Home / วาย / อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้ / กำเนิดรสเงา CHAPTER 6: แผนที่ลิ้น — ทางกลับบ้านของรส

Share

กำเนิดรสเงา CHAPTER 6: แผนที่ลิ้น — ทางกลับบ้านของรส

Author: anatta
last update Last Updated: 2025-10-29 15:23:34

เช้ามืดหลังคืนไฟดื้อ เมืองยังเปียกชื้นและนิ่งพอให้ได้ยินเสียงกวาดถนน รุ่งนั่งหน้าจอในห้องเช่า พิมพ์ประโยคแรกของบทใหม่—แผนที่ลิ้น เขาเริ่มวาด “สะพานเปรี้ยว” กลับบ้านด้วยน้ำมะขามที่ไม่แหลม วาง “ทุ่งหวาน” ของหอมแดงเจียวที่ยืดความทรงจำ โดยไม่ให้คาราวานน้ำตาลโวยวาย บนหน้ากระดาษปรากฏแนวเขา “เค็มกลม” ที่พิงความไว้ใจ และเงาโค้งของ “ขมสั้น” ที่ช่วยบอกทางไม่ให้หลงขอบจาน—แผนที่ที่ตั้งใจให้คนอ่านเดินช้า ๆ ได้ด้วยตัวเอง

เมลจาก กวิน เด้งเข้ามา: “บทนี้ขอขึ้นหน้าแรกคืนนี้ได้ไหม ผมอยากวางภาพช้อนไขว้ปากกากับเส้นทางรส—และถ้ายอม นัดคุยปกจริงวันพุธนะครับ (ผมจะเคารพกติกาเวทีเงียบของคุณเหมือนเดิม)” รุ่งยกแก้วน้ำจิบ แล้วตอบสั้น ตกลง พร้อมใส่เงื่อนไข “คุยที่ร้าน ‘ขิม’ ตอนบ่าย มีคนและไฟกลางคุมใจ”

เที่ยงวัน ขิม เปิดครึ่งม้วน นิก เอาแปรงไปเขียนกระดานชอล์ก: วงกลมสี่สีแทน เปรี้ยว–หวาน–เค็ม–ขม เส้นบาง ๆ โค้งเชื่อมกันเหมือนคลองเล็กในย่านเก่า ข้างๆ กันคือกติกาเดิม ไฟเงียบ 30 วินาที / ถ่ายหลังไฟฟังเสร็จ / ใจดีแต่ไม่ใจอ่อน ด้านหลังครัว ธาม ตรวจ “ทางหนีไฟ” ซ้ำเหมือนเช็กบันไดในบ้าน

พนักงานไลน์กลุ่มเด้งเอกสารแนบหัวครุฑ—แนวทางท่อ–ควันฉบับเป็นมิตรกับชุมชนเก่า ที่เขตเพิ่งส่งมา นิกขมวดคิ้วแล้วหันเรียก เจ้าหน้าที่สุขาภิบาล ที่นัดกันไว้ “รบกวนดูทางดูดควันกับน้ำทิ้งหน่อยค่ะ เราจะอัปเดตให้ตามหนังสือ” เจ้าหน้าที่สวมเสื้อกั๊กยืนดูอย่างใจเย็น “หลัก ๆ คือรอบล้างไขมันสัปดาห์ละสองครั้ง กับมุมหมุนอากาศให้หันออกจากแนวห้องเรียนข้าง ๆ” น้ำเสียงเป็นเหตุเป็นผล จนทุกคนหายเกร็ง ปรับสกรูสองจุด เปลี่ยนตะแกรงอีกหนึ่ง แล้วได้ “ผ่าน” แบบชนิดที่ครัวรู้สึกภูมิใจแท้ ๆ

บ่ายแก่ ปรุง วางถาดเครื่องเทศบนบาร์ “คืนนี้เราจะเดินตามแผนที่นี้” เขาเคาะนิ้วกับรูปวงกลม “เริ่มด้วยควันบาง ๆ ให้เป็นแนวภูมิประเทศ จากนั้นให้ เปรี้ยวสั้นนำทาง กลับบ้าน และปล่อย หวานหอมแดง ยืดความจำ—แต่ไม่แทรกคุยของคนอื่น”

