LOGIN"รับผิดชอบ?" เขาต่อให้ หญิงสาวพยักหน้า
"ค่ะ... เพราะมันไม่ได้มีอะไร พี่แค่ช่วยฟ้า และเราก็รู้กันแค่สองคน ไม่ให้ใครรู้เด็ดขาดโดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่" เพราะท่านเหล่านั้นเป็นพวกบ้าจี้ ถ้าหากรู้... จะต้องหาเรื่องจับคู่เขากับฟ้าใสแน่ๆ
"พี่เข้าใจ ระหว่างเรามันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว"
เขาพูดออกไปตรงๆ กับเธอ
ฟ้าใสอึ้งไปนิดหนึ่ง ไม่รู้ทำไมใจถึงหล่นวูบกับประโยคนั้นของเขา แต่ก็รีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติโดยไว
"ค่ะ ฟ้ารู้ ถึงไม่ได้คิดอะไรไง ถึงพี่คิด ฟ้าก็ไม่คิดด้วยหรอก"
หญิงสาวกลบเกลื่อนด้วยการพูดเกทับเสียเลย
"พูดแบบนี้คือ พี่ไม่ใช่สเปกล่ะสิ"
เรนผุดยิ้มมุมปากขณะมองคนที่สั่นหน้าจนผมกระจาย
"ไม่เลยค่ะ พี่เรนไม่ใช่สเปกฟ้าเลยสักนิด" เธอโกหกหน้าซื่อ
"งั้นก็ดีแล้ว เพราะพี่ไม่สะดวกเป็นสเปกของใครจริงๆ" ต่างคนต่างพยายามทำให้เคลียร์ที่สุดและมองสบตาอย่างไม่มีใครหลบ
"อ่า...งั้นเราก็เคลียร์เรื่องเมื่อคืนแล้วนะคะ"
ฟ้าใสรีบกล่าวสรุป เรนพยักหน้าเล็กน้อย
"ตามนั้น..."
"งั้น เดี๋ยวฟ้าจะกลับไปบ้านโน้น ป่านนี้พี่เมฆคงพาเอิร์ธไปโรงเรียนแล้วล่ะ และฟ้าจะอยู่บ้านไม่เข้าบริษัท พี่เรนอยากทานอะไรเป็นมื้อเช้าดีคะ"
หญิงสาวเปลี่ยนเรื่องเมื่อเคลียร์ใจและมองหน้าเขาได้เป็นปกติแล้ว เวลาเก้าโมงกว่าแล้วตอนนี้ เมฆาเป็นคนไปส่งเอิร์ธเช่นปกติ ลูกเป็นเด็กไม่งอแงมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว น้องเอิร์ธเลี้ยงง่ายและติดลุงเมฆพอๆ กับติดแม่ฟ้า
"พี่ขออาบน้ำแล้วจะไปช่วยนะ"
"โอเคค่ะ" ฟ้าใสขยับตัวลุกขึ้น แต่เท้าดันเหยียบปลายเสื้อคลุมเข้าให้เลยเซคะมำ ร่างสูงรีบเอื้อมไปรวบกอดเอวแล้วดึงมานั่งตัก เธอหน้าแดงเรื่อ หันไปมองเขา ทำให้ปากอิ่มสัมผัสเข้ากับปากหยักได้รูปเข้าอย่างจัง ต่างก็ตัวแข็งทื่อในนาทีนี้ ฟ้าใสรีบผละหน้าออก
"เอ่อ ฟ้าซุ่มซ่ามอีกแล้ว" เธอพึมพำ คนตัวสูงกดยิ้มมุมปาก
"นั่นสิ ซุ่มซ่ามจริงๆ... ดีที่พี่รับไว้ทัน"
ดวงตาพราวระยับมองเธอคล้ายขบขัน ริมฝีปากหยักสวยของเขาคลี่ยิ้มมากขึ้น
"ยิ้มทำไมเนี่ย ฟ้าเขินนะ"
ฟ้าใสเขินกับรอยยิ้มกริ่มนั่นจนไปไม่เป็น แถมยังรู้สึกแปลก...นั่นก็คือไม่อยากขยับลงจากตักของเขา แอบคิดในใจว่า...อยากดูว่าเขาจะปล่อยเธอเมื่อไหร่ มันเหมือนมีแรงดึงดูดลึกลับที่เธอรู้สึกเสมอเวลาอยู่กับเรน แต่พอเขาบอกชัดเจนว่าไม่ได้คิดอะไรกับเธอ ฟ้าใสก็ไม่พยายามไม่คิดเช่นเดียวกัน ทว่ามันก็ไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ ยิ่งผ่านเหตุการณ์อย่างเมื่อคืนนี้มากับเขา ยิ่งทำให้เธอเต็มไปด้วยพิรุธในใจ แต่ก็พยายามเก็บซ่อนไว้ให้มากที่สุด
