลี่หลงหลินจะมีโอกาสใดๆ พลิกจากแพ้เป็นชนะได้ หลี่หลงหลินส่ายหน้า แล้วเอ่ยว่า: “องค์หญิงใหญ
จิตใจขององค์หญิงใหญ่สับสน ว้าวุ่น แววตาหลุกหลิก “หรือว่าองค์ชายสามจะยังไม่ตายจริงๆ?” หากหลี่เฟิงอวิ๋นยังมีชีวิตอยู่ แล้วเหตุใดซีเหลียงจึงมีข่าวการก่อกบฏส่งมาเล่า? ประกายแสงวาบขึ้นในดวงตาขององค์หญิงใหญ่ ไม่มีลม คลื่นย่อมไม่เกิด นางพลันมีกำลังใจขึ้นมาทันที “เสด็จพ่อ ตามที่ลูกเห็น บัดนี้สถานการณ์ชัดเจนมาก การที่องค์รัชทายาทก่อกวนอย่างไร้เหตุผลอยู่ที่นี้ไม่ได้มีความหมายใดอีกต่อไป” “เรื่องการก่อกบฏที่ซีเหลียงเป็นที่แน่นอนแล้ว หากเสด็จพ่อไม่ทรงเชื่อ ก็ทรงนำทัพออกศึกไปยังซีเหลียงด้วยพระองค์เอง แล้วดูว่าคำพูดของลูกเป็นความจริงหรือไม่!” “หากองค์ชายสามไม่ได้สิ้นชีพ แล้วเหตุใดจึงมีข่าวการก่อกบฏที่ซีเหลียงส่งมาเล่า?” “องค์รัชทายาท เรื่องนี้ท่านจะอธิบายว่าอย่างไร!” หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย เหล่าขุนนางร้อยกรมพลันตื่นจากภวังค์ เมื่อครู่เกือบจะถูกหลี่หลงหลินหลอกล่อเข้าแล้ว หากองค์ชายสามยังมีชีวิตอยู่ แล้วเหตุใดจะเฝ้ามองซีเหลียงก่อกบฏ นั่งดูเฉยๆโดยไม่ทำอะไรได้เล่า? ฮ่องเต้หวู่ครุ่นคิดเล็กน้อย แล้วพยักหน้า ตรรกะขององค์หญิงใหญ่ก็ไม่ได้มีปัญหาใหญ่อะไรนัก อย่างน้อยในตอนน
“หากเขาพูดไม่ออก ก็แสดงว่ามีความผิดติดตัว!” ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า องค์ชายสามถูกหลี่หลงหลินพาตัวไปจริงๆ หลังจากนั้น ก็ไม่มีข่าวคราวขององค์ชายสามอีกเลย ฮ่องเต้หวู่เอ่ยเสียงเข้ม: “รัชทายาท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ ข้าต้องการฟังข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากปากของเจ้า” หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย เหตุผลที่เขายังไม่ลงสนามก่อนหน้านี้นั้นง่ายมาก ฟ้าพิโรธย่อมมีฝนตก คนโอหังย่อมมีภัย! หลี่หลงหลินต้องการบีบให้องค์หญิงใหญ่เผยแผนสำรองทั้งหมดออกมา มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถถอนรากถอนโคนนางได้ ดูเหมือนว่า บัดนี้เวลาได้มาถึงแล้ว หลี่หลงหลินแย้มยิ้มเล็กน้อย: “เสด็จพ่อ คืนนั้นหลังจากองค์ชายสามที่หมดสติกลับมาถึงจวนตระกูลซูพร้อมกับลูกแล้ว ลูกได้ใช้ฝีมือทางการแพทย์เล็กน้อย ทำให้เขาฟื้นคืนสติขึ้นมา” “อะไรนะ?” องค์หญิงใหญ่ยืนตะลึงอยู่กับที่ นางเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นมาอย่างกะทันหัน ฮ่องเต้หวู่ค่อยๆ ขยับพระวรกายประทับนั่งตรง: “แล้วอย่างไรต่อ?” หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเข้ม: “องค์ชายสามได้อธิบายเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในตำหนักเฟิ่งซีให้ลูกฟังอย่างละเอียดชัดเจน” “เป็นองค์ห
ทุกคนในที่นั้นต่างฮือฮา ฮ่องเต้หวู่ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึง: “เจ้าบอกว่าซีเหลียงอ๋องปราบกบฏแล้วรึ?” หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเข้ม: “ใช่พ่ะย่ะค่ะ เพียงแต่ลูกไม่ทราบรายละเอียดของเรื่องนี้ หากเสด็จพ่อทรงต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม เกรงว่าคงต้องรอให้ซีเหลียงอ๋องเข้าเฝ้าครั้งต่อไป” หลี่หลงหลินมองไปยังองค์หญิงใหญ่ มือถือรายงานศึกที่มีตราประทับของซีเหลียงอ๋อง เอ่ยเสียงเย็นชา: “องค์หญิงใหญ่ ในเมื่อท่านต้องการให้ข้าแสดงหลักฐานพิสูจน์ว่าซีเหลียงอ๋องยังมีชีวิตอยู่ นี่เพียงพอหรือไม่?” องค์หญิงใหญ่พูดไม่ออก สีหน้าสับสนงุนงง นางคิดคำนวณนับพันนับหมื่นครั้ง ก็ไม่เคยคำนวณได้ว่าตนเองกระโดดลงไปในกับดักของหลี่หลงหลิน ถูกเขาปั่นหัวจนหมุนไปหมด องค์หญิงใหญ่เอ่ยเสียงเข้ม: “ต่อให้องค์ชายสามยังมีชีวิตอยู่แล้วจะอย่างไรเล่า ก็แค่พิสูจน์ว่าเจ้ามิได้ลงมือกับเขา!” “แต่เรื่องการก่อกบฏที่ซีเหลียง เจ้าจะอธิบายว่าอย่างไร! อย่างไรเสียเรื่องที่ซีเหลียงอ๋องเข้าเมืองหลวงก็เป็นเจ้าที่ทูลขอต่อเสด็จพ่อ! เรื่องนี้ยังไงก็ต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าใช่หรือไม่!” องค์หญิงใหญ่เห็นแผนการของตนถูกเปิดโปง ร
หลี่หลงหลินพูดเสียงเครียด “หากเสด็จพ่อไม่เชื่อ ในมือลูกยังมีจดหมายรักลับ ๆ ที่ส่งมาจากซีเหลียง เชิญเสด็จพ่อผ่านตาพ่ะย่ะค่ะ”หลี่หลงหลินยื่นจดหมายลับส่งให้ฮ่องเต้หวู่สายตาฮ่องเต้หวู่กวาดมองจดหมายลับใบหน้าองค์หญิงใหญ่หมดอาลัยตายอยาก นางคิดไม่ถึงเลยว่าของขวัญใหญ่ที่หลี่หลงหลินมอบให้จะเป็นความตกตะลึงระคนประหลาดใจเช่นนี้!นางรู้สึกคล้ายถูกภูเขาทับร่างของตนก็มิปานทันใดนั้นหายใจไม่ออกอยู่บ้างพึ่บ!ขาสองข้างขององค์หญิงใหญ่อ่อนแรง ทรุดนั่งลงบนพื้น ใบหน้าไร้สีเลือดหลี่หลงหลินพูดเสียงเครียด “เสด็จพ่อโปรดตัดสินแทนลูกด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”สีหน้าฮ่องเต้หวู่แข็งทื่อดุจเหล็กเทียบกับตอนได้รู้ว่าหลี่หลงหลินไม่มีความผิด ตอนนี้ใบหน้าของเขาไม่สบอารมณ์จนน่ากลัว!