Mag-log in“อย่าห้ามผมเลยนะทูนหัว พรุ่งนี้เราสองคนก็จะเเต่งงานกันเเล้ว” กลิ่นสาบสาวทำให้พ่อหนุ่มคลั่งรักโยนความเป็นสุภาพบุรุษลงนรกไปทันควัน วูล์ฟเหมือนต้องมนตร์สะกดในชั่วเสี้ยวนาที ประหนึ่งมีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างสาวเจ้ากับเขาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขายังไม่ ‘ได้’ อิซาเบลล่า เพราะยิ่งได้สัมผัสแตะต้องเรือนกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นมือไม้ของเขาก็ยิ่งอยู่ไม่สุข ความรู้สึกในครั้งนี้มันต่างออกไปจากทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อิซาเบลล่าพยายามยั่วให้เขาชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายหน ทว่าวูล์ฟก็ยังอดใจไหว แต่แล้ววันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น เขาเป็นบ้าอะไร! ถึงได้กระหายอยาก ‘ร่วมรัก’ กับอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้
อภิมหาเศรษฐีหนุ่มได้แต่ฉงนในความปรารถนาที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยไม่นึกเอะใจเลยว่าคนที่ตนกำลังลวนลามและอยาก ‘ร่วมรัก’ ด้วยจนแทบคลั่งนั้น ที่จริงแล้วหาใช่อิซาเบลล่า พอร์ตแมน แต่อย่างใด
“เเต่ฉันไม่ใช่พี่เบลล่านะคะ ได้โปรดปล่อยฉันเถอะค่ะ” วาจาที่ได้สดับตรับฟังทำให้ความปรารถนาอันร้อนรุ่มพลันอันตรธานไปในชั่วพริบตา พ่อตัวโตผละจากร่างแน่งน้อยอย่างฉับไว แล้วรีบถอยห่างออกมาประหนึ่งโดนของร้อน ประจวบเหมาะกับไฟที่บริเวณนั้นสว่างพรึ่บขึ้นพอดี เขาจึงมีโอกาสได้มองเธอจากทางเบื้องหลัง แวบหนึ่งวูล์ฟนึกอยากจะหมุนร่างอรชรให้หันมาเผชิญหน้า ทว่าครั้นนัยน์ตาคมกริบได้เพ่งพิศสารรูปของอีกฝ่าย จอมยโสก็รีบผลักไสความคิดบ้าๆ ออกไปจากสมอง พร้อมสบถลั่นในอก
ฉิบหาย! เมื่อกี้เขาทำตัวเหมือนพวกโรคจิตบ้ากามที่ไม่ได้ฟัดผู้หญิงมาเป็นชาติ กับแม่สาวร่างเล็กเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรกเนี่ยนะ บ้าไปแล้ว!
ส่วนคนที่เพิ่งถูกจู่โจมชนิดไม่ทันตั้งตัวไปหมาดๆ ก็ถึงกับระบายลมหายใจด้วยความโล่งอก แล้วด่าทอตัวเองในใจที่เผลอไผลไปกับสัมผัสวาบหวามซึ่งเขาประเคนเข้าใส่อย่างหน้าไม่อาย เดชะบุญที่พ่อเจ้าประคุณยังไม่ได้ทำอะไรเลยเถิดมากไปกว่านั้น และที่สำคัญคือกระโปรงของเธอก็ยังอยู่ในสภาพที่ถือว่าโอเค เพราะมันไม่ได้ขาดวิ่นหลุดติดมือใหญ่ให้อับอายขายขี้หน้าหนักเข้าไปอีก ก่อนที่มะลิร้อยจะอ้าปากค้างกับวาจาร้ายกาจซึ่งหลุดออกมาจากปากหยัก
“ก็ยังว่าอยู่…เนื้อตัวเหม็นเน่าเเบบนี้ไม่ใช่เบลล่าเเน่ เเถมตัวเตี้ยขนาดนี้เวลาจะ ‘ร่วมรัก’ ด้วยคงใช้ท่ายืนไม่ได้ ถ้า ‘อยาก’ จริงๆ ก็คงต้องอุ้มกระเตง แต่กว่าจะ ‘เสร็จ’ คงเมื่อยตายชัก”
ทั้งที่รู้สึกผิดและละอายใจที่เผลอไปทำอะไรบ้าๆ กับเธอเข้า หากแต่แทนที่จะกล่าวคำขอโทษพ่อเจ้าประคุณกลับเลือกพ่นวาจาร้ายๆ ออกมาทิ่มแทงใจคนฟัง เพราะคนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน จองหองเกินกว่าที่จะกล่าวขอโทษใครง่ายๆ อีกอย่างเขาก็นึกหงุดหงิดใจ เพราะจำได้ว่าตนไม่เคยกระทำการหยาบคายและดิบเถื่อนเเบบนั้นกับอิซาเบลล่าเลยสักครั้ง ทว่าเมื่อครู่นี้แม่สาวน้อยตรงหน้ากลับเหมือนมีแรงดึงดูด ที่สามารถกระตุ้นให้เขาอยากทำมากกว่านั้นเสียด้วยซ้ำ เธอทำให้เขาไม่เป็นตัวของตัวเองไปชั่วขณะ
