Mag-log inทว่าหากเป็นผู้ใหญ่สาวน้อยจะเลือกสงบปากสงบคำเสียมากกว่า จะมีบ้างในกรณีที่อดใจไม่ไหวจริงๆ ซึ่งคนที่เธอไม่สมควรจะไปต่อกรด้วยมากที่สุด คือเเขกคนสำคัญของบ้านพอร์ตเเมนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ทว่าวันนี้เขากลับทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้น เพราะน้ำคำว่าร้ายทำลายจิตใจ จนพลั้งปากย้อนกลับด้วยความลืมตัว และในวินาทีถัดมาสาวน้อยก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงกัมปนาทที่สาดเข้าใส่อย่างอำมหิต
“นี่เธอ!...มันจะมากไปแล้วนะแม่ตัวดี! ยัยหนูสกปรก!” เจ้าของร่างทรงพลังตวาดกร้าว นัยน์ตาวาวโรจน์ ใบหน้าคร้ามคมพลันถมึงทึง
“ถ้าคุณจะพูดแค่นี้ ฉันขอตัวนะคะ” หลังจากพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว หญิงสาวก็เชิดหน้าเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ เพราะถึงแม้จะตื่นตระหนกในความกราดเกรี้ยวของเขาจนทำอะไรแทบไม่ถูก แต่มะลิร้อยก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด
จากนั้นนางซินตัวน้อยก็ตั้งท่าจะก้าวจากไป ด้วยเกรงว่าหากอยู่นานกว่านั้นเธออาจจะหมดศรัทธาในตัวเขาก็เป็นได้ ถึงอย่างไรแม่สาวช่างฝันก็ยังอยากยกย่องให้อีกฝ่ายเป็นเทพบุตรในดวงใจของตนอยู่ และถ้ามันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจริงๆ ก็ขอให้เป็นหลังจากนี้…หากมีอีกครั้งวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน จะไม่ใช่เจ้าชายในฝันของเธออีกต่อไป ตรงกันข้ามเขาจะกลายเป็นเจ้าชายมัจจุราชที่เธอควรจะหลีกลี้หนีให้ไกล
“เดี๋ยวก่อน…เธอเป็นใคร” เสียงห้าวกระด้างโพล่งขึ้นทันควัน อภิมหาเศรษฐีหนุ่มก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องอยากรู้จักยัยเด็กเนื้อตัวสกปรกอย่างเธอด้วย ทั้งที่เมื่อกี้รู้สึกเดือดดาลจนแทบจะกระโจนเข้าขย้ำอีกฝ่าย
“อย่าสนใจคนอย่างฉันเลยค่ะ ขอตัวนะคะ” ขาดคำนางซินก้นครัวก็เดินลิ่วจากไป โดยไม่แยแสว่าจอมยโสจะอนุญาตหรือไม่
วูล์ฟเอื้อมมือออกไป หมายจะกระชากร่างอ้อนแอ้นมาสั่งสอนว่าอย่ามาทำอวดดีกับเขา แต่แล้วก็ต้องชักมือกลับมากำเป็นหมัดแนบลำตัวด้วยท่าทางกระแทกกระทั้น พ่อเจ้าประคุณเย่อหยิ่งเกินกว่าที่จะแตะต้องเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรกของอีกฝ่าย
