Share

ฝากปลาย่างไว้กับแมว

last update Terakhir Diperbarui: 2025-10-19 18:23:50

เซฟ PART

“เก็บแต้มอีกแล้วเหรอมึง”

“เออ..คนนี้ไม่น่าจะเกินอาทิตย์เดี๋ยวก็ได้มาร้องครางใต้ร่างกูละ”ผมมองไอมอสที่พอเดินเข้ามาก็พูดจาหมาไม่แดกทันทีน่าอนาถใจแทยยัยข้าวบูดชะมัดเลือกแฟนทั้งทีทำไมถึงไปเลือกไอเศษสวะแบบนี้มาก็ไม่รู้

“อย่างเอาอ่ะครับเพื่อน”ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มองพวกมันที่คุยเรื่องผู้หญิงกันอย่างสนุกปากตอนแรกที่ได้ยินยัยนั่นบอกมีแฟนผมก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองแต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องจริงสินะ

“ไอเซฟวันนี้ไปดื่มป่ะ?” 

“ไม่อ่ะ”ผมตอบปฏิเสธก่อนจะก้มมองรองเท้าตัวเองที่มีรอยรองเท้าของยัยข้าวเน่าประทับอยู่ผมเห็นข้อความที่ยัยนั่นตอบกลับมาแล้วมันน่านักจริงๆรอก่อนเถอะกลับบ้านไปจะทำโทษให้เข็ด

“ยิ้มอะไรของมึงวะขนลุก”ผมหุบยิ้มทันทีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มอยู่แถมยังยิ้มทั้งๆที่นึกหน้ายัยข้าวเน่านั่นอีกหลังจากจบคลาสเรียนผมก็แยกตัวออกมาเพื่อตรงกลับบ้านในหัวนี่คิดแผนการแกล้งยัยข้าวเน่าสารพัดอย่าง

“เห้ยไอเซฟ”ผมมองไอมอสที่เรียกผมไอเวรนี่ต่อหน้าสาวทำเป็นสุภาพบุรุษแต่ความจริงแล้วเป็นไอสวะดีๆนี่เองเห็นว่าชอบไปหลอกเอาสาวเฉิ่มๆโลกส่วนตัวสูงมานอนด้วยก่อนจะถ่ายคลิปขู่เรียกเอาเงิน

แล้วยังไงล่ะพวกผู้หญิงพวกนั้นก็ไม่กล้าหือกล้าอือไงสุดท้ายเลยต้องส่งเงินแลกกับการที่คลิปของตัวเองจะไม่หลุดว่อนโซเซี่ยลเดี๋ยวยัยเฉิ่มก็คงจะเป็นรายถัดไปสินะ

“มีไร”ผมเอ่ยถามไม่อยากจะเสวนาคุยกับมันสักนิด

“มึงรู้จักกับแฟนกูเหรอ” 

“ไม่”ผมเอ่ยตอบเพราะถ้าบอกไปว่ารู้จักเดี๋ยวมันจะคิดว่าผมต้องเอาเรื่องชั่วๆไปบอกเธอแน่แล้วแบบนั้นยัยข้าวเน่าอาจจะเป็นอันตรายได้เพราะมันไม่เคยปล่อยเหยื่อให้หลุดมือไปแจ้งตำรวจหรอก

“งั้นสินะกูก็คิดว่าแฟนกูจะพูดโกหก”ผมมองไอมอสที่ทำหน้าโล่งใจออกมา

“ไม่มีไรละกูไปก่อน”หลังจากนั้นมันก็เดินจากไปอย่างอารมณ์ดีผมมองอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อไหร่สวะอย่างมันจะโดนจัดการสักทีวะแค่หายใจร่วมกันก็ขยะแขยงจะแย่

“พี่เซฟขาา”ผมถอนหายใจพรืดใหญ่มองกลุ่มนักศึกษาผู้หญิงที่กำลังพุ่งตรงมาทางผมเพราะไอเวรมอสตัวเดียวเลยมาขัดจังหวะการกลับบ้านของผมเนี่ย

“ครับ”ผมยิ้มรับในใจอยากจะอาเจียนกับกลิ่นน้ำหอมที่พวกเธอฉีดหรืออาบมาก็ไม่รู้แล้วแต่ละคนก็แต่ละกลิ่นอีก

เวียนหัวชะมัด!

