วันต่อมา
ทำไม? ทำไม? ทำไมฉันต้องออกมาซื้อของกับไอบ้านี่ด้วยอ๊ากกกก!!
เหตุมันเกิดขึ้นเนื่องจากว่าฉันได้รับไหว้วานให้ไปซื้อของที่ห้างซึ่งตอนแรกฉันก็กะจะไปเองนี่แหละแต่ไอบ้าเซฟมันดันลงมาพอดีพอแม่ของเขาถามว่ามีแพลนจะออกไปไหนทำอะไรไหมไอบื้อนั่นก็บอกว่าไม่มี
และไงคะ
ก็ได้เลยมาด้วยกันแบบงงๆนี่ไงทั้งๆที่ฉันปฏิเสธไปแล้วว่าจะมาเองแต่คุณหญิงก็คะยั้นคะยอบอกให้เซฟขับรถไปส่งฉันจนสุดท้ายก็ไม่มีใครต้านทานคำพูดอันทรงพลังได้ฉันเลยต้องยอมนั่งรถมากับไอตาหื่นกามนี่สองต่อสองทั้งๆที่พึ่งเกิดเรื่องอะไรแบบนั้นไปเมื่อวานนี้เองแท้ๆ
“นั่งดีๆฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่ายัยข้าวเน่า”จู่ๆไอบ้าเซฟก็พูดขึ้นมาแต่เขาไม่ได้มองมาทางฉันเพราะกำลังตั้งใจขับรถอยู่
“ไม่ฉันจะนั่งแบบนี้”ฉันพูดขึ้นอย่างจริงจังเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีก็เลยนั่งหันทั้งตัวหันทั้งหน้าไปจ้องอีกฝ่าย
“ตามใจขอให้ตะคริวกินแล้วกัน”ฉันรับฟังแบบไม่ใส่ใจแต่ทว่าพอนั่งท่านี้นานๆก็แอบเมื่อยนะแถมยังรู้สึกเวียนหัวอีกฮื่ออ
“อุแหวะ”ทันทีที่มาถึงห้างที่แรกที่ฉันไปก็คือห้องน้ำก่อนจะเข้าไปอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงเนื่องจากเมารถเป็นเพราะไอบ้าเซฟคนเดียวเลยมาทำให้ฉันหวาดระแวงไปหมด
“สมน้ำหน้า”ทันทีที่ฉันออกมาจากห้องน้ำก็เจอร่างสูงยืนพูดล้อฉันอย่างอารมณ์ดี
นี่คงมีแต่ฉันที่ผิดปกติสินะนี่เขาไม่รู้สึกบาปกับตัวเองบ้างรึไงที่มาแข็งใส่ผู้หญิงแบบนี้แต่ก็นะได้ข่าวว่าเป็นเสือผู้หญิงพอตัวเลยนี่คงจะโดนสาวๆปลุกเร้าอารมณ์บ่อยครั้งไม่ใช่ว่าเพียงแค่แตะตัวก็แข็งขึ้นมาหรอกใช่ไหม
จิ้มๆ
“ทำบ้าอะไร”ใบหน้าหล่อหันมาถามฉันเมื่อฉันเอานิ้วจิ้มๆแขนเขา
“แข็งป่ะ?”
“อะไรแข็ง”ฉันลากสายตาต่ำมายังเป้าของเขา
“ยัยบ้านี่!”มือหนารีบจับใบหน้าของฉันให้เงยขึ้นทันทีพร้อมกับทำหน้าเหมือนจะตีฉันให้ตาย
“เอ้าอะไรอ่ะก็แค่พิสูนจ์ดูว่านายมันจะโรคจิตแค่ไหนก็เท่านั้นเอง”
“มานี่!”
“อ๊ะจะไปไหน!”จู่ๆฉันก็โดนาหื่นกามนี่ลากกลับไปยังลานจอดรถร่างสูงดันฉันเข้าไปในรถก่อนที่เขาจะเดินขึ้นมานั่งประจำที่
“นี่นายคิดจะทำอะไรฉันใช่ไหม”ฉันรีบยกสองมือปิดตัวเองทันทีนี่มันที่จอดรถในห้างดังเลยนะเว้ยเขาคิดจะทำอะไรหื่นกามที่นี่อย่างนั้นรึโรคจิตที่สุด!