“ผมจะช่วยวางคำป้ายเล็กใต้แต่ละจาน” รุ่งพลิกสมุด “เช่น ‘เปรี้ยว: สะพานกลับบ้าน’ ‘หวาน: ผ้าห่มคำ’ ‘เค็ม: เหลี่ยมความจริง’ ‘ขม: แอ่งเงา’”

ปรุงยิ้มมุมปาก “แผนที่นายอ่านง่ายดี—ห้องจะเดินตามได้”

เย็นใกล้ค่ำ ฝนเม็ดบาง ๆ กลับมาแค่ให้พื้นเป็นกระจก ท้องห้องเต็มเร็วผิดคาดเพราะโพสต์เมื่อคืน เวทีเงียบ เริ่มถูกพูดถึงในกรุ๊ปนักอ่านและกลุ่มคนครัว โต๊ะริมหน้าต่างมีสาวผมสั้นถือกล้องฟิล์ม นิกกระซิบกับบาร์เทนเดอร์ “ทีมสารคดีชุมชน—เขาโอเคกับกติกาเราเสมอ” มุมลึกอีกด้านมีชายสวมหมวกแก๊ปติดเข็มกลัดรูปส้อมเล็ก—ส้อม หรือเปล่า? ไม่มีใครชี้ นิกปล่อยให้ไฟกับคำค่อย ๆ บอกเอง

“ไฟเงียบ 30 วินาที” นิกเคาะแก้ว ห้องนิ่งสนิทจนได้ยินเสียงฝนหยดชนท่อระบายน้ำ ปรุงเอียงกระทะให้เปลวไฟเลียขอบสั้น ๆ แล้วกวักลมตามจังหวะสาม–หยุด–สอง หัวกะทิหยดเดียวลงหม้อเป็นเสียงเปิดแผนที่ แต๊ง รุ่งยืนหลัง เส้นเทา เหมือนยืนขอบแผนที่ ทำหน้าที่ชี้ทางด้วยสายตาและป้ายเล็ก

จานเปิดทาง—มะเขือเผาน้ำยำใส—พาคนทั้งห้องข้ามสะพานแรก ครอบครัวโต๊ะสามหัวเราะเบา ๆ เมื่อลูกชายชิมแล้วหันมาบอก “มันเหมือนบ้านวันฝน” คู่รักโต๊ะห้าจับมือกันใต้โต๊ะอย่างไม่ตั้งใจ รุ่งจดคำว่า บ้าน ใต้หัวข้อเปรี้ยว แล้ววงกลมไว้เหมือนปักหมุด

คอร์สถัดไป—แกงเขียวหวานไก่บ้าน—ปรุงกำช้อน “หัวกะทิเดือดหนึ่งเพลง พักครึ่งก้าว ใบโหระพาตอนห้องหายใจเข้า” กลิ่นโหระพาอุ่นขึ้นพร้อมเสียงหายใจยาวของหลายโต๊ะ ช่วงหนึ่ง ส้อม (ถ้าใช่) ยกมือถือขึ้นสูงครึ่งนิ้วแล้ววางลงเองเมื่อเห็นป้าย ถ่ายหลังไฟฟังเสร็จ เขาหลบตาเหมือนยอมรับภาษาใหม่ของห้องโดยไม่ต้องต่อรอง

ระหว่างพักไฟรอบสั้น รุ่งยื่นกระดาษคำไปให้นิกติดใต้ชั้นไม้:

— เปรี้ยวคือสะพานกลับบ้าน

— หวานคือผ้าห่มคำ

— เค็มคือเหลี่ยมความจริง

— ขมคือแอ่งเงาให้ตาได้พัก

นิกอ่านแล้วหัวเราะ “ภาษานายทำให้คนไม่กลัวขม” ข้าวฟ่างกระซิบเสริม “หนูไม่กลัวมีดแล้วด้วย” ก่อนยกถาดไป—มือแน่นขึ้นกว่าเมื่อคืน

ครึ่งหลังของกะ มีสะดุดสั้น ๆ เมื่อกิมบอลจากโต๊ะหนึ่งล้ำเส้นเทามา “จะเก็บไฟใกล้ ๆ” รุ่งยิ้ม ส่งโพสต์อิทเดิม ถ่ายได้หลังไฟฟังเสร็จ—ตอนนี้ช่วยเป็นทีมเดียวกับครัว คราวนี้ไม่ต้องชั่งใจนาน กล้องถอยกลับพร้อมคำ “ขอโทษครับ” จากเจ้าของโต๊ะ ห้องไม่มีคลื่นสะท้อน แผนที่ยังเดินต่ออย่างเรียบ