มันน่าประหลาดตั้งแต่ที่ในคราแรกเขาเห็นว่าสาวเจ้าน่าปรารถนาจนแทบคลั่ง แถมยังเดินลิ่วเข้ามาสวมกอดและลวนลามอีกฝ่ายแบบหน้ามืดตามัว ทั้งที่สัดส่วนของเธอกับอิซาเบลล่าไม่ใกล้เคียงกันเลยแม้แต่น้อย และที่น่าโมโหไปกว่านั้นก็คือ วูล์ฟไม่สนด้วยซ้ำว่าสไตล์การแต่งกายของหญิงสาวทั้งคู่จะต่างกันราวฟ้ากับเหว แต่จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูก เพราะแม่คุณเล่นครางกระเส่าเรียกชื่อเขาซะเต็มปากเต็มคำ ส่อแววไปในทางคนที่คุ้นเคยกันนักหนา แล้วแบบนี้จะไม่ให้เขาเข้าใจผิดได้อย่างไรไหว
จะว่าไปแล้วอีกฝ่ายไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจเลยสักนิด สกปรกก็เท่านั้น ทว่าเขากลับนึกอยากกระโจนเข้าใส่เพียงแค่มองเห็นแผ่นหลังบอบบาง และได้กลิ่นหอมหวานยวนใจจากกายสาวสะพรั่งชวนลิ้มลอง ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วนั้นมันคือกลิ่นอาหาร ซึ่งโชยออกมาจากเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรกของเธอ เหมือนสวรรค์จงใจกลั่นแกล้งให้ประสาทรับกลิ่นของเขาเพี้ยนไปชั่วขณะ แต่สรุปแล้วความผิดพลาดทั้งหมดมันเกิดจากความมืด…ความมืดทำให้เขาทำเรื่องน่าบัดซบ! มันไม่ได้เกิดจากความ ‘บ้าตัณหา’ ของเขาแต่อย่างใด หากไฟที่บริเวณสวนหลังบ้านพอร์ตแมนถูกเปิดให้สว่างเร็วกว่านี้ สาบานได้ว่าเขาจะไม่แตะต้องยัยเด็กนี่แม้แต่ปลายเล็บ
“คุณลวนลามฉัน แล้วยังจะมาพูดจาแบบนี้กับฉันอีกเหรอคะ” มะลิร้อยเอ่ยเสียงเครืออย่างเสียความรู้สึก อยากจะหันไปมองหน้าคนหยาบคายและใจร้ายให้เต็มๆ ตาแต่ก็ไม่กล้าพอ
“ฉันพูดแทงใจดำเธองั้นสิ คราวหลังจะอ่อยใครก็ควรจะดูสารรูปตัวเองหน่อยนะ ว่ามันชวนดึงดูดใจหรือว่าน่าสะอิดสะเอียนกันแน่” คนโอหังใส่เป็นชุดโดยที่เธอได้แต่ยืนอึ้ง แทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน และวาจาหยามหมิ่นซึ่งลอยมากระแทกโสตประสาทก็ทำให้สาวน้อยเกือบจะน้ำตาร่วง
“ฉันไม่ได้อ่อยคุณนะคะ และไม่เคยคิดที่จะอ่อย” คนโดนดูถูกปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองน้ำเสียงสั่นระริก การไม่ตอบโต้ด้วยถ้อยคำรุนแรงไม่ได้หมายความว่ามะลิร้อยไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพียงแต่ไม่อยากให้เขามองว่าเป็นเด็กก้าวร้าว และเอาพฤติกรรมที่เธอแสดงออกไปเล่าให้ป้าของเธอฟัง เพราะนั่นอาจจะเป็นเหตุให้เธอถูกทำโทษยกใหญ่
“ไม่อ่อย…แต่มายืนอยู่ในที่มืดๆ เพียงลำพังแบบนี้เนี่ยนะ จะบอกให้นะแม่คุณ ว่าถึงฉันจะโปรดปรานเรื่องเซ็กส์แต่ฉันก็เลือก และเนื้อตัวโสโครกแบบนี้ต่อให้เธอแก้ผ้าอ่อยฉันก็ไม่เกิดอารมณ์ บอกตรงๆ ว่า ‘เอา’ ไม่ลง” น้ำคำกักขฬะที่คนหลงตัวเองพ่นออกมาทำให้เธอหน้าตึง ก่อนจะสวนกลับเสียงกระด้าง
“ถ้าการพูดจาดูถูกฉันมันทำให้คุณมีความสุข…ก็เชิญเลยค่ะ เอาที่สบายใจ” กล่าวจบมะลิร้อยก็ทำตาโต เพราะเพิ่งฉุกคิดได้ว่าตัวเองเผลอพูดอะไรออกไป พร้อมกันนั้นก็รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง หัวใจดวงน้อยเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ
เนื่องจากเคยโดนผู้เป็นป้าตบคว่ำในตอนที่ย้ายมาอยู่ออสเตรเลียใหม่ๆ เพราะเผลอไปเถียงอีกฝ่ายเข้า มะลิร้อยจำได้ไม่เคยลืมว่าตอนนั้นตนกุมแก้มร้องไห้น้ำตานอง และนั่นก็พลอยทำให้หญิงสาวแทบจะไม่กล้าหือกล้าอือกับคนในครอบครัวพอรต์แมน รวมถึงไม่กล้าต่อปากต่อคำกับคนอื่นเท่าที่ควร เพราะเธอนึกขลาดกลัวพอๆ กับรู้สึกฝังใจว่าจะไม่ทำมันอีก ด้วยไม่อยากเจ็บตัว ไม่ว่าจากน้ำมือของใครก็ตาม จะมีบ้างก็แค่เวลาที่โดนพวกเด็กหัวโจกในหมู่บ้านรุมรังแกจนทนไม่ไหว เพราะยิ่งเธอไม่ตอบโต้ไอ้เด็กนรกพวกนั้นก็ยิ่งได้ใจ ฉะนั้นเธอจึงต้องสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกความกล้า แล้วกัดฟันสู้ยิบตา กับเด็กวัยไล่เลี่ยกันมะลิร้อยกล้าที่จะต่อกร
“พอๆ หยุดดราม่าเสียที มันน่ารำคาญ!”“แสดงว่าคุณยอมแต่งงานกับนังมะลิแล้วใช่ไหมคะ” น้ำเสียงของนางเดือนแขฟังดูลิงโลดอย่างออกนอกหน้า การตีความหมายเข้าข้างตัวเอง ทำให้ชายหนุ่มอยากจะหัวเราะให้กับความโง่เขลาเบาปัญญาของอีกฝ่ายยิ่งนัก “ผมไม่สนผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น โดยเฉพาะยัยเด็กกะโปโลแสนสกปรกนี่ และคนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับผมในวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นอิซาเบลล่า เจ้าสาวของผมจะต้องเป็นอิซาเบลล่าเท่านั้น เข้าใจไหม!” เสียงห้าวกระด้างเอ่ยอย่างเฉียบขาดถึงแก่น “แต่ยัยเบลล่าหนีไปแล้วนะคะ คุณปล่อยให้เธอไปมีความสุขกับคนที่เธอเลือกเถอะค่ะ อีกอย่างงานแต่งก็จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว ยังไงก็ตามตัวยัยเบลล่าไม่ทันหรอกค่ะ เอานังมะลิไปเป็นเจ้าสาวแทนเถอะนะคะ” นางเดือนแขพยายามโน้มน้าวจิตใจอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ ความจริงที่วิ่งเข้ามากระแทกใจโครมใหญ่ทำให้วูล์ฟตัวแข็งทื่อ กรามแกร่งที่ประดับอยู่ตรงโหนกแก้มขบกันจนเป็นสันนูน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสามารถจัดการกับชีวิตของตัวเองได้อย่างง่ายดายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ แต่ตอนนี้เขากลับกำลังจนปัญญาอย่างน่าโมโห เพราะไม่สามารถไปตามลากคอว่าที่เจ้าสาวเฮงซวยมาเข้าพิธีวิวา
“โสโครกสิ้นดี!” วูล์ฟเริ่มสวมวิญญาณมัจจุราชในชั่วพริบตา วาจาร้ายกาจที่หลุดออกมาจากปากหยักของเจ้าชายในฝันทำให้มะลิร้อยต้องกัดปากแน่น น้ำตาคลอเบ้า นึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาครามครัน เขาทั้งหยิ่งยโส ถือตัว ปากจัด ขี้หงุดหงิด และโมโหร้าย แถมพ่อเจ้าประคุณยังตั้งแง่รังเกียจเธอตั้งแต่แรกจนน่าเศร้าใจ จากที่ได้ประจักษ์มาถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้สาวน้อยเริ่มแน่ใจแล้วว่าวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน คงไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่เธอวาดภาพไว้ในวิมาน และมันก็อาจจะถึงเวลาที่เธอต้องเลิกหลงรูปจูบเงาพ่อเทพบุตรจำแลงเสียที