Home / วาย / อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้ / กำเนิดรสเงา CHAPTER 7: รอยมีดเก่า — มีดคมคือมีดปลอดภัย

Share

กำเนิดรสเงา CHAPTER 7: รอยมีดเก่า — มีดคมคือมีดปลอดภัย

Author: anatta
last update Last Updated: 2025-10-30 14:49:45

เช้ามืด ประตูหลัง “ขิม” มีพัสดุสีน้ำตาลพิงอยู่บนราวเหล็ก ปรุง แกะเชือกป่านอย่างใจเย็น ข้างในเป็นมีดเชฟดามสตีลเงางาม นอนบนผ้าขาวเรียบ พร้อมการ์ดสั้น ๆ ลายมือคุ้นตา—“ถึงปรุง / จาก ภูมิ” เขาลูบสันมีดช้า ๆ เสียงเหล็กเสียดนิ้วดังแผ่วเหมือนเรียกความทรงจำให้ลืมตา รอยขีดเล็กใกล้สันมีดยังอยู่—ร่องรอยคืนที่ฝึกหั่นหอมด้วยกันเมื่อสิบปีก่อน

“ของสวย” ธาม วางกล่องน้ำแข็งแล้วมอง “ของใคร”

“ของเก่า…จากคนเก่า” ปรุงวางมีดลงบนผ้าขาว “ชื่อ ภูมิ”

ธามพยักหน้า “จะใช้ไหม”

“ใช้ได้—แต่ต้องฟังก่อน” ปรุงยิ้มบาง “มีดเก่าต้องเคารพ เหมือนรอยเก่าในใจ”

ก่อนเที่ยง นิก กำลังเขียนตารางล้างตะแกรงดูดควันตามคู่มือสุขาภิบาลที่เพิ่งผ่าน ตรวจเส้นเทาบนพื้นหลังบาร์ให้คมชัดเหมือนเดิม—พื้นที่ฟังไฟโดยไม่กวนมือครัว กล่องไม้ “ฟังห้อง” ถูกเช็ดและวางที่เดิม

รุ่ง โผล่เข้าตรอก หมวกแก๊ปเดิม สมุดปกผ้าอยู่ในมือ เขาเห็นมีดบนผ้าขาวแล้วเงียบครึ่งหายใจ “ของเขา?”

ปรุงพยักหน้า “ใช่”

รุ่งวางสมุดลง เขียนสามคำสั้น ๆ บนกระดาษแผ่นเล็กแล้วคว่ำไว้ “คืนนี้ถ้าอยากได้คำ…ค่อยเปิด”

สิบโมงครึ่ง ชายเสื้อลินินสีอ่อนมายืนหน้าประตูหลัง เคาะ ก๊อง–แก๊ง สองจังหวะ—รหัสที่คนครัวสมัยก่อนจำได้ ข้าวฟ่าง ไปเปิด พบรอยยิ้มแบบคนรู้จักไฟครัวมานาน “มาหาปรุง บอกว่า ภูมิ กลับมาแล้ว”

ปรุงออกมายืนห่างสองก้าว—ไฟกลางพอดี ไม่ใกล้จนไหม้ ไม่ห่างจนเย็น

“มีดถึงแล้ว” ภูมิพยักหน้าไปทางครัว “ยังจำมือมันได้ไหม”

“จำได้—จำรอยด้วย” ปรุงแตะด้ามเบา ๆ

พักไฟหนึ่งจังหวะ ก่อนภูมิพูด “เราเคยเถียงกันเรื่อง ไฟเงียบ นายอยากให้ฟังก่อน ฉันอยากให้ดังก่อน สิบนาทีตอนนั้น…ฉันไม่รอ”

ปรุงยิ้มเศร้า “ตอนนั้นเรารีบ ตอนนี้ฉันทำงานช้าลง—และยาวขึ้น”

“เห็นแล้ว ฉันอ่าน แผนที่ลิ้น ด้วย” ภูมิปรายตามองบาร์ เห็นชายหมวกแก๊ปกำลังเขียนอย่างเงียบ ๆ—รุ่ง—แต่ไม่ถามชื่อ “คืนนี้คุยไหม ฉันอยากขอโทษแบบจริง ไม่ใช่ผ่านมีด”

