LOGINเวลาผ่านไปราวสิบนาทีเจ้าหนูก็หลับสนิท ฟ้าใสค่อยๆ จัดผ้าห่มคลุมถึงหน้าอกให้ลูกอย่างเบามือ เธอเงยหน้ามองคนตัวสูง เขาก็ส่งสัญญาณว่าจะออกไปรอข้างนอก
หญิงสาวเปิดเพียงไฟหรี่ข้างเตียงให้ลูก จากนั้นก็เดินออกไปจากห้อง เจอร่างสูงที่ห้องนั่งเล่น จึงไปนั่งข้างๆ ดึงหมอนมากอด
"เมฆจะกลับมาเมื่อไหร่" เรนเป็นฝ่ายทำลายความเงียบขึ้นก่อน
"น่าจะดึกค่ะ พี่เรนไม่ได้ติดต่อใครที่เมืองไทยเลยหรือคะ" เพราะปกติเมฆาจะรู้ข่าวคราวของเรนอยู่บ้าง แต่ครั้งนี้ไม่เห็นพี่พูดอะไร
"ไม่ มันเป็นภารกิจลับสุดยอด ความจริงพี่ไม่ควรมาที่นี่เลยด้วยซ้ำ"
กฎ ยิ่งแคร์...ยิ่งต้องห่าง ของเขาถูกแหกแล้วตอนนี้ ปกติขณะยังทำภารกิจลับอยู่เรนจะไม่ยอมติดต่อญาติถ้าหากไม่จำเป็นจริงๆ ถ้าคืนนั้นไม่ได้พบฟ้าใสกับเจ้าหนู เรนก็คงจะหายต๋อมไม่มาเข้าใกล้แน่ แต่พอได้เห็นแล้วก็รู้สึกผูกพันอยากอยู่ด้วยอีกสักนิด ก่อนที่จะหายตัวไปอีกหน
"ไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของพี่ใช่มั้ยคะ"
"ไม่น่าจะมีนะ เพราะพี่ไม่ได้ใช้ใบหน้านี้ในการทำงาน"
ฟ้าใสทำตาโต เธอเคยได้ยินว่าเขาคือสายลับพันหน้า นี่คงเป็นที่มาของฉายานี้นั่นเอง
"น่าตื่นเต้นจังค่ะ เหมือนในหนังไซไฟเลย"
"ใช่ตื่นเต้นมาก...เพราะแต่ละภารกิจพี่ก็ลุ้นว่าจะรอดกลับมาเล่าให้คนอื่นฟังไหม"
เขากล่าว พลางกดมุมปากยิ้ม แต่ฟ้าใสฟังแล้วกลับยิ้มไม่ออกและรู้สึกวูบโหวงในอก ลองจินตนาการว่าถ้าพี่เรนมีครอบครัวแล้วเขาไม่ค่อยได้อยู่ด้วย มันคงจะเศร้าน่าดูเลย
"พี่เรนเก่งและดวงแข็งมาก ไม่เหมือนฟ้าที่ดวงซวย"
"ซวยเรื่องอะไร?"