"ไม่รู้สิ เห็นฟ้าเขิน พี่เลยยิ้ม ฟ้าน่ารักเวลาแก้มแดงแบบนี้"
เขาพูดและเอานิ้วมาจิ้มแก้มเธอ
"พี่เรนนี่นะ ทำให้ฟ้าเขินจริงๆ นะ ปล่อยเถอะค่ะ กอดฟ้าแบบนี้เดี๋ยวฟ้าแอบหวั่นไหว พี่จะรับผิดชอบไม่ไหวเอานะคะ"
"ฟ้าหวั่นไหวเหรอ?" เรนสบตาคู่สวย ถามไปแล้วก็นึกอยากตบปากตัวเอง เอาจริงๆ เขามันก็พวกปากอย่างใจอย่างจริงๆ ยอมรับว่าชอบมากเวลาได้อยู่กับฟ้าใส แต่ต้องห้ามตัวเองและหักอกหักใจไม่ทำหมาหยอกไก่กับเธอจนเธอเข้าใจผิดและคิดไปไกล ถ้าจะใกล้ชิดก็ควรเป็นลักษณะพี่น้องเท่านั้น
แต่หลังจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้...มันจะยังเป็นพี่น้องกันได้อยู่เหรอวะ? เขานึกสงสัยและสับสนไม่น้อย แต่ก็ต้องบอกตัวเองให้ชัดเจนและยึดถือกฎเหล็กของตัวเองเอาไว้ให้มั่นและนานที่สุด
"ฟ้า...เอ่อ ยอมรับว่ามีหวั่นไหวบ้างนิดหนึ่ง มันอาจจะเป็นธรรมดาสำหรับผู้หญิงมั้ง"
หญิงสาวสารภาพไปตามที่รู้สึก ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อหลายเดือนก่อนฟ้าใสก็มีอาการของโรคแพนิกอ่อนๆ แต่กับเรนเธอกลับไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แถมยังรู้สึกปลอดภัยในอ้อมแขนของเขาอย่างเช่นขณะนี้ เขานิ่งไปนิดหนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจ
"พี่ไม่อยากให้ฟ้าหวั่นไหว พี่ไม่สามารถรับผิดชอบความรู้สึกของใครได้ ฟ้าเข้าใจงานพี่ใช่ไหม"
"ไม่เห็นต้องรับผิดชอบอะไรนี่คะ โตๆ กันแล้ว ต่างคนต่างก็รับผิดชอบความรู้สึกของตัวเอง" ฟ้าใสไม่ได้ยั่วหรืออ่อยเขา แต่คิดว่าเราสองคนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจที่คล้ายกัน แต่มันมีเหตุผลที่เรนไม่อยากให้มันเกิดขึ้น
"มันพูดง่าย แต่ทำยาก"
ชายหนุ่มพึมพำ เขาก้มลงหอมแก้มเธอทีหนึ่งก่อนจะยอมปล่อยให้ลงจากตัก ใจนึกเสียดายนิดๆ แต่ก็ต้องบอกตัวเองว่าอย่าเสือกเล่นกับความรู้สึกของคน ในเมื่อรับผิดชอบไม่ได้ก็ไม่ควรก่อปัญหา ให้นึกถึงพ่อแม่ของเธอที่เขารักและเคารพมากๆ เข้าไว้ พวกท่านจะต้องผิดหวังในตัวเขาถ้าหากทำให้ฟ้าใสเกิดแผลในใจ
"พี่เรน" ฟ้าใสเรียกเขาเสียงเบา เธอยืนอยู่เบื้องหน้าขณะที่ร่างสูงยังคงนั่งอยู่ที่ปลายเตียง ใบหน้าหล่อคมสันเงยมอง
"ว่าไง?"
