Mag-log inอันที่จริงแล้วครอบครัวพอร์ตแมนเคยมั่งคั่ง แต่ตอนนี้กลับจนกรอบ เพราะกิจการฟาร์มปศุสัตว์ประสบภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล กอปรกับถูกพิษเศรษฐกิจเข้าเล่นงานอย่างต่อเนื่องมายาวนานหลายปี และที่สำคัญคือทุกคนในบ้านใช้เงินอย่างไม่รู้ค่า สุดท้ายมันก็เข้าขั้นวิกฤต จนวูล์ฟต้องยื่นมือเข้าไปช่วยด้วยการให้ว่าที่พ่อตาหยิบยืมเงินก้อนใหญ่มาพยุงกิจการฟาร์มให้ไม่ล้ม โดยตกลงกันว่าเงินส่วนนี้จะไปรวมอยู่ในค่าสินสอดของเจ้าสาว และถึงแม้ว่าตอนนี้อิซาเบลล่าจะกลายเป็นนางแบบเนื้อหอมที่มีคิวยาวเหยียดไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากที่หล่อนปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเคียงข้างเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่เพื่อนสนิทของวูล์ฟต่างมองว่าสาวเจ้ายังไม่ใช่คนที่คู่ควร และพากันคัดค้านว่าเขาตกลงปลงใจเร็วเกินไปหรือไม่อย่างไร แต่วูล์ฟ แอนเดอร์ตัน เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ตัดสินใจรวดเร็วและเฉียบขาดแบบนี้เสมอ หากอะไรที่เขาเชื่อมั่นว่าใช่มันก็ต้องออกมาเป็นคำว่าใช่เท่านั้น!
เจ้าของร่างทรงพลังมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้ว่าพาหนะคันหรูได้เคลื่อนมาจอดที่หน้าบ้านพอร์ตแมนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ถึงแล้วครับนาย” เสียงของลูกน้องทำให้วูล์ฟหลุดออกจากภวังค์ได้อย่างชะงัด
“อืม…” เขาเอ่ยสั้นๆ พร้อมตั้งท่าจะก้าวลงจากรถ
“เทพบุตรของเรามาแล้ว…เขามาที่นี่จริงๆ ด้วย” เสียงหวานใสพึมพำกับตัวเองเบาๆ ขณะที่ดวงตากลมโตซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยความชื่นชมระคนเทิดทูนจับจ้องทุกอากัปกิริยาของชายในฝันไม่กะพริบ
เจ้าของร่างทระนงองอาจก้าวลงจากรถด้วยท่วงท่าสง่างาม ทรงพลัง และน่าเกรงขาม ก่อนที่เขาจะดึงเเว่นกันเเดดสีดำสนิทดูลึกลับออก เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาประหนึ่งเทพบุตรที่หล่นตุ้บมาจากสรวงสวรรค์
หลังจากหันไปพูดอะไรบางอย่างกับลูกน้องคนสนิท วูล์ฟก็เชิดหน้าขึ้นนิดๆ ติดจะหยิ่งผยองตามพื้นนิสัย ก่อนจะเดินบ่าตั้งหลังตรงเข้าไปภายในบ้านพอร์ตแมน ทว่าเพียงสามก้าวอภิมหาเศรษฐีหนุ่มรูปงามก็ต้องหยุดกึก! พลอยทำให้คนที่เเอบมองพ่อเจ้าประคุณอยู่ห่างๆ ถึงกับเผลอกลั้นใจ ทันใดนั้นดวงตากลมโตพลันเบิกตาโพลง เมื่ออีกฝ่ายหันขวับมาทางเธอ เจ้าของร่างอ้อนแอ้นรีบลนลานหลบวูบหลังต้นเมเปิ้ลขนาดใหญ่ หัวใจดวงน้อยเต้นกระหน่ำราวกับจะกระเด็นออกมานอกอกเสียให้ได้