ของหวานปิดท้าย—น้ำแข็งใสกะทิอ่อนโรยงาขาว—ปรุงกำช้อนเล็กวางข้างป้าย ผ้าห่มคำ หลายโต๊ะยิ้มเหมือนถูกห่มจริง ๆ แสงเทียนสะท้อนผิวกะทิจนห้องดูเหมือนมีฝนสว่างอยู่ข้างใน นิกเดินสำรวจกล่อง “ฟังห้อง” กระดาษหลายใบเขียนคำเดียว—อยู่ด้วย—ด้วยลายมือที่ต่างกัน รุ่งเก็บใส่ซอง เหมือนเก็บธนบัตรเล็ก ๆ ของความไว้วางใจ

ปิดร้านทีละดวงไฟ เหลือส้มบางจากทางเดินหลังครัว ลมหยดสุดท้ายพัดเข้า ตรอก ทำกระดิ่งไม้ไหว กริ๊ง ปรุงวางช้อนเงินที่ใช้พลิกคอร์สทั้งคืนลงบนสมุดของรุ่ง “เอาไปกวนภาษาต่อ” เขาพูดเหมือนวันก่อน แต่ดวงตาคืนนี้อุ่นกว่า

หลังประตูเหล็กปิด รุ่งนั่งที่ขั้นบันได ปรุงนั่งข้าง ๆ ห่างครึ่งฝ่ามือ รุ่งแบมือซ้าย “ขอพื้นที่ว่างบนแผนที่” ปรุงใช้นิ้วแตะที่ฐานนิ้วโป้ง “ตรงนี้ ‘เค็ม—เหลี่ยมความจริง’” ลากปลายนิ้วไปที่เนินฝ่ามือ “ตรงนี้ ‘หวาน—ผ้าห่มคำ’” วาดเส้นบาง ๆ ขึ้นไปถึงข้อมือ “เส้นนี้ ‘เปรี้ยว—สะพานกลับบ้าน’” แล้วแตะลงเบา ๆ กลางฝ่ามือ “นี่ ‘ขม—แอ่งเงา’ ที่ทำให้ตาได้พัก”

รุ่งหัวเราะแผ่ว ๆ “เธอวาดทางกลับบ้านให้ฉัน…บนมือฉันเอง” เขาเอียงหน้าเข้าใกล้—จูบที่ไม่รีบชิงชัย แต่แนบแน่นแบบ ไฟกลาง อุ่นพอให้ฝนที่ค้างอยู่ในตรอกเงียบลง กล้ามเนื้อหลังของปรุงคลายช้า ๆ ใต้ฝ่ามือของรุ่งเหมือนเชือกที่แก้ปม

“ขอบคุณที่วางมีดก่อนกอด” รุ่งแซวเมื่อเห็นปลอกมีดเสียบอยู่ในกระเป๋าผ้าของเชฟ

“ขอบคุณที่วางคำก่อนจูบ” ปรุงรับ เล่นคำกลับอย่างชัดและนุ่ม ทั้งคู่หัวเราะเหมือนคนอ่านแผนที่เดียวกันเจอพิกัดตรงกันพอดี

เสียงมือถือของรุ่งสั่น—กวินส่งตัวอย่างหน้าเว็บ บท แผนที่ลิ้น อยู่บนสุด โลโก้ช้อนไขว้ปากกาเล็ก ๆ วางใต้หัวเรื่อง รุ่งส่งให้ปรุงดู “คืนนี้คำของนายช่วยวาดทางให้ห้องจริง ๆ”

“คืนนี้ไฟของนายช่วยให้คำไม่หลงทางเหมือนกัน” ปรุงตอบ ยกหลังมือแตะหน้าผากรุ่งในจังหวะ พักไฟ–หายใจ–ยาว