เรนถามออกไปแล้วมองใบหน้านวลปลั่ง ดวงตาเธอฉายประกายเศร้าลง เขาจึงนึกขึ้นได้ว่าเธอหมายถึงเรื่องอะไร ชายหนุ่มโอบร่างบางดึงให้เอนมาพิงไหล่
"มันเป็นใคร...ฟ้าบอกพี่มา พี่จะจัดการให้เอง"
เรนเอ่ยเสียงเรียบ ทว่าจริงจัง ฟ้าใสส่ายหน้าเบาๆ
"ฟ้าตื่นขึ้นมาก็จำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังจำไม่ได้ ฟ้าพยายามนึกนะคะ แต่มันนึกไม่ออก ฟ้าเลยบอกทุกคนว่าเป็นแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว"
มันเป็นความจริงตามที่เธอบอกเขาทุกอย่าง เธอตื่นขึ้นมาก็รู้สึกแบลงก์สมองว่างเปล่า ทุกอย่างยังคงมือแปดด้านมาถึงทุกวันนี้
"ฟ้าบอกวันเวลาและสถานที่มา พี่จะสืบให้เอง"
เรนเชื่อว่าเขาสามารถหาได้แน่ เรื่องพวกนี้มันขี้ปะติ๋วสำหรับสายลับ
"แต่ฟ้าไม่อยากรู้นะพี่เรน เพราะอยู่กับลูกแบบนี้ฟ้าก็มีความสุขแล้วค่ะ รู้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมาในเมื่อเราไม่ต้องการเขา สู้ปล่อยไปอย่างที่เป็นอยู่จะดีกว่า"
หญิงสาวคิดไปในทางลบด้วยว่า ถ้าหากเขาคนนั้นเป็นพวกไม่ดีล่ะจะทำอย่างไร เธอไม่ต้องการรับรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับเขาทั้งนั้น นั่นคือเหตุผลที่ฟ้าใสไม่เคยสืบหาตัวผู้ชายปริศนาในคืนนั้นเมื่อหกปีที่แล้ว
"นั่นสินะ... สำหรับเรื่องบางเรื่องนั้น การไม่รู้มันจะดีกว่า... "
ชายหนุ่มเห็นด้วยกับหญิงสาว เธอมองเขาด้วยสายตาอ่อนโยน
"ขอบคุณมากค่ะพี่"
"ขอบคุณพี่เรื่องอะไร ยังไม่ได้ทำอะไรให้เลย" เรนเลิกคิ้ว ร่างบางผละออกจากอ้อมแขน
"ขอบคุณที่เป็นห่วงฟ้าไง แต่ฟ้าไม่อยากรู้จริงๆ พี่ไม่ต้องเสียเวลาไปสืบเลย อีกอย่าง ฟ้ากลัวเขาจะมาแย่งลูกไป"
"พี่เข้าใจแล้ว"
เข้าใจ แต่ยังอยากจะเสือกอยู่ เขาจะทำมันอย่างเงียบๆ ไม่บอกใคร สัญชาตญาณอันแรงกล้าบอกว่าเรื่องนี้มันมีเงื่อนงำบางอย่างที่เขาต้องสืบหาความจริงให้ได้ ตื่นขึ้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม...โอเค เขาจะเริ่มจากตรงนั้นแหละ
"พรุ่งนี้ใส่บาตรที่ท่าน้ำด้วยกันนะคะ"
ฟ้าใสเปลี่ยนเรื่อง ที่ลำคลองมีพระพายเรือมาบิณฑบาตทุกเช้า เธอจำได้ถึงการใส่บาตรด้วยกันกับเรนเมื่อหลายปีก่อน เธอได้จับด้ามทัพพีเหนือมือของเขาด้วย กรีตาเพื่อนสนิทก็เอาเรื่องนี้มากระเซ้าแซวใหญ่ว่าถ้าเธอแต่งงานกับพี่เรน เธอจะได้อยู่เหนือเขา แต่ฟ้าใสคิดว่าเพื่อนเธอไร้สาระมาก เพราะใครกันจะอยู่เหนือคนอย่างเรนได้ ถ้าอยู่...ก็น่าจะอยู่ใต้อาณัติของเขามากกว่า ลักษณะอัลฟ่าทรงพลังขนาดนี้ย่อมไม่ตกอยู่ใต้อำนาจใครง่ายๆ แน่
"โอเค ได้สิ กี่โมงล่ะ พี่จะได้ตั้งนาฬิกาปลุก"