“เห้อยัยข้าวเน่าเอ้ย”จู่ๆอีกฝ่ายก็ถอนหายใจออกมายาวๆมือหนาเสยผมไปด้านหลังเหมือนพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอยู่
“เธอเป็นบ้าอะไรหะโรคจิตรึไงถึงได้มองเป้าผู้ชายกลางห้างแบบนั้น”เซฟหันมาถามฉันอย่างหัวเสีย
“ใครกันแน่ที่โรคจิตเมื่อวานนาย..”ฉันชะงักคำพูดไปเพราะมันน่าอายเกินกว่าจะพูดออกมานี่สิ
“นี่ฟังนะไม่ว่าจะผู้ชายคนไหนเจอผู้หญิงมาดิ้นๆอยู่บนตัวมันก็แข็งเหมือนกันหมดนั่นแหละ”เซฟพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่ฉันไม่เชื่อหรอกคนที่เป็นแบบนั้นได้มีแต่พวกโรคจิตเท่านั้นแหละ!
“ฉันไม่เชื่อ”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังตอบกลับไป
“ไม่เชื่อใช่ไหม?”
“ใช่ไม่เชื่อ!”ฉันส่ายหน้าให้ตายยังไงก็ไม่เชื่อหรอก
“ได้ งั้นก็มาพิสูนจ์เองเลยมา”
“กรี๊ดนายจะทำบ้าเฮือกก..”ฉันตัวแข็งทันทียามที่มือหนาจับมือฉันให้ไปวางทาบกับส่วนนั้นของเขาและแน่นอนว่าฉันก็รีบชักมือกลับทันที
“นี่นาย!!”
“เห็นไหมล่ะว่ามันไม่ได้แข็งตัวง่ายขนาดนั้น”ฉันยังไม่ทันจะได้ด่าร่างสูงก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อน
“โรคจิต!”ฉันมองเขาเขม็งใครจะคิดว่าไอบ้านี่จะใช้วิธีนี้ในการบอกฉันกัน
เออเชื่อก็เชื่อ!
“รีบลงไปซื้อของซะฉันจะรออยู่ที่รถ”เซฟเอ่ยขึ้นจริงสิเรามาห้างเพื่อซื้อของนี่หน่ากะว่าจะรีบไปรีบกลับแต่ดันมาเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องซะได้
“ไม่ต้องหรอกนายกลับไปเถอะฉันนั่งรถเมล์กลับได้”ฉันเอ่ยบอกแค่นี้ก็อึดอัดกันจะตายอยู่แล้ว
“ฉันเป็นเจ้านายเธอนะอย่าลืมยัยข้าวบูด”ฉันมองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากลงจากยอมเขาและเจ้านายที่ไหนมันอยู่รอคนใช้ซื้อของและขับรถไปรับไปส่งคนใช้แบบนี้กัน
จิ๊ น่าหงุดหงิดจริงๆ
พอกลับเข้ามาในห้างอีกครั้งฉันก็เปิดดูรายการที่ต้องซื้อส่วนใหญ่เป็นพวกสกินแคร์ของเค้าท์เตอร์แบรนด์ต่างๆคุณหญิงคงไม่มีเวลามาซื้อเองสินะช่วงนี้ทั้งคู่ก็ทำงานหนักกันมากแต่ลูกชายตัวดียังเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ
ฉันนี่เพลียใจแทนจริ๊งๆ