ก่อนจะแยกย้าย นิกเดินมาพร้อมเอกสารสุขาภิบาลที่เซ็นแล้ว “ผ่านเรียบร้อย—นัดตรวจรอบเดือนหน้า เราจะทำตารางล้างฝา–ทางดูดควันติดผนังด้วย” เธอกะพริบตาเหนื่อย ๆ แต่ยิ้ม “ภาษากับไฟช่วยกันทำงานได้ดีมากคืนนี้”

รุ่งเก็บสมุด—ปิดด้วยบรรทัด “เราไม่เร่งไฟเพื่อภาพ เราพักไฟเพื่อคน”—แล้วชูซอง “อยู่ด้วย” ให้เห็น “พรุ่งนี้ผมจะเขียน คำที่ปกป้อง (ฉบับครัว) เพิ่มอีกย่อหน้า เผื่อเจอคำถามแรง ๆ”

ปรุงพยักหน้า “ดี—เพราะสนามรบที่แท้จริงคือวันที่ไฟในคนดังกว่าไฟในครัว”

ลมปลายฝนพัดผ่านอีกครั้ง—อากาศเย็นเหมือนกระบวยตักน้ำแข็งใสขึ้นมาแตะหน้าผาก ทั้งคู่ลุกยืนพร้อมกัน ระยะเท่าเดิมที่เคารพไว้ รุ่งบีบปลายนิ้วปรุงเบา ๆ เหมือนปักหมุดสุดท้ายบนแผนที่คืนนี้

เช้าวันถัดมา กล่องพัสดุสีน้ำตาลวางพิงประตูหลังร้าน มีดเชฟดามสตีลนอนนิ่งบนผ้าขาว ข้างในมีการ์ดลายมือสั้น ๆ — “ถึงปรุง / จาก ภูมิ” ปรุงยืนนิ่งครึ่งหายใจยาว รุ่งเหลือบตามอง เห็นเงารอยมีดเก่าแลบแสงในแผ่นเหล็กบาง ๆ—เหมือนเส้นทางเก่าที่กำลังขอเข้ามาบนแผนที่ใหม่ เขาค่อย ๆ เอื้อมมือไปแตะหลังแขนปรุง—ไม่ดึง ไม่ดัน เพียง อยู่ด้วย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 12: เมืองที่กล้ารัก — โต๊ะยาวถึงลานศาลา

    เช้าวันอาทิตย์ แสงแรกคลี่คลุมคลองเป็นฟิล์มสีชา ตรอกหน้าร้าน “ขิม” คล้ายหายใจลึกพร้อมกันทั้งซอย นิกยืนกลางห้องถือเช็กลิสต์ “ลานศาลา” เสียงเมโทรนอมช้อนของธาม ติ๊ก–ติ๊ก–ติ๊ก เบากว่าทุกวัน เหมือนบอกให้ใจทีมค่อย ๆ ตั้งไฟ ป้ายผ้าผืนใหม่ที่ขึงกับคานไม้เขียนคำคุ้น “กติกาบ้าน—ฟังก่อนถ่าย / สุกก่อนสวย / เส้นเทา = พื้นที่เคารพ” ถัดไปเป็นโพสเตอร์สีน้ำตาลอุ่น—โลโก้ ช้อนกับปากกา คู่กับชื่อเล่ม เรื่องเล่าจากครัว — เมืองที่ฟังมากกว่าดัง มุมล่างติดสติกเกอร์เล็ก “รายได้ส่วนหนึ่ง: ข้าวกล่องวันฝน”ปรุงตรวจลิสต์ของกินที่จะย้ายไปลานศาลา “ข้าวต้มปลา—ซุปพักไฟยาว, ฉู่ฉี่ปลาดุก—ไฟกลางหนึ่งคำ, หอมแดงเจียวเล่าเรื่อง—โรยมือ, น้ำขิง—อุ่นคอ” รุ่งยืนข้าง ๆ ถือแฟ้ม “บทอ่านกลางลาน” ที่เขียนเพิ่มเมื่อคืน—หัวข้อ บ้านเดินได้ กับ เมโทรนอมกลางเมือง เขาพับจดหมายของพ่อแม่ไว้ในช่องหน้าปก ใกล้การ์ด “ไข่เจียวฟูของบ้านเรา” ที่พ่อส่งสูตรมา ชายตามิได้ตั้งใจ แต่หัวใจตั้งมั่นแล้ว“ขอให้ย้าย ‘กติกาบ้าน’ ไปทั้งแผ่น ไม่ใช่ย้ายแค่ป้าย” นิกอ่านบันทึกจากซองสีน้ำตาลเมื่อวาน แล้วเงยหน้ามองทีม “เราจะย้าย ‘วิธีหายใจ’ ไปด้วย—ไม่ใช่แค่คำ” “โอเ