วูล์ฟหรี่นัยน์ตาคมกริบให้เเคบลง เเล้วเพ่งไปยังต้นเมเปิ้ลเหมือนจะให้มันทะลุปรุโปร่งจนเห็นใบหน้าของคนที่กำลังแอบมองเขาอยู่ ก่อนจะกระตุกมุมปากหยักเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเอียงหน้าออกมามองเขาเพียงนิด ก่อนจะหลบฉากหลังต้นเมเปิ้ลดังเดิม
“หึ…พวกถ้ำมอง ขี้ขลาดตาขาวซะไม่มี” ชายหนุ่มเหยียดยิ้มหยัน ก่อนจะหมุนกายทรงพลัง แล้วก้าวเท้าไปยังจุดหมาย ส่วนสาวน้อยก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
“เฮ้อ...นึกว่าจะไม่รอดซะเเล้วเรา”
จากนั้นมะลิร้อยก็ยืนทอดนัยน์ตาหวานปนเศร้ามองพระอาทิตย์ที่กำลังจะอัสดง หญิงสาวปล่อยให้จิตใจล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย การออกมายืนรับลมท่ามกลางเเสงเเดดอ่อนๆ ยามเย็นเช่นนี้ มันทำให้เธอรู้สึกปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่คิดฟุ้งซ่านวุ่นวายให้หมองหม่น
เจ้าของร่างเพรียวระหงคลายวงเเขนจากการกอดอกไว้หลวมๆ ยกมือขึ้นลูบใบหน้าหวานใสทว่าชื้นเหงื่อและขะมุกขะมอม แล้วก็ต้องสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะเเบมือทั้งสองข้างออก จากนั้นก็ก้มลงมองฝ่ามือที่ลอกเป็นขุยบ้างเป็นปื้นเเดงๆ ด้วยความเศร้าใจ
“ถ้ามีเจ้าชายขี่ม้าขาวมาพาเราไปจากที่นี่ก็คงจะดี เเต่บุญคุณของคนในบ้านพอร์ตแมนท่วมหัวขนาดนี้จะไปไหนได้ล่ะมะลิเอ๊ย เเถมเงินติดตัวก็แทบไม่มีเลยด้วยซ้ำ” คนที่ไม่ต่างอะไรจากกาฝากเอ่ยอย่างช่างฝัน หากแต่ท้ายประโยคกลับต้องทำหน้าสลดกับความจริงที่วิ่งมากระแทกใจอย่างจัง
“พ่อจ๋า เเม่จ๋า ยายจ๋า อยู่บนนั้นสบายดีไหมจ๊ะ” นางซินตัวน้อยๆ ยกมือเรียวขึ้น เเล้วกางออกเหมือนจะเอื้อมไปเเตะขอบฟ้า พร้อมขยับกลีบปากอ่อนนุ่มเอ่ยเสียงเอื่อยๆ ไร้ชีวิตชีวา ตบท้ายด้วยการรำพันด้วยความท้อแท้ “เฮ้อ…เมื่อไหร่เราจะหลุดพ้นจากนรกขุมนี้ซักทีนะ”
เธออยากจะไปจากที่นี่ ทว่าเเทบไม่มีโอกาสได้ก้าวขาออกจากบ้านพอร์ตเเมนเลยด้วยซ้ำ เว้นเเต่เวลาไปจ่ายตลาด เเละติดสอยห้อยตามไปคอยเป็นทาสรับใช้ให้อิซาเบลล่า มะลิร้อยถูกอิซาเบลล่าโขกสับจนเข็ดขยาด ทั้งที่ตอนเด็กๆ อีกฝ่ายออกจะแสนดี จนเธอรักและเทิดทูนประดุจดั่งพี่สาวแท้ๆ ทว่าพอโตขึ้นนิสัยของอิซาเบลล่ากลับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ หล่อนทั้งถือตัว ขี้วีน ปากจัด และโมโหร้าย