“บ้าเอ๊ย!” เขาสบถลั่นด้วยความหงุดหงิดหัวเสียเต็มอัตรา เพราะไม่เคยมีผู้หญิงหน้าไหนกล้าเดินหนีคนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน แบบนี้มาก่อน ให้ตายห่าสิวะ! แม่นั่นเป็นใครกันถึงบังอาจทำเมินใส่เขา
บุรุษเลือดร้อนกระแทกลมหายใจออกมาแรงๆ แล้วพยายามสงบสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ ก่อนจะหมุนกายเดินกลับเข้าไปภายในบ้านพอร์ตแมนอีกครา
ครั้นเจ้าของร่างทรงพลังก้าวขาเข้ามาภายในห้องรับแขกของบ้านว่าที่เจ้าสาว เขาก็มีโอกาสได้พบเจ้าของบ้าน ทั้งที่ในตอนแรกแม่บ้านบอกว่าคนทั้งคู่ไม่อยู่ และคนฉลาดเป็นกรดอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ก็เดาได้ไม่ยากว่ามันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเป็นแน่
“คุณอาทั้งสองจะไปไหนครับ” น้ำเสียงทรงอำนาจทว่าเจือไว้ซึ่งความสุภาพที่ดังขึ้นทำให้คนที่ถูกเอ่ยถามต่างสะดุ้งเฮือก กระเป๋าเสื้อผ้าที่พากันหอบหิ้วออกมาเพื่อจะหลบหนีไปอยู่ที่อื่นชั่วคราวหลุ่นตุ้บไปกองอยู่แทบเท้า ก่อนที่ทั้งคู่จะเงยใบหน้าซีดเผือดขึ้นมองผู้มาใหม่ด้วยท่าทางขลาดกลัว
“เอ่อ…” นายโรเบิร์ตและนางเดือนแข พอร์ตแมน ต่างออกอาการอ้ำๆ อึ้งๆ ท่าทางลุกลี้ลุกลนของสองผัวเมียทำให้ใบหน้าคร้ามคมพลันกระด้างขึ้น นัยน์ตาสีน้ำเงินอมเทาหรี่จนแคบลงเพื่อจับพิรุธ
“ระ…เราสองคนจะออกไปทำธุระข้างนอกจ้ะ” ในที่สุดนางเดือนแขก็ควานหาเสียงของตัวเองเจอ
“แล้วเบลล่าล่ะครับ”
“เอ่อ…” เจ้าบ้านต่างทำท่าอึกอัก พร้อมสะกิดให้อีกฝ่ายเป็นคนเปิดปาก ทว่าคนเป็นสามีทำเพียงส่ายศีรษะหวือและหน้าซีดปากสั่นราวกับเจ้าเข้า
“ผมถามว่าเบลล่าไปไหน!” ที่สุดวูล์ฟก็ตะคอกอย่างไร้ความอดทน
“เอ่อ…บะ…เบลล่าหนีไปแล้ว” เมื่อโดนคาดคั้นหนักเข้าโรเบิร์ตก็รีบละล่ำละลักเสียงสั่นสะท้าน เหงื่อแตกพลั่กไม่ต่างจากผู้เป็นภรรยา
“หนีไปแล้ว! หนีไปยังไง! และหนีไปกับใคร!” น้ำเสียงกราดเกรี้ยวซักไซ้ทันควัน
“เบลล่าหนีไปกับคนรักของเธอ เธอบอกว่าเธอไม่ได้รักคุณ” กล่าวจบประมุขของตระกูลพอร์ตแมนก็ก้มลงหลบสายตาอำมหิตที่กราดมาอย่างเอาเรื่อง
“บัดซบ! ผู้หญิงระยำ! ไม่รักดี!” วูล์ฟเค้นเสียงขุ่นคลั่กสบถลั่นด้วยความเดือดดาลระคนคั่งแค้นสุดฤทธิ์ กรามกระด้างขบกันแน่นจนเป็นสันนูน บุรุษจอมโอหังเกลียดการเสียหน้าอย่างเข้าไส้ และเกลียดการทรยศหักหลังยิ่งกว่าอะไรดี ฉะนั้นการแต่งงานที่ถูกจัดเตรียมไว้อย่างพร้อมสรรพจะต้องไม่ล่ม และหากงานแต่งเฮงซวยจะล่มจริงๆ มันจะต้องมีคนรับผิดชอบอย่างสาสม!