ฉันเดินซื้อของอย่างชิวๆเอาจริงๆพยายามทำให้ช้าที่สุดเพื่อดึงเวลาให้ไอบ้านั่นโมโหเล่นจนทนรอไม่ไหวแต่ตอนนี้ก็ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มีสายหรือข้อความทักมาบอกว่าไม่อยู่รอแล้วเลย
เอาจริงดิ่ นี่ฉันต้องกลับบ้านกับไอคนที่ดึงมือฉันไปจับตรงนั้นของเขาจริงๆอะนะ
ขนลุกก~
“อ๊ะ”สายตาของฉันหันไปเห็นร่างคุ้นตาก่อนจะฉีกยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจมองผู้ชายที่ยืนเล่นมือถือเหมือนรอใครอยู่ก็ไม่รู้และผู้ชายคนนั้นก็คือพี่มอสแฟนฉันเอง><
นี่มันพรมลิขิตชัดๆทำไมเราสองคนถึงมาเจอกันที่นี่โดยไม่ได้นัดหมายกันด้วยนะก็เพราะว่ามันคือพรมลิขิตไง
“พะมอ..!”ฉันชะงักทั้งขาและปากที่กำลังจะเอ่ยเรียกแฟนตัวเองมองหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังเดินเข้าไปหาพี่มอสและทั้งสองคนก็กอดกันอย่างหวานชื่นโดยที่พี่มอสเองก็อ้าแขนรับกอดจากหญิงสาวด้วยรอยยิ้ม
นะนี่มันอะไรกัน
“กลับ”
“อ๊ะ?”ฉันสะดุ้งด้วยความตกใจจู่ๆเซฟก็เข้ามาจับมือฉันก่อนจะลากฉันให้เดินตามเขาไปซึ่งฉันที่ยังงงๆอยู่ก็เดินตามเขาไปแบบง่ายดายแถมยังไม่รู้เลยว่าเขาหาฉันเจอได้ยังไง
ปึก
เสียงประตูรถถูกปิดลงพร้อมกับร่างสูงของเซฟที่เข้ามานั่งประจำที่
“วิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้วรึไง”เซฟเอ่ยขึ้นแต่ฉันก็ไม่มีกระจิตกระใจจะตอบคำถามของอีกฝ่ายสักนิด
เมื่อกี้มันคืออะไร ภาพที่ฉันเห็นมันคืออะไรกัน
“เมื่อกี้นายก็เห็นใช่ไหม”
“เห็นอะไร”
“แฟนของฉันกำลังกอดกับผู้หญิงคนอื่น”ฉันเอ่ยถามเซฟตอนนี้ในหัวมันตื้อไปหมดเลยตัวก็ชาวาบไปหมด
“เห็นแบบนั้นแล้วก็เลิกยุ่งกับมันซะมันไม่ได้เป็นคนดีอย่างที่เธอคิดหรอก”คำพูดของเซฟทำฉันขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“นายหมายความว่ายังไง?”
“จะหมายความว่าอะไรได้อีกนอกจากว่าแฟนเธอมันเป็นไอเศษสวะไง”ใบหน้าหล่อหันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงจริงจังก่อนจะหันกลับไปขับรถต่อส่วนฉันก็ได้แต่นั่งนิ่งเพราะยังช็อกกับสิ่งที่ได้ยินและภาพที่ได้เห็นอยู่เมื่อกี้
นี่พี่มอสนอกใจฉันจริงๆเหรอ
ผู้ชายที่แสนดีและมักจะยิ้มอย่างอบอุ่นให้ฉันเนี่ยนะนอกใจฉัน
มันเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ...