“คุย—แต่ ในที่ของเรา” ปรุงชี้โต๊ะเหล็กหลังร้าน “ไฟเงียบห้านาที แล้วค่อยพูด”

บ่ายแก่ มีดเก่าถูกลับบนหินช้า ๆ เสียงเฉือน ชรึด—ชรึด เรียบเหมือนประโยคที่เลิกคมเกินจำเป็น ปรุงเทสกับมะเขือเทศ—ใบมีดผ่าเนื้อแดงได้อย่างไม่สะดุด เขาวางมีดไว้แยกจากมีดประจำ ราวกับจัดชั้นโชว์ของความหลังให้ถูกที่

หกโมงเย็น ห้องเริ่มเต็ม นิกเคาะแก้ว “ไฟเงียบ 30 วินาที” รุ่งยืนหลังเส้นเทา สมุดเปิดหน้าใหม่ เขียนหัวเล็ก ๆ รอยมีดเก่า เปลวไฟเลียขอบกระทะ—ปรุงกวักลมสามครั้ง หยุดหนึ่ง แล้วสองครั้ง หัวกะทิหยดเดียวลงหม้อ แต๊ง เหมือนกดเซฟจังหวะทั้งห้อง ภูมิยืนในเงาประตูหลัง มองอย่างคนเคยรู้ทางบันไดนี้ดี แต่เลือกไม่ก้าวขึ้น

คอร์สแรกเดินไปด้วยดี ระหว่างพักไฟ ปรุงพาภูมิไปที่โต๊ะเหล็ก นิกวางชาใบเตยสองถ้วยแล้วถอย “พื้นที่ปลอดภัยนะคะ”ภูมิเริ่ม “ฉันชอบกล้อง ชอบเวที ชอบไฟที่สูงจนร้อง และฉันผลักนาย—ให้สูงตาม ทั้งที่นายชอบไฟกลาง”

“เราโตคนละที่” ปรุงจับถ้วย “และฉันเคยโกรธที่นายพูดว่า ‘ไฟกลางทำให้เราธรรมดา’ จนยื้อรสไหม้”

ภูมิพึมพำ “ขอโทษ—ทั้งคำพูด และการปล่อยมือกะทันหัน”

“ฉันให้อภัย—แต่ไม่คืนรูปเดิม” ปรุงพูดราบ “ตอนนี้มีใครอยู่ข้าง ๆ ฉัน เขาฟังไฟกับฉันได้ดี”

ภูมิยิ้มบาง “ดี ฉันอยากเป็นเพื่อนที่ไม่ทำให้ต้องหลบ ถ้านายให้ ฉันช่วยซ้อมเด็กได้—ไม่ชี้นำ ไม่ยืนหน้าเตา ไม่แย่งไฟ”

“คืนนี้—ช่วยสอนเรื่อง ‘มีดเป็นเพื่อน’ ให้ ข้าวฟ่าง” ปรุงยิ้ม “เธอยังเกร็งมีด”

ครึ่งกะ ภูมิยืนมุมโต๊ะเตรียม เขาวางแตงกวาบนเขียง “ไม่ต้องรีบ หายใจเข้า–ออก แล้วลงน้ำหนัก มีดคมคือมีดปลอดภัย—คมพอไม่ให้มือฝืน” ข้าวฟ่างลองตาม ฉับ–ฉับ เสียงเฉือนเริ่มเสมอ ทีมครัวยิ้มเงียบ ๆ เหมือนเห็นเด็กถีบจักรยานครั้งแรกโดยไม่ส่าย

เหตุสะดุดเล็ก ๆ เกิดขึ้นเมื่อเด็กฝึกอีกคนเผลอบาดนิ้วร้อง อุ๊ย! เบา ๆ ธามชูผ้าขาว “หยุดเท้า!” นิกหยิบชุดปฐมพยาบาล “กด–ยก–พัน” เลือดหยุดในสามนาที ปรุงตรวจซ้ำ “ดีมาก” ภูมิพยักหน้า “นี่คือเหตุผลที่คำว่า กติกา ต้องอยู่ข้างคำว่า คม