“พวกหนูขอถ่ายรูปกับพี่เซฟหน่อยนะคะ^^”

“ฮ่าๆได้ครับๆขอถ่ายเป็นกลุ่มเลยนะพอดีพี่รีบ”ผมเอ่ยบอกที่ไม่ปฏิเสธเพราะเดี๋ยวสาวๆเขาจะน้อยใจเอาไอผมมันก็ยังต้องใช้หน้าตาหากินซะด้วยสิเผื่อใบหน้าของผมมันจะไปสะดุดสาวๆสวยๆตรงสเป็กให้มาจีบผมบ้าง

แต่เอาเข้าจริงผมก็เป็นคนเรื่องมากคนนึงเลยนะแม้กระทั่งการเลือกคบแฟนก็ด้วยในชีวิตนี้เลยมีแฟนอยู่แค่คนเดียวไงแถมยังจบกันไม่สวยอีกแต่ก็ช่างมันเหอะอดีตก็คืออดีตตอนนี้โสดพร้อมเปิดใจให้ทุกคน

“ป้าครับยัยข้าวบะเอ่อข้าวเจ้าอยู่ไหนครับ”ผมชะงักเกือบหลุดปากบอกชื่อแปลกๆออกไปให้ป้าของยัยข้าวบูดได้ยินซะแล้ว

“สงสัยยังหลับอยู่ค่ะคุณชาย”

“หลับเหรอครับ?”หลับมานอนหลับสบายใจเฉิบนี่เองเดี๋ยวโดนดีแน่ยัยเฉิ่มเอ้ย

“จ่ะสีหน้าก็ดูเพลียๆป้าพึ่งไปดูมารู้สึกว่าจะมีไข้ด้วยนะป้าเลยให้กินยานอนพักต่อ”

“งั้นเหรอครับขอบคุณครับ”ป่วยหรือนี่อนอยู่มหาลัยยังดูปกติดีแท้ๆหรือว่าแกล้งป่วยการเมืองหลบหน้าผมวะเพราะรู้ว่าผมกลับมายังไงก็จะต้องโดนแกล้งแน่ๆเลยชิงป่วยการเมือง

ต้องเป็นแบบนี้แน่ๆ คนแข็งแรงบึกบึนอย่างยัยข้าวเน่าไม่มีทางป่วยหรอก!

“คุณชายมีอะไรจะให้ยัยข้าวรับใช้รึเปล่าคะป้าจะไปเรียก”

“มะไม่มีครับผมแค่ถามดูเฉยๆขอบคุณมากครับป้า”ผมรีบเอ่ยตัดบทก่อนจะเดินเข้าบ้านมาอย่างเซ็งๆ

ป่วยจริงหรอ ป่วยแน่นะ ชิหงุดหงิดชะมัด

“ตาเซฟ ตาเซฟ”ผมมองแม่ที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งมาทางผมในมือถืออะไรบางอย่างอยู่

“มีอะไรครับ”

“มาก็ดีแล้วเอาเจลลดไข้ไปให้หนูข้าวแทนแม่หน่อยแม่ต้องออกไปข้างนอกกับพ่อ”ผมขมวดคิ้วมองแม่ที่ยัดเจลลดไข้เย็นๆมาใส่มือผมสรุปยัยนั่นป่วยจริงเหรอเนี่ยไม่อยากจะเชื่อ

“แม่ครับผมเป็นผู้ชายวัย23ปีนะครับ”ผมเอ่นบอกกับแม่จะให้ผู้ชายโตเต็มวัยอย่างผมเข้าห้องผู้หญิงได้ยังไงกัน

“แม่เชื่อใจเรานะ^^”แม่ส่งยิ้มกลับมาให้ผมก่อนจะเดินควงแขนพ่อที่ไม่พูดอะไรเลยออกไป

ถามจริง!