"ถ้าเรามีอะไรกัน... ฟ้าไม่เกี่ยงนะ แบบไม่ต้องคิดมากน่ะ นอนด้วยกันแบบผู้ใหญ่ๆ น่ะ" ฟ้าใสข่มความอายแล้วพูดไปอย่างที่ใจคิด จากนั้นก็ไม่อยู่รอฟังคำตอบ เธอหมุนตัววิ่งออกจากห้องลงบันไดไปทันที
เรนนั่งอึ้งรับประทานอยู่ที่ปลายเตียง ยายเด็กบ้านี่... พูดอะไรแบบนี้ได้ไงวะ ถ้าขืนเขายุ่งกับเจ้าหล่อนชีวิตจะต้องยุ่งยากกว่านี้แน่
แต่... หัวใจเสือกเต้นคร่อมจังหวะ...บ้าฉิบหาย...
"เชี่ย...ห่าเอ๊ย"
เรนสบถพลางยกมือขึ้นเสยผมจนยุ่งเหยิง ภาพเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมาในใจอย่างเด่นชัด และคำพูดที่เธอทิ้งเอาไว้ก็ทำให้เขาเอามันกลับมาวนเวียนอยู่ในหัวจนได้ และ...วนหลายรอบด้วย...
ไอ้สัตว์! หยุดคิด พอได้แล้วมึง...อ่อนฉิบหาย! แค่เด็กมันยั่ว แต่เขาไม่จำเป็นต้องคิดตามโว้ย...
ชายหนุ่มก่นด่าตัวเอง ถอดเสื้อผ้าแล้วเดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำเย็นราดรดตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า อาศัยให้มันช่วยขจัดภาพและความคิดชั่วๆ นั่นให้หายไปจากหัวลามกจกเปรตของเขา ก่อนจะไปเผชิญหน้ากับคนต้นเหตุที่ยัดมันใส่สมองเขาอีกครั้ง
"ฟ้าจำผู้ชายคนหนึ่งที่ภูเก็ตได้ไหม ที่ร้านอาหารน่ะ ผู้ชายตัวสูงและใส่แว่น คนที่ฟ้าหันไปทีไรก็เห็นว่าเขามองฟ้าอยู่"เรนลองสะกิดความทรงจำให้เธอ ฟ้าใสก็นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเมื่อนึกออก"จำได้ค่ะ เพราะคุยกับเขานิดหนึ่งที่หน้าห้องน้ำ เอ๊ะ... อย่าบอกนะคะว่านั่นคือ...พี่"เรนพยักหน้า..."ใช่...พี่เอง ตอนนั้นพี่กำลังทำงานอยู่""โห...มีอีกมั้ยคะ" เธอถามออกไปอย่างทึ่งจัดและคาดไม่ถึง"ที่ฟ้าได้เจอก็มีแค่นี้แหละ" ส่วนที่ไม่เจอก็ไม่ต้องพูดถึง... มันเยอะมากจนนับไม่ถ้วน ฉายาสายลับพันหน้านั้นไม่เกินจริงหรอกเพลงจบลงพอดี เรนโอบเอวฟ้าใสเดินออกจากฟลอร์ เหลือบสายตาไปเห็นว่าร็อคกับราชาวดียังคงเต้นรำเพลงต่อไปไม่หยุด พี่ชายของเขาทำเหมือนไม่ได้เต้นรำกับเมียมาเป็นชาติอย่างนั้นแหละ เพราะตอนนี้มันทิ้งลูกๆ เอาไว้ที่โต๊ะให้ปู่กับย่าดูแลเฉย แต่จะว่ามันก็ไม่ได้เพราะเขาเองก็ปล่อยลูกๆ ไว้กับคุณตาคุณยายเหมือนกันเรนนึกถึงครั้งที่ร็อคบอกว่ามันกำลังบินมาเมืองไทยเพื่อช่วยเขาปิดจ๊อบแต่ไอ้พี่ชายกลับหายหัวไปเฉย เพิ่งมาเฉลยทีหลังว่ามันโกหก ที่จริงมันไปที่เกาะกลางทะเล จัดการเก็บกวาดลูกน้องของไอ้ฮอล์กจนเกลี้ยง แล้