หน้าบ้าน รุ่งเห็นทุกอย่างจากหลังบาร์ เขาไม่ได้พุ่งเข้าไป เขาเขียนเพียงบรรทัด เราไม่กลัวมีด—เราเคารพมัน แล้วสอดกระดาษใส่กล่อง “ฟังห้อง” ให้เหมือนปล่อยธนบัตรเล็ก ๆ แห่งความไว้ใจลงบัญชีของร้าน

คอร์สหลักท้าย ๆ เดินได้ตามแผนที่ลิ้น เสียงฉ่ากลับมาสม่ำเสมอ ภูมิยังยืนในเงา ไม่แตะงาน ไม่แอบชี้มือ เขาเพียงโน้มศีรษะให้ทีมหนึ่งครั้งตอนจานสุดท้ายผ่านบาร์ รุ่งชำเลืองเห็น—ความคมเมื่อก่อนเคลือบด้วยความนุ่มชนิดใหม่

ร้านปิดไฟทีละดวง เหลือไฟส้มจากทางเดินหลังครัว ลมฝนหอบกลิ่นดินเปียกเข้าตรอก ปรุงลากเก้าอี้นั่งขั้นบันได รุ่งนั่งต่ำกว่าหนึ่งขั้น “เขา…ใช่ไหม คนที่ทำให้นายมีรอยมีดในใจ”

“ใช่ เราเคยเป็นมากกว่าเพื่อน แล้วแยกกันแบบคมเกินไป” ปรุงหัวเราะเบา “คืนนี้คมกลับมา แต่ไม่บาด”

รุ่งมองตา “ฉันกลัวนิดหน่อย—กลัวไฟในห้องจะดังขึ้นเพราะชื่อของเขา”

“กลัวได้—แต่ซื่อ” ปรุงเลียนคำที่รุ่งสอน “และถ้าฉันจะไปปรับไฟคนเดียว…ฉันจะบอกนายก่อน”

“ตกลง” รุ่งยิ้มตาอุ่น—ยิ้มของคนอ่านแผนที่เดียวกัน

คืนเงียบกว่าปกติ รุ่งหยิบมีดเชฟเก่าขึ้นมาดูใต้แสงโคม รอยลายดามสตีลสะท้อนเงาสองคนซ้อนกัน “มันคม…แต่ไม่ต้องบาดใครอีกแล้ว” เขากระซิบกับทั้งมีดและหัวใจ

ปรุงเข้ามาข้างหลัง โอบจากเอวแน่น–ละมุน รุ่งวางมีดบนผ้า แล้วหันหา จูบครั้งนี้ไม่รีบชิงชัย เป็นจูบขอโทษแทนอดีตทั้งหมดที่เคยทิ่ม ใต้ฝ่ามือของรุ่ง กล้ามเนื้อหลังของปรุงค่อย ๆ คลายเหมือนเชือกถูกแก้ปม เขาผละสั้น ๆ เพื่อมองตา “ขอบคุณที่ไม่เอาอดีตมาคุมปัจจุบัน”

“ขอบคุณที่วางมีดก่อนกอด” รุ่งยิ้มตา ก่อนซุกใบหน้าลงกับซอกคอกลิ่นควันอ่อน ๆ ปลายนิ้วสอดชายเสื้อเชฟแค่พอให้ผิวสัมผัสผิว ปรุงกดหลังมือเขาไว้—เป็นคำว่า อยู่ตรงนี้ แบบไม่ใช้เสียง ทั้งสองปล่อยให้คืนค่อย ๆ ปิดประตู และเปิดพื้นที่ใจให้กันอย่างเงียบ นุ่ม และยาว

หลังลมหายใจยาวสงบ รุ่งเปิดกระดาษที่เขียนตั้งแต่เช้าให้ปรุงดู—สามคำเรียง “ยืน / ซื่อ / ใจดี” ปรุงพยักหน้า “และเพิ่มอีกคำ—กติกา—สำหรับมีดและหัวใจ” ทั้งคู่หัวเราะเบา ๆ ราวกับมีใครปักหมุดใหม่บนแผนที่ลิ้นให้เห็นทางกลับบ้านใกล้ขึ้น

ก่อนแยกย้าย โทรศัพท์ของรุ่งสั่น—เมลจาก กวิน “บท ‘แผนที่ลิ้น’ ขึ้นหน้าแรก ยอดอ่านพุ่ง อยากนัดคุยสัญญารวมเล่ม–ปก–โทนวันพรุ่งนี้บ่าย ถ้าได้ ขอที่ร้าน ‘ขิม’ ผมจะเคารพกติกาเหมือนเดิม” ปลายเมลมีประโยคส่วนตัว “เวลาอ่าน คุณ…น่าฟัง” รุ่งกระพริบตาช้า ๆ เขารู้ว่ากวินหวังดีกว่าเดิม แต่หัวใจเขายืนข้างเตา—ตรงนั้นคำของเขาทำงานได้มากกว่า

เช้ามืดวันถัดมา กล่องข้อความเพจร้านเด้ง—บัญชีไม่ระบุชื่อแนบรูปเก่า: ปรุงกับภูมิยืนหลังเตาในครัวต่างเมืองเมื่อสิบปีก่อน ใต้ภาพพิมพ์ดีด “ไฟสูงดีนะตอนนั้น” พร้อมอีโมจิรูปส้อมจิ๋ว นิกวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะสนทนา “ศุกร์นี้คุยหัวข้อ กล้องกับความทรงจำ ดีไหม” ปรุงพยักหน้า รุ่งพลิกสมุดไปหน้าว่าง เขียนหัว บทบก.ในเงา—เตรียมคำที่จะปกป้องห้อง โดยไม่บาดใคร

บ่ายวันนี้ กวิน จะก้าวเข้ามาคุยปก–สัญญาที่ร้าน—ในแสงพอดี ขณะเดียวกัน ภูมิตอบข้อความ “ยินดีช่วยซ้อมเด็กต่อแบบไม่ยืนหน้าเตา” เสียงเมืองเริ่มดังขึ้นทีละชั้น แต่ในครัว “ขิม” ไฟกลางยังนิ่ง คม—แต่ไม่บาด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 12: เมืองที่กล้ารัก — โต๊ะยาวถึงลานศาลา

    เช้าวันอาทิตย์ แสงแรกคลี่คลุมคลองเป็นฟิล์มสีชา ตรอกหน้าร้าน “ขิม” คล้ายหายใจลึกพร้อมกันทั้งซอย นิกยืนกลางห้องถือเช็กลิสต์ “ลานศาลา” เสียงเมโทรนอมช้อนของธาม ติ๊ก–ติ๊ก–ติ๊ก เบากว่าทุกวัน เหมือนบอกให้ใจทีมค่อย ๆ ตั้งไฟ ป้ายผ้าผืนใหม่ที่ขึงกับคานไม้เขียนคำคุ้น “กติกาบ้าน—ฟังก่อนถ่าย / สุกก่อนสวย / เส้นเทา = พื้นที่เคารพ” ถัดไปเป็นโพสเตอร์สีน้ำตาลอุ่น—โลโก้ ช้อนกับปากกา คู่กับชื่อเล่ม เรื่องเล่าจากครัว — เมืองที่ฟังมากกว่าดัง มุมล่างติดสติกเกอร์เล็ก “รายได้ส่วนหนึ่ง: ข้าวกล่องวันฝน”ปรุงตรวจลิสต์ของกินที่จะย้ายไปลานศาลา “ข้าวต้มปลา—ซุปพักไฟยาว, ฉู่ฉี่ปลาดุก—ไฟกลางหนึ่งคำ, หอมแดงเจียวเล่าเรื่อง—โรยมือ, น้ำขิง—อุ่นคอ” รุ่งยืนข้าง ๆ ถือแฟ้ม “บทอ่านกลางลาน” ที่เขียนเพิ่มเมื่อคืน—หัวข้อ บ้านเดินได้ กับ เมโทรนอมกลางเมือง เขาพับจดหมายของพ่อแม่ไว้ในช่องหน้าปก ใกล้การ์ด “ไข่เจียวฟูของบ้านเรา” ที่พ่อส่งสูตรมา ชายตามิได้ตั้งใจ แต่หัวใจตั้งมั่นแล้ว“ขอให้ย้าย ‘กติกาบ้าน’ ไปทั้งแผ่น ไม่ใช่ย้ายแค่ป้าย” นิกอ่านบันทึกจากซองสีน้ำตาลเมื่อวาน แล้วเงยหน้ามองทีม “เราจะย้าย ‘วิธีหายใจ’ ไปด้วย—ไม่ใช่แค่คำ” “โอเ