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 11: ยืนในที่สว่าง (ต่อ) — เมื่อบ้านของบ้านมาถึงโต๊ะ

    เช้าพุธ ลมจากคลองพัดกลิ่นดินชื้นเข้ามาในครัว “ขิม” ผิวสเตนเลสสะท้อนเงาป้ายไม้ ความหลากหลายคือบ้าน เป็นริ้วอุ่น ๆ นิกติดแถบกระดาษใต้ป้ายเพิ่มอีกหนึ่งบรรทัด “ยินดีต้อนรับบ้านทุกหลัง” ตัวหนังสือกลมมนเหมือนมือที่โอบ รุ่งยืนหลังเส้นเทา เปิดจดหมายจากพ่อแม่ซ้ำอีกครั้ง—ตัวอักษรเรียบง่าย เราจะไปฟังไฟเงียบกับลูก เขายิ้มเงียบ ๆ ก่อนพับจดหมายใส่ซองเก็บในสมุด“วันนี้ตั้งโต๊ะครอบครัวไว้ตรงหน้าต่างนะ” ปรุงบอกทีม “ป้ายเล็กสองป้าย—ฟังก่อนถ่าย กับ พื้นที่ครอบครัว” เขาถือเมนูที่จดด้วยลายมือให้ดู ข้าวต้มปลากะพงน้ำใส—ใบขึ้นฉ่ายหั่นเท่าลมหายใจ, แกงจืดฟัก—พริกไทยหนึ่งฝน, ฉู่ฉี่ปลาดุกไฟกลาง—คำเดียวพอดี, น้ำขิงอุ่น—สำหรับคอที่สั่น “เพิ่ม ‘หอมแดงเจียวเล่าเรื่อง’ ให้แม่ครับ” รุ่งว่า “เธอชอบหวานที่เกิดจากงาน ไม่ใช่จากการเติม” นิกยิ้ม “ฟังแล้วหิวตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน”ธามเคาะเมโทรนอมช้อน ติ๊ก–ติ๊ก–ติ๊ก เข้าจังหวะ แผนผังคืนนี้เขียนบนไวต์บอร์ดชัดเจน ไฟเงียบ–ชิม–คุย–พักไฟ–ยืดใจดี อรุณติดกระดาษแข็ง “เส้นเทา” ตรงพื้นหน้าบาร์เพิ่มอีกชั้น—เพื่อกันคนมองใกล้เกิน ส่วนข้าวฟ่างไปยืนหน้าร้านคอยอธิบายกติกาบ้านให้คนที่เพิ่งมา

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 10: ยืนในที่สว่าง - พาร์ตเนอร์ธุรกิจบนโต๊ะไม้ที่ทุกคนมองเห็น

    เช้าอังคาร ฟ้าสีครีมอ่อนคลุมตรอกเหมือนผ้าขาวที่เพิ่งพับเรียบ ป้ายไม้หน้าร้าน “ขิม”—ความหลากหลายคือบ้าน และ ความปลอดภัยคือบ้าน: วันฝน เราเลือกสุกก่อนสวย—สะท้อนแสงเงียบ ๆ ราวกับรู้ว่าจะมี “พิธีในบ้าน” วันนี้ นิกปูโต๊ะไม้ยาวตรงหน้าต่าง จัดกระถางโหระพาเล็กสองกระถาง วางลำโพงตัวเล็กหนึ่งอันและไมค์หนึ่งตัว ข้าง ๆ มีแฟ้มสีน้ำตาลเขียนปก แถลงบนโต๊ะไม้ ด้วยลายมือของเธอเอง“หัวข้อใหญ่ชัดนะ—ช้อนกับปากกา = พาร์ตเนอร์โปร่งใส” นิกทบทวนกับทีม “อ่านให้ครบ RCII ก่อนลงชื่อ” เธอเปิดหน้ากระดาษแถลงที่จัดวางแบบเรียบง่ายR — Result (ผลลัพธ์): ทำให้ “เรื่องเล่าจากครัว: เมืองที่ฟังมากกว่าดัง” ออกเล่มจริง และตั้งกองทุน ข้าวกล่องวันฝน อย่างยืนระยะC — Capability (ความสามารถ): ครัว “ขิม” ดูแลรส งานสุขอนามัย การฝึกทีม; สำนักพิมพ์ดูแลบรรณาธิการ การพิมพ์ การกระจาย และเวทีอ่านI — Intent (เจตนา): ไม่ใช้ความหลากหลายเป็นพร็อพ ไม่ใช้ดราม่าเป็นเชื้อไฟ แต่ใช้การฟังเป็นความร้อนหลักI — Integrity (ความซื่อสัตย์): ประกาศขอบเขต “เส้นเทา” ให้เห็นเสมอ—คำวิจารณ์งานของสำนักพิมพ์เป็นอิสระจากครัว และครัวมีสิทธิ์ปฏิเสธคอนเทนต์ที่ละเม