“พวกคุณจะรับผิดชอบยังไงกับการหายตัวไปของเจ้าสาวของผม” สรรพนามที่เคยเรียกสองผัวเมียอย่างสนิทสนมพลันแปรเปลี่ยนเป็นเหินห่างและเย็นชาทันควัน
“เอ่อ…” ผู้ที่โดนไล่บี้ต่างพากันพูดไม่ออก
“อมขี้ฟันอยู่หรือไงห๊ะ! ผมถามทำไมไม่ตอบ!” อภิมหาเศรษฐีจอมโอหังเริ่มออกอาการคลุ้มคลั่งประหนึ่งพญามัจจุราชที่หลุดออกมาจากขุมอเวจี
“เอานังมะลิไปเป็นเจ้าสาวแทนก็แล้วกันค่ะ”
“มะลิไหนไม่ทราบ!”
“นี่ไงคะ” ทันใดนั้นนางเดือนแขก็ดึงเอาคนที่เพิ่งยกน้ำมาเสิร์ฟเข้ามาเกี่ยว มะลิร้อยทำท่าตกใจสุดขีด ก่อนจะส่ายหน้า พร้อมเอ่ยวิงวอนเสียงสั่น
“คุณป้า ไม่นะคะ ได้โปรด…”
“หุบปากของแกซะ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว” ป้าใจร้ายกดเสียงต่ำข่มขู่ ก่อนจะปั้นสีหน้าแช่มชื่น แล้วเอ่ยอย่างกระตือรือร้นเหมือนภูมิใจนำเสนอหลานสาวในไส้ที่นางไม่เคยดูดำดูดีเสียเต็มประดา “นี่ไงคะคุณวูล์ฟ นังมะลิ”
ขาดคำนางเดือนแขก็จับไหล่บอบบางทั้งสองข้างของมะลิร้อย ซึ่งกำลังส่งสายตาอ้อนวอนอย่างน่าเวทนา แล้วดันร่างแน่งน้อยไปตรงหน้าชายหนุ่ม
บุรุษจอมเย่อหยิ่งตวัดตาคมกริบมายังผู้ที่ถูกกล่าวถึงทันควัน วินาทีถัดมาวูล์ฟก็ต้องย่นหว่างคิ้วหนาทว่าได้รูปเข้าหากัน เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนทำท่าเจี๊ยมเจี้ยมอยู่ตรงหน้า คือแม่สาวน้อยเนื้อตัวมอมแมมแสนสกปรก ที่เขาเพิ่งจะกระโจนเข้าลวนลามและเกือบจะปลุกปล้ำประหนึ่งไอ้โรคจิตบ้ากาม ถึงแม้จะเห็นแค่ทางเบื้องหลัง แต่เขาก็ยังจดจำรูปร่างและลักษณะการแต่งกายของอีกฝ่ายได้ติดตา
ส่วนคนที่โดนจ้องเขม็งนั้นรู้สึกเหมือนถูกสูบลมหายใจออกไปจากร่าง แทนที่จะปริปากประท้วงการกระทำของผู้เป็นป้าอีกครา ทว่าเมื่อได้สานสบกับนัยน์ตาสีน้ำเงินอมเทาหญิงสาวกลับพูดไม่ออก ทั้งขัดเขิน อับอาย หวาดหวั่น และประหม่าระคนกัน ถึงแม้จะเพิ่งเจอวูล์ฟไปหยกๆ แถมยังเผลอไปต่อปากต่อคำกับเขาอย่างใจกล้า แต่นั่นมันก็แค่เวลาที่เธอหันหลังให้เขา และในยามที่ได้เผชิญหน้ากับอีกฝ่ายจังๆ แบบนี้มะลิร้อยแสนจะขี้ขลาดอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ อีกทั้งไม่รู้ว่าจะต้องวางตัวยังไง จึงได้แต่ยืนทำตัวลีบ ก้มหน้างุด และกุมมือชื้นเหงื่อเข้าหากันแน่น
เจ้าของร่างทระนงองอาจจงใจขยับเข้าใกล้นางซินตัวน้อยด้วยท่วงท่าสง่างาม หากแต่แฝงความคุกคามเต็มอัตรา จากนั้นก็เดินวนรอบร่างอ้อนแอ้นอย่างช้าๆ ทำให้แม่สาวอ่อนเดียงสาต้องเผลอกลั้นใจ ดวงตาคมกริบประหนึ่งใบมีดโกนจ้องเด็กสาวเขม็ง บ้างกวาดขึ้นลงตั้งแต่หัวจรดเท้าราวกับประเมินสินค้าอย่างไม่เกรงใจ ขณะที่ยกมือกระด้างขึ้นลูบปลายคางแกร่งไม่ขาดระยะ วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้านางซินก้นครัวชัดๆ เขาก็นึกรังเกียจขยะแขยงยัยเด็กมอมแมม แต่งตัวมอซอ ร่างผอมแห้งเหมือนขาดสารอาหาร ใบหน้าเลอะไปด้วยหยาดเหงื่อและคราบน้ำมัน เนื้อตัวคละคลุ้งเหม็นคาวไปด้วยกลิ่นอาหารจนน่าสะอิดสะเอียน