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 11: ยืนในที่สว่าง (ต่อ) — เมื่อบ้านของบ้านมาถึงโต๊ะ

    เช้าพุธ ลมจากคลองพัดกลิ่นดินชื้นเข้ามาในครัว “ขิม” ผิวสเตนเลสสะท้อนเงาป้ายไม้ ความหลากหลายคือบ้าน เป็นริ้วอุ่น ๆ นิกติดแถบกระดาษใต้ป้ายเพิ่มอีกหนึ่งบรรทัด “ยินดีต้อนรับบ้านทุกหลัง” ตัวหนังสือกลมมนเหมือนมือที่โอบ รุ่งยืนหลังเส้นเทา เปิดจดหมายจากพ่อแม่ซ้ำอีกครั้ง—ตัวอักษรเรียบง่าย เราจะไปฟังไฟเงียบกับลูก เขายิ้มเงียบ ๆ ก่อนพับจดหมายใส่ซองเก็บในสมุด“วันนี้ตั้งโต๊ะครอบครัวไว้ตรงหน้าต่างนะ” ปรุงบอกทีม “ป้ายเล็กสองป้าย—ฟังก่อนถ่าย กับ พื้นที่ครอบครัว” เขาถือเมนูที่จดด้วยลายมือให้ดู ข้าวต้มปลากะพงน้ำใส—ใบขึ้นฉ่ายหั่นเท่าลมหายใจ, แกงจืดฟัก—พริกไทยหนึ่งฝน, ฉู่ฉี่ปลาดุกไฟกลาง—คำเดียวพอดี, น้ำขิงอุ่น—สำหรับคอที่สั่น “เพิ่ม ‘หอมแดงเจียวเล่าเรื่อง’ ให้แม่ครับ” รุ่งว่า “เธอชอบหวานที่เกิดจากงาน ไม่ใช่จากการเติม” นิกยิ้ม “ฟังแล้วหิวตั้งแต่ยังไม่เปิดร้าน”ธามเคาะเมโทรนอมช้อน ติ๊ก–ติ๊ก–ติ๊ก เข้าจังหวะ แผนผังคืนนี้เขียนบนไวต์บอร์ดชัดเจน ไฟเงียบ–ชิม–คุย–พักไฟ–ยืดใจดี อรุณติดกระดาษแข็ง “เส้นเทา” ตรงพื้นหน้าบาร์เพิ่มอีกชั้น—เพื่อกันคนมองใกล้เกิน ส่วนข้าวฟ่างไปยืนหน้าร้านคอยอธิบายกติกาบ้านให้คนที่เพิ่งมา

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 10: ยืนในที่สว่าง - พาร์ตเนอร์ธุรกิจบนโต๊ะไม้ที่ทุกคนมองเห็น

    เช้าอังคาร ฟ้าสีครีมอ่อนคลุมตรอกเหมือนผ้าขาวที่เพิ่งพับเรียบ ป้ายไม้หน้าร้าน “ขิม”—ความหลากหลายคือบ้าน และ ความปลอดภัยคือบ้าน: วันฝน เราเลือกสุกก่อนสวย—สะท้อนแสงเงียบ ๆ ราวกับรู้ว่าจะมี “พิธีในบ้าน” วันนี้ นิกปูโต๊ะไม้ยาวตรงหน้าต่าง จัดกระถางโหระพาเล็กสองกระถาง วางลำโพงตัวเล็กหนึ่งอันและไมค์หนึ่งตัว ข้าง ๆ มีแฟ้มสีน้ำตาลเขียนปก แถลงบนโต๊ะไม้ ด้วยลายมือของเธอเอง“หัวข้อใหญ่ชัดนะ—ช้อนกับปากกา = พาร์ตเนอร์โปร่งใส” นิกทบทวนกับทีม “อ่านให้ครบ RCII ก่อนลงชื่อ” เธอเปิดหน้ากระดาษแถลงที่จัดวางแบบเรียบง่ายR — Result (ผลลัพธ์): ทำให้ “เรื่องเล่าจากครัว: เมืองที่ฟังมากกว่าดัง” ออกเล่มจริง และตั้งกองทุน ข้าวกล่องวันฝน อย่างยืนระยะC — Capability (ความสามารถ): ครัว “ขิม” ดูแลรส งานสุขอนามัย การฝึกทีม; สำนักพิมพ์ดูแลบรรณาธิการ การพิมพ์ การกระจาย และเวทีอ่านI — Intent (เจตนา): ไม่ใช้ความหลากหลายเป็นพร็อพ ไม่ใช้ดราม่าเป็นเชื้อไฟ แต่ใช้การฟังเป็นความร้อนหลักI — Integrity (ความซื่อสัตย์): ประกาศขอบเขต “เส้นเทา” ให้เห็นเสมอ—คำวิจารณ์งานของสำนักพิมพ์เป็นอิสระจากครัว และครัวมีสิทธิ์ปฏิเสธคอนเทนต์ที่ละเม