"ไม่เอาค่ะ อย่าซนสิคะ... นี่มันดึกแล้วนะ เรานอนกันดีกว่า เพราะพรุ่งนี้มีนัดจะต้องไปที่บ้านริมน้ำนะ"หญิงสาวเตือนเบาๆ มารดาของเมฆานัดให้ไปลองชุดที่ท่านเป็นคนออกแบบให้ด้วยตัวเอง หญิงสาวจึงรู้สึกตื่นเต้นมาก ไม่อยากสาย เธอผลักอกกว้างเบาๆ แต่มีหรือเขาจะปล่อยง่ายๆ"แป๊บเดียวเอง น้ำเดียวแล้วจะให้นอน...นะครับ"เขากระซิบขอด้วยภาษาทะลึ่ง พร้อมกับมือไม้ก็ซุกซนไปทั่วตัวเธอไม่ยอมหยุด"คุณนี่นะ..."เธอบ่นงึมงำน้ำเสียงเบาหวิวเพราะเริ่มอ่อนไหวไปกับสัมผัสหวามที่เขากำลังทำอยู่ มืออุ่นล้วงเข้าไปใต้เสื้อแล้วกลิ้งกลึงยอดถันที่ไวต่อความรู้สึก"อา ดีจัง...ผมชอบที่คุณจุดติดเร็วแบบนี้"แววตาที่เต็มไปด้วยไฟปรารถนาปนเว้าวอนของเขาทำให้ซิมใจอ่อนยวบพร้อมกับร่างกายที่อ่อนระทวยตาม เธอไม่เคยใจแข็งกับเมฆาได้เลยสักครั้ง"ไม่เกินยี่สิบนาทีนะคะ" หญิงสาวกล่าวเสียงอ้อมแอ้มเขาไม่ตอบ แต่ก้มมาปิดปากและจุมพิตเธออย่างเร่าร้อนไม่ยอมเสียเวลาอีกต่อไป เมฆารู้ว่ายังไงเมียก็ต้องตามใจเขาอยู่แล้ว ซิมรักเขามาก เขารู้ดี และเขาเองก็รักเธอมากพอกัน ตอนนี้ก็แทบจะรอไม่ไหวแล้วที่จะได้สร้างครอบครัวกับเธอเสียทีและแล้ววันแต่งงานก็มาถึง...พิธีว
"จริงเหรอคะ? ซิมไม่ได้สังเกตเลยเนี่ย" หญิงสาวยกมือขึ้นแตะบริเวณขอบตาด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อยเมฆาคลี่ยิ้มขำที่เธอเชื่อคำกระเซ้าแซวของเขา บุคลิกภายนอกทั่วไปซิมเหมือนผู้หญิงบอบบางและซื่อใส แต่เวลาทำงานตัวตนของซิมจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เธอสามารถสั่งจัดการคนได้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เธอใจแกร่ง เด็ดขาด และกล้าหาญอย่างที่ผู้ชายหลายคนสู้ไม่ได้ เป็นคนสองบุคลิกอย่างแท้จริง เมฆารักเธอทั้งสองเวอร์ชัน และรู้สึกมันเขี้ยวมากเวลาเห็นซิมตามมุกของเขาไม่ทันแบบนี้"ไม่เชื่อก็ไปส่องกระจกบนห้องดูสิ ปะ ผมจะพาไปเอง"ชายหนุ่มกล่าวพลางฉุดมือเธอให้ลุกขึ้น ซ่อนรอยยิ้มพราวเอาไว้"ซิมยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ" เธอทักท้วงเสียงอ่อน"เอาไว้ทำต่อพรุ่งนี้เถอะ ตอนนี้มันเป็นเวลาพักผ่อนกับผัวนะที่รัก"สีหน้ากรุ้มกริ่มของเขาทำให้ซิมไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเขาต้องการจะพักผ่อนจริงๆ แต่ก็ยอมเดินตามแรงดึง จนกระทั่งเข้าไปในห้องนอน พอเขาผลักเธอเบาๆ ให้ล้มลงไปบนเตียง หญิงสาวก็รู้ความนัยว่าไอ้ที่เดาไว้น่ะ...ไม่ผิดเลยสักนิด"คนเจ้าเล่ห์" เธอต่อว่าต่อขานทันที แต่เขาก็ยิ้มรับหน้าตาระรื่น"กับคุณ... ถ้าไม่เจ้าเล่ห์...ผมก็อดจู๋จี๋ด้วยน่ะสิ ทุกวันนี้
กลางดึกของคืนที่มีสายฝนตกโปรยปราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายกำลังอยู่เวรที่ด่านตรวจ พวกเขารู้สึกเซ็งและเบื่อหน่ายกับสภาพอากาศแสนอึมครึมและเปียกแฉะนี้เหลือเกิน เวลาค่อนคืนอย่างนี้ก็คงมีแค่คนมีเวรอย่างพวกเขาเท่านั้นแหละที่จะต้องมานั่งถ่างตาทำงานเพื่อให้คนอีกหลายสิบล้านคนได้นอนหลับอย่างเป็นสุขในนิทรารมณ์จนกระทั่งเวลาเลยเที่ยงคืนไปเล็กน้อยก็มีเสียงครืดคราดของวิทยุสื่อสารดังขึ้น เรียกสติที่กำลังเคลิ้มของจ่าหมีให้เงี่ยหูฟังก่อนจะหยิบขึ้นมาดู มันเหมือนคลื่นวิทยุที่ยังจูนไม่ตรงสถานีจึงเกิดเสียงซ่าไม่หยุด"อะไรวะเนี่ย ฟังไม่รู้เรื่องเลยโว้ย ห่าเอ๊ย"จ่าสบถขรม แต่ก็ตั้งใจฟังต่อไป พอมองหาว่ามันมาจากคลื่นความถี่ไหน เขากลับเห็นแต่ตัวเลขยาวเหยียด คล้ายกับว่ามันไม่ได้มาจากแหล่งสื่อสารปกติของพวกตำรวจ ชั่วแวบหนึ่งจ่านึกถึงคำเล่าขานที่ว่าในช่วงสองสามปีมานี้มันมี คลื่นรบกวนพิเศษ ที่ไม่ทราบแหล่งที่มาคอยแจ้งเบาะแสเรื่องพวกกระทำผิดกฎหมายทำให้ตำรวจสามารถจับกุมพวกเดนนรกพร้อมของกลางได้หลายเคสจนเป็นข่าวอยู่เนืองๆ"เตรียมสกัดจับรถเก๋งสีดำ ยี่ห้อโตโยต้า ป้ายทะเบียน กค 781... มียาบ้า... ค้นใต้เบาะและท้ายรถที่มีการต่
สามปีต่อมาฟ้าใสกำลังกล่อมหยาดธาราหลับตอนบ่ายอยู่ในคอกที่ห้องนั่งเล่น เธอเปิดทีวีทิ้งเอาไว้เป็นเพื่อน“จากกรณีเรือสำราญซาฮาราถูกเจ้าหน้าที่ยึดจับและตรวจพบเฮโรอีนจำนวนมากพร้อมกับใต้ท้องเรือมีเด็กผู้หญิงอายุต่ำกว่าสิบแปดปีกว่าสิบคนซ่อนอยู่นั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการขยายผลและจับกุมนักการเมืองระดับรองหัวหน้าพรรคพร้อมตำรวจระดับนายพลอีกจำนวนสี่คน... ส่วนเบาะแสการจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ไม่อาจเปิดเผยผู้ให้ข้อมูลได้ แต่เท่าที่คนขุดข่าวทราบ เห็นว่าเป็นแหล่งเดียวกันกับเบาะแสคดีทลายบ่อนเถื่อนใจกลางกรุงเมื่อเดือนที่แล้ว...