"ตื่นสักหกโมงก็ได้ค่ะ ฟ้าจะปลุกพี่เอง"
เขาพยักหน้ารับทราบ ฟ้าใสจำได้ว่าสมัยก่อน เรนคือคนที่ค่อนข้างจะเข้าไม่ถึง เพราะเขาไม่อยู่ให้ศึกษานานๆ เลย มาเจอกันแป๊บเดียวก็หายตัวไปอีกแล้ว อย่างตอนนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะไป เพราะบทพ่อคุณจะมาก็มา จะไปก็ไปอย่างที่เห็น
"อ้อ น้ำไม่ไหลเพราะวาล์น้ำจริงๆ ด้วย มีคนไปปิดเอาไว้"
"คงเป็นพี่เมฆ หรือไม่ก็แม่บ้านที่จ้างมาค่ะ"
"อาบน้ำจากโอ่งก็เย็นดี พี่ชอบ"
"พูดให้ฟ้ารู้สึกแย่น้อยลงเหรอ แต่ยังไงก็ต้องขอโทษพี่อีกครั้งนะคะที่มาวันแรกก็เจอแบบนี้เลย เออ แล้วหัวพี่ที่ไปชนอะไรนั่นตอนนี้รู้สึกยังไงบ้างคะ" ฟ้าใสนึกขึ้นได้จึงถาม
"ไม่เป็นไรแล้ว หัวพี่แข็ง"
"โล่งใจไปค่ะ อืม พี่เรนจะนอนที่บ้านนี้ก็ได้นะคะ มีตั้งหลายห้อง" ฟ้าใสตัดสินใจชวน เมื่อเห็นเขาเริ่มจะไหลลงไปนอนพิงมุมโซฟาคล้ายอยากหลับเต็มที
"รู้ไหมว่าพี่ไม่ได้กลับบ้านนานมาก จนเกือบลืมไปหมดแล้วเวลาอยู่บ้านว่ามันรู้สึกยังไง"
"ก็คิดเสียว่าที่นี่เป็นบ้านของพี่อีกหลังสิคะ เดี๋ยวฟ้าไปจัดห้องให้ พี่นอนไปรอก่อนนะคะ"
"ไม่ต้องหรอก พี่ขอพักสายตาแป๊บเดียว เดี๋ยวจะกลับไปนอนบ้านโน้น"
"นอนที่นี่เถอะค่ะ"
ฟ้าใสคะยั้นคะยอ เธอขยับตัวจะลุกขึ้น แต่มือใหญ่เอื้อมมาคว้ามือเอาไว้
"คะ?"
"อยู่ก่อน อย่าเพิ่งไป"
เขาพึมพำขณะหลับตา หญิงสาวจึงยอมนั่งลงที่เดิม
"เล่าให้พี่ฟังหน่อยสิว่าชีวิตฟ้าตั้งแต่หลังจากที่เราเจอกันครั้งโน้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง"
เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลย ช่างเป็นพี่ชายที่แย่สิ้นดี เธอขยับไปนั่งมุมโซฟา ทำให้เท้าของเขาต้องพาดไปบนตัก ชายหนุ่มจึงขยับเปลี่ยนท่าใหม่
"พาดมาได้เลยค่ะ ฟ้าไม่ถือ" หญิงสาวรีบบอก
"ไม่ได้ งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า" เรนขยับเปลี่ยนเป็นเอาศีรษะมาหนุนตักเธอแทน แบบนี้คิดว่าสุภาพกว่าเท้าพาด
ฟ้าใสรู้สึกหน้าร้อนผ่าว เมื่อก้มลงไปมองใบหน้าคมสันที่หลับตานิ่งมือประสานกันบนหน้าอก ท่านี้มันให้ความรู้สึกแปลกๆ อยู่ไม่น้อย หัวใจเธอเต้นแรงอย่างช่วยไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ได้คิดอะไรในทางนั้น
"พี่พร้อมแล้ว"
คนหนุนตักพึมพำบอก ทำให้ฟ้าใสรีบตั้งสติทบทวนชีวิตของตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากเจอเรนครั้งสุดท้าย ซึ่งก็ย้อนไปถึงตอนที่อายุยี่สิบสามปีเห็นจะได้ มันเป็นงานแต่งของรัลดาผู้ซึ่งเป็นน้องสาวของเรนนั่นเอง
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล