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 9: วันอ่านออกเสียง - เมื่อคำยืนข้างครัวต่อหน้าทั้งเมือง

    เช้าอาทิตย์ฟ้าเทานวล ตรอกหน้าร้าน “ขิม” เหมือนหายใจยาวหลังคืนครู ป้ายไม้สองแผ่น—ความหลากหลายคือบ้าน กับ ความปลอดภัยคือบ้าน: วันฝน เราเลือกสุกก่อนสวย—สะท้อนแสงคลองเป็นริ้วอุ่น นิกขยับเก้าอี้พับเรียงสามแถว เว้นทางเดินกลางเหมือนช่องไฟในประโยคสั้น ๆ ปลายแถวติดป้าย “วันอ่านออกเสียง: ช้อนกับปากกา — ฟัง 10 วินาทีแรก ก่อนยกกล้อง” ใต้ป้ายมีสัญลักษณ์ช้อนหนึ่งคันคู่เครื่องหมายคำพูดสองเส้นราวใบมะกรูดด้านในครัว ปรุงยืนคุมลิสต์ “เมนูวงคุย” ที่ย่อลงเพื่อให้ห้องมีที่ยืนให้คำ—แกงไตปลาพักไฟ (ถ้วยเล็ก), ฉู่ฉี่ปลาดุกนาไฟกลาง (คำเดียวพอดี), หอมแดงเจียวเล่าเรื่อง (โรยมือ) และน้ำขิงอุ่นสำหรับคอที่สั่น รุ่งก้มตรวจสคริปต์อ่าน—บทผสมระหว่าง สุกก่อนสวย กับ คืนครู เขาขีดเส้นใต้คำว่า บ้าน ฟัง ยืนด้วยกัน แล้วเว้นหน้าว่างท้ายสุดไว้ให้คำที่เกิดขึ้นหน้างาน“วันนี้อยากให้คำยืนข้างครัว…ไม่ยืนทับ” รุ่งว่าเบา ๆ “เราจะกวักลมให้คำ เหมือนกวักให้ไฟ” ปรุงยิ้มด้วยตา เขาเอียงกระทะทดสอบเสียงฉ่า—ไม่ดัง ไม่เบา “เมโทรนอมช้อน” ของธามเคาะ ติ๊ก–ติ๊ก–ติ๊ก สม่ำเสมอ ข้าวฟ่างผูกผ้ากันเปื้อนแน่นขึ้นเหมือนนักเรียนก่อนเข้าห้องสอบ อรุณเขียน

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 8: งานคืนครู: เมื่อรสมือแรกพาโต๊ะทั้งห้องย้อนกลับบ้าน