นั่นเพราะมือมืดที่เกี่ยวข้องกับเบื้องหลังของเรื่องนี้ก็คือ...ฮองเฮาหลู่!ฮ่องเต้หวู่ไม่พูดจา นั่งบนที่สูงภายในท้องพระโรง พิโรธโกรธา รัศมีน่าเกรงขามแผ่ออกจากกาย“ขอฝ่าบาททรงพระเจริญหมื่นปีหมื่นหมื่นปี!”ขุนนางในราชสำนักไม่อาจทนต่อแรงกดดันนี้ได้ รีบก้มตัวทำความเคารพอย่างเต็มพิธีการภายในท้องพระโรงอันกว้างใหญ่เงียบสงัดถึงขั้นสามารถได้ยิน
ห้องทรงพระอักษรแสงจันทร์สว่างไสวภายนอกหน้าต่าง ลมหนาวพัดผ่านอย่างเงียบงันแสงจันทร์สายหนึ่งสะท้อนผ่านหน้าต่างกระทบใบหน้าฮ่องเต้หวู่ฮ่องเต้หวู่ยกจอกสุรา ดื่มสุราเข้มๆ ในจอกรวดเดียวจนหมด!เดิมทีวันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทบัดนี้สมควรเริ่มงานเลี้ยงต้อนรับญาติมิตร มีความสุขกันทั่วแคว้น!แต่ตอนนี้มีเพียงฮ่องเต้หวู่กำลังดื่มสุราเว่ยซวินยืนเงียบงันอยู่ข้างกาย ไม่กล้ากระทั่งหายใจแรงแต่ลงท้ายเขายังไม่อาจอดทนไหว สืบเท้าขึ้นมาข้างหน้า “ฝ่าบาท พระวรกายสำคัญยิ่ง ท่านดื่มลงไปเช่นนี้จะส่งผลต่อร่างกายเอาได้พ่ะย่ะค่ะ!”เว่ยซวินเป็นสหายข้างกายฮ่องเต้หวู่มานานหลายปี ไม่เคยเห็นเขาทุกข์ใจเช่นนี้มาก่อนสามารถมองออกได้ว่าเรื่องซีเหลียงในครั้งนี้เพียงพอให้เขารู้สึกทุกข์ใจอย่างมากภายในใจฮ่องเต้หวู่พูดเสียงเย็นชา “เว่ยซวิน เราถามเจ้า! หากเจ้าเป็นเรา เจ้าจะจัดการคนทรยศเยี่ยงไร?”แม้ว่าเว่ยซวินไม่รู้ว่ารายงานการศึกที่หลี่หลงหลินมอบขึ้นมาพูดว่าอะไรแต่เขาอยู่ในราชสำนักมานานหลายปี สัญชาตญาณที่สมควรมีก็ยังมีอยู่เว่ยซวินคุกเข่าบนพื้น หมอบตัวแนบพื้น “ฝ่าบาท กระหม่อมจะสามารถเทียบกับฝ่าบาทท่านได้
ฮ่องเต้หวู่เข้าใจอย่างลึกซึ้ง หากยังไม่จัดการเรื่องนี้ภายภาคหน้าจะต้องเกิดปัญหาใหญ่ตามมาอย่างแน่นอน!จู่ๆ สายตาองค์หญิงใหญ่ก็ตกลงบนลายพระนามของฮองเฮาหลู่ ไหวพริบทำงานในทันใดคล้ายหญ้าช่วยชีวิตกำลังพลิ้วไหวอยู่เบื้องหน้า“เสด็จพ่อ! ลูกถูกปรักปรำเพคะ!”“ปรักปรำ? ล้วนมาถึงขั้นนี้แล้วเจ้ายังแก้ตัว ข้าว่าเจ้าไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่เจอทางตันก็ไม่คิดหันหลังกลับ!”องค์หญิงใหญ่ยกจดหมายลับตัวสั่นเทา พูดว่า “เสด็จพ่อ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนของเสด็จแม่ ไม่เกี่ยวอันใดกับลูกเพคะ!”