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 9: วันอ่านออกเสียง - เมื่อคำยืนข้างครัวต่อหน้าทั้งเมือง

    เช้าอาทิตย์ฟ้าเทานวล ตรอกหน้าร้าน “ขิม” เหมือนหายใจยาวหลังคืนครู ป้ายไม้สองแผ่น—ความหลากหลายคือบ้าน กับ ความปลอดภัยคือบ้าน: วันฝน เราเลือกสุกก่อนสวย—สะท้อนแสงคลองเป็นริ้วอุ่น นิกขยับเก้าอี้พับเรียงสามแถว เว้นทางเดินกลางเหมือนช่องไฟในประโยคสั้น ๆ ปลายแถวติดป้าย “วันอ่านออกเสียง: ช้อนกับปากกา — ฟัง 10 วินาทีแรก ก่อนยกกล้อง” ใต้ป้ายมีสัญลักษณ์ช้อนหนึ่งคันคู่เครื่องหมายคำพูดสองเส้นราวใบมะกรูดด้านในครัว ปรุงยืนคุมลิสต์ “เมนูวงคุย” ที่ย่อลงเพื่อให้ห้องมีที่ยืนให้คำ—แกงไตปลาพักไฟ (ถ้วยเล็ก), ฉู่ฉี่ปลาดุกนาไฟกลาง (คำเดียวพอดี), หอมแดงเจียวเล่าเรื่อง (โรยมือ) และน้ำขิงอุ่นสำหรับคอที่สั่น รุ่งก้มตรวจสคริปต์อ่าน—บทผสมระหว่าง สุกก่อนสวย กับ คืนครู เขาขีดเส้นใต้คำว่า บ้าน ฟัง ยืนด้วยกัน แล้วเว้นหน้าว่างท้ายสุดไว้ให้คำที่เกิดขึ้นหน้างาน“วันนี้อยากให้คำยืนข้างครัว…ไม่ยืนทับ” รุ่งว่าเบา ๆ “เราจะกวักลมให้คำ เหมือนกวักให้ไฟ” ปรุงยิ้มด้วยตา เขาเอียงกระทะทดสอบเสียงฉ่า—ไม่ดัง ไม่เบา “เมโทรนอมช้อน” ของธามเคาะ ติ๊ก–ติ๊ก–ติ๊ก สม่ำเสมอ ข้าวฟ่างผูกผ้ากันเปื้อนแน่นขึ้นเหมือนนักเรียนก่อนเข้าห้องสอบ อรุณเขียน

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 8: งานคืนครู: เมื่อรสมือแรกพาโต๊ะทั้งห้องย้อนกลับบ้าน