“พอๆ หยุดดราม่าเสียที มันน่ารำคาญ!”“แสดงว่าคุณยอมแต่งงานกับนังมะลิแล้วใช่ไหมคะ” น้ำเสียงของนางเดือนแขฟังดูลิงโลดอย่างออกนอกหน้า การตีความหมายเข้าข้างตัวเอง ทำให้ชายหนุ่มอยากจะหัวเราะให้กับความโง่เขลาเบาปัญญาของอีกฝ่ายยิ่งนัก “ผมไม่สนผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น โดยเฉพาะยัยเด็กกะโปโลแสนสกปรกนี่ และคนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับผมในวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นอิซาเบลล่า เจ้าสาวของผมจะต้องเป็นอิซาเบลล่าเท่านั้น เข้าใจไหม!” เสียงห้าวกระด้างเอ่ยอย่างเฉียบขาดถึงแก่น “แต่ยัยเบลล่าหนีไปแล้วนะคะ คุณปล่อยให้เธอไปมีความสุขกับคนที่เธอเลือกเถอะค่ะ อีกอย่างงานแต่งก็จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว ยังไงก็ตามตัวยัยเบลล่าไม่ทันหรอกค่ะ เอานังมะลิไปเป็นเจ้าสาวแทนเถอะนะคะ” นางเดือนแขพยายามโน้มน้าวจิตใจอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ ความจริงที่วิ่งเข้ามากระแทกใจโครมใหญ่ทำให้วูล์ฟตัวแข็งทื่อ กรามแกร่งที่ประดับอยู่ตรงโหนกแก้มขบกันจนเป็นสันนูน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสามารถจัดการกับชีวิตของตัวเองได้อย่างง่ายดายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ แต่ตอนนี้เขากลับกำลังจนปัญญาอย่างน่าโมโห เพราะไม่สามารถไปตามลากคอว่าที่เจ้าสาวเฮงซวยมาเข้าพิธีวิวา
“โสโครกสิ้นดี!” วูล์ฟเริ่มสวมวิญญาณมัจจุราชในชั่วพริบตา วาจาร้ายกาจที่หลุดออกมาจากปากหยักของเจ้าชายในฝันทำให้มะลิร้อยต้องกัดปากแน่น น้ำตาคลอเบ้า นึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาครามครัน เขาทั้งหยิ่งยโส ถือตัว ปากจัด ขี้หงุดหงิด และโมโหร้าย แถมพ่อเจ้าประคุณยังตั้งแง่รังเกียจเธอตั้งแต่แรกจนน่าเศร้าใจ จากที่ได้ประจักษ์มาถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้สาวน้อยเริ่มแน่ใจแล้วว่าวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน คงไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่เธอวาดภาพไว้ในวิมาน และมันก็อาจจะถึงเวลาที่เธอต้องเลิกหลงรูปจูบเงาพ่อเทพบุตรจำแลงเสียที ทว่าเสียงหนึ่งในใจกลับแย้งขึ้นอย่างฉับไวว่า…ถ้ามันทำได้ง่ายๆ แบบนั้นก็ดีน่ะสิ แต่หัวใจเจ้ากรรมหลงรักเขาไปแล้วนี่ให้ทำไงได้ “เอาไปขัดสีฉวีวรรณสักหน่อยก็สะอาดแล้วค่ะ” นางเดือนแขเอ่ยแทรกขึ้น หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ นัยน์ตาดุดันยังคงจ้องหน้านางซินตัวน้อยเขม็ง “นังหนู…เธออายุเท่าไหร่แล้ว หย่านมแม่หรือยังถึงคิดจะมีผัวตั้งแต่เด็ก” ในเวลาที่กำลังเดือดจัดเช่นนี้เขาดูพาลพาโลไปหมด แม่สาวน้อยเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินวาจาหยามหมิ่น อีกทั้งเจ็บปวดและอดสูระคนกัน “โอ๊ย! นังมะลิมันไม่
