หลี่หลงหลินถามอีกครั้ง “เซียวเม่ยเอ๋อร์คนนี้ เสด็จพ่อฆ่าได้หรือ?”ฮ่องเต้หวู่ตอบโดยไม่ยั้งคิด “หญิงเผ่าหมานคนหนึ่ง ไฉนเลยเราจะฆ่าไม่ได้?”เพียงพูดคำนี้ออกมา ฮ่องเต้หวู่ก็ตอบสนองแล้วเซียวเม่ยเอ๋อร์และเจ้าสี่แต่งงานกัน เป็นลูกสะใภ้ของตนแล้วฐานะนี้ นับเป็นยันต์ป้องกันตัวที่ยอดเยี่ยมอย่างหนึ่งต่อให้หัวหน้าเผ่าของชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือกลับคำ พลิกสถานการณ์กลับมาโจมตีอย่างกะทันหัน เลวร้ายที่สุดตนก็ทำได้เพียงกักบริเวณเซียวเม่ยเอ๋อร์เท่านั้นกักบริเวณมีประโยชน์บ้าบออะไร!กองทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือโจมตีเมืองหลวง ก็สามารถช่วยเซียวเม่ยเอ๋อร์ออกมาได้แล้วมิใช่หรือ?ฮ่องเต้หวู่นึกถึงตรงนี้ เดินวนไปมาภายในห้องทรงพระอักษร “เจ้ากำลังจะพูดว่า...ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือและต้าเซี่ยแต่งงานกัน นับตั้งแต่เริ่มก็คืออุบายอำมหิตฉากหนึ่ง! แต่ เพราะเหตุใดชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือต้องทำเช่นนี้? เราคิดดูแล้วก็ไม่เข้าใจ!”หลี่หลงหลินอธิบาย “เสด็จพ่อ ท่านลองเปลี่ยนมุมคิดดู! เหตุใดชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือต้องโจมตีต้าเซี่ยด้วย?”ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้ว พูดว่า “ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือยากจนข้นแค
เด็กเล่นขายของ!ฮ่องเต้หวู่จับจ้องหลี่หลงหลิน พูดต่อ “เจ้าเก้า เช่นนั้นความนัยของเจ้าคือให้จางไป่เจิงเฝ้าเมืองซั่วเป่ยต่อกระนั้น?”หลี่หลงหลินส่ายหน้า “ลูกมิได้หมายความเช่นนี้!”ฮ่องเต้หวู่เอ่ยปากอย่างสงสัย “เราจะทำเยี่ยงไร?”หลี่หลงหลินคลี่ยิ้มน้อยๆ “สวรรค์ประทานโอกาสให้แล้ว ย่อมต้องรับไว้! ในเมื่อชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถอยทัพ ออกจากแดนเหนือ หากต้าเซี่ยยังไม่เคลื่อนไหว ทหารทั้งหลายจะสะเทือนใจจนหมดขวัญกำลังใจ!”ฮ่องเต้หวู่พยักหน้า เห็นด้วยอย่างมากแผ่นดินอยู่แค่เอื้อม ไฉนเลยจะไม่เอา?หลี่หลงหลินพูดต่อ “เสด็จพ่อ พระองค์สามารถสั่งจางไป่เจิง อ้างว่าปราบโจร ยึดแผ่นดินคืนมาทีละน้อย จะต้องจำไว้ว่าห้ามละโมบจนวู่วาม! ส่วนผู้ลี้ภัยทางฝั่งนี้ พระองค์ถ่ายทอดพระบรมราชโองการ ก็พูดว่าโจรอาละวาดในแดนเหนือ ราชสำนักกำลังส่งทหารไปคลี่คลายสถานการณ์!”“รอจนกระทั่งฤดูใบไม้ผลิปีหน้าดอกไม้ผลิบานอากาศอบอุ่น ก็ให้พวกเขากลับไป สร้างบ้านใหม่อีกครั้ง!”“อย่างไรเสีย ก็ใกล้จะถึงฤดูหนาวแล้ว แดนเหนือหิมะตกหนัก อากาศหนาวเหน็บ ต่อให้พวกเขากลับไป ก็ไม่มีความหมายอะไร ยิ่งไปกว่านั้นฤดูกาลนี้ ไม่สามารถฟื้นฟูพื้