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

“ยัยเข้าเน่า เห้ยยัยแว่น ฮัลโหลล~”ผมเคาะประตูพร้อมกับส่งเสียงเรียกอยู่นานแต่ทว่าก็ได้ยินแต่ความเงียบเป็นคำตอบไม่ใช่ว่าเป็นไข้หนักนอนตายไปแล้วเหรอวะ

แกร้ก

“ให้ตายสิยัยนี่นอนไม่ล็อคประตูแบบนี้ไม่รู้จักอันตรายเลยสินะ”ผมเอ่ยบ่นขึ้นถึงแม้ว่าคนในบ้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงก็ตามมีแค่คนสวนกับคนขับรถที่เป็นผู้ชายและไม่ได้มาป้วนเปี้ยนในโซนห้องพักสาวใช้เท่าไหร่แต่แบบนี้มันก็ไม่อันตรายไปหน่อยรึไง

ผมเดินเข้าไปในห้องที่ค่อนข้างมืดห้องของสาวใช้ไม่ค่อยใหญ่มากเพราะสาวใช้นั้นมีค่อนข้างเยอะแต่ทว่าทุกคนก็ได้มีห้องเป็นของตัวเองเพื่อความเป็นส่วนตัวที่จริงพ่อกับแม่ของผมจะให้ยัยนี่ไปนอนที่ห้องรับแขกบ้านใหญ่เพราะเอ็นดู

แต่ทั้งป้าและยัยนี่ต่างก็ปฏิเสธและบอกว่าตัวเองไม่อยากมีสิทธิพิเศษเหนือใครเพราะตัวเองก็เป็นคนใช้เหมือนกันก็นะตอนได้ยินคำพูดแบบนั้นออกมาจากหน้าตาเฉิ่มๆของยัยนี่ผมก็ไม่ค่อยตกใจเท่าไหร่หรอกดูก็รู้ว่าเป็นพวกเจียมเนื้อเจียมตัวในระดับนึงเลย

“นี่ตื่น”ผมสะกิดแขนบางที่โพล่พ้นออกมาจากผ้าห่มให้ตายสิรู้นะว่าป่วยแต่จะนอนแบบไม่เปิดทั้งแอร์หรือพัดลมแบบนี้คิดจะอบตัวเองตายอยู่ในห้องรึไงกัน

“อื้ออ”เสียงเล็กๆหลุดลอดออกมาพร้อมกับการขยับตัวนอนหงายใบหน้าของเธอขาวซีดจากที่เป็นคนตัวขาวเหมือนแป้งโกกิอยู่แล้วก็ยิ่งขาวขึ้นไปใหญ่เม็ดเหงื่อไหลย้อยจากขมับผ่านแก้มลงมายังลำคอที่กระเพื่อมตามจังหวะการหายใจ

กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมาติดจมูกมันเป็นกลิ่นที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งเป็นกลิ่นที่หอมอ่อนๆเหมือนดอกไม้อะไรสักอย่าง

“ฮึกร้อน”

“เห้ยยัยบ้า!”ผมรีบตะขุบผ้าห่มมาปิดร่างกายของเธอทันทีเมื่อรับรู้ว่าอีกฝ่่ายนอนแบบใส่เสื้อกล้ามและกางเกงขาสั้นเท่านั้นแถมเมื่อกี้เสื้อของเธอก็เลิกขึ้นจนเห็นหน้าท้องขาวๆเลยด้วยไหนจะขาอ่อนที่เพียงเห็นแค่แวบเดียวแต่ก็อดทำผมใจเต้นตึกตักไม่ได้นี่เอง

“อยากจะบ้าตายจริงๆแม่คิดว่าผมเป็นพระรึไงถึงได้ฝากปลาย่างไว้กับแมวแบบนี้”ผมบ่นออกมาไม่อยากจะปลุกแล้วเลยเดินเข้าไปนั่งบนเตียงจับใบหน้าที่ไร้แว่นของเธอให้ตั้งตรงปัดปอยผมที่ปรกหน้าและเปียกชื้นของเธอออกเพื่อเคลียร์พื้นที่ในการแปะเจลลดไข้

“เห็นแบบนี้หน้าตาก็ดูดีนี่หว่า”ผมขมวดคิ้วเมื่อได้สังเกตใบหน้าของยัยข้าวบูดชัดๆเพราะแว่นที่เธอใส่ค่อนข้างจะกินใบหน้าของเธอไปเยอะแถมยังมีผมหน้าม้ามาปิดอีกก็เลยไม่ค่อยได้มองเท่าไหร่