ทว่าหากเป็นผู้ใหญ่สาวน้อยจะเลือกสงบปากสงบคำเสียมากกว่า จะมีบ้างในกรณีที่อดใจไม่ไหวจริงๆ ซึ่งคนที่เธอไม่สมควรจะไปต่อกรด้วยมากที่สุด คือเเขกคนสำคัญของบ้านพอร์ตเเมนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ทว่าวันนี้เขากลับทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้น เพราะน้ำคำว่าร้ายทำลายจิตใจ จนพลั้งปากย้อนกลับด้วยความลืมตัว และในวินาทีถัดมาสาวน้อยก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงกัมปนาทที่สาดเข้าใส่อย่างอำมหิต “นี่เธอ!...มันจะมากไปแล้วนะแม่ตัวดี! ยัยหนูสกปรก!” เจ้าของร่างทรงพลังตวาดกร้าว นัยน์ตาวาวโรจน์ ใบหน้าคร้ามคมพลันถมึงทึง “ถ้าคุณจะพูดแค่นี้ ฉันขอตัวนะคะ” หลังจากพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว หญิงสาวก็เชิดหน้าเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ เพราะถึงแม้จะตื่นตระหนกในความกราดเกรี้ยวของเขาจนทำอะไรแทบไม่ถูก แต่มะลิร้อยก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด จากนั้นนางซินตัวน้อยก็ตั้งท่าจะก้าวจากไป ด้วยเกรงว่าหากอยู่นานกว่านั้นเธออาจจะหมดศรัทธาในตัวเขาก็เป็นได้ ถึงอย่างไรแม่สาวช่างฝันก็ยังอยากยกย่องให้อีกฝ่ายเป็นเทพบุตรในดวงใจของตนอยู่ และถ้ามันจะมีอะไ
“อย่าห้ามผมเลยนะทูนหัว พรุ่งนี้เราสองคนก็จะเเต่งงานกันเเล้ว” กลิ่นสาบสาวทำให้พ่อหนุ่มคลั่งรักโยนความเป็นสุภาพบุรุษลงนรกไปทันควัน วูล์ฟเหมือนต้องมนตร์สะกดในชั่วเสี้ยวนาที ประหนึ่งมีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างสาวเจ้ากับเขาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขายังไม่ ‘ได้’ อิซาเบลล่า เพราะยิ่งได้สัมผัสแตะต้องเรือนกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นมือไม้ของเขาก็ยิ่งอยู่ไม่สุข ความรู้สึกในครั้งนี้มันต่างออกไปจากทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อิซาเบลล่าพยายามยั่วให้เขาชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายหน ทว่าวูล์ฟก็ยังอดใจไหว แต่แล้ววันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น เขาเป็นบ้าอะไร! ถึงได้กระหายอยาก ‘ร่วมรัก’ กับอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้ อภิมหาเศรษฐีหนุ่มได้แต่ฉงนในความปรารถนาที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยไม่นึกเอะใจเลยว่าคนที่ตนกำลังลวนลามและอยาก ‘ร่วมรัก’ ด้วยจนแทบคลั่งนั้น ที่จริงแล้วหาใช่อิซาเบลล่า พอร์ตแมน แต่อย่างใด “เเต่ฉันไม่ใช่พี่เบลล่านะคะ ได้โปรดปล่อยฉันเถอะค่ะ” วาจาที่ได้สดับตรับฟังทำให้ความปรารถนาอันร้อนรุ่มพลันอันตรธานไปในชั่วพริบตา พ่อตัวโตผละจากร่างแน่งน้อยอย่างฉับไว แล้วรีบถอยห่างออกม