    เช้าเสาร์ฟ้าขาวนวล ลมจากคลองพัดให้กลิ่นดินชื้นลอยเข้ามาในครัว “ขิม” โต๊ะยาวถูกเลื่อนมาติดหน้าต่าง เปิดทางให้คนทั้งตรอกมองเห็น “งานคืนครู” ที่คุยกันมาตั้งแต่ป้ายไม้ขึ้นนอตสุดท้าย นิกติดโปสเตอร์เล็กตรงมุมประตู—กติกาบ้าน (ฉบับคืนครู):ไฟเงียบ 10 วินาที ก่อนทุกวงถ่าย “มือ–ป้าย–กระดาน” ได้เสมอ ถ่าย “หน้า” ถ้าขออนุญาตวิจารณ์ “งาน” ไม่วิจารณ์ “คน”พูดช้า เท่าจังหวะเมโทรนอมช้อนข้าวฟ่างจัดเขียงไม้ใหม่ แววตาเป็นประกายแบบเด็กที่รอวันไหว้ครูจริง ๆ อรุณตรวจอุณหภูมิในตู้ “ปลาดุกนา 2.1°C / กะทิ 3.4 / ผัก 6.0—เข้าที่” เขาขีดดินสอลงใน แผนที่ลิ้น 2.0 ช่อง วันอุ่น มีลมใต้“พร้อมรับครูใหญ่?” รุ่งถามยิ้ม ๆ จากหลังเส้นเทา มือเปิดสมุดที่ว่างไว้หัวเรื่อง คืนครู: คำกับไฟ “พร้อม…แต่ใจสั่นพอ ๆ กับเตาถ่านตอนลมเปลี่ยน” ปรุงตอบ เขาเปิดลิ้นชัก หยิบผ้าขาวพับเรียบ “วันนี้อยากให้ห้องได้ยินประโยคของครู—แบบที่เรายังได้ยินในหัว”สิบเอ็ดโมง ครัวเงียบลงเหมือนมีใครหมุนสวิตช์ ชุดผ้าถุงลายดอกเก่ากับเสื้อคอกระเช้าสีไข่ไก่ก้าวเข้าประตู แม่เอียดยิ้มอย่างคนที่เคยเดินครัวนี้มาก่อน—แม้เพิ่งมาครั้งแรก “กลิ่นถ่านกับโหระพายังฟังกั

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 7: ป้ายเล็กหน้าร้าน: ข้อความบนไม้ที่กลายเป็นสัญญาร่วม

    เช้าอุ่นหลังคืนฝนหนัก แสงจากคลองสะท้อนฝุ่นไม้ที่ลอยอยู่กลางอากาศเหมือนเกล็ดกะทิ ปรุงตั้งโต๊ะช่างหน้าร้าน—กระดาษทราย เบิร์นเนอร์ หัวนอต สว่านแบตฯ และป้ายไม้สองแผ่นที่นิกสั่งช่างแกะมาเรียบ ๆ ยังไม่ลงสีแผ่นแรกสลักอักษร “ความหลากหลายคือบ้าน” แผ่นที่สอง—ร่างด้วยดินสอ—“ความปลอดภัยคือบ้าน : วันฝน เราเลือกสุกก่อนสวย” ด้านล่างมีสัญลักษณ์ช้อนเล็กกับใบโหระพาเหมือนลายเซ็นของร้าน รุ่งยืนหลังเส้นเทา ก้มอ่านทีละตัวอักษรแล้วขีดเส้นบาง ๆ ใต้คำว่า บ้าน “คำนี้ควรอุ่นที่สุด” เขาว่า“อุ่นแบบไหน” ปรุงถาม มือค่อย ๆ ลูบกระดาษทรายเบอร์ 240 ไปตามรอยไม้ “อุ่นแบบที่คนยืนหน้าป้ายแล้วยังรู้สึกว่าไม่ถูกตัดสิน” รุ่งยิ้ม บิดปากกาให้ปลายใหม่ “ถ้าเราจะขีดเส้นไหนเข้มขึ้น—คือเส้นใต้คำว่า ยืนด้วยกัน”นิกวางแฟ้มหัวโต “ขอเช็กความเรียบร้อยนิด: ป้ายสูงจากพื้น 1.8 เมตรตามกฎทางเท้า—ไม่กีดขวาง สกรีน QR ด้านมุมขวาล่างลิงก์ไปหน้า ‘กติกาบ้าน’ และหน้า ‘คำที่ปกป้อง’ ฉบับล่าสุด แล้วก็…ข้างบ้านอนุญาตเรียบร้อยค่ะ คุณศรีบอก ‘ติดเถอะ จะได้เป็นป้ายของเรา’”ขณะทุกคนคุยกัน เสียง ก๊อง–แก๊ง จากหน้าต่างบ้านชั้นสอง ผ้าม่านไหว ๆ และใบหน้ายิ้มขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status