ตอนถอดแว่นก็ไม่ได้สังเกตดีๆด้วยว่าใบหน้าของเธอจะเนียนขาวและนุ่มขนาดนี้

“แม่งเอ้ย”ผมสถบออกมาเมื่อรับรู้ถึงความตื่นตัวด้านล่างของตัวเองนึกด่าตัวเองในใจที่ดันเกิดอารมณ์ขึ้นมาง่ายๆเพียงแค่จับใบหน้าผู้หญิงแถมผู้หญิงคนนั้นยังเป็นยัยเฉิ่มนี่อีก

“อึกเย็น”ผมรีบแปะเจลลดไข้ให้กับเธอจะได้รีบๆออกไปสักทีก่อนที่ผมจะควบคุมตัวเองไม่ได้

“อยู่นิ่งๆ”

“อื้อเย็น”ผมถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อมือของเธอเริ่มปัดป่ายจนผมไม่ได้แปะเจลดีๆ

“ข้าวเจ้าอยู่นิ่งๆ”ผมพูดเสียงเข้มแต่ทว่าเจ้าตัวก็ยังไม่หยุดดิ้นผมทนไม่ไหวสุดท้ายเลยขึ้นคล่อมเธอใช้มือข้างซ้ายรวบสองมือของเธอชูขึ้นเหนือศรีษะตั้งใจจะรีบแปะเจลแต่สายตาดันไปโฟกัสกับเนินอกของเธอที่กำลังเบียดชิดติดกันและแม่งโคตร..

เซ็กซี่ชิบหายเลยโว้ยยย!!

“อื้ออออ”

ผมกัดริมฝีปากแน่นตัดสินใจรีบแปะเจลลงไปก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้องทันที

ยัยข้าวเน่าทำไมเธอถึง...แม่งเอ้ยต้องรีบไปปลดปล่อยแล้ว!

โอ้ยยน้อออเอ็นคุณชายเซฟเขานะคะ

อย่าลืมคอมเม้นเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ตอนพิเศษ2

    หลายปีต่อมาฟอดดด“ตั้งใจทำงานนะ^^” ฉันหอมแก้มสามีฟอดใหญ่ก่อนที่เราสองคนจะแยกย้ายกันไปทำงานของตัวเองซึ่งโต๊ทำงานของฉันก็เพียงแค่อยู่นอกประตูเท่านั้นที่จริงเคยนั่งอยู่ในห้องเดียวกันแล้วแหละแต่ตัดสินใจย้ายไปนั่งข้างนอกแทนก็จะอะไรซะอีกล่ะหมอนั่งอยู่ด้วยกันไอหื่นกามนี่ก็เล่นจับฉันกดเช้ากดเย็นจนงานการล่าช้าไปหมดสุดท้ายฉันเลยตัดสินใจที่จะย้ายโต๊ะออกมาข้างนอกแทนบ้ากามจริงๆสามีใครก็ไม่รู้“สวัสดีครับพี่ข้าว”“อ่าวหวัดดี” ฉันมองพนักงานใหม่ที่พึ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงสัปดาห์ร่างสูงส่งยิ้มให้กับพร้อมกับวางกล่องขนมลงตรงหน้าฉัน“ทานให้อร่อยนะครับ^^”“อะเอ่อ..ขอบใจนะ” ฉันพูดอย่างเกร็งๆคือทุกคนในบริษัทต่างรู้ว่าฉันกับเซฟเราสองคนเป็นสามีภรรยากันแต่สำหรับน้องคนนี้คงยังไม่รู้สินะแกร้กฉันมองเซฟที่เปิดประตูออกมาได้จังหวะพอดีใบหน้าหล่อจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่เป็นมิตรทันทีฉันพึ่งจะออกมาแท้ๆเขาจะออกมาทำไมเนี่ย“สวัสดีครับท่านประธาน”“มาทำอะไร”“เอาขนมมาให้พี่ข้าวเจ้าครับ^^”“จะจีบ?”“อะเอ่อจะว่างั้นก็ได้ครับ^^” ฉันได้แต่ยืนเหงื่อแตกพลั่กๆหนูลูกพึ่งมาทำงานแท้ๆจะโดนตาบ้านั่นไล่ออกมั้ยเนี่ยนิสัยหวงเมียใครๆก็รู้