    เช้าเสาร์ฟ้าขาวนวล ลมจากคลองพัดให้กลิ่นดินชื้นลอยเข้ามาในครัว “ขิม” โต๊ะยาวถูกเลื่อนมาติดหน้าต่าง เปิดทางให้คนทั้งตรอกมองเห็น “งานคืนครู” ที่คุยกันมาตั้งแต่ป้ายไม้ขึ้นนอตสุดท้าย นิกติดโปสเตอร์เล็กตรงมุมประตู—กติกาบ้าน (ฉบับคืนครู):ไฟเงียบ 10 วินาที ก่อนทุกวงถ่าย “มือ–ป้าย–กระดาน” ได้เสมอ ถ่าย “หน้า” ถ้าขออนุญาตวิจารณ์ “งาน” ไม่วิจารณ์ “คน”พูดช้า เท่าจังหวะเมโทรนอมช้อนข้าวฟ่างจัดเขียงไม้ใหม่ แววตาเป็นประกายแบบเด็กที่รอวันไหว้ครูจริง ๆ อรุณตรวจอุณหภูมิในตู้ “ปลาดุกนา 2.1°C / กะทิ 3.4 / ผัก 6.0—เข้าที่” เขาขีดดินสอลงใน แผนที่ลิ้น 2.0 ช่อง วันอุ่น มีลมใต้“พร้อมรับครูใหญ่?” รุ่งถามยิ้ม ๆ จากหลังเส้นเทา มือเปิดสมุดที่ว่างไว้หัวเรื่อง คืนครู: คำกับไฟ “พร้อม…แต่ใจสั่นพอ ๆ กับเตาถ่านตอนลมเปลี่ยน” ปรุงตอบ เขาเปิดลิ้นชัก หยิบผ้าขาวพับเรียบ “วันนี้อยากให้ห้องได้ยินประโยคของครู—แบบที่เรายังได้ยินในหัว”สิบเอ็ดโมง ครัวเงียบลงเหมือนมีใครหมุนสวิตช์ ชุดผ้าถุงลายดอกเก่ากับเสื้อคอกระเช้าสีไข่ไก่ก้าวเข้าประตู แม่เอียดยิ้มอย่างคนที่เคยเดินครัวนี้มาก่อน—แม้เพิ่งมาครั้งแรก “กลิ่นถ่านกับโหระพายังฟังกั

  • อร่อยที่สุดในร้านไม่ใช่จานนี้   (SS2) เมืองที่กล้ารัก CHAPTER 7: ป้ายเล็กหน้าร้าน: ข้อความบนไม้ที่กลายเป็นสัญญาร่วม

    เช้าอุ่นหลังคืนฝนหนัก แสงจากคลองสะท้อนฝุ่นไม้ที่ลอยอยู่กลางอากาศเหมือนเกล็ดกะทิ ปรุงตั้งโต๊ะช่างหน้าร้าน—กระดาษทราย เบิร์นเนอร์ หัวนอต สว่านแบตฯ และป้ายไม้สองแผ่นที่นิกสั่งช่างแกะมาเรียบ ๆ ยังไม่ลงสีแผ่นแรกสลักอักษร “ความหลากหลายคือบ้าน” แผ่นที่สอง—ร่างด้วยดินสอ—“ความปลอดภัยคือบ้าน : วันฝน เราเลือกสุกก่อนสวย” ด้านล่างมีสัญลักษณ์ช้อนเล็กกับใบโหระพาเหมือนลายเซ็นของร้าน รุ่งยืนหลังเส้นเทา ก้มอ่านทีละตัวอักษรแล้วขีดเส้นบาง ๆ ใต้คำว่า บ้าน “คำนี้ควรอุ่นที่สุด” เขาว่า“อุ่นแบบไหน” ปรุงถาม มือค่อย ๆ ลูบกระดาษทรายเบอร์ 240 ไปตามรอยไม้ “อุ่นแบบที่คนยืนหน้าป้ายแล้วยังรู้สึกว่าไม่ถูกตัดสิน” รุ่งยิ้ม บิดปากกาให้ปลายใหม่ “ถ้าเราจะขีดเส้นไหนเข้มขึ้น—คือเส้นใต้คำว่า ยืนด้วยกัน”นิกวางแฟ้มหัวโต “ขอเช็กความเรียบร้อยนิด: ป้ายสูงจากพื้น 1.8 เมตรตามกฎทางเท้า—ไม่กีดขวาง สกรีน QR ด้านมุมขวาล่างลิงก์ไปหน้า ‘กติกาบ้าน’ และหน้า ‘คำที่ปกป้อง’ ฉบับล่าสุด แล้วก็…ข้างบ้านอนุญาตเรียบร้อยค่ะ คุณศรีบอก ‘ติดเถอะ จะได้เป็นป้ายของเรา’”ขณะทุกคนคุยกัน เสียง ก๊อง–แก๊ง จากหน้าต่างบ้านชั้นสอง ผ้าม่านไหว ๆ และใบหน้ายิ้มขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status