ชีวิตของมะลิร้อยห่างหายจากคำว่า ‘ความสุข’ มาเนิ่นนาน จนกระทั่งเมื่อสามเดือนก่อน เธอได้ตามไปรับใช้อิซาเบลล่าที่คอสตาริกาในช่วงวันหยุดยาว ซึ่งอีกฝ่ายไปพักผ่อนกับเพื่อนๆ นางเเบบ ที่นั่นนางซินตัวน้อยได้มีโอกาสพบกับวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ในนาทีเเห่งความเป็นความตาย ซึ่งเธอเป็นฝ่ายช่วยชีวิตเขาไว้ จากการเป็นตะคริวจนเกือบจะจมน้ำตายในระหว่างที่กำลังโต้คลื่น ณ ชายหาดซานตา เทเรซ่า และนั่นก็เป็นเหตุให้เธอเสีย ‘จูบเเรก’ ให้เขาผ่านการผายปอดต่อลมหายใจ โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว…เเละคงจะไม่มีวันรู้ เพราะทันทีที่พ่อเทพบุตรได้สติ อิซาเบลล่าก็ทำให้เขาเข้าใจว่าตนรอดพ้นจากความตายเพราะน้ำมือของหล่อน ซึ่งมะลิร้อยไม่มีสิทธิ์โต้แย้งใดๆ ทำได้ก็แต่เพียงสงบปากสงบคำตามคำสั่งของอิซาเบลล่าเท่านั้น แถมอีกฝ่ายยังกำชับนักกำชับหนาว่าหากความจริงเรื่องนี้รู้ไปถึงหูของวูล์ฟ เธอจะถูกเฉดหัวออกจากบ้านพอร์ตแมนโดยที่ไม่มีอะไรติดตัวไปแม้แต่ชิ้นเดียว
หลังจากนั้นผู้หญิงที่อยู่ในสายตาของวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ก็ดูเหมือนว่าจะมีเพียงอิซาเบลล่าเท่านั้น เขาคบหากับอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย และปฏิบัติต่อสาวเจ้าเยี่ยงสุภาพบุรุษ จนหล่อนกลายเป็นสตรีที่น่าอิจฉาของสาวน้อยใหญ่กว่าครึ่งค่อนโลก เพราะกำลังจะได้ครอบครองเป็นเจ้าของผู้ชายที่โคตรเพอร์เฟ็กต์และลีลารักสะเด็ดสะเด่าเขย่าใจไม่เป็นสองรองใครในปฐพี อภิมหาเศรษฐีหนุ่มแวะเวียนมาหาอิซาเบลล่าที่บ้านพอร์ตแมนอยู่บ่อยครั้งทั้งที่อยู่ไกลกันคนละซีกโลก ซึ่งมะลิร้อยมีโอกาสได้เผชิญหน้ากับเขาหนหนึ่ง เนื่องจากถูกอิซาเบลล่าเรียกให้เอาน้ำมารับรองแขกคนสำคัญ
“พอๆ หยุดดราม่าเสียที มันน่ารำคาญ!”“แสดงว่าคุณยอมแต่งงานกับนังมะลิแล้วใช่ไหมคะ” น้ำเสียงของนางเดือนแขฟังดูลิงโลดอย่างออกนอกหน้า การตีความหมายเข้าข้างตัวเอง ทำให้ชายหนุ่มอยากจะหัวเราะให้กับความโง่เขลาเบาปัญญาของอีกฝ่ายยิ่งนัก “ผมไม่สนผู้หญิงหน้าไหนทั้งสิ้น โดยเฉพาะยัยเด็กกะโปโลแสนสกปรกนี่ และคนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับผมในวันพรุ่งนี้จะต้องเป็นอิซาเบลล่า