ประธานสามศาลพิจารณาคดี ไต่สวนตู้เหวินยวน แท้จริงแล้วเสียแรงไปโดยไม่คุ้มค่าก็เหมือนที่ฮ่องเต้หวู่พูดภายในสามศาล ส่วนมากเป็นศิษย์และสหายร่วมงานเก่าของตู้เหวินยวนไต่สวนเยี่ยงไร ไต่สวนถึงขั้นใด?นี่ล้วนน่าสนใจทั้งสิ้นหากไม่ระวัง ก็ล่วงเกินคนได้อย่างง่ายดาย!แน่นอน หลี่หลงหลินไม่คิดเดินบนเส้นทางขุนนางผู้โดดเดี่ยว เป็นศัตรูกับคนทั้งโลกล่วงเกินคน?เดิมทีเขาก็ไม่ใส่ใจปัญหาคือ จะหาเงินทองมหาศาลที่ตู้เหวินยวนซ่อนไว้ออกมาได้เยี่ยงไร นำมาชดเชยท้องพระคลังหลวง แจกจ่ายเงินชดเชยให้แก่เหล่าแม่ม่ายเด็กกำพร้าทว่า ในเมื่อหลี่หลงหลินกล้ารับปากแล้ว ย่อมมีความมั่นใจมากฮ่องเต้หวู่เห็นหลี่หลงหลินตกปากรับคำแล้ว ดีใจมาก “เจ้าเก้า เจ้ารับคำว่องไวเพียงนี้ เราไม่รู้ต้องพูดอะไรจึงจะดี! เอาล่ะ ฮองเฮาพูดว่า บ้านเมืองไม่อาจขาดคนรู้จักได้แม้วันเดียว! เจ้ามีคนที่เลือกไว้หรือไม่?”หลี่หลงหลินได้ยิน ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้เสด็จพ่อถึงขั้นให้ตนเสนอคนเป็นอัครมหาเสนาบดีเชียวรึ?นั่นเท่ากับว่าอัครมหาเสนาบดีของต้าเซี่ย ภายภาคหน้าก็เป็นคนของตนแล้ว?นี่กำลังตกรางวัลตนอยู่หรือ?ไม่พูดไม่ได้ ครั้งนี้เสด็จพ่อไม่
หลี่หลงหลินหรี่ตาลง “กฎของบรรพบุรุษ หรือว่าถูกต้องพ่ะย่ะค่ะ?”ฮ่องเต้หวู่ใจสั่น มองหลี่หลงหลินอย่างตกตะลึง “เจ้ากำลังจะบอกว่า...กฎของบรรพบุรุษผิดกระนั้นรึ?”หลี่หลงหลินส่ายหน้าอีกครั้ง “ลูกมิได้พูดว่ากฎของบรรพบุรุษต้าเซี่ยผิด! เพียงแต่ เวลานี้และเวลานั้นไม่เหมือนกัน! ตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี แท้จริงแล้วเป็นผลจากความร่วมมือกันระหว่างฮ่องเต้และเหล่าขุนนาง!”“อัครมหาเสนาบดีมีอำนาจแข็งแกร่งยิ่งขึ้น อำนาจของฮ่องเต้ก็ย่อมอ่อนลง!”“เพื่อรักษาสมดุล จักรพรรดิจำเป็นต้อง อาศัยพรรคขันทีและญาติ ถ่วงดุลอำนาจกับเหล่าขุนนาง!”“ผลลัพธ์สุดท้าย ย่อมกลายเป็นพรรคขันทีวุ่นวาย ญาติส่งต่ออำนาจ!”“ในประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ที่อยู่ใต้การปกครองเช่นนี้ มีมากมายนับไม่ถ้วน!”ฮ่องเต้หวู่ลืมตาอ้าปากค้าง ตกตะลึงเหม่อลอยหลี่หลงหลินอธิบายชัดเจนมากฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ต่อสู้กัน ต่อสู้เพื่ออันใด?ไม่ว่าพรรคขันทีและขุนนาง หรือชนชั้นสูงและขุนนางสาเหตุที่แท้จริง ล้วนเป็นการต่อสู้ระหว่างอำนาจฮ่องเต้และอำนาจขุนนางหลังชุลมุนวุ่นวายจนมาถึงช่วงสุดท้าย ก็คือราชสำนักขาดความสมดุล เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่!ทั้งหมดนี้ ถึงขั้นเป็นค
