เซฟ PART
“เก็บแต้มอีกแล้วเหรอมึง”
“เออ..คนนี้ไม่น่าจะเกินอาทิตย์เดี๋ยวก็ได้มาร้องครางใต้ร่างกูละ”ผมมองไอมอสที่พอเดินเข้ามาก็พูดจาหมาไม่แดกทันทีน่าอนาถใจแทยยัยข้าวบูดชะมัดเลือกแฟนทั้งทีทำไมถึงไปเลือกไอเศษสวะแบบนี้มาก็ไม่รู้
“อย่างเอาอ่ะครับเพื่อน”ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มองพวกมันที่คุยเรื่องผู้หญิงกันอย่างสนุกปากตอนแรกที่ได้ยินยัยนั่นบอกมีแฟนผมก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองแต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องจริงสินะ
“ไอเซฟวันนี้ไปดื่มป่ะ?”
“ไม่อ่ะ”ผมตอบปฏิเสธก่อนจะก้มมองรองเท้าตัวเองที่มีรอยรองเท้าของยัยข้าวเน่าประทับอยู่ผมเห็นข้อความที่ยัยนั่นตอบกลับมาแล้วมันน่านักจริงๆรอก่อนเถอะกลับบ้านไปจะทำโทษให้เข็ด
“ยิ้มอะไรของมึงวะขนลุก”ผมหุบยิ้มทันทีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มอยู่แถมยังยิ้มทั้งๆที่นึกหน้ายัยข้าวเน่านั่นอีกหลังจากจบคลาสเรียนผมก็แยกตัวออกมาเพื่อตรงกลับบ้านในหัวนี่คิดแผนการแกล้งยัยข้าวเน่าสารพัดอย่าง
“เห้ยไอเซฟ”ผมมองไอมอสที่เรียกผมไอเวรนี่ต่อหน้าสาวทำเป็นสุภาพบุรุษแต่ความจริงแล้วเป็นไอสวะดีๆนี่เองเห็นว่าชอบไปหลอกเอาสาวเฉิ่มๆโลกส่วนตัวสูงมานอนด้วยก่อนจะถ่ายคลิปขู่เรียกเอาเงิน
แล้วยังไงล่ะพวกผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่กล้าหือกล้าอือไงสุดท้ายเลยต้องส่งเงินแลกกับการที่คลิปของตัวเองจะไม่หลุดว่อนโซเซี่ยลเดี๋ยวยัยเฉิ่มก็คงจะเป็นรายถัดไปสินะ
“มีไร”ผมเอ่ยถามไม่อยากจะเสวนาคุยกับมันสักนิด
“มึงรู้จักกับแฟนกูเหรอ”
“ไม่”ผมเอ่ยตอบเพราะถ้าบอกไปว่ารู้จักเดี๋ยวมันจะคิดว่าผมต้องเอาเรื่องชั่วๆไปบอกเธอแน่แล้วแบบนั้นยัยข้าวเน่าอาจจะเป็นอันตรายได้เพราะมันไม่เคยปล่อยเหยื่อให้หลุดมือไปแจ้งตำรวจหรอก
“งั้นสินะกูก็คิดว่าแฟนกูจะพูดโกหก”ผมมองไอมอสที่ทำหน้าโล่งใจออกมา
“ไม่มีไรละกูไปก่อน”หลังจากนั้นมันก็เดินจากไปอย่างอารมณ์ดีผมมองอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อไหร่สวะอย่างมันจะโดนจัดการสักทีวะแค่หายใจร่วมกันก็ขยะแขยงจะแย่
“พี่เซฟขาา”ผมถอนหายใจพรืดใหญ่มองกลุ่มนักศึกษาผู้หญิงที่กำลังพุ่งตรงมาทางผมเพราะไอเวรมอสตัวเดียวเลยมาขัดจังหวะการกลับบ้านของผมเนี่ย
“ครับ”ผมยิ้มรับในใจอยากจะอาเจียนกับกลิ่นน้ำหอมที่พวกเธอฉีดหรืออาบมาก็ไม่รู้แล้วแต่ละคนก็แต่ละกลิ่นอีก
เวียนหัวชะมัด!