ทว่าเสียงหนึ่งในใจกลับแย้งขึ้นอย่างฉับไวว่า…ถ้ามันทำได้ง่ายๆ แบบนั้นก็ดีน่ะสิ แต่หัวใจเจ้ากรรมหลงรักเขาไปแล้วนี่ให้ทำไงได้ “เอาไปขัดสีฉวีวรรณสักหน่อยก็สะอาดแล้วค่ะ” นางเดือนแขเอ่ยแทรกขึ้น หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ นัยน์ตาดุดันยังคงจ้องหน้านางซินตัวน้อยเขม็ง “นังหนู…เธออายุเท่าไหร่แล้ว หย่านมแม่หรือยังถึงคิดจะมีผัวตั้งแต่เด็ก” ในเวลาที่กำลังเดือดจัดเช่นนี้เขาดูพาลพาโลไปหมด แม่สาวน้อยเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินวาจาหยามหมิ่น อีกทั้งเจ็บปวดและอดสูระคนกัน “โอ๊ย! นังมะลิมันไม่
ทว่าหากเป็นผู้ใหญ่สาวน้อยจะเลือกสงบปากสงบคำเสียมากกว่า จะมีบ้างในกรณีที่อดใจไม่ไหวจริงๆ ซึ่งคนที่เธอไม่สมควรจะไปต่อกรด้วยมากที่สุด คือเเขกคนสำคัญของบ้านพอร์ตเเมนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ทว่าวันนี้เขากลับทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้น เพราะน้ำคำว่าร้ายทำลายจิตใจ จนพลั้งปากย้อนกลับด้วยความลืมตัว และในวินาทีถัดมาสาวน้อยก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงกัมปนาทที่สาดเข้าใส่อย่างอำมหิต “นี่เธอ!...มันจะมากไปแล้วนะแม่ตัวดี! ยัยหนูสกปรก!” เจ้าของร่างทรงพลังตวาดกร้าว นัยน์ตาวาวโรจน์ ใบหน้าคร้ามคมพลันถมึงทึง “ถ้าคุณจะพูดแค่นี้ ฉันขอตัวนะคะ” หลังจากพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว หญิงสาวก็เชิดหน้าเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ เพราะถึงแม้จะตื่นตระหนกในความกราดเกรี้ยวของเขาจนทำอะไรแทบไม่ถูก แต่มะลิร้อยก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด จากนั้นนางซินตัวน้อยก็ตั้งท่าจะก้าวจากไป ด้วยเกรงว่าหากอยู่นานกว่านั้นเธออาจจะหมดศรัทธาในตัวเขาก็เป็นได้ ถึงอย่างไรแม่สาวช่างฝันก็ยังอยากยกย่องให้อีกฝ่ายเป็นเทพบุตรในดวงใจของตนอยู่ และถ้ามันจะมีอะไ
“อย่าห้ามผมเลยนะทูนหัว พรุ่งนี้เราสองคนก็จะเเต่งงานกันเเล้ว” กลิ่นสาบสาวทำให้พ่อหนุ่มคลั่งรักโยนความเป็นสุภาพบุรุษลงนรกไปทันควัน วูล์ฟเหมือนต้องมนตร์สะกดในชั่วเสี้ยวนาที ประหนึ่งมีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างสาวเจ้ากับเขาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขายังไม่ ‘ได้’ อิซาเบลล่า เพราะยิ่งได้สัมผัสแตะต้องเรือนกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นมือไม้ของเขาก็ยิ่งอยู่ไม่สุข ความรู้สึกในครั้งนี้มันต่างออกไปจากทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อิซาเบลล่าพยายามยั่วให้เขาชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายหน ทว่าวูล์ฟก็ยังอดใจไหว แต่แล้ววันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น เขาเป็นบ้าอะไร! ถึงได้กระหายอยาก ‘ร่วมรัก’ กับอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้ อภิมหาเศรษฐีหนุ่มได้แต่ฉงนในความปรารถนาที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยไม่นึกเอะใจเลยว่าคนที่ตนกำลังลวนลามและอยาก ‘ร่วมรัก’ ด้วยจนแทบคลั่งนั้น ที่จริงแล้วหาใช่อิซาเบลล่า พอร์ตแมน แต่อย่างใด “เเต่ฉันไม่ใช่พี่เบลล่านะคะ ได้โปรดปล่อยฉันเถอะค่ะ” วาจาที่ได้สดับตรับฟังทำให้ความปรารถนาอันร้อนรุ่มพลันอันตรธานไปในชั่วพริบตา พ่อตัวโตผละจากร่างแน่งน้อยอย่างฉับไว แล้วรีบถอยห่างออกม