ยามค่ำคืนโคมไฟสว่างไสวหลี่หลงหลินเพิ่งกลับถึงจวนสกุลซู ตกตะลึงพบว่า ญาติฝ่ายหญิงทั้งหมดของสกุลซูเตรียมอาหารเลิศรสไว้หนึ่งโต๊ะ กำลังรอตนแม้แต่กงซูหว่านก็เดินทางกลับจากภูเขาทิศประจิมหลี่หลงหลินพูดยิ้มๆ “วันนี้วันเกิดใครหรือ? อาหารเย็นมากมายถึงเพียงนี้?”ฮูหยินผู้เฒ่าซูหัวเราะพลางพูด “ชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถอยทัพ นี่เป็นเรื่องมงคลยิ่งใหญ่ พวกเราย่อมต้องฉลองสักครั้งหนึ่ง!”หลี่หลงหลินหัวเราะ ไม่พูดมากอีกชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือถอยทัพ ก็แค่อุบายเล่นสนุก รอเก็บเกี่ยวผลประโยชน์!กระนั้น เขาเก็บไว้ภายในใจก็พอ ไม่สามารถพูดออกไปในสถานการณ์เช่นนี้ได้ ประเดี๋ยวจะทำลายความสนุกของทุกคนหนึ่งครอบครัวดื่มอวยพรให้กัน เสียงหัวเราะมีความสุขดังอย่างต่อเนื่องฮูหยินผู้เฒ่าซูเองก็ดีใจมาก ดื่มเหล้าเหลืองไปหลายจอก รู้สึกมึนเมาแล้ว ก็ขอตัวออกจากงานก่อน“ขอบคุณฮูหยินผู้เฒ่ายิ่งนัก!”หลี่หลงหลินมองเงาด้านหลังของฮูหยินผู้เฒ่า ลอบพูดภายในใจฮูหยินผู้เฒ่าเอ็นดูตนจริงๆคิดหาทาง สร้างโอกาสให้ตนเพียงผู้อาวุโสลุกออกไปแล้ว บรรยากาศงานเลี้ยงก็กลมกลืนกันมากยิ่งขึ้นพี่สะใภ้รูปโฉมงดงามทั้งสี่ ชน
“พี่สะใภ้สี่และตู้เหวินยวนมีความสัมพันธ์อันใด?”“หรือว่าข้าคิดมากไป?”หลี่หลงหลินลอบครุ่นคิดภายในใจลั่วอวี้จู๋ยกจอกสุรา พูดเสียงนุ่มนวล “องค์ชายเก้าเป็นประธานสามศาล ไต่สวนตู้เหวินยวน นี่คือเกียรติยศยิ่งใหญ่! เช่นนี้แล้ว ข่าวลือภายนอก ไม่ต้องทำอันใดก็ยุติลงไปด้วยตนเอง!”ซูเฟิ่งหลิงกลับกังวล มองหลี่หลงหลิน “ท่านไต่สวนเป็นหรือ? ตู้เหวินยวนจิ้งจอกเฒ่าคนนี้ เจ้าเล่ห์มากนัก! ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้ยินหนิงเซิงพูด ภายในสามศาล ล้วนคือศิษย์และสหายร่วมงานเก่าของเขา!”“ต่อให้เป็นฝ่าบาทก็ทำอันใดเขาไม่ได้!”ได้ยินถ้อยคำนี้ หลิ่วหรูเยียนตึงเครียดอยู่บ้าง สีหน้าเผือดซีด “ไม่หรอกกระมัง! องค์ชายเก้ามีสมุดบัญชี หลักฐานที่ไม่อาจหักล้างได้มิใช่หรือ?”ซูเฟิ่งหลิงส่ายหน้า “พี่สะใภ้สี่ ท่านไม่เข้าใจ! ในแวดวงราชการ ไม่สามารถหนีการปกป้องจากขุนนางพ้น! อย่างไรเสีย หากเป็นข้า จะแทงตู้เหวินยวนให้ตาย หลีกเลี่ยงมิให้จิ้งจอกเฒ่าเจ้าเล่ห์คนนี้เป็นภัยต่อบ้านเมืองและราษฎร์!”วันนี้นางดีใจมาก ดื่มสุราหลายจอก ใบหน้าแดงเรื่อ พูดจาเหลวไหลอยู่บ้างตู้เหวินยวนชั่วดีอย่างไรก็เป็นอัครมหาเสนาบดีของต้าเซี่ย เจ้าสามารถฆ่าได
แสงจันทร์สว่างไสวหลี่หลงหลินมายังหอละอองฝน ใบหน้าประดับยิ้มอ่อน เพลิดเพลินกับการดีดพิณของหลิ่วหรูเยียนนางสวมชุดบาง สะท้อนแสงจันทร์ งดงามเกินบรรยาย ดุจนางเซียนลงมาจากสวรรค์งดงามมีเสน่ห์ เย้ายวนชวนหลงใหล!นี่คือความแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดระหว่างหลิ่วหรูเยียนและเซียวเม่ยเอ๋อร์!ตึกตัก...หลี่หลงหลินไม่เข้าใจเสียงดนตรี เพียงเพลิดเพลินกับความงามของหลิ่วหรูเยียน ราบกับกำลังหลงใหลและเมามายสตรีคนนี้งดงามเกินไปแล้ว มีเสน่ห์เกินไปแล้ว!มิน่าเล่าสำนักการสังคีตจึงยอมรับเป็นนางคณิกาอันดับหนึ่ง!