ถึงแม้พ่อเทพบุตรจะไม่มองเธอแม้แต่หางตา ทว่านางซินตัวน้อยกลับจ้องอีกฝ่ายราวกับต้องมนตร์สะกด ในวินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน อีกครั้ง มะลิร้อยก็เกิดตกหลุมรักเขาอย่างมิอาจห้ามใจได้…และบางทีเธอก็อาจจะตกหลุมรักอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเจอเสียด้วยซ้ำ บุรุษที่เพอร์เฟ็กต์ตั้งแต่หัวจรดเท้าสามารถตรึงสายตาและหัวใจของสาวน้อยได้ในคราเดียวกันอย่างน่าประหลาด ความอ่อนโยนที่ชายหนุ่มแสดงออกกับผู้ที่เธอนับถือประหนึ่งพี่สาวทำให้เขาเป็นเหมือนเจ้าชายในฝัน มะลิร้อยได้แต่แอบมองเขาอยู่ห่างๆ หวังเพียงแค่ได้ชื่นชมแต่ไม่คิดจะครอบครองเป็นเจ้าของ เพราะเธอเจียมตัวเสมอว่าตนนั้นต่ำต้อยมากแค่ไหน “ฉันขอแค่แอบมองคุณอยู่ห่างๆ แบบนี้ก็พอแล้ว…” ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา แค่ได้แอบมองเขาอยู่ห่างๆ มะลิร้อยก็สุขใจมากแล้ว มันมากพอแล้วสำหรับผู้หญิงต่ำเตี้ยเรี่ยดินประหนึ่งเศษโคลนที่โดนใครต่อใครเหยียบย่ำอย่างเธอ บางทีการแอบรักใครสักคนมันก็มีความสุข ถึงมันจะเป็นความสุขเล็กๆ แต่มันก็ทำให้เธอยิ้มได้ในทุกคราที่เผลอกระหวัดคิดไปถึงวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน…เทพบุตรเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจดวงน้อยลึกๆ เเล้วมะลิร้อ
อันที่จริงแล้วครอบครัวพอร์ตแมนเคยมั่งคั่ง แต่ตอนนี้กลับจนกรอบ เพราะกิจการฟาร์มปศุสัตว์ประสบภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล กอปรกับถูกพิษเศรษฐกิจเข้าเล่นงานอย่างต่อเนื่องมายาวนานหลายปี และที่สำคัญคือทุกคนในบ้านใช้เงินอย่างไม่รู้ค่า สุดท้ายมันก็เข้าขั้นวิกฤต จนวูล์ฟต้องยื่นมือเข้าไปช่วยด้วยการให้ว่าที่พ่อตาหยิบยืมเงินก้อนใหญ่มาพยุงกิจการฟาร์มให้ไม่ล้ม โดยตกลงกันว่าเงินส่วนนี้จะไปรวมอยู่ในค่าสินสอดของเจ้าสาว และถึงแม้ว่าตอนนี้อิซาเบลล่าจะกลายเป็นนางแบบเนื้อหอมที่มีคิวยาวเหยียดไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากที่หล่อนปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเคียงข้างเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่เพื่อนสนิทของวูล์ฟต่างมองว่าสาวเจ้ายังไม่ใช่คนที่คู่ควร และพากันคัดค้านว่าเขาตกลงปลงใจเร็วเกินไปหรือไม่อย่างไร แต่วูล์ฟ แอนเดอร์ตัน เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ตัดสินใจรวดเร็วและเฉียบขาดแบบนี้เสมอ หากอะไรที่เขาเชื่อมั่นว่าใช่มันก็ต้องออกมาเป็นคำว่าใช่เท่านั้น! เจ้าของร่างทรงพลังมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้ว่าพาหนะคันหรูได้เคลื่อนมาจอดที่หน้าบ้านพอร์ตแมนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว