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ตอนพิเศษ

    2ปีต่อมาฉันกลายเป็นนักศึกษาปี4และที่สำคัญคือ…ฉันเรียนจบแล้วจ้าา!! ซึ่งวันนี้ก็เป็นวันรับปริญญาฉันเองแหละทุกคน>“ยินดีด้วยนะลูก”“ยินดีกับเกียรตินิยมอันดับ1ด้วยนะลูกสะใภ้” ฉันรับช่อดอกไม้มาด้วยความเขินอาย2ปีที่ผ่านมาฉันได้รับความรักจากพวกท่านทั้งสองเยอะมากๆพวกท่านเอ็นดูฉันสุดๆเดี๋ยวก็พาไปอวดคนนั้นคนนี้อ๊ะจริงสิฉันน่ะไม่ได้เป็นสาวเฉิ่มแล้วนะแว่นตาก็ไม่ได้ใส่แล้วเหตุเพราะฉันเองก็อยากปรับตัวให้เข้ากับเซฟด้วยเช่นกันแม้ว่าเจ้าตัวจะย้ำนักย้ำหนาว่าไม่เป็นไรแต่ที่ฉันปรับเปลี่ยนตัวเองมันไม่ใช่เพื่อคนอื่นแต่ก็เพื่อตัวฉันเองด้วยเช่นกันความจริงแล้วตาบ้านั่นก็แค่หึงน่ะเพราะฉันน่ะมันเป็นสาวสวยนี่“ยินดีด้วยนะข้าว” ฉันยิ้มรับอ้อมกอดจากป้าซึ่งก็ลาออกจากงานแม่บ้านแล้วแต่ก็ยังอยู่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ย้ายไปไหนเพราะพ่อกับแม่บอกว่าป้าได้เข้ามาเป็นครอบครัวด้วยตั้งแต่วันที่ฉันกับเซฟหมั้นกันแล้วแต่ป้าก็มักจะทำงานตามที่เคยทำแม้จะน้อยลงก็ตามที“น่าเสียดายนะที่ตาเซฟไม่ได้อยู่ด้วย” คุณแม่เอ่ยขึ้นพูดแล้วก็เศร้าเพราะหลังจากท่ีเซฟเรียนจบเขาก็เข้าทำงานที่บริษัทเพื่อเรียนรู้งานและตอนนี้ก็ทำงานอยู่สาขาต่างประเทศได

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   THE END

    หลังเลิกเรียนฉันก็กลับมาบ้านน่าตกใจตรงที่พอฉันกลับมาถึงพ่อกับแม่ของเซฟก็เรียกฉันไปคุยทันทีพวกท่านขอโทษฉันที่ทำให้ฉันต้องเจอกับเหตุการณ์แย่ๆในมหาลัยและบอกว่าเรื่องของนิต้าพวกท่านจะจัดการให้เองซึ่งฉันก็ได้แต่เอ่ยขอบคุณไปRrrr“อ๊ะเซฟ” ฉันยิ้มออกมาด้วยความดีใจเมื่อเซฟโทรเข้ามา“เซฟ!”(เอ่อไม่ใช่ไอเซฟหรอกพวกพี่เป็นเพื่อนมันเอง) ฉันชะงักไป“อ่าค่ะ..”(ไอเซฟมันเป็นไข้จนน่าจะกลับบ้านไม่ไหวแล้วน่ะน้องช่วยมารับมันหน่อยได้ไหม?) ฉันเบิกตาโตทันทีทั้งๆที่บอกแล้วว่าให้กลับมานอนพักก่อนแต่เซฟก็ยังดื้อดึงบอกงานใกล้เสร็จแล้วอยู่นั่น“ได้ค่ะจะรีบไปเลยค่ะ!” ฉันพูดก่อนจะตัดสายและรีบนั่งแท็กซี่ไปมหาลัยทันทีนี่เป็นครั้งแรกเลยแหะที่มามหาลัยช่วงกลางคืนบรรยากาศน่าขนลุกชะมัด“สวัสดีค่ะ” ฉันเอ่ยทักทายพวกเพื่อนๆของเซฟอย่างเกร็งๆกลิ่นน้ำมันเครื่องพุ่งออกมาจนฉันย่นจมูกสภาพแต่ละคนก็เปรอะเปื้อนไปหมดพวกพี่ๆเขาพอเห็นฉันก็ตกใจทันทีอ่าพวกเขาคงไม่ชินกับที่ฉันไม่ใส่แว่นรึเปล่านะ แล้วก็พอรู้ว่าจะมาเจอเพื่อนๆเขาฉันก็แอบแต่งหน้ามาเล็กน้อยด้วยก็นะมาหน้าสดๆก็เขินอยู่“มันนอนตายอยู่นู่นน่ะ”“เอ้าไอเวรไปแช่งเพื่อนอีก..มันแค่นอนห