แน่นอนนอกเหนือจากความงามของหลิ่วหรูเยียน ความสามารถของนางเองก็น่าประทับใจมากพิณนี้ ขาวเหลือเกิน...สายตาของหลี่หลงหลิน ตกลงใต้กระโปรงอย่างสุดจะหักห้ามใจ เท้าสีขาวราวหยกหิมะดุจผลึกใสประกายแวววาวนางไม่เพียงงดงาม รู้ความชอบของบุรุษ จับเอาไว้ได้อย่างง่ายดายก็คือของขวัญจากสวรรค์จริงๆ!เล่นจบหนึ่งบทเพลง หลี่หลงหลินยังเคลิบเคลิ้มกับความงามของหลิ่วหรูเยียน ไม่สามารถพาตนเองออกมาได้อยู่นานใบหน้าของหลิ่วหรู่เยียน ผลิยิ้มงดงามเย้ายวนชวนหลงใหลออกมา “องค์ชาย บทเพลงนี้ของหม่อมฉัน ท่านพึงพอใจหรือไม่?”
สมองของหลี่หลงหลินดังหึ่งๆเขาไม่ใช่คนมีจิตใจมั่นคงมีคนนั่งในอ้อมกอดแล้วจะไม่หวั่นไหว!พี่สะใภ้สี่ ท่านยั่วยวนข้าเช่นนี้ ข้าทนไม่ไหวนะ!หลี่หลงหลินกอดร่างนุ่มนิ่มดุจหยกมีชีวิต ใช้สติที่ยังเหลืออยู่พูดว่า “พี่สะใภ้สี่ ทำเช่นนี้ไม่ดี...”หลิ่วหรูเยียนเงยหน้า ขบเม้มกลีบปากพูดว่า “หม่อมฉันเคยสาบานมาก่อน ใครช่วยข้าฆ่าตู้เหวินยวนได้! ก็จะมอบร่างกายนี้ให้เขา!”หลี่หลงหลินชะงัก ได้สติขึ้นมาแล้ว “ท่านอยากให้ข้าฆ่าตู้เหวินยวน?”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้า ดวงตาสะท้อนไอเย็น “ถูกต้อง! ขอเพียงฆ่าเขาได้ หม่อมฉันจะเป็นของท่าน!”หลี่หลงหลินยิ้มขมปร่า “นี่คือการแลกเปลี่ยนหรือ?”หลิ่วหรูเยียนชะงัก กดร่างกายหลี่หลงหลินลงกับพื้น กลีบปากแดงแนบลงบนแก้มของเขา ใช้สุ้มเสียงเย้ายวนพูดว่า “การแลกเปลี่ยนมีอะไรไม่ดีหรือ? คืนฤดูใบไม้ผลิผ่านไปอย่างไร้ร่องรอย! ท่านก็คิดว่าข้าเป็นนางคณิกาของสำนักการสังคีต อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลจะทำผิดต่อน้องหญิงเล็ก!”“ไม่ได้!”หลี่หลงหลินส่ายหน้า ดันร่างกายของหลิ่วหรูเยียนออกมือขวาลูบจมูก ด้านบนยังมีกลิ่นหอมของนางติดอยู่ร่างกายของนาง ทุกส่วนล้วนงดงามสมบูรณ์แบบหลิ่วหรูเยียน
เหล่าขุนนางในราชสำนักต่างส่งเสียงฮือฮาผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนหาใช่จำนวนน้อยๆ ไม่!ฮ่องเต้หวู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าเย็นชาเจ้ากรมกลาโหมเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ฝ่าบาท ตามที่กระหม่อมเห็น ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนนี้คือภัยร้ายที่ซ่อนอยู่ในเมืองหลวง หากจัดการไม่เหมาะสม ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนก่อการจลาจลขึ้น เกรงว่า...”เจ้ากรมกลาโหมไม่กล้ากล่าวอะไรต่อหากเขากล่าวอะไรต่อไปอีก จะต้องทรงพระพิโรธเป็นแน่ แต่ก็จำเป็นต้องทูลเตือนฝ่าบาท ไม่ว่าก่อนหน้านี้หลี่หลงหลินจะเคยทูลรับรองสิ่งใดต่อหน้าฝ่าบาทก็ตาม ก็จำเป็นต้องทำให้ฝ่าบาททรงตระหนักถึงความร้ายแรงของสถานการณ์ผู้ลี้ภัยหนึ่งแสนคนส่วนใหญ่เป็นพวกที่ควบคุมได้ยาก คนเหล่านี้รวมตัวกันอยู่นอกเมืองหลวงได้สร้างผลกระทบเลวร้ายไม่น้อยแล้ว หากถูกผู้ไม่ประสงค์ดีปลุกปั่น ย่อมเกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่เป็นแน่!