จริงจ้าลูกสาววว เลิกเลยยย
ครืดด ฉันมองประตูที่ถูกเปิดออกโดยพนักงานสาวก่อนจะเผยให้เห็นพี่มอสแฟนของฉันที่นั่งอยู่ก่อนแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคำพูดของไอบ้าเซฟนะแต่ที่ฉันยืนยันที่จะเข้ามาก็เพราะอยากทดสอบด้วยตัวเอง“ว้าวน้องข้าวนี่น้องข้าวจริงๆเหรอครับ” พี่มอสดูตกใจมากกับการแปลงโฉมครั้งใหญ่ของฉันส่วนฉันก็ทำได้แค่ส่งยิ้มอ่อนๆให้เขาพอได้ฟังเรื่องที่เซฟเล่าร่างกายของฉันมันก็รู้สึกขนลุกแปลกๆขึ้นมา“มันไม่ได้ดูแปลกใช่ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามมองพี่มอสที่ส่ายหน้ารัวๆ“ไม่ครับสวยมากเหมือนคนละคนเลย” ฉันหัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินไปนั่งพร้อมกับประตูที่ปิดลง“ทานข้าวกันครับ” คนตรงหน้าเอ่ยชวนเราสองคนนั่งทานข้าวกันอย่างปกติทุกอย่างเป็นปกติมากและพี่มอสเองก็ไม่ได้แสดงท่าทางที่น่าสงสัยอะไรเลยสักนิดหรือเรื่องที่เซฟเล่าจะไม่ใช่ความจริง ตาบ้านั่นต้องแต่งเรื่องมาหลอกให้ฉันขวัญเสียแน่ๆคงจะอิจฉาที่ฉันมีแฟนที่แสนดีแบบพี่มอสสินะ“อาหารถูกปากไหมพี่ตั้งใจจองร้านนี้มากเลยนะ”“อร่อยมากเลยค่ะ^^” ฉันพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้างเพราะอาหารมันอร่อยจริงๆ“ว่าแต่ทำไมถึงเปลี่ยนลุคขนาดนี้เลยล่ะครับ”“อ๋า..กะก็มันคือเดทแรกนิคะพี่มอสเองก็เป็นแฟนคนแรกของข้าวด้วย”
เซฟ PART“ตายจริงนี่หนูข้าวจริงๆหรอลูก”ผมเงยหน้าขึ้นจากถ้วยโจ๊กมองร่างเล็กที่เดินเข้ามาอย่างเขินอายเธออยู่ในชุดกระโปรงสีขาวผ้าชีฟองโชว์ไหล่ทั้งสองข้างผมจากที่เคยปล่อยและไม่เคยดูแลสนใจมันกลับม้วนขึ้นเผยให้เห็นลำคอขาวที่ประดับด้วยสร้อยสีเงินเส้นเล็กใบหน้าของเธอไม่มีแว่นตาและแม้จะมีหน้าม้าบดบังแต่ทว่ากลับดูมีสีสันจากการทาแก้มทาปากไม่จำเป็นต้องพูดถึงหุ่นเพราะถึงแม้ว่าเธอจะดูผอมไปนิดแต่ทุกสัดส่วนของเธอกลับเด่นชัดไม่ว่าจะเป็นหน้าอกหรือแม้ขาเรียวยาว“สวยจริงๆเลยน้า..ได้ข่าวว่าจะไปเดทกับแฟนใช่ไหม^^”“ชะใช่ค่ะ”เธอตอบกลับอย่างเขินอายก่อนจะหันมามองผมด้วยสายตาคาดเดาไม่ถูกทั้งๆที่บอกความจริงไปแล้วแต่ก็ยังไม่คิดที่จะบอกเลิกมันสินะแถมยังเปลี่ยนตัวเองจากสาวเฉิ่มเป็นสาวสวยเพื่อไปเดทกับสวะอย่างมันอีกเธอคิดอะไรอยู่ข้าวเจ้าอยากให้ใบหน้าและเรือนร่างของเธอถูกบันทึกไว้ในมือถือของสวะอย่างมันอย่างงั้นเหรอ“ตาเซฟหนูข้าวสวยมากเลยใช่ไหม^^”ผมมองแม่ที่ดูตื่นเต้นมากกว่าใครประหนึ่งว่าอีกฝ่ายเป็นลูกสาวคนโปรดก็ไม่ปาน“ก็พอดูได้ครับ” ผมเอ่ยตอบหน้านิ่งไม่ใช่แค่พอดูได้อยากที่พูดหรอกแต่นี่มันน่ารักมากเลยต่างหากแต่จะให้ช