และคดีค้าประเวณีและทารุณกรรมเด็กที่พัทยาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา”ฟ้าใสหันไปให้ความสนใจมากขึ้น และเมื่อฟังจบริมฝีปากงามก็คลี่เป็นรอยยิ้มจางๆ แหล่งข่าวปริศนามันจะเป็นฝีมือของใครได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่...เรนตอนนี้องค์กรใต้ดินมีบอสใหม่ที่เป็นคนดีและมีอุดมการณ์หนักแน่น ทำให้เรนยอมช่วยเหลือเป็นครั้งคราว แต่ห้ามไม่ให้องค์กรมายุ่งกับชีวิตส่วนตัวของเขาเด็ดขาด เรนขู่ไปว่าถ้ามีใครมายุ่งเขาจะถล่มเกาะเหี้ยนั่นให้มันจบๆ ไป ทุกวันนี้ชีวิตของพวกเขาจึงอยู่อย่างสงบสุขอย่างที่เรนปรารถนา“หลับแล้วเหรอ”
ฟ้าใสฉี่ใส่แก้วเสร็จก็เอามาวางที่เคาน์เตอร์ เรนเอื้อมมือมา แต่เธอรีบตีเพียะ“ไม่ต้องเลยค่ะ ฟ้าจะทำเอง พี่ยืนอยู่เฉยๆ พอ” เธออายจะตายอยู่แล้วตอนนี้ แต่ก่อนที่จะได้ตรวจ ฟ้าใสก็ทำท่าจะขย้อนของเก่าอีกรอบ รีบหมุนตัวไปยังชักโครกแล้วโก่งคออาเจียนยกใหญ่เรนรีบขยับมาลูบหลังให้หญิงสาวอย่างเป็นห่วง“พี่บอกแล้วว่าให้อยู่เฉยๆ ก็ไม่เชื่อ” เขาทำบ่นให้เธอ แต่มือก็คอยลูบหลังและจับผมให้ คว้าทิชชูมาส่งให้เช็ดปากอย่างเอาใจใส่ แล้วก็กดชักโครกให้เสร็จสรรพ“นั่งตรงนี้ พี่จะทำให้เอง”เขาประคองเธอให้นั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จากนั้นก็รีบหยอดปัสสาวะใส่อุปกรณ์ ทำตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัดฟ้าใสนั่งมองร่างสูงที่กำลังวุ่นวายกับอุปกรณ์ตรวจฯ เธออดที่จะยิ้มบางออกมาไม่ได้ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นผู้ชายของเธอจริงๆ มันเหมือนฝันที่เป็นจริงไม่เคยบอกใครเลยว่าเมื่อนานมาแล้วเด็กสาวคนหนึ่งเคยมีผู้ชายในฝันกับเขาเหมือนกัน เธอแอบซุกซ่อนความลับนี้เอาไว้อย่างลึกสุดใจ แม้แต่ตัวเธอเองก็แกล้งทำเป็นลืมๆ มันไปซะ เพราะคิดว่ามันไม่มีทางที่จะเป็นจริงได้ พี่เรนคนที่มีชีวิตลึกลับและจับต้องไม่ได้คนนั้นไม่มีทางที่จะมองฟ้าใสเด็กกะโปโล