แม้ว่าตอนนี้จางไป่เจิงจะนำทัพกลับราชสำนักแล้ว กำลังทหารในเมืองหลวงจะเข้มแข็ง ก็ยังคงเป็นปัญหาที่จัดการได้ยากอยู่ดีเหล่าขุนนางต่างเห็นพ้องต้องกัน“ฝ่าบาท เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชะตาของแคว้นต้าเซี่ย โปรดอย่าได้ทรงประมาทเป็นอันขาดพ่ะย่ะค่ะ!”“ใช่พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท ขณะนี้
“อะไรนะ!”ฮ่องเต้หวู่ทรงพระพิโรธอย่างยิ่ง!เขาไม่เคยคาดคิดว่าหลี่หลงหลินจะกล่าววาจาเหลวไหลถึงเพียงนี้ นี่มันยิ่งกว่าการเห็นชีวิตคนเป็นผักปลาเสียอีก! ยามนี้ราษฎรยากจนถึงขั้นไม่มีปัญญาซื้อหาธัญญาหาร แล้วจะมีเนื้อที่ไหนให้กินกัน?เจ้ากรมคลังลดเสียงลง กล่าวว่า “ฝ่าบาท วาจาเหลวไหลเช่นนี้ออกมาจากโอษฐ์ขององค์รัชทายาทจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ ทีแรกกระหม่อมคิดว่าเป็นเพราะตนเองตาฝ้าฟางไป แต่ฎีกาหลายฉบับล้วนรายงานตรงกัน เกรงว่าวาจานี้คงเป็นสิ่งที่องค์รัชทายาทตรัสจริงๆ...”เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮาคาดไม่ถึงว่าหลี่หลงหลินจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้!ไม่เพียงแต่สร้างความเยือกเย็นในใจของราษฎร ยังสร้างความเยือกเย็นในใจของขุนนางในราชสำนักอีกด้วย นี่คือการกระทำชั่วร้ายที่ยากจะสาธยายให้หมดสิ้น อาลักษณ์จะต้องบันทึกเรื่องนี้ลงในพงศาวดารเป็นแน่ ทำให้ชื่อเสียงของหลี่หลงหลินฉาวโฉ่ไปชั่วกาลนาน!ฮ่องเต้หวู่ส่ายพระพักตร์ ทรงครุ่นคิดในพระทัยไม่ใช่ เจ้าเก้าไม่น่าจะทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ได้ อย่างน้อยในเมืองหลวง ราษฎรส่วนใหญ่ก็เคยได้รับความเมตตาจากเขา หรือว่าก่อนหน้านี้เป็นเพียงการแสดง?ฮ่องเต้หวู่ตรัสเสียงเย็น “
ณ ท้องพระโรงบรรดาขุนนางทั้งหลายต่างสงบเสงี่ยม ก้มหน้าคารวะถวายบังคมฮ่องเต้หวู่ทอดพระเนตรกวาดสายตาไปยังหมู่ขุนนาง พลางตรัสเรียบเรื่อย “เหล่าขุนนางทุกท่าน หากมีเรื่องก็กราบทูล หากไม่มีเรื่องก็เลิกประชุมเถิด”นับตั้งแต่หลี่หลงหลินเดินทางไปยังตงไห่ ราชสำนักก็ดูสงบขึ้นไม่น้อย ฮ่องเต้หวู่ซึ่งแต่เดิมก็เอนเอียงไปทางเก็บตัวเงียบๆ ก็เริ่มชินกับจังหวะสงัดเช่นนี้ ยิ่งตอนนี้จางไป่เจิงนำทัพกลับสู่เมืองหลวง ปัญหากำลังพลไม่พอในเมืองหลวงก็คลี่คลายลง บรรดาขุนนางที่เคยซ่องสุมคิดร้ายในเงามืด ก็พากันลดราวาศอกแต่แล้ว เจ้ากรมคลังก็ก้าวออกมา สีหน้าเคร่งเครียด “ฝ่าบาท กระหม่อมมีเรื่องจะกราบทูลพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หวู่เห็นเป็นกรมคลัง จึงขมวดคิ้วเบาๆ กล่าวว่า “ว่ามา”แม้ปัญหาเรื่องทหารจะคลี่คลาย แต่เงินในท้องพระคลังก็ยังร่อยหรอ หากกรมคลังเสนอฎีกาเมื่อใด มักไม่พ้นเรื่องเงินไม่พอใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขากลัดกลุ้มมาเนิ่นนาน เจ้ากรมคลังกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น “ฝ่าบาท ขณะนี้เขตตงไห่ประสบภาวะขาดแคลนเสบียงจนเกิดทุพภิกขภัย ราษฎรอดอยากปากแห้ง ร้องทุกข์ระงม แต่ละเขตในตงไห่ต่างก็ส่งฎีกาขอความช่วยเหลือจากราชสำนัก...”ฮ
กงซูหว่านมองดูแบบร่าง โครงสร้างเรียบง่ายมาก แต่นางไม่รู้ว่าควรจะเรียกมันว่าอะไรหลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ “นี่คือกระป๋อง”“กระป๋อง? มันสามารถถนอมอาหารได้หรือเพคะ?”หลี่หลงหลินยิ้มเล็กน้อย “แน่นอน หากสภาพแวดล้อมเหมาะสม แม้เวลาจะล่วงเลยไปแปดปี สิบปีก็ยังไม่เสีย”“นานขนาดนั้นเชียวหรือเพคะ?”กงซูหว่านเบิกตากว้าง อ้าปากค้าง ราวกับไม่เชื่อสิ่งที่ได้ยินในความเข้าใจของกงซูหว่าน การเก็บรักษาอาหารได้นานสักไม่กี่เดือนก็ถือว่าน่าทึ่งแล้วหลี่หลงหลินยิ้มบางๆ “ยิ่งไปกว่านั้น ขนาดของกระป๋องยังเล็กกระทัดรัด เหมาะแก่การพกพาในยามออกศึกยิ่งนัก”“หากพี่สะใภ้รองสามารถทำมันขึ้นมาได้ ข้าก็ตั้งใจจะเปิดโรงงานกระป๋องที่ตงไห่ แปรรูปปลาหวงฮื้อใหญ่จำนวนมหาศาลที่จับขึ้นมาโดยเฉพาะ”หลี่หลงหลินยิ้มบาง หากผลิตกระป๋องได้สำเร็จ ก็ไม่ต้องหวั่นไหวต่อภัยแล้งและความอดอยากอีกต่อไปกงซูหว่านยังคงตกตะลึง “โรงงานกระป๋องหรือเพคะ? ถึงข้าจะทำตามแบบได้เป๊ะๆ แล้วจะไปหาคนงานจากที่ใด?”ยามนี้ชาวเมืองตงไห่ต่างก็แย่งกันออกทะเลหาปลา กำลังคนขาดแคลนเป็นอย่างยิ่งหลี่หลงหลินตอบด้วยรอยยิ้ม “ไม่ต้องห่วง ให้ชาวตงไห่เขาหาปลากันต่อไ
วันต่อมา ห้องหนังสือจวนอ๋องหลี่หลงหลินยกมือนวดหว่างคิ้ว มือวาดบางอย่างบนกระดาษกงซูหว่านขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง “องค์ชาย หม่อมฉันอิงตามวิธีของท่านแล้ว วันนี้ตั้งใจไปตั้งร้านแผงลอยในบริเวณคนพลุกพล่านเป็นพิเศษ เผยแพร่วิธีทำน้ำแข็งออกไป เหล่าราษฎร์สามารถใช้งานได้ ทุกคนต่างโห่ร้องด้วยความยินดี เพียงแต่บัดนี้เกลือหมางเซียวในร้านขายยาทุกแห่งของตงไห่ไม่เพียงพอ”หลี่หลงหลินพยักหน้า “เผยแพร่ออกไปก็ดีแล้ว เช่นนี้เนื้อปลาของเหล่าราษฎร์ก็สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่ต้องสิ้นเปลือง”“พี่สะใภ้รองเหนื่อยแล้ว หากนี่คือเมืองหลวง เพียงตีพิมพ์เรียงความในหนังสือพิมพ์ก็เพียงพอแล้ว แต่อยู่ที่ตงไห่ยังต้องให้พี่สะใภ้ออกแรงเหน็ดเหนื่อยด้วยตนเอง”ภายในคำพูดหลี่หลงหลินเปี่ยมความห่วงใย อย่างไรเสียกงซูหว่านก็เป็นสตรีมีพรสวรรค์ไม่ออกนอกบ้าน อยู่แต่ในห้องหอ จู่ๆ ขอให้นางไปสอนวิธีทำน้ำแข็งแก่ราษฎร์ ช่างทำให้อึดอัดคับข้องใจโดยแท้แต่หลี่หลงหลินคิดไปคิดมา ในบรรดาพี่สะใภ้มีเพียงพี่สะใภ้รองเข้าใจวิธีใช้เกลือหมางเซียวทำน้ำแข็ง ทำได้เพียงมอบหน้าที่สำคัญนี้ให้กงซูหว่านหัวเราะเบาๆ “ไม่ลำบากเพคะ จะ
ทุกคนสูดลมหายใจเย็นเฮือกหนึ่งโจรสลัดแคว้นโวกั๋วและชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือเป็นปัญหาแถบชายแดนต้าเซี่ยมานานนับร้อยปี ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดายมองออกว่าครั้งนี้เจตจำนงของหลี่หลงหลินยิ่งใหญ่อย่างมาก!หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “หากต้องการกำจัดปัญหาภายนอกจะต้องกำจัดปัญหาภายในก่อน หากต้องการเดินทางบนมหาสมุทร จะต้องจัดการปัญหาตรงหน้าให้เรียบร้อย หาไม่แล้วแผนการเดินเรือจะต้องได้รับผลกระทบแน่”“เป้าหมายสำคัญในการมาตงไห่ครั้งนี้คือพัฒนาศาสตร์ต่อเรือของต้าเซี่ย บัดนี้เรือเหล่านี้ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการเดินทางไกลได้ ความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอของเรือต้าเซี่ยก็เป็นเหตุผลที่โจรสลัดแคว้นโวกั๋วตงไห่สร้างความวุ่นวาย ได้รับผลประโยชน์มากมายในสงครามทางทะเล ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่สามารถกวาดล้างโจรสลัดแคว้นโวกั๋วที่บุกมาในคราวเดียวได้”“หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป โจรสลัดแคว้นโวกั๋วก็จะยิ่งกำเริบเสิบสาน อาละวาดอย่างไร้ขอบเขตในทะเลตงไห่ ราษฎร์ตงไห่ก็จะได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก!”“ดังนั้นตราบใดที่สามารถเพิ่มระดับการต่อเรือของต้าเซี่ยได้ โจรสลัดแคว้นโวกั๋วย่อมหายไป ชนิดที่ว่าปราบตงอิ๋
ปากแดงของเหล่าสะใภ้ขยับเบาๆ ดวงตาสะท้อนความแปลกใจ “เป้าหมายคือมหาสมุทรอันกว้างใหญ่?”แม้เหล่าสะใภ้ไม่รู้ว่ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่คือที่ใด แต่ได้ยินหลี่หลงหลินอธิบาย จะต้องเป็นสถานที่อันงดงามแน่!ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยถาม “องค์ชาย มหาสมุทรกว้างใหญ่มากถึงเพียงนี้ เป้าหมายของพวกเราคือที่ใด?”กงซูหว่านพยักหน้า “ใช่แล้วองค์ชาย ยิ่งไปกว่านั้นระดับการเดินเรือในตอนนี้มากที่สุดก็ไปได้ถึงตงอิ๋ง หากยังไปทางทิศตะวันออก กลับยังไม่มีตัวอย่างมาก่อน”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เป้าหมายของพวกเราก็คือทวีปใหม่! ต้าเซี่ยและทวีปใหม่ห่างกันเพียงมหาสมุทรกั้น ลักษณะทางภูมิศาสตร์ได้เปรียบโดยธรรมชาติ สิ่งที่ต้องทำในตอนนี้คือคิดหาทางพัฒนาเรือของต้าเซี่ย ขนวัวม้าสัตว์ใช้แรงงานจำนวนมากเพียงพอไปยังทวีปใหม่”“ขอเพียงมีวัวม้าสัตว์ใช้แรงงาน ต้องการผืนดินมากน้อยเพียงใดก็ย่อมได้ มีผืนดินนับพันลี้ให้ราษฎร์ได้ใช้!”เหล่าสะใภ้ได้ยินภาพที่หลี่หลงหลินอธิบาย ใบหน้าเผยรอยยิ้มเปี่ยมความหวังออกมาสถานที่ที่ไม่มีสงครามและไม่มีความหิวโหยอยู่ห่างเพียงมหาสมุทรกั้น กำลังโบกมือต้อนรับตนเองหลี่หลงหลินเปล่งเสียงเคร่งขรึม “ขอเพียง