“ระเราเลิกกันเถอะค่ะ”ฉันเอ่ยบอกออกไปมองหน้าพี่มอสที่ยืนสะตั้นอยู่ตรงหน้าฉัน“เดี๋ยวสิทำไมถึงบอกเลิกพี่ล่ะครับ?”พี่มอสปรี่เข้ามาจับมือฉันพร้อมกับสีหน้าของความร้อนรน“เมื่อวานพี่ไปที่ห้างมารึเปล่าคะ”“ก็ใช่ครับ”“ข้าวเห็นค่ะ..เห็นว่าพี่กำลังกอดกับผู้หญิงคนอื่น..”ฉันบอกออกไปพลันรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวใจเล็กน้อยแม้ว่าเราสองคนจะยังรู้จักและคบกันได้ไม่นานแต่เป็นถึงแฟนคนแรกของฉันเลยนะและฉันก็คาดหวังกับความรักครั้งนี้มากจริงๆ“อุ๊บ..ฮ่าๆ”ฉันขมวดคิ้วมองพี่มอสที่หัวเราะลั่นออกมา“มันใช่เรื่องตลกเหรอคะพี่นอกใจข้าวนะ!”ฉันพูดด้วยความโมโห“ข้าวฟังพี่นะ..ผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่เอง”ฉันเบิกตาโตด้วยความตกใจจริงสิพี่มอสบอกว่าตัวเองมีน้องสาวด้วยนี่หน่างั้นแสดงว่าผู้หญิงคนนั้นคือน้องสาวพี่มอสจริงๆเหรอแต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยนะ“ข้าว..เฮ้อทำไมน่ารักอย่างนี้นะหึงพี่เหรอครับ”จู่ใบหน้าของฉันมันก็ร้อนขึ้นมาไม่ได้เพราะความเขินแต่อายล้วนๆ!“อะเอ่อ..ข้าวขอโทษนะคะที่ด่วนสรุปไปเองแบบนี้”ฉันบอกออกไปอย่างรู้สึกผิด เห้อไอเราก็คิดหนักมาตลอดทั้งคืนสุดท้ายก็แค่น้องสาวเองเหรอเนี่ยบ้าจริงฉัน“ไม่เป็นไรครับ..ถ้างั้นไปเดทกับ
วันต่อมาทำไม? ทำไม? ทำไมฉันต้องออกมาซื้อของกับไอบ้านี่ด้วยอ๊ากกกก!!เหตุมันเกิดขึ้นเนื่องจากว่าฉันได้รับไหว้วานให้ไปซื้อของที่ห้างซึ่งตอนแรกฉันก็กะจะไปเองนี่แหละแต่ไอบ้าเซฟมันดันลงมาพอดีพอแม่ของเขาถามว่ามีแพลนจะออกไปไหนทำอะไรไหมไอบื้อนั่นก็บอกว่าไม่มีและไงคะก็ได้เลยมาด้วยกันแบบงงๆนี่ไงทั้งๆที่ฉันปฏิเสธไปแล้วว่าจะมาเองแต่คุณหญิงก็คะยั้นคะยอบอกให้เซฟขับรถไปส่งฉันจนสุดท้ายก็ไม่มีใครต้านทานคำพูดอันทรงพลังได้ฉันเลยต้องยอมนั่งรถมากับไอตาหื่นกามนี่สองต่อสองทั้งๆที่พึ่งเกิดเรื่องอะไรแบบนั้นไปเมื่อวานนี้เองแท้ๆ“นั่งดีๆฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกหน่ายัยข้าวเน่า”จู่ๆไอบ้าเซฟก็พูดขึ้นมาแต่เขาไม่ได้มองมาทางฉันเพราะกำลังตั้งใจขับรถอยู่“ไม่ฉันจะนั่งแบบนี้”ฉันพูดขึ้นอย่างจริงจังเพราะกลัวว่าเขาจะทำอะไรไม่ดีก็เลยนั่งหันทั้งตัวหันทั้งหน้าไปจ้องอีกฝ่าย“ตามใจขอให้ตะคริวกินแล้วกัน”ฉันรับฟังแบบไม่ใส่ใจแต่ทว่าพอนั่งท่านี้นานๆก็แอบเมื่อยนะแถมยังรู้สึกเวียนหัวอีกฮื่ออ“อุแหวะ”ทันทีที่มาถึงห้างที่แรกที่ฉันไปก็คือห้องน้ำก่อนจะเข้าไปอ้วกแบบหมดไส้หมดพุงเนื่องจากเมารถเป็นเพราะไอบ้าเซฟคนเดียวเลยมาทำให้ฉันหวาดระแวงไปหม