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ไม่ต้องมาเสือกกับเรื่องของฉัน

    เซฟ PARTปรื๊ดด!!“เวรเอ้ย” ผมสถบออกมาเมื่อจู่ๆก็มีใครไม่รู้มาตัดหน้ารถผมถ้าตีนไม่ไวมีหวังร่างแหลกไปแล้ว“นิต้า?” ผมขมวดคิ้วเป็นเธอนั่นเองที่กระโดดมาตัดหน้ารถผม“ไม่อยากเจอเลยว่ะแม่ง” ผมสถบในใจกะจะรีบไปคุยกับข้าวเจ้าแท้ๆ“อะไรของเธออีก” ผมลดกระจกลงพร้อมกับเอ่ยถาม“นิต้ามีเรื่องจะคุย”“พูดมา”“ตรงนี้น่ะหรอ” เวรเอ้ยลืมไปเลยว่าอยู่กลางถนน“ขึ้นมา” สุดท้ายผมก็ต้องให้นิต้าขึ้นมาบนรถสงสัยต้องขายรถนี้ทิ้งซะแล้วสิ“สีหน้าดูไม่ดีเลยนะไม่สบายหรอ”“ไม่ต้องมายุ่ง” ผมตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์และหันมาตั้งใจขับรถแทนไว้เดี๋ยวค่อยปล่อยเธอลงก่อนถึงมหาลัยก็ได้“จะคุยอะไรก็รีบๆพูดมา” ทั้งๆที่บอกว่ามีเรื่องจะคุยแต่ก็เอาแต่นั่งเงียบอยู่ได้ผู้หญิงมันเป็นงี้หมดทุกคนเลยรึไงกันชอบยั่วให้โมโหอยู่ได้วันนี้สภาพร่างกายก็ไม่ดีสุดทั้งปวดหัวตัวร้อนจนแม่บอกให้พักผ่อนแต่เพราะผมต้องรีบทำโปรเจคจบให้เสร็จคืนนี้เพื่อที่พรุ่งนี้ที่เป็นวันเกิดผมจะได้ใช้เวลาอยู่กับข้าวเจ้าทั้งวัน“นี่นายจะให้ผู้หญิงแบบนั้นมาอยู่ข้างกายนายจริงๆหรอ?” ผมขมวดคิ้วทันทีเปิดปากพูดออกมาก็ไม่เข้าหูสักนิด“แบบนั้นมันแบบไหน”“ก็ยัยนั่นทั้งขี้เหร่ฐานะก็ไม่

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   เธอเลิกกับพี่เซฟแล้วงั้นสิ