เจ้าสาวของผมจะต้องเป็นอิซาเบลล่าเท่านั้น เข้าใจไหม!” เสียงห้าวกระด้างเอ่ยอย่างเฉียบขาดถึงแก่น “แต่ยัยเบลล่าหนีไปแล้วนะคะ คุณปล่อยให้เธอไปมีความสุขกับคนที่เธอเลือกเถอะค่ะ อีกอย่างงานแต่งก็จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้แล้ว ยังไงก็ตามตัวยัยเบลล่าไม่ทันหรอกค่ะ เอานังมะลิไปเป็นเจ้าสาวแทนเถอะนะคะ” นางเดือนแขพยายามโน้มน้าวจิตใจอีกฝ่ายอย่างสุดความสามารถ ความจริงที่วิ่งเข้ามากระแทกใจโครมใหญ่ทำให้วูล์ฟตัวแข็งทื่อ กรามแกร่งที่ประดับอยู่ตรงโหนกแก้มขบกันจนเป็นสันนูน ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาสามารถจัดการกับชีวิตของตัวเองได้อย่างง่ายดายเพียงแค่พลิกฝ่ามือ แต่ตอนนี้เขากลับกำลังจนปัญญาอย่างน่าโมโห เพราะไม่สามารถไปตามลากคอว่าที่เจ้าสาวเฮงซวยมาเข้าพิธีวิวา
“โสโครกสิ้นดี!” วูล์ฟเริ่มสวมวิญญาณมัจจุราชในชั่วพริบตา วาจาร้ายกาจที่หลุดออกมาจากปากหยักของเจ้าชายในฝันทำให้มะลิร้อยต้องกัดปากแน่น น้ำตาคลอเบ้า นึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาครามครัน เขาทั้งหยิ่งยโส ถือตัว ปากจัด ขี้หงุดหงิด และโมโหร้าย แถมพ่อเจ้าประคุณยังตั้งแง่รังเกียจเธอตั้งแต่แรกจนน่าเศร้าใจ จากที่ได้ประจักษ์มาถึงสองครั้งสองคราในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้สาวน้อยเริ่มแน่ใจแล้วว่าวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน คงไม่ใช่สุภาพบุรุษอย่างที่เธอวาดภาพไว้ในวิมาน และมันก็อาจจะถึงเวลาที่เธอต้องเลิกหลงรูปจูบเงาพ่อเทพบุตรจำแลงเสียที ทว่าเสียงหนึ่งในใจกลับแย้งขึ้นอย่างฉับไวว่า…ถ้ามันทำได้ง่ายๆ แบบนั้นก็ดีน่ะสิ แต่หัวใจเจ้ากรรมหลงรักเขาไปแล้วนี่ให้ทำไงได้ “เอาไปขัดสีฉวีวรรณสักหน่อยก็สะอาดแล้วค่ะ” นางเดือนแขเอ่ยแทรกขึ้น หากแต่ชายหนุ่มกลับไม่สนใจ นัยน์ตาดุดันยังคงจ้องหน้านางซินตัวน้อยเขม็ง “นังหนู…เธออายุเท่าไหร่แล้ว หย่านมแม่หรือยังถึงคิดจะมีผัวตั้งแต่เด็ก” ในเวลาที่กำลังเดือดจัดเช่นนี้เขาดูพาลพาโลไปหมด แม่สาวน้อยเม้มปากแน่นเมื่อได้ยินวาจาหยามหมิ่น อีกทั้งเจ็บปวดและอดสูระคนกัน “โอ๊ย! นังมะลิมันไม่