“พวกหนูขอถ่ายรูปกับพี่เซฟหน่อยนะคะ^^”
“ฮ่าๆได้ครับๆขอถ่ายเป็นกลุ่มเลยนะพอดีพี่รีบ”ผมเอ่ยบอกที่ไม่ปฏิเสธเพราะเดี๋ยวสาวๆเขาจะน้อยใจเอาไอผมมันก็ยังต้องใช้หน้าตาหากินซะด้วยสิเผื่อใบหน้าของผมมันจะไปสะดุดสาวๆสวยๆตรงสเป็กให้มาจีบผมบ้าง
แต่เอาเข้าจริงผมก็เป็นคนเรื่องมากคนนึงเลยนะแม้กระทั่งการเลือกคบแฟนก็ด้วยในชีวิตนี้เลยมีแฟนอยู่แค่คนเดียวไงแถมยังจบกันไม่สวยอีกแต่ก็ช่างมันเหอะอดีตก็คืออดีตตอนนี้โสดพร้อมเปิดใจให้ทุกคน
“ป้าครับยัยข้าวบะเอ่อข้าวเจ้าอยู่ไหนครับ”ผมชะงักเกือบหลุดปากบอกชื่อแปลกๆออกไปให้ป้าของยัยข้าวบูดได้ยินซะแล้ว
“สงสัยยังหลับอยู่ค่ะคุณชาย”
“หลับเหรอครับ?”หลับมานอนหลับสบายใจเฉิบนี่เองเดี๋ยวโดนดีแน่ยัยเฉิ่มเอ้ย
“จ่ะสีหน้าก็ดูเพลียๆป้าพึ่งไปดูมารู้สึกว่าจะมีไข้ด้วยนะป้าเลยให้กินยานอนพักต่อ”
“งั้นเหรอครับขอบคุณครับ”ป่วยหรือนี่อนอยู่มหาลัยยังดูปกติดีแท้ๆหรือว่าแกล้งป่วยการเมืองหลบหน้าผมวะเพราะรู้ว่าผมกลับมายังไงก็จะต้องโดนแกล้งแน่ๆเลยชิงป่วยการเมือง
ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ คนแข็งแรงบึกบึนอย่างยัยข้าวเน่าไม่มีทางป่วยหรอก!
“คุณชายมีอะไรจะให้ยัยข้าวรับใช้รึเปล่าคะป้าจะไปเรียก”
“มะไม่มีครับผมแค่ถามดูเฉยๆขอบคุณมากครับป้า”ผมรีบเอ่ยตัดบทก่อนจะเดินเข้าบ้านมาอย่างเซ็งๆ
ป่วยจริงหรอ ป่วยแน่นะ ชิหงุดหงิดชะมัด
“ตาเซฟ ตาเซฟ”ผมมองแม่ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางผมในมือถืออะไรบางอย่างอยู่
“มีอะไรครับ”
“มาก็ดีแล้วเอาเจลลดไข้ไปให้หนูข้าวแทนแม่หน่อยแม่ต้องออกไปข้างนอกกับพ่อ”ผมขมวดคิ้วมองแม่ที่ยัดเจลลดไข้เย็นๆมาใส่มือผมสรุปยัยนั่นป่วยจริงเหรอเนี่ยไม่อยากจะเชื่อ
“แม่ครับผมเป็นผู้ชายวัย23ปีนะครับ”ผมเอ่นบอกกับแม่จะให้ผู้ชายโตเต็มวัยอย่างผมเข้าห้องผู้หญิงได้ยังไงกัน
“แม่เชื่อใจเรานะ^^”แม่ส่งยิ้มกลับมาให้ผมก่อนจะเดินควงแขนพ่อที่ไม่พูดอะไรเลยออกไป
ถามจริง!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ยัยเข้าเน่า เห้ยยัยแว่น ฮัลโหลล~”ผมเคาะประตูพร้อมกับส่งเสียงเรียกอยู่นานแต่ทว่าก็ได้ยินแต่ความเงียบเป็นคำตอบไม่ใช่ว่าเป็นไข้หนักนอนตายไปแล้วเหรอวะ
แกร้ก
“ให้ตายสิยัยนี่นอนไม่ล็อคประตูแบบนี้ไม่รู้จักอันตรายเลยสินะ”ผมเอ่ยบ่นขึ้นถึงแม้ว่าคนในบ้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงก็ตามมีแค่คนสวนกับคนขับรถที่เป็นผู้ชายและไม่ได้มาป้วนเปี้ยนในโซนห้องพักสาวใช้เท่าไหร่แต่แบบนี้มันก็ไม่อันตรายไปหน่อยรึไง
ผมเดินเข้าไปในห้องที่ค่อนข้างมืดห้องของสาวใช้ไม่ค่อยใหญ่มากเพราะสาวใช้นั้นมีค่อนข้างเยอะแต่ทว่าทุกคนก็ได้มีห้องเป็นของตัวเองเพื่อความเป็นส่วนตัวที่จริงพ่อกับแม่ของผมจะให้ยัยนี่ไปนอนที่ห้องรับแขกบ้านใหญ่เพราะเอ็นดู
แต่ทั้งป้าและยัยนี่ต่างก็ปฏิเสธและบอกว่าตัวเองไม่อยากมีสิทธิพิเศษเหนือใครเพราะตัวเองก็เป็นคนใช้เหมือนกันก็นะตอนได้ยินคำพูดแบบนั้นออกมาจากหน้าตาเฉิ่มๆของยัยนี่ผมก็ไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่หรอกดูก็รู้ว่าเป็นพวกเจียมเนื้อเจียมตัวในระดับนึงเลย
“นี่ตื่น”ผมสะกิดแขนบางที่โพล่พ้นออกมาจากผ้าห่มให้ตายสิรู้นะว่าป่วยแต่จะนอนแบบไม่เปิดทั้งแอร์หรือพัดลมแบบนี้คิดจะอบตัวเองตายอยู่ในห้องรึไงกัน
“อื้ออ”เสียงเล็กๆหลุดลอดออกมาพร้อมกับการขยับตัวนอนหงายใบหน้าของเธอขาวซีดจากที่เป็นคนตัวขาวเหมือนแป้งโกกิอยู่แล้วก็ยิ่งขาวขึ้นไปใหญ่เม็ดเหงื่อไหลย้อยจากขมับผ่านแก้มลงมายังลำคอที่กระเพื่อมตามจังหวะการหายใจ
กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาติดจมูกมันเป็นกลิ่นที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งเป็นกลิ่นที่หอมอ่อนๆเหมือนดอกไม้อะไรสักอย่าง
“ฮึกร้อน”
“เห้ยยัยบ้า!”ผมรีบตะขุบผ้าห่มมาปิดร่างกายของเธอทันทีเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่่ายนอนแบบใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นเท่านั้นแถมเมื่อกี้เสื้อของเธอก็เลิกขึ้นจนเห็นหน้าท้องขาวๆเลยด้วยไหนจะขาอ่อนที่เพียงเห็นแค่แวบเดียวแต่ก็อดทำผมใจเต้นตึกตักไม่ได้นี่เอง
“อยากจะบ้าตายจริงๆแม่คิดว่าผมเป็นพระรึไงถึงได้ฝากปลาย่างไว้กับแมวแบบนี้”ผมบ่นออกมาไม่อยากจะปลุกแล้วเลยเดินเข้าไปนั่งบนเตียงจับใบหน้าที่ไร้แว่นของเธอให้ตั้งตรงปัดปอยผมที่ปรกหน้าและเปียกชื้นของเธอออกเพื่อเคลียร์พื้นที่ในการแปะเจลลดไข้
“เห็นแบบนี้หน้าตาก็ดูดีนี่หว่า”ผมขมวดคิ้วเมื่อได้สังเกตใบหน้าของยัยข้าวบูดชัดๆเพราะแว่นที่เธอใส่ค่อนข้างจะกินใบหน้าของเธอไปเยอะแถมยังมีผมหน้าม้ามาปิดอีกก็เลยไม่ค่อยได้มองเท่าไหร่
ตอนถอดแว่นก็ไม่ได้สังเกตดีๆด้วยว่าใบหน้าของเธอจะเนียนขาวและนุ่มขนาดนี้
“แม่งเอ้ย”ผมสถบออกมาเมื่อรับรู้ถึงความตื่นตัวด้านล่างของตัวเองนึกด่าตัวเองในใจที่ดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาง่ายๆเพียงแค่จับใบหน้าผู้หญิงแถมผู้หญิงคนนั้นยังเป็นยัยเฉิ่มนี่อีก
“อึกเย็น”ผมรีบแปะเจลลดไข้ให้กับเธอจะได้รีบๆออกไปสักทีก่อนที่ผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“อยู่นิ่งๆ”
“อื้อเย็น”ผมถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อมือของเธอเริ่มปัดป่ายจนผมไม่ได้แปะเจลดีๆ
“ข้าวเจ้าอยู่นิ่งๆ”ผมพูดเสียงเข้มแต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังไม่หยุดดิ้นผมทนไม่ไหวสุดท้ายเลยขึ้นคล่อมเธอใช้มือข้างซ้ายรวบสองมือของเธอชูขึ้นเหนือศรีษะตั้งใจจะรีบแปะเจลแต่สายตาดันไปโฟกัสกับเนินอกของเธอที่กำลังเบียดชิดติดกันและแม่งโคตร..
เซ็กซี่ชิบหายเลยโว้ยยย!!
“อื้ออออ”
ผมกัดริมฝีปากแน่นตัดสินใจรีบแปะเจลลงไปก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้องทันที
ยัยข้าวเน่าทำไมเธอถึง...แม่งเอ้ยต้องรีบไปปลดปล่อยแล้ว!
โอ้ยยน้อออเอ็นคุณชายเซฟเขานะคะ
อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าา
ครืดด ฉันมองประตูที่ถูกเปิดออกโดยพนักงานสาวก่อนจะเผยให้เห็นพี่มอสแฟนของฉันที่นั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของไอบ้าเซฟนะแต่ที่ฉันยืนยันที่จะเข้ามาก็เพราะอยากทดสอบด้วยตัวเอง“ว้าวน้องข้าวนี่น้องข้าวจริงๆเหรอครับ” พี่มอสดูตกใจมากกับการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของฉันส่วนฉันก็ทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อนๆให้เขาพอได้ฟังเรื่องที่เซฟเล่าร่างกายของฉันมันก็รู้สึกขนลุกแปลกๆขึ้นมา“มันไม่ได้ดูแปลกใช่ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามมองพี่มอสที่ส่ายหน้ารัวๆ“ไม่ครับสวยมากเหมือนคนละคนเลย” ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งพร้อมกับประตูที่ปิดลง“ทานข้าวกันครับ” คนตรงหน้าเอ่ยชวนเราสองคนนั่งทานข้าวกันอย่างปกติทุกอย่างเป็นปกติมากและพี่มอสเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่น่าสงสัยอะไรเลยสักนิดหรือเรื่องที่เซฟเล่าจะไม่ใช่ความจริง ตาบ้านั่นต้องแต่งเรื่องมาหลอกให้ฉันขวัญเสียแน่ๆคงจะอิจฉาที่ฉันมีแฟนที่แสนดีแบบพี่มอสสินะ“อาหารถูกปากไหมพี่ตั้งใจจองร้านนี้มากเลยนะ”“อร่อยมากเลยค่ะ^^” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างเพราะอาหารมันอร่อยจริงๆ“ว่าแต่ทำไมถึงเปลี่ยนลุคขนาดนี้เลยล่ะครับ”“อ๋า..กะก็มันคือเดทแรกนิคะพี่มอสเองก็เป็นแฟนคนแรกของข้าวด้วย”
เซฟ PART“ตายจริงนี่หนูข้าวจริงๆหรอลูก”ผมเงยหน้าขึ้นจากถ้วยโจ๊กมองร่างเล็กที่เดินเข้ามาอย่างเขินอายเธออยู่ในชุดกระโปรงสีขาวผ้าชีฟองโชว์ไหล่ทั้งสองข้างผมจากที่เคยปล่อยและไม่เคยดูแลสนใจมันกลับม้วนขึ้นเผยให้เห็นลำคอขาวที่ประดับด้วยสร้อยสีเงินเส้นเล็กใบหน้าของเธอไม่มีแว่นตาและแม้จะมีหน้าม้าบดบังแต่ทว่ากลับดูมีสีสันจากการทาแก้มทาปากไม่จำเป็นต้องพูดถึงหุ่นเพราะถึงแม้ว่าเธอจะดูผอมไปนิดแต่ทุกสัดส่วนของเธอกลับเด่นชัดไม่ว่าจะเป็นหน้าอกหรือแม้ขาเรียวยาว“สวยจริงๆเลยน้า..ได้ข่าวว่าจะไปเดทกับแฟนใช่ไหม^^”“ชะใช่ค่ะ”เธอตอบกลับอย่างเขินอายก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาคาดเดาไม่ถูกทั้งๆที่บอกความจริงไปแล้วแต่ก็ยังไม่คิดที่จะบอกเลิกมันสินะแถมยังเปลี่ยนตัวเองจากสาวเฉิ่มเป็นสาวสวยเพื่อไปเดทกับสวะอย่างมันอีกเธอคิดอะไรอยู่ข้าวเจ้าอยากให้ใบหน้าและเรือนร่างของเธอถูกบันทึกไว้ในมือถือของสวะอย่างมันอย่างงั้นเหรอ“ตาเซฟหนูข้าวสวยมากเลยใช่ไหม^^”ผมมองแม่ที่ดูตื่นเต้นมากกว่าใครประหนึ่งว่าอีกฝ่ายเป็นลูกสาวคนโปรดก็ไม่ปาน“ก็พอดูได้ครับ” ผมเอ่ยตอบหน้านิ่งไม่ใช่แค่พอดูได้อยากที่พูดหรอกแต่นี่มันน่ารักมากเลยต่างหากแต่จะให้ช
“ระเราเลิกกันเถอะค่ะ”ฉันเอ่ยบอกออกไปมองหน้าพี่มอสที่ยืนสะตั้นอยู่ตรงหน้าฉัน“เดี๋ยวสิทำไมถึงบอกเลิกพี่ล่ะครับ?”พี่มอสปรี่เข้ามาจับมือฉันพร้อมกับสีหน้าของความร้อนรน“เมื่อวานพี่ไปที่ห้างมารึเปล่าคะ”“ก็ใช่ครับ”“ข้าวเห็นค่ะ..เห็นว่าพี่กำลังกอดกับผู้หญิงคนอื่น..”ฉันบอกออกไปพลันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจเล็กน้อยแม้ว่าเราสองคนจะยังรู้จักและคบกันได้ไม่นานแต่เป็นถึงแฟนคนแรกของฉันเลยนะและฉันก็คาดหวังกับความรักครั้งนี้มากจริงๆ“อุ๊บ..ฮ่าๆ”ฉันขมวดคิ้วมองพี่มอสที่หัวเราะลั่นออกมา“มันใช่เรื่องตลกเหรอคะพี่นอกใจข้าวนะ!”ฉันพูดด้วยความโมโห“ข้าวฟังพี่นะ..ผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่เอง”ฉันเบิกตาโตด้วยความตกใจจริงสิพี่มอสบอกว่าตัวเองมีน้องสาวด้วยนี่หน่างั้นแสดงว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่มอสจริงๆเหรอแต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยนะ“ข้าว..เฮ้อทำไมน่ารักอย่างนี้นะหึงพี่เหรอครับ”จู่ใบหน้าของฉันมันก็ร้อนขึ้นมาไม่ได้เพราะความเขินแต่อายล้วนๆ!“อะเอ่อ..ข้าวขอโทษนะคะที่ด่วนสรุปไปเองแบบนี้”ฉันบอกออกไปอย่างรู้สึกผิด เห้อไอเราก็คิดหนักมาตลอดทั้งคืนสุดท้ายก็แค่น้องสาวเองเหรอเนี่ยบ้าจริงฉัน“ไม่เป็นไรครับ..ถ้างั้นไปเดทกับ
วันต่อมาทำไม? ทำไม? ทำไมฉันต้องออกมาซื้อของกับไอบ้านี่ด้วยอ๊ากกกก!!เหตุมันเกิดขึ้นเนื่องจากว่าฉันได้รับไหว้วานให้ไปซื้อของที่ห้างซึ่งตอนแรกฉันก็กะจะไปเองนี่แหละแต่ไอบ้าเซฟมันดันลงมาพอดีพอแม่ของเขาถามว่ามีแพลนจะออกไปไหนทำอะไรไหมไอบื้อนั่นก็บอกว่าไม่มีและไงคะก็ได้เลยมาด้วยกันแบบงงๆนี่ไงทั้งๆที่ฉันปฏิเสธไปแล้วว่าจะมาเองแต่คุณหญิงก็คะยั้นคะยอบอกให้เซฟขับรถไปส่งฉันจนสุดท้ายก็ไม่มีใครต้านทานคำพูดอันทรงพลังได้ฉันเลยต้องยอมนั่งรถมากับไอตาหื่นกามนี่สองต่อสองทั้งๆที่พึ่งเกิดเรื่องอะไรแบบนั้นไปเมื่อวานนี้เองแท้ๆ“นั่งดีๆฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่ายัยข้าวเน่า”จู่ๆไอบ้าเซฟก็พูดขึ้นมาแต่เขาไม่ได้มองมาทางฉันเพราะกำลังตั้งใจขับรถอยู่“ไม่ฉันจะนั่งแบบนี้”ฉันพูดขึ้นอย่างจริงจังเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีก็เลยนั่งหันทั้งตัวหันทั้งหน้าไปจ้องอีกฝ่าย“ตามใจขอให้ตะคริวกินแล้วกัน”ฉันรับฟังแบบไม่ใส่ใจแต่ทว่าพอนั่งท่านี้นานๆก็แอบเมื่อยนะแถมยังรู้สึกเวียนหัวอีกฮื่ออ“อุแหวะ”ทันทีที่มาถึงห้างที่แรกที่ฉันไปก็คือห้องน้ำก่อนจะเข้าไปอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงเนื่องจากเมารถเป็นเพราะไอบ้าเซฟคนเดียวเลยมาทำให้ฉันหวาดระแวงไปหม
1อาทิตย์ต่อมาฉันยืนอยู่หน้าห้องของเซฟเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาสอนงานให้เขาแต่ทว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจู่ๆไอบ้านี่มันก็ทำตัวแปลกๆพอมองหน้าฉันทีไรเจ้าตัวก็จะรีบหลบหน้าไปทันทีจากที่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันเขาก็เงียบหายไปเลย“แปลกแหะ”แกร้ก“จะยืนบื้ออีกนานไหม”ฉันมองร่างสูงที่เปิดประตูออกมาบ่นใส่ฉันว่าแต่เขารู้ได้ยังไงว่าฉันยืนอยู่หน้าห้องเขากันหลังจากเข้าห้องไปฉันก็ไปนั่งประจำที่แต่สิ่งที่แปลกคือหมอนี่มันห่างจากฉันเป็นกิโลเลยนี่สิ“นี่ขยับมาหน่อยสิ”“สอนตรงนั้นนั่นแหละ”ฉันขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดมองใบหน้าหล่อที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาฉันเลยสักนิดไอบ้านี่มันเป็นอะไรของมันเนี่ยเมนส์มารึไง“ฉันไม่อยากตะโกนเขยิบเข้ามา”ฉันเอ่ยบอกมองเซฟที่ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะขยับมาอยู่ใกล้ฉันแต่ก็เว้นระยะห่างอยู่ดีแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วรีบๆสอนงานให้เขาเพราะคืนนี้ฉันมีนัดวีดีโอคอลกับพี่มอสแฟนสุดน่ารักของฉันน่ะสิ“วันนี้พอแค่นี้ละกัน” ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากสอนต่อเนื่องมาเกือบ3ชั่วโมงและเซฟก็ตั้งใจเรียนรู้ดีเอาจริงๆหมอนี่มันก็เก่งพอตัวเลยนะสอนอะไรไปนิดๆหน่อยๆก็ทำได้แล้ว“นี่ยัยข้าวบูด”ฉันชะงักมือที่กำล
เซฟ PART“เก็บแต้มอีกแล้วเหรอมึง”“เออ..คนนี้ไม่น่าจะเกินอาทิตย์เดี๋ยวก็ได้มาร้องครางใต้ร่างกูละ”ผมมองไอมอสที่พอเดินเข้ามาก็พูดจาหมาไม่แดกทันทีน่าอนาถใจแทยยัยข้าวบูดชะมัดเลือกแฟนทั้งทีทำไมถึงไปเลือกไอเศษสวะแบบนี้มาก็ไม่รู้“อย่างเอาอ่ะครับเพื่อน”ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มองพวกมันที่คุยเรื่องผู้หญิงกันอย่างสนุกปากตอนแรกที่ได้ยินยัยนั่นบอกมีแฟนผมก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองแต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องจริงสินะ“ไอเซฟวันนี้ไปดื่มป่ะ?” “ไม่อ่ะ”ผมตอบปฏิเสธก่อนจะก้มมองรองเท้าตัวเองที่มีรอยรองเท้าของยัยข้าวเน่าประทับอยู่ผมเห็นข้อความที่ยัยนั่นตอบกลับมาแล้วมันน่านักจริงๆรอก่อนเถอะกลับบ้านไปจะทำโทษให้เข็ด“ยิ้มอะไรของมึงวะขนลุก”ผมหุบยิ้มทันทีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มอยู่แถมยังยิ้มทั้งๆที่นึกหน้ายัยข้าวเน่านั่นอีกหลังจากจบคลาสเรียนผมก็แยกตัวออกมาเพื่อตรงกลับบ้านในหัวนี่คิดแผนการแกล้งยัยข้าวเน่าสารพัดอย่าง“เห้ยไอเซฟ”ผมมองไอมอสที่เรียกผมไอเวรนี่ต่อหน้าสาวทำเป็นสุภาพบุรุษแต่ความจริงแล้วเป็นไอสวะดีๆนี่เองเห็นว่าชอบไปหลอกเอาสาวเฉิ่มๆโลกส่วนตัวสูงมานอนด้วยก่อนจะถ่ายคลิปขู่เรียกเอาเงินแล้วยั