    เซฟ PART“เป็นอะไร”ผมเอ่ยถามข้าวเจ้าที่นั่งเงียบมาตลอดการเดินทาง“แค่กๆ” นี่ไม่ใช่เสียงไอของเธอแต่เป็นของผมเองรู้สึกคั่นเนื้อคั่นตัวหลังจากที่ได้กินข้าวตอนเข้าเรียนคาบบ่ายก็แถมจะฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลยสักนิดสงสัยน่าจะเป็นไข้แต่ก็สมควรอยู่เล่นหามรุ่งหามค่ำทำโปรเจ็กจบจนโดนยุงกัดตัวลายก็ยอมเพราะว่าใกล้ถึงวันเกิดของผมแล้วและผมก็อยากใช้เวลาในช่วงวันเกิดกับคนที่ผมชอบโชคดีที่พวกเพื่อนๆ มันเข้าใจพร้อมหามรุ่งหามค่ำไปกับผมด้วย“หูตึงรึไงยังข้าวเน่าฉันถามว่าเธอเป็นอะไร” หลังจากจอดติดไฟแดงผมก็หันมาถามเธอด้วยสีหน้าจริงจังแต่ทว่าในดวงตาของเธอกลับมีน้ำตาคลออยู่“เห้ยเป็นอะไรใครทำอะไรอีก” ผมใช้สองมือจับใบหน้าของเธอให้หันมามองผมตรงๆ รู้สึกกระวนกระวายกลัวว่าเธอจะโดนใครไม่รู้โจมตีอีก“ปะป่าวแค่ฝุ่นมันเข้าตาน่ะ” ผมขมวดคิ้วแต่ทว่าก็ต้องรีบปล่อยมือออกเพราะไฟเขียวแล้วไว้ถึงบ้านค่อยคุยกันก็ได้วะ“ฉันไปช่วยป้าเตรียมมื้อเย็นก่อนนะ” ผมมองข้าวเจ้าที่พูดขึ้นโดยไม่สบตาผม“เดี๋ยว” ผมรั้งแขนเธอไว้เพราะรู้สึกตะหงิดใจแปลกๆ“ไม่ได้เป็นอะไรแน่นะ..มีไรจะพูดก็พูดออกมาเลยฉันไม่ชอบที่เธอเป็นแบบนี้” ผมพูดตรงๆ ผมชอบที่เราสอง

  • อย่าแตะต้องยัยเฉิ่มของผม   ฉันชอบเธอ

    “นี่เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก” ฉันรีบดันใบหน้าหล่อให้ถอยออกมองริมฝีปากของอีกฝ่ายที่เลอะลิปสติกของฉันเซฟในตอนนี้เขาหายใจแรงมากเหมือนพยายามควบคุมความต้องการของตัวเองอยู่แกร้กฉันกระพริบตาปริบๆมองเซฟที่ทำการปลดสร้อยเกรียร์ของเขาออกก่อนจะมาสวมให้กับฉันนี่มันหมายความว่ายังไงกัน..“เซฟ..” ฉันเอ่ยชื่อเขาอย่างไม่เข้าใจในการกระทำนี้การให้สร้อยเกรียร์ของคณะวิศวะเขาว่ากันว่ามันคือของแทนใจที่จะให้กับหญิงสาวที่รักไม่ใช่หรอร่างสูงเงียบไปแต่ทว่าใบหน้าของเขากลับขึ้นสีแดงอย่างเห็นได้ชัดนี่เขาชอบฉันจริงๆสินะ“ไหนบอกว่าไม่ได้ชอบฉันไง” ฉันเอ่ยถามมองเซฟที่หลบสายตาฉันเขาเขินแหละแต่เก๊กอยู่“ก็ไม่ได้ชอบ” เจ้าตัวตอบปฏิเสธกลับมาแต่ฉันดันคิดว่ามันน่าเอ็นดูมากที่ปากของเขาไม่ตรงกับใจถึงขนาดนี้“ไม่ได้ชอบแล้วให้สร้อยเกียร์กับฉันทำไม” ฉันถามพรางยื่นใบหน้าไปไกลๆจนอีกฝ่ายชะงักไป“นายรู้รึเปล่าว่าการให้นสร้อยนี่กับฉันมันหมายความว่าอะไร?“กะก็แค่สร้อยธรรมดาๆ” เซฟยังคงปากแข็ง“ถ้างั้นฉันถอดนะ” ฉันทำท่าจะถอด“ชอบ”“....”“ฉันชอบเธอข้าวเจ้า” ฉันได้แต่ยืนช็อกกับคำสารภาพรักของเซฟ“เพราะงั้น..” จู่ๆเซฟก็ดึงฉันไปกอดใบหน้าหล่อฝ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status