1อาทิตย์ต่อมาฉันยืนอยู่หน้าห้องของเซฟเพราะวันนี้เป็นวันที่ฉันต้องมาสอนงานให้เขาแต่ทว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาจู่ๆไอบ้านี่มันก็ทำตัวแปลกๆพอมองหน้าฉันทีไรเจ้าตัวก็จะรีบหลบหน้าไปทันทีจากที่เคยเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันเขาก็เงียบหายไปเลย“แปลกแหะ”แกร้ก“จะยืนบื้ออีกนานไหม”ฉันมองร่างสูงที่เปิดประตูออกมาบ่นใส่ฉันว่าแต่เขารู้ได้ยังไงว่าฉันยืนอยู่หน้าห้องเขากันหลังจากเข้าห้องไปฉันก็ไปนั่งประจำที่แต่สิ่งที่แปลกคือหมอนี่มันห่างจากฉันเป็นกิโลเลยนี่สิ“นี่ขยับมาหน่อยสิ”“สอนตรงนั้นนั่นแหละ”ฉันขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิดมองใบหน้าหล่อที่เอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมสบตาฉันเลยสักนิดไอบ้านี่มันเป็นอะไรของมันเนี่ยเมนส์มารึไง“ฉันไม่อยากตะโกนเขยิบเข้ามา”ฉันเอ่ยบอกมองเซฟที่ถอนหายใจออกมาเบาๆก่อนจะขยับมาอยู่ใกล้ฉันแต่ก็เว้นระยะห่างอยู่ดีแต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรแล้วรีบๆสอนงานให้เขาเพราะคืนนี้ฉันมีนัดวีดีโอคอลกับพี่มอสแฟนสุดน่ารักของฉันน่ะสิ“วันนี้พอแค่นี้ละกัน” ฉันเอ่ยขึ้นหลังจากสอนต่อเนื่องมาเกือบ3ชั่วโมงและเซฟก็ตั้งใจเรียนรู้ดีเอาจริงๆหมอนี่มันก็เก่งพอตัวเลยนะสอนอะไรไปนิดๆหน่อยๆก็ทำได้แล้ว“นี่ยัยข้าวบูด”ฉันชะงักมือที่กำล
เซฟ PART“เก็บแต้มอีกแล้วเหรอมึง”“เออ..คนนี้ไม่น่าจะเกินอาทิตย์เดี๋ยวก็ได้มาร้องครางใต้ร่างกูละ”ผมมองไอมอสที่พอเดินเข้ามาก็พูดจาหมาไม่แดกทันทีน่าอนาถใจแทยยัยข้าวบูดชะมัดเลือกแฟนทั้งทีทำไมถึงไปเลือกไอเศษสวะแบบนี้มาก็ไม่รู้“อย่างเอาอ่ะครับเพื่อน”ผมถอนหายใจออกมาอย่างไม่สบอารมณ์มองพวกมันที่คุยเรื่องผู้หญิงกันอย่างสนุกปากตอนแรกที่ได้ยินยัยนั่นบอกมีแฟนผมก็แทบจะไม่เชื่อหูตัวเองแต่สุดท้ายมันก็คือเรื่องจริงสินะ“ไอเซฟวันนี้ไปดื่มป่ะ?” “ไม่อ่ะ”ผมตอบปฏิเสธก่อนจะก้มมองรองเท้าตัวเองที่มีรอยรองเท้าของยัยข้าวเน่าประทับอยู่ผมเห็นข้อความที่ยัยนั่นตอบกลับมาแล้วมันน่านักจริงๆรอก่อนเถอะกลับบ้านไปจะทำโทษให้เข็ด“ยิ้มอะไรของมึงวะขนลุก”ผมหุบยิ้มทันทีไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ตัวเองกำลังยิ้มอยู่แถมยังยิ้มทั้งๆที่นึกหน้ายัยข้าวเน่านั่นอีกหลังจากจบคลาสเรียนผมก็แยกตัวออกมาเพื่อตรงกลับบ้านในหัวนี่คิดแผนการแกล้งยัยข้าวเน่าสารพัดอย่าง“เห้ยไอเซฟ”ผมมองไอมอสที่เรียกผมไอเวรนี่ต่อหน้าสาวทำเป็นสุภาพบุรุษแต่ความจริงแล้วเป็นไอสวะดีๆนี่เองเห็นว่าชอบไปหลอกเอาสาวเฉิ่มๆโลกส่วนตัวสูงมานอนด้วยก่อนจะถ่ายคลิปขู่เรียกเอาเงินแล้วยั