ถึงแม้พ่อเทพบุตรจะไม่มองเธอแม้แต่หางตา ทว่านางซินตัวน้อยกลับจ้องอีกฝ่ายราวกับต้องมนตร์สะกด ในวินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน อีกครั้ง มะลิร้อยก็เกิดตกหลุมรักเขาอย่างมิอาจห้ามใจได้…และบางทีเธอก็อาจจะตกหลุมรักอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเจอเสียด้วยซ้ำ บุรุษที่เพอร์เฟ็กต์ตั้งแต่หัวจรดเท้าสามารถตรึงสายตาและหัวใจของสาวน้อยได้ในคราเดียวกันอย่างน่าประหลาด ความอ่อนโยนที่ชายหนุ่มแสดงออกกับผู้ที่เธอนับถือประหนึ่งพี่สาวทำให้เขาเป็นเหมือนเจ้าชายในฝัน มะลิร้อยได้แต่แอบมองเขาอยู่ห่างๆ หวังเพียงแค่ได้ชื่นชมแต่ไม่คิดจะครอบครองเป็นเจ้าของ เพราะเธอเจียมตัวเสมอว่าตนนั้นต่ำต้อยมากแค่ไหน “ฉันขอแค่แอบมองคุณอยู่ห่างๆ แบบนี้ก็พอแล้ว…” ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา แค่ได้แอบมองเขาอยู่ห่างๆ มะลิร้อยก็สุขใจมากแล้ว มันมากพอแล้วสำหรับผู้หญิงต่ำเตี้ยเรี่ยดินประหนึ่งเศษโคลนที่โดนใครต่อใครเหยียบย่ำอย่างเธอ บางทีการแอบรักใครสักคนมันก็มีความสุข ถึงมันจะเป็นความสุขเล็กๆ แต่มันก็ทำให้เธอยิ้มได้ในทุกคราที่เผลอกระหวัดคิดไปถึงวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน…เทพบุตรเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจดวงน้อยลึกๆ เเล้วมะลิร้อ
อันที่จริงแล้วครอบครัวพอร์ตแมนเคยมั่งคั่ง แต่ตอนนี้กลับจนกรอบ เพราะกิจการฟาร์มปศุสัตว์ประสบภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล กอปรกับถูกพิษเศรษฐกิจเข้าเล่นงานอย่างต่อเนื่องมายาวนานหลายปี และที่สำคัญคือทุกคนในบ้านใช้เงินอย่างไม่รู้ค่า สุดท้ายมันก็เข้าขั้นวิกฤต จนวูล์ฟต้องยื่นมือเข้าไปช่วยด้วยการให้ว่าที่พ่อตาหยิบยืมเงินก้อนใหญ่มาพยุงกิจการฟาร์มให้ไม่ล้ม โดยตกลงกันว่าเงินส่วนนี้จะไปรวมอยู่ในค่าสินสอดของเจ้าสาว และถึงแม้ว่าตอนนี้อิซาเบลล่าจะกลายเป็นนางแบบเนื้อหอมที่มีคิวยาวเหยียดไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากที่หล่อนปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเคียงข้างเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่เพื่อนสนิทของวูล์ฟต่างมองว่าสาวเจ้ายังไม่ใช่คนที่คู่ควร และพากันคัดค้านว่าเขาตกลงปลงใจเร็วเกินไปหรือไม่อย่างไร แต่วูล์ฟ แอนเดอร์ตัน เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ตัดสินใจรวดเร็วและเฉียบขาดแบบนี้เสมอ หากอะไรที่เขาเชื่อมั่นว่าใช่มันก็ต้องออกมาเป็นคำว่าใช่เท่านั้น! เจ้าของร่างทรงพลังมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้ว่าพาหนะคันหรูได้เคลื่อนมาจอดที่หน้าบ้านพอร์ตแมนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว






![นางบำเรอ [5P]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