“อะไรนะ?”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วองค์หญิงใหญ่อธิบายต่อ “ลูกออกไปเป็นทูตมานานหลายปี ต่อให้มีความสามารถยิ่งใหญ่ ก็ไม่สามารถสมคบคิดกับรองแม่ทัพโจวทงแห่งซีเหลียงได้ ลูกโจมตีหลี่หลงหลินในราชสำนัก ก็เพื่อระบายโทสะให้องค์ชายสามเท่านั้น”“แต่คิดไม่ถึงเลยว่า...”องค์หญิงใหญ่บีบน้ำตาออกมาสองสาย พูดพลางสะอื้นไห้ “แต่คิดไม่ถึงเลยว่าลูกจะถูกเสด็จแม่หลอกใช้...”“นี่ล้วนเป็นแผนของเสด็จแม่เพียงคนเดียวเพคะ”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วแน่น “เจ้ากำลังจะบอกว่าเจ้าถูกฮองเฮาหลู่บงการกระนั้น?”องค์หญิงใหญ่ส่ายหน้า “ลูกไม่ได้หมายความเช่นน
เว่ยซวินปรนนิบัติฮ่องเต้หวู่มานานหลายปีรู้อุปนิสัยใจคอของเขาอย่างลึกซึ้งแม้ว่าฮองเฮาหลู่ถูกขังในตำหนักเย็นแล้วแต่ก็เคยเป็นสนมรักที่สุดมาก่อนบัดนี้จุดจบที่ดีที่สุดของฮองเฮาหลู่ก็คือหายไปจากสายตาทุกคนอย่างเงียบๆฮ่องเต้หวู่สบถเสียงเย็น “จำไว้ว่าจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย”เว่ยซวินประสานมือถอยออกไปอย่างเชื่องช้าเขาเชี่ยวชาญเรื่องพรรค์นี้ยิ่งนักฮ่องเต้หวู่ทอดสายตามองสีท้องฟ้ายามราตรีอันมืดมิดดุจสายน้ำ สุราเริ่มออกฤทธิ์“ช่างเถอะ เตรียมเกี้ยว! เราจะไปตำหนักฉางเล่อ!”สุดท้ายบางคนก็เป็นเพียงอดีต.....จวนสกุลซูภายในห้องหอเทียนมงคลลายดอกไม้สว่างไสว สะท้อนลงบนใบหน้ารูปไข่ที่กำลังแดงก่ำของซูเฟิ่งหลิง ขับเน้นให้งดงามดุจเทพธิดาหลี่หลงหลินยิ้มน้อยๆ ทอดสายตามองซูเฟิ่งหลิงอย่างลึกซึ้ง ภายในสายตาเปี่ยมความรักใคร่เอ็นดูซูเฟิ่งหลิงพยักหน้าน้อยๆ พลางเอ่ยปาก “องค์ชาย ไม่ได้เห็นท่านยิ้มดีใจเช่นนี้มานานมากแล้ว”งานราชการรัดตัว ต่อให้หลี่หลงหลินอยากอารมณ์ดี ก็มีเรื่องทำให้เขาไม่อาจอารมณ์ดีขึ้นได้แต่วันนี้ต่างออกไปหลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “สนมรัก เจ้ารู้ว่าสี่เรื่องน่ายินดียิ่งใหญ่ท
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค
น้ำ...น้ำ!หลิ่วหรูเยียนถูกความเผ็ดทำให้หน้าแดงก่ำ มุกเหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ทำให้ผิวพรรณขาวดุจหิมะถูกแต้มด้วยสีแดงเรื่อหลี่หลงหลินยื่นน้ำเย็นที่เตรียมไว้ดีแล้วให้หลิ่วหรูเยียนหลิ่วหรูเยียนดื่มลงไปหนึ่งอึก จากนั้นเอ่ยปากชม “องค์ชาย! อร่อยเหลือเกิน หม่อมฉันไม่เคยกินของอร่อยถึงเพียงนี้มาก่อนเลย มีความสุขยิ่งนัก!”เวลาเพียงชั่วพริบตา หัวปลาจานใหญ่ก็หายไปจนหมดเหล่าสะใภ้แต่ละคนหน้าแดงก่ำ เหงื่อเม็ดเล็กผุดพราวเต็มศีรษะ ปอยผมติดบนหน้าผาก ขับให้ดูมีเสน่ห์มากเป็นพิเศษซูเฟิ่งหลิงถูกความเผ็ดทำให้ริมฝีปากแดงเจ่อ ความสงสัยที่มีต่อหลี่หลงหลินเมื่อครู่มลายหายไปราวกับหมอกผ่านตาซุนชิงไต้ยกชามข้าว จับจ้องหลี่หลงหลินและเอ่ยถาม “องค์ชาย ยังมีหัวปลาอีกหรือไม่ เมื่อครู่กินเร็วเกินไป ยังไม่รู้รสเพคะ”หลี่หลงหลินเผยสีหน้าเอือมระอาพี่สะใภ้สามคิดว่ากำลังกินโสมกระมัง จึงกินได้ไม่รู้รสก็แค่ตะกละเท่านั้นหลี่หลงหลินพยักหน้าและตอบว่า “พี่สะใภ้สาม ท่านวางใจได้ หากท่านชอบ ภายภาคหน้าจะทำให้พวกพี่สะใภ้กินจนพอใจ!”ซุนชิงไต้เผยสีหน้าดีใจ คีบผลสีแดงเข้าปาก จากนั้นถูกความเผ็ดทำให้หน้าบิดเบี้ยว แต่นาง
ที่ต้าเซี่ย นับตั้งแต่โบราณมาไม่คุ้นชินกับการกินหัวปลา ปกติแล้วจะตัดหัวตัดหางเลือกเพียงลำตัว หัวปลาย่อมถูกทิ้งไปแต่บัดนี้หลี่หลงหลินถึงขั้นนำหัวปลาที่เหลือมาทำอาหารหนึ่งชนิดทำให้ทุกคนรู้สึกเหลือจะเชื่ออยู่บ้างยิ่งไปกว่านั้นหัวปลาหวงฮื้อใหญ่ยังมีขนาดใหญ่มาก ขนาดเล็กที่สุดก็ราวฝ่ามือ มองดูแล้วน่ากลัว ชนิดที่ว่าทำให้คนรู้สึกขนหัวลุกอยู่บ้างเหล่าสะใภ้ตกใจจนใบหน้างดงามเผือดซีดนิ้วเรียวยาวของซูเฟิ่งหลิงปิดปากไว้ อุทานออกมาด้วยความตกตะลึง “องค์ชาย เจ้าสิ่งนี้กินเยี่ยงไร? มองดูแล้วน่ากลัวมากเหลือเกิน!”ลั่วอวี้จู๋เผยสีหน้าลำบากใจ “หัวปลานี้กินได้แน่หรือ?”ตอนนี้ทุกคนไม่เพียงสงสัยหลี่หลงหลิน แต่ยังสงสัยต่อหัวปลานี้หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ “ปลาหวงฮื้อล้ำค่าทั้งตัว หัวปลาย่อมสามารถกินได้ ไม่เพียงแค่นี้ หัวปลายังเป็นส่วนที่มีคุณค่าทางอาหารมากที่สุด!”“จริงหรือ?” ซูเฟิ่งหลิงยังสงสัยดังเดิม ในสายตาของนาง หลี่หลงหลินกำลังปลอบตน ต้องการเห็นเรื่องตลกของตนซุนชิงไต้มองซูเฟิ่งหลิงด้วยสีหน้าจริงจังและเปล่งเสียงเคร่งขรึม “องค์ชายไม่พูดความเท็จ หัวปลาหวงฮื้อใหญ่นี้กินได้จริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยัง
ลั่วอวี้จู๋พูดอยู่ทางด้านข้าง “ใช่แล้ว องค์ชาย เรื่องเหล่านี้ยกให้สะใภ้สามเถอะเพคะ”หลี่หลงหลินกลับยืดอกตรงดุจต้นไผ่ พูดเสียงเรียบๆ ว่า “พวกพี่สะใภ้วางใจก็พอ ถึงตอนนั้นจะต้องถูกปากพวกพี่สะใภ้แน่”.....พลบค่ำเหล่าสะใภ้และซูเฟิ่งหลิงรอในห้องอาหารนานแล้ว ล้วนแปลกใจตกลงหลี่หลงหลินจะนำความแปลกใจอันใดมาอีกแต่ไหนแต่ไรมาหลี่หลงหลินไม่เคยทำให้ทุกคนผิดหวัง เรื่องที่เขาทำล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ก็แปลกใหม่ไม่เหมือนผู้ใดสองมือของซูเฟิ่งหลิงยกขึ้นเท้าคาง คนหิวแทบแย่ “ก็ไม่รู้ว่าองค์ชายเล่นพิเรนทร์อันใดอีก จะต้องลงมือเข้าครัวด้วยตนเองให้ได้ สำคัญที่สุดคือองค์ชายทำอาหารเป็นแน่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงรู้จักหลี่หลงหลินดีมาก แม้พูดว่าฉลาดหลักแหลม แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเชี่ยวชาญทุกอย่าง ยิ่งไปกว่านั้นนับตั้งแต่เกิดก็มีคนคอยปรนนิบัติ จนกระทั่งตอนนี้ก็ไม่เคยมีเรื่องให้กังวล น่ากลัวว่าแม้แต่ประตูห้องครัวก็ไม่เคยเฉียดเข้าไป นับประสาอะไรกับฆ่าปลาทำอาหารเล่า?ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า สีหน้าหมดอาลัยตายอยาก “ดูท่าแล้ว คืนนี้ข้าจะต้องหิวตาย”ลั่วอวี้จู๋อ่านความคิดของซูเฟิ่งหลิงออกจึงเอ่ยปลอบ “น้องหญิงเล็ก ผ
หลังผ่านไปหนึ่งชั่วยามหลี่หลงหลินเปิดฝาโอ่งน้ำใหญ่ด้วยใบหน้าลึกลับเหล่าสะใภ้ต่างคาดหวัง เตรียมเป็นพยานความอัศจรรย์ซี้ด!ไอเย็นเสียดแทงกระดูกสายหนึ่งส่งเข้ามา ทำให้เหล่าสะใภ้ไม่เพียงตัวสั่น ภาพเบื้องหน้ายังชวนให้คนตกตะลึงพรึงเพริด!มองเห็นน้ำในโอ่งน้ำใหญ่ทั้งหมดกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เย็นจนคนรู้สึกหนาว!ทุกคนกลับหายใจเย็นเฮือกหนึ่ง หันมองทางหลี่หลงหลินด้วยสายตาตกตะลึงพรึงเพริด สีหน้าเผือดซีด!ใบหน้ากงซูหว่านล้วนคือความตกตะลึง ในสายตาของนางหลี่หลงหลินไม่ต่างอันใดจากตำนานเสกหินให้เป็นทอง เพียงใช้เกลือหมางเซียวก็สามารถทำให้น้ำกลายเป็นน้ำแข็งได้แล้วหรือ? นี่เหลือจะเชื่อเกินไปแล้ว!กงซูหว่านเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ “องค์ชาย นี่ทำได้เยี่ยงไร? นี่หรือว่าเป็นวิชาเซียนจริง?”หลี่หลงหลินหยิบถุงเกลือหมางเซียวในมือออกมาและพูดว่า “ตอนผสมเกลือหมางเซียวนี้กับน้ำจะสามารถดูดความร้อนมหาศาลได้ สามารถทำให้อุณหภูมิลดลงจนเหลือศูนย์องศา ดังนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้น้ำย่อมกลายเป็นน้ำแข็ง”หลี่หลงหลินไม่ปกปิด เล่าหลักการทั้งหมดให้กงซูหว่านฟัง อย่างไรเสียภายภาคหน้ายังต้องการให้มีคนไปสอนราษฎร์ตงไห่ทำน้ำแข็