“เป็นไปไม่ได้! ดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ ไฉนเลยจะไม่มีคน?”หลี่หลงหลินหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “เหตุที่มีคนน้อยมีเพียงข้อเดียว ตอนนี้พวกเขายังกินไม่อิ่ม”ถ้อยคำนี้ของหลี่หลงหลินดุจฟ้าผ่ากลางวันแสกๆเหล่าพี่สะใภ้ได้ฟังแล้ว คิดว่านี่คล้ายเรื่องเพ้อฝันยามราตรี ดินแดนอุดมสมบูรณ์ถึงเพียงนี้ ถึงขั้นยังมีคนกินข้าวไม่อิ่มท้องอีกหรือ?กงซูหว่านมองหลี่หลงหลินด้วยความตกตะลึง เอ่ยถามว่า “องค์ชาย ท่านไม่ได้กำลังล้อพวกเราเล่นหรอกกระมัง? อิงตามคำพูดของท่าน ทวีปใหม่จะต้องอุดมสมบูรณ์อย่างมากแน่ เหตุใดจึงเกิดเหตุการณ์คนกินข้าวไม่อิ่มท้องได้เล่า?”“ใช่แล้วองค์ชาย หม่อมฉันไม่เชื่อ”“หรือว่าดินแดนที่ดีถึงเพียงนี้ พวกเขาไม่สามารถเพาะปลูกได้กันเล่า?”เหล่าพี่สะใภ้ฟังจนอารมณ์ดำดิ่งลงไป ต่างขอให้หลี่หลงหลินพูดออกมาให้ชัดเจน หลี่หลงหลินพูดเรียบๆ “ไม่ใช่พวกเขาไม่เพาะปลูก ทวีปใหม่ดีมากเยี่ยงไร มีเพียงข้อเดียวที่ไม่ดี ก็คือไม่มีวัวไม่มีม้า ไม่มีสัตว์ใช้แรงงาน”ดวงตาของเหล่าสะใภ้ทอประกายระยับ ประคองใบหน้างดงามรับฟังเงียบๆ“ดังนั้นตอนนี้พวกเขายังหยุดอยู่ที่ใช้มีดถางป่าเผาไร่เพาะปลูก ใช้วิธีการพื้นฐานที่สุดในการ
“ตงอิ๋ง? ก็แค่แคว้นเล็กๆ เท่านั้น ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึง!”สายตาหลี่หลงหลินเผยแววหมิ่นแคลน“ตงอิ๋งเล็กๆ เป็นเพียงเกาะแห่งหนึ่งเท่านั้น เดิมทีก็ไม่คู่ควรต่อคำว่าทวีปใหม่สองคำนี้”ทุกคนตกตะลึงภายในความรู้ของเหล่าสะใภ้ ตงอิ๋งก็คือจุดสิ้นสุดของมหาสมุทรอันเวิ้งว้าง เหนือตงอิ๋งก็ไม่มีอันใดอีกคำพูดของหลี่หลงหลินทำให้ความรู้ที่พวกนางมีอยู่เปลี่ยนไปทั้งหมด!กงซูหว่านพูดเสียงสั่นๆ “องค์ชาย ความนัยของท่านคือนอกจากตงอิ๋งแล้วยังมีทวีปใหญ่อีกหรือ?”หลี่หลงหลินพยักหน้าและพูดว่า “ไม่เพียงมีทวีปใหญ่ แต่ยังเป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์อย่างมากอีกด้วย!”พูดไป สายตาหลี่หลงหลินก็ทอดมองไปยังทิศทางหนึ่งกงซูหว่านพูดด้วยความแปลกใจ “อุดมสมบูรณ์อย่างมาก? อุดมสมบูรณ์มากเพียงใด เทียบกับต้าเซี่ยแล้วเป็นเช่นไร?”สายตาทุกคนล้วนเปี่ยมความแปลกใจ วางตะเกียบและชามข้าวในมือลงรับฟังหลี่หลงหลินเล่าเรื่องทวีปใหม่เงียบๆหลี่หลงหลินส่ายหน้าและพูดว่า “แผ่นดินต้าเซี่ยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ มีผลผลิตและทรัพยากรมากมาย เป็นดินแดนอันอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่ง แต่ทวีปใหม่มีที่ราบมาก แผ่นดินอันอุดมสมบูรณ์ทอดยาวนับพันลี้ ทุกหนแห่งล้วนค