ทว่าหากเป็นผู้ใหญ่สาวน้อยจะเลือกสงบปากสงบคำเสียมากกว่า จะมีบ้างในกรณีที่อดใจไม่ไหวจริงๆ ซึ่งคนที่เธอไม่สมควรจะไปต่อกรด้วยมากที่สุด คือเเขกคนสำคัญของบ้านพอร์ตเเมนอย่างวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน ทว่าวันนี้เขากลับทำให้ความอดทนของเธอขาดสะบั้น เพราะน้ำคำว่าร้ายทำลายจิตใจ จนพลั้งปากย้อนกลับด้วยความลืมตัว และในวินาทีถัดมาสาวน้อยก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับน้ำเสียงกัมปนาทที่สาดเข้าใส่อย่างอำมหิต “นี่เธอ!...มันจะมากไปแล้วนะแม่ตัวดี! ยัยหนูสกปรก!” เจ้าของร่างทรงพลังตวาดกร้าว นัยน์ตาวาวโรจน์ ใบหน้าคร้ามคมพลันถมึงทึง “ถ้าคุณจะพูดแค่นี้ ฉันขอตัวนะคะ” หลังจากพยายามข่มกลั้นความหวาดกลัว หญิงสาวก็เชิดหน้าเอ่ยตัดบทเสียงแข็งๆ เพราะถึงแม้จะตื่นตระหนกในความกราดเกรี้ยวของเขาจนทำอะไรแทบไม่ถูก แต่มะลิร้อยก็ยังรู้สึกผิดหวังและไม่พอใจที่อีกฝ่ายไม่ให้เกียรติเธอเลยสักนิด จากนั้นนางซินตัวน้อยก็ตั้งท่าจะก้าวจากไป ด้วยเกรงว่าหากอยู่นานกว่านั้นเธออาจจะหมดศรัทธาในตัวเขาก็เป็นได้ ถึงอย่างไรแม่สาวช่างฝันก็ยังอยากยกย่องให้อีกฝ่ายเป็นเทพบุตรในดวงใจของตนอยู่ และถ้ามันจะมีอะไ
“อย่าห้ามผมเลยนะทูนหัว พรุ่งนี้เราสองคนก็จะเเต่งงานกันเเล้ว” กลิ่นสาบสาวทำให้พ่อหนุ่มคลั่งรักโยนความเป็นสุภาพบุรุษลงนรกไปทันควัน วูล์ฟเหมือนต้องมนตร์สะกดในชั่วเสี้ยวนาที ประหนึ่งมีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างสาวเจ้ากับเขาในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเขายังไม่ ‘ได้’ อิซาเบลล่า เพราะยิ่งได้สัมผัสแตะต้องเรือนกายนุ่มนิ่มหอมกรุ่นมือไม้ของเขาก็ยิ่งอยู่ไม่สุข ความรู้สึกในครั้งนี้มันต่างออกไปจากทุกครั้ง ทั้งที่ก่อนหน้านี้อิซาเบลล่าพยายามยั่วให้เขาชิงสุกก่อนห่ามอยู่หลายหน ทว่าวูล์ฟก็ยังอดใจไหว แต่แล้ววันนี้มันเกิดบ้าอะไรขึ้น เขาเป็นบ้าอะไร! ถึงได้กระหายอยาก ‘ร่วมรัก’ กับอีกฝ่ายเสียเดี๋ยวนี้ อภิมหาเศรษฐีหนุ่มได้แต่ฉงนในความปรารถนาที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยไม่นึกเอะใจเลยว่าคนที่ตนกำลังลวนลามและอยาก ‘ร่วมรัก’ ด้วยจนแทบคลั่งนั้น ที่จริงแล้วหาใช่อิซาเบลล่า พอร์ตแมน แต่อย่างใด “เเต่ฉันไม่ใช่พี่เบลล่านะคะ ได้โปรดปล่อยฉันเถอะค่ะ” วาจาที่ได้สดับตรับฟังทำให้ความปรารถนาอันร้อนรุ่มพลันอันตรธานไปในชั่วพริบตา พ่อตัวโตผละจากร่างแน่งน้อยอย่างฉับไว แล้วรีบถอยห่างออกม
ถึงแม้พ่อเทพบุตรจะไม่มองเธอแม้แต่หางตา ทว่านางซินตัวน้อยกลับจ้องอีกฝ่ายราวกับต้องมนตร์สะกด ในวินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน อีกครั้ง มะลิร้อยก็เกิดตกหลุมรักเขาอย่างมิอาจห้ามใจได้…และบางทีเธอก็อาจจะตกหลุมรักอีกฝ่ายตั้งแต่แรกเจอเสียด้วยซ้ำ บุรุษที่เพอร์เฟ็กต์ตั้งแต่หัวจรดเท้าสามารถตรึงสายตาและหัวใจของสาวน้อยได้ในคราเดียวกันอย่างน่าประหลาด ความอ่อนโยนที่ชายหนุ่มแสดงออกกับผู้ที่เธอนับถือประหนึ่งพี่สาวทำให้เขาเป็นเหมือนเจ้าชายในฝัน มะลิร้อยได้แต่แอบมองเขาอยู่ห่างๆ หวังเพียงแค่ได้ชื่นชมแต่ไม่คิดจะครอบครองเป็นเจ้าของ เพราะเธอเจียมตัวเสมอว่าตนนั้นต่ำต้อยมากแค่ไหน “ฉันขอแค่แอบมองคุณอยู่ห่างๆ แบบนี้ก็พอแล้ว…” ริมฝีปากสีชมพูระเรื่อคลี่ยิ้มบางๆ ออกมา แค่ได้แอบมองเขาอยู่ห่างๆ มะลิร้อยก็สุขใจมากแล้ว มันมากพอแล้วสำหรับผู้หญิงต่ำเตี้ยเรี่ยดินประหนึ่งเศษโคลนที่โดนใครต่อใครเหยียบย่ำอย่างเธอ บางทีการแอบรักใครสักคนมันก็มีความสุข ถึงมันจะเป็นความสุขเล็กๆ แต่มันก็ทำให้เธอยิ้มได้ในทุกคราที่เผลอกระหวัดคิดไปถึงวูล์ฟ แอนเดอร์ตัน…เทพบุตรเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจดวงน้อยลึกๆ เเล้วมะลิร้อ
อันที่จริงแล้วครอบครัวพอร์ตแมนเคยมั่งคั่ง แต่ตอนนี้กลับจนกรอบ เพราะกิจการฟาร์มปศุสัตว์ประสบภัยแล้ง ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล กอปรกับถูกพิษเศรษฐกิจเข้าเล่นงานอย่างต่อเนื่องมายาวนานหลายปี และที่สำคัญคือทุกคนในบ้านใช้เงินอย่างไม่รู้ค่า สุดท้ายมันก็เข้าขั้นวิกฤต จนวูล์ฟต้องยื่นมือเข้าไปช่วยด้วยการให้ว่าที่พ่อตาหยิบยืมเงินก้อนใหญ่มาพยุงกิจการฟาร์มให้ไม่ล้ม โดยตกลงกันว่าเงินส่วนนี้จะไปรวมอยู่ในค่าสินสอดของเจ้าสาว และถึงแม้ว่าตอนนี้อิซาเบลล่าจะกลายเป็นนางแบบเนื้อหอมที่มีคิวยาวเหยียดไปจนถึงต้นปีหน้า ซึ่งเป็นผลพลอยได้มาจากที่หล่อนปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเคียงข้างเขาอยู่บ่อยครั้ง แต่เพื่อนสนิทของวูล์ฟต่างมองว่าสาวเจ้ายังไม่ใช่คนที่คู่ควร และพากันคัดค้านว่าเขาตกลงปลงใจเร็วเกินไปหรือไม่อย่างไร แต่วูล์ฟ แอนเดอร์ตัน เป็นคนเชื่อมั่นในความคิดของตัวเอง ตัดสินใจรวดเร็วและเฉียบขาดแบบนี้เสมอ หากอะไรที่เขาเชื่อมั่นว่าใช่มันก็ต้องออกมาเป็นคำว่าใช่เท่านั้น! เจ้าของร่างทรงพลังมัวแต่คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนไม่รู้ว่าพาหนะคันหรูได้เคลื่อนมาจอดที่หน้าบ้